Dead note light up the new world ซ ม

เข้าสู่ภาคต่อ Light up the new world เป็นเรื่องราวหลังจากเหตุการณ์ในภาค 2 เป็นเวลา 10 ปี ก็มีผู้สืบทอดเจตนารมณ์ เริ่มเกริ่นตัวละครแต่ละตัว แต่หนังโฆษณาออกมาว่ามี death note ถึง 6 เล่ม โอ้โห!!! บวกกับความยาวหนังที่มันย๊าวยาว มันต้องออกมาเป็น Masterpiece แน่เลย แต่เปล่าเลย หนังมันไร้ซึ่งมิติ และชั้นเชิงของบทที่ดูพยายามทำให้มันดูซับซ้อน จนคนดูอาจจะตามไม่ทัน คิดจะทำอะไรก็ทำ ปกติด้วยความเป็น death note มันจะคอยให้คนดูค่อยๆคิดตามและคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้น หรือ สิ่งที่คิระจะแก้ปัญหา ซึ่งวิธีการจะเซอร์ไพรส์คนดูตลอด แต่นี่คือ... ทุกอย่างดูเก่งไปหมด ดูรู้ดีไปหมด รู้ได้ไง? แต่การกระทำมันขัดแย้งกับบุคลิกมากๆ หนังไม่ได้ทำให้คนดูเดาอะไรได้เลย ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะ อาศัยการเปิดช่องว่างที่ไม่มีเหตุผล พอมาเฉลยคนดูก็ได้แค่เออ ออ ตาม เท่านั้นเอง มุกของหนังก็มุกเดิมๆ ที่ แอล กะ ยางามิ ไลท์ เคยทำไปแล้วทั้งนั้น ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำซับซ้อน ซ้อนแล้ว ซ้อนอีก ซ้อนจนแบบ... แบบนี้ก็ได้หรอ?

Death note 6 เล่มมันชั่งไร้ความหมายเหลือเกิน แต่ละเล่มไม่ได้มีบทบาทอะไรเลย ยมฑูติก็ไม่ได้เห็นครบ บางตัวก็ออกมา 1 ซีนเท่านั้น มิติของความเป็น death note มันหายไปอย่างชัดเจน จริงๆมี 2 เล่มก็พอแล้ว ตัวแทนแอลก็พยายามเป็นแอลเหลือเกิน ช่องโหว่ของหนังเองก็เยอะมาก บางอย่างก็ไม่ได้สนใจกฎของ Death note เลย จุดประสงค์ของตัวละครมันก็เจือจาง หาความต้องการหลักๆไม่ได้

การแสดงก็โอเวอร์ แอคติ้ง ตามสไตล์อยู่แล้ว ภาคไทยก็สไตล์พันธมิตรเยอะเป็นปกติ มิสะ แก่ขึ้นเยอะเลย แต่ยังดูแพง CG ของยมฑูติเท่ดี บางฉากมันดูยิ่งใหญ่แต่มันสื่อออกมาไม่หมด ฉากเปิดเรื่องไม่ค่อยน่าสนใจ

สรุป 1. การต่อสู้ของ แอล กับ คิระ มันมีชั้นเชิงกว่าเยอะมากหลายเท่า 2. บทและเรื่องของภาคนี้ค่อนข้าง มั่วมาก สำหรับผม 3. บทบาทของยมฑูติน้อยมาก 4. หนังมีจุดยืนที่ไม่แน่นอน 5. ทุกตัวละครไม่มีใครฉลาดเลย ถึงแม้หนังจะบอกว่าฉลาด 6. หนังยาวเกินไป เกินความจำเป็น 7. ความไม่ make sense เยอะอยู่มาก 8. ตลกคิระภาคนี้(เฉลยเอง งงเอง) กับแอลใส่ บิ๊กอาย 9. ปืนเรื่องนี้มีไว้จ่อหัว จ่อไว้งั้นแหละ 10. หนังไม่มีความเกี่ยวข้องกับมังงะ อดเจอ เนียร์ กับ เมลโล แน่นอน

***คำแนะนำสำหรับคนดูหนังทั่วไปที่ไม่ได้คาดหวังเทคนิคต่างๆ (มุมกล้อง ชั้นเชิงการเล่าเรื่อง ดนตรีประกอบ การแสดง ความสมเหตุสมผล)

ถ้าไม่เคยอ่านหรือเคยดูภาคก่อนๆ ไม่ต้องเสียเวลาไปดูครับ งง แน่นอนเพราะกฎต่างๆมันไม่ชัดเจน ทำให้เกิดข้อสงสัยเยอะ ส่วนคนที่เป็นแฟน death note ก็ไม่ต้องคาดหวังเยอะ เพราะท่านจะไม่ได้เจอสิ่งที่แปลกใหม่เลย ยกเว้นตัวละครต่างๆที่จะมีหรือไม่มีก็ได้ หนังยาวจนมีหลายช่วงที่น่าเบื่อ

1คุณมีนิสัยแบบไหน(ถ้าไม่มีเอาคล้ายคลึง)

ร่าเริง,บ้าๆบอๆ,ฉลาด

มีความหลังที่เจ็บปวด,ฉลาด,โรคจิตนิดๆ

ชอบความบันเทิง,รักจริงรักฝั่งใจ,ร่าเริง,น่ารัก

มีความเป็นผู้นำ,รักความยุติธรรม,จริงจัง

2คุณคิดว่าใครเหมือนคุณในเดธโน๊ต2016

ริวซากิ(ผู้สืบทอดแอล)

ชิเอน(ผู้หวังจะคืนชีพคิระ)

มิสะ มิสะ (สวย,มีเสนห์)

ตำรวจตัวกลางของเรื่อง(ผู้ที่ยางามิ โชอิจิโร่ไว้วางใจ)

3คุณอยากให้ภาคต่อไปมีใคร?

เนียร์,เมลโล่ ผู้ที่มีในปฐมบทและเป็นภาคต่อของภาคนี้ก่อให้เกิดภาคใหม่ขึ้น

คิระ ยางามิ ไลท์

ลุคและยมฑูตตัวอื่นๆ

แอล,ไลท์,วาตาริ,มิสะ,มัตสึดะ

Sorry, we just need to make sure you're not a robot. For best results, please make sure your browser is accepting cookies.

Type the characters you see in this image:

Try different image

Conditions of Use Privacy Policy

The original Death Note was brilliant; this film is a dull glow in comparison. While the overall theme comes across, many viewers will find the individual elements of the plot quite a bit more difficult to follow and less cohesive to the film overall. There seems to be a lot of needless filler. Neither the plot nor characters are as sharp and intelligent as the original KIRA or L. There is nowhere near the unique personalities of the two, nor much viewer compassion for any of the characters. In truth, it struck me that the main stars of this film were the Shinigami, which were far more interesting than the live characters.

There is a tendency of viewers to compare follow-up films with the original and that is perhaps unfair... but it is also inevitable. Imagine a Sherlock Holmes film in which the intelligence, attention to detail and twist-of-plot is missing; is it really Sherlock Holmes any longer? That considered, is a Death Note movie without extraordinary chess-like moves by the main characters really Death Note? In the end I was disappointed in the film and felt it could have been two hours better spent.