🙏🙏 🙏 ไหว้พระขอพร วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือ “วัดพระธาตุ” ตั้งอยู่ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช 📌📌วัดพระธาตุ เป็นวัดเก่าแก่กว่า 400 ปี เป็นวัดโบราณศักดิ์สิทธิ์ ศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนชาวนครศรีธรรมราช และผู้มาเยือนเมืองคอนห้ามพลาดนะคะ 💥💥นอกจากได้ไหว้พระขอพรแล้วภายในวัด ยังมีร้านขายของฝากขึ้นชื่อเมืองคอน เครื่องเงิน เครื่องทองเหลือง และขนมขึ้นชื่อ ลากรอบ ลานิ่ม และอื่นให้เลือกซื้อเป็นของฝากด้วยนะคะ #วัดสวยทั่วไทย Show นอกจากองค์พระธาตุที่เราต้องไปสักการะแล้ว ที่บริเวณวัดยังมีศูนย์ขายของฝากขนาดใหญ่ ให้ได้จับจ่ายใช้สอยซื้อของฝากกันด้วยนะคะ มีตั้งแต่ของใช้ไปจนถึงของกินของฝากชื่อดังของเมืองนคร ไม่ว่าจะเป็น เครื่องทอง ขนมลาโบราณ ตุ๊กตาหนังตะลุง เป็นต้น บอกเลยว่ามาที่เดียวครบเลยจริงๆ ค่ะ ใครแวะมานครศรีธรรมราช ก็อย่าลืมมาช้อปกันที่นี่ด้วยน้า 14/12/2564 | 635 | พระบรมธาตุเจดีย์ เป็นเจดีย์สถาปัตยกรรมแบบทรงระฆังคว่ำ มีจุดเด่นที่ยอดเจดีย์ ซึ่งหุ้มด้วยทองคำแท้ จากความเชื่อเล่าสืบตอบกันมาว่าองค์พระธาตุ ประกอบด้วยทองรูปพรรณและของมีค่ามากมายจรดปลายเจดีย์ ซึ่งสิ่งของมีค่า เหล่านี้พุทธศสานิกชนนำมาถวาย แด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อให้ตน ได้พบกับนิพพาน จากคำขวัญประจำ จังหวัดเมืองประวัติศาสตร์ พระธาตุทองคำ ชื่นฉ่ำธรรมชาติ แร่ธาตุอุดม เครื่องถมสามกษัตริย์ มากวัดมากศิลป์ ครบสิ้นกุ้งปข้อความว่า พระธาตุทองคำ จึงหมายถึง ยอดเจดีย์ทองของพระบรมธาตุนั่นเอง และหากใครต้องการ ชมยอดพระธาตสีทองเหลืองอร่าม อย่างใกล้ชิด มีบริการกล้องส่องทางไกลให้ใช้บริการสนนราคาแล้ว แต่ตกลง กันว่าจะชื่นชมความงดงามนั้นนานเพียงใด ด้วยความมีชื่อเสียงและ ศักดิ์สิทธิ์ของพระบรมธาตุเจดีย์ ดึงดูดให้ผู้คน จากทั่วสารทิศแวะมากราบไหว้ขอพร พิธีปฏิบัติอีกอย่างหนึ่ง คือ การนำผ้าขึ้นธาตุ ตามตำนานเชื่อว่า หากใครได้นำผ้าขึ้นธาตุและบนขอพรใน เรื่องใด จะขอให้หายเจ็บหายไข้ ขอให้ได้ลูก ขอเรื่องการงานการเรียน สิ่งนั้นก็จะเป็นจริงดังหวัง มีเรื่องเล่าว่า มีชายคนหนึ่งประสบอุบัติเหตุเดินไม่ได้ รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หาย สุดท้ายพ่อแม่ไม่รู้จะทำ อย่างไร จึงมาบนและนำผ้าขึ้นธาตุที่พระบรมธาตุ ขอให้ลูกชายหายจากอาการป่วยและหากหายจะให้มาบวชที่วัดพระธาตุ ในไม่ช้าชายหนุ่มคนดังกล่าว ก็หายวันหายคืน จนกลับมาเดินได้เป็นปกติในทุกปีช่วงวันมาฆและวันวิสาขบูชาจะจัดงานแห่ผ้าขึ้นธาตุซึ่งถือเป็นงาน บุญประจำปีที่มีผู้คนจากทั่วสารทิศ มาร่วมสร้างบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่นี้ความมหัศจรรย์อย่างหนึ่งขององค์พระบรมธาตุ คือ องค์พระธาตุจะไม่มีเงาทอดลงพื้นไม่ว่าแสงอาทิตย์จะส่องกระทบ ไปทางใด ซึ่งยังไม่มีใครหาคำตอบได้ว่าเป็นเพราะอะไร จากความมหัศจรรย์นี้ ท.ท.ท. จึงให้เจดีย์นี้เป็น 1 ใน unseen Thailand ของเมืองไทย นอกจากพระบรมธาตุเแล้วเจดีย์องค์เล็กที่รายล้อมรอบองค์พระธาตุมากมายเป็นสิงที่แปลกตาแก่นักท่องเที่ยวที่ได้พบเห็น เจดีย์นี้เรียกว่า องค์เจดีย์บริวาร ซึ่งมีทั้งหมด 149 องค์เจดีย์บริวาร คือ เจดีย์ที่ลูกหลานบรรพบุรุษ ได้สร้างไว้สืบต่อกัน มาเรื่อยๆเพื่อบรรจุอัฐิของญาติ ผู้ล่วงลับไปแล้วโดยอธิษฐานว่าขอ ให้ญาติของตนได้มาเกิดในศาสนา ของพระพุทธองค์อีกครั้งในภพหน้า นอกจากความหัศจรรย์ของพระธาตุไร้เงาแล้ว เจดีย์บริวารที่เรียงรายล้อมรอบ องค์พระบรมธาตุเป็นสิ่งมหัศจรรย์ซึ่งเราไม่ค่อยได้เห็นจากที่ใดเช่นกัน เมื่อวันที่ ๒๙ พ.ค. พ.ศ. ๒๕๖๐ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชอัญเชิญสังฆทาน ถวายแด่พระเทพวินยาภรณ์ เจอัญเชิญสังฆทาน ถวายแด่พระเทพวินยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร เนื้อหาในบทความนี้ล้าสมัย โปรดปรับปรุงข้อมูลให้เป็นไปตามเหตุการณ์ปัจจุบันหรือล่าสุด ดูหน้าอภิปรายประกอบ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ชื่อสามัญวัดพระบรมธาตุ หรือ วัดพระมหาธาตุที่ตั้งถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราชประเภทพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหารนิกายเถรวาทพระประธานพระศรีศากยมุนีศรีธรรมราชพระพุทธรูปสำคัญพระเจ้าศรีธรรมโศกราช(ปางมารวิชัย), พระเหมชาลา(ปางห้ามญาติ), พระทนทกุมาร(ปางประทานอภัย)เจ้าอาวาสพระธรรมวชิรากร (สมปอง ปญฺญาทีโป ป.ธ.๗)ความพิเศษพระอารามหลวงชั้นเอกกิจกรรมนมัสการพระบรมธาตุ โบราณสถานคู่เมืองภาคใต้ ขอพรองค์ท้าวจตุคามรามเทพ เทพารักษ์ผู้เฝ้าองค์พระมหาธาตุ ส่วนหนึ่งของสารานุกรมพระพุทธศาสนาวัดพระบรมธาตุวรมหาวิหาร หรือ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ ถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ประวัติของวัดพระธาตุ[แก้]
กรมศิลปากร ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารเป็นโบราณสถาน ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 53 ตอนที่ 34 วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2479 และคณะกรรมการมรดกโลก มีมติในการประชุมคณะกรรมการสมัยที่ 37 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 รับรองวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารเข้าสู่บัญชีเบื้องต้นก่อนเสนอขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกโลก สถานที่สำคัญ[แก้]เจ้าชายทนทกุมาร และพระนางเหมชาลา ชาวศรีลังกา ขณะทรงอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว ภาพประดับพระวิสูตรมณทปพระเขี้ยวแก้ว วัดพระเขี้ยวแก้ว ประเทศศรีลังกา
ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ[แก้]ขบวนแห่ผ้าขึ้นห่มพระบรมธาตุเจดีย์ประเพณีผ้าขึ้นธาตุ หมายถึง การนำผ้าผืนยาวขึ้นไปห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ในวันสำคัญทางศาสนา ชาวนครได้ร่วมมือร่วมใจกันบริจาคเงินตามกำลังศรัทธานำเงินที่ได้ไปซื้อผ้ามาเย็บต่อกันเป็นแถวยาวนับพันหลา แล้วจัดเป็นขบวนแห่ผ้าขึ้นห่มพระบรมธาตุเจดีย์ ผ้าที่ขึ้นไปห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์เรียกว่า “ผ้าพระบฎ” (หรือ พระบต) นิยมใช้สีขาว สีเหลือง สีแดง สำหรับผ้าสีขาวนิยมเขียนภาพเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธประวัติตั้งแต่ประสูติ เสด็จออกบรรพชา ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุเป็นเอกลักษณ์ประจำเมืองนครศรีธรรมราช แก่นแท้อยู่ที่การบูชาพระพุทธเจ้าอย่างใกล้ชิด โดยใช้องค์พระบรมธาตุเจดีย์เป็นตัวแทน ตามตำนานประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุมีว่า ในสมัยที่พระเจ้าสามพี่น้อง คือ พระเจ้าศรีธรรมโศกราช พระเจ้าจันทรภาณุ และพระเจ้าพงษาสุระ กำลังดำเนินการสมโภชพระบรมธาตุอยู่นั้น คลื่นได้ซัดผ้าแถบยาวชิ้นหนึ่ง ซึ่งมีลายเขียนเรื่องราวพุทธประวัติ (เรียกว่า พระบฎ หรือ พระบต) ขึ้นที่ชายหาดปากพนัง จึงนำผ้าผืนนั้นไปถวายพระเจ้าศรีธรรมโศกราช พระองค์จึงรับสั่งให้ซักจนสะอาด แต่ลายเขียนพุทธประวัติก็ไม่ลบเลือนยังคงสมบูรณ์ดีทุกประการ จึงรับสั่งให้ประกาศหาเจ้าของ ได้ความว่าชาวพุทธกลุ่มหนึ่ง จะเดินทางไปลังกา เพื่อนำพระบฎไปถวายเป็นพุทธบูชาพระทันตธาตุ คือ พระเขี้ยวแก้ว แต่เรือถูกมรสุมซัดแตกที่ชายฝั่งเมืองนครมีรอดชีวิต 10 คน ส่วนพระบฏถูกคลื่นซัดขึ้นฝั่งปากพนัง พระเจ้าศรีธรรมโศกราชทรงพิจารณาเห็นว่าควรจะนำขึ้นไปห่มพระบรมธาตุเจดีย์เนื่องในโอกาสสมโภชพระบรมธาตุ เจ้าของพระบฎที่รอดชีวิตก็ยินดีด้วย จึงโปรดให้ชาวเมืองนครจัดเครื่องประโคมแห่แหนผ้าห่มโอบฐานพระบรมธาตุเจดีย์ จึงเป็นประเพณีประจำเมืองนครสืบมาจนทุกวันนี้ ลำดับเจ้าอาวาส[แก้]ลำดับเจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุ มีดังนี้ ลำดับที่ รายนาม เริ่มวาระ สิ้นสุดวาระ 1 พระครูวินัยธรนุ่ม ? ? 2 พระครูปลัดแก้วชิน ? ? 3 พระเทพญาณเวที (ฦๅ ยติโก) พ.ศ. 2468 พ.ศ. 2469 4 พระรัตนธัชมุนี (แบน คณฺฐาภรโณ) พ.ศ. 2470 พ.ศ. 2521 5 พระธรรมรัตโนภาส (ประดับ โอภาโส) พ.ศ. 2522 พ.ศ. 2543 6 พระธรรมวชิรากร (สมปอง ปญฺญาทีโป) พ.ศ. 2544 ปัจจุบัน พิกัดแผนที่[แก้]
พิกัดภูมิศาสตร์: 8°24′40″N 99°57′58″E / 8.410985°N 99.966147°E อ้างอิง[แก้]
|