แมวจรจัดนั้นคุ้นเคยกับคนน้อยมาก บางตัวพอเห็นคนก็หนีท่าเดียว แมวจรจัดส่วนใหญ่ก็คือแมวที่เกิดตามข้างถนนนั่นแหละ แต่ก็มีหลายตัวเหมือนกันที่เคยมีเจ้าของแล้วถูกทิ้ง ที่น่าสงสารที่สุดคือแมวหลงนี่แหละ แต่ไม่ว่าจะมีที่มายังไง แมวจรจัดที่คนส่วนใหญ่เรียกกันติดปากว่า "แมวจร" ก็มักจะมีนิสัยขี้ระแวง หวาดกลัวคน พอถึงตาจนก็จะสู้ยิบตาด้วยการกัดหรือข่วน ไม่มีหรอกที่จะกระโดดขึ้นตักมาซุกไซ้ (หมายถึงตอนเจอหน้ากันครั้งแรกน่ะ) เพราะขี้กลัวนี่แหละ เลยทำให้แมวจรฝึกให้เชื่องยากเหลือเกิน แต่ถ้าคุณตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าอยากฝึกแมวจรให้เชื่อง เราก็มีวิธีมาฝากกัน แต่ก็ต้องอาศัยทั้งเวลาและความอดทน
การฝึกให้เชื่องเป็นเรื่องที่ต้องทำหลังแมวจรย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านคุณแล้ว เพราะงั้นคุณต้องจัดการเรื่องแมวจรกลัวคนให้เรียบร้อยซะก่อน ไม่งั้นคงเอาเข้าบ้านไม่ได้แต่แรก การหมั่นให้อาหารแมวจรนี่แหละที่สร้างความสนิทสนมระหว่างกันได้ ถ้าไม่ได้เชื่อใจคุณหรือเข้าใจว่าคุณรัก อย่างน้อยแมวจรก็รู้ว่าเข้าใกล้คุณแล้วจะได้อาหารแน่นอน
- ให้อาหารแมวจรเวลาเดิมทุกวัน
แน่นอนอยู่แล้วว่าแมวจรมักพุ่งตัวหนีไปทันควันเวลาคุณเข้าใกล้ เพราะงั้นทางเดียวที่จะจับแมวจรเพื่อให้คุณเอาไปเลี้ยงในบ้านได้ คือวางกับดักที่ปลอดภัยสำหรับแมว แบบนี้คุณเองก็ปลอดภัยด้วย กรงดักแมวแบบนี้ถูกออกแบบมาให้ประตูปิดตามหลังทันทีที่แมวก้าวเข้าไปเหยียบแผ่นเหล็กด้านในสุดของกรง
- วิธีล่อแมวเข้ากรงดัก ก็คือเอาอาหารที่แมวชอบชิ้นไม่ต้องใหญ่มากไปวางไว้ที่ด้านในสุดของกรง
- แมวอาจมีตกใจบ้างเวลาเหยียบแผ่นเหล็กแล้วประตูกรงปิดเสียงดัง แต่รับรองได้เลยว่าแมวจะไม่บาดเจ็บหรือเป็นอันตรายแน่นอน
- กรงดักแมวเดี๋ยวนี้มีขายเยอะแยะในเน็ต หรือจะลองติดต่อกู้ภัยหรือศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ใกล้บ้านดูก่อนก็ได้ เผื่อเขามีกรงดักแมวให้ยืม
- ปูผ้าห่มหรือผ้าเช็ดตัวที่พื้นกรงดักให้นุ่มๆ ด้วยก็ดี
จัดห้องหับให้น้องเหมียว ให้แมวจรอยู่ในพื้นที่จำกัดก่อน จนกว่าจะเริ่มคุ้นเคยกับคุณและสภาพแวดล้อมใหม่ๆ หาห้องเล็กๆ เงียบๆ มาสักห้อง เช่น ห้องน้ำ จะได้ห่างไกลจากทั้งคนและสัตว์เลี้ยงตัวอื่น วางกระบะทราย ชามอาหาร ชามน้ำ และของเล่น 2 - 3 ชิ้นไว้ในห้องด้วย
- เช็คให้ชัวร์ว่าคุณปิดประตูหน้าต่างสนิทดีแล้ว แมวจะได้ไม่หนีไป และสำรวจห้องหารูหรือรอยแตกต่างๆ ที่แมวอาจจะมุดหนีออกไปได้เช่นกัน
- ถ้าในห้องนั้นมีชั้นวางของ ให้เอาทุกอย่างที่แมวอาจกระแทกตกลงมาออกให้หมด
- ทำมุมไว้ให้แมวได้ซ่อนตัว (เช่น หาลังกระดาษมาคว่ำ แล้วเจาะรู)
- อย่างน้อยช่วง 2 - 3 วันแรก ให้ใช้ดินปลูกต้นไม้ (ดินธรรมชาติ) แทนทรายแมวไปก่อน เพราะแมวจรจะคุ้นเคยกว่าทรายแมวที่ใช้กับกระบะทราย
- ตอนกลางคืนให้เปิดไฟดวงเล็กๆ ก็พอ อย่าเปิดไฟที่เพดานจนสว่างจ้า ห้องสลัวๆ หน่อยจะทำให้แมวจรรู้สึกปลอดภัยในที่ทางใหม่ที่ไม่คุ้นเคย
- ถ้าอยากให้แมวทำความคุ้นเคยกับกลิ่นของคน ให้เอาเสื้อผ้าเก่าๆ ของคุณ (เช่น ถุงเท้าหรือเสื้อที่ไม่ใช้แล้ว) มาใส่ไว้ในห้องที่แมวอยู่
- ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 - 3 ชั่วโมงกว่าแมวจรจะหายตื่น เริ่มสำรวจทำความคุ้นเคยกับห้องนั้น
คุณต้องพาแมวจรไปตรวจร่างกายเบื้องต้นกับคุณหมอ (เช่น ฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิ ตรวจหาโรคลูคีเมียในแมว (FeLV) กับเอดส์แมว (FIV)) ถ้าเอาแมวใส่กรงเดินทาง (กล่องเดินทางแบบมีหูหิ้วด้านบน) จะสะดวกกว่ายกไปทั้งกรงที่ใช้ดักแมว
- เปิดประตูกรงเดินทาง แล้วปูผ้าห่มกับวางขนมไว้ข้างใน แมวจะได้สบายหน่อย
- เอาผ้าคลุมทั้งกรงดักแมวและกรงเดินทางไว้ แมวจะได้รู้สึกปลอดภัย
ใช้เวลากับแมวจรได้แต่อย่าเพิ่งแตะต้องสัมผัสตัว
พอแมวจรหายตื่น เริ่มคุ้นเคยกับบ้านใหม่แล้ว ให้คุณเข้าไปในห้องเพื่อสร้างความคุ้นเคยซึ่งกันและกัน คุณป้องกันการกัดหรือข่วนได้โดยใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ถุงมือ และรองเท้าทุกครั้งก่อนเข้าห้อง ถ้ากลัวจัดจะถือกระดาษลังสักแผ่นเข้าไปด้วยก็ได้ ใช้ป้องกันตัวเผื่อแมวกระโจนเข้าใส่ไง
- โผล่หน้าเข้าไปให้แมวเห็นทุกวันเวลาเดิม แมวจะได้รู้สึกเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันและเกิดความเคยชิน
- เคาะก่อนเปิดประตู แล้วเดินเข้าไปในห้องช้าๆ
- พูดกับแมวเบาๆ สงบๆ ระหว่างจัดการเรื่องต่างๆ ให้แมว (เช่น เก็บอึฉี่ในกระบะทราย เปลี่ยนน้ำและอาหารให้)
- ห้ามจ้องตาตรงๆ กับแมวจร เดี๋ยวแมวจะรู้สึกว่าถูกคุกคามได้ ให้หลบตาแล้วก้มหัวนิดๆ แทน
- พอแมวเริ่มคุ้นกับคุณ ให้นั่งเล่นอยู่กับแมวนานขึ้นเป็นชั่วโมงทุกเช้าและทุกเย็น นอกจากจะพูดคุยกับแมวแล้ว คุณจะนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ หรือทำงานในคอมไปพลางๆ ก็ได้
- ห้าม อยู่ๆ ก็ยกตัวแมวขึ้นมาอุ้มเด็ดขาด รับรองว่าคุณจะโดนกัด ข่วน หรือขู่ฟ่อใส่แน่นอน
ชวนเล่นนี่แหละ วิธีสร้างความสนิทสนมแบบหวังผล ลองหาของเล่นชิ้นไม่ต้องใหญ่มากจากร้านขายของใช้สัตว์เลี้ยงหรือตามเน็ตก็ได้ มาให้แมวเล่นตอนคุณอยู่ในห้องด้วยกัน หรือคุณจะประดิษฐ์ ‘เบ็ดตกแมว’ ขึ้นมาเองก็ได้ โดยหาเศษผ้ามาติดปลายเชือก แล้วเอาเชือกไปผูกกับไม้ยาวๆ อีกที
-เวลาเล่นเบ็ดตกแมว คุณต้องอยู่ด้วยเสมอ เพราะไม่งั้นแมวอาจเผลอกลืนเชือกหรือเศษผ้าเข้าไปจนทำให้อุดตันในลำไส้ เดี๋ยวต้องหาหมอหรือผ่าตัดขึ้นมา
จะจับต้องแมวจรทีเหมือนเสี่ยงชีวิต อยู่ๆ ก็อาจตั้งการ์ดขู่ฟ่อขึ้นมา หรือถึงขั้นกระโจนใส่คุณเพราะกลัวจัดได้ คุณต้องรู้จักสังเกตท่าทีของแมว จะได้รู้ว่าตอนนี้แมวกำลังสบายใจอยู่หรือเปล่า แล้วค่อยขยับขยายต่อไป สัญญาณบอกว่าแมวไม่พร้อมก็เช่น กระโจนใส่ ร้องเสียงดัง หรือหูลู่ซะจนแบนติดหัว
- ถ้าไม่อยากให้คุณอุ้มหรือจับตัว รับรองว่าแมวจะขู่ฟ่อแบบจัดเต็ม
- แต่ถ้าน้องแมวดูค่อนข้างผ่อนคลาย ไม่แสดงท่าทีก้าวร้าวตอนคุณอยู่ใกล้ๆ นั่นเป็นสัญญาณที่ดีว่าน่าจะจับได้ไม่มีปัญหา
แมวจรไม่เคยถูกใครสัมผัสแตะต้อง เพราะงั้นคุณต้องฝึกให้คุ้นเคยกับมือของคุณซะก่อน เริ่มจากแปะฝ่ามือลงบนพื้น รอจนแมวเข้ามาหาเอง แล้วปล่อยให้แมวเอาตัวชนหรือไถขา แขน หรือมือของคุณ
- อดใจไว้ อย่าเพิ่งลูบ ปล่อยแมวสำรวจมือหรือตัวคุณไปก่อน ให้แมวจรได้รู้ว่าคุณไม่มีพิษมีภัยอะไร
- ตอนแรกให้วางมือห่างจากตัวแมวหน่อย พอแมวเริ่มคุ้นกับมือคุณแล้ว ก็ค่อยขยับไปวางมือใกล้ๆ
- อย่าลืมว่าปล่อยให้แมวเข้าหาคุณก่อนเสมอ เพราะถ้าคุณเป็นฝ่ายเข้าหา อาจโดนแมวจู่โจมได้
วินาทีที่คุณได้ลูบนี่แหละ ที่จะชี้ชะตาว่าแมวจรไว้ใจคุณหรือยัง ตกลงยอมหรือพร้อมจู่โจม? ให้คุณวางของเล่นไว้ใกล้ๆ มือ จากนั้นก็แปะฝ่ามือลงบนพื้นอย่างเคย พอแมวเดินเข้ามาหา ดม แล้วเอาหน้าหรือตัวดันมือคุณ ก็ฉวยโอกาส ค่อยๆ ยกมือขึ้น แล้วค้างไว้ในระดับสายตาของแมว
- ยกมือค้างไว้ที่ระดับสายตาแมวแป๊บนึง แล้วเริ่มลูบได้เลย
- ระหว่างนี้จับสังเกตท่าทีของแมวให้ดี ถ้าแมวเกร็งตัว สะบัดหางกระตุกไปมา รูม่านตาขยาย และหูลู่ติดหัวเมื่อไหร่ให้หยุดลูบทันทีแล้วถอยห่างออกมา
- ครั้งแรกถึงจะดีใจแค่ไหนก็ให้ลูบนิดเดียวพอ สรุปคือให้คุณชิงเลิกลูบซะ ก่อน แมวจะเป็นฝ่ายแสดงท่าทีไม่สบอารมณ์
ถ้าแมวจรยังเป็นลูกแมว ก็ลองอุ้มได้เลย แล้วพอแมวชินมือก็ค่อยให้นั่งบนตักคุณ แต่ยังไงก็อย่าชะล่าใจ แมวจรก็กึ่งๆ เหมือนสัตว์ป่า ทางที่ดีให้ค่อยๆ ห่มตัวแมวด้วยผ้าเช็ดตัวอย่างเบามือ (ห่มถึงคอ) จะได้ไม่เสี่ยงถูกข่วนหรือกัด
- พลิกตัวลูกแมวให้หันหน้าออกจากตัวคุณ แล้วใช้มือคีบหนังที่หลังคอ (scruff) ให้มั่น จับให้ใกล้หูมากที่สุด และระวังอย่าจิกหรือบีบแน่นเกินไป
- ค่อยๆ ยกตัวลูกแมวขึ้นมาวางบนตักคุณ ถ้าลูกแมวว่าง่าย ให้ลูบและพูดคุยกับแมวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
- ถึงตามธรรมชาติแม่แมวจะคาบคอลูกแมวแบบนี้ แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่บางทีลูกแมวไม่ยอมให้คุณคีบคอ คุณต้องหัดอ่านสีหน้าท่าทางของแมว จะได้ดูออกว่าแมวชอบหรือหงุดหงิด
- ห้าม เข้าหาแมวหรือลูกแมวจากข้างหน้าเด็ดขาด
การแปรงขนนอกจากจะทำให้แมวได้คุ้นเคยกับสัมผัสของคุณแล้ว ยังทำให้แมวสบายตัวขึ้นด้วย เพราะขนสวยและผิวหนังสุขภาพดี ให้คุณแปรงขนน้องแมวด้วยแปรงขนนุ่มสำหรับแมวโดยเฉพาะ หรือจะใช้หวีเหล็กซี่ถี่สำหรับสางหาหมัดก็ได้
- ทั้ง 2 แบบที่ว่ามีขายทั่วไปตามร้านสัตว์เลี้ยงและในเน็ต
- หมัดนี่แหละตัวอันตรายของแมวจร เพราะอาจทำให้โลหิตจางรุนแรงถึงชีวิตได้ นอกจากสางขนด้วยหวีหาหมัดแล้ว คุณควรใช้ยาป้องกันหมัดโดยเฉพาะด้วย (ลองสอบถามคุณหมอดู)
ประเมินความเชื่องของแมวจร แมวจรนั้นมีทั้งแบบเปรียวมาก (ไม่คุ้นหรือไม่เคยสัมผัสคนเลย ไม่ก็เคยถูกคนทารุณ) พอเชื่อง (เคยสัมผัสคนแบบดีๆ มาบ้าง) และเชื่องมาก (แมวบ้านที่ถูกทิ้งกลายมาเป็นแมวจร แรกๆ อาจมีระแวงบ้างนิดๆ หน่อยๆ) แมวที่เปรียวมากจะเข้าหาและฝึกให้เชื่องได้ยากที่สุด ส่วนแมวที่เชื่องอยู่แล้วก็แค่ต้องทำความรู้จักคุ้นเคยกันก่อนเท่านั้นเอง
- แมวที่พอเชื่อง จะมองคนเป็นเหมือนแหล่งอาหาร แต่ไม่ต้องการให้คนมาแตะต้องตัว การที่ยังพอคุ้นเคยกับคนอยู่บ้าง ทำให้แมวไม่ตื่นเกินไป พอเข้าใจท่าทีของคนและสภาพแวดล้อมต่างๆ ของคน
- แมวที่พอเชื่องก็คือ ‘แมวประจำชุมชน’ ที่เราเห็นเดินไปเดินมาแถวบ้านนั่นแหละ
ถ้าคุณพอรู้ว่าแมวแก่หรือเด็ก ก็จะบอกได้คร่าวๆ ว่าแมวตัวที่ว่ายังพอฝึกให้เชื่องได้หรือเปล่า ถ้าเป็นลูกแมวอายุไม่เกิน 10 - 12 อาทิตย์นี่ฝึกได้ง่ายๆ เลย แมวแก่ที่เป็นแมวจรมาตลอดชีวิตนี่แหละที่โหดหิน คือฝึกยากมากไปจนถึงฝึกไม่ได้เลย
- ห้ามพรากลูกแมวจรไปจากแม่แมวจนกว่าจะหย่านม หรือก็คืออายุได้ประมาณ 13 อาทิตย์ เรื่องนี้สำคัญมากนะ ถ้าเป็นลูกหมา อายุประมาณ 8 อาทิตย์ก็เอามาเลี้ยงได้แล้ว แต่ลูกแมวนี่ห้ามเด็ดขาด! ถ้าคุณเอามาจากแม่แมวเร็วเกินไป จะส่งผลต่อพฤติกรรมของลูกแมวในระยะยาว รวมถึงมีปัญหาด้านพัฒนาการด้วย ผู้เชี่ยวชาญต่างก็เห็นตรงกันว่าต้องรอจนลูกแมวอายุได้ 13 อาทิตย์นี่แหละถึงจะแยกจากแม่ได้อย่างปลอดภัย
- ถ้าลูกแมวจรยังอยู่กับแม่ ให้ดักจับมาพร้อมกัน จากนั้นก็เลี้ยงไว้ในบ้านจนกว่าลูกแมวจะหย่านม สุดท้ายคือติดต่อศูนย์ช่วยเหลือสัตว์เรื่องทำหมันแม่แมว แล้วค่อยปล่อยแม่แมวกลับไปถิ่นเดิม
การฝึกแมวจรให้เชื่องนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ไม่มีอะไรรับประกันได้หรอก ว่าสุดท้ายแมวจะเชื่องสมใจคุณ นอกจากเป็นเรื่องยากแล้วยังต้องใช้เวลานาน ถ้าเป็นลูกแมวก็อาจทำได้ใน 2 - 6 อาทิตย์ แต่ถ้าเป็นแมวโตนี่อาจนานเป็นปีขึ้นไป
- การฝึกแมวให้คุ้นเคยกับบ้านของคุณและตัวคุณเอง ต้องใช้เวลาเป็นหลายชั่วโมง ต่อวัน และติดต่อกันเป็นเดือนๆ ถามตัวเองดูให้ชัวร์ก่อน ว่าคุณมีเวลา ความพร้อม และความตั้งใจขนาดนั้นไหม
- แมวจรบางทีก็มีสารพัดโรค นอกจากค่าตรวจร่างกายและฉีดวัคซีนเบื้องต้นแล้ว อาจต้องมีค่าใช้จ่ายอีกสารพัด
- คิดจะฝึกแมวจรให้เชื่อง ต้อง รับผิดชอบเลี้ยงดูในระยะยาวด้วย
- อย่าเสียใจไปถ้าฝึกแมวจรตัวใดตัวหนึ่งให้เชื่องไม่สำเร็จ เพราะแมวจรบางตัวก็ไม่เหมาะจะเลี้ยงเป็นแมวบ้านจริงๆ
- ถึงจะฝึกจนเชื่องแล้ว แต่แมวจรบางตัวก็ยังรักสันโดษ เพราะงั้นก็อย่าไปเซ้าซี้เลย รอเล่นตอนที่แมวเข้ามาหาเองดีกว่า
- แมวจรไม่เหมาะจะยกให้ใครรับเอาไปเลี้ยง เพราะจะเชื่องแต่กับคนที่ฝึกมันเท่านั้น
- เวลาเล่นกับแมว ทั้งแมวและคุณต้องอารมณ์ดีสบายใจ อย่าลืมลูบแมวอย่างนุ่มนวลเบามือเท่านั้น
- ควรหาซื้อ กรงแมว เพื่อให้เค้าอยู่เป็นที่ เป็นทาง ถ้าเราไม่มีพื้นที่ หรือห้องแบบปิดได้มิดชิด และไม่ควรขังน้องแมว ให้อยู่ในกรงแมวทั้งวัน เพราะอาจเครียดได้ ควรปล่อยเค้าออกมาเล่นข้างนอกบ้าง วันละ 1-2 ชั่วโมง
- ถ้าคุณไม่กล้าดักหรือจับตัวแมวจร ให้ปรึกษาสัตวแพทย์หรือศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ เพราะถ้าเงอะๆ งะๆ จะถูกแมวกัดหรือข่วนได้จนอาจเจ็บป่วยขึ้นมา
คำเตือน
- มองดีๆ แมวจรก็เหมือนสัตว์ป่านั่นแหละ ถ้าไม่ระวัง เข้าไปหาสุ่มสี่สุ่มห้า ก็ถูกกัดถูกข่วนได้ง่ายๆ ถ้าคุณไม่กล้าดักหรือจับตัวแมวจร ให้ปรึกษาสัตวแพทย์หรือศูนย์ช่วยเหลือสัตว์จะดีกว่า
- คุณภาพชีวิตของแมวจรถือว่าต่ำมาก ทั้งต้องเผชิญกับสภาพอากาศต่างๆ (เช่น ฝนตก ลมแรง) ติดเชื้อนู่นนี่ และอาจถูกทำร้ายจากทั้งคนและสัตว์อื่นๆ เพราะฉะนั้นเลยมีอายุขัยไม่ถึง 50% ของแมวบ้านเท่านั้น