Airline operators committee ส วรรณภ ม ท อย

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด ( มหาชน ) ชี้แจงข่าวกรณีความไม่เชื่อมั่นในการบริหารจัดการห้องพักผู้โดยสารรอส่งกลับ ( Detention Room) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ได้ชี้แจงข้อเท็จจริง จากกรณีที่มีข่าวของ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด ( มหาชน ) ( ทอท) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ( ทสภ) ประเด็นเรื่อง การบริหารจัดการห้องพักผู้โดยสารรอส่งกลับ( Detention Room) ที่มีข่าวเรื่องความไม่โปร่งใสในการดำเนินงาน จากประเด็นที่สื่อเสนอข่าว ปูดแก๊งเหลือบสุวรรณภูมิ สมรู้ร่วมคิดคุมผลประโยชน์ "ห้องกักผู้โดยสาร" หรือ "ห้องพักผู้โดยสารรอส่งกลับ" โดยไม่มีสัญญาจ้างที่ถูกต้องนั้น

จากกรณีดังกล่าว ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทอท ได้ชี้แจงว่าการบริหารจัดการห้องพักผู้โดยสารรอส่งกลับ เป็นความร่วมมือกันระหว่าง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) และสายการบินต่าง ๆ ซึ่ง ทอท. จะเป็นผู้ประสานงานในการจัดให้มีพื้นที่ สำหรับกิจกรรมดังกล่าว โดยที่ สตม. เป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการตามกฎหมาย รวมถึงสายการบินต่าง ๆ ในฐานะผู้นำพา ผู้โดยสารเข้ามาในราชอาณาจักร โดยปัจจุบัน ทสภ. ได้พิจารณาจัดสรรพื้นที่ บริเวณ ชั้น 1 อาคารเทียบเครื่องบิน E จำนวน 230 ตร.ม. โดยไม่เรียกเก็บค่าเช่าและค่าสาธารณูปโภคต่างๆ เนื่องจากเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อใช้เป็นห้องพักผู้โดยสารเพื่อรอการส่งกลับให้กับ สตม. ดำเนินการกำกับดูแล โดยมีคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินประเทศไทย (Airline Operators Committee Thailand : AOC) เป็นผู้รับมอบหมายดำเนินการ ซึ่งปัจจุบัน AOC ได้มอบหมายให้สมาคมการบินพลเรือนและการท่องเที่ยวไทย (ACATT) เป็นผู้รับมอบหมายดำเนินการแทน

ส่วนกรณีปัญหาที่ปรากฏในข่าวว่า มีการปรับเพิ่มค่าบริการจาก 580 บาทต่อคนต่อวัน เป็น 800 บาท นั้นทางทอท. ไม่ได้รับทราบและมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการกำหนดอัตราค่าบริการดังกล่าว และมิได้มีสัญญาจ้างกับทาง ACATT แต่อย่างใด

ทั้งนี้ กรณี ที่ ทอท. ได้ทำสัญญากับ บริษัท รักษาความปลอดภัย การ์ดฟอร์ซ อะวิเอชั่นส์ จำกัด เพื่อให้ดูแลรักษาความปลอดภัยห้องดังกล่าว ทาง ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทอท. ยืนยันไม่ได้มีสัญญาว่าจ้าง บริษัท รักษาความปลอดภัย การ์ดฟอร์ซ อะวิเอชั่นส์ จำกัด ให้ดูแลห้องพักผู้โดยสารรอส่งกลับแต่อย่างใด มีเพียงสัญญาอนุญาต ให้บริการรักษาความปลอดภัยให้แก่บริษัท สายการบิน และผู้ประกอบการรายอื่นที่ประกอบกิจการภายในเขต ทสภ. ซึ่งการเข้ามาให้บริการรักษาความปลอดภัยแก่บุคคลที่ 3 ภายใน ทสภ. จะต้องได้รับสัญญาอนุญาตจาก ทอท. ก่อน ซึ่งสัญญาดังกล่าวมิได้เกี่ยวข้องกับการว่าจ้างเพื่อเข้าบริหารจัดการห้องพักผู้โดยสารรอส่งกลับ (Detention Room) แต่อย่างใด ทั้งนี้ได้มีการกำชับและขอความร่วมมือในการปฏิบัติการของห้องพักรอการส่งกลับให้เป็นไปตามหลักการและมาตรฐานสากลอย่างเคร่งครัดต่อไป

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เตรียมพร้อมรับนโยบายเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสนามบินและนโยบายสาธารณสุข

พล.ท.ณรงค์ พฤกษารุ่งเรือง หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงประจำท่าอากาศยาน(ศปม.ทย.) หรือ EOC และ นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ผสภ.) ได้ร่วมกันเป็นประธานการประชุมคณะทำงานเตรียมความพร้อมเปิดประเทศที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(ทสภ.) ซึ่งมีผู้แทนของทุกส่วนงานของ ทสภ. ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม อาทิ ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข กองระบาดวิทยาและด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ โรงพยาบาลบางพลี กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสาร สำนักงานศุลกากรตรวจสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) บริษัทวิทยุการบิน จำกัด คณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินกรุงเทพ(AOC) สายการบิน ณ ห้องประชุม AOB1 ชั้น 5 อาคารสำนักงานท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(AOB)

ด้าน นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า การประชุมคณะทำงานฯ ครั้งนี้มีขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมของทุกส่วนที่ปฏิบัติภารกิจ ณ ทสภ. ให้พร้อมรองรับผู้โดยสารที่เดินทางสู่ประเทศไทยตามนโยบายการเปิดประเทศของรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ได้มาตรฐานความปลอดภัยสนามบินและนโยบายสาธารณสุข

ทั้งนี้ แต่ละส่วนงานรายงานถึงความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร ตั้งแต่ขั้นตอนการคัดกรองเข้าประเทศ การตรวจสอบเอกสารการรับรองตามมาตรฐานการควบคุมโรค การจัดพื้นที่เพื่อให้มีการเว้นระยะห่างทางสังคม(Social Distancing) ให้เป็นไปตามมาตรการด้านสาธารณสุขตลอดระยะเวลาที่รับบริการในท่าอากาศยาน ตลอดจนการทดสอบความพร้อมของระบบและการประสานการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและปฏิบัติภายใต้หลักการ Covid Free Setting

กรุงเทพฯ 10 ก.พ.- ผู้ประกอบการสายการบิน ผนึกกำลัง“IATA -BAR-AOC”ประสานเสียงหนุน ทอท.สร้างอาคารทางด้านทิศเหนือ “North Expansion”สนามบินสุวรรณภูมิ รองรับปริมาณผู้โดยสารเติบโตหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย

นายสุวรรธนะ สีบุญเรือง ประธานเจ้าหน้าที่อาวุโส รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน)ในฐานะประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Airport Consultative Committees : ACC หรือ เอซีีซี )เปิดเผยว่า จากที่รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมมีนโยบายที่จะขยายขีดความสามารถสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อรองรับการเติบโตของปริมาณผู้โดยสารที่จะเดินทางเข้า ออกประเทศ ผ่านสนามบินสุวรรณภูมินั้น ทาง คณะกรรมการที่ปรึกษาการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งประกอบไปด้วย สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ(International Air Transport Association : IATA หรือ ไออาร์ต้า) , คณะกรรมการตัวแทนจากสายการบิน (Board of Airline Representatives : BAR) และคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินประเทศไทย(Airline Operators Committee : AOC)ได้มีความเห็นตรงกันว่า บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน)(ทอท.)มีความจำเป็นที่จะต้องสร้างอาคารผู้โดยสารทางด้านทิศเหนือ (North Expansion)สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อให้บริการผู้โดยสารภายในประเทศและผู้โดยสารระหว่างประเทศ (Mixed Concept) รองรับปริมาณผู้โดยสารที่จะกลับมาภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดคลี่คลาย

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ ทาง เอซีีซี ได้ทำหนังสือถึง ทอท.ถึงเหตุผลและความจำเป็นที่ผู้ประกอบการธุรกิจการบิน และ สายการบิน มีความต้องการให้ ทอท. ดำเนินการสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ ก่อนที่ ทอท.จะมีการรายงานต่อในที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่มี นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ขณะเดียวกันทางไออาร์ต้ายังได้สรุปผลการศึกษาและการคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารของสนามบินสุวรรณภูมิ จะกลับมาฟื้นอยู่ในระดับเดียวกันกับช่วงก่อนเกิดการระบาดของโรคโควิด 19 ซึ่งมีผู้โดยสารปีละประมาณ 65 ล้านคน ในปี 2567 – 2568

ซึ่งทาง ไออาร์ต้าได้มีการประเมินทางเลือกในการพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อรักษาระดับการให้บริการ (Level of Service : LoS) ของสิ่งอำนวยความสะดวกในอนาคตทั้งหมดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม (Optimum) โดยในผลการศึกษาเสนอแนวทางที่ชัดเจนว่า ทอท.สมควรที่จะสร้างอาคารผู้โดยสารทางด้านทิศเหนือ เนื่องจากจะได้พื้นที่และมีความคุ้มค่ารองรับการใช้งานของผู้โดยสารได้ดีที่สุด หากมีการสร้างจะสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารได้อีกถึง 20 ล้านคนต่อปี ซึ่งอาคารดังกล่าว จะเป็นอาคารที่ให้บริการผู้โดยสารภายในประเทศและผู้โดยสารระหว่างประเทศ (Mixed Concept)ซึ่งตามแผนจะมีหลุมจอด และ อาคารจอดรถผู้โดยสารที่แยกออกมาอย่างชัดเจน จะทำให้ไม่ไปรวมกับอาคารผู้โดยสารและอาคารจอดรถหลังเดิม ขณะเดียวกันหากผู้โดยสารจะเดินทางเชื่อมต่อไปยังอาคารเดิมก็สามารถเดินทางด้วยระบบรถไฟเชื่อมต่ออาคารได้

นายสุวรรธนะ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีหลายฝ่ายซึ่งไม่ใช่ผู้ใช้งานจริงในสนามบินออกมากล่าวอ้างว่า ทำไม ทอท. ถึงไม่ดำเนินการตามแผนแม่บทพัฒนาขยายขีดความสนามบินสุวรรณภูมิเดิม ต้องบอกว่า แผนดังกล่าวเป็นแผนที่มีการศึกษามานานหลายสิบปี และขณะที่มีการศึกษาและจัดทำแผนก็ไม่ได้มีการวิเคราะห์ หรือ คาดการณ์ว่าจะเกิดการแพร่ระบาดโควิด และเมื่อเกิดโควิด การพัฒนาย่อมเปลี่ยนแปลงไป ในฐานะ เอซีีซี เป็นผู้ใช้งานจริงใน สนามบิน เห็นควรว่าในช่วงที่เกิดโควิดแพร่ระบาด สถานการณ์การบินยังไม่ปกติ และการเดินทางทางอากาศมีปริมาณน้อย ทอท.ยิ่งควรเร่งสร้างอาคารด้านทิศเหนือ

เพราะจากผลการศึกษาหลายสถาบันก็ชี้ชัดว่า หากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ธุรกิจการบินจะกลับมาคึกคักโดยเฉพาะปี 2567-2568 มีผู้โดยสารถึง 65 ล้านคนต่อปีและยังมีการคาดการณ์ต่อว่า จะปริมาณผู้โดยสารเดินทางผ่านสนามบินสุวรรณภูมิถึง 101 ล้านคนต่อปีใน 20 ปี ข้างหน้าด้วย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นประเทศไทยก็จะมีสนามบินที่พร้อมให้บริการรองรับปริมาณผู้โดยสารเดินทางได้ทันที เพราะหากไม่ดำเนินการ ผู้โดยสารจะเสียโอกาสในการใช้บริการที่ได้รับความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น ขณะที่ประเทศไทยก็จะสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึง เสียโอกาสทางด้านการเป็นศูนย์ทางการบินของภูมิภาค

“ก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิด สนามบินสุวรรณภูมิจวนเจียนระเบิด เพราะปริมาณผู้โดยสารมากเกินรองรับได้กว่า 60-65ล้านคนต่อปี พอมีสถานการณ์โควิดปัญหาจึงคลี่คลายลง ซึ่งปัญหาการแออัดภายในสนามบิน ทาง ทอท. เข้าใจสายการบิน และทุกธุรกิจที่อยู่ในสนามบินว่ามีปัญหามากแค่ไหน ดังนั้นทาง ทอท.จึงมีมุมมองเดียวกับ สายการบินคือต้องเร่งพัฒนาสนามบินให้รองรับได้ถึง 20 ข้างหน้า ในการสร้างอาคารทางด้านทิศเหนือ ถามว่าทำไมไม่สร้างอาคารทางด้านทิศใต้ซึ่งตามแผนแม่บทต้องใช้ระยะเวลานานรวมถึงใช้งบประมาณจำนวนมาก ซึ่งไม่ทันกับโจทย์ปัญหาที่มีอยู่ขณะนี้”นายสุวรรธนะกล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด


ดูทั้งหมด

Airline operators committee ส วรรณภ ม ท อย

หลายหน่วยงานเข้าตรวจสอบอุบัติเหตุโครงเหล็กแม่แบบคอนกรีต ก่อสร้างทางด่วนพระราม 2 หล่นทับคนงาน เร่งเยียวยาผู้บาดเจ็บ – เสียชีวิต

Airline operators committee ส วรรณภ ม ท อย

รวบแล้ว “จิ๊บ ไผ่เขียว” มือยิงผู้ช่วยนักข่าวเสียชีวิต ด้านภรรยาผู้ต้องหา ร้องขอความเป็นธรรมให้สามี วอนสังคมอย่าขุดคดีเก่ามาสร้างตราบาปให้ครอบครัว

Airline operators committee ส วรรณภ ม ท อย

ตำรวจสืบสวนเชียงใหม่ ค้นบ้านหรู เปิดเว็บพนันออนไลน์ 6 เว็บ เงินหมุนเวียนเดือนละกว่า 100 ล้านบาท ยึดสมุดบัญชีม้า 130 เล่ม

Airline operators committee ส วรรณภ ม ท อย

ทีมพิเศษของทหารพราน ทาแป้งพม่าปลอมตัวเป็นชาวบ้าน ดักจับขบวนการกองทัพมดลอบขนชาวจีนเข้าไทย ขับผ่านบนเส้นทางลัดเลาะแนวสันเขา อ.แม่ระมาด จ.ตาก

ข่าวแนะนำ


Airline operators committee ส วรรณภ ม ท อย

“ม็อบแท็กซี่-รถตู้” บุกทำเนียบฯ ทวงสัญญาลดราคาก๊าซ NGV-LPG พร้อมขอปรับราคามิเตอร์หลังไม่ได้ปรับมา 30 ปีแล้ว

Airline operators committee ส วรรณภ ม ท อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสานมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาฯ กับมีลมแรง ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า

Airline operators committee ส วรรณภ ม ท อย

กรณี 3 ตำรวจไซเบอร์ กรรโชกทรัพย์ 3 หมื่น ล่าสุดถูกเด้งเข้ากรุเรียบร้อย พร้อมแจ้งข้อหาแล้ว ผบ.ตร.ลั่นลูกน้องทำผิด ผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบด้วย

Airline operators committee ส วรรณภ ม ท อย

กยศ. พบมหาวิทยาลัยบางแห่ง หลังพบยอดผู้กู้สูงผิดปกติ แจ้งประชาสัมพันธ์เรียนออนไลน์ 100% เตรียมส่ง อว. ตรวจมาตรฐานอุดมศึกษา