กองทัพเรือมีพื้นที่ปฏิบัติการหลักทั้งในอ่าวไทย และทะเลอันดามัน ตามแนวเขตแดนระหว่างประเทศในทะเลความยาวกว่า 1,680 ไมล์ และตามแนวชายฝั่งความยาวกว่า 1,500 ไมล์ หน่วยต่าง ๆ ในสังกัดกองทัพเรือมีลักษณะการจัดโครงสร้างหน่วยที่คล้ายกับกองทัพเรือสหรัฐอเมริกามาก โดยเฉพาะในหน่วยกำลังรบ คือ กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ (กบร. กร.) หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ (นสร. กร.) และหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (นย.) Show
หน้าที่ ภารกิจ และบทบาท[แก้]กองทัพเรือมีหน้าที่เตรียมกำลังกองทัพเรือ การป้องกันราชอาณาจักร และดำเนินการเกี่ยวกับการใช้กำลังกองทัพเรือตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม ตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 ตลอดจนหน้าที่อื่น ๆ ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล จากหน้าที่ดังกล่าวทำให้กองทัพเรือมีภารกิจ คือ
บทบาทของกองทัพเรือในปัจจุบัน คือ
ประวัติ[แก้]กองทัพเรือมีกำเนิดควบคู่มากับการสร้างอาณาจักรไทยนับตั้งแต่กรุงสุโขทัยเป็นราชธานี กองทัพไทยในสมัยเดิมนั้นมีเพียงทหารเหล่าเดียวมิได้แบ่งแยกออกเป็นกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ อย่างเช่นในสมัยปัจจุบัน หากยาตราทัพไปทางบกก็เรียกว่า ทัพบก หากยาตราทัพไปทางเรือก็เรียกว่า ทัพเรือ การจัดระเบียบการปกครองบังคับบัญชากองทัพไทยในยามปกติยังไม่มีแบบแผนที่แน่นอน ในยามศึกสงครามได้ใช้ทหารทัพบกและทัพเรือรวม ๆ กันไป ในการยาตราทัพเพื่อทำศึกสงครามภายในอาณาจักรหรือนอกอาณาจักร ก็มีความจำเป็นต้องใช้เรือเป็นพาหนะในการลำเลียงทหารและเครื่องศัสตราวุธ เรือนอกจากจะสามารถลำเลียงเสบียงอาหารได้คราวละมาก ๆ แล้ว ยังสามารถลำเลียงอาวุธหนัก เช่น ปืนใหญ่ ไปได้สะดวกและรวดเร็วกว่าทางบกด้วย จึงนิยมยกทัพไปทางเรือจนสุดทางน้ำแล้วจึงยกทัพต่อไปทางบก กิจการทหารเรือดำเนินไปเช่นนี้จนถึงสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ พ.ศ. 2394 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กิจการทหารเรือเริ่มแบ่งออกมาชัดเจน และแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ทหารเรือวังหลวง (ทหารมะรีนสำหรับเรือรบ) ขึ้นตรงกับสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) สมุหพระกลาโหม และทหารเรือวังหน้า ขึ้นตรงกับพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยทหารเรือวังหน้ามีหน่วยขึ้นในสังกัด คือ กรมเรือกลไฟ กรมอาสาจาม และกองทะเล (บางทีเรียกว่ากองกะลาสี) ส่วนกรมอรสุมพลมีหน่วยขึ้นในสังกัด คือ กรมเรือกลไฟ กรมอาสามอญ และกรมอาสาจาม ซึ่งทหารทั้งสองหน่วยนี้เป็นอิสระจากกัน พ.ศ. 2408 ในสมัยต้นรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว การปกครองประเทศยังเป็นระบบจตุสดมภ์อยู่โดยมีกรมพระกลาโหมว่าการฝ่ายทหาร ในขณะนั้นกิจการฝ่ายทหารเรือแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ทหารเรือวังหน้า หรือทหารเรือฝ่ายพระราชวังบวร ขึ้นตรงกับกรมพระราชวังบวรสถานมงคล (กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ) และทหารเรือวังหลวง หรือกรมอรสุมพล ขึ้นตรงกับสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ และต่อมาในปี พ.ศ. 2412 ขึ้นตรงกับเจ้าพระยาสุรวงษ์ไวยวัฒน์ สมุหพระกลาโหม พ.ศ. 2415 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงปรับปรุงหน่วยทหารในกองทัพขึ้นใหม่ โดยแบ่งออกเป็น 9 หน่วย โดยในส่วนของทหารเรือวังหลวง คือ กรมทหารเรือพระที่นั่ง (เวสาตรี) และกรมอรสุมพล พ.ศ. 2428 กรมพระราชวังบวรสถานมงคลเสด็จทิวงคต ทหารเรือวังหน้าได้ถูกยุบเลิกไป จึงทำให้ทหารเรือในขณะนั้นมี 2 ส่วน คือ กรมทหารเรือพระที่นั่ง ขึ้นตรงกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ส่วนกรมอรสุมพล ขึ้นตรงกับเจ้าพระยาสุรวงษ์ไวยวัฒน์ สมุหพระกลาโหม 8 เมษายน พ.ศ. 2430 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงสถาปนาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บังคับบัญชาทั่วไปในกรมทหาร (Commander-in-chief) ตามโบราณราชประเพณี เพื่อให้เกิดการประสานงานที่มีประสิทธิภาพระหว่างหน่วยทหารต่าง ๆ พร้อมกับประกาศจัดการทหาร โดยจัดตั้งกรมยุทธนาธิการขึ้น ซึ่งเป็นการรวมกองทหารบกและกองทหารเรือเอาไว้ด้วยกัน ทั้งหมด ขึ้นตรงกับสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร แต่ในระหว่างที่ยังทรงพระเยาว์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระภาณุพันธุวงศ์วรเดช เป็นผู้แทนผู้บังคับบัญชาการทั่วไปในกรมทหาร สำหรับกองทหารเรือทรงตั้ง นายพลเรือโท พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์ เป็นเจ้าพนักงานใหญ่ผู้ช่วยบัญชาการทหารเรือ (Secretary to the Navy) มีหน้าที่ คือ ให้จัดการทั้งปวงที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายข้อบังคับทหารเรือ จำนวนผู้คนในทหารเรือ การฝึกหัดทหารเรือ เรือรบหลวง และพาหนะทางเรือ 1 เมษายน พ.ศ. 2433 ได้มีการยกเลิกประกาศจัดการทหาร พ.ศ. 2430 และได้มีการตราพระราชบัญญัติจัดการกรมยุทธนาธิการขึ้นแทน โดยให้เรียกกรมยุทธนาธิการใหม่ว่ากระทรวงยุทธนาธิการ (Ministry of War and Marine) แบ่งออกเป็น 2 กรม คือ กรมทหารบกและกรมทหารเรือ โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นายพลโท พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นปราบปรปักษ์ เป็นผู้บัญชาการทหารเรือ (Chief Staff of the Navy) และแบ่งส่วนราชการออกเป็นกรมกลาง กองบัญชีเงิน กรมคลังพัสดุทหารเรือ กองเร่งชำระ กรมคุกทหารเรือ กรมอู่ กรมช่างกล โรงพยาบาลทหารเรือ ทหารนาวิกโยธิน เรือรบหลวงและเรือพระที่นั่งประจำการ พ.ศ. 2435 ได้มีการจัดระเบียบการปกครองแผ่นดินใหม่ และยกเลิกการปกครองแบบจตุสดมภ์ กำหนดให้มีกระทรวงในราชการ โดยกระทรวงมหาดไทย มีหน้าที่ปกครองบรรดาหัวเมืองต่าง ๆ ทั่วพระราชอาณาจักร เป็นผลให้กระทรวงกลาโหม ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับการปกครองทางหัวเมือง คงมีหน้าที่เกี่ยวกับราชการทหารอย่างเดียว จึงได้โอนกรมทหารเรือมาขึ้นกับกระทรวงกลาโหม 11 ธันวาคม พ.ศ. 2453 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนฐานะกรมทหารเรือเป็นกระทรวงทหารเรือ และในวันเดียวกันนั้นก็ได้ประกาศแต่งตั้งจอมพลเรือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต เป็นเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2474 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รวมกระทรวงทหารเรือกับกระทรวงทหารบกเป็นกระทรวงเดียวกัน ภายใต้นามกระทรวงกลาโหม เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก เป็นผลทำให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบกระเทือนดังกล่าวนี้ด้วย ทำให้ฐานะทางการเงินและเศรษฐกิจของประเทศอยู่ในภาวะตกต่ำ จำเป็นต้องพิจารณาตัดทอนรายจ่ายของประเทศให้น้อยลงให้สมดุลกับรายได้ เป็นผลทำให้มีการปรับปรุงการจัดระเบียบราชการใหม่ด้วย โดยแต่งตั้งให้นายพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกร เสนาบดีกระทรวงทหารเรือเดิมเป็นเสนาบดีกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2475 มีการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองประเทศ กองทัพเรือถูกลดฐานะเป็นเพียงกรมทหารเรือเช่นเดิม กรมต่าง ๆ ของทหารเรือลดฐานะมาเป็นกองทั้งหมด เว้นแต่กรมเสนาธิการทหารเรือเท่านั้น นอกจากนั้นส่วนราชการของทหารเรือบางส่วนซึ่งได้เอาไปรวมกับฝ่ายทหารบกก็กลับมาสังกัดอยู่ในกรมทหารเรือตามเดิม 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2476 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อกรมทหารเรือเป็นกองทัพเรือ ให้เป็นการสอดคล้องกับการเรียกชื่อส่วนรวมของทหารบกว่ากองทัพบก และขึ้นตรงต่อกระทรวงกลาโหม โดยแบ่งส่วนราชการออกเป็น 4 ส่วน คือ กรมเสนาธิการทหารเรือ กองเรือรบ สถานีทหารเรือกรุงเทพ กรมอู่ทหารเรือ กรมสรรพาวุธทหารเรือ และกรมอุทกศาสตร์ พ.ศ. 2510 พ.ศ. 2519 และ พ.ศ. 2521 ได้มีการแบ่งส่วนราชการกองทัพเรือออกเป็น 25 หน่วย ตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการและกำหนดหน้าที่ส่วนราชการกองทัพเรือ กองบัญชาการทหารสูงสุด กระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2510 พ.ศ. 2519 และ พ.ศ. 2521 นอกจากนั้นเพื่อความสะดวก ทางกองทัพเรือได้จัดกลุ่มหน่วยราชการทั้ง 25 หน่วยขึ้นเป็น 5 ส่วนราชการ คือ ส่วนบัญชาการ ส่วนกำลังรบ ส่วนยุทธบริการ ส่วนการศึกษา และส่วนกิจการพิเศษ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2528 ได้มีการเพิ่มกรมการขนส่งทหารเรือขึ้นในส่วนยุทธบริการ และเปลี่ยนชื่อโรงเรียนนายทหารเรือเป็นสถาบันวิชาการทหารเรือชั้นสูง 15 เมษายน พ.ศ. 2530 จัดตั้งสำนักงานตรวจบัญชีทหารเรือเพิ่มเติม พ.ศ. 2538 ได้มีการจัดส่วนราชการใหม่ตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการและกำหนดหน้าที่ของส่วนราชการกองทัพเรือ กองบัญชาการทหารสูงสุด กระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2538 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2540 โดยแบ่งส่วนราชการออกเป็น 35 หน่วย และจัดเป็นกลุ่มส่วนราชการ 4 ส่วน คือ ส่วนบัญชาการ ส่วนกำลังรบ ส่วนยุทธบริการ และส่วนการศึกษา 1 เมษายน พ.ศ. 2552 ได้มีการจัดส่วนราชการใหม่ตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการและกำหนดหน้าที่ของส่วนราชการกองทัพเรือ กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2552. โดยแบ่งส่วนราชการออกเป็น 36 หน่วย และจัดเป็นกลุ่มส่วนราชการ 4 ส่วน คือ ส่วนบัญชาการ ส่วนกำลังรบ ส่วนยุทธบริการ และส่วนการศึกษาและวิจัย ทั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงดังนี้ คือ ในส่วนบัญชาการ ได้เปลี่ยนชื่อกรมสื่อสารทหารเรือเป็นกรมการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศทหารเรือ และสำนักงานตรวจบัญชีทหารเรือเป็นสำนักงานตรวจสอบภายในทหารเรือ รวมทั้งจัดตั้งส่วนราชการใหม่เพิ่มเติม คือ สำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์ทหารเรือ และสำนักงานพระธรรมนูญทหารเรือ ในส่วนกำลังรบ ได้ยุบกองเรือป้องกันฝั่ง และจัดตั้งส่วนราชการใหม่ คือ ทัพเรือภาคที่ 1 2 และ 3 รวมทั้งปรับลดฐานทัพเรือสงขลาและพังงาจากหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือไปเป็นหน่วยขึ้นตรงทัพเรือภาคที่ 2 และ 3 ตามลำดับ ในส่วนยุทธบริการ ได้ย้ายสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือไปอยู่ในส่วนการศึกษาและวิจัยแทน และให้กรมอุทกศาสตร์มาอยู่ในส่วนยุทธบริการ สำหรับในส่วนการศึกษาและวิจัย ได้มีการยุบสถาบันวิชาการทหารเรือชั้นสูง โครงสร้างหน่วยงาน[แก้]ส่วนบัญชาการ ส่วนกำลังรบ ส่วนยุทธบริการ ส่วนการศึกษาและวิจัย
กำลังพล[แก้]กำลังพลหลัก มีดังต่อไปนี้ คือ
ยศ (ว่าที่) ร.ต.- ร.อ. อายุไม่เกิน 45 ปี ยศ (ว่าที่) น.ต.- น.ท. อายุไม่เกิน 50 ปี ยศ (ว่าที่) น.อ. - นายพล อายุไม่เกิน 55 ปี เมื่อครบกำหนดช่วงอายุตามชั้นยศแล้ว จะปลดเป็น นายทหารสัญญาบัตรนอกราชการ และ นายทหารสัญญาบัตรพ้นราชการ ไปตามลำดับ
ยศ (ว่าที่) ร.ต.- ร.อ. อายุไม่เกิน 55 ปี ยศ (ว่าที่) น.ต.- น.ท. อายุไม่เกิน 60 ปี ยศ (ว่าที่) น.อ. - นายพล อายุไม่เกิน 65 ปี
ยศ (ว่าที่) ร.ต.- ร.อ. อายุเกิน 55 ปี ยศ (ว่าที่) น.ต.- น.ท. อายุเกิน 60 ปี ยศ (ว่าที่) น.อ. - นายพล อายุเกิน 65 ปี
ยศทหารเรือไทย[แก้]ชื่อยศ (ไทย) อักษรย่อ (ไทย) ชื่อยศ (อังกฤษ) อักษรย่อ (อังกฤษ) ชื่อยศ (ไทย) อักษรย่อ (ไทย) ชื่อยศ (อังกฤษ) อักษรย่อ (อังกฤษ) 1. ชั้นสัญญาบัตร 2. ชั้นประทวน 1.1 จอมพลเรือ - Admiral of the Fleet - 2.1 พันจ่าเอก พ.จ.อ. Chief Petty Officer First Class CPO1 1.2 พลเรือเอก พล.ร.อ. Admiral ADM 2.2 พันจ่าโท พ.จ.ท. Chief Petty Officer Second Class CPO2 1.3 พลเรือโท พล.ร.ท. Vice Admiral VADM 2.3 พันจ่าตรี พ.จ.ต. Chief Petty Officer Third Class CPO3 1.4 พลเรือตรี พล.ร.ต. Rear Admiral RADM 2.4 จ่าเอก จ.อ. Petty Officer First Class PO1 1.5 นาวาเอก (พิเศษ) น.อ. (พิเศษ) Special Captain SPEC CAPT 2.5 จ่าโท จ.ท. Petty Officer Second Class PO2 1.6 นาวาเอก น.อ. Captain CAPT 2.6 จ่าตรี จ.ต. Petty Officer Third Class PO3 1.7 นาวาโท น.ท. Commander CDR 3. ทหารกองประจำการ 1.8 นาวาตรี น.ต. Lieutenant Commander LCDR 3.1 พลทหาร พลฯ Seaman - 1.9 เรือเอก ร.อ. Lieutenant LT 4. นักเรียนทหาร 1.10 เรือโท ร.ท. Lieutenant Junior Grade LT JG 4.1 นักเรียนนายเรือ นนร. Naval Cadet - 1.11 เรือตรี ร.ต. Sub Lieutenant SUB LT 4.2 นักเรียนจ่าทหารเรือ นรจ. Naval Rating Student NRS. เหล่าทหารเรือไทย[แก้]พรรคนาวิน (นว.) General Line พรรคกลิน (กล.) Engineering Line พรรคนาวิกโยธิน (นย.) Marine Corps พรรคพิเศษ (พศ.) Staff (Special Corps) เหล่าทหารการปืน (ป.) Gunner's Mate เหล่าทหารไฟฟ้า (ฟ.) Electrician Corps เหล่าทหารราบ (ร.) Infantry เหล่าทหารสารบรรณ (สบ.) Yeoman (Administration) เหล่าทหารอาวุธใต้น้ำ (ด.) Torpedoman's Mate เหล่าทหารเครื่องกล (ย.) Engine Corps เหล่าทหารปืนใหญ่ (ป.) Artillery เหล่าทหารพลาธิการ (พธ.) Supply Corps เหล่าทหารสามัญ (ส.) Quartermaster and Coxswain เหล่าทหารช่าง (ช.) Corps of Engineer เหล่าทหารการเงิน (กง.) Finance Corps เหล่าทหารสัญญาณ (ญ.) Signal Corps เหล่าทหารสื่อสาร (สส.) Signal Corps เหล่าทหารพระธรรมนูญ (ธน.) Judge Advocate General's Corps เหล่าทหารอุทกศาสตร์ (อศ.) Hydrographic Corps เหล่าทหารช่างยุทธโยธา (ยย.) Civil Engineer เหล่าทหารขนส่ง (ขส.) Transportation Corps เหล่าทหารวิทยาศาสตร์ (วศ.) Science Corps เหล่าทหารสรรพาวุธ (สพ.) Ordnance Corps เหล่าทหารดุริยางค์ (ดย.) Band เหล่าทหารอุตุนิยมวิทยา (อ.) Meteorological Corps เหล่าทหารแพทย์ (พ.) Medical Corps เหล่าทหารสารวัตร (สห.) Military Police Corps เหล่าทหารการข่าว (ขว.) Intelligence Corps ฐานทัพ[แก้]แผนที่แสดงที่ตั้งของฐานทัพเรือไทย ที่ตั้งฐานทัพสำคัญของกองทัพเรือไทย[แก้]ในส่วนกองบัญชาการกองทัพเรือไทย มีที่ตั้งหลักอยู่ในบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และริมชายฝั่งทะเลทั้งอ่าวไทย และทะเลอันดามัน 3 แห่ง คือ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ พื้นที่ภาคตะวันออกในจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด พื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันออกในจังหวัดสงขลา และนราธิวาส และพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันตกในจังหวัดพังงา ภูเก็ต และสตูล เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของกองทัพเรือทั้งในส่วนของกองเรือยุทธการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง และหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ปฏิบัติการ ในส่วนกองบัญชาการทัพเรือภาค มีหน้าที่จัดการและควบคุมพื้นที่ทางน้ำ สั่งการปฏิบัติการใช้กำลังรบของกองทัพเรือ มีพื้นที่รับผิดชอบ 3 แห่ง คือ ทัพเรือภาคที่ 1 อ่าวไทยตอนบน ทัพเรือภาคที่ 2 อ่าวไทยตอนล่าง และทัพเรือภาคที่ 3 ทะเลอันดามัน และมีผู้บัญชาการทัพเรือภาคชั้นยศพลเรือโท ในส่วนฐานทัพเรือมี 4 แห่งตามพื้นที่เช่นกัน คือ ฐานทัพเรือกรุงเทพ สัตหีบ สงขลา และพังงา ตามลำดับ โดยฐานทัพเรือสัตหีบจะมีสถานะใหญ่กว่าอีก 3 แห่งที่เหลือ ขึ้นตรงต่อกองทัพเรือโดยตรง และมีผู้บัญชาการฐานทัพเรือชั้นยศพลเรือโท ส่วนฐานทัพเรือกรุงเทพ สงขลา และพังงา มีสถานะรองลงไป ขึ้นตรงต่อทัพเรือภาคที่ 1 2 และ 3 ตามลำดับ และมีผู้บัญชาการฐานทัพเรือชั้นยศพลเรือตรี ชื่อสถานที่ เขต/อำเภอ จังหวัด หน่วยงาน 1. พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 1.1 กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม และวังนันทอุทยาน เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร หลายหน่วย 1.2 ฐานทัพเรือกรุงเทพ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ฐานทัพเรือกรุงเทพ 1.2.1 ท่าเทียบเรือป้อมพระจุลจอมเกล้า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ฐานทัพเรือกรุงเทพ 1.2.2 หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร กิจการหอประชุมกองทัพเรือ 1.3 ท่าเทียบเรือกองเรือลำน้ำ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร กองเรือลำน้ำ กองเรือยุทธการ 1.4 กรมยุทธศึกษา ทหารเรือ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ทหารเรือ 1.5 ท่าเทียบเรือกองเรือทุ่นระเบิด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ กองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ 1.6 อู่ทหารเรือธนบุรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร กรมอู่ทหารเรือ 1.7 อู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ กรมอู่ทหารเรือ 1.8 กองพันต่อสู้อากาศยานที่ 13 (โครงการ) อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ กรมต่อสู้อากาศยานที่ 1 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง 2. พื้นที่ภาคตะวันออก 2 กองบัญชาการกองเรือยุทธการ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี กองทัพเรือ 2.1 กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ทัพเรือภาคที่ 1 2.2 ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ฐานทัพเรือสัตหีบ 2.2.1 ท่าเทียบเรือแหลมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ฐานทัพเรือสัตหีบ 2.2.2 ท่าเทียบเรือน้ำลึกจุกเสม็ด อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ-กองทัพเรือ 2.2.3 สถานีตรวจสอบและลบล้างแม่เหล็กเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ฐานทัพเรือสัตหีบ 2.3 ท่าเทียบเรือทุ่งโปรง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี กรมสรรพาวุธทหารเรือ 2.4 อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี กรมอู่ทหารเรือ 2.5 ฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด ทัพเรือภาคที่ 1 2.6 สนามบินอู่ตะเภา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ 2.7 สนามบินท่าใหม่ อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน 2.8 กองพันต่อสู้อากาศยานที่ 11 อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง กรมต่อสู้อากาศยานที่ 1 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง 2.9 กองพันต่อสู้อากาศยานที่ 12 อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี กรมต่อสู้อากาศยานที่ 1 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง 2.10 กองพันรักษาฝั่งที่ 13 อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี กรมรักษาฝั่งที่ 1 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง 2.11 ค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี กองพันทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ กรมทหารราบที่ 1 กองพลนาวิกโยธิน 2.12 ค่ายตากสิน อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 1 กองพลนาวิกโยธิน 2.13 ค่ายกรมหลวงชุมพร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 1 กองพลนาวิกโยธิน 2.14 ค่ายมหาสุรสิงหนาท อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง กองพันทหารราบที่ 7 กรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน 2.15 กองเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการ กองเรือยุทธการ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี กองเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการ 3. พื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันออก 3.1 กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ทัพเรือภาคที่ 2 3.2 ฐานทัพเรือสงขลา อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ฐานทัพเรือสงขลา 3.2.1 ท่าเทียบเรือฐานทัพเรือสงขลา อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ฐานทัพเรือสงขลา 3.2.2 สนามบินทหารเรือสงขลา อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ฐานทัพเรือสงขลา 3.3 สนามบินบ้านทอน อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน 3.4 กองพันต่อสู้อากาศยานที่ 21 (โครงการ) อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช กรมต่อสู้อากาศยานที่ 2 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง 3.5 กองพันต่อสู้อากาศยานที่ 23 (โครงการ) อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา กรมต่อสู้อากาศยานที่ 2 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง 3.6 กองพันรักษาฝั่งที่ 12 (โครงการ) อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา กรมรักษาฝั่งที่ 1 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง 3.7 ค่ายกรมหลวงสงขลานครินทร์ อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา กองพันทหารราบที่ 8 กรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน 3.8 ค่ายจุฬาภรณ์ อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส กองพันทหารราบที่ 9 รักษาพระองค์ กรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน 4. พื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันตก 4.1 กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ทัพเรือภาคที่ 3 4.2 ฐานทัพเรือพังงา อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ฐานทัพเรือพังงา 4.2.1 ท่าเทียบเรือทับละมุ อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ฐานทัพเรือพังงา 4.2.2 สถานีเรือละงู อำเภอละงู จังหวัดสตูล ฐานทัพเรือพังงา 4.3 กองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22 อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา กรมต่อสู้อากาศยานที่ 2 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง 4.4 กองพันรักษาฝั่งที่ 11 (โครงการ) อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา กรมรักษาฝั่งที่ 1 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง 5. พื้นที่อื่น ๆ 5.1 สถานีเรือเชียงแสน อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง 5.2 สถานีเรือเชียงของ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง 5.3 สถานีเรือเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง 5.4 สถานีเรือสังคม อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง 5.5 สถานีเรือหนองคาย อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง 5.6 สถานีเรือรัตนวาปี อำเภอรัตนวาปี จังหวัดหนองคาย หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง 5.7 สถานีเรือโพนพิสัย อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง 5.8 สถานีเรือบึงกาฬ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง 5.9 สถานีเรือศรีเชียงใหม่ อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง 5.10 สถานีเรือบ้านแพง อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง 5.11 สถานีเรือนครพนม อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง 5.12 สถานีเรือธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง 5.13 สถานีเรือมุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง 5.14 สถานีเรือเขมราฐ อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง 5.15 สถานีเรือโขงเจียม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง 5.16 ท่าเทียบเรือสถานีสมุทรศาสตร์หัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กรมอุทกศาสตร์ 5.17 สถานีเรือสมุย อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เรือรบในประจำการ[แก้]ชั้นเรือ รูปภาพ ประเทศต้นกำเนิด จำนวน ชื่อเรือ ปีที่เข้าประจำการ ขนาดระวางขับน้ำ รายละเอียด เรือดำน้ำ แบบ S26T จีน 0 (+1) ... 2570 ผิวน้ำ 2,660 ตัน/ขณะดำ n/a ตัน ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเจรจาแก้ไขปัญหาเครื่องยนต์ติดเรือดำน้ำ เรือบรรทุกอากาศยาน จักรีนฤเบศร สเปน 1 เรือหลวงจักรีนฤเบศร (CVH-911) 2540 11,486 ตัน นำแบบมาจากเรือปรินซีเปเดอัสตูเรียส (Principe de Asturias) ของกองทัพเรือสเปน เรือยกพลขึ้นบก แบบ 071E จีน 1 เรือหลวงช้าง (LPD-792) 2566 22,000 ตัน
อาวุธ[แก้]ชื่อ รูปภาพ ประเทศต้นกำเนิด ประเภท ขนาดกระสุน รุ่น รายละเอียด M1911 pistol สหรัฐ ไทยปืนพกกึ่งอัตโนมัติ .45 เอซีพี M16 rifle สหรัฐปืนเล็กยาวจู่โจม 5.56×45 มม. นาโต A1A2 A3 ใช้ในหน่วยนาวิกโยธิน M4 carbine สหรัฐปืนเล็กสั้นจู่โจม 5.56×45 มม. นาโต A1A3 ใช้ในหน่วยนาวิกโยธิน AR-15 สหรัฐปืนเล็กยาวจู่โจม 5.56×45 มม. นาโต ใช้ในหน่วยนาวิกโยธิน SIG Sauer SIG516 สวิตเซอร์แลนด์ปืนเล็กสั้นจู่โจม 5.56×45 มม. นาโต ใช้ในหน่วยซีลไทย Heckler & Koch G36 เยอรมนี ปืนเล็กสั้นจู่โจม 5.56×45 มม. นาโต G36CG36KV ใช้ในหน่วยนาวิกโยธิน และ หน่วยซีลไทย Norinco CQ จีน ปืนเล็กยาวจู่โจม 5.56×45 มม. นาโต CQ M-311 ใช้ในหน่วยนาวิกโยธิน Bushmaster M4-type Carbine สหรัฐปืนเล็กสั้นจู่โจม 5.56×45 มม. นาโต M4A3 SOPMOD ใช้ในหน่วยซีลไทย Heckler & Koch UMP เยอรมนี ปืนกลมือ 9×19 มม. พาราเบลลัม UMP 9 ใช้ในหน่วยซีลไทย Heckler & Koch MP5 เยอรมนี ปืนกลมือ 9×19 มม. พาราเบลลัม MP5SDMP5K ใช้ในหน่วยซีลไทย Heckler & Koch HK21 เยอรมนี ปืนกลเอนกประสงค์ 5.56×45 มม. นาโต HK23E ใช้ในหน่วยซีลไทย Heckler & Koch PSG1 เยอรมนี ปืนไรเฟิลซุ่มยิง 7.62×51 มม. นาโต MSG 90 ใช้ในหน่วยซีลไทย KAC SR-25 สหรัฐปืนไรเฟิลซุ่มยิง 7.62×51 มม. นาโต ใช้ในหน่วยซีลไทย Sago Defence Tikka สหรัฐปืนไรเฟิลซุ่มยิง .223inch/.338inch ใช้ในหน่วยนาวิกโยธิน Barrett M82 สหรัฐปืนไรเฟิลต่อต้านวัตถุ .50 บีเอ็มจี ใช้ในหน่วยซีลไทย Barrett M95 สหรัฐปืนไรเฟิลต่อต้านวัตถุ .50 บีเอ็มจี ใช้ในหน่วยซีลไทย Accuracy International AW50 สหราชอาณาจักรปืนไรเฟิลต่อต้านวัตถุ .50 บีเอ็มจี ใช้ในหน่วยซีลไทย M249 สหรัฐปืนกลเบา 5.56×45 มม. นาโต ใช้ในหน่วยนาวิกโยธิน M60 สหรัฐปืนกลเอนกประสงค์ 7.62×51 มม. นาโต ใช้ในหน่วยนาวิกโยธิน M2 Browning สหรัฐปืนกลหนัก 12.7 มม. ใช้ในหน่วยนาวิกโยธิน M203 สหรัฐเครื่องยิงลูกระเบิด 40×46 มม. เอสอาร์ ใช้ในหน่วยนาวิกโยธิน Armbrust เยอรมนี อาวุธต่อต้านรถถัง 67 มม. ใช้ในหน่วยนาวิกโยธิน M47 Dragon สหรัฐขีปนาวุธนำวิถีต่อต้านรถถัง ? ใช้ในหน่วยนาวิกโยธิน BGM-71 TOW สหรัฐขีปนาวุธนำวิถีต่อต้านรถถัง ? ใช้ในหน่วยนาวิกโยธิน M40 recoilless rifle สหรัฐปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลัง 105 มม. M40A2 ใช้ในหน่วยนาวิกโยธิน QW-1 Vanguard จีน MANPAD ? QW-18 ใช้ในหน่วยนาวิกโยธินยานพาหนะ[แก้]ชื่อ รูปภาพ ประเทศต้นกำเนิด ประเภท จำนวน รายละเอียด Humvee สหรัฐรถยนต์อเนกประสงค์ ? ใช้รุ่น M998, M1097A2, M997, M1025, M1045A2 และM966. M151 สหรัฐรถยนต์อเนกประสงค์ ? ใช้รุ่น M151A2, M151A2 mounting TOW, M718A1 และM825. Ford สหรัฐรถยนต์อเนกประสงค์ ? ใช้รุ่น Ford Ranger XL, XLS, XL+, XLT, FX4, Wildtrak และSWB. M813 สหรัฐPrime Mover ? ใช้รุ่น M54A2, M543A2. M35 2-1/2 ton cargo truck สหรัฐPrime Mover ? ใช้รุ่น M35A2, M50A2, M49A2 และM109A2. Isuzu ญี่ปุ่น ไทยPrime Mover ? ใช้รุ่น SBR, TXD 4x2, TSD 4x4, TWD 6x6, HTW, FTR 4x4. AAV-7A1 สหรัฐยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก 36 มีรุ่น: AAVP-7A1, AAVC-7A1, AAVR-7A1. ZBD-05 VN-18 จีนยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก 3 BTR-3E1 ยูเครน ไทยยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก 12 M151A2 mod ไทยรถลำเลียงพลหุ้มเกราะ ? HMV-150 Commando สหรัฐ ไทยรถหุ้มเกราะ 24 Phantom 380-X ไทยรถหุ้มเกราะ ? Panus R600 ไทยรถหุ้มเกราะ 2 (+15)ตอร์ปิโด, จรวดนำวิถี[แก้]ชื่อ รูปภาพ ประเทศต้นกำเนิด ประเภท จำนวน รายละเอียด Mark 54 MAKO Lightweight Torpedo สหรัฐตอร์ปิโดต่อต้านเรือดำน้ำ Mark 32 Surface Vessel Torpedo Tubes สหรัฐตอร์ปิโดต่อต้านเรือดำน้ำ Sting Ray torpedo สหราชอาณาจักรตอร์ปิโดต่อต้านเรือดำน้ำ เซเลเนีย แอสปิเด อิตาลี ขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ RIM-162 ESSM สหรัฐขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ Mistral ฝรั่งเศส ขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ สำหรับเครื่องยิงจรวด SADRAL บนร.ล.จักรีนฤเบศร SM-2 สหรัฐขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ AGM-84 Harpoon สหรัฐขีปนาวุธโจมตีเรือบนผิวน้ำ Exocet ฝรั่งเศส ขีปนาวุธโจมตีเรือบนผิวน้ำ C-801/CSS-N-4/Sardine จีน ขีปนาวุธโจมตีเรือบนผิวน้ำ C-802/CSS-N-8 จีน ขีปนาวุธโจมตีเรือบนผิวน้ำ C-704 จีน ขีปนาวุธโจมตีเรือบนผิวน้ำ RUM-139 VL-ASROC สหรัฐขีปนาวุธโจมตีเรือดำน้ำ ติดตั้งในร.ล.ภูมิพลอดุยเดช RBU-1200 จีน ขีปนาวุธโจมตีเรือดำน้ำ ติดตั้งบนชุดร.ล.เจ้าพระยา Mi ไทยทุ่นระเบิดซ่อนตัว Mk.6 สหรัฐทุ่นระเบิด Mk.18 สหรัฐทุ่นระเบิดอากาศยาน[แก้]ชื่อ รูป ประเทศต้นกำเนิด ประเภท จำนวน รายละเอียด Dornier Do 228 เยอรมนี เครื่องบินลาดตระเวน 7 สามารถใช้งานในโครงการฝนหลวง Fokker F.27-200/400 เนเธอร์แลนด์ เครื่องบินต่อต้านเรือผิวน้ำ 2 Mk4003 Mk200 พร้อมกับฮาร์พูน ERJ-135LR บราซิลเครื่องบินลำเลียง 2 NAX Seaplane ไทยเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล 2 Bell 212 สหรัฐเฮลิคอปเตอร์ลำเลียง 6 Sikorsky S-76B สหรัฐเฮลิคอปเตอร์ต่อต้านเรือผิวน้ำ 5 (-1) เกิดอุบัติเหตุตกไป 1 ลำ Sikorsky SH-70B Seahawkเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ 6 ประจำการอยู่บน เรือหลวงจักรีนฤเบศร Sikorsky MH-60S Knighthawkเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงและกู้ภัย 2 (+4) ประจำการอยู่บน เรือหลวงจักรีนฤเบศร AgustaWestland Super Lynx 300 สหราชอาณาจักร เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ 2 Airbus H145M เยอรมนี เครื่องบินลำเลียง 5 Cessna T337H-SP Summit Sentry สหรัฐเครื่องบินตรวจการณ์ชี้เป้า 14 Hermes 900 อิสราเอล อากาศยานไร้คนขับ 0 (+8) อยู่ระหว่างการผลิตโดยบริษัท Elbit Systems RQ-21 Blackjack สหรัฐอากาศยานไร้คนขับ 5 Camcopter S-100 ออสเตรีย อากาศยานไร้คนขับ 6ยุทโธปกรณ์ที่ปลดประจำการแล้ว[แก้]เรือรบ[แก้]ชั้น รูปภาพ ประเทศต้นกำเนิด จำนวน เรือ ระยะเวลาใช้งาน รายละเอียด เรือลาดตระเวนเบา Naresuan class(I) ราชอาณาจักรอิตาลี 2 เรือหลวงนเรศวร (ลำที่1)เรือหลวงตากสิน (ลำที่1) - ติดตั้งปืนเรือจากสวีเดน ขนาด152มม. 6กระบอก ขนาด75มม. 6กระบอก ปืนต่อสู้อากาศยาน ขนาด40มม.จากญี่ปุ่น 8กระบอก แท่นยิงตอร์ปิโด45ซม. 2แท่น 6ท่อยิง จากญี่ปุ่น เรือยังต่อไม่เสร็จ ถูกอิตาลีขอไปใช้งานในสงครามโลกครั้งที่ 2 ในชื่อ Etna และ Vesuvio เนื่องจากอิตาลีประสบปัญหาการป้องกันทางทะเล และทั้งคู่ถูกจมโดยสัมพันธมิตร ต่อมาอิตาลีได้คืนเงินค่าซื้อเรือให้กับประเทศไทย เรือป้องกันชายฝั่ง Thonburi class จักรวรรดิญี่ปุ่น 2 เรือหลวงธนบุรีเรือหลวงศรีอยุธยา 2481-2484 2481-2494 เกยฝั่งในยุทธนาวีเกาะช้าง ต่อมาถูกกู้และปลดประจำการจัดเป็นอนุสรณ์สถาน ณ โรงเรียนนายเรือจังหวัดสมุทรปราการ (เฉพาะป้อมปืนหน้าและหอบังคับการ) เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2502 จึงได้ตัดส่วนป้อมปืนเรือและหอบังคับการของเรือมาจัดตั้ง เป็นอนุสรณ์ ณ โรงเรียนนายเรือ จังหวัดสมุทรปราการ จมในกบฏแมนฮัตตัน Ratanakosin class(l) สหราชอาณาจักร2 เรือหลวงรัตนโกสินทร์ (ลำที่1)เรือหลวงสุโขทัย (ลำที่1) 2472-2512 2492-2515 ? ? เรือดำน้ำ Matchanu class จักรวรรดิญี่ปุ่น 4 เรือหลวงมัจฉาณุเรือหลวงวิรุณ เรือหลวงสินสมุทร เรือหลวงพลายชุมพล 2481-2494 2481-2494 2481-2494 2481-2494 ? ? ? ? เรือพิฆาต R-class สหราชอาณาจักร1 เรือหลวงพระร่วง 2463-2500 เดิมคือ เรือเอชเอ็มเอส เรเดียนท์ (HMS Radiant)โดยไทยซื้อต่อจากสหราชอาณาจักร และเป็นเรือรบหลวงลำแรกของกองทัพเรือไทย เรือฟริเกต Tacoma class สหรัฐ2 เรือหลวงท่าจีน ลำที่ 2 (FFG-411) 2494-2543 เดิมคือเรือ USS Glendale (PF-36) ของสหรัฐ หลังจากปลดประจำการแล้ว ได้นำไปจัดตั้งเป็นอนุสรณ์ ที่โรงเรียนเตรียมทหาร อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก เรือหลวงประแสร์ ลำที่ 2 (FFG-412) 2494-2543 เดิมคือเรือ USS Gallup (PF-47) ของสหรัฐ หลังจากปลดประจำการแล้ว ได้นำไปจัดตั้งเป็นอนุสรณ์ ที่บริเวณปากน้ำประแสร์ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง Knox class สหรัฐ2 เรือหลวงพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (FFG-461) 2540-2560 เดิมคือเรือ USS Truett (FF-1095) ของสหรัฐ เรือหลวงพุทธเลิศหล้านภาลัย (FFG-462) 2541-2560 เดิมคือเรือ USS Ouellet (FF-1077) ของสหรัฐ เรือสลุป Maeklong class จักรวรรดิญี่ปุ่น 2 เรือหลวงแม่กลองเรือหลวงท่าจีน (ลำที่1) 2480-2535 2480-2494 ปลดระวางประจำการเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2538 ปัจจุบันถูกจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ ป้อมพระจุลจอมเกล้า จังหวัดสมุทรปราการ ถูกทิ้งระเบิดจนเสียหายหนักในช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา และถูกปลดประจำการหลังสงครามจบ เรือคอร์เวต Flower class สหราชอาณาจักร2 เรือหลวงบางปะกง (ลำที่1)เรือหลวงประแสร์ (ลำที่1) 2490-2494 2490-2494 เดิมคือเรือ HMS Burnet (K348) ของสหราชอาณาจักร ใช้ใน สงครามเกาหลี เดิมคือเรือ HMS Betony (K274) ของสหราชอาณาจักร และเกยฝั่งในสงครามเกาหลี ตาปี สหรัฐ1 เรือหลวงตาปี (FF-431) 2514-2565 รัตนโกสินทร์ สหรัฐ1 เรือหลวงสุโขทัย (FS-442) (ลำที่ 2) 2530-2565 อับปาง เรือตอร์ปิโด Chonbori class(I) ราชอาณาจักรอิตาลี 9 เรือหลวงชลบุรี (ลำที่1)เรือหลวงตราด (ลำที่1) เรือหลวงสงขลา (ลำที่1) เรือหลวงภูเก็ต (ลำที่1) เรือหลวงปัตตานี (ลำที่1) เรือหลวงสุราษฎร์ธานี (ลำที่1) เรือหลวงจันทบุรี (ลำที่1) เรือหลวงระยอง (ลำที่1) เรือหลวงชุมพร (ลำที่1) 2481-2484 2480-2518 2481-2491 2480-2518 2480-2521 2481-2521 2481-2519 2481-2519 2481-2519 ถูกจมในยุทธนาวีเกาะช้าง ? ถูกจมในยุทธนาวีเกาะช้าง ? ? ? ? ? นำไปจัดตั้งเป็นอนุสรณ์ ที่บริเวณหาดทรายรี อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร Kyongyai class(I) จักรวรรดิญี่ปุ่น 3 เรือหลวงคลองใหญ่ (ลำที่1)เรือหลวงกันตัง (ลำที่1) เรือหลวงตากใบ (ลำที่1) 2480-2519 2480-2519 2480-2516 ? ? ? เรือยกพลขึ้นบก LST-542 Class สหรัฐ5 เรือหลวงอ่างทอง (ลำที่2) (LST-711)เรือหลวงช้าง (ลำที่2) (LST-712) เรือหลวงพงัน (ลำที่2) (LST-713) เรือหลวงลันตา (LST-714) เรือหลวงพระทอง (LST-715) 2490-2549 2505-2549 2515-2551 2516-2552 2518-2552 เดิมคือเรือ USS LST-924 เดิมคือเรือ USS Lincoln County (LST-898) เดิมคือเรือ USS Stark County (LST-1134) เคยร่วมสงครามเวียดนาม เดิมคือเรือ USS Stone County (LST-1141) เดิมคือเรือ USS Dodge County (LST-722) LSM-1 class สหรัฐ3 เรือหลวงกูด (LSM-731)เรือหลวงไผ่ (LSM-732) เรือหลวงคราม (LSM-733) 2489-2546 2490-2547 2505-2545 เดิมคือเรือ USS LSM-338 เดิมคือเรือ USS LSM-333 เดิมคือเรือ USS LSM-469 LCT mark 6 class สหรัฐ6 เรือหลวงมัตโพน (ลำที่1) (LCT-761)เรือหลวงราวี (ลำที่1) (LCT-762) เรือหลวงอาดัง (LCT-763) เรือหลวงเภตรา (LCT-764) เรือหลวงโกลำ (LCT-765) เรือหลวงตะลิบง (LCT-766) 2489-2551 2489-2551 2489-2551 2491-2551 2488-2551 2488-2551 เดิมคือเรือ USS LCU-8 เดิมคือเรือ USS LCU-9 เดิมคือเรือ USS LCU-10 เดิมคือเรือ USS LCU-11 เดิมคือเรือ USS LCU-12 เดิมคือเรือ USS LCU-13 LCI-351 class สหรัฐ2 เรือหลวงปราบ (LCI-741)เรือหลวงสัตกูต (LCI-742) 2493-2550 2493-2550 เดิมคือเรือ USS LCI-670 เดิมคือเรือ USS LCI-739 LCS(L)(3)-1 class สหรัฐ1 เรือหลวงนาคา (LSST-751) 2509-2550 เดิมคือเรือ USS LCS(L)(3)-102 เรือเร็วโจมตี BMB-230 อิตาลี3 เรือหลวงราชฤทธิ์ (FAC-321)เรือหลวงวิทยาคม (FAC-322) เรือหลวงอุดมเดช (FAC-323) 2522-2564 2522-2559 2523-2560 FPB-40 สิงคโปร์3 เรือหลวงปราบปรปักษ์ (FAC-311)เรือหลวงหาญหักศัตรู (FAC-312) เรือหลวงสู้ไพรินทร์ (FAC-313) 2519-2560 2519-2561 2520-2561 อากาศยาน[แก้]ชื่อ รูปภาพ ประเทศต้นกำเนิด ประเภท ระยะเวลาใช้งาน จำนวน รายละเอียด Avro 504N สหราชอาณาจักร ไทยเครื่องบินฝึกบิน 2472-2491 2 สร้างภายในประเทศ Mitsubishi A6M Zero จักรวรรดิญี่ปุ่น เครื่องบินขับไล่ 2485-2488 1 WS-103S จักรวรรดิญี่ปุ่น เครื่องบินลาดตระเวน 2478-? 6 Nakajima E8N จักรวรรดิญี่ปุ่น เครื่องบินลาดตระเวน 2481-? 45 Aichi E13A1 จักรวรรดิญี่ปุ่น เครื่องบินลาดตระเวน 2482-? 6 สั่งซื้อ 3 เครื่องในปี 1939 และ 3 เครื่องในปี 1941 Cessna O-1G สหรัฐเครื่องบินลาดตระเวน 2511-2540 8 Cessna U-17B สหรัฐเครื่องบินลาดตระเวน 2517-2540 6 Piper L-4 สหรัฐเครื่องบินลาดตระเวน 2516-? 2 C-47 Dakota สหรัฐเครื่องบินลำเลียง 2516-2540 ? Grumman HU-16D สหรัฐเครื่องบินค้นหาและช่วยเหลือ 2505-? 3 Grumman S-2 Tracker สหรัฐเครื่องบินปราบเรือดำน้ำ 2509-2542 12 Hawker Siddeley AV-8S Matador สหรัฐเครื่องบินขับไล่ (ประจำเรือ) 2542-2549 9 เคยประจำการกับร.ล.จักรีนฤเบศร ขาดอะไหล่ในการซ่อม Ling-Temco-Vought A-7E Corsair II สหรัฐเครื่องบินโจมตี 2524-2550 18 ไม่สามารถทำการบินได้ Bell UH-1H สหรัฐเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป 2518-? 4 เดิมทีเป็นฮ.ของกองทัพสาธารณรัฐเขมรที่หนีจากคอมมิวนิสจากหลังการล่มสลายของรัฐบาลลอนดอนในปีพ.ศ. 2518 Bell-214ST สหรัฐเฮลิคอปเตอร์ลำเลียง 2530-2553 6 P-3T Orion สหรัฐเครื่องบินต่อต้านเรือผิวน้ำ 2539-2557 3 N-24A ออสเตรเลียเครื่องบินลำเลียง 2527-2557 5 CL-215B แคนาดาเครื่องบินสะเทินน้ำสะเทินบก ดับเพลิงทางอากาศ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล 2521-2560 2อาวุธ[แก้]อาวุธ ประเทศต้นกำเนิด ประเภท ระยะเวลาใช้งาน จำนวน รายละเอียด Blowpipe (missile) สหราชอาณาจักรจรวดพื้น-สู่-อากาศ ? 200 Sea Cat สหราชอาณาจักรจรวดพื้น-สู่-อากาศ ? 8 Gabriel missile อิสราเอล จรวดโจมตีเรือผิวน้ำ ? ?กองเรือยุทธการ[แก้]เครื่องหมายราชการของกองเรือยุทธการเรือรบขนาดใหญ่ที่ประจำการในกองทัพเรือไทยจะต่อจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ เช่น สหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐประชาชนจีน สหราชอาณาจักร อิตาลี สิงคโปร์ สเปน หรือ เยอรมนี ในขณะที่เรือรบซึ่งมีขนาดเล็กหรือเป็นเรือที่ไม่ใช่เรือรบหลัก ส่วนใหญ่จะต่อจากอู่ภายในประเทศทั้งอู่ของเอกชนและอู่ของกรมอู่ทหารเรือเอง เช่น เรือตรวจการณ์ปราบเรือดำน้ำ เรือตรวจการณ์ปืน เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง เรือตรวจการณ์ชายฝั่ง เรือยกพลขึ้นบก เรือระบายพล เรือสนับสนุนการต่อต้านทุ่นระเบิด เรือน้ำมัน เรือน้ำ เรือลากจูง เรือสำรวจ เป็นต้น การจัดกำลังทางเรือ[แก้]กองเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ (กบฮ.)[แก้]
กองเรือดำน้ำ (กดน.)[แก้]
กองเรือฟริเกตที่ 1 (กฟก.1)[แก้]
กองเรือฟริเกตที่ 2 (กฟก.2)[แก้]
กองเรือตรวจอ่าว (กตอ.)[แก้]
กองเรือยามฝั่ง (กยฝ.)[แก้]
กองเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการ (กยพ.)[แก้]
กองเรือทุ่นระเบิด (กทบ.)[แก้]
กองเรือลำน้ำ (กลน.)[แก้]
หมวดเรือปฏิบัติการพิเศษ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ[แก้]
หมวดเรืออุทกศาสตร์ กรมอุทกศาสตร์[แก้]
กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ[แก้]
อากาศยานของกองการบินทหารเรือสร้างจากต่างประเทศทั้งหมด โดยส่วนใหญ่มาจาก สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังมีจาก สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ บราซิล และ แคนาดา ทั้งนี้อากาศยานจำนวนประมาณเกือบครึ่งหนึ่ง เป็นอากาศยานที่ได้รับการออกแบบให้สามารถปฏิบัติการจากเรือรบผิวน้ำของกองทัพเรือได้ คือ จากเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ เรือฟริเกต เรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ หรือเรือส่งกำลังบำรุงขนาดใหญ่ ส่วนที่เหลือเป็นอากาศยานที่ต้องปฏิบัติการจากสนามบินบนฝั่ง ดูรายละเอียดที่อากาศยานในประจำการของกองทัพเรือไทย
หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ (หน่วยซีล หรือ SEAL)[แก้]
หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน[แก้]
หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง[แก้]
เรือรบของกองทัพเรือไทย[แก้]ระเบียบการใช้คำนำหน้าชื่อเรือ[แก้]
ระเบียบการตั้งชื่อเรือ[แก้]พิพิธภัณฑ์เรือหลวงท่าจีน โรงเรียนเตรียมทหาร
หลักการกำหนดหมายเลขเรือ[แก้]
ระเบียบการเขียนชื่อเรือ[แก้]
ระเบียบการแบ่งชั้นเรือ[แก้]
ระเบียบการแบ่งชั้นหมู่เรือ[แก้]
หลักการแบ่งประเภทของเรือและคำย่อ[แก้]ดูเพิ่ม[แก้]
อ้างอิง[แก้]
|