Show
เมื่อมีอาการท้องแข็งหากคุณแม่ไม่ได้กำลังดูรายการคอมเมดี้อยู่แล้วมีอาการท้องแข็งก็คงไม่ได้เกิดจากการหัวเราะอย่างแน่นอนค่ะ แต่อาการท้องแข็งที่คุณแม่หลายคนกำลังเจออยู่นั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุมาก ๆ วันนี้ทาง Cotton Baby เลยได้รวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ พร้อม Do & Don’t ของอาการท้องแข็งว่าควรทำและห้ามทำอะไรมาฝากกันค่ะ ‘ท้องแข็ง’ เกิดจากอะไรได้บ้าง ?อาการท้องแข็ง คือ อาการของคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีความรู้สึกว่ามีก้อน ตึง ๆ ที่ท้อง จะแข็งมาก-น้อย แตกต่างกันออกไป (แล้วแต่คน) ซึ่งโดยทั่วไปแล้วอาการท้องแข็งจะพบได้กับคุณแม่ตั้งครรภ์ในช่วงไตรมาสที่ 3 หรือช่วงใกล้คลอดนั่นเอง อาจมีอาการท้องแข็งได้วันละ 3 – 4 ครั้ง แต่จะไม่สม่ำเสมอนะคะ เป็นเพราะอะไรนั้นเรามีคำตอบมาให้แล้วค่ะ
สาเหตุที่คุณแม่มีอาการท้องแข็ง1. ท้องแข็งจากการบีบตัวของมดลูกลักษณะอาการท้องแข็งแบบนี้ ท้องของคุณแม่จะต้องแข็งโป๊กทั้งหมด จะไม่แข็งเป็นบางบริเวณ มีอาการปวดท้องคล้ายปวดประจำเดือนร่วมด้วย และอาการท้องแข็งจากสาเหตุของมดลูกบีบตัวก็สามารถแบ่งออกได้ 2 แบบ คือ
2. ท้องแข็งเพราะลูกดิ้น
ลักษณะท้องแข็งที่แข็งเป็นบางบริเวณ มีความนิ่มปะปนอยู่ด้วย ท้องแข็งแบบนี้เกิดจากลูกในท้องดิ้นหรือโก่งตัวค่ะ เพราะตัวเด็กเขาไม่ได้กลมเป็นลูกบอล แต่มีอวัยวะ ไหล่ ศอก เข่า ที่สามารถนูนไปได้ทั่ว หากท้องแข็งแบบนี้ก็ไม่ต้องทำอะไร ปล่อยไว้ได้เลย ไม่มีอันตรายค่ะ 3. กินอิ่มเกินไปทำให้ท้องแข็งเมื่อไหร่ที่กินอาหารเข้าไปมาก ๆ อาจเกิดอาการท้องแข็ง แน่นจนหายใจไม่ออก ต้องนั่งพักยืดตัวให้อาการดีขึ้น เนื่องจากความจุช่องท้องของคุณแม่มีพื้นที่จำกัด เวลาตั้งครรภ์ มดลูกก็โตตามไปด้วย ทำให้ไปแย่งพื้นที่อวัยวะอื่น ๆ ในช่องท้อง ส่งผลให้ตอนที่คุณแม่กินอาหารเข้าไปมาก ๆ ก็ยิ่งทำให้แน่นจนเกิดอาการท้องแข็งนั่นเองค่ะ 4. ท้องแข็งจากปัจจัยอื่น ๆความจริงแล้วสาเหตุของอาการท้องแข็งนั้นมีหลากหลายมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น ความเครียดขณะตั้งครรภ์, พักผ่อนไม่เพียงพอ, ทำงานหนัก, มีเพศสัมพันธ์รุนแรง, กลั้นปัสสาวะบ่อย, คุณแม่มีสุขภาพไม่แข็งแรง อาจมีเหตุมาจากมดลูกมีโครงสร้างผิดปกติ มีเนื้องอก หรือเกิดจากครรภ์แฝด เด็กตัวใหญ่ มีน้ำคร่ำมาก ก็เป็นสาเหตุของอาการท้องแข็งได้เช่นกัน Do & Don’t เมื่อคุณแม่มีอาการท้องแข็ง นี่คือสิ่งที่ควร / ไม่ควรทำ
1. ดูแต่ตา มืออย่าต้อง เดี๋ยวท้องแข็งคุณแม่ที่มีอาการท้องแข็ง มักจะชอบเอามือไปจับ ลูบ ๆ คลำ ๆ ด้วยความกังวลว่ามดลูกจะแข็งตัว ซึ่งไม่ควรทำอย่างยิ่งเลยนะคะ เพราะว่า มดลูกเป็นอวัยวะที่ประกอบด้วยกล้ามเนื้อ ไวต่อการกระตุ้น ยิ่งจับบ่อยก็จะยิ่งแข็งมากขึ้นเท่านั้น
2. ขี้เกียจได้ แต่ห้ามบิดขี้เกียจคุณแม่ขี้เกียจได้ค่ะ ดีด้วยซ้ำจะได้ไม่ต้องออกแรงบ่อย ๆ นอนพักให้เยอะ ทำงานให้น้อย มดลูกจะได้ไม่บีบตัว แต่หลังจากที่พักแล้วมันจะเกิดเจ้าตัวขี้เกียจมาสิงร่าง ฉะนั้น ข้อห้ามเลยก็คือ การบิดขี้เกียจ ที่จะทำให้ช่องท้องมีปริมาตรเล็กลง ความดันในมดลูกสูงขึ้น ส่งผลให้ท้องแข็งนั่นเองค่ะ
3. เข้าห้องน้ำบ่อย ๆ ช่วยบรรเทาท้องแข็งเมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ กระเพาะปัสสาวะกับมดลูกก็เปิดศึกแย่งพื้นที่กัน ทำให้พอยิ่งท้องโต กระเพาะปัสสาวะก็จะยิ่งถูกเบียดให้เล็กลงเรื่อย ๆ จึงเกิดอาการปวดปัสสาวะบ่อยขึ้น หากคุณแม่กลั้นปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะและมดลูกก็จะโป่งมากขึ้น ทีนี้มดลูกก็มีความดันสูงขึ้นอีก ส่งผลให้มดลูกบีบตัว จนเกิดอาการท้องแข็งขึ้นนั่นเอง รู้แบบนี้แล้ว… อย่ากลั้นปัสสาวะกันนะคะ อาการท้องแข็งจะได้บรรเทาลงด้วยค่ะ
4. มีเพศสัมพันธ์ทำให้ท้องแข็งสำหรับคุณแม่ใกล้คลอด หรือเจ็บครรภ์ก่อนกำหนด อาจต้องเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ เพราะจะทำให้เกิดการกระตุ้นในบริเวณปากมดลูก ส่งผลให้มดลูกบีบตัว และเกิดอาการท้องแข็งตามมาได้ อีกทั้งเวลาพิชิตจุดหมายได้ดั่งใจแล้ว มดลูกจะบีบตัวเป็นจังหวะ ทีนี้ล่ะก็…วุ่นวายให้ต้องพาไปคลอดต่อเลยนะคะ ซึ่งทางการแพทย์พบว่า ในน้ำอสุจิจะมีสาร Prostaglandins (พรอสตาแกลนดิน) ที่เป็นตัวกระตุ้นให้ปากมดลูกขยายตัวระหว่างคลอด ทางที่ดีงดได้ก็งดดีกว่า ลองศึกษาเพิ่มเติมจาก รู้ 4 ทริคกระชับรัก เอาใจสามีให้อยู่หมัดช่วงตั้งครรภ์ อาจช่วยให้ทั้งคู่เจอวิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่าก็ได้
5. ป้องกันท้องแข็ง ห้ามสัมผัสพื้นที่ต้องห้ามขณะตั้งครรภ์เต้านมของคุณแม่จะขยายและเต่งตึงเป็นพิเศษ อาจมีบ้างที่คุณสามีอดใจไม่ไหวอยากขอสัมผัสบ้าง แต่ว่าเวลามีอะไรไปโดนบริเวณหัวนม มันจะส่งผลให้มดลูกบีบตัว จนเกิดอาการท้องแข็งได้ นอกจากจะหลีกเลี่ยงการสัมผัสจากว่าที่คุณพ่อแล้ว ระหว่างอาบน้ำก็ยังคงต้องระวัง อย่าฟอกสบู่ไปโดนบริเวณหัวนมเกินความจำเป็น เพราะ หากหัวนมแข็งขึ้นมามดลูกก็จะแข็งตัวตามมาได้ ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์ท้องที่สองขึ้นไปคงจะนึกออกว่าตอนที่ลูกดูดนมแล้วมดลูกมีการบีบตัวไปด้วยจะคล้ายกับตอนปวดประจำเดือน SHARERELATED POSTS
เผยวิธีห่อตัวทารกอย่างไรให้ลูกปลอดภัย สบายตัว พร้อมรับโลกใบใหม่ คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่กำลังข้องใจเกี่ยวกับวิธีห่อตัวทารกว่าจะต้องเริ่มต้นยังไงให้ถูกต้องและปลอดภัย…
พ่อแม่ควรรู้ ปรอทวัดไข้สำหรับเด็กแบบไหนให้ผลลัพธ์แม่นยำสุด อุปกรณ์สำคัญที่พ่อแม่ควรมีติดบ้านเอาไว้อย่าง ปรอทวัดไข้…
5 เคล็ดลับช่วยดูแล ฟื้นฟู “ผมร่วงหลังคลอด”… พาชมงาน ‘The 1st Birthday…
ลูกหลานต้องรู้! 5 วิธีการดูแลผู้สูงอายุ ให้ครอบครัวแฮปปี้…
รวมข้อห้ามคนท้อง ฉบับสายมู ทำตัวอย่างไรไม่ให้โบราณเขาถือ การที่ฟ้าประทานเจ้าตัวน้อยอีกหนึ่งคน… อาการท้องแข็งขณะตั้งครรภ์ 7 เดือน เป็นอย่างไร“เมื่อมดลูกขยายตัว อาจเกิดภาวะท้องแข็งในช่วงเดือนที่ 7-9 ในการตั้งครรภ์” ภาวะท้องแข็งนั้น เกิดจากการหดรัดตัวของมดลูกในขณะที่มดลูกนั้นขยายตัว ซึ่งทำให้หน้าท้องตึงและมีอาการท้องแข็งเป็นระยะเวลาประมาณ 10 นาทีต่อเนื่องประมาณ 4-5 ครั้ง โดยมีสาเหตุมาจากหลากหลายปัจจัย คือ
ท้องแข็งเกิดจากสาเหตุอะไรสาเหตุของอาการท้องแข็ง
การกินอาหารและมีแก๊สในกระเพาะอาหาร เมื่อใดก็ตามที่กินอาหารลงไปเยอะๆ ก็อาจไปเบียดกับมดลูกจนรัดตัวได้เหมือนกัน พฤติกรรมกับกิจกรรมในชีวิตประจำวันอื่นๆ อาทิ การพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำงานหนัก มีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง และการกลั้นปัสสาวะบ่อย
อาการท้องแข็ง เป็นแบบไหนอาการท้องแข็ง คือ อาการปวด เจ็บ ที่บริเวณท้องหรือท้องน้อย เมื่อสัมผัสที่บริเวณท้องจะรู้สึกว่ามีอาการท้องตึง ๆ เหมือนมีก้อนแข็ง ๆ อยู่ภายในท้อง มักพบได้บ่อยเป็นปกติในช่วงไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์ และอาการจะเป็น ๆ หาย ๆ
ทำยังไงให้หายท้องแข็งวิธีบรรเทาอาการท้องแข็งหลอก
ดื่มน้ำ เพราะอาการท้องแข็งหลอกอาจเกิดขึ้นเมื่อร่างกายขาดน้ำ เปลี่ยนท่าทางการนั่งหรือการนอน และลุกเดินเพื่อเคลื่อนไหวร่างกาย ออกกำลังกายอย่างเบา ๆ เพื่อทำให้รู้สึกผ่อนคลายและมีสมาธิ
|