Final fantasy 5 ว ธ เพ ม exp job

เกม Final Fantasy Tactics เป็น Simulation Game (วางแผนการรบ) เครื่อง PS1 เป็นเกมที่ค่อนข้างแตกต่างจาก Final Fantasy ในภาคอื่นๆ ที่เป็นแนว RPG (เกมภาษา) แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นเกมตระกูล Final Fantasy ก็ย่อมจะมีกลิ่นอายเดียวกันล่ะนะ

แน่นอนว่าคนที่เคยเล่นเกม Final Fantasy คงจะรู้ว่าจุดเด่นของเกมนี้คือเรื่องของ Job หรือว่า อาชีพ นั่นเอง ในภาคก่อนๆ เช่น Final Fantasy ภาค 4 ตัวเอกจะมีอาชีพตายตัว (ตัวเอกเป็นนักรบมังกร) ภาค3 ตัวเอกจะเลือกเปลี่ยนอาชีพได้ เช่นเดียวกับภาค 5 ส่วนภาค 6 เปลี่ยนอาชีพไม่ได้ แต่อาศัยว่าตัวละครเยอะมากและแต่ละคนมีอาชีพต่างกันไป

Final Fantasy เหมือนเป็นต้นกำเนิดแนวคิดเรื่องระบบอาชีพ จนกลายเป็นจุดเด่นที่นักเล่นเกมจะรู้กันเป็นอย่างดี ยกตัวอย่างง่ายๆ พอพูดถึงอาชีพ Black Mage นักเล่นเกมจะนึกถึงตัวละครที่สวมชุดคลุมสีดำ ใส่หมวกท็อปแฮทที่มียอดแหลมๆ ถือไม้เท้า และชุดคลุมกับหมวกก็ต้องปิดบังหน้าตาจนหมดมองเห็นแต่ดวงตาส่องสว่าง 2 ข้าง และ Black Mage จะเป็นอาชีพที่ใช้คาถาได้อลังการงานสร้างมาก ถ้าพูดถึง นักรบมังกร (อาจจะใช้ชื่อว่า Dragon Knight, Dracoon, etc) จะต้องใส่เกราะเท่ๆ หมวกเกราะจะต้องเป็นรูปหัวมังกร สกิลเด่นๆ ของนักรบมังกรก็คือ Jumpซึ่งจะกระโดดขึ้นไปบนฟ้า สักพักก็จะพุ่งลงมาใช้อาวุธเสียบศัตรู (ส่วนใหญ่ใช้หอก)

ถ้าพูดถึง White Mage จะต้องนึกถึงตัวละครในชุดคลุมสีขาว ที่ชายชุดคลุมจะมีลายสามเหลี่ยมสีชมพู (หรือแดง) หรือถ้าพูดถึง Thief (หรืออาจใช้ชื่อว่า Treasure Hunter) จะต้องนึกถึงสกิล Steal หรือถ้าพูดถึง Ninja สกิลของ Ninja ที่นักเล่นเกม Final Fantasy รู้จักเป็นอย่างดีก็คือ Throw นั่นเอง (มันขว้างอาวุธได้ทุกอย่าง)

สำหรับ Final Fantasy Tactics ก็มี Job หรือ อาชีพ ให้เลือกเล่นมากถึง 19 อาชีพ แต่ตัวละครที่สามารถใช้ได้จริงๆ ในแต่ละ Battle คือ 5 คนเท่านั้น (รวมตัวเอกแล้ว หมายความว่าเลือกเพื่อนมาสู้ได้อีก 4 คน) เพราะฉะนั้นถ้าคิดจะปั้นทีมขึ้นมา ก็ต้องศึกษาดีๆ ว่าจะเล่นอาชีพอะไรบ้าง

ระบบอาชีพในเกมนี้ยังแบ่งเป็นอาชีพหลัก และอาชีพรอง เช่น คนที่เป็น Knight จะใช้สกิลของ Knight และอาจจะเลือกอาชีพรองเป็น White Mage ก็จะสามารถเป็น Knight ที่ใช้คาถาฟื้นพลังได้ (จะว่าไปก็คล้ายๆ Final Fantasy ภาค 5)

แต่มีข้อจำกัดตรงที่ว่า แต่ละอาชีพจะมีค่าสเตตัสที่แตกต่างกัน เช่น Knight ที่ใช้คาถาฟื้นพลัง อาจจะฟื้นพลังได้ประมาณ 50 หน่วย ในขณะที่หากเปลี่ยนไปเป็น White Mage เต็มตัว จะสามารถฟื้นพลังได้มากถึง 200 หน่วย เพราะฉะนั้น นอกจากจะเลือกอาชีพหลักแล้ว ควรเลือกอาชีพรองที่เหมาะสมด้วย


Squire (สไควเออร์)

เป็นจุดเริ่มต้นของตัวละคร พูดง่ายๆ ว่าอาชีพนี้เป็นเหมือน นักรบฝึกหัด เป็นหนทางไต่เต้าไปสู่อาชีพอื่นๆ ในอนาคต ค่าสเตตัสอยู่ในระดับกลางๆ มีความสมดุล

เงื่อนไข ไม่มี

แนะนำ Squire มีสกิล Accumulate ที่สามารถเพิ่มค่าโจมตีทางกายภาพ +1 สามารถใช้ได้เลยโดยไม่ต้องรอเทิร์น ใช้ 10 ครั้งมันก็ +10 เป็นสกิลแจ่มที่ควรจะใช้ช่วงเริ่ม Battle เพราะศัตรูยังมาไม่ถึงตัว อีกสกิลที่แนะนำมากๆ เป็นสกิลสนับสนุนคือ Gain Jp Up เนื่องจากระบบในเกมให้มีการเก็บค่า Jp (Job Point) เพื่อเอามาเรียนสกิลและเลื่อนระดับอาชีพ สกิล Gain Jp Up จึงมีประโยชน์มหาศาล ทำให้การเก็บสกิลและอาชีพง่ายขึ้น

สำหรับตัวเอก ถ้าเล่นอาชีพ Squire จะมีสกิลเพิ่มขึ้นมาหลายสกิล เด็ดสุดคือ Scream ที่เพิ่มค่าโจมตีทางกายภาพ ค่าโจมตีด้านเวทมนตร์ เพิ่ม Speed เพิ่ม Brave (เรียกง่ายๆ ว่าสกิลโกงนั่นเอง อิอิ)


Chemist (เคมิสท์)

เป็นจุดเริ่มต้นของตัวละครเช่นกัน ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนเป็นจุดเริ่มต้นของสายเวทย์ ส่วน Squire เป็นจุดเริ่มต้นของสายดาบ

อาชีพนี้มีพลังโจมตีค่อนข้างน้อย ถือดาบไม่ได้ ใช้อาวุธอย่างเดียวคือมีด แต่ช่วงหลังๆ จะมีอาวุธใหม่คือปืนพก ยิงไกล และโดน 100%

จุดเด่นที่สุดของ Chemist คือการขว้าง Item ได้หลายช่อง โดยเฉพาะพวกยาฟื้นพลัง ตอนช่วงแรกๆ ของเกมจะยังไม่มีอาชีพ White Mage เพราะฉะนั้นอาชีพนี้ก็ถือว่ามีความสำคัญมากทีเดียว

เงื่อนไข ไม่มี

แนะนำ ให้ตัวละครสัก 1 – 2 ตัวเล่นอาชีพนี้ เพราะการฟื้นพลังเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าให้อาชีพนี้เป็นอาชีพรอง จะไม่สามารถปา Item ได้หลายช่อง จะปาได้แค่ 1 ช่องเท่านั้น ควรเล่นเป็นอาชีพหลักจะดีกว่า แล้วค่อยไปเปลี่ยนเป็น White Mage หรือ Black Mage หรือถ้าจะเล่นเป็นอาชีพเสริม ต่างคนต่างเติมยาด้วยตัวเองก็ได้เหมือนกัน


Knight (ไนท์)

อัศวินที่ใช้ดาบเป็นอาวุธ สวมเครื่องป้องกันเป็นพวกเกราะหนักได้ ถือโล่ได้ สกิลโจมตีจะเป็นการลดความสามารถของศัตรู เช่น Power Break เป็นการโจมตีแล้วทำให้ศัตรูมีค่าโจมตีทางกายภาพลดลง 3 หน่วย, Weapon Break เป็นการโจมตีแล้วทำให้อาวุธของศัตรูพัง (ใช้กับศัตรูที่เป็นมนุษย์แล้วถืออาวุธ) ทุกสกิลไม่ได้สร้างความเสียหายกับพลังชีวิต ( HP ) นอกจากบางสกิลที่ทำลายเครื่องป้องกัน (เครื่องป้องกันจำพวกหมวกและเกราะให้ค่า HP ถ้าทำลายทิ้ง HP ศัตรูก็จะหายไป เช่น หมวกเพิ่มค่า HP+40 ถ้า Knight ทำลายทิ้ง HP ศัตรูก็จะลดลงไป 40 หน่วย)

อาจเรียกได้ว่า Knight เป็นอาชีพที่พลังชีวิตสูง อึด ถือดาบเจ๋งๆ ก็ตีโหดเหมือนกัน เป็นอาชีพที่เล่นง่ายแต่ไม่ค่อยมีสกิลสร้างความเสียหายแบบอลังการ

เงื่อนไข Level 2 Squire

แนะนำ เป็นอาชีพที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก อยากโหดและอึดก็เลือกเล่นได้เลย เงื่อนไขก็ง่ายๆ แค่เก็บ Squire ให้ได้เลเวล 2 ก็เป็น Knight ได้แล้ว อาจจะเล่นไปจนจบเกมเลยก็ยังได้


Archer (อาร์เชอร์)

นักยิงธนูที่ใช้อาวุธประเภทธนูกับหน้าไม้ สกิลโจมตีจะเป็นการ Charge ยิ่ง Charge ระดับสูงก็ยิ่งแรงขึ้น ศัตรูที่อยู่ใกล้กว่า 2 ช่องจะไม่อยู่ในระยะโจมตี ต้องอยู่ห่างศัตรูตั้งแต่ 3 ช่อง

ธนูกับหน้าไม้ต่างกันไม่มากในเรื่องการโจมตี ระยะโจมตีก็ต่างกันแค่ 1 ช่อง แต่ธนูจะได้เปรียบในเรื่องการยิงศัตรูที่ยืนอยู่ในจุดที่ระดับความสูงต่างจากเรา นึกภาพง่ายๆ ลูกธนูพุ่งไปเป็นวิถีโค้งนั่นเอง แต่หน้าไม้พุ่งไปตรงๆ แต่ที่ต่างกันและมีผลเห็นได้ชัดคือเรื่องความแม่นยำ หน้าไม้จะมีความแม่นยำมากกว่า

เงื่อนไข Level 2 Squire

แนะนำ สกิลโจมตีไม่น่าใช้เท่าไหร่ อาจจะเห็นศัตรูใช้แล้วโหด แต่ก็ต้องเรียนสกิลสนับสนุนหลายอย่างจึงจะยิงได้ไกล ส่วนสกิล Charge ก็เสียเทิร์นนานพอสมควร นายโน้ตเคยใช้ Charge 20 ปรากฏว่ามันขึ้นบอกว่า Infinity หมายความว่าต้องรอหลายเทิร์นมากๆๆๆๆ จึงจะใช้ได้ ส่วนเรื่องความแม่นยำเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะการ Charge นั้นเสียเทิร์น ถ้ายิงพลาดหรือศัตรูการ์ดได้ก็ทำเอาเสียอารมณ์เหมือนกัน แต่สกิล Charge จะเอาไปเป็นอาชีพเสริมก็ได้ ถ้าถือดาบแล้วใช้ Charge ก็โหดเหมือนกัน


Monk (มังค์)

นักบวช เป็นอาชีพโคตรเทพของ Final Fantasy เลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะภาคไหนอาชีพนักบวชจะเป็นอาชีพโหด ต่อยแรง สกิลโหดและหลายสกิลเป็นสกิลหมู่ บางสกิลก็ช่วยเหลือได้หลายสถานการณ์ ในภาค Final Fantasy VI มีตัวละครชื่อ มาร์ช (เวอร์ชั่นญี่ปุ่น) หรือ ซาบิน (เวอร์ชั่นอังกฤษ) เป็นตัวละครอาชีพนักบวช มีสกิลโจมตีหมู่และมีท่าไม้ตายที่โหดโคตรๆ

สำหรับภาคนี้ก็ไม่ต่างกันมากนัก สกิลโหดเพียบ แถมยังมีสกิลช่วยเหลือเด็ดๆ อย่าง Chakra เพิ่ม HP กับ MP และ Revive ที่ช่วยฟื้นคืนชีพให้เพื่อน

เงื่อนไข Level 2 Knight

แนะนำ นายโน้ตเล่นอาชีพนี้เป็นอาชีพเสริม เพราะสกิลช่วยเหลือมีประโยชน์มาก แต่ถ้าเก็บจนมาสเตอร์ได้ก็จะดี ยังมีสกิลสนับสนุนที่น่าสนใจคือ Counter เมื่อถูกโจมตีก็จะโจมตีกลับทันที เป็นการโจมตีกลับแบบสุ่ม บางครั้งอาจจะไม่โจมตีกลับ แต่ถึงจะอย่างนั้นก็ติดค่อนข้างบ่อยเลยนะ อีกสกิลสนับสนุนที่โกงสุดๆ คือ Hamedo คล้ายสกิล Counter ต่างกันที่ Hamedo จะโจมตีศัตรูก่อน อิอิ อย่าเพิ่งงงนะครับ ลองนึกภาพศัตรูเดินเข้ามาหาเราแล้วจะจ้วงดาบใส่เรา แต่เราโจมตีไปก่อนโดยอัตโนมัติ นายโน้ตเคยเจอเหตุการณ์นึง ศัตรูใกล้ตาย แต่ห้าวจัดเดินมาเพื่อจะจ้วงดาบใส่ ตัวละครของนายโน้ตติดสกิล Hamedo หันไปจ้วงก่อน ศัตรูเลยตาย 555+ บอกแล้วว่าเป็นสกิลโกง แต่ทั้ง Counter กับ Hamedo ต่างก็เหมาะกับอาชีพที่เน้นโจมตีทางกายภาพเท่านั้น

น่าเสียดายอีกอย่างตรงที่ HP ในเกมนี้เพิ่มโดยการสวมเครื่องป้องกัน นักบวชในเกมนี้ก็เลยเลือดน้อยไปหน่อย เพราะเครื่องป้องกันใส่ได้แค่ชุดกับเครื่องประดับ หมวกใส่ไม่ได้ โล่ถือไม่ได้ เหอๆ พูดง่ายๆ ว่าประหยัดเงิน เพราะซื้อของให้ใส่แค่ 2 ชิ้นเอง ตัวก็เลยบางไปเยอะ


Priest (พรีสท์)

หรือที่รู้จักกันในชื่อ White Mage เป็นอาชีพที่ใช้คาถาฟื้นพลัง รักษาอาการผิดปกติ และชุบชีวิต สกิลทั้งหมดเป็นสกิลช่วยเหลือ ยกเว้นเพียงสกิลเดียวคือ Holy เป็นสกิลโจมตีที่รุนแรงมากๆ ยิ่งใช้กับพวก Undead ยิ่งเห็นผลดีนักแล ขึ้นชื่อว่าจอมเวท ก็ย่อมจะบอบบาง ใช้ไม้เท้าจำพวก Staff เป็นอาวุธ

เงื่อนไข Level 2 Chemist

แนะนำ ควรจัดให้อยู่ในทีมด้วยแน่นอน เพราะเป็นอาชีพที่สนับสนุนเพื่อนร่วมทีมได้ดีที่สุดโดยเฉพาะเรื่องการฟื้นพลังและชุบชีวิต หากเล่นเป็นอาชีพเสริม ความสามารถก็จะด้อยลงไป ถ้าอยากจะเล่นเป็นอาชีพเสริมจริงๆ ก็แนะนำให้เล่นอาชีพหลักสายเวท เวลาฟื้นพลังจะได้ฟื้นหลายๆ หน่วย อย่าเอาไปเป็นอาชีพเสริมให้สายดาบ เพราะสายดาบมีค่า MP น้อยมาก แถมความสามารถก็ด้อยลงไปเยอะ

อาชีพนี้เรียนให้มาสเตอร์ไปเลยก็ได้ ไม่เสียหาย ยิ่งถ้าเก็บสกิล Holy ได้ก็จะดีมาก แล้วคุณจะรู้ว่าเวทโจมตีของ Priest โหดไม่มีใครเกิน เครื่องป้อนกันควรจะเพิ่ม MP มากกว่า HP เพราะถึงจะพลังชีวิตเยอะยังไง ก็ยังบางอยู่ดี โดนจ้วงสองสามทีก็นอนได้เลย เน้น MP เอาไว้ใช้เวทมนตร์ดีกว่า

อีกเรื่องหนึ่งคือ อย่าคาดหวังว่าจะให้ Priest ตัวเดียว คอยฟื้นพลังเพื่อนหรือชุบชีวิตเพื่อน หรือรักษาสถานะผิดปกติให้เพื่อน งานหนักเกินไป Priest ตัวเดียวรับไม่ไหวหรอก ให้ตัวละครอื่นใช้สกิลสนับสนุนจำพวกนี้ไว้ด้วย เพราะบางอาชีพมีสกิลจำพวกนี้เช่นกัน อย่าง Monk ที่สามารถฟื้นพลัง ชุบชีวิต และรักษาสถานะผิดปกติได้ หรือ Chemist ที่สามารถใช้ Item ต่างๆได้ จะเป็นการแบ่งเบาภาระ ไม่ให้ Priest ต้องรับภาระหนักเกินไป

หรือถ้านึกไม่ออก ก็ให้นึกถึงเวลาที่ Priest ต้องฟื้นพลังให้เพื่อน ขณะที่มีเพื่อนบางคนนอนตายรอการชุบชีวิต และบางคนติดสถานะผิดปกติอยู่ จะเห็นว่า Priest มีความสำคัญต่อทีม แต่ไม่สามารถทำหน้าที่พร้อมกันได้ในเทิร์นเดียว ควรหาตัวอื่นมาสนับสนุนด้วยสกิลที่คล้ายๆ กันด้วยก็จะดีมาก


Wizard (วิซาร์ด)

พ่อมดมนตร์ดำหรืออีกชื่อหนึ่งคือ Black Mage ใช้สกิลเวทมนตร์โจมตีทุกสกิลเลย และโหดๆ ทั้งนั้น เน้นการโจมตีแบบธาตุ คือ ไฟ น้ำแข็ง สายฟ้า ซึ่งศัตรูประเภทมอนสเตอร์จะมีการแพ้ทางธาตุต่างๆ เช่น พวก ก๊อบลิน จะแพ้เวทมนตร์ธาตุน้ำแข็ง

เงื่อนไข Level 2 Chemist

แนะนำ เป็นอาชีพสายเวทที่น่าจะหามาไว้ในทีม ได้เปรียบเรื่องความรุนแรงและระยะการโจมตี เล่นเป็นอาชีพเสริมก็ได้ แต่อาชีพหลักก็ควรจะเล่นสายเวท เพื่อรักษาค่าสเตตัสความแรงในการใช้เวทมนตร์เอาไว้ อีกทั้งการเล่นอาชีพหลักสายเวทจะทำให้ได้ค่า MP สูง


Time Mage (ไทม์ เมจ)

เป็นอาชีพสายเวทอีกอาชีพที่น่าเล่น สกิลส่วนใหญ่จะเป็นสกิลสนับสนุน เช่นการเพิ่มความเร็วให้เพื่อน ทำให้เทิร์นกลับมาเร็วขึ้น สกิลติดปีกทำให้ตัวลอย สกิลเกราะเวทสะท้อนเวทมนตร์ทุกชนิด หรืออาจจะใช้สกิลสาปศัตรูให้ช้าลง บางสกิลก็ใช้หยุดศัตรู หยุดการโจมตี หยุดเคลื่อนไหว มีสกิลโจมตีที่รุนแรงมากๆ หนึ่งสกิล คือสกิล Meteor เป็นการร่ายคาถาอุกาบาตให้หล่นมาใส่ศัตรู

เงื่อนไข Level 2 Wizard

แนะนำ สกิลที่น่าใช้จริงๆ คือ Haste ที่ช่วยเพิ่มความเร็วให้เพื่อน และยิ่งมีค่า Faith สูงบวกกับมีราศีที่ถูกโฉลกกับเพื่อน เปอร์เซ็นต์ในการใช้สกิลติดก็จะสูงตามไปด้วย ไม่แนะนำให้ใช้สกิล Meteor เพราะเสียหลายเทิร์นมาก แถมรัศมีโจมตีกว้างเกิน เพื่อนอาจจะโดนลูกหลงไปด้วย จะเล่นเป็นอาชีพเสริมก็ได้ แต่ควรให้เพื่อนที่มีหน้าที่สนับสนุนเล่น เพราะถ้าให้เพื่อนที่เน้นโจมตีมาเล่นอาชีพนี้ ก็เหมือนเสียคนโจมตีไปเลยหนึ่งคน แนะนำให้เล่นเสริมกับอาชีพ Priest เพราะอาชีพนี้เติมพลังสนับสนุนเพื่อนอยู่แล้ว อาชีพ Time Mage มีสกิลสนับสนุนที่น่าสนใจมากๆ คือ Mp Switch เป็นการสุ่ม หากโดนโจมตี จะเสียค่า Mp แทน Hp แม้ว่าค่าความเสียหายที่ได้รับจะสูง แต่ถ้าตัวละครเหลือ Mp มากกว่า 1 ก็ไม่เป็นปัญหา มันลดค่า Mp อย่างเดียวเลย แต่ก็เป็นการสุ่มล่ะนะ บางครั้งก็ไม่ติดสกิลนี้ แต่ถ้าติดก็คุ้มเลย

อยากให้นึกถึงสกิล Chakra ของอาชีพ Monk เป็นสกิลที่เพิ่ม Hp กับ Mp ถ้าสามารถเพิ่ม Mp ได้เองเรื่อยๆ แบบนี้ ก็เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นอมตะไปเลย แม้ว่าสกิล Mp Switch จะไม่ติด 100% แต่ก็ติดบ่อยอยู่เหมือนกัน

อีกสกิลสนับสนุนหนึ่งที่น่าสนใจ คือ Float ที่ทำให้ตัวลอยตลอดเวลา สามารถหลบสกิลบนพื้นได้ทุกสกิล แถมยังเดินบนน้ำได้และเดินบนพื้นที่เรียกว่า Swamp ได้ (Swamp เป็นพื้นที่เหมือนคลองซึ่งจะทำให้เราติดพิษ) Float เป็นคาถาของ Time Mage และเป็นสกิลสนับสนุนด้วย และอีกสกิลคือ Teleport เป็นสกิลหายตัว สามารถเดินไปได้ในทุกจุดของแผนที่ แต่มีข้อจำกัดคือ ยิ่งไปไกลเปอร์เซ็นต์ในการหายตัวพลาดก็มีสูง ซึ่งถ้าพลาดก็ต้องอยู่ที่เดิมและเสียโอกาสเดินไป 1 เทิร์น มันจะมีประโยชน์มากๆ ตอนที่หายตัวไปอยู่ในที่สูงหรือที่ต่ำมากๆ บางครั้งห่างจากเราเพียงช่องเดียว แต่ไม่สามารถขึ้นหรือลงไปได้ ถ้า Teleport ก็จะสามารถไปได้แน่นอน


Summoner (ซัมมอนเนอร์)

เรียกง่ายๆ ว่าพวกซัมม่อน ภาษาไทยเรียกว่า นักเชิญอสูร นักเรียกอสูร เป็นอาชีพที่ใช้สกิลได้อลังการที่สุดในเกม เพราะเป็นการเชิญอสูรออกมาช่วยต่อสู้ และอสูรหลายตัวโจมตีได้รุนแรงในรัศมีที่กว้างมาก บางตัวช่วยเพิ่ม Hp ให้เราเป็นจำนวนมาก และบางตัวก็ช่วยสนับสนุนการโจมตีดีทีเดียว ข้อดีที่สุดของอาชีพนี้คือ อสูรที่เชิญออกมา จะไม่ทำร้ายเราหรือเพื่อน พูดง่ายๆ ว่า แม้เราจะอยู่ในรัศมีโจมตี ก็ไม่เป็นอันตราย ต่างจากการใช้คาถาอื่นๆ ของสายเวท หรือถ้าเชิญอสูรออกมาเพิ่มพลังชีวิต ก็จะไม่มีผลต่อมอนสเตอร์ แม้ว่ามอนสเตอร์จะอยู่ในรัศมีก็ตาม

เงื่อนไข Level 2 Time Mage

แนะนำ เป็นอาชีพที่น่าเล่นมากๆ ได้เปรียบเรื่องระยะโจมตีและรัศมีโจมตีที่ดีกว่า Wizard เพราะ Wizard จะโจมตีทุกคนที่อยู่ในรัศมี Summonerยังมีข้อได้เปรียบคือ มีค่าสเตตัสโดยรวมสูงกว่าอาชีพสายเวทอื่นๆ จะเล่นเป็นอาชีพหลักแล้วเล่น Wizard เป็นอาชีพเสริมก็ได้ Summoner ยังมีสกิลสนับสนุนที่น่าสนใจคือ Half Mp เป็นการประหยัด Mp ไปในตัว เพราะ เกมนี้ค่า Mp ตันอยู่ที่ 3 หลัก ซึ่งแม้ว่าจะเก็บ Level ไปจนถึง 99 ค่า Mp ก็ยังไม่ถึง 200 เลย และคาถารุนแรงก็เสีย Mp ค่อนข้างเยอะ แต่ Half Mp จะช่วยลดค่าการใช้ Mp ลงครึ่งหนึ่ง จึงมีประโยชน์มหาศาล นึกง่ายๆ ว่า ถ้าสมมติใช้คาถาหนึ่งได้ 100 ครั้ง พอใส่สกิลสนับสนุน Half Mp ก็จะใช้ได้ 200 ครั้งนั่นเอง


Thief (ธีฟ)

อาชีพนักขโมย ฟังชื่อแล้วเหมือนไม่เท่ แต่ภาคนี้ตัวละครเท่มาก สกิลโจมตีเป็นการขโมยทุกอย่างตั้งแต่ขโมยเงิน ไปจนอาวุธชุดเกราะ ขโมยได้กระทั่งค่า Exp และเด็ดสุดคือขโมยหัวใจ (ไม่ได้ล้อเล่นนะ มันขโมยได้จริงๆ) การขโมยหัวใจถ้าขโมยได้ จะทำให้ศัตรูมาเป็นพวกเราทันที และแน่นอนว่า ขึ้นชื่อว่าขโมยหัวใจ ก็จะใช้กับศัตรูที่เป็นมนุษย์และมีเพศตรงข้ามกับอาชีพขโมยของเราเท่านั้น

เงื่อนไข Level 2 Archer

แนะนำ ด้วยความว่องไวของอาชีพนี้ จึงสามารถเทิร์นกลับมาได้อย่างรวดเร็ว แถมอาจจะได้เดินเป็นคนแรกด้วยซ้ำไป แต่น่าเสียดายที่สกิลโจมตีเด็ดๆ ไม่มีเลย และอาวุธที่ใช้ก็เป็นแค่มีดจำพวก Knife หรือ Dagger ไม่สามารถถือดาบได้ เล่นเป็นแนวทางเพื่อไต่เต้าไปสู่อาชีพอื่นจะดีที่สุด Thief มีสกิลสนับสนุนที่เรียกว่า Secret Hunt นั่นก็คือการล่ามอนสเตอร์ เวลามอนสเตอร์ตายจะสังเกตเห็นว่า มอนสเตอร์จะมีซากที่แตกต่างกันไป ถ้าให้ Thief เป็นคนลงมือสังหารดอกสุดท้าย จะเป็นการเก็บซากมอนสเตอร์ไปโดยอัตโนมัติ หรืออาจให้อาชีพอื่นสวมใส่สกิล Secret Hunt แล้วสังหารดอกสุดท้าย ก็จะเก็บซากมอนสเตอร์ไปได้เช่นกัน หลังจากนั้นก็ให้ไปที่ร้าน Fur Shop จะมีอยู่ในบางเมืองเท่านั้น จะทำให้สามารถซื้อ Item ได้ในราคาพิเศษ บางครั้งก็สามารถซื้อ Item ลับๆ ได้ด้วยนะ


Oracle (ออราเคิล)

เป็นอาชีพที่ไม่คุ้นตา แต่ก็น่าเล่นไม่น้อย เป็นอาชีพที่ใช้สกิลที่เรียกว่า หยิน – หยาง เป็นเวทมนตร์ที่ใช้สาปศัตรูได้อย่างรุนแรง ทำให้ติดสถานะต่างๆ เช่น Petrify ทำให้ศัตรูแข็งเป็นหิน ซึ่งก็ถือว่าตายไปเลยนั่นเอง ทุกสกิลเน้นติดสถานะ มีสกิลสนับสนุนเพื่อนเล็กน้อย เช่นเพิ่มและลดค่า Faith นอกจากนี้ยังมีสกิลดูดพลัง Mp และ Hp

เงื่อนไข Level 2 Priest

แนะนำ ไม่รู้จะแนะนำอะไรดี คงขึ้นอยู่กับความชอบ ถ้าชอบสาปศัตรูแบบโกงๆ อาชีพนี้ก็น่าเล่นที่สุด แต่ถ้าเน้นโจมตี ก็ไม่เหมาะเท่าไหร่เพราะอาชีพนี้ไม่ได้เน้นโจมตี มีข้อจำกัดเรื่องการสาปเหมือนกับสกิลเวทมนตร์สายอื่น คือเปอร์เซ็นต์ในการติดสกิล จะเล่นเป็นอาชีพเสริมก็ได้ เพราะเป็นอาชีพที่ป่วนน่าดูเลย มีสกิลสนับสนุนน่าสนใจหลายสกิล อย่าง Any Weather ที่สามารถเดินบนพื้นผิวแบบไหนก็ได้ และสกิล Move Mp Up ทุกครั้งที่เดิน Mp จะฟื้นจำนวนหนึ่ง


Mediator (เมดิเอเตอร์, มีเดียเตอร์)

เป็นอีกอาชีพที่ไม่คุ้นตาอีกแล้ว แต่อาจจะเคยเห็นแวบๆ ในFinal Fantasy ภาคอื่น เช่นภาค 5 จะมีอาชีพ Trainer สำหรับภาคนี้เรียกกันว่า อาชีพนักเจรจา สกิลของอาชีพนี้บอกไม่ถูกว่าเป็นสายไหน อาจจะกึ่งๆ สายเวทล่ะนะ เป็นสกิลเจราจาทั้งหมด ไม่ว่าจะสนับสนุนเพื่อนหรือสาปศัตรู ก็ใช้การเจรจาทั้งหมด

เงื่อนไข Level 2 Oracle

แนะนำ ค่อนข้างโกงนะอาชีพนี้ แต่เปอร์เซ็นต์ในการใช้สกิลติดก็น้อยเหมือนกัน สกิลที่น่าสนใจคือ Invitation ที่สามารถชวนศัตรูมาเป็นพวกได้ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือมอนสเตอร์ก็ชวนได้หมด แต่ติดไม่ติดนั่นอีกเรื่อง อีกสกิลคือ Persuade ที่สามารถลดค่า Ct ของศัตรูให้เหลือ 0 พูดง่ายๆ ว่าเสียเทิร์นไปฟรีๆ เพราะค่า Ct เป็นค่าที่บ่งบอกว่าจะถึงเทิร์นของใคร หากใคร Ct ถึง 100 ก่อนจะได้เทิร์นก่อน นอกจากนี้ก็มีสกิลเจรจาที่เน้นสนับสนุนเพื่อน เพิ่มค่า Brave Faith และสาปศัตรูให้ติดสถานะต่างๆ จุดเด่นอีกข้อหนึ่งที่ไม่เหมือนใครก็คือ หากเล่นอาชีพนี้เป็นอาชีพหลัก เมื่อเข้าสู่ Battle ตามแผนที่ต่างๆ จะมีการสุ่มได้มอนสเตอร์มาเป็นพวกในทันที ไม่ต้องแปลกใจ หากเล่นอาชีพนี้แล้วเข้าสู่ Battle จู่ๆ ก็มีมอนสเตอร์มายืนอยู่ทางฝั่งเราตั้งแต่เริ่มต้น เหอๆ ช่างเป็นอาชีพที่มีอัธยาศัยดีแท้


Geomancer (จีโอแมนเซอร์)

คล้ายพวกนักธรณีวิทยา คือสามารถร่ายคาถาเกี่ยวกับสภาพพื้นผิวต่างๆ ได้ ในฉากแต่ละฉากจะเห็นว่าพื้นผิวมีลักษณะแตกต่างกันไป ทั้งทุ่งหญ้า ทะเลทราย Swamp หรือกระทั่งสิ่งก่อสร้าง Geomancer สามารถประยุกต์พื้นผิวนั้นๆ ให้กลายเป็นเวทมนตร์โจมตีและติดสถานะได้ด้วย

เงื่อนไข Level 3 Monk

แนะนำ กึ่งๆ สายเวทนะ แต่สามารถถือดาบหรือขวานได้ด้วย ถือโล่ก็ได้ ค่าป้องกันก็ดี เวทมนตร์โจมตีเรียนง่าย ไม่นานก็เรียนได้หมด แต่เวทโจมตีไม่แรงเท่าไหร่หรอก ค่อนข้างเบาเลยล่ะ แต่อาศัยว่ามันติดสถานะ ถ้าเรียนสกิลโจมตีครบหมด ไม่ว่าศัตรูจะยืนบนพื้นผิวแบบไหนก็ร่ายคาถาใส่ได้หมด คาถาของ Geomancer เป็นคาถาจำเพาะที่ไม่เหมือนใคร แต่อย่าหวังอะไรมากเพราะมันไม่แรง นอกจากฟลุ๊คๆ ศัตรูยืนบนพื้นผิวเจ๋งๆ พอร่ายคาถาไปแล้วมันติดสถานะก็อาจสังหารมันได้ในดอกเดียว เช่น ถ้ามันยืนบนกำแพงหิน Geomancer ก็สามารถร่ายคาถา Carve Model ถ้าศัตรูติดสถานะ มันก็จะตายด้วยสถานะ Petrify ทันที

ยังมีสกิลสนับสนุนที่น่าสนใจคือ Counter Flood เป็นการโจมตีกลับเหมือนสกิล Counter ของ Monk แต่ต่างกันตรงที่จะโจมตีกลับในรูปของเวทมนตร์ Geomancer แม้จะไม่ได้เรียนสกิลโจมตีของ Geomancer เลยสักสกิล แต่ถ้าสวมใส่ Counter Flood ก็สามารถโจมตีกลับได้ทุกสกิลเลย แต่ก็นะ มันเป็นสกิล Counter จึงออกมาแบบสุ่ม อีกสกิลคือ Attack Up ทำให้สายดาบโหดขึ้นเป็นกองเลย


Lancer (ลอนเซอร์)

อาชีพนักรบมังกรนั่นเอง สกิลโจมตีคือ Jump และค่อนข้างรุนแรงมากๆ เป็นนักรบที่สามารถถือหอกได้อย่างเดียว และสามารถสวมใส่เกราะหนักได้ ถือโล่ได้ เลือดเยอะ อึด โหด หอกก็โจมตีได้ถึง 2 ช่อง Jump ได้ไกลสุด 8 ช่อง

เงื่อนไข Level 3 Thief

แนะนำ ถ้าอยากจะหาสายดาบไว้ในทีม ก็แนะนำอาชีพนี้เลย เพราะอึดมาก และสกิลโจมตีก็โหด ยิ่งเรียนสกิลโจมตีครบหมดก็ยิ่งโหด และทำให้กระโดดแทงศัตรูได้ไกลถึง 8 ช่อง ฟังดูเหมือนน้อย แต่หารู้ไม่ 8 ช่องในฉากต่างๆ ก็เกือบหมดทั้งฉากนั่นแหละ พูดง่ายๆ ว่า กระโดดไกลมากๆ มีสกิลสนับสนุนคือ Dragon Spirit ที่ช่วยชุบชีวิตได้เมื่อตาย และสกิล Ignore Heights ที่สามารถกระโดดขึ้นไปบนความสูงระดับไหนก็ได้เวลาเดิน


Samurai (ซามูไร)

คล้ายๆ พวก Knight ที่อัพเกรดขึ้นมา เพราะค่าสเตตัสดีกว่า แต่ถืออาวุธประเภทดาบซามูไร ซึ่งมีค่าโจมตีเป็นรองดาบ Sword สกิลโจมตีจะเป็นการดึงวิญญาณดาบซามูไรออกมาช่วยโจมตี ขึ้นอยู่กับว่าเป็นดาบชื่ออะไร ดาบซามูไรบางเล่มช่วยเพิ่มพลังชีวิต แต่บางเล่มก็โจมตีด้วยสกิลรุนแรงและติดสถานะ เครื่องป้องกันสวมได้เหมือนสายดาบพวกนักรบอื่นๆ

เงื่อนไข Level 3 Knight, Level 4 Monk, Level 2 Lancer

แนะนำ เป็นอีกอาชีพที่น่าเล่น ถ้าพูดถึงสกิลโจมตีก็ไม่ได้รุนแรงมากนักแต่ก็ค่อนข้างมีประโยชน์ มีข้อจำกัดที่ว่า ต้องซื้อดาบซามูไรของสกิลนั้นๆ มาเก็บไว้ในสต็อกด้วย และบางครั้งเมื่อใช้สกิลดึงวิญญาณดาบออกมา อาจจะทำให้ดาบหัก เสียดาบไปอีก และดาบซามูไรก็ค่อนข้างมีราคา แต่ว่าถ้าไม่คิดมาก ก็ซื้อตุนไว้สักอย่างละ 5 – 10 เล่มก็ได้ เพราะช่วงหลังๆเงินเหลือบาน ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรดี


Ninja (นินจา)

อาชีพที่รู้กันดีว่าว่องไวที่สุดในเกม สกิลคือการ Throw หรือการขว้างอาวุธใส่ศัตรูนั่นเอง อาวุธบางชิ้นเมื่อขว้างไปแล้วโหดมาก อาจตายได้ในนัดเดียว แต่จุดเด่นของ Ninja คือการถืออาวุธสองมือ โจมตีปกติได้สองครั้ง ไม่สามารถถือดาบได้

เงื่อนไข Level 3 Archer, Level 4 Thief, Level 2 Geomancer

แนะนำ น่าเล่นมาก มีในทีมก็ไม่เสียหายเลย เพราะด้วยความว่องไว พอเข้าสู่ Battle จะได้เดินเป็นคนแรก และเทิร์นกลับมาเร็วมาก ซื้ออาวุธดีๆ (ถ้าเงินเหลือ) เอาไว้ให้ขว้างก็ได้ โหดดี แต่ที่อยากจะแนะนำที่สุดคือ ให้ไปเรียนสกิล Equip Sword ของ Knight มาก่อนแล้วสวมใส่สกิลนี้ก็จะทำให้ถือดาบได้ ค่าโจมตีสูง ตีสองครั้ง และถือดาบซึ่งเป็นอาวุธที่มีค่าโจมตีทางกายภาพสูงและแม่นยำที่สุด อาชีพนี้จึงกลายเป็นอาชีพโหด ซึ่งอาจจะโหดที่สุดในบรรดาอาชีพสายดาบเลยก็ได้ สมมติว่า Knight ฟันครั้งละ 200 แต่ Ninja ที่ถือดาบทั้งสองข้างจะฟันได้เกือบๆ 400 คือมือหนึ่ง 180 อีกมือ 180 สรุป แรงกว่า Knight มากๆ


Calculator (แคลคูเลเตอร์)

นักคำนวณ อาชีพที่นายโน้ตลงมติเลยว่าโกงที่สุดในเกมแล้ว เพราะมันสามารถร่ายคาถาได้โดยไม่ต้องขยับไปไหน ไม่เสียเวลา และไม่เสียค่า Mp แม้จะไม่เดินไปไหนเลยก็สามารถสังหารศัตรูได้ทั้งแผนที่

เงื่อนไข Level 4 Priest, Level 4 Wizard, Level 3 Time mage, Level 3 Oracle

แนะนำ หามาใช้เลย แต่อย่าเล่นเป็นอาชีพหลัก ให้เรียนสกิลให้ครบแล้วถอดไปเป็นอาชีพเสริม ดีที่สุดคือเพื่อนคนไหนสายเวทและเน้นโจมตี ก็จับมาฝึกอาชีพนี้ก่อน ด้วยความที่มันเป็นอาชีพโกงที่สุดในเกม จึงฝึกอาชีพได้ยากมาก มันเชื่องช้ามาก กว่าจะถึงเทิร์นก็ต้องรอตั้ง 2 รอบ ต้องมีความอดทนค่อนข้างสูง แต่เชื่อเถอะ เมื่อฝึกเสร็จก็สบาย อิอิ

การโจมตีของอาชีพนี้จะพิสดารหน่อย คือใช้หลักการหารค่า Ct Exp Height Level ในขณะที่ตัวเลขที่เอามาหารคือ Prime Number (จำนวนเฉพาะ), 5 4 และ 3 แรกๆ อาจจะงงเป็นไก่ตาปูดไปเลย เพราะไม่รู้ว่าจะเล่นยังไง จะลองอธิบายให้ฟัง ไม่รู้จะเข้าใจกันมั้ย อิอิ

เริ่มแรก ควรจะมีสกิลเวทมนตร์ของ Priest, Wizard, Time Mage และ Oracle พูดง่ายๆ ว่าเรียนสกิลโจมตีของพวกนี้มาก่อน จากนั้นก็มาเรียนสกิลโจมตีของนักคำนวณ โดยสกิลโจมตีของนักคำนวณจะแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ สกิลตัวแปร ซึ่งได้แก่ Ct, Exp, Level และ Height อีกประเภทเรียกว่า สกิลตัวหาร ได้แก่ Prime Number, 5, 4 และ 3

วิธีใช้คือ ให้เราเลือกว่าจะใช้อะไรเป็นตัวแปร สมมติใช้ Level เป็นตัวแปรจากนั้นก็เลือกว่าจะใช้เลขอะไรมาหาร สมมติว่าเลือกเลข 3 จากนั้นก็เลือกสกิลที่จะใช้ สมมติเลือกสกิล Fire เป็นอันเสร็จเรียบร้อย เราจะใช้สกิลออกมาทันที โดยที่ หากตัวละครตัวใดในฉากนั้น (ทั้งพวกเราและศัตรู) ที่มี Level ที่สามารถหารลงตัวได้ด้วยเลข 3 ก็จะโดนสกิล Fire ไปเต็มๆ สกิลจะออกทันที ไม่ต้องรอชาร์จและไม่เสียค่า Mp อิอิ เป็นไง โกงสุดๆเลย

แต่เนื่องจากอาชีพนี้ไม่ใช่สายเวทโดยตรง เพราะฉะนั้นไม่เหมาะเลยถ้าจะเล่นเป็นอาชีพหลัก เวทที่ยิงออกมาเบามาก อยากให้อดทนฝึกก่อนจากนั้นกลับไปเล่นสายเวทโหดๆ เช่น Wizard แต่แนะนำให้เล่น Summoner ดีกว่าเพราะค่าสเตตัสดีกว่า Wizard แถม Summoner ยังมีสกิลโจมตีโหดๆ ด้วย

นายโน้ตมีแนวทางการเล่น Calculator ดังนี้ เริ่มแรกอาจจะยังไม่มีอาชีพนักคำนวณ ก็ให้เรียนอาชีพ Wizard ให้เต็มที่ เรียนจนมาสเตอร์ไปเลย แล้วก็เปลี่ยนมาเรียนอาชีพ Priest (อาจจะมีตัวละครอื่นเล่นอาชีพนี้อยู่แล้วก็ไม่เป็นไร) ไม่ต้องเรียนสกิลหมดก็ได้ เอาแค่จำเป็นเช่นสกิลฟื้นพลัง ชุบชีวิต รักษาสถานะผิดปกติ และที่ขาดไม่ได้คือสกิล Holy อาจจะเรียนแค่นี้ เพราะถึงเวลาจริงก็ไม่ค่อยได้ใช้สกิลของ Time Mage กับ Oracle หรอก เมื่อได้สกิลโจมตีของ Wizard มาแล้ว (ขาดไม่ได้คือ Flare ซึ่งเป็นคาถาแรงที่สุดของ Wizard) และได้สกิลของPriest มาแล้ว ก็ไปเรียนสกิลของนักคำนวณ เรียนให้หมดทั้งสกิลตัวแปรและตัวหาร เสร็จแล้วก็เปลี่ยนอาชีพเป็น Summoner เพื่อเอาค่าสเตตัสด้านเวทมนตร์สูงๆ และยังได้ใช้สกิลของ Summoner ด้วย

เมื่อเป็น Summoner ก็ให้สวมใส่สกิลของนักคำนวณเป็นอาชีพเสริม ทีนี้ก็จะกลายเป็นเทพโหดโคตรโกง เปิด Battle มาทีสังหารศัตรูได้ในพริบตาด้วยการหารค่า Ct หรือถ้าพื้นผิวในฉากสูงๆ ต่ำๆ จะหารค่า Height ก็ได้ หรือจะหารค่า Exp ก็ได้ สกิลแรงๆ ที่แนะนำคือ Flare กับ Holy ที่ปกติแล้วต้องเสียเทิร์นหลายรอบกว่าจะใช้ได้ แต่เมื่อใช้สกิลของนักคำนวณก็จะสามารถใช้ได้ในทันที บางครั้ง เพื่อนของเราอาจจะโดนลูกหลงไปด้วย (บังเอิญมีตัวแปรที่หารลงตัว) ก็อย่ากังวล ช่วยๆ กันฟื้นพลังขึ้นมา หรือถ้าถึงตายก็ชุบชีวิตได้สบายด้วยหลายๆ วิธี (อย่างที่แนะนำไว้ในอาชีพของ Priest ว่ามีสกิลของอาชีพอื่นๆ บางสกิลที่ช่วยฟื้นพลังและชุบชีวิตได้เช่นกัน ควรหามาไว้ใช้ อย่ารอแต่ Priest)


Bard / Dancer (บาร์ด / แดนเซอร์)

อาชีพนักดนตรี กับนักเต้นรำ ถ้าผู้ชายจะกลายเป็นนักดนตรี ถ้าผู้หญิงจะเป็นนักเต้นรำ เงื่อนไขของหญิงชายจะต่างกัน และสกิลก็ต่างกันเล็กน้อย ถ้า Bard จะเน้นไปในทางสนับสนุน แต่ Dancer จะเน้นไปในทางสาปหรือโจมตี

เงื่อนไข Bard Level 4 Summoner, Level 4 Mediator

เงื่อนไข Dancer Level 4 Geomancer, Level 4 Lancer

แนะนำ เป็นอีกอาชีพที่โกงอีกแล้ว สกิลไม่นับจำนวนช่อง แต่เสียเทิร์นานเท่านั้นเอง บางสกิลถึงตายในดอกเดียว ไม่เชิงว่าเป็นกองหน้าเสียทีเดียว เพราะยังไงก็ต้องเสียหลายเทิร์นในการใช้สกิล ถ้าจะเล่นก็ต้องเลือกว่าชอบแนวไหน ถ้าแนวสนับสนุนก็เล่นผู้ชายซึ่งจะกลายเป็น Bard ถ้าโจมตีหรือสาปก็เล่นผู้หญิงกลายเป็น Dancer ที่เคยลองเล่นดูก็ถือว่าโกงนะ เพราะสกิลติด 100% มีสกิลสนับสนุนสกิลหนึ่งที่เหมือนวิชาตัวเบา คือสกิล Fly สามารถลอยข้ามหัวได้


Mime (ไมม์)

เรียกไม่ถูกเหมือนกันว่าอาชีพอะไร แต่อยากให้นึกถึง Final Fantasy 6 เพื่อนเราคนสุดท้ายที่ชื่อ โกโก ที่ติดอยู่ในท้องของอสูร เราต้องลงไปช่วยจึงจะได้มาเป็นเพื่อน โกโกจะใช้สกิลที่เหมือนกับสกิลของคนก่อนหน้า ซึ่งเรียกกันว่า นักเลียนแบบ นั่นเอง

เงื่อนไข Level 8 Squire, Level 8 Chemist, Level 4 Summoner,

Level 4 Mediator, Level 4 Geomancer, Level 4 Lancer

แนะนำ ไม่มีอะไรจะแนะนำ เพราะกว่าจะได้อาชีพนี้มาก็เล่นจนจะจบเกมอยู่แล้ว เลยยังไม่ได้ลองเล่นซะที ถ้าดูเงื่อนไขจะพบว่าโหดมาก กว่าจะได้มาเลือดตาแทบกระเด็น เพราะนายโน้ตไม่ได้เล่นตามบทสรุป แต่เล่นเองเออเอง ก็เลยไม่รู้ว่าอาชีพสุดท้ายนี้ได้มายังไง พอได้มามันก็มาสเตอร์มาเลย ไม่ต้องฝึกสกิลอะไรเลย คิดว่าน่าจะเหมือน โกโก คือเลียนแบบสกิลคนอื่น ก็น่าใช้นะ ความแรงอาจจะด้อยกว่านิดหน่อย แต่เลียนแบบทุกสกิลก็เข้าขั้นโกงเช่นกัน


ทั้งหมดนี้ก็คืออาชีพทั้งหมดในเกม Final Fantasy Tactics เพื่อนๆลองเล่นดูนะครับ ซึ่งนอกจากนี้ยังมีภาคเสริมของเกมนี้ขึ้นมา ทำให้มีอาชีพเพิ่ม เรียกว่า อาชีพเทพ เช่น Dark Knight ต้องมีคุณสมบัติ Master Knight, Master Black Mage, Level 8 Dragoon, Level 8 Samurai, Level 8 Ninja, Level 8 Geomancer, ฆ่าศัตรู 20 ตัว

เป็นไงครับ อาชีพเทพไม่ได้เป็นกันง่าย ๆเลยทีเดียว และไม่ได้มีแค่อาชีพเดียวด้วย แต่ยังไงก็อยู่ในภาคเสริมนะครับ ไว้นายโน้ตจะรวบรวมข้อมูลของอาชีพเทพมาให้อ่านกันเล่นๆนะครับ

สำหรับเพื่อนๆที่อยากเล่น Final Fantasy Tactics แต่ไม่มีเครื่อง PS1 ไว้เร็วๆนี้จะหา Emu ของเครื่อง PS1 กับ Rom เกมนี้มาให้ดาวน์โหลดเพื่อเล่นบนคอมพิวเตอร์กันครับ