การปล กกล วยน าว าปากช อง50 ม หน อไหม pantip

โรคมะเร็ง (Cancer) พบได้ในทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่จะพบในอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ส่วนในวัยเด็กพบน้อยกว่าในผู้ใหญ่ประมาณ 10 เท่า

การปล กกล วยน าว าปากช อง50 ม หน อไหม pantip

โรคมะเร็งที่พบบ่อย

โรคมะเร็งที่พบบ่อยในผู้ชาย ได้แก่

  • มะเร็งตับ
  • มะเร็งปอด
  • มะเร็งลำไส้ใหญ่
  • มะเร็งต่อมลูกหมาก
  • มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
  • มะเร็งเม็ดเลือดขาว
  • มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
  • มะเร็งช่องปาก
  • มะเร็งกระเพาะอาหาร
  • มะเร็งหลอดอาหาร

โรคมะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิง ได้แก่

  • มะเร็งเต้านม
  • มะเร็งปากมดลูก
  • มะเร็งตับ
  • มะเร็งปอด
  • มะเร็งลำไส้ใหญ่
  • มะเร็งรังไข่
  • มะเร็งเม็ดเลือดขาว
  • มะเร็งช่องปาก
  • มะเร็งต่อมไทรอยด์
  • มะเร็งต่อมน้ำเหลือง

โรคมะเร็งที่พบบ่อยในเด็ก ได้แก่

  • มะเร็งเม็ดเลือดขาว
  • มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
  • เนื้องอก/ มะเร็งสมอง
  • มะเร็งนิวโรบลาสโตมา/ Neuroblas Toma (มะเร็งของประสาทซิมพาทีติก)

สัญลักษณ์โรคมะเร็ง

“ปู” เป็นสัญลักษณ์ของโรคมะเร็ง คำว่า มะเร็ง หรือ Cancer มาจากภาษากรีก คือ Carcinos ซึ่งแปลว่า ปู (Crab) เนื่องจากก้อนเนื้อมะเร็งมีลักษณะลุกลามออกไปจากตัวก้อนเนื้อเหมือนกับขาปูที่ออกไปจากตัวปู ซึ่งคนแรกที่ใช้ศัพท์นี้ คือ ฮิปโปเครตีส (Hippocrates) บิดาแห่งการแพทย์ตะวันตก


การปล กกล วยน าว าปากช อง50 ม หน อไหม pantip

รู้จักโรคมะเร็ง

โรคมะเร็ง คือ โรคที่เกิดจากการมีเซลล์ผิดปกติในร่างกายและเซลล์เหล่านี้มีการเจริญเติบโตรวดเร็วเกินปกติ ร่างกายควบคุมไม่ได้ เซลล์เหล่านี้จึงเจริญลุกลามและแพร่กระจายทั่วร่างกาย ส่งผลให้เซลล์ปกติของเนื้อเยื่อ/ อวัยวะต่าง ๆ ล้มเหลว ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ เป็นสาเหตุให้เสียชีวิตในที่สุด ได้แก่ ปอด ตับ สมอง ไต กระดูก และไขกระดูก


รู้จักเนื้องอก

เนื้องอก คือ ก้อน ตุ่ม ที่โตขึ้นผิดปกติ เกิดจากเซลล์หรือเนื้อเยื่อในร่างกายเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ เนื้องอกชนิดธรรมดาและเนื้องอกชนิดร้ายหรือมะเร็ง


รู้จักโรคเนื้องอก

โรคเนื้องอก ได้แก่ มีก้อนเนื้อผิดปกติ แต่โตช้า ไม่ลุกลามเข้าเนื้อเยื่อ/ อวัยวะข้างเคียง เพียงกดหรือเบียดเมื่อก้อนโตขึ้น ไม่ลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลือง ไม่แพร่กระจายทางกระแสเลือดและทางกระแสน้ำเหลือง จึงเป็นโรคที่รักษาหายได้โดยการผ่าตัด


โรคมะเร็ง VS เนื้องอก

โรคมะเร็งต่างจากเนื้องอกตรงที่ก้อนเนื้อหรือแผลมะเร็งจะโตเร็วลุกลามเข้าอวัยวะข้างเคียง เข้าต่อมน้ำเหลือง และแพร่กระจายเข้าหลอดเลือด กระแสเลือด และหลอดน้ำเหลืองหรือกระแสน้ำเหลือง ไปยังเนื้อเยื่อหรืออวัยวะต่าง ๆ ทั่วร่างกาย โดยมักแพร่สู่ปอด ตับ สมอง กระดูก และไขกระดูก ดังนั้นโรคมะเร็งจึงเป็นโรคเรื้อรัง รุนแรง มีการรักษาที่ซับซ้อนและต่อเนื่อง


กระบวนการเกิดโรคมะเร็ง

เมื่อร่างกายได้รับสารก่อมะเร็ง เช่น สารเคมี ไวรัส รังสี สิ่งเหล่านี้จะทำให้เซลล์เกิดการเปลี่ยนแปลงและในที่สุดเซลล์ปกติก็จะกลายเป็นเซลล์มะเร็ง ถ้าระบบภูมิต้านทานของร่างกายไม่สามารถทำลายเซลล์นั้นได้ เซลล์มะเร็งก็จะแบ่งตัวอย่างรวดเร็วกลายเป็นก้อนมะเร็งต่อไป


การปล กกล วยน าว าปากช อง50 ม หน อไหม pantip

สาเหตุโรคมะเร็ง

ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอนของโรคมะเร็ง แต่เชื่อว่ามีปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคมะเร็งอยู่หลายปัจจัย ดังนี้

  1. สาเหตุจากสิ่งแวดล้อมภายนอกร่างกาย]
    1. สารเคมีบางชนิด เช่น
      • สารเคมีในควันบุหรี่และเขม่ารถยนต์
      • สารพิษจากเชื้อรา
      • สารพิษที่เกิดจากเนื้อสัตว์รมควัน ปิ้ง ย่าง ทอดจนไหม้เกรียม
      • สีย้อมผ้า
      • สารเคมีบางชนิดที่เกิดจากขบวนการทางอุตสาหกรรม
    2. รังสีต่าง ๆ รวมทั้งรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดด
    3. การติดเชื้อเรื้อรัง เช่น
      • ไวรัสตับอักเสบชนิดบี มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็งตับ
      • ฮิวแมน แพพพิโลมา ไวรัส (Human Papilloma Virus หรือ HPV) อาจมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็งของเซลล์เยื่อบุต่าง ๆ เช่น มะเร็งปากมดลูก
      • เอบสไตน์ บาร์ ไวรัส (Epstein Barr Virus) มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองหรือมะเร็งโพรงหลังจมูก
      • เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลรัย (Helicobacter Pylori) มีความสัมพันธ์กับมะเร็งกระเพาะอาหาร
    4. พยาธิ เช่น พยาธิใบไม้ตับ มีความสัมพันธ์กับมะเร็งท่อน้ำดีในตับ
  2. สาเหตุภายในร่างกาย
    • กรรมพันธ์ุที่ผิดปกติ
    • ความไม่สมดุลทางฮอร์โมน
    • ภูมิคุ้มกันที่บกพร่อง
    • การระคายเคืองที่เกิดซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน
    • ภาวะทุพโภชนาการ เป็นต้น

อาการน่าสงสัยว่าเป็นมะเร็ง

ไม่มีอาการเฉพาะของโรคมะเร็ง แต่เป็นอาการเช่นเดียวกับการอักเสบของเนื้อเยื่อหรืออวัยวะที่เป็นมะเร็ง โดยที่แตกต่างคือ มักเป็นอาการที่แย่ลงเรื่อย ๆ และเรื้อรัง ดังนั้นเมื่อมีอาการต่าง ๆ นานเกิน 1 – 2 สัปดาห์ จึงควรรีบพบแพทย์ อย่างไรก็ตามอาการที่น่าสงสัยว่าเป็นมะเร็ง ได้แก่

  • มีก้อนเนื้อโตเร็วหรือมีแผลเรื้อรัง ไม่หายภายใน 1 – 2 สัปดาห์หลังจากการดูแลตนเองในเบื้องตัน
  • มีต่อมน้ำเหลืองโต คลำได้ มักจะแข็ง ไม่เจ็บ และโตขึ้นเรื่อย ๆ
  • ไฝ ปาน หูดที่โตเร็วผิดปกติหรือเป็นแผลแตก
  • หายใจหรือมีกลิ่นปากรุนแรงจากที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
  • เลือดกำเดาออกเรื้อรัง มักออกเพียงข้างเดียว (อาจออกทั้งสองข้างได้)
  • ไอเรื้อรังหรือไอเป็นเลือด
  • มีเสมหะ น้ำลาย หรือเสลดปนเลือดบ่อย

อาการโรคมะเร็ง

  • อาเจียนเป็นเลือด
  • ปัสสาวะเป็นเลือด
  • ปัสสาวะบ่อย ขัดลำ ปัสสาวะเล็ด โดยไม่เคยเป็นมาก่อน
  • อุจจาระเป็นเลือด มูก หรือเป็นมูกเลือด
  • ท้องผูกสลับท้องเสีย โดยไม่เคยเป็นมาก่อน
  • มีเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ หรือมีประจำเดือนผิดปกติ หรือมีเลือดออกทางช่องคลอดในวัยหมดประจำเดือน หรือหลังมีเพศสัมพันธ์ทั้งที่ไม่เคยมีมาก่อน
  • ท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่น อึดอัดท้อง โดยไม่เคยเป็นมาก่อน
  • มีไข้ต่ำ ๆ หาสาเหตุไม่ได้
  • มีไข้สูงบ่อย หาสาเหตุไม่ได้
  • ผอมลงมากใน 6 เดือน น้ำหนักลดลงจากเดิม 10%
  • มีจ้ำห้อเลือดง่ายหรือมีจุดแดงคล้ายไข้เลือดออกตามผิวหนังบ่อย
  • ปวดศีรษะรุนแรงเรื้อรัง หรือแขน/ ขาอ่อนแรง หรือชักโดยไม่เคยชักมาก่อน
  • ปวดหลังเรื้อรังและปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ อาจร่วมกับแขน/ ขาอ่อนแรง

การปล กกล วยน าว าปากช อง50 ม หน อไหม pantip

วินิจฉัยมะเร็ง

การวินิจฉัยโรคมะเร็งมีหลายวิธี เช่น

  • การตรวจร่างกายด้วยตนเองและโดยแพทย์
  • การตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น การตรวจเลือด ปัสสาวะ อุจจาระ และเสมหะ
  • การตัดชิ้นเนื้อที่สงสัยส่งตรวจทางพยาธิวิทยา
  • การตรวจทางรังสี เช่น การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ การเอกซเรย์เฉพาะอวัยวะ และการตรวจทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์
  • การตรวจโดยใช้เครื่องมือพิเศษส่องกล้องโดยตรง เช่น การตรวจลำไส้ใหญ่ ทวารหนัก กระเพาะอาหารและลำคอ เป็นต้น
  • การตรวจพิเศษอื่น ๆ

ระยะของมะเร็ง

ระยะโรคมะเร็ง คือ ตัวบอกความรุนแรงของโรค (การลุกลามและแพร่กระจาย) บอกแนวทางการรักษา และแพทย์ใช้ในการศึกษาวิจัยที่เกี่ยวข้องกับโรคมะเร็ง

โดยทั่วไปโรคมะเร็งมี 4 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 – 4 ซึ่งทั้ง 4 ระยะ อาจแบ่งย่อยได้อีกเป็นอีกเป็น เอ (A) บี (B) หรือ ซี (C) หรือ เป็น (1) หรือ (2) เพื่อแพทย์โรคมะเร็งใช้ช่วยประเมินการรักษา ส่วนโรคมะเร็งระยะศูนย์ (0) ยังไม่จัดเป็นโรคมะเร็งอย่างแท้จริง เพราะเซลล์เพียงมีลักษณะเป็นมะเร็ง แต่ยังไม่มีการรุกราน (Invasive) เข้าเนื้อเยื่อข้างเคียง

  • ระยะที่ 1 : ก้อนเนื้อ/ แผลมะเร็งมีขนาดเล็ก ยังไม่ลุกลาม
  • ระยะที่ 2 : ก้อน/ แผลมะเร็งขนาดใหญ่ขึ้น เริ่มลุกลามภายในเนื้อเยื่อ/ อวัยวะ
  • ระยะที่ 3 : ก้อน/ แผลมะเร็งขนาดใหญ่ขึ้น เริ่มลุกลามเข้าเนื้อเยื่อ/ อวัยวะข้างเคียง และลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้เนื้อเยื่อ/ อวัยวะที่เป็นมะเร็ง
  • ระยะที่ 4 : ก้อน/ แผลมะเร็งขนาดโตมาก และ/ หรือลุกลามเข้าเนื้อเยื่อ/ อวัยวะข้างเคียง จนทะลุ และ/ หรือเข้าต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้ก้อนมะเร็ง โดยพบต่อมน้ำเหลืองโตคลำได้ และ/ หรือมีหลากหลายต่อม และ/ หรือ แพร่กระจายเข้ากระแสโลหิต และ/ หรือ หลอดน้ำเหลือ / กระแสน้ำเหลือง ไปยังเนื้อเยื่อ/ อวัยวะที่อยู่ไกลออกไป เช่น ปอด ตับ สมอง กระดูก ไขกระดูก ต่อมหมวกไต ต่อมน้ำเหลืองในช่องท้อง ในช่องอก และ/ หรือต่อมน้ำเหลืองเหนือกระดูกไหปลาร้า

การปล กกล วยน าว าปากช อง50 ม หน อไหม pantip

รักษามะเร็ง

การตรวจพบโรคมะเร็งได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรกย่อมเป็นผลดีต่อการรักษา ซึ่งวิธีการรักษามีดังต่อไปนี้

  1. การผ่าตัด การเอาก้อนที่เป็นมะเร็งออกไป
  2. รังสีรักษา การให้รังสีกำลังสูงเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง
  3. เคมีบำบัด การให้ยา (สารเคมี) เพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง
  4. ฮอร์โมนบำบัด การใช้ฮอร์โมนเพื่อยุติการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
  5. การรักษาแบบผสมผสาน การรักษาร่วมกันหลายวิธีดังกล่าวข้างต้น แต่จะใช้วิธีใดนั้นขึ้นอยู่กับระยะและความรุนแรงของโรค

การรักษาโรคมะเร็งอาจเป็นวิธีใดวิธีเดียวหรือหลายวิธีร่วมกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ

  • ระยะโรค
  • ชนิดของเซลล์มะเร็ง
  • เป็นมะเร็งของเนื้อเยื่อ/ อวัยวะใด
  • ผ่าตัดได้หรือไม่ หลังผ่าตัดยังคงหลงเหลือก้อนมะเร็งหรือไม่
  • ผลพยาธิวิทยาชิ้นเนื้อหลังผ่าตัดเป็นอย่างไร
  • อายุ
  • สุขภาพผู้ป่วย

โรคมะเร็งเป็นโรคที่รักษาหายได้ แต่ทั้งนี้โอกาสรักษาหายขึ้นอยู่กับ

  • ระยะโรค
  • ชนิดเซลล์มะเร็ง
  • ผ่าตัดได้หรือไม่ ถ้าผ่าตัดได้สามารถผ่าตัดก้อนมะเร็งออกได้ทั้งหมดหรือไม่
  • มะเร็งเป็นชนิดดื้อต่อรังสีรักษา และ/ หรือ ยาเคมีบำบัด และ/ หรือ ยารักษาตรงเป้าหรือไม่
  • อายุ
  • สุขภาพผู้ป่วย

ในภาพรวมโดยประมาณ อัตราอยู่รอดที่ 5 ปี (โอกาสรักษามะเร็งได้หาย) ภายหลังการรักษาโรคมะเร็ง คือ

โรคระยะ % โรคระยะ 0 90 – 95 % โรคระยะที่ 1 70 – 90 % โรคระยะที่ 2 70 – 80 % โรคระยะที่ 3 20 – 60 % โรคระยะที่ 4 0 – 15 %

ทางเลือกอื่น (Alternatives)

เนื่องจากโรคมะเร็งส่วนใหญ่ยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริง แต่มะเร็งบางตำแหน่งสามารถทราบสาเหตุนำหรือสาเหตุร่วม ซึ่งอาจหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้นทุกคนควรจะต้องตรวจ สำรวจร่างกายของตนเองอย่างสม่ำเสมอ หรือถ้าพบอาการผิดปกติก็ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที


ตรวจคัดกรองโรคมะเร็ง

การตรวจคัดกรองโรคมะเร็ง คือ การตรวจให้พบโรคมะเร็งตั้งแต่ระยะยังไม่มีอาการ (มักเป็นมะเร็งในระยะ 0 หรือระยะ 1) ทั้งนี้เพราะโรคมะเร็งในระยะนี้มีโอกาสรักษาได้หายสูงกว่าโรคมะเร็งในระยะอื่น ๆ การตรวจคัดกรองโรคมะเร็งที่มีประสิทธิภาพ คือ การตรวจที่เมื่อพบโรคแล้ว ภายหลังการรักษาผู้ป่วยจะมีอัตรารอดจากมะเร็งสูงขึ้นหรือมีอัตราเสียชีวิตจากโรคมะเร็งลดลงนั่นเอง

ปัจจุบันการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งที่มีประสิทธิภาพ คือ ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม และมะเร็งลำไส้ใหญ่

กล้วยน้ำว้าปากช่อง50สูงกี่เมตร

ลักษณะเด่นกล้วยน้ำว้าพันธุ์ปากช่อง 50 คือมีลักษณะลำต้นสูงใหญ่กว่า 3 เมตร ให้ผลผลิตสูง เครือใหญ่น้ำหนักเครือมากกว่า 30 กิโลกรัม ผลผลิตที่ได้มากกว่า 10 หวีต่อเครือ จำนวนผลประมาณ 18.5 ผลต่อหวี ไส้ผลสีเหลือง เนื้อแน่น

กล้วยมะลิอ่องกับปากช่อง50ต่างกันยังไง

ในเรื่องของผลผลิตถือว่าต่างกันมาก ใน 1. เครือมะลิอ่องให้ผลผลิตเพียงแค่ 7-10 หวี ในขณะที่ น้ำว้าปากช่อง50 ให้ผลิผลิต 10-15 หวี/ เครือ ทำให้กล้วยน้ำว้ามะลิอ่องหาทานยากกว่ามาก

กล้วยน้ำว้าปากช่อง 50 ดี ไหม

กล้วยน้ำว้าปากช่อง 50 ตอบโจทย์ความต้องการตลาดได้อย่างดีเยี่ยม เพราะมีเครือขนาดใหญ่ น้ำหนักเครือมากกว่า 30 กิโลกรัม จำนวนหวีมากกว่า 10 หวี จำนวนผลต่อหวี ประมาณ 18 ผล ผลกล้วยใหญ่อ้วนดี น้ำหนักผลโดยเฉลี่ยประมาณ 140 กรัม ต่อผล ไส้กลางไม่แข็ง ออกสีเหลือง เนื้อแน่น ผลสุกมีความหวาน 26 องศาบริกซ์ หากปลูกดูแลดี เกษตรกรจะมีผล ...

กล้วยหอมทองชอบดินแบบไหน

การเตรียมดินปลูก : ดินที่จะปลูกกล้วยหอมทองจะร่วนซุย ควรไถด้วยผานเจ็ด 2 ครั้งหรือจะใช้รถไถเดินตามไถครั้งแรก แล้วตากหน้าดินไว้ 7-10 วัน เพื่อกำจัดวัชพืชและศัตรูพืชที่ตกค้างอยู่ในดิน หากมีวัชพืชงอกขึ้นมาหลังจากนั้นให้ไถกลบอีกครั้งเพื่อเป็นการกำจัดวัชพืช ให้ลดน้อยลง ดินตรงไหนที่เป็นแอ่งควรปรับดินให้มีความลาดเทเพื่อป้องกัน ...