หลักการสำคัญในการคัดเลือกของผู้รับสมัครงานคือ"พยายามหาคนที่เหมาะสมกับงาน" คือพยายามเลือกบุคคลที่ดีที่สุดมาร่วมงาน เพื่อทำให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ รวมถึงการพิจารณา ความพร้อม เช่น พิจารณาบุคคลเรื่องคุณวุฒิ ความรู้ ความสามารถ
-
คุณเรียนรู้และยอมรับข้อจำกัดของตนเอง - สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีในขณะที่เผชิญกับความขัดแย้งและความไม่พอใจ - เคยทำงานในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของทีมทำงานที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม ของโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย กิจกรรมของหมู่บ้าน / ชุมชน หรือการทำงานที่ที่ทำงาน - เคยทำงานมาหลายประเภท มีความอดทนต่อสภาพงานหลาย ๆ แบบ - สภาพแวดล้อมชีวิตในวัยเด็กกระตุ้นและส่งเสริมให้เติบโตด้วยความมีศีลธรรม
การขาดความเชื่อมั่นในตนเอง วิธีการแก้ไขก็คือคุณจะต้องคิดว่าสิ่งที่คุณกังวลอยู่นั้นเป็น เพราะความคิดหลอกคุณ ถ้าหากคุณไม่กล้าพบคนแปลกหน้าต้องถามตนเองว่า คุณรู้จักกับใครบ้าง ในละแวกบ้าน คุณมีเพื่อนกี่คนในห้องเรียน คุณมีเพื่อนต่างห้องกี่คน คุณรู้จักอาจารย์ใหม่ๆในโรงเรียน /มหาวิทยาลัยกี่คน แล้วคุณเริ่มพูดคุยสนทนาหรือรู้จักกับบุคคลเหล่านั้นอย่างไร ครั้งแรกคุณอาจรู้สึก เขินหรือประหม่า แล้วปัจจุบันเป็นอย่างไร สิ่งเหล่านี้เป็นแนวทางให้คุณคิดวิธีที่จะคบกับคนแปลกหน้าได้ การเชื่อมั่นในตนเองมากเกินไป ส่วนใหญ่จะเกิดกับผู้สมัครที่ต้องช่วยเหลือตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ต้องอุปสรรคต่างๆแล้วก็ผ่านพ้นเหตุการณ์เหล่านั้นมาได้ จนความรู้สึกนั้นกลายเป็นปมเด่นของ
ตนเองจึงรู้สึกว่าตัวเองไม่ต้องพึ่งพาใครบุคคลเหล่านี้เวลาที่ให้ร่วมงานกับใครมักมีปัญหาคือเข้ากัน กับผู้อื่นไม่ค่อยได้ ทำงานไม่ราบรื่น อายุมาก คุณต้องคิดว่าคุณมีดีอะไรที่จะไปอวดเขาได้ถึงแม้ว่าคุณจะมีอายุมากกว่าคนอื่นไปบ้าง แต่คุณก็เต็มไปด้วยคุณภาพ ความสามารถที่นายจ้างต้องการ ผู้เขียนให้ความสำคัญในเรื่องความสามารถในเชิงพฤติกรรมค่อนข้างมาก เพราะเห็นว่ามีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการศึกษา ประสบการณ์ในงานสายอาชีพและคุณสมบัติอื่น ๆ สำหรับความสามารถที่พบว่ามีการใช้กันมากที่สุดมีดังนี้ - มนุษยสัมพันธ์ ส่วนความสามารถอื่น ๆ ที่ระบุในประกาศรับสมัครงานมีดังนี้ การที่ไม่ได้ระบุความสามารถที่ต้องการในใบสมัคร ก็มิได้หมายความว่าสถานประกอบการเหล่านั้นไม่ได้ให้ความสำคัญ แต่อาจจะเป็นเพราะเนื้อที่จำกัดและมีราคาแพง ประเด็นสำคัญอยู่ที่การค้นหาความสามารถระหว่างการสัมภาษณ์และการคัดเลือก แต่ถ้าไม่ได้ระบุและไม่ได้ค้นหาด้วยแล้ว โอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดในการคัดเลือกมีสูงมาก
1. งานรอ ต้องรีบหาคนทำมิฉะนั้นเกิดความเสียหายได้ ในปัจจุบันตลาดแรงงานค่อนข้างขาดแคลนผู้สมัครงานที่เหมาะสมหรือมีจำนวนน้อย ทำให้เกิดการแย่งตัวผู้สมัครงานนายจ้างต้องรีบตัดสินใจโดยเร็ว มิฉะนั้นอาจถูก
หน่วยงานอื่นที่เปิดรับสมัครแย่งตัวไป เหตุผลที่บริษัทตัดสินใจปฏิเสธการรับผู้สมัครเข้าทำงาน
1. ประวัติการทำงานไม่ดี เช่น เป็นผู้ที่ขาดความอดทน เลือกงาน เปลี่ยนงานบ่อยโดยไม่มีสาเหตุ (ยกเว้นบริษัทเดิมเลิกกิจการ) ทัศนคติที่ดีในการทำงาน มีความสำคัญอย่างไรในการหางาน ณ วันนี้ยังคงเป็นโอกาสทองของบริษัทต่างๆ ในการคัดเลือกบุคลากรเข้าร่วมงานซึ่งทุกบริษัทก็ล้วนแล้วแต่ต้องการบุคลากรที่มีความเหมาะสมที่สุดสำหรับบริษัทของตนเองทั้งสิ้น และทำอย่างไรจะให้ตัวเราเป็นหนึ่งในจำนวนผู้ที่ได้รับการคัดเลือก ก็คงเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจมากเป็นพิเศษเช่นเดียวกัน"เตรียมพร้อมก่อนทำงาน" ฉบับนี้เราได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสรรหาบุคลากรของบริษัท บอดี้เชฟ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในการดำเนินธุรกิจทางด้านศูนย์บริการสุขภาพ และความงาม โดยเน้นการลดไขมันเฉพาะส่วน และฟื้นฟูทรวงอก ที่มีศูนย์บริการมากที่สุดในประเทศไทย ได้แก่ ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต เซ็นทรัลพระราม 3 เซ็นทรัลปิ่นเกล้า เซ็นทรัลบางนา เซ็นทรัลลาดพร้าว เดอะมอลล์บางกะปิ เดอะมอลล์บางแค สยามเซ็นเตอร์ ซีคอนสแควร์ และบิ๊กซี นครปฐม ในฉบับนี้ทางบริษัท บอดี้เชฟ จำกัด ได้มาให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังมองหางานทำโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแวดวงของการทำงานด้านบริการ สำหรับหลักเกณฑ์ในการพิจารณาคัดเลือกพนักงานของบริษัท เนื่องจากรูปแบบของงานที่บริษัทดำเนินการนั้นเป็นธุรกิจการให้บริการเกี่ยวกับสุขภาพและความงาม
เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราให้ความสำคัญในการพิจารณาคือ สมัครงานอย่างไรถึงทำให้ไม่ได้งานทำ จุดนี้มีองค์ประกอบหลายๆ อย่างรวมกัน ได้แก่ เอกสารประกอบการสมัครงานต่างๆ Resume, ประวัติการทำงาน, ช่วงเวลาการทำงาน, ใบผ่านงาน, บุคคลอ้างอิง,
ใบรับรองเงินเดือนต่างๆ เหล่านี้ระบุไม่ชัดเจน คลุมเครือหรืออาจจะเป็นบุคลิกภาพไม่เหมาะสมกับตำแหน่งงาน และไม่มีทักษะความรู้ความสามารถพิเศษด้านภาษาและคอมพิวเตอร์ บางคนเกี่ยงงาน เกี่ยงรายได้ที่ทำการตกลงกันไว้ รายได้อยู่ที่มาตรฐานของเรา เพราะถือว่าเป็นการเริ่มต้น แต่บางทีพนักงานที่มาสมัครอยากจะได้มากกว่าทั้งๆ ที่ว่าคุณยังไม่ได้แสดงให้เราเห็นเลยว่า คุณมีความสามารถขนาดไหน นอกจากนี้ผู้จบการศึกษาใหม่มักเลือกงาน และเรียกร้องสูงกว่าประสบการณ์ และความสามารถที่ให้บริษัท
การพิจารณาเงินเดือนสูงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการประเมินผลการปฏิบัติงาน กลวิธีการทำงานร่วมกับ เจ้านาย(ฝรั่ง) หากคุณต้องทำงานกับเจ้านาย หรือนายจ้างที่เป็นชาวต่างชาติ
คุณจะมีวิธีปฏิบัติตัวอย่างไรให้เป็นที่ประทับใจหรือเข้าตาเจ้านายฝรั่งของคุณ?? เคล็ดลับในการทำงานร่วมกับชาวต่างชาติ 1. จะรับปากอะไรก็ตามขอให้แน่ใจว่าเราสามารถทำได้ 2. กล้าที่จะถาม เมื่อมีปัญหา ชาวต่างชาติส่วนใหญ่จะรู้สึกยินดีเมื่อมอบหมายงานแล้วลูกน้องมีคำถาม เพราะเป็นการแสดงถึงว่าเราให้ความสนใจกับรายละเอียดของงาน และเรายังแสดงออกถึงความต้องการที่จะเข้าใจเพื่อจะได้ทำงานให้สำเร็จลุล่วง หลาย ๆ คน ไม่ชอบถาม อาจจะกลัวเสียหน้าหรืออายที่จะถาม จงระลึกอยู่เสมอว่าเราอาจจะเสียหน้าบ้าง แต่ว่าดีกว่าสูญเสียความน่าเชื่อถือจากหัวหน้างานหรืออาจจะตกงานได้ง่าย ๆ หากเราเข้าใจผิด เพราะเราจะทำอะไรในคนละเรื่องกับสิ่งที่เขาต้องการก็เป็นได้ ฉะนั้น ต้องกล้าที่จะถามเมื่อไม่เข้าใจหรือมีปัญหา 3. เกิดความผิดพลาดในงาน ต้องรีบบอกเจ้านาย กรณีที่คุณทำงานแล้วเกิดข้อผิดพลาดแล้วปกปิดเรื่องนั้นไว้ เพราะเกรงว่าจะทำให้ตัวเองถูกตำหนิหรือด้วยเหตุอื่นๆ แต่ว่าความจริงแล้วหากคุณบอกเจ้านายแต่เนิ่น ๆ ความเสียหายที่เกิดขึ้นและโอกาสของการแก้ไขปัญหาก็ง่ายขึ้นกว่าการปล่อยให้เนิ่นนานออกไป แน่นอนที่สุด คุณอาจจะถูกเจ้านายของคุณโกรธบ้าง แต่แน่ใจได้เลยว่าเขาจะยิ่งโกรธมากขึ้นแน่ ๆ หากปล่อยให้เนิ่นนานออกไป หรือละเลยให้ความเสียหายยิ่งบานปลาย มีคนเคยกล่าวไว้ในสมรภูมิการรบว่า "วันใดที่ทหารของคุณเลิกนำปัญหามาปรึกษากับคุณ แสดงว่าคุณไม่ได้เป็นผู้นำของเขาแล้ว เพราะเขาคงคิดว่าคุณไม่สามารถช่วยเขาได้หรือคุณไม่แคร์ ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลใดก็ตามถือว่าคุณล้มเหลวในความเป็นผู้นำ" คำกล่าวนี้น่าจะทำให้คุณกล้าที่จะเผชิญกับปัญหาแต่เนิ่น ๆ แล้วโดนตำหนิบ้างนิดหน่อย ดีกว่าปล่อยให้กลายเป็นเรื่องใหญ่
เสริมสร้าง "บุคลิกภาพ" เพื่อให้ได้งาน มีหลักฐานเพิ่มขึ้นทุกทีว่า บุคลิกพิเศษถือเป็นสิ่งมีคุณประโยชน์อย่างหนึ่ง ในการเป็นผู้นำ ผู้นำทั้งในอดีตและปัจจุบันส่วนใหญ่มีความโดดเด่นในเรื่องบุคลิกเป็นพิเศษ ไม่ว่า จะเป็น จอห์น เอฟ.เคนเนดี้, มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์, สตีฟ จ็อบส์, แมรี่ เคย์ แอช, เท็ด เทอร์เนอร์, ริชาร์ด แบรนสัน,
มาร์กาเรต แธตเชอร์ และบิล คลินตัน
ปรับชีวิต จากโรงเรียน และมหาวิทยาลัย สู่ชีวิตการทำงาน เรื่องนี้เป็นเรื่องของการปรับตนเอง เข้าสู่ระบบการทำงาน ของนักศึกษาที่จบแล้วและได้งานทำใหม่ ๆ การสมัครงานให้ได้งานทำก็ยากอยู่แล้ว และเมื่อได้งานทำ แต่คุณไม่สามารถดำรงอยู่ในตำแหน่งงานนั้นได้ ต้องเริ่มหางานกันใหม่อีก คงไม่ดีแน่ เพราะการหางานใน ทศวรรษนี้ยาก เต็มที่ แถมบางบริษัทฯ ยังมีนโยบายลดพนักงานอีกเพียบ เกือบทุกประเทศ ผมเลยนำแนวทางนี้มาให้เพื่อนสมาชิก และทีมงานอ่านดู วิธีการปรับตัวคงไม่ยากมากนัก ลองมาอ่านกันดูนะครับ ว่า ต้องทำอะไรบ้าง ถึงจะปรับตัวเข้ากับทีมงานและ วัฒนะธรรมองค์กรได้ และเพื่อให้เราพ้นการทดลองงาน เพราะเราโชคดีที่มีโอกาสทำงานแล้ว มาอ่านดูกันเลยดีกว่า
|