Happy work place 8 ด าน ม อะไรบ าง

มีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายใจ เป็นการส่งเสริมด้านการดูแลสุขภาพร่างกาย ออกกำลังกาย และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้พนักงานมีร่างกายที่แข็งแรง จิตใจแจ่มใส เบิกบาน ซึ่งจะส่งผลให้พนักงานสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Happy work place 8 ด าน ม อะไรบ าง

Happy Heart

มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน เป็นการส่งเสริมความมีน้ำใจไมตรี เอื้ออาทรต่อกันในที่ทำงาน เพื่อให้พนักงานเกิดความรักใคร่ปรองดองสามัคคีกัน

Happy work place 8 ด าน ม อะไรบ าง

Happy Relax

รู้จักผ่อนคลายต่อสิ่งต่างๆ เป็นการสร้างความสนุกสนาน ผ่อนคลายความเมื่อยล้า ความเครียดจากการทำงาน ช่วยให้พนักงานมีขวัญและกำลังใจที่ดี และทำให้พนักงานมีโอกาสสร้างสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน

Happy work place 8 ด าน ม อะไรบ าง

Happy Brain

ใฝ่รู้มีการส่งเสริมการศึกษาหาความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ ให้พนักงานมีการพัฒนาตนเองตลอดเวลาจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ โอกาสต่างๆ เพื่อนำไปสู่การเป็นมืออาชีพและความมั่นคงก้าวหน้าในการงาน

Happy work place 8 ด าน ม อะไรบ าง

Happy Money

มีเงินเก็บ รู้จักใช้ ไม่เป็นหนี้สิน เป็นการส่งเสริมให้พนักงานใช้จ่ายอย่างประหยัด มีเงินเก็บออมไว้ใช้ในยามจำเป็น

Happy work place 8 ด าน ม อะไรบ าง

Happy Soul

มีความศรัทธาในศาสนา และมีศีลธรรมในการดำเนินชีวิต เป็นการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมให้กับพนักงาน เพื่อให้พนักงานมีความสุขสงบทางจิตใจ อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข

Happy work place 8 ด าน ม อะไรบ าง

Happy Family

มีครอบครัวที่อบอุ่น และมั่นคง เป็นการส่งเสริมการสร้างความรักความผูกพันในครอบครัวและสัมพันธภาพที่ดี ระหว่างครอบครัวของพนักงานกับองค์กร

Happy work place 8 ด าน ม อะไรบ าง

Happy Society

สังคมดี เป็นการส่งเสริมความรัก สามัคคี เอื้อเฟื้อต่อชุมชนที่ทำงาน ชุมชนที่พักอาศัย ช่วยเหลือสังคมรอบข้าง ซึ่งหากสังคมรอบข้างดี องค์กรที่อยู่ในสังคมนั้นย่อมมีความสุขไปด้วย


โครงการศูนย์บริการวิชาการองค์กรสุขภาวะภาคเหนือตอนล่าง โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร. (2560). กล่องแห่งความสุข 8 ประการ - ( Happy 8 Menu). สืบค้น 3 มกราคม 2567, จาก https://huso.kpru.ac.th/HappyWorkPlace/?page_id=121


Happy work place 8 ด าน ม อะไรบ าง

  • โครงการศูนย์บริการวิชาการองค์กรสุขภาวะภาคเหนือตอนล่าง โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร
  • Happy Workplace
  • ความสุข
  • องค์กรสุขภาวะภาคเหนือตอนล่าง
  • มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร
  • กำแพงเพชร

https://huso.kpru.ac.th/HappyWorkPlace/?page_id=121&lang=TH

ช่วงนี้หันไปทางไหนก็ต้องได้ยินใคร ๆ พูดว่ากำลังเบิร์นเอาต์ให้ได้ยินกันบ่อย ๆ แม้แต่องค์การอนามัยโลก (WHO) ก็ได้ประกาศให้ “ภาวะหมดไฟในการทำงาน” (Burnout Syndrome) เป็นความผิดปกติชนิดหนึ่ง เพื่อสร้างความตระหนักให้คนทั่วไปเห็นความสำคัญมากขึ้น โดยเพิ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา

จากสถานการณ์นี้ภาวะเบิร์นเอาต์จึงไม่ได้เป็นเรื่องเล่น ๆ หรือเป็นเรื่องที่ต้องแก้ที่ตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่ขึ้นอยู่กับสังคมและสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะในสถานที่ทำงาน ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทำให้เกิดภาวะเบิร์นเอาต์ได้มากที่สุด

หลายออฟฟิศจึงเริ่มมองหาแนวทางปรับเปลี่ยนเพื่อดูแลใจคนทำงานกันมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือการสร้าง “องค์กรแห่งความสุข” (Happy Workplace) ซึ่งเป็นแนวคิดที่ริเริ่มครั้งแรกในปี พ.ศ. 2513 จากองค์กรสุขภาพของประเทศแคนาดา

โดยองค์กรแห่งความสุขยึดมั่นในแนวคิดการพัฒนาคนในองค์กรให้มีความสุขผ่านกระบวนการคิด การมอบหมายงาน หรือการร่วมกันออกแบบองค์กรที่ทุกคนมีส่วนร่วม นำไปสู่ความสุขในการทำงาน และก่อให้เกิดศักยภาพในการทำงานตามไปด้วย

องค์กรแห่งความสุขนี้จึงอาจเป็นสิ่งที่มาช่วยตอบโจทย์ให้คนทำงานมีความสุขมากขึ้น และทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยไม่รู้สึกเบิร์นเอาต์ไปเสียก่อน

ความสุขในการทำงานคืออะไร

แต่ก่อนจะไปทำความรู้จักวิธีการสร้างองค์กรแห่งความสุข (Happy Workplace) เราอาจจะต้องมาคุยเรื่องความสุขในการทำงานกันเสียก่อน

ความสุขในการทำงาน คือ การที่พนักงานมีความรับรู้ทางอารมณ์ในทางบวกต่อการทำงานที่ตนได้รับมอบหมาย โดยสามารถเกิดขึ้นได้จากสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม การได้รับคำชม หรือความรู้สึกปลอดภัยทั้งทางกายและทางใจในการทำงาน นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่ความมั่นคง ความก้าวหน้าในการงานของตนเอง

โดยความสุขในการทำงาน จะเกิดขึ้นผ่าน 3 ปัจจัย ได้แก่

1. ความสนุกในการทำงาน (Arousal) หมายถึงการทำงานด้วยความรู้สึกสนุก ไม่กดดันหรือวิตกกังวลใด ๆ เกิดความเต็มใจที่จะทำงาน และมีความคิดด้านบวกกับงานที่ได้รับมอบหมาย

2. ความพอใจในงาน (Pleasure) หมายถึงการทำงานด้วยความรู้สึกสบายใจ ไม่เกิดความทุกข์ หรือไม่ชอบในงานที่ทำ

3. ความอยากในการทำงาน (Self-validation) หมายถึงการทำงานด้วยความกระตือรือร้น เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจอยากทำงานให้ดีและลุล่วง

Happy work place 8 ด าน ม อะไรบ าง

ทำไมต้องสร้าง Happy Workplace หรือ องค์กรแห่งความสุข

อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่าภาวะเบิร์นเอาต์กลายเป็นปัญหาสำคัญของคนทำงานในยุคปัจจุบัน ซึ่งภาวะเบิร์นเอาต์นำไปสู่ปัญหาอีกหลากหลายอย่าง ในทางปัจเจกเอง คนทำงานย่อมรู้สึกไม่มีความสุข วิตกกังวล เครียด หรือแม้แต่นำไปสู่ภาวะซึมเศร้า ในทางองค์กรเองก็จะส่งผลให้ศักยภาพของพนักงานลดลง อาจเกิดการขาด ลา มาสายมากยิ่งขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพของที่ทำงานถดถอย การมีส่วนร่วมของคนในองค์กรก็ลดลง ซึ่งนำไปสู่ผลกระทบอีกหลากหลายอย่าง

ดังนั้น ภาวะเบิร์นเอาต์จึงไม่สามารถแก้ปัญหาได้จากบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่เป็นการร่วมมือกันสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ส่งเสริมให้คนทำงานได้รับความสุข โดยอาจลองปรับใช้แนวคิด Happy Workplace หรือ องค์กรแห่งความสุข ซึ่งจะช่วยให้คนทำงานรู้สึกดีกับสถานที่ทำงาน ลดการทำงานผิดพลาด หรือการไม่มีส่วนร่วมในการทำงาน และส่งผลให้ทำงานได้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้นด้วยความรู้สึกพึงพอใจ ไม่กดดัน

ความสุขพื้นฐานแปดประการ (Happy 8)

การสร้าง Happy Workplace หรือองค์กรแห่งความสุข อาจลองสำรวจความสุขพื้นฐานแปดประการที่คนทำงานต้องการ เพื่อทำความเข้าใจและปรับเปลี่ยนนโยบายหรือสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับองค์กรต่อไป

ความสุขพื้นฐานแปดประการ ได้แก่

1. Happy Body (สุขภาพดี) การมีสุขภาพดีทั้งทางกายและทางใจจะช่วยลดความกังวล และทำให้คนทำงานมีประสิทธิภาพในการทำงานอย่างเต็ม

2. Happy Heart (น้ำใจงาม) ความมีน้ำใจหรือการใจดีต่อคนรอบข้างจะช่วยให้เกิดปฏิสัมพันธ์ที่ดีในที่ทำงาน และได้รับความสุขทั้งผู้ให้และผู้รับ

3. Happy Relax (ผ่อนคลาย) เพราะการทำงานหนักเกินไปทำให้เรารู้สึกเหนื่อยล้าได้ง่าย เกิดความเครียดสะสม ความผ่อนคลายจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะทำให้เราได้ลองใช้ชีวิตในแง่มุมอื่น ๆ และเติมเต็มความสุข

4. Happy Brain (หาความรู้) ทุกการเรียนรู้ใหม่ ๆ นำไปสู่การเติบโตและภาคภูมิใจ การหาความรู้จึงช่วยเติมเต็มความสุขได้ และยังส่งผลให้การงานก้าวหน้า เสริมความมั่นคงให้ชีวิตไปพร้อม ๆ กัน

5. Happy Soul (ทางสงบ) การสร้างพื้นที่สงบนิ่งในใจช่วยทำให้ความรู้สึกของเรามั่นคงยิ่งขึ้น รับมือกับปัญหาได้ดี และไม่สั่นไหวกับเรื่องร้าย ๆ หรือความกังวล ซึ่งเป็นทักษะสำคัญที่จะช่วยให้ทำงานได้อย่างเป็นสุข

6. Happy Family (ครอบครัวดี) การมีครอบครัวที่ดีส่งผลให้เราได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นกำลังใจให้กัน ส่งต่อความสุขให้กันและกัน และยังทำให้รู้สึกสบายใจกับการมีคนคอยซัพพอร์ต ไม่โดดเดี่ยว นำไปสู่ความมั่นคงทางจิตใจและเป็นสุขในใจ

7. Happy Money (ปลอดหนี้) เพราะเรื่องเงินเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตคนทำงานมากที่สุด การมีเงิน รู้จักเก็บ รู้จักใช้ ไม่มีหนี้ ก็จะทำให้ไม่มีความกังวล และทำให้เกิดความสบายใจ

8. Happy Society (สังคมดี) เพราะสภาพแวดล้อมส่งผลต่อจิตใจของมนุษย์ การมีสังคมแวดล้อมที่ดี เข้าใจกันและกัน และพร้อมช่วยเหลือกันด้วยความจริงใจ ไม่ตัดสิน จะช่วยให้คนในสังคมรู้สึกเป็นสุขไปพร้อมกัน

สัญญาณบ่งบอกว่าองค์กรเป็น Happy Workplace

– คนทำงานมีส่วนร่วมกับองค์กรมากขึ้น คอยให้ความเห็น หรือแสดงไอเดียในการพัฒนาองค์กรให้เติบโต

– ทุกคนทำงานเพื่อเป้าหมายร่วมกัน มีความตั้งใจและมุ่งมั่นในการทำงานและคาดหวังผลลัพธ์ที่จะทำให้องค์กรได้เติบโตไปพร้อมกับคนทำงานหรือทีม

– งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากมีกำลังใจและมีความรู้สึกสนุกกับการทำงาน

– คนทำงานอยู่กับบริษัทยาวนานขึ้น เพราะมองเห็นความสำคัญขององค์กร และเกิดความรักในองค์กรที่ทำงานอยู่

Happy work place 8 ด าน ม อะไรบ าง

ปัจจัยที่ทำให้เกิด Happy Workplace

– งานที่ให้ Work-life Balance

– งานที่มีคุณค่าและมีความหมายต่อชีวิต

– การทำให้คนทำงานมีตัวตนในออฟฟิศ

– บรรยากาศการทำงานในทีมที่ดี

– การแสดงความชื่นชมกันและกันอย่างจริงใจ

– การสร้างเส้นทางการเติบโตในองค์กรอย่างชัดเจน

– สวัสดิการที่เหมาะสมกับการทำงาน

10 เทคนิคสร้าง Happy Workplace ให้เป็นจริง

1. ให้รางวัลกับพนักงานที่ทำงานหนัก

2. จัดโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพกายและใจ เช่น SAKID

3. ส่งเสริมวัฒนธรรมการชื่นชมผลงานและการทำงาน

4. จัดเวิร์กชอป Team Building

5. เปิดให้มีการสื่อสารแลกเปลี่ยนความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีลำดับขั้นเจ้านายหรือลูกน้อง

6. มีระบบการทำงานที่ยืดหยุ่น กำหนดช่วงเวลาทำงานให้มีการพักเบรกที่เหมาะสม

7. ชวนกันทำปฏิทินความสุข

8. เปิดเพลงคลอเบา ๆ เหมือนนั่งทำงานในคาเฟ่

9. เปิดโอกาสให้พนักงานได้เข้าเวิร์กช็อปหรือเรียนรู้ตามความสนใจ

10. ออกแบบสวัสดิการที่ดีให้กับพนักงาน

สรุป

เพราะการทำงานอย่างไม่มีความสุขย่อมส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ทั้งต่อคนทำงานเอง และต่อองค์กร การสร้างองค์กรแห่งความสุข (Happy Workplace) จึงเป็นอีกแนวคิดหนึ่งที่เป็นเทรนด์สำคัญในยุคสมัยนี้ โดยความสุขในการทำงานสามารถแบ่งได้เป็นหลากหลายด้าน ซึ่งองค์สามารถชักชวนคนในองค์กรให้มาร่วมออกแบบองค์กรแห่งความสุข (Happy Workplace) ของตัวเองได้

มากไปกว่านั้นปัจจุบันยังมีตัวช่วยให้คนทำงานเข้าถึงความสุขได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เช่นหากต้องการเข้าถึง Happy Body ตามความสุขพื้นฐาน 8 ประการ ก็มีแพลตฟอร์มจาก SAKID ที่ช่วยออกแบบโปรแกรมดูแลสุขภาพทั้งองค์กรได้

ตัวอย่างฟีเจอร์น่าสนใจเช่น การบันทึกกิจกรรมประจำวันบนปฎิทินความสุข การรายงานผลสุขภาพรายบุคคล นอกจากนี้ยังมีการวิเคราะห์สุขภาพ การกินอาหาร การออกกำลังกายและความสุขส่วนบุคคล พร้อมโค้ชในการดูแล ซึ่งจะทำให้คนทำงานมีความสุขกับสุขภาพกายและใจที่ดีได้เช่นกัน