สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านไทยรัฐออนไลน์ที่รัก ไทยรัฐออนไลน์ครั้งนี้คุณครูลิลลี่ขอเริ่มต้นด้วยค่านิยม 12 ประการที่กำลังเป็นที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวาง เรียกว่าฮอตฮิตถึงขนาดมีการเอาไปทำสติกเกอร์ไลน์ สำหรับใช้ในการส่งข้อความทางโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กกันเลยทีเดียว ซึ่งขณะที่คุณครูลิลลี่เขียนต้นฉบับครั้งนี้แว่วว่ามีประชาชนสนใจโหลดเอาสติกเกอร์ดังกล่าวไปใช้แล้วเกือบ 10 ล้านคนเลยทีเดียว แต่เรื่องความโด่งดังของสติกเกอร์ไลน์ค่านิยม 12 ประการคงไม่ใช่สิ่งที่คุณครูลิลลี่จะนำมาพูดถึงในครั้งนี้นะคะ แต่ที่มาในครั้งนี้คือต้องการมาบอกเล่าเรื่องของภาษาไทยในเรื่องที่เกี่ยวกับเครื่องมือขัดเกลาทางสังคมที่เชื่อว่าเราๆ ท่านๆ น่าจะเคยผ่านหูผ่านตาหรือเคยเรียนกันมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ เราอาจจะคุ้นมากสุดกับคำว่า ค่านิยม แต่จริงๆ ยังมีคำไทยอีกหลายคำที่อยู่ในหมวดหมู่ของการขัดเกลาทางสังคม ตามครูลิลลี่ไปดูกันค่ะ
คำแรกคือคำว่า บรรทัดฐาน คำนี้ คือ แบบแผน กฎเกณฑ์ ข้อบังคับ ที่สังคมกำหนดไว้เพื่อเป็นแนวทางให้สมาชิกในสังคมยึดถือและปฏิบัติ บรรทัดฐานยังแบ่งเป็น ๓ ประเภท คือ วิถีประชา หรือ วิถีชาวบ้าน อันนี้เป็นแนวทางปฏิบัติของบุคคลในสังคมที่ปฏิบัติอยู่โดยทั่วไปจนเป็นปกติ จนเกิดความเคยชิน ไม่ได้เกิดจากถูกบีบบังคับด้วยกฎหมาย แต่ถ้าใครไม่ปฏิบัติตาม อาจจะถูกตำหนิจากสังคมได้ อันที่สอง คือ จารีต จารีตเป็นระเบียบแบบแผนที่สมาชิกในสังคมต้องถือปฏิบัติ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความรู้สึกว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด โดยมีศีลธรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าสมาชิกในสังคมไม่ปฏิบัติตามจารีต จะถูกคนในสังคมรังเกียจ และได้รับการดูหมิ่นเหยียดหยาม เช่น ความกตัญญูต่อพ่อแม่ ความซื่อสัตย์ระหว่างคู่สามี ภรรยา เป็นต้น บรรทัดฐานอันสุดท้ายคือ กฎหมาย หมายถึง บทบัญญัติที่ตราขึ้นเพื่อใช้ในการบริหารบ้านเมือง ที่กำหนดให้ประชาชนปฏิบัติ และมีบทลงโทษด้วยว่า ถ้าทำผิดกฎหมายแต่ละอย่างจะได้รับโทษสถานใดบ้าง
สังเกตดีๆ บรรทัดฐานจะไล่ระดับความเข้มข้นขึ้นมาเรื่อยๆ นั่นเองค่ะ
แล้วบรรทัดฐานต่างกับค่านิยมอย่างไร ไปดูกันค่ะ คำว่า ค่านิยม หมายถึง แนวความคิด ความเชื่อ ที่บุคคลในสังคมยึดถือเป็นเครื่องตัดสินใจและกำหนดการกระทำของตนเอง มีทั้งค่านิยมที่ควรปลูกฝังและค่านิยมที่ไม่ควรปฏิบัติหรือควรยกเลิก แต่ถ้าเป็นคำว่า “ความเชื่อ” อันนั้นจะเน้นไปที่สิ่งที่พูดถึงความรู้สึกนึกคิดของคนในสังคมที่ยึดมั่น และยอมรับในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อาจมีเหตุผลหรือไม่มีเหตุผลก็ได้ เช่น เชื่อเรื่องผีหรือเทวดา จิตวิญญาณ การระลึกชาติ เชื่อกฎแห่งกรรม เป็นต้น
อ่านไทยรัฐออนไลน์ของคุณครูลิลลี่มาถึงตรงนี้ คงจะพอมองเห็นความแตกต่างของเครื่องมือที่ใช้ขัดเกลาสังคมให้อยู่รวมกันอย่างมีความสุขนะคะ อย่างน้อยพอแยกแยะได้ พอเห็นความแตกต่างหรือพอเข้าใจบ้างก็ยังดี แต่ที่สำคัญที่สุด ปลูกฝังไว้นะคะ ค่านิยม 12 ประการ เพราะนั่นจะทำให้สังคมไทยเราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขแน่นอนค่ะ สวัสดีค่ะ
การสร้างค่านิยมหลักของคนไทย ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อสร้างประเทศไทยให้เข้มแข็ง โดยต้องสร้างคนในชาติให้มีค่านิยมไทย 12 ประการ ได้แก่
1.มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพื่อส่วนรวม
3.กตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์
4.ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรงและทางอ้อม
5.รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันงดงาม
6.มีศีลธรรม รักษาความสัตย์ หวังดีต่อผู้อื่น เผื่อแผ่และแบ่งปัน
7.เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ถูกต้อง
8.มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่
9.มีสติรู้ตัว รู้คิด รู้ทำ รู้ปฏิบัติตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
10.รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำรัสของพระ บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รู้จักอดออมไว้ใช้เมื่อยามจำเป็น มีไว้พอกินพอใช้ ถ้าเหลือก็แจกจ่ายจำหน่าย และพร้อมที่จะขยายกิจการเมื่อมีความพร้อม เมื่อมีภูมิคุ้มกันที่ดี
11.มีความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำหรือกิเลส มีความละอายเกรงกลัวต่อบาปตามหลักของศาสนา และ
12.คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมและของชาติมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง
เพิ่มคอมเมนต์ใหม่
ชื่อ (จำเป็นต้องระบุ)
อีเมล (จำเป็นต้องระบุ)
เว็บไซต์
ส่งอีเมลเตือนฉันเมื่อมีคอมเมนต์ใหม่
รีเฟรช
ส่ง
ยกเลิก
JComments
เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
ต้านค่านิยม 12 ประการเท่ากับต้านความดี? : สำราญ สมพงษ์รายงาน
หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้ยึดการปกครองบริหารประเทศด้วยมุ่งหวังที่ลดความขัดแย้งทางการเมืองและสังคม และมีแนวทางต่างๆที่ต้องการสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นกับคนในชาติในจำนวนนั้นมีการกำหนด "ค่านิยม 12 ประการ" ขึ้นมาด้วย ซึ่งก็มีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยจะด้วยเหตุผลใดก็ตามทั้งนี้ก็คงขึ้นอยู่กับวุฒิภาวะของแต่ละบุคคลไม่สามารถที่จะไปก้าวล่างสิทธิส่วนบุคคลได้
"ค่านิยม 12 ประการ" นั้นคือ 1.มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2.ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพื่อส่วนรวม 3.กตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ 4.ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเรียนทั้งทางตรงและทางอ้อม 5.รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันงดงาม 6.มีศีลธรรม รักษาความสัตย์ หวังดีต่อผู้อื่น เผื่อแผ่และแบ่งปัน 7.เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 8.มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่ 9.มีสติรู้ตัว รู้คิด รู้ทำ รู้ปฏิบัติตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 10.รู้จักดำรงตนโดยใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง 11.มีความแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ มีความละอายเกรงกลัวต่อบาป และ12.คำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวมและของชาติมากกว่าผลประโยชน์ตัวเอง
หากพิจารณาแล้วก็มีเนื้อหาคล้ายๆกับเพลงเด็กเอ๋ยเด็กดีต้องมีหน้าที่10 อย่างด้วยกัน 1. นับถือศาสนา 2. รักษาธรรมเนียมมั่น 3. เชื่อพ่อแม่ครูอาจารย์ 4. วาจานั้นต้องสุภาพอ่อนหวาน 5. ยึดมั่นกตัญญู 6. เป็นผู้รู้รักการงาน 7. ต้องศึกษาให้เชียวชาญ ต้องมานะบากบั่นไม่เกียจไม่คร้าน 8. รู้จักออมประหยัด 9. ต้องซื่อสัตย์ตลอดกาล น้ำใจนักกีฬากล้าหาญให้เหมาะกับการสมัยชาติพัฒนา 10. ทำตนให้เป็นประโยชน์ รู้บาปบุญคุณโทษสมบัติชาติต้องรักษา เด็กสมัยชาติพัฒนาจะเป็นเด็กที่พาชาติไทยเจริญ
เมื่อพิจารณาโดยเนื้อหาก็ไม่ได้แต่กต่างกันเท่าใดนักก็สอดคล้องกับหลักคุณธรรมจริยธรรมสำหรับคนดีทั่วๆไป
หลังจากที่ได้สอบพระถามและบุคคลที่มีความรู้ด้านพระพุทธศาสนาเพื่อให้วิเคราะห์ว่าค่านิยม 12 ประการตรงตามหลักธรรมในพระพุทธศาสนาข้อใดบ้างสามารถประมวลได้ดังนี้
1.มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตรงกับหลักธรรมว่าด้วย ทิศ 6
2.ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพื่อส่วนรวม ตรงกับหลักธรรมว่าด้วย สัจจะ ทาน ขันติ และอนัตตา
3.กตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ ตรงกับหลักธรรมว่าด้วยธรรมที่เป็นเครื่องหมายของคนดีคือกตัญญูกับกตเวที
4.ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเรียนทั้งทางตรงและทางอ้อม ตรงกับหลักธรรมว่าด้วยหลักการศึกษาทั่วไปและจัดอยู่ในหัวข้อธรรมในมงคล 38 ประการ
5.รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันงดงาม
6.มีศีลธรรม รักษาความสัตย์ หวังดีต่อผู้อื่น เผื่อแผ่และแบ่งปัน ตรงกับหลักธรรมคือ มีศีลธรรมก็ตรงตัวอยู่แล้ว มีสัจจะ หลักของทาน มีความเมตตากรุณามุทิตาตามหลักพรหมวิหาร 4 ประการ
7.เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
8.มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่
9.มีสติรู้ตัว รู้คิด รู้ทำ รู้ปฏิบัติตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
10.รู้จักดำรงตนโดยใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง
11.มีความแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ มีความละอายเกรงกลัวต่อบาป ตรงกับหลักธรรมคือธรรมเป็นโลกบาลคือธรรมคุ้มครองโลก 2 ประการคือ หิริคือความละอายต่อบาป และโอตตัปปะคือความเกรงกลัวต่อบาป
และ12.คำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวมและของชาติมากกว่าผลประโยชน์ตัวเอง
แม้นว่าจะมีเสียงต้าน สำหรับ น.ส.นันทิยา สว่างวุฒิธรรม ว่าที่อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กล่าวถึงการขับเคลื่อนงาน สวธ. ในปี 2558 ว่า ได้ปรับยุทธศาสตร์การทำงานของ สวธ.ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องการรื้อฟื้นค่านิยมที่ดีงาม 12 ประการของคนไทยให้กลับคืนมา โดยจะดำเนินการ 4 กิจกรรมหลัก คือ 1.โครงการเศรษฐกิจพอเพียงในมิติวัฒนธรรม โดยคัดเลือกเยาวชนจาก 5 ภูมิภาคมาเข้าค่ายเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง การผลิตรายการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์รณรงค์ให้คนไทยน้อมนำแนวพระราชดำริมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน 2.โครงการเสริมสร้างน้ำใจไมตรีเพื่อความสามัคคีในสังคม ผลิตละครสั้น และสารคดี เกี่ยวกับน้ำใจไมตรีและค่านิยม 12 ประการ เช่น การสร้างน้ำใจด้วยการมอง ยิ้ม ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส รู้จักมารยาทในสังคม
3.โครงการสืบทอดประเพณี ค่านิยม และความเป็นไทย ผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ไทย-อังกฤษ ประชาสัมพันธ์การจัดประเพณีสำคัญของประเทศไทย นำร่องจากการเผยแพร่ประเพณีลอยกระทง ในเดือนพฤศจิกายนนี้ จัดค่ายพัฒนาทักษะภาษาไทย ผลิตสารคดีสั้นชุดเด็กสร้าง “ยิ้ม ไหว้ ขอบคุณ ขอโทษ” เพื่อปลูกฝังมารยาทแก่เด็กไทย กิจกรรมการประกวดดนตรีไทย และดนตรีพื้นบ้านเพื่อความมั่นคงของชาติเฉลิมพระเกียรติ และ 4.โครงการส่งเสริมเครือข่ายการดำเนินงานทางวัฒนธรรม เช่น การอบรมอาสาสมัครวัฒนธรรม อบรมผู้นำลูกเสือวัฒนธรรม การคัดเลือกสภาวัฒนธรรมดีเด่นประจำปี 2558 กิจกรรมสานรอยยิ้มอิ่มความสุขกับสภาวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร และเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน
ดังนั้น หากไม่มีอคติกับตัวบุคคลหรือการเข้ามาของตัวบุคคลแล้ว ค่านิยม 12 ประการนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่สร้างความเสียหายอะไรเป็นการฝึกสมาธิได้อีกทาง และมีแต่ผลดีกับบุคคลที่นำหลักธรรมเหล่านี้ไปแก้ปัญหาและพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้นไม่มีข้อไหนที่สนับสนุนให้มีการโกงเลย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไหว้ขอพร พระเจ้าตาก ที่วัดประจำรัชกาลกรุงธนบุรี วัดอินทารามวรวิหาร
ไหว้พระที่ ‘วัดบรมพุทธาราม’ บนนิวาสถานเดิม ‘สมเด็จพระเพทราชา’
รวม พระพุทธรูป คู่บ้านขวัญเมือง 4 ภาค ไหว้ขอพรเสริมสิริมงคล ปีใหม่
สุเทวฤาษี หนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของดอยสุเทพ ตำนานฤาษีผู้ร่วมสร้าง ลำพูน
แท็กที่เกี่ยวข้อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Previous
Read More
ไหว้ขอพร พระเจ้าตาก ที่วัดประจำรัชกาลกรุงธนบุรี วัดอินทารามวรวิหาร
Read More
89
ไหว้พระที่ ‘วัดบรมพุทธาราม’ บนนิวาสถานเดิม ‘สมเด็จพระเพทราชา’
Read More
396
รวม พระพุทธรูป คู่บ้านขวัญเมือง 4 ภาค ไหว้ขอพรเสริมสิริมงคล ปีใหม่
Read More
102
สุเทวฤาษี หนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของดอยสุเทพ ตำนานฤาษีผู้ร่วมสร้าง ลำพูน
Next- 1
- 2
แท็กที่เกี่ยวข้อง
ข่าวที่น่าสนใจ