นกพ ราบเกาะร ว ใช เคเบ ลไทด ม ด

เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของรัฐบาลเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับโควิด-19 ในประเทศอินโดนีเซีย โปรดดูข้อมูลสำคัญดังต่อไปนี้:

“ผู้โดยสารระหว่างประเทศที่เดินทางไปประเทศอินโดนีเซีย จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว และสามารถแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนและการทดสอบ RT-PCR ที่มีผลลบสูงสุด 48 ชม. เมื่อมาถึงประเทศอินโดนีเซีย ผู้โดยสารต้องผ่านการทดสอบ RT-PCR และกักกันตามกฏของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียดเพิ่มเติม คลิ๊ก.

ก็จะมาแนะนำสิ่งที่เป็นปัญหาโลกแตกให้เพื่อนๆได้อ่านกันอีกเช่นเคยค่ะ ปัญหานี้จะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจาก “นกพิราบบุกระเบียงคอนโด กรี๊ดดดด ขี้นก ขนนก!!” ซึ่งนอกจากที่มันจะสร้างความน่ารำคาญ และ ความสกปรกให้กับเราแล้วนั้นนะคะ อึของมันก็ยังเป็นเชื้อโรคที่ร้ายแรงมากๆเช่นเดียวกันค่ะ ซึ่งในวันนี้นะคะน้อง Genie จะพาทุกคนมารู้จักกับโรคที่เกิดจากนกพิราบกันค่ะ แต่ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักกับ “เจ้าพิราบ” กันก่อนดีกว่าค่ะ ไปเล้ยยยยย

ทำความรู้จักนกพิราบ

นกพิราบ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Columba livia ซึ่งเป็นนกที่อยู่ในตระกูลเดียวกับนกเขา(Columbidae)ค่ะ โดยนกพิราบนั้นมีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบประเทศยุโรป แอฟริกาเหนือ และทางตะวันตกของเอเชีย ก่อนที่จะเริ่มแพร่พันธุ์ไปตามพื้นที่ต่างๆเพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศนั่นเองค่ะ นกพิราบจะชอบอาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เกษตรกรรมและในเมือง โดยใช้พื้นที่ที่มีลักษณะเป็นหน้าผา หรือ ขอบหินเป็นที่วางไข่ค่ะ ส่วนมากเราจะพบนกพิราบที่มีสีเทาอ่อนเป็นส่วนใหญ่ แต่เพื่อนๆทราบไหมคะว่า นกพิราบนั้นมีมากถึง 5 สีด้วยกันได้แก่

• สีเทาฟ้าที่มีแถบดำ
• สีกระ (checker,check)
• สีโกโก้ (ash red and brown)
• สีดำ (black)
• สีขาว (white)

อีกทั้งนกพิราบนั้นยังเป็นสัญลักษณ์ของ “สันติภาพ” ในทางสากลอีกด้วยค่ะ ซึ่งจะใช้เป็นรูปนกพิราบคาบช่อมะกอกนั่นเองค่ะ

ความอันตรายของมูลนกพิราบ

เพื่อนๆหลายท่านอาจจะกำลังเผชิญหน้ากับเจ้านกพิราบ ที่ชอบบินมาเกาะตามระเบียงคอนโดบางตัวถึงกับลงหลักปักฐานสร้างรังและครอบครัวจนกลายเป็นฝูงนกพิราบขนาดใหญ่ (กะมาขออยู่แบบฟรีๆ อิอิอิ) ซึ่งนอกจากจะสร้างความน่ารำคาญแล้วนั้น ยังสร้างความสกปรกที่ก่อให้เกิดโรคติดต่อตามมาจากมูลของนกพิราบด้วยค่ะ โดยมูลของนกพิราบนั้นจะมีเชื้อราที่เรียกว่า Cryptococcus neoformans หรือ โรคคริปโตคอกโคสิส ซึ่งสามารถติดต่อได้ผ่าน “การสัมผัส” และ “การสูดดม” ค่ะ ซึ่งโรคติดต่อที่เกิดจากมูลนกพิราบนั้นยังสามารถแบ่งออกได้ดังนี้ค่ะ

1. โรคคริปโตคอกโคสิส (Cryptococcus)

โดยปกตินั้นโรคนี้จะเกิดขึ้นกับสัตว์ ซึ่งมาจากการติดเชื้อรา Cryptococcus neoformans โดยส่วนใหญ่จะพบกับสัตว์ประเภท แมว สุนัข ที่อาจจะป่วยด้วยโรคนี้ โดยส่วนมากเชื้อราประเภทนี้จะสามารถพบได้ในมูลนกพิราบ นกแก้ว นกแขกเป็นต้นค่ะ

เชื้อรา Cryptococcus neoformans เป็นโรคที่เกิดจากสัตว์ก็จริงนะคะ แต่สามารถพบได้ในมนุษย์เช่นเดียว โดยส่วนใหญ่มักจะเกิดกับผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ ซึ่งอาจเกิดจากการหายใจ สูดดมมูลนกพิราบ หรือสัตว์เลี้ยง จนอาจเกิดอาการเป็นไข้ ไอเป็นเลือด เจ็บหน้าอก เป็นต้น และผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากกว่าคนปกติถึง 1,000 เท่าเลยทีเดียวค่ะ

2. โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ

โดยทั่วไปนะคะโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจะเกิดขึ้นได้จาก เชื้อโรค เชื้อไวรัส หรือแบคทีเรียจากสิ่งแวดล้อมตามบ้านที่เราอาศัยอยู่ หรือมักจะมากับอาหารที่เราทานแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ ซึ่งเชื้อโรคเหล่านี้นะคะ เราสามารถพบได้อีกที่นึงก็คือ มูลของนกพิราบที่จะมีเชื้อราชนิด Cryptococcus นี้อยู่มากเป็นพิเศษ

ซึ่งการติดเชื้อก็มักเกิดจากที่เราอาจจะหายใจนำเอาละอองมูลนกพิราบแห้งเข้าไป หรืออาจจะมีโอกาสไปสัมผัสตัวนก หรือ มูลนกพิราบแล้วอาจจะไม่ได้ล้างมือแล้วเผลอไปหยิบอาหารรับประทาน ซึ่งตัวเชื้อรานี้สามารถติดเชื้อผ่านระบบทางเดินอาหารได้เช่นเดียวกันค่ะ

ตามข้อมูลที่น้อง Genie ได้ค้นคว้าจาก ศูนย์ข้อมูลโรคติดเชื้อและพาหะนำโรค พบว่าปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบทั้งในเด็กและผู้ใหญ่นั้นมาจากเชื้อรา Cryptococcus neoformans ที่อยู่ในมูลนกพิราบสูงถึง 9.09% เลยค่ะ

3. โรคปอดอักเสบ

โรคนี้เกิดจากเชื้อราชนิดเดียวกันค่ะ ซึ่งหากเราสูดดมเอาละอองของมูลนกพิราบแห้งเข้าไปในปอดนั้น ก็อาจจะทำให้เกิดอาการปอดอักเสบได้เช่นเดียวกัน โดยจะเริ่มจากที่ปอดติดเชื้อ และลามไปยังส่วนอื่นๆของร่างกาย อาจจะมีไข้ หน้ามืด วิงเวียน ที่ร้ายแรงที่สุดอาจจะติดเชื้อในกระแสเลือดและเสียชีวิตในที่สุดนั่นเองค่ะ

เห็นไหมคะว่าโทษของนกพิราบช่างร้ายแรงกับเราเป็นอย่างมากเลย เพราะฉะนั้นเราไม่ควรที่จะเข้าไปใกล้นกพิราบ ไม่ว่าจะเป็นตามที่สวนสาธารณะ หรือ หากมีนกพิราบมาขออาศัยอยู่ตามระเบียงก็ไม่ควรนะคะ ข้อนี้อาจจะยากหน่อยเพราะว่าเจ้านกชนิดนี้จะชอบแอบมาทำรังตามซอก ตามมุมระเบียงของเรา ซึ่งในวันนี้น้อง Genie ก็ได้นำวิธีการเล็กๆน้อยมาให้เพื่อนได้ลองทำตามเพื่อเป็นการกำจัดไม่ให้นกพิราบมาสร้างบ้านที่ริมระเบียงของเราค่ะ จะมีอะไรบ้างนั้นไปชมพร้อมๆกันเลยค่ะ

วิธีไล่นกพิราบไม่ให้มาสร้างบ้านริมระเบียงคอนโด

ปัญหาหลักๆของทุกคนที่มีบ้าน หรือ คอนโดนะคะ ส่วนใหญ่จะเกิดจากเจ้านกพิราบที่ชอบมาลงหลักปักฐานสร้างครอบครัวอยู่ตามริมระเบียง หรือหลังคาบ้าน ในวันนี้นะคะ เรารวบรวม 4 วีธีที่จะไล่เจ้านกพิราบไม่ให้มายุ่มย่ามอยู่ตามระเบียงของเราอีกต่อไปต่อค่ะ ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น ตามน้อง Genie มาดูกันเลยยยย

1. แผ่นซีดีสะท้อนแสง

การไล่นกพิราบด้วยวิธีนี้นะคะ จะช่วยไม่ให้เจ้านกพิราบนั้นมาเกาะตามระเบียงคอนโดเราอย่างแน่นอนค่ะ เพราะว่านกพิราบนั้นไม่ชอบแสงสีรุ้ง แสงสะท้อนวิบวับนั่นเองค่ะ โดยเราต้องนำแผ่นซีดีมาร้อยเชือกและนำไปแขวนที่ริมระเบียง หรือ หน้าต่างก็ได้ค่ะ แค่นี้เจ้านกพิราบก็จะไม่มากวนใจเพื่อนๆอีกต่อไปค่ะ

2. แขวนกระดิ่ง หรือ โมบาย

สำหรับการไล่นกด้วยวิธีนี้นะคะ นอกจากจะทำให้เจ้านกพิราบไม่มากวนแล้ว ยังช่วยให้เราได้ระเบียงที่สวยงามน่ามองอีกด้วยค่ะ ซึ่งเจ้านกพิราบนั้นจะไม่ชอบเสียงกรุ๊งกริ๊งจากตัวโมบาย หรือกระดิ่งค่ะ เพราะเจ้านกนั้นจะกลัว และ ตกใจจนไม่กล้ากลับมาอีกเลยค่ะ

3. เข็มขัดรัดไฟ หรือ สายเคเบิลไทร์

วิธีนี้นะคะอาจจะต้องลงทุนกันสักหน่อย แต่เพื่อความสงบสุขและความปลอดภัยรับรองค่ะว่าคุ้มแน่นอนค่ะ โดยวิธีนี้เพื่อนๆจะต้องนำเข็มขัดรัดไฟ หรือ สายเคเบิลไทร์นะคะมารัดตรงราวระเบียงบริเวณที่เจ้านกพิราบนั้นชอบมาเกาะ แต่ไม่ต้องตัดปลายแหลมที่เหลือนะคะ เพราะปลายแหลมนี้จะทำให้เจ้านกนั้นไม่สามารถมาเกาะราวระเบียงได้อีกต่อไปค่ะ

4. ลูกเหม็น

นอกจากเราจะใช้ลูกเหม็นในการกำจัดกลิ่นอับ หรือไล่แมลงได้เเล้วนั้น เพื่อนๆทราบไหมคะว่าลูกเหม็นนั้นสามารถไล่เจ้านกพิราบได้เช่นกัน เพียงเพื่อนๆนำลูกเหม็นใส่ภาชนะแล้วนำมาวางที่ริมระเบียง เท่านี้เจ้านกพิราบก็ไม่มากวนใจเพื่อนๆอีกต่อไปแล้วค่ะ แต่หากเพื่อนๆใช้วิธีนี้ เพื่อนๆต้องเปลี่ยนลูกเหม็นอย่างสม่ำเสมอเมื่อกลิ่นเริ่มจางนะคะ

เป็นไงบ้างคะกับวิธีการไล่เจ้านกพิราบไม่ให้มาก่อกวนที่ระเบียงของเรา มีแต่วิธีง่ายๆสามารถหาวัสดุอุปกรณ์ได้ตามที่บ้านเลย ซึ่งจากวิธีที่น้อง Genie กล่าวมาทั้งหมดอาจจะไล่เจ้านกพิราบออกไปอย่างถาวรไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็คงช่วยไม่ใช้เจ้านกพิราบนั้นเข้ามาใกล้บริเวณระเบียงคอนโดเราอีก ที่สำคัญนะคะ หากเพื่อนๆพบว่ามีสิ่งสกปรกที่มาจากเจ้านกพิราบไม่ว่าจะเป็น มูลนกพิราบ หรือ เศษขนนกพิราบ ให้รีบทำความสะอาดโดยเร็วนะคะ เนื่องจากที่น้อง Genie พูดไปก่อนหน้านี้แล้วว่านกพิราบนั้นอันตรายมากๆจริงๆ ซึ่งวิธีที่จะกำจัดไม่ให้มีเชื้อโรคหลงเหลืออยู่นั้นก็ง่ายมากๆค่ะ สามารถจำแนกได้ดังนี้

ในขั้นตอนทำความสะอาดนะคะ แม้จะเป็นมูลนกแห้งเราก็ต้องระมัดระวังในเรื่องของการทำความสะอาดโดยการหลีกเลี่ยงที่จะสัมผัสโดยตรง ควรสวมเสื้อผ้าที่มีความมิดชิด ได้แก่

• กางเกงขายาว
• เสื้อเชิ้ตแขนยาว
• ถุงมือกันน้ำ
• หน้ากากกรอง
• รองเท้าหุ้มปลายเท้าและรองเท้ากันน้ำ

วิธีการทำความสะอาดพื้นบริเวณระเบียงคอนโด

1. ใช้น้ำเปล่าประมาณ 2 - 3 ถังนำมาผสมกับน้ำยาฆ่าเชื้อ จะใช้เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อของยี่ห้ออะไรก็ได้นะคะ จากนั้นนำมาราดระเบียงให้ทั่ว เพื่อให้มูลนกพิราบที่แห้งนั้นอ่อนตัวและทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นค่ะ
2. เมื่อมูลนกแห้งนั้นอ่อนตัวลง ให้เพื่อนๆนำน้ำยาฆ่าเชื้อ และ น้ำยาขัดพื้นผสมกันจากนั้นทิ้งไว้ก่อนประมาณ 10 นาที แล้วจึงค่อยนำไม้ขัดพื้นมาขัดตรงบริเวณที่มีมูลนกพิราบอยู่ เมื่อเสร็จแล้วให้ราดน้ำเพื่อล้างคราบที่เราขัดออกให้หมด
3. ใช้ไม้กวาดทางมะพร้าวกวาดน้ำและเศษมูลนกพิราบที่เราทำความสะอาดไว้ จากนั้นให้นำผ้าสะอาดมาซับน้ำให้แห้งอีกครั้งเพื่อให้คราบมูลนกนั้นหมดไปค่ะ

เป็นอย่างไรบ้างคะนอกจากเราจะได้รู้ถึงที่มาที่ไปของเจ้านกพิราบแล้วนั้น ยังได้รู้ถึงความร้ายกาจของมูลนกพิราบอีกด้วยใช่ไหมคะ ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าน้อง Genie เองก็ไม่คิดเหมือนกันค่ะว่ามูลของเจ้านกพิราบเนี้ย มันมีความอันตรายซ่อนไว้มากมายเลย หากระเบียงคอนโดเพื่อนๆคนไหนยังมีนกพิราบมาสร้างครอบครัวอยู่ อย่าลืมนำวิธีของน้อง Genie ไปใช้นะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆไม่มากก็น้อยค่ะ

เพื่อนๆสามารถติดตามและให้กำลังใจน้อง Genie และทีมงานนักเขียนทุกท่านผ่านการ “กดถูกใจ” ได้ที่ Facebook :