Trains start or terminate at Nagoya Station. There was a daily return service between Nagano and Ōsaka, which travelled a total distance of 274.1 miles (441.2 km), taking approximately 5 hours 30 minutes, once making the Shinano Japan's furthest travelling daytime limited express service. The service was discontinued on 26 March 2016, due to declining passenger numbers. In the past, some trains also ran seasonally to Hakuba station but these ceased operations too. Trains stop at the following stations: Nagoya - (Kanayama) - Chikusa - Tajimi - (Ena) - Nakatsugawa - (Nagiso) - (Agematsu) - Kiso-Fukushima - Shiojiri - Matsumoto - (Akashina) - (Hijiri-Kōgen) - Shinonoi - Nagano Brackets indicate stations where not all services stop at. Rolling stock[edit]
Past[edit]
Accommodation[edit]Green car (first class) and standard class accommodation is provided, with 2+2 abreast unidirectional seating in both classes. Seat pitch is 1,200 mm (47 in) in Green class and 1,000 mm (39 in) in standard class. All trains are no smoking. Onboard catering services ceased on 16 March 2013. History[edit]The Shinano service was first introduced on 11 November 1953 as a "semi-express" operating between Nagoya and Nagano. This was upgraded to "express" status from 13 December 1959, and became a "limited express" from 1 October 1968. พาสสุดคุ้มที่ใช้ในการท่องเที่ยวในทริปนี้ก็คือ พาสที่จำหน่ายโดยบริษัทรถไฟญี่ปุ่นตอนกลาง Central Japan Railway Company หรือ JR TOKAI กับพาสสุดคุ้ม『Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass』 หากเดินทางจากประเทศไทย บินตรงมายัง “นาโกย่า” สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวยัง “เกโระออนเซ็น Gero Onsen” ที่อยู่ท่ามกลางหมู่เขา “ฮิดะทาคายาม่า” “โทยามะ” หรือ เส้นทางรถไฟที่เชื่อมระหว่าง เมืองพักแรมที่เรียกว่า “คิโซะจิ KISOJI” อย่าง “เส้นทางอัลไพน์” “มัตสึโมโตะ” “นาราอิจุกุ” หรือ “ซึมาโกะจุกุ” ได้เท่านั้นไม่พอยังสามารถ นั่งยานพาหนะของเส้นทางแอลป์ได้ไม่อั้นอีกด้วย（อย่างเช่น กระเช้าลอยฟ้า เป็นต้น） ยกตัวอย่างการเดินทางด้วยการนั่งรถไฟ「LIMITED EXPRESS WIDE VIEW HIDA」จาก นาโกย่า ไป โทยามะ ราคาปกติจะอยู่ที่ 7650 เยน（ช่วงเวลาปกติ・Reserved Seat）และนั่งรถไฟจากโทยามะ ไปจนถึงเส้นทางอัลไพน์ และผ่านเข้าสู่เมือง Shinano Omachi(信濃大町) ฝั่งจังหวัดนางาโนะ ปกติอยู่ที่ 10,850 เยน รวมราคาแล้วเป็น 18,500 เยน แค่คิดเพียงเท่านี้ก็แทบจะคืนทุนได้เลยทีเดียว ซึ่งในครั้งนี้จะเป็นการท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วยพาส เพื่อเดินทางจาก “นาโกย่า” – “ทาคายาม่า” ท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วยพาส「Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass」5 วัน 3 คืน เพื่อร่วมเดินทางไปกับเราได้เลย  หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เที่ยวชมแลนด์มาร์กของนาโกย่าที่ “ปราสาทนาโกย่า” เพื่อชมอาคารหลักปราสาท「Honmaru Palace(本丸御殿)」ชมความยิ่งใหญ่อลังการของที่พักอาศัยซามุไรสูงสุด จากนั้นพบปะถ่ายรูปกับนักรบซามุไรใจดีกลุ่ม「Nagoya Omotenashi Bushotai(名古屋おもてなし武将隊)」และกลุ่มนินจา「Hattori Hanzo and the Ninjas (服部半蔵忍者隊)」แล้ว ตอนนี้เราก็ได้เดินทางมาที่สถานีนาโกย่า และทานอาหารขึ้นชื่อของนาโกย่า ในเมนู “กุ้งทอด” ไปแล้วก็ได้เวลาเดินทางไปยัง “ฮิดะทาคายาม่า” ที่เราจะพักในคืนแรกกันเลย ซึ่งเส้นทางการท่องเที่ยวในทริปนี้（“นาโกย่า Nagoya”－ “ทาคายาม่า Takayama”（Stay）－ “ชิราคาวะโกะ Shirakawago”－ “โทยามะ Toyama”（Stay）－ “ทาเทยามะ Tateyama”－ “ทาเทยามะ คุโรเบะ เส้นทางอัลไพน์ Tateyama Kurobe Alpine Route”－ “มัตสึโมโตะ Matsumoto”（Stay）－ซึมาโกะจุกุ “Tsumagojuku” － “นาโกย่า Nagoya”）ในช่วง เส้นทางจาก “นาโกย่า” ไป “ฮิดะทาคายาม่า” และเส้นทางต่อจากนี้ จะสามารถใช้พาสรถไฟสุดคุ้ม「Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass」ในการเดินทางได้ เฉพาะฉะนั้นก่อนอื่นเราจะนำคูปอง「Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass」ที่ซื้อจากตัวแทนที่ไทย ไปแรกเป็นตั๋วจริงที่สถานีนาโกย่า แล้วจึงมุ่งหน้าไปที่ “ฮิดะทาคายาม่า” กันค่ะ หลังจากที่ทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว เราสามารถเดินไปยังสถานีนาโกย่าจากร้าน「EBIDOTE」ที่อยู่ในย่านร้านค้าใต้ดินสถานีนาโกย่าได้ไม่ยาก โดยออกจากร้านไปทางซ้ายมือ จากนั้นก็เลี้ยวขวาที่แยกใหญ่แยกแรก และขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อออกไปสู่ลานจุดนัดพบของสถานีนาโกย่ากันเลย เดินไปซักพักก็จะเจอ “จุดจำหน่ายตั๋ว(きっぷうりば)” อยู่ทางซ้ายมือ เราจะไปแลกตั๋ว「Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass」ที่ซื้อจากประเทศไทยเป็นตั๋วจริงกันที่นี่เลย ที่จุดจำหน่ายตั๋วนี้ สามารถแลกเป็นตั๋วจริงได้โดยยื่นคูปองแลกรับที่มีอยู่ และพาสปอร์ตให้กับเจ้าหน้าที่เท่านั้น ซึ่งพาสสุดคุ้ม「Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass」นี้สามารถใช้นั่งรถไฟแบบ Reserved Seat(ตั๋วแบบจองระบุที่นั่ง) ได้ทั้งหมด 2 ครั้ง เพราะฉะนั้นหากต้องการนั่งแบบ Reserved Seat(ตั๋วแบบจองระบุที่นั่ง) ก็สามารถจัดการได้ที่นี่เลย สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการจองตั๋วแบบ Reserved Seat(ตั๋วแบบจองระบุที่นั่ง) เลยก็สามารถแจ้งพนักงานว่า 「（สถานีต้นทาง） KARA （สถานีปลายทาง） MADE ZASEKI NO SHITEI WO ONEGAISHIMASU」 「（สถานีต้นทาง）คาระ（สถานีปลายทาง）มาเดะ ซาเซกิ โนะ ชิเท โอะ โอเนไกชิมัส」 หรือในกรณีที่ต้องการเดินทางวันอื่น หรือช่วงระยะทางอื่นก็สามารถแจ้งว่า 「（เดือน）GATSU（วัน）NICHI （เวลา）JI NI （สถานีต้นทาง） KARA （สถานีปลายทาง） MADE ZASEKI NO SHITEI WO ONEGAISHIMASU」 「（เดือน）กาสึ（วัน）นิจิ （เวลา）จิ นิ （สถานีต้นทาง） คาระ （สถานีปลายทาง）มาเดะ ซาเซกิ โนะ ชิเท โอะ โอเนไกชิมัส」 เพียงเท่านี้ก็สามารถจองตั๋วแบบ Reserved Seat(ตั๋วแบบจองระบุที่นั่ง) เอาไว้ได้เลย เพื่อให้การวางแผนในการเดินทางของเพื่อนๆ เป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้น สามารถหาข้อมูลตารางเวลาการเดินทางล่วงหน้าเพื่อวางแผนในการซื้อตั๋วรถไฟเพื่อจองแบบ Reserved Seat ได้ทางเว็บไซต์『Japan Transit Planner』 ซึ่งเราแนะนำว่าเพื่อนๆ สามารถใช้นั่งแบบ Reserved Seat(ตั๋วแบบจองระบุที่นั่ง) ได้ในเส้นทาง「นาโกย่า Nagoya⇒ทาคายาม่า Takayama」และ「นางิโซะ Nagiso⇒นาโกย่า Nagoya」 พาสสุดคุ้ม「Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass」จะสามารถใช้ได้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวญี่ปุ่นแบบไม่มีวีซ่า หรือมีวีซ่าท่องเที่ยวเท่านั้น หากเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน หรือ ผู้ที่อาศัยอยู่ที่ญี่ปุ่นจะไม่สามารถใช้พาสนี้ได้ เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็ผ่านเข้าช่องตรวจตั๋ว “Central-North Entrance” ที่อยู่ข้างจุดจำหน่ายตั๋วได้เลย เมื่อผ่านเข้าไปแล้วก็ตรงไปเรื่อยๆ จนสุดทางสามแยก และเลี้ยวไปทางขวามือ จากนั้นก็ขึ้นบันไดแรกเพื่อไปที่ชานชาลาหมายเลข 11 ชานชาลารถไฟด่วนพิเศษ「WIDE VIEW HIDA」ที่จะมุ่งหน้าไปสู่ “สถานีฮิดะฟูรุคาวะ Hida-Furukawa Station” กันค่ะ ส่วนชานชาลาหมายเลข 10 ที่อยู่ข้างๆ จะเป็นชานชาลาของรถไฟด่วนพิเศษที่มุ่งหน้าไปสู่นางาโนะ ที่หน้าตาจะคล้ายกันมากๆ เพราะฉะนั้นอย่าขึ้นผิดนะคะหากจะไป “สถานีฮิดะฟูรุคาวะ Hida-Furukawa Station” จะต้องขึ้นที่ชานชาลาหมายเลข 11 เท่านั้นค่ะ ลักษณะเด่นของรถไฟนี้ก็คือหน้าต่างบานใหญ่สมชื่อ「WIDE VIEW HIDA」 ด้านหน้าขบวนหน้าตาก็จะเป็นแบบนี้เลยค่ะ ด้านหน้าเป็นกระจกที่สามารถชมวิวได้ เป็นรถไฟแถบสีส้มรถไฟด่วนพิเศษ LIMITED EXPRESS「WIDE VIEW HIDA」จะใช้เวลาเดินทางจากนาโกย่าไปทาคายาม่าประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที ถึง 3 ชั่วโมง และจะมุ่งหน้าไปสู่หุบเขาคุโรเบะ หรือ ทาคายาม่าที่เป็นเกทเวย์ของ เส้นทางอัลไพน์ ประมาณ 4 ชั่วโมง（ขึ้นอยู่กับชนิดของรถไฟ） ที่นั่งจะเป็นสีส้มสดใส และลักษณะเด่นของรถไฟนี้ก็คือหน้าต่างบานใหญ่เพื่อให้ได้ชมวิวนอกหน้าต่างอย่างเต็มที่『Central Japan Raillway Company』 WIDE VIEW HIDA LIMITED EXPRESS นี้จะมีทั้งส่วนที่เป็น แบบไม่ระบุเลขที่ NON-RESERVED SEAT และส่วน จองระบุเลขที่นั่งล่วงหน้า RESERVED SEAT เพราะฉะนั้นต้องดูป้ายโบกี้ว่าเป็นโบกี้ที่นั่งแบบไหนค่ะ ส่วนรถ「WIDE VIEW HIDA NO.5」ที่ ICHIGO CHAN นั่งวันนี้ แบบไม่จองเลขที่นั่งล่วงหน้า NON-RESERVED SEAT จะอยู่ที่โบกี้ที่ 5 ค่ะ ถึงแม้ว่าด้านในจะมีตู้กดน้ำอัตโนมัติอยู่ แต่ภายในรถไฟจะไม่จำหน่ายอาหาร เพราะฉะนั้นซื้อ「EKIBEN」อ่านว่า “เอกิเบ็น” ข้าวกล่องสถานีจากร้านค้าภายในชานชาลาและเครื่องดื่มจากร้านสะดวกซื้อเอาไว้ทานอาหารภายในรถไฟก็เป็นอีกหนึ่งความเพลิดเพลินของทริปนะคะ ซึ่งตามสถานีรถไฟใหญ่ๆ โดยทั่วไปของญี่ปุ่นจะ “ข้าวกล่องสถานี”「EKIBEN」อ่านว่า “เอกิเบ็น” ที่ขึ้นชื่อของแต่ละพื้นที่จำหน่ายอยู่ ซึ่งข้าวกล่องขึ้นชื่อของนาโกย่าที่เรากำลังจะขึ้นรถไฟ WIDE VIEW HIDA ก็คือ “ฮิสึมาบุชิ เบ็นโตะ”「HITSUMABUSHI BENTO」หรือ ข้าวกล่องจากเนื้อมาสึซากะ “มาสึซากะกิวยากินิคุเบ็นโตะ”「MATSUZAKAGYU YAKINIKU BENTO」（1300 เยน）แต่ละอย่างน่าทานทั้งนั้นเลย ส่วนวันนี้ ICHIGO-CHAN ได้เลือกเป็นข้าวกล่องจากเนื้อไก่นาโกย่าโคชินกับเมนู「Nagoya Kochin Wappameshi(名古屋コーチンわっぱめし)」（850 เยน） ซึ่งที่นั่งจะเป็นแบบปรับหมุนได้แบบเดียวกับ μ SKY เลยค่ะ ทั้งสองข้างทางก็จะมีวิวธรรมชาติ บรรยากาศบ้านเมืองของญี่ปุ่นให้ได้ชมตลอดทาง ถ้าอากาศดีก็จะได้เห็นดอกไม้ต่างๆ ที่กำลังบานอยู่ในช่วงนี้ด้วยค่ะ รถไฟจะแล่นไปเรื่อยๆ และถึงที่หมายแบบตรงเวลา นี่ก็เป็นอีกหนึ่งความเป็นญี่ปุ่น ประเทศแห่งการตรงเวลาเลยนะคะ ถึงแม้ว่าจะเป็นการเดินทางระยะยาว ถ้าไม่มีเหตุฉุกเฉิน ก็ถึงตรงเวลาอย่างแน่นอนเลย ได้ยินมาว่า ถึงจะสายไปแค่นาทีเดียว ทางบริษัทรถไฟก็จะรีบขอโทษที่ทำให้ล่าช้า เลยทีเดียวค่ะ เขาคิดกันเป็นนาทีต่อนาทีเลย สุดยอด ! ถึงแม้ว่าเมื่อกลางวัน ICHIGO-CHAN จะได้ทานเมนูกุ้งทอดที่เป็นอาหารขึ้นชื่อนาโกย่าแล้ว แต่เราก็จะทานข้าวกล่องที่ซื้อจากสถานีนาโกย่า กับเมนู Nagoya Kochin Wappameshi เลย 「Wappa(わっぱ)」ก็คือข้าวกล่องที่ถูกใส่เอาไว้ในกล่องข้าวที่ทำจากไม้ ภายในเมนูนี้จะประกอบไปด้วย เนื้อไก่นาโกย่าโคชิน ไข่บดทรงเครื่อง เมนูผักต่างๆ และไข่ เป็นเมนูที่มีแต่วัตถุดิบเพื่อสุขภาพทั้งนั้นเลย แปปเดียวก็ทานจนหมดเกลี้ยงเลยค่ะ แนะนำว่าถ้านั่งรถไฟด่วนพิเศษ WIDE VIEW HIDA ให้นั่งทางฝั่งขวาค่ะ เพราะว่าถ้าออกจากสถานีกิฟุ ต่อจากสถานีนาโกย่า มาซักพักเราก็จะเห็นวิวธรรมชาติ ทั้งทุ่งหน้า แม่น้ำลำธาร ภูเขา ยิ่งถ้าเป็นช่วงฤดูต่างๆ ก็จะได้เห็นธรรมชาติในแต่ละฤดูด้วย ทั้งซากุระในฤดูใบไม้ผลิ พื้นที่สีเขียวในฤดูร้อน ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และหิมะในฤดูหนาวค่ะ หลังจากที่เราใช้เวลาในการนั่งรถไฟมาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งนิดๆ ระหว่างนั่งชมวิว และทานข้าวกล่องสถานี “เอกิเบ็น” ไปเรื่อยๆ ก็ลืมเวลาไปเลยค่ะ และตอนนี้เราก็ได้เดินทางมาถึงสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม “ฮิดะทาคายาม่า” เป็นที่เรียบร้อย เราจะขึ้นบันไดเลื่อนที่อยู่ภายในชานชาลาเพื่อผ่านออกจากช่องตรวจตั๋วที่อยู่ตรงหน้าเลย ซึ่งช่องตรวจตั๋วของที่นี่จะเป็นแบบเจ้าหน้าที่ตรวจเช็คเอง ดูแปลกตาไปเลยค่ะเมื่อเทียบกับสถานีรถไฟในเมืองนาโกย่า โอซาก้า หรือโตเกียว ที่เป็นแบบเครื่องตรวจตั๋วอัตโนมัติ เมื่อผ่านช่องตรวจตั๋วไปแล้วก็เดินไปทางขวามือเพื่อไปทางประตู「NORIKURAGUCHI(乗鞍口)」 เมื่อผ่านออกจากช่องตรวจตั๋วมาแล้ว ก็เดินไปทางขวามือ จากนั้นก็ลงบันไดเลื่อนไป เมื่อลงมาแล้วจะเจอลานกว้างเล็กๆ หน้าสถานีทาคายาม่า ถึงแม้ว่าเมื่อสักครู่ ICHIGO-CHAN จะทานข้าวกล่องสถานี “เอกิเบ็น” ไปแล้ว แต่ไหนๆ เราก็ได้มาทาคายาม่าแล้ว ก็ไม่ควรพลาดเลยกับเมนู “ทาคายาม่าราเม็ง” ดังนั้นเราจะไปทานทาคายาม่าราเม็งกันที่ร้าน『EKIMAEKEN(駅前軒)』ตรงข้ามสถานีกันเลย หลักๆ แล้วภายในร้านจะเป็นที่นั่งแบบโต๊ะใหญ่ ที่นั่งได้ประมาณ 4・5 คน ซึ่งโต๊ะนี้สามารถเคลื่อนย้ายเพื่อรองรับลูกค้าที่มาเป็นกลุ่มใหญ่ได้ค่ะ ตอนนี้เพิ่งจะหกโมงเย็น เพราะฉะนั้นจึงเข้ามาในร้านได้เลยแบบไม่ต้องรอ เพราะปกติแล้วได้ยินมาว่าร้านนี้คนจะยืนรอต่อแถวกันยาวเลย ซึ่งบริเวณชั้น 2F จะเป็นส่วนคาเฟ่（เครื่องดื่มซอฟท์ดริ้งแบบเติมได้ไม่อั้น 230 เยน / 1 ชั่วโมง）ที่มีทั้งบริการ Wifi และ ปลั๊กไฟอีกด้วย ส่วนนี้ก็ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเป็นพิเศษเลยค่ะ เมนูภายในร้านจะมีภาษาอังกฤษ มีในเลือกหลากหลากอย่างเช่น「Takayama Ramen」（750 เยน）หรือ「Tomato Ramen」（850 เยน）นอกจากนี้ในแต่ละเมนูสามารถสั่งเป็นแบบเซ็ตคู่กับเมนูข้าวอย่างข้าวผัดได้โดยจ่ายเพิ่มอีก 680 เยน แนะนำสำหรับใครที่อยากทานแบบจัดเต็มค่ะ มื้อนี้ ICHIGO-CHAN สั่งเป็นเมนูประจำร้านกับ「Tenma Ramen」（1300 เยน）ที่มี เนื้อหมูชาชูชิ้นหนาๆ เป็นเมนูยอดนิยมที่มีคนเดินทางมาทานจากต่างจังหวัดเลยทีเดียว เนื้อหมูชาชูนั้นทั้งนุ่ม และซุปโชยุที่ซึมอยู่ในเนื้อหมูก็หอมมากๆ อร่อยกลมกล่อมสุดๆ ไปเลยค่ะ ทานได้จนอิ่มแทบจะไม่ต้องสั่งเมนูอื่นทานมาทานเพิ่มเลยค่ะ หลังจากที่เราได้ทานอาหารค่ำในเมนู「Tenma Ramen」แล้ว เราจะมุ่งหน้าไปที่พักของเราในคืนนี้ที่โรงแรม『WAT HOTEL & SPA HIDA TAKAYAMA』กันเลยค่ะ ซึ่งโรงแรมนี้เป็นโรงแรมเปิดใหม่ที่เพิ่งเปิดให้บริการในปีพ.ศ.2561 สามารถเดินจากร้าน「EKIMAEKEN(駅前軒)」ไปโรงแรม「WAT HOTEL & SPA HIDA TAKAYAMA」ประมาณ 5-7 นาที โดยออกจากร้านไปทางด้านซ้ายมือ จากนั้นก็เดินไปจนสุดทางและเลี้ยวไปทางซ้าย เดินไปอีกสองแยกจะเจอโรงแรมอยู่ขวามือเลย ภายในล๊อบบี้โรงแรม「WAT HOTEL & SPA HIDA TAKAYAMA」ที่กว้างขวางนี้ จะมีที่นั่งโซฟาสบายๆ ให้ได้นั่งพักผ่อน หากเป็นผู้เข้าพักชาวญี่ปุ่นสามารถทำการเช็คอินได้ที่เครื่องเช็คอินอัตโนมัติเลย แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องแสดงพาสปอร์ตให้กับพนักงาน สามารถทำการเช็คได้โดยยื่นพาสปอร์ต และบัตรเครดิต จากนั้นกรอกใบลงทะเบียนเข้าพักทั้งชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัทพ์ เท่านี้ก็เรียบร้อย เมื่อทำการเช็คอินแล้วก็จะได้รับคีย์การ์ด เพื่อไปที่ห้องพักได้เลย เป็นโรงแรมใหม่ ที่ตกแต่งห้องเรียบๆ บรรยากาศแบบอบอุ่น ICHIGO-CHAN เลือกพักเป็นห้องทวินรูม ขนาดห้องกำลังพอดี เตียงของที่นี่ก็กว้างและน่านอนมากๆ เลยค่ะ เนื่องจากห้องพักตกแต่งด้วยไม้ เพราะฉะนั้นภายในห้องพักจะได้กลิ่นอ่อนๆ ของไม้ ให้บรรยากาศที่อบอุ่น ภายในห้องพักจะมีทั้ง โทรทัศน์ที่มีช่องต่างประเทศมากกว่า 100 ช่อง ณ ปัจจุบันช่องประเทศไทยจะมีเพียงช่องขายตรงที่เป็นภาษาไทยเท่านั้นค่ะ พอดีได้ดูทีวีช้อปปิ้งที่เป็นภาษาไทยในญี่ปุ่นท่ามกลางธรรมชาติป่าเขาแล้ว ก็รู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูกเลยนะคะ นอกจากนี้ภายในห้องพักยังมีบริการมือถือสมาร์ท「handy」ให้ได้ยืมใช้อีกด้วย แน่นอนว่าเพื่อนๆ สามารถใช้ได้ทั้งภายในอาคารและนำออกไปใช้ด้านนอกได้ด้วย สามารถใช้เป็นกล้อง หรือค้นหาข้อมูลท่องเที่ยวหรือร้านอาหารต่างๆ ได้สบายๆ อีกทั้งยังสามารถใช้โทรศัพท์ไปต่างประเทศ รวมถึงประเทศไทยได้ไม่อั้นอีกด้วย เป็นระบบ Android ที่รองรับภาษาไทยด้วยค่ะ ดีมากๆ เลย ซึ่งภายในห้องพักของโรงแรม「WAT HOTEL」จะแยกส่วนห้องอาบน้ำ ห้องน้ำ และอ่างล้างหน้าออกจากกัน สามารถอาบน้ำได้สบายๆ ภายในห้องพักเลยค่ะ และจุดขายสำคัญของโรงแรม「WAT HOTEL & SPA HIDA TAKAYAMA」นี้ก็คือ อ่างอาบน้ำออนเซ็นขนาดใหญ่ชั้นบนสุด ที่สามารถชมวิวธรรมชาติ ทั้งวิวเมืองที่เงียบสงบล้อมไปด้วยภูเขา ไปพร้อมๆ กับการแช่ออนเซ็นแสนสบาย เป็นบรรยากาศที่ไม่สามารถสัมผัสได้ในเมืองนาโกย่า หรือโตเกียว และกรุงเทพเลยค่ะ ยิ่งเวลากลางคืนก็สามารถชมหมู่ดาวบนท้องฟ้าได้พร้อมๆ กับการแช่ออนเซ็น เป็นช่วงเวลาแสนพิเศษระหว่างการท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นเลยจริงๆ ค่ะ แช่ออนเซ็นจนเพลิน ตอนนี้ก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้วค่ะ วันนี้ทั้งวันตั้งแต่ ICHIGO-CHAN เดินทางมาถึงประเทศญี่ปุ่นที่ท่าอากาศยานนานาชาติชูบุ (เซ็นแทรร์) จากนั้นเดินทางไปยัง “ปราสาทนาโกย่า” ทานอาหารนาโกย่า และเดินทางด้วยรถไฟมาถึง “ฮิดะทาคายาม่า” และได้แช่ออนเซ็น เป็นหนึ่งวันที่ได้เต็มที่กับการท่องเที่ยวมากๆ พอได้อยู่บนเตียงแล้วก็เผลอหลับไปเลยค่ะ และในวันพรุ่งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวชมเมืองเก่าแก่ และตลาดเช้าที่ “ฮิดะทาคายาม่า” จากนั้นจะเดินทางไปท่องเที่ยว “ชิราคาวาโกะ” กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ♪ |
Ltd exp wide view shinano ม ต non reserved seat
ลิขสิทธิ์ © 2024 th.ketiadaan Inc.
