Show
ริธึ่ม เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน บางคอแหลม กรุงเทพมหานคร
ข้อมูลโครงการProject NameRHYTHM CHAROENKRUNG PAVILLIONชื่อเรียกอื่นๆ
สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการที่จอดรถจักรยาน การรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง เครื่องแสกนนิ้วมือ มีอินเตอร์เน็ตไร้สาร (Wi-Fi) ในห้องพัก ห้อง massage สวนหย่อม / พื้นที่จัดบาร์บีคิว บริการรถรับส่ง สนามเด็กเล่น / พื้นที่สำหรับเด็ก ร้านอาหารในโครงการ ทำเลใกล้เคียง
มหาวิทยาลัยโรงเรียนนานาชาติโรงเรียนห้างสรรพสินค้าซุปเปอร์มาเก็ตเขต/อำเภอย่านธุรกิจถนนโรงพยาบาลโครงการใกล้เคียงThe River เดอะ ริเวอร์ คลองสาน กรุงเทพมหานคร ห่าง 1.94 กม. โครงการ RHYTHM เจริญกรุง-พาวิลเลี่ยน ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจค่ะ สำหรับใครที่มองหาคอนโดในย่านเจริญกรุง และอยากได้คอนโดมือ1 วิวแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ในทำเลที่เดินทางไปทำงานย่านสีลม-สาทร ได้ง่าย หรือครอบครัวที่มีลูกๆ เรียนอยู่โรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury หรือโรงเรียนชื่อดังในย่านนี้ ต้องการอยู่อาศัยมากกว่า 3 คนขึ้นไป จึงตอบโจทย์ผู้ปกครองที่วางแผนอนาคตระยะยาว ช่วยประหยัดเวลาเดินทาง+คุณภาพชีวิตที่ดีของเด็กๆในระยะยาว โครงการ RHYTHM Charoenkrung Pavillion (ริทึ่ม เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน) ตั้งอยู่บนทำเลย่านเจริญกรุง ซึ่งไม่ได้เป็นแค่ย่านเมืองเก่าที่มีถนนสายแรกที่สร้างตามแบบตะวันตกเท่านั้น แต่ทำเลนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นโซนที่บริษัทห้างร้านของชาวต่างชาติฝั่งตะวันตกที่เริ่มเข้ามาทำการค้ากับประเทศไทย มีสถานที่ราชการหลายแห่ง มีจุดเชื่อมเรือจากฝั่งธนบุรีไปยังฝั่งพระนคร เต็มไปด้วยโรงแรมหรูริมแม่น้ำ และโรงเรียนชื่อดังจำนวนมาก โดยตัวโครงการตั้งอยู่เยื้องๆ กับรร.นานาชาติ Shrewsbury ใกล้ทางด่วน และย่านธุรกิจอย่างสีลม-สาทร ซึ่งต้องปรบมือให้ความสามารถของ AP ในการรวมที่ดินได้ใหญ่ถึง 4 ไร่ครึ่ง ทำให้นอกจากส่วนของคอนโด 44 ชั้นแล้ว ยังมีส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 3.5 ไร่และพื้นที่สีเขียวอีก 1 ไร่ ซึ่งถือว่าเป็นจุดขายของโครงการนี้เลยนะ โครงการ Rhythm เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน ตั้งอยู่บริเวณแยกตรอกจันทน์ ซึ่งเป็นจุดตัดของถนน 2 เส้น ทั้งถนนเจริญกรุงและถนนจันทน์ หรือถ้าใครนึกไม่ออกโครงการอยู่ใกล้ กับรร.นานาชาติ Shrewsbury ซึ่งเป็นโรงเรียนอินเตอร์ที่คนในย่านนี้รู้จักกันดี แถมย่านนี้ยังเต็มไปด้วยโรงเรียนดังๆอีกหลายแห่งด้วยนะ ซึ่งปกติเด็กในวัยเรียน ผู้ปกครองค่อนข้างเป็นห่วง ไม่อยากให้เรียนไกลบ้าน เพื่อความปลอดภัย และความสะดวกในการเดินทางของเด็กๆ โครงการจึงออกแบบห้องขนาดใหญ่ถึง 40% เพื่อตอบสนองให้ครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่อยู่ได้ค่ะ บริเวณรอบๆ โครงการส่วนใหญ่เป็นแหล่งชุมชนที่อยู่อาศัยดั้งเดิม มีคนเก่าแก่ในพื้นที่อยู่เยอะพอสมควร จึงเป็นทำเลที่ค่อนข้างมีความอุดมสมบูรณ์ มีร้านค้าร้านอาหารเก่าแก่อยู่ไม่ไกลสามารถเดินออกมาหาของกินได้เลย ในส่วนของสถานศึกษานอกจาก Shrewsbury ที่ใกล้โครงการสุดๆ แล้ว ยังมีโรงเรียนเก่าที่มีชื่อเสียงอย่าง โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน, โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีวัดวาอารามมากมาย สามารถหาซื้อของกิน ช้อปปิ้งได้อย่างตลาดแสงจันทร์ , ตลาดแก่นจันทร์, Tops Maket , Vanilla Moon ที่เป็น Community Mall ในย่านนี้ และยังใกล้กับสถานที่เที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่าง Asiatique The Riverfront อีกด้วย นอกจากนั้นก็ยังมีสถานพยาบาล สวนสาธารณะ,ลานกีฬา อยู่ในระยะไม่เกิน 3 กิโลเมตรจากโครงการ ถือว่าค่อนข้างครบครันค่ะ นอกจากนี้ยังมีไลฟ์สไตล์มอลล์ที่กำลังเตรียมจะเปิดใหม่อย่าง Cove Hill Mall ที่อยู่ตรงข้ามคอนโด ติดกับโรงเรียน Shrewsbury เลยค่ะ มีข่าวออกมาว่าจะประกอบไปด้วยร้านอาหาร โซนการศึกษา โซนส่งเสริมและดูแลสุขภาพ อีกจุดนึงที่น่าสนใจคือ หากทำงานในย่านสีลม-สาทร ก็สามารถเดินทางไปทำงานได้สะดวก ไม่ต้องขับข้ามสะพานตากสิน ที่มีปริมาณรถหนาแน่นในช่วงเร่งด่วน ซึ่งย่านสีลม-สาทรนั้นก็เต็มไปด้วยอาคารสำนักงานต่างๆ มากมายเช่น Chartered Square, TPIPL, JTC, Sathorn Square, Empire Tower, สาทรธานี คอมเพล็กซ์ และ Bangkok City Tower เป็นตัวเลือกหนึ่งของคนที่ทำงานในย่านเหล่านี้เพราะปัจจุบันคอนโดในย่านสีลมและสาทรแท้ๆ เองก็มีราคาสูงมากจนหยิบจับได้ค่อนข้างยากค่ะ เนื่องจากโครงการ Rhythm เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน ตั้งอยู่ใกล้แยกตรอกจันทน์ จึงสามารถเดินทางได้สะดวกทั้งถนนจันทน์และถนนเจริญกรุงเลยค่ะ การเดินทางโดยใช้รถถือว่าสะดวกดีเพราะถนนจันทน์เป็นถนนที่เชื่อมต่อไปยังถนนหลักได้หลายทาง สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนเจริญราษฎร์ เพื่อขึ้นเหนือไปถนนสาทร หรือลงใต้ไปยังถนนพระราม 3 ได้ หรือถ้าวิ่งตามถนนจันทน์ไปเรื่อยๆก็จะเชื่อมกับถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ทางตะวันตกเชื่อมกับถนนเจริญกรุง สามารถวิ่งต่อไปยังวงเวียนใหญ่ได้ค่ะ และสำหรับใครที่เร่งรีบทำเลนี้ก็มีทางพิเศษศรีรัชให้ใช้ในระยะ 1-2 กิโลเมตรด้วยค่ะ หากเป็นในช่วงเวลาเร่งด่วนที่ต้องการใช้งานรถสาธารณะก็ไม่มีปัญหาค่ะ เพราะโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ทั้ง 2 ฝั่ง จะออกไปเรียกรถ Taxi บนถนนจันทน์หรือถนนเจริญกรุงก็ได้ค่ะ ส่วนเรื่องของรถไฟฟ้านั้น ใกล้ที่สุดคือสถานีสะพานตากสินในระยะประมาณ 1.1 กิโลเมตร เกินระยะเดินสบาย 500 เมตรไปแล้วนะคะ จึงต้องเรียกพี่วินมอเตอร์ไซค์ หรือต่อรถไปอีกที แต่หากใครที่อยากแวะซื้อของกินก่อนเข้าคอนโด ก็แนะนำว่าลองเดินช้อปปิ้งที่ถนนเจริญกรุงดูค่ะ เพราะมีร้านอาหารหลากหลายและมีทางเท้าให้เดินได้สะดวกพอสมควร ซึ่งหากดูจากจำนวนที่จอดรถ 100% แล้ว เราคิดว่าโครงการเตรียมไว้รองรับการใช้งานของรถยนต์ส่วนตัวอยู่แล้วนะ สำหรับรถสาธารณะคงเป็นทางเลือกเสริมในกรณีที่การจราจรเป็นอัมพาตมากกว่าค่ะ สภาพแวดล้อมรอบโครงการ**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้ เรามองว่าโครงการ Rhythm เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน ได้ตำแหน่งแปลงที่ดินที่หลบหลีกการบังวิวจากอาคารอื่นๆ ได้ดีพอสมควรเลยนะคะ เพราะคงต้องยอมรับว่าวิวเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนที่เลือกอยู่คอนโด High Rise ใกล้แม่น้ำ แต่ด้วยแปลงที่ดินที่ไม่ได้อยู่ติดแม่น้ำโดยตรงก็ทำให้ยังมีอาคารที่บังวิวอยู่บ้าง เดชะบุญที่ตัวอาคารตรงกับแปลงที่ดินของโรงเรียน Shrewsbury พอดีจึงช่วยการันตีได้ระดับนึงเลยว่าจะไม่มีอาคารสูงขึ้นมาบังนะ ยกเว้นว่าจะเป็นโปรเจคของทางโรงเรียนเองค่ะ ส่วนอาคารที่อยู่ในระยะประชิดก็เป็นที่อยู่อาศัย 2-4 ชั้น เป็นบ้านเรือนบ้าง อาคารพาณิชย์บ้าง ซึ่งห้องพักของโครงการก็เริ่มต้นที่ชั้น 9 แล้ว จึงยังไม่มีอะไรให้น่ากังวล เว้นเสียแต่ว่ามีการรวมแปลงของที่ดินรอบๆ เพื่อขึ้นตึกสูง ซึ่งพอเป็นแปลงที่อยู่อาศัยยิบย่อยแล้วจะรวมยากทีเดียวค่ะ มาดูวิวในทิศต่างๆ กันนะคะ
Image 1/5 วิวทางทิศตะวันตกที่เห็นแม่น้ำแบบเต็มตา วิวทางทิศตะวันตกที่เห็นแม่น้ำแบบเต็มตา สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
รายละเอียดโครงการเกริ่นก่อนว่า…แบรนด์ Rhythm นั้นเป็นคอนโดระดับกลางค่อนไปทางบนของ AP ที่มักจะมีทำเลดี ใกล้รถไฟฟ้าแบบที่เดินได้สบายๆ แต่ที่นี่จะแตกต่างจากเดิมสักหน่อย เพราะทาง AP เลือก Rhythm มาลงในย่านเจริญกรุงที่ห่างจาก BTS สถานีสะพานตากสินมาประมาณ 1.1 กิโลเมตร โดยดึงเอาจุดขายของทำเลที่อยู่ตรงข้ามโรงเรียน Shrewsbury มาใช้ และทำที่จอดรถ 100% มาเพื่อรองรับการใช้งานรถยนต์ส่วนตัวแทนการใช้รถไฟฟ้าค่ะ เราเดาว่าสาเหตุที่เลือกแบรนด์นี้เพราะต้องการให้คอนโดนี้ทำราคาออกมาในระดับที่คนทั่วไปยังเอื้อมถึงได้ ย้อนไปเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว โครงการเปิดตัวมาในราคาประมาณ 6 ล้านบาท เฉลี่ยทั้งโครงการราวๆ 160,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งถือว่าราคาดีเมื่อเทียบกับทำเลที่รายล้อมด้วยคอนโด Luxury , โรงแรมหรูริมน้ำ และในอนาคตก็คงหาไม่ได้แล้วกับทำเลที่จะเดินถึงโรงเรียน Shrewbury ใกล้ขนาดนี้ (150 เมตร เท่านั้น) จึงต้องขอแสดงความยินดีกับผู้ที่จับจองเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ ตอนนี้คอนโดสร้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ราคาก็มีการขยับขึ้นด้วยเช่นกัน ปัจจุบันเริ่ม 7.29 ล้านบาท ซึ่งเป็นห้อง 43.5 ตร.ม. ลองหารดูราคาเฉลี่ยจะอยู่ราวๆ 167,xxx บาท/ตร.ม. เราเองคาดการณ์ว่าราคาเฉลี่ยทั้งโครงการน่าจะอยู่ราวๆ 18x,xxx บาท/ตร.ม. แม้ว่าราคาจะขยับขึ้นแล้วเราก็ยังมองว่า Rhythm ยังได้เปรียบในเรื่องทำเลที่เรียกว่าแทบจะใกล้โรงเรียนมากที่สุด (เดินได้ 150 เมตร) ซึ่งคอนโดมือหนึ่งบนทำเลที่เดินถึงโรงเรียนได้สะดวกแบบนี้จะเป็นกลุ่ม Luxury ที่ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร 3 แสนขึ้นไปเลยค่ะ ส่วนโครงการอื่นๆ อาจมีราคาต่อตางรางเมตรหยิบจับง่ายกว่านี้แต่ก็มีระยะที่ไกลจากโรงเรียนมากขึ้นไม่ได้อยู่ในระยะเดินสบายเท่านี้นะ …หลังจากที่ชมตึกเสร็จไปแล้วเรารู้สึกว่าส่วนกลางที่นี่สวยมาก สมราคาก็ว่าได้ ตามไปชมแบบจัดเต็มครบทั้งตึกกันเลย RHYTHM Charoenkrung Pavillion (ริทึ่ม เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน) เป็นคอนโด High Rise สูง 44 ชั้น จำนวน 421 ยูนิต บนที่ดินขนาดประมาณ 4 ไร่ครึ่ง แต่ก็ไม่ได้สร้างเต็มพื้นที่นะคะ ยังคงจัดพื้นที่สีเขียวกว่า 1 ไร่ และเนื่องจากทำเลที่อยู่เยื้องๆ กับโรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury เลย ทางโครงการจึงออกแบบโดยใช้แนวคิด Luxury Gated Community หรืออธิบายง่ายๆ ก็คือรั้วรอบขอบชิด คำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุด และคำนึงถึงการอยู่อาศัยร่วมกันของทุก Generations ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของทั้งเด็กและผู้ปกครอง ซึ่งรองรับทั้งกิจกรรมแบบครอบครัวและกิจกรรมที่เป็นส่วนตัว เช่น มีอาคาร Pavillion ส่วนกลาง ใช้รองรับติวเตอร์ / การทำกลุ่มของเด็กๆ การจัดปาร์ตี้ของแกงค์เพื่อน ซึ่งแยกออกจากอาคารพักอาศัยหลักอย่างเป็นสัดส่วน เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัย โครงการออกแบบโดยคำนึงถึงลูกหลานเข้ามาอยู่อาศัยด้วย ทำให้การเลือกใช้วัสดุก็พิถีพิถันขึ้นด้วยเช่นกัน อย่างการติดตั้งเครื่อง ERV ในพื้นที่ส่วนกลางภายในอาคาร เพื่อช่วยกรองอากาศและ PM 2.5 ทำให้ได้อากาศบริสุทธิ์ รวมถึงเลือกใช้พรรณไม้ที่ใช้ฟอกอากาศได้ และในพื้นที่ส่วนกลางก็เลือกใช้สีของ TOA Duraclean เกรดเดียวกับที่ใช้ในห้องผ่าตัด เพราะมีนวัตกรรมที่ช่วยกำจัดเชื้อราและแบคทีเรียค่ะ ชั้น 1 – โครงการมีประตู 2 ฝั่งคือ ทางถนนจันทน์ที่เป็นทางเข้าหลัก หากขับรถยนต์มาให้เข้าทางนี้ ส่วนประตูที่ 2 อยู่ทางถนนเจริญกรุง ซึ่งเป็นประตูสำหรับคนเดินเข้า-ออกเท่านั้น ซึ่งเป็น Value พิเศษสำหรับบุตรหลานที่เรียนอยู่ Shrewsbury เลยนะคะ เพราะแค่เดินข้ามถนนไปก็ถึงโรงเรียนแล้ว เข้ามาด้านในจะเจอกับสวนขนาดใหญ่เป็นลำดับแรก โดยโครงการจัดฟังก์ชันไว้หลากหลาย เด็กๆ น่าจะชอบ เช่น Free Climb ให้เด็กๆ ได้ยืดเส้นยืดสาย เสริมพัฒนาการกล้ามเนื้อ, Tree Deck และ Gated Courtyard ให้คุณหนูๆ ได้วิ่งเล่นกับเพื่อนๆ ซึ่งที่อยู่ติดกับ Lobby เลย ผู้ปกครองจึงนั่งสังเกตการณ์อยู่ในห้องแอร์เย็นสบายได้ สำหรับ Highlight เราคิดว่าเป็นเจ้า Pavillion เป็นโซนที่ตอบโจทย์นักเรียนมากๆ มีทั้ง Study Pavillion, Social Pavillion และ Reading Pavillion ซึ่งสาเหตุที่ Facility เน้นวัยเรียน เนื่องจากเป็นทำเลที่ใกล้โรงเรียน และมากกว่า 40% เป็นห้องขนาดใหญ่ ที่อยู่กันเป็นครอบครัว ซึ่งผู้ปกครองคงคาดหวังการใช้งานในจุดนี้ เพื่อให้ดูแลเด็กได้ง่ายขึ้นค่ะ ด้านหน้าโครงการจะมีแผงกั้นล้อเลื่อนเป็นลำดับแรก สำหรับสกรีนรถเข้าออก ถ้าแค่มาวนรถรับ-ส่งเฉยๆ ก็ไม่ต้องแลกบัตรค่ะ ความรู้สึกแรกที่เข้ามาคือมีบรรยากาศของสวน 2 ข้างทาง และถนนทรงโค้งช่วยเปลี่ยนอารมณ์จากความจอแจบนถนนจันทน์ มาสู่บรรยากาศที่ดูผ่อนคลายขึ้น บริเวณหน้าอาคารจะมีที่จอดรถ 4 คัน รองรับรถ Visitor ให้เข้าออกสะดวกและยังรองรับรถที่มีความสูงพิเศษด้วยนะคะ อาคารแรกจะเป็นอาคาร Pavillion ที่จัดเตรียมชั้น 1 และชั้นใต้ดินไว้เป็นที่จอดรถ ซึ่งจากอาคารนี้เราสามารถเดินผ่านสวนไปยังอาคารพักอาศัยได้ หรือเราจะไปจอดที่อาคารพักอาศัยเลยก็ได้ รวมสัดส่วนที่จอดรถของโครงการนี้ 100% ซึ่งในย่านนี้ก็มีโครงการให้ที่จอด 100% เช่นกัน แต่ที่จอดของ Rhythm จะเป็นแบบ Conventional ที่ต้องขับวนขึ้นตึกไปจอด ส่วนตัวมองว่าใช้งานง่ายกว่าและในชั่วโมงเร่งด่วนไม่ต้องต่อคิวรอนานค่ะ ที่จอดรถหลักๆ ของลูกบ้านจะต้องขับตามทางเข้ามาอีกหน่อยนะคะ จะเห็นทางให้เข้าไปจอดด้านในอาคารพักอาศัย ช่องจอดรถมีขนาดมาตรฐาน ได้แสงธรรมชาติรอบข้าง ในช่วงกลางวันจึงไม่จำเป็นต้องเปิดไฟเลย ช่วยประหยัดค่าส่วนกลางได้อีกด้วย จากที่จอดรถจะมีทางเข้าอาคารในแต่ละชั้นอยู่นะคะ ซึ่งต้องใช้ Face Scan เช่นเดียวกับทางเข้า Lobby ค่ะ สำหรับช่อง EV Charger ของโครงการนี้จัดมาให้ 4 ช่อง เพื่อรองรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เริ่มนิยมกันมากขึ้นเรื่อยๆ Highlight ของพื้นที่รอบๆ อาคารคือ Gated Courtyard พื้นที่สนามหญ้าบริเวณนี้มีขนาดใหญ่ราวๆ 1 ไร่และมีฟังก์ชันซ่อนไว้ในบริเวณนี้เพียบเลย เริ่มจาก Amphitheater เป็นอัฒจันทร์กลางแจ้ง เป็นฟังก์ชันที่คล้ายกับโรงเรียนเลย และไม่ใช่ว่า Rhythm โครงการอื่นจะมีฟังก์ชันนี้นะคะ เราคิดว่าเค้าทำออกมาเอาใจเด็กๆ วัยเรียน ให้มาทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ ได้ รองรับการใช้งานเป็นกลุ่มใหญ่ได้ รวมถึงมีม้าลื่นให้วิ่งเล่นออกกำลังกายกันหลังเลิกเรียนได้อีกด้วย จุดชมวิวด้านบนสุดของ Amphitheater (สูงประมาณชั้น 3) ออกแบบให้พื้นบางส่วนเป็นกระจกแบบ See Through มองเห็นพื้นด้านล่าง ดูเก๋ๆ น่าตื่นเต้นสำหรับเด็กๆ และเพื่อประโยชน์ในการเปิดรับแสงให้กับพืชพรรณที่อยู่ด้านล่างค่ะ อีกฟังก์ชันหนึ่งตรงข้าม Amphitheater ก็คือเจ้า Tree Deck Tree Deck เป็นจุดนั่งรับลม ชมวิวอีกเช่นกัน แต่ Tree Deck จะดูเหมาะกับการใช้งานของเด็กวัยรุ่นขึ้นมาหน่อย ไม่ใช่วัยปีนป่ายแล้ว หรือเป็นมุมดีๆ สำหรับผู้ปกครองที่มานั่งรอลูกๆ วิ่งเล่นได้ และยังคอยสังเกตการณ์อยู่ใกล้ๆ ได้ เพราะบนนี้จะมองเห็นทั้งสนามหญ้าและ Amphitheater นะคะ จากสวนข้างอาคารจะมีทางเดิน Cover Way ไว้กันแดดกันฝนต่อเนื่องจากสวนไปจนถึงอาคาร Pavillion และยาวไปจนถึงประตูทางออกฝั่งถนนเจริญกรุงที่แค่ข้ามถนนไปก็ถึงโรงเรียน Shrewsbury แล้วค่ะ อีกฟังก์ชันหนึ่งที่ตอบโจทย์นักเรียนมากๆ ก็คืออาคาร Pavillion ที่ทางโครงการเตรียมไว้ให้ทั้ง Study Pavillion, Social Pavillion และ Reading Pavillion รองรับทั้งการอ่านหนังสือแบบมุมส่วนตัว, การนัดติวกับอาจารย์พิเศษ และสามารถจองห้องสำหรับจัด Private Party ได้ด้วย Pavillion ทั้ง 3 จะเชื่อมต่อกันด้วยบันไดยาว อารมณ์คล้ายบริเวณหน้าหอประชุมของโรงเรียน ที่จะมีบันไดขนาดใหญ่ไว้ให้เป็นมุมถ่ายรูปหมู่ หรือนั่งคุยกันตามมุมต่างๆ ซึ่งก็จะสามารถ Take วิวสวนได้พอดีเลยค่ะ Image 1/4 Reading Pavillion Reading Pavillion เป็นห้องใช้เสียงน้อย เฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้ก็จะมีพนักพิงสูง เพื่อแบ่งเป็นโซนย่อยๆ ให้มีสมาธิอ่านหนังสือ Image 1/4 Social Pavillion Social Pavillion สำหรับผู้ปกครองใช้นั่งรอเด็กๆ เพื่อให้ลูกหลานอยู่ในสายตา และยังสามารถจองใช้งานทั้งห้อง เพื่อจัด Private Party ได้ อย่างเช่นงานวันเกิดของคุณหนูๆ ก็สามารถชวนเพื่อนๆ มาร่วมงานได้ ใกล้โรงเรียนดีด้วยค่ะ Study Pavillion เป็นห้องที่เตรียมไว้สำหรับนั่งติวหนังสือโดยเฉพาะ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถจ้างติวเตอร์ข้างนอกเข้าสอนที่ห้องนี้ได้ ไม่ต้องไปนั่งติวตามคาเฟ่ ซึ่งจะมีทั้งแบบที่เป็นโต๊ะใหญ่นั่งหลายคน และแบบโต๊ะเดี่ยวที่มีปลั๊กไฟเตรียมไว้ให้ครบทุกที่นั่ง สามารถเอา Notebook มาใช้งานได้สะดวก ด้านหลังของ Pavillion จะมีห้องน้ำแยกหญิงชายไว้บริการ บริเวณด้านข้าง Pavillion จะมีทางเดินในร่มเชื่อมต่อไปยังประตูทางออกฝั่งถนนจันทน์ค่ะ หรือถ้าเดินต่อไปจะเชื่อมไปยังประตูทางออกฝั่งถนนเจริญกรุง ซึ่งจะเดินผ่านสวนอีกจุดหนึ่งค่ะ Private Lawn & Free Climb Image 1/8 Private Lawn and Free Climb Private Lawn and Free Climb เส้นทางที่โครงการออกแบบไว้สำหรับสวนจุดนี้ เป็นทางเดินเล่นระดับที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ และมีบริเวณ Free Climb ให้เด็กๆ ใช้วิ่งเล่น ปีนป่ายได้อีกจุดหนึ่ง ซึ่งเหมาะกับการพาเด็กๆ มาออกกำลังกายในช่วงเย็นค่ะ สุดเส้นทางในสวนเป็นประตูทางออกถนนจันทน์ ซึ่งการเข้าออกจะใช้ Face Scan เพื่อความปลอดภัยนะคะ ชั้น 1 ด้านในอาคาร – โซนต้อนรับส่วนแรกจะเจอกับ Lobby ขนาดใหญ่ ที่เปิดวิวให้เห็นสวน รักษาความปลอดภัยด้วยระบบ Face Scan เข้ากับยุคโควิดที่ลดการสัมผัสให้น้อยที่สุด สำหรับลิฟต์ของโครงการมีทั้งหมด 5 ตัว แบ่งเป็นลิฟต์โดยสาร 4 ตัวและลิฟต์ Service 1 ตัว จึงมีสัดส่วนลิฟต์เพียง 105 : 1 ถือว่าไม่เยอะนักเมื่อเทียบกับคอนโดในยุคปัจจุบันค่ะ Drop-off ของที่นี่จะมีพื้นที่กว้างให้จอดรถบริเวณหน้าประตูได้ ส่วนซุ้มประตูมีความสูงกว่าชั้นอื่นๆ ให้บรรยากาศที่หรูหรา ซึ่งประตูนี้ Visitor จะสามารถผ่านเข้ามานั่งรอในอาคารได้นะคะ เข้ามาในอาคารจะเจอ Reception เป็นพื้นที่รับรองส่วนแรก ซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกับ Lobby ซึ่งเป็นโถงต้อนรับขนาดใหญ่ Lobby ส่วนกลางถูกตกแต่งด้วยโทนสีสว่าง ดูหรูหรา โดยจะจัดชุดโซฟารับแขกไว้หลายชุดมาก ใช้รับแขกได้พร้อมกันหลายครอบครัวเลยค่ะ อีกฝั่งหนึ่งของ Reception จะเป็นส่วนของ Welcome Foyer ซึ่งจะใช้ Face Scan ในการเข้าออกชั้นหนึ่งเพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน Welcome Foyer จึงเป็นพื้นที่นั่งพักคอยสำหรับลูกบ้านโดยเฉพาะ สามารถแบ่งการใช้งานกันได้ประมาณ 3-4 กลุ่มย่อยๆ และเพื่อรองรับการใช้งานของเด็กจึงมีเก้าอี้เล็กๆ ลายแกะ ลายกวาง มาเพิ่มสีสัน ซึ่งน่าจะถูกใจเด็กๆ นะคะ ตู้จดหมายและห้องนิติฯ ของที่นี่จะอยู่บริเวณทางเดินผ่านเข้าโถงลิฟต์พอดี จึงสามารถแวะรับจดหมายและพัสดุได้สะดวก Lift ของโซนพักอาศัยมีการเลือกใช้ Finishing , การตกแต่ง และ Lighting ที่ทำให้บรรยากาศดูหรูหรา ภายในลิฟต์จะมีเลขบอกชั้นชัดเจนว่ากำลังขึ้นไปชั้นไหนบ้าง ชั้น 9 – พื้นที่ส่วนกลางของชั้นนี้มีลักษณะเป็น Sky Garden โดยมีประตูกั้นแยกโซนจากห้องพักชัดเจน ความเก๋คือมุมนั่งพักจะเป็น Sunken ลงไป เพื่อลดระดับลงไม่ให้รบกวนความเป็นส่วนตัวของห้องพักอาศัยบนชั้นนี้ค่ะ โซนพักอาศัยจะวางโถงลิฟต์ไว้ช่วงกลางตึกเพื่อง่ายต่อการใช้งาน ทางเดินในแต่ละชั้นจะเป็น Double Corridor คือจะใช้โถงทางเดินในการแจกจ่ายทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งห้องที่มีจำนวนมากที่สุดคือ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus รวม 11 ห้อง และห้อง 2-3 Bedroom อีก 4 ห้อง จัดวาง Layout เป็นรูปตัว L ทำให้ทุกห้องสามารถเห็นวิวได้อย่างเต็มที่ไม่บังวิวซึ่งกันและกันแบบตรงๆ ห้องพักส่วนใหญ่จะใช้ Concept Interlocked Layout เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง และเพิ่มพื้นที่การใช้งานให้ลงตัวมากขึ้นตามแนวเส้นสีน้ำเงินที่เราร่างไว้ให้เห็นชัดๆ นะคะ ชั้น 11 – 25 เป็นชั้นพักอาศัยเต็มชั้น ซึ่งมีจำนวน 15 ยูนิตต่อชั้น สีเขียว – ตำแหน่งห้อง A1-01 เป็น 1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. ที่ได้ห้องนอนยื่นออกมาทำให้เกิดมุม Bay Window ที่มองวิวได้กว้างมากยิ่งขึ้น ส่วนห้อง A2-02 เป็นห้องที่ได้ครัวปิด เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารนะคะ ตำแหน่งห้อง B1-11 และ B2-10 เป็นห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 43.5 ตร.ม. ที่ฟังก์ชันภายในคล้ายกัน แตกต่างที่ห้องครัว ที่ชิดด้านใน และผลักออกมาด้านนอก อันนี้ก็แล้วแต่คนชอบ ส่วนตัวชอบห้องครัวที่ติดด้านนอก เพราะระบายอากาศได้ดีกว่า สีเหลือง – ตำแหน่งห้อง 1 Bedroom ที่บังคับหันไปทาง City View มองวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ในระยะไกลหน่อย เราว่าตำแหน่งนี้ชั้น 12 กำลังดีเลยเพราะสามารถเห็นยอดไม้เขียวๆ จากสวนชั้น 9 ได้นะ สีชมพู – ตำแหน่งห้องมุมทั้งหมดเป็นห้องขนาดใหญ่ตั้งแต่ 2 Bedrooms ขึ้นไป ซึ่งโครงการนี้มีห้องใหญ่ตั้งแต่ชั้นแรกเลย ทำให้มีปริมาณห้องใหญ่เยอะ ที่พิเศษสุดก็คือตำแหน่ง H1-12 กับ H2-13 ที่รับวิวแม่น้ำตรงๆ เป็น Rare Item ที่น่าสนใจค่ะ ภายในโซนพักอาศัยก็จะเป็นทางเดินตามรูปแบบของคอนโดปกติ เนื่องจากทางโถงทางเดินในแต่ละโซนค่อนข้างยาว ทำให้ต้องอาศัยแสงไฟช่วยบ้าง อีกเรื่องที่น่าสังเกตคือมีท่อระบายน้ำตามทางเดินด้วย ซึ่งดีมากเลยเพราะหากเกิดน้ำรั่วออกมาจากพัก น้ำจะสามารถระบายลงท่อได้ ไม่ท่วมห้องพักอาศัยทั้งชั้นค่ะ ชั้นที่ 26-35 คล้ายชั้น 11-25 เลยแต่มีจำนวนยูนิตน้อยลงเหลือ 12 ยูนิต เพราะมีห้องไซส์ใหญ่เพิ่มขึ้น โดยห้องพักอาศัยฝั่งทิศใต้จะลดจำนวนห้องแบบ 1 Bedroom ลง และเพิ่มห้อง 2 Bedroom ขึ้นมาอีก 2 ห้อง และห้องพักอาศัยทางทิศตะวันออกจะกลายเป็นแบบ 2 Bedroom ทั้งหมดค่ะ ขยับขึ้นมาที่ชั้น 42-44 เป็น Main Facilities ของโครงการที่ถูกยกขึ้นไปไว้ที่ 3 ชั้นบนสุด จัด Layout แบบเปิดให้เห็นวิวรอบทิศทาง ข้อดีเลยคือถึงแม้เราจะไม่ได้เห็นวิวแม่น้ำเต็มๆ จากในห้อง แต่ก็ขึ้นมาชมวิวบนพื้นที่ส่วนกลางด้านบนได้ ซึ่งถ้าเทียบกับคอนโดระดับเดียวกันในละแวกแล้วเราถือว่าได้ Facilities ค่อนข้างเยอะเลยนะคะ ชั้นที่ 42 จัดฟังก์ชันไว้สำหรับนั่งพักผ่อนชมวิวสบายๆ ซึ่งทางโครงการก็ออกแบบไว้ให้แต่ละมุมมีความแตกต่างกัน เช่นเป็น Indoor บ้าง Outdoor บ้าง และ Semi-Outdoor บ้าง และรองรับกิจกรรมของทั้งคุณพ่อคุณแม่และคุณลูกเลยค่ะ ส่วนที่เป็น Highlight บนชั้นนี้เรายกให้กับ Play Space ซึ่งโครงการออกแบบมาให้มีทั้งโซน Kids Room for Children และ Kids Room for Younger เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของเด็กทั้ง 2 ช่วงวัยค่ะ Image 1/4 Kids Room for Younger Kids Room for Younger จะเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่ดูชิลๆ กว่าชุดโซฟาทั่วไป โดยโครงการเลือกใช้ Bean Bag ทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลายกว่า สามารถนั่งยืดขาเล่นกับกลุ่มเพื่อนได้ Image 1/8 Kids Room for Children ถัดมาที่โซน Kids Room for Children ออกแบบมาให้เหมาะกับเด็กเล็ดโดยเฉพาะเลย เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเบาะนุ่มนิ่ม ใช้เฟอร์ฯ ขนาดเล็กสำหรับเด็กโดยเฉพาะ และจากผนังกระจกโดยรอบทำให้ห้องนี้ดูโปร่งโล่ง น่าใช้งานมากเลย สำหรับคุณพ่อคุณแม่มีพื้นที่พักคอยจัดไว้ให้อีกมุมหนึ่งค่ะ Image 1/6 Semi-Outdoor Lounge เป็นจุดชมวิวที่จะได้เห็นโค้งน้ำทางฝั่งทิศใต้ แม้ว่าไม่ใช่มุมที่เห็นวิวแม่น้ำสวยสุด แต่ก็เป็นจุดที่มีหลังคาคลุมบังแดดบังฝนทำให้ใช้งานได้ตลอดวัน ห้องน้ำส่วนกลางจะมีแยกไว้ทั้งชาย/หญิง และผู้สูงอายุนะคะ เราพาเข้ามาดูบรรยากาศในห้องน้ำหญิงดูหรูหราดี ด้วยสุขภัณฑ์ทรงโค้ง อย่างแรกที่สะดุดตามากเมื่อเข้ามาคือ ฝ้าเพดานจัดแสงมาสวยมาก (อันนี้คือไม่ได้แต่งรูปเลยนะคะ ><) ภายในมีโต๊ะ bar ขนาดใหญ่และชุดโซฟาหลาย วางชิดหน้าต่างให้ชมวิวกันได้แบบเต็มที่ Image 1/3 มุมนั่งเล่นใน Sky Lounge รับวิวแม่น้ำ มุมนั่งเล่นใน Sky Lounge รับวิวแม่น้ำ จุดที่น่าจะฮอตฮิตที่สุดที่คนนิยมมานั่งเรายกให้กับมุมที่ได้วิวแม่น้ำแบบเต็มตานี่เลยค่ะ ซึ่งโครงการก็เตรียมไว้ทั้งชุดโซฟาขนาดใหญ่ และมุมโซฟาคู่ โซฟาเดี่ยว ให้เลือกใช้งานตามความชอบเลย อีกฟังก์ชันหนึ่งใน Sky Lounge คือมี Meeting Room ให้จองใช้งานกันแบบเป็นส่วนตัวได้ รองรับการใช้งานประมาณ 8-10 คน ซึ่งในห้องจะมีจอทีวีเตรียมไว้ให้ใช้พรีเซนต์งานได้สะดวก จาก Sky Lounge เราจะสามารถเดินเชื่อมออกไป Sky Terrace ได้ เป็นพื้นที่ Outdoor ที่ได้วิวแม่น้ำแบบเต็มตามาก ซึ่งเหมาะจะมาใช้งานในช่วงเย็นที่แดดร่มหน่อยนะคะ จาก Terrace ก็จะมีบันไดวนขึ้นไปชั้น 43 กันต่อ หรือจะขึ้นลิฟต์ในอาคารไปก็ได้ค่ะ สิ่งที่น่าสังเกตคือความสวยของบันไดที่ทำออกมาคล้ายกับเป็น Sculpture เลย ด้วยวัสดุที่เป็นงานโมเสกทำให้ตัวบันไดดูระยิบระยับเมื่อโดนแสงค่ะ สำหรับสระว่ายน้ำจะขึ้นมาอยู่ที่ ชั้น 43 นะคะ เป็นสระยาว 47 ใช้ออกกำลังกายได้จริง แต่จะไม่ได้กว้างมากนักเพียง 5.7 เมตร ลึก 1.2 เมตร ซึ่งจะได้วิวแม่น้ำแบบตรงๆ ทางทิศตะวันตกและเห็นแม่น้ำแบบไกลๆ ทางทิศใต้ สำหรับ Highlight ของสระว่ายน้ำเรายกให้กับการออกแบบที่มีหลังคาคลุมสระเป็นบางส่วน ทำให้สามารถใช้งานได้ตลอดวัน นอกจากนั้นจะมี Jacuzzi และ Kids Pool แยกไว้เป็นสัดส่วน สำหรับพื้นที่ทางทิศเหนือจัดเป็นพื้นที่รับลม ชมวิว มีชื่อเรียกเก๋ๆ ว่า Cloud Pavillion และ River Scenic ค่ะ ขึ้นมาจากบันไดวนจะเชื่อมมาที่ชั้นสระว่ายน้ำ บริเวณนี้เรียกว่า River Scenic เป็นจุดชมวิวแบบ Outdoor ที่ได้วิวดีมากๆ เชื่อว่าในช่วงปีใหม่ที่นี่จะเป็นจุดชมพลุที่สวยมากจุดหนึ่ง เพราะจะเห็นพลุทั้งฝั่งของ Icon Siam และ Asiatique เลยค่ะ Highlight อย่างหนึ่งของสระว่ายน้ำโครงการนี้คือ ได้วิวแม่น้ำแบบตรงๆ ทางทิศตะวันตก ซึ่งช่วงเย็นๆ ที่แสงกระทบน้ำจะได้ Effect แสงระยิบระยับสวยมากทีเดียว สำหรับสระว่ายน้ำของโครงการมีความยาว 47 เมตร ใช้ออกกำลังกายได้จริง แต่จะไม่ได้กว้างมากนักเพียง 5.7 เมตร ลึก 1.2 เมตร ซึ่งจะได้วิวแม่น้ำแบบ 270 องศาตั้งแต่วิวแม่น้ำแบบเต็มตาทางทิศตะวันตก – วิวแม่น้ำแบบไกลๆ ทางทิศใต้ – วิวเมืองทางทิศตะวันออก และข้อดีของสระว่ายน้ำเราที่นี่อีกอย่างหนึ่งคือ การออกแบบที่มีหลังคาคลุมสระเป็นบางส่วน ทำให้สามารถใช้งานได้ตลอดวัน Jucuzzi ของโครงการจะแบ่งออกเป็น 2 บ่อ คือเป็นบ่อแบบนั่ง และ บ่อแบบนอนชมวิวชิลๆ Kids Pool ที่แยกออกจากสระผู้ใหญ่ไว้เป็นสัดส่วน มีขอบกันตกชัดเจนเพื่อความปลอดภัยของลูกหลาน และมีทางเดินให้คุณพ่อคุณแม่เข้าถึงตัวลูกๆ หลานๆ ได้ง่ายขึ้นค่ะ ก่อนลงสระก็จะมี Shower Box ให้ล้างตัวกันอยู่ 2 ห้องค่ะ ซึ่งเราว่าที่นี่เค้าทำออกมาเป็นสัดส่วนดีนะคะ มุมนั่งเล่นชมวิวอีกจุดหนึ่งมีชื่อว่า Cloud Pavillion ซึ่งจะรับวิวแม่น้ำทางทิศเหนือ และใช้เป็นพื้นที่พักคอยเด็กๆ ว่ายน้ำได้ค่ะ ห้องน้ำส่วนกลางบนชั้นนี้จะมีห้องอาบน้ำเพิ่มมาด้วย ใช้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังลงสระได้สะดวกดี แต่จำนวนห้องจะไม่เยอะนักนะคะ ชั้น 44 เป็น fitness ขนาดใหญ่ที่เปิดรับวิวแม่น้ำแบบเต็มที่ และโครงการยังแบ่งห้องออกเป็นฟังก์ชันย่อยๆ อย่าง Private Gym และ Yoga รวมถึงมี Steam ในห้องน้ำฝั่งหญิงและมี Sauna ในห้องน้ำฝั่งชายให้ใช้งานกันด้วยนะคะ ห้องฟิตเนสถูกล้อมด้วยผนังกระจกทั้ง 3 ด้าน ให้บรรยากาศที่ดูโปร่ง เราสามารถชมวิวแม่น้ำและมองเห็นสระที่ชั้น 43 ได้ด้วยค่ะ ภายในห้องจัดอุปกรณ์ไว้ครบทั้งการออกกำลังกายแบบ Cardio และ Weight Training มีโซน Pantry ให้สามารถมาเติมน้ำดื่มได้ ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ โครงการใส่เครื่องออกกำลังกาย Technogym kinesis ซึ่งใช้ออกกำลังกายได้ถึง 200 ท่า ตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยค่ะ สำหรับใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถจองใช้ห้อง Private Gym ได้ ซึ่งอุปกรณ์กีฬาในนี้จะเป็นพวกดัมเบลยกน้ำหนัก และเตรียมลวดลายพื้นให้เหมาะกับการฝึกร่างกายค่ะ Image 1/3 Personal Training อีกห้องหนึ่งคือ Personal Training รองรับการใช้งานได้ประมาณ 2-3 คน ซึ่งลูกบ้านสามารถพาครูสอน Yoga มาฝึกแบบส่วนตัวได้ที่ห้องนี้เลยค่ะ ห้องน้ำบนชั้นนี้มีขนาดใหญ่กว่าชั้นอื่นๆ นะคะ ซึ่งภายในมีทั้งห้องอาบน้ำ ห้องน้ำและ Locker ไว้ให้ใช้งานได้ครบ Steam ในห้องฝั่งหญิงดูโปร่งทีเดียวจากกระจกบานใหญ่ ช่วยลดความอึดอัดจากอุณหภูมิห้อง Steam ลงได้ค่ะ สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
แบบห้องแบบห้องของโครงการ RHYTHM Charoenkrung Pavillion (ริทึ่ม เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน) มีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่แบบ 1 Bedroom 35 ตร.ม. ไปจนถึง 4 Bedroom ที่ใหญ่ถึง 225 ตร.ม. ซึ่งห้องบางแบบ Sold Out ไปแล้วนะคะ ตอนนี้จะมีให้เลือกตั้งแต่ 1 Bedroom 35 ตร.ม. ไปจนถึง 3 Bedroom 145.5 ตร.ม. แม้ว่าห้องพักส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ห้องแบบ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus สำหรับอยู่อาศัย 1-2 คนเป็นหลัก แต่ที่นี่ก็มีห้องไซส์ใหญ่ 2-4 Bedroom รวมกันประมาณ 40% เรียกได้ว่าเยอะทีเดียวนะคะ และแน่นอนว่าหมดไวหน่อย เพราะโซนนี้เค้านิยมห้องใหญ่อยู่เป็นครอบครัวกัน ทางโครงการจึงมี Option ในการ Combine ห้องไซส์เล็กให้ใหญ่ขึ้นได้ โดยมีห้องที่น่าสนใจให้เลือกจับจองกันได้อยู่ ดังนี้ Image 1/3 1 Bedroom Plus ขนาด 43.5 ตร.ม. 1 Bedroom Plus ขนาด 43.5 ตร.ม. โครงการ Rhythm เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน มีการใช้เทคนิคจัดห้องแบบ Interlocked Layout ตามแบบฉบับ AP โดยวางผังห้องให้มีส่วนที่ยืดออกไปและยุบเข้ามาขัดล็อคกันเป็นคู่ๆ เพื่อให้ตัวห้องดูกว้างมากขึ้น ทำให้ฟังก์ชันในแต่ละห้องไม่เหมือนกัน จึงมีแบบห้องในโครงการค่อนข้างเยอะทีเดียว ซึ่งเป็นอีกจุดที่น่าสนใจเช่นกัน รูปแบบการขายสำหรับโครงการนี้จะเป็นแบบ Fully Fitted พร้อมเฟอร์นิเจอร์ Built-in บางส่วน สำหรับวัสดุหลักๆ ในห้องจะให้มาตามนี้ค่ะ
ห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้ เป็นห้อง 2 Bedroom ขนาด 102 ตร.ม. เริ่ม 17.5 ล้านบาท โดยมีจุดเด่นที่เป็นห้องหน้ากว้างเข้ามุม และจากห้องนอนสามารถมองออกไปเห็นแม่น้ำไกลๆ ได้ อีกทั้งยังได้ระเบียงกว้างรับลมได้ดี พื้นที่ภายในแบ่งออกเป็นสัดส่วนโดยมี Foyer บริเวณหน้าห้อง เป็นพื้นที่ต้อนรับด้านหน้า ไว้สำหรับถอดรองเท้า, วางของต่างๆ ก่อนเข้าสู่ Common Area ที่เป็นพื้นที่พักผ่อนขนาดใหญ่รวมห้องนั่งเล่น+ทานอาหาร+Pantry ครัว เข้าไว้ด้วยกัน และมีครัวปิดแยกเอาไว้อีกห้องหนึ่ง ส่วนโซนแม่บ้านจะมีห้องน้ำในตัวเป็นสัดส่วน มีห้องนอน 2 ห้องพร้อมห้องน้ำในตัว เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิก 3-4 คน แบบพ่อแม่ลูก พร้อมแม่บ้านหรือพี่เลี้ยงเด็กก็อยู่ในห้องนี้ด้วยกันได้ค่ะ ในส่วนของห้องน้ำนั้นจะค่อนข้างแตกต่างกว่าโครงการทั่วไป เนื่องจากเป็นห้องน้ำสำเร็จรูป (สร้างและประกอบที่โรงงาน ค่อยมาติดตั้งหน้างาน) ข้อดีของห้องน้ำประเภทนี้คือ คุณภาพค่อนข้างดีเพราะประกอบจากโรงงาน มีการ QC ไม่เหมือนห้องน้ำทั่วไปที่ต้องแล้วแต่โชคว่าช่างที่ทำให้ห้องเรานั้นทำเก่งรึเปล่า การซ่อมแซมง่าย ไม่รั่วซึม ทำความสะอาดง่าย แต่ข้อเสียก็มีนะคะ คือเรื่องราคาที่สูงกว่าห้องน้ำธรรมดา และขนาดที่ไม่มีให้เลือกได้มากนัก พื้นห้องน้ำจะยกสูงขึ้นมาจากพื้นห้อง ออกแบบมากะทัดรัด เพื่อประหยัดเนื้อที่ใช้สอยส่วนอื่นๆ ซึ่งยากที่จะต่อเติมหรือขยับขยายแน่นอน สำหรับใครที่สนใจในการศึกษาห้องน้ำสำเร็จรูปเพิ่มเติมสามารถ (คลิกที่นี่) ได้เลยค่ะ ประตูหน้าห้องเป็นไม้สำเร็จรูป พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock ของ Yale มาให้ ผ่านเข้าออกด้วยลายนิ้วมือ, รหัส PIN, บัตร, RFID, Apps ก็ได้ค่ะ เข้ามาจะเจอ Foyer เป็นโถงต้อนรับบริเวณหน้าห้องก่อนจะแยกไปยังส่วนต่างๆ ทำให้มีพื้นที่สำหรับตกแต่งผนังหรือทำชั้นวางรองเท้าที่แยกเป็นสัดส่วนจากพื้นที่อยู่อาศัยส่วนอื่น ส่วนห้องทางขวาคือ Zone Service สำหรับแม่บ้านค่ะ พื้นที่ข้างประตูมีขนาดประมาณ 1.4 x 0.8 m. สามารถวางม้านั่งสำหรับนั่งใส่รองเท้าและ Built-in ตู้ใส่รองเท้าได้แบบในห้องตัวอย่าง Zone Service เป็นห้องที่มีประตูปิดมิชิดภายในแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซนหลักๆ คือ 1. พื้นที่ซักรีด 2. พื้นที่พักผ่อนของแม่บ้านหรือพี่เลี้ยงเด็ก และมีห้องน้ำขนาดกระทัดรัด แม้ว่าพื้นที่ไม่ใหญ่นักแต่ก็สามารถใช้ทำธุระหนักเบา อาบน้ำได้ครบค่ะ พื้นที่พักผ่อนของแม่บ้านสามารถวางเตียงเดี่ยวขนาด 3 ฟุตได้ค่ะ เข้ามาในห้องจะเจอกับ Common Area โล่งๆ รวม Living+Dining+Pantry ครัว ไว้ด้วยกัน เปิดห้องเข้ามาจึงดูโปร่งไม่อึดอัด และยังได้แสงธรรมชาติผ่านระเบียงและหน้าต่างเข้ามาแบบเต็มๆ ซึ่งฝั่งนี้จะรับแดดทางทิศตะวันออกได้เป็นแดดเช้าจะไม่ร้อนมาก อีกประเด็นที่ทำให้ห้องดูโปร่งคือ ฝ้าเพดานที่สูงถึง 3 เมตร ซึ่งสูงเป็นพิเศษกว่าโครงการทั่วไปนะคะ Pantry ครัวขนาดใหญ่เป็นครัวขนานที่มี Island ตรงกลางมาให้ด้วย พื้นโซนนี้จะเป็นพื้นกระเบื้องให้เช็ดทำความสะอาดง่าย แต่เนื่องจากเป็นครัวเปิดจึงเหมาะที่จะใช้ทำอาหารฝรั่งที่กลิ่นไม่ฉุนนัก ใช้อุ่นอาหาร ต้มซุปก็พอตอบโจทย์ได้ แต่หากใครที่ชอบทำอาหารไทยกลิ่นฉุนก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะห้องนี้มีครัวไทยแยกไว้ให้ต่างหาก ด้านข้างเคาน์เตอร์ครัวจะเว้นพื้นที่ไว้ให้วางตู้เย็นขนาดใหญ่ได้ อย่างในห้องตัวอย่างก็เลือกใช้เป็นตู้เย็น 2 บานเปิด ขนาด 23.1 คิวค่ะ Image 1/4 ตู้เก็บของใต้เคาน์เตอร์ เคาน์เตอร์ครัวทั้งด้านล่างและด้านบนมีตู้เก็บของเป็นตู้บานเปิดปิดและลิ้นชัก ไว้ใช้เก็บช้อนส้อม เก็บจาน ซึ่งบานพับจะเป็นแบบ Soft Close และให้ไมโครเวฟของ Franke มาด้วย ถัดมาที่เคาน์เตอร์ครัวจะได้มาพร้อม Backsplash ด้านหลัง เวลาปรุงอาหารแล้วกระเด็นก็สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ให้มาพร้อมกับ Hob 4 หลุม พร้อม Hood โดยเจ้าเครื่องดูดควันจะต่อท่อออกไปด้านนอก ซึ่งช่วยระบายกลิ่นและควันได้ดีกว่าระบบหมุนเวียนนะคะ สำหรับซิงค์ล้างจานให้ของ Franke มีขนาดพอจะใส่จานใส่แก้วได้ และมีความลึกพอสมควร จากตำแหน่งของ Pantry ครัวก็สามารถดูทีวีและพูดคุยกับสมาชิกในครอบครัวได้ ความพิเศษของเคาน์เตอร์นี้ก็คือ มีโต๊ะซ่อนอยู่ด้วย หากต้องการใช้งานก็สามารถเลื่อนโต๊ะออกมาจะได้โต๊ะทานอาหารติด Pantry ขนาด 2 ที่นั่ง เป็นที่นั่งทานข้าวอีกมุมให้มาเปลี่ยนบรรยากาศได้ ถัดมาที่ Dining Area จัดโต๊ะทานอาหารขนาด 5 ที่นั่งไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง หากคุณปู่คุณย่ามาเยี่ยมหลานๆ ก็กินข้าวแบบพร้อมหน้าตาได้แบบสบายๆ ส่วนตัวเราชอบการจัดแปลนแบบนี้มาเลย เพราะทั้งมุมนั่งเล่นและโต๊ะทานอาหารจะสามารถมองเห็นทีวีได้หมด เราเห็นถึงบรรยากาศที่คุณพ่อคุณแม่นั่งดูทีวียามเช้า คุณลูกก็สามารถนั่งทานอาหารเตรียมไปโรงเรียนอยู่ใกล้ๆ พูดคุยกันได้ กลายเป็นมุมที่สมาชิกในครอบครัวมาใช้เวลาร่วมกัน มุมดูทีวีของห้องนี้สามารถจัดวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ 4-5 ที่นั่งได้เลยนะคะ มีระยะดูทีวีประมาณ 3.2 เมตร จึงเลือกใช้ทีวีขนาดใหญ่แบบ 60-70 นิ้วได้ มุมโซฟาจะได้พื้นที่ติดระเบียงยาว 2.4 เมตร ทำให้เราสามารถชมวิวและดูทีวีไปพร้อมๆ กันได้และสามารถเปิดลมแบบเต็มที่ …สำหรับประตูระเบียงเป็นบานเลื่อน 3 ตอนจึงเปิดได้กว้างเดินผ่านเข้า-ออกสะดวกดี แม้ว่าตัวระเบียงจะกว้างราวๆ 1 เมตร แต่ก็พอสำหรับวางชุดโต๊ะเก้าอี้สนาม เพื่อมานั่งรับลม ชมวิวได้ และพื้นระเบียงจะลดระดับพื้นลงจากตัวห้องเล็กน้อย เพื่อกันไม่ให้น้ำไหลย้อนเข้าตัวห้องค่ะ ในส่วนของ Condensing Unit นั้นไม่ต้องกังวลเลยค่ะ เพราะโครงการจัดตำแหน่งสำหรับแขวน Condensing Unit ไว้เป็นสัดส่วน และมีประตูปิดไว้เรียบร้อย โดยวางด้านที่เป่าลมร้อนออกด้านนอกห้อง เราจึงสามารถใช้งานพื้นที่ระเบียงได้เต็มที่ แอร์ใน Living Area จะให้แบบฝังฝ้ามาเลยจึงดูสวยงามไม่กินพื้นที่ในห้อง แต่ก็มีเสียงการทำงานที่ดังกว่าแอร์แบบแขวน จึงเหมาะกับห้องที่ฝ้าเพดานสูงพิเศษเพื่อลดเสียงการทำงาน จึงเหมาะกับโครงการนี้ที่ให้ฝ้าเพดานสูงพิเศษถึง 3 เมตร ทว่าค่าบำรุงรักษาจะราคาสูงกว่าแอร์แขวนปกติค่ะ ถัดเข้ามาที่โซนด้านในสุดจะมีทางเดินกว้าง 1 เมตร เพื่อแจกไปยังครัวไทย, ห้องน้ำส่วนกลางและห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ครัวไทยมีขนาด 2.1×1.3 เมตร ซึ่งโครงการเดินงานระบบรอไว้ทั้งระบบน้ำและระบบไฟ ติดตั้งเครื่องดูดควันมาให้เรียบร้อย แต่หากไม่ได้ต้องการห้องครัวปิดก็สามารถปรับเป็นห้องเก็บของ หรือ Laundry Room ก็ได้นะคะ ถัดมาที่ห้องน้ำส่วนกลางจะมีประตู 2 ฝั่ง สามารถเข้าได้จากโถงทางเดินและจากห้องนอนรองค่ะ ในส่วนของห้องน้ำค่อนข้างพิเศษจากโครงการอื่นคือ เป็นห้องน้ำสำเร็จรูป มีข้อดีข้อเสียตามที่ได้อธิบายไว้ก่อนหน้าแล้ว และเนื่องจากพื้นห้องน้ำสำเร็จรูปต้องวางซ้อนทับลงบนพื้นห้องอีกที ทำให้พื้นห้องน้ำจะสูงกว่าพื้นห้องขึ้นไปอีกประมาณ 15 cm. นะคะ ภายในห้องน้ำแบ่งเป็นส่วนเปียกแห้งไว้ด้วยฉากกั้นอาบน้ำ และได้กระจกบานใหญ่เต็มผนัง ทำให้บรรยากาศภายในห้องน้ำดูโปร่งขึ้น Image 1/4 สุขภัณฑ์ต่างๆ ของ TOTO สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ครบตามอย่างห้องตัวอย่างโดยใช้ของ TOTO ค่ะ เราชอบห้องน้ำที่นี่นะเพราะจะมี Low Wall ด้านหลังอ่างล้างมือเพิ่มขึ้นมา ทำให้เรามีพื้นที่วางของได้เพิ่มอีกเยอะเลย ซึ่งจริงๆ พื้นที่ส่วนนี้คืองานระบบท่อในห้องน้ำนี่แหละค่ะ พื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นไว้เป็นสัดส่วน ช่วยกันไม่ให้น้ำจากพื้นที่อาบน้ำกระเด็นออกมาในพื้นที่ส่วนแห้ง ภายในติดตั้งฝักบัวและ Rain Shower ของ Grohe พร้อมเดินระบบก๊อกหัวผสม ซึ่งลูกบ้านแค่ติดเครื่องทำน้ำร้อนเพิ่มเติมก็ใช้งานได้แล้ว ข้อดีอีกเรื่องของห้องน้ำนี้คือ มีการเจาะช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้เสร็จ พร้อมใช้งานเลยค่ะ พื้นที่อาบน้ำมีขนาดกระทัดรัดประมาณ 1.3 × 0.9 เมตร เด็กๆ ใช้งานได้สะดวกค่ะ ภายในห้องนอนรองมีพื้นที่กว้างพอสมควรเลยนะคะ จะวางเตียงขนาด 5 ฟุตหรือวางเตียงเดี่ยว 2 เตียงก็ได้ หน้าต่างของห้องนอนมีขนาดใหญ่และมีบานกระทุ้ง 1 บาน เอาไว้เปิดระบายอากาศได้ ซึ่งเราสามารถนอนมองวิวได้จากเตียงนอนเลย อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นพื้นที่สำหรับ Built-in ตู้เสื้อผ้า และวางโต๊ะเขียนหนังสือได้ ห้องนอนรองจะมีระเบียงในตัวด้วยนะคะ แต่ฟังก์ชันหลักๆ จะใช้แขวน Condensing Unit เท่านั้นและมีพื้นที่ด้านล่างพอให้วางราวตากผ้าเล็กๆ ใช้ตากผ้าเช็ดตัวได้นิดหน่อย ถัดมาที่ห้องนอนใหญ่มีขนาดกว้างมากทีเดียวสามารถวางเตียง 6 ฟุต พร้อมเฟอร์ฯ อื่นๆ ได้ครบ ทั้งชั้นวางทีวี, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเครื่องแป้งและห้องน้ำในตัว จุดที่เป็น Highlight สำหรับห้องนี้เรามองว่าเป็น เจ้าหน้าต่างบานใหญ่ที่เกือบจรดพื้นถึงฝ้า ทำให้รับวิวได้กว้างขึ้น Image 1/3 พื้นที่ปลายเตียงขนาดใหญ่ ปลายเตียงเหลือพื้นที่กว้างมากเลย จริงๆ จะวางม้านั่งที่ปลายเตียงเพิ่มก็ได้อีกนะคะ สำหรับตู้เสื้อผ้าจะอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้องน้ำ จึงอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้สะดวก Image 1/2 ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ ห้องน้ำเป็นแบบสำเร็จรูปเช่นเดียวกัน ภายในจัดฟังก์ชันแยกโซนเปียกแห้ง และให้สุขภัณฑ์พร้อมวัสดุอุปกรณ์ไว้เป็นของ TOTO, Grohe เหมือนกัน ฟังก์ชันพิเศษของห้องนี้คือ อ่างอาบน้ำขนาด 1.3×0.5 เมตร ของ Kasch เป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพจากยุโรป ในส่วนของพื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1 x 1 เมตร ให้ใช้งานได้พอสมควรค่ะ 1 Bedroom Plus 43.5 ตร.ม. ห้องแบบ 1 Bedroom plus ขนาด 43.5 ตร.ม. เริ่ม 7.29 ล้านบาท จุดเด่นของห้องนี้คือ ออกแบบให้โซนนั่งเล่นและพื้นที่เตียงนอนติดหน้าต่าง จึงได้วิวและแสงจากภายนอก เหมาะกับคนที่เน้นใช้พื้นที่นั่งเล่น พื้นที่เตียงนอนเป็นหลัก ที่น่าสังเกตคือแต่ละฟังก์ชันจะมีประตูกั้นห้องทั้งหมด ข้อดีคือทำให้การใช้งานของแต่ละฟังก์ชันได้ความเป็นสัดส่วน เช่นได้ครัวปิด, ห้องนั่งเล่นมีประตูกั้นช่วยประหยัดแอร์ได้ แต่ก็ทำให้บรรยากาศในห้องดูไม่กว้างเท่ากับการจัดห้องแบบ Open Plan ที่ทุกฟังก์ชันรวมอยู่ในพื้นที่เดียวกันนะคะ ซึ่งการจัดมุมนั่งเล่นไว้ในห้องอเนกประสงค์ตามในแปลนก็ต้องแลกกับ พื้นที่ทานข้าวที่ต้องขยับออกมาอยู่อีกห้องหนึ่ง แต่เราก็สามารถเปิดประตูเพื่อดูทีวีไปในเวลาทานข้าวได้ ในส่วนของห้องน้ำจะสามารถเข้าได้ทั้งจากโถงส่วนกลางและห้องนอนนะคะ เวลามีแขกมาเยี่ยมก็สามารถเข้าห้องน้ำได้สะดวก ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนค่ะ เข้ามาในห้องจะเจอกับ Common Area ตรงกลาง เป็นเหมือน Center ของห้องที่จะแจกจ่ายไปตามห้องต่างๆ ข้างประตูมีพื้นที่ประมาณ 1.2 x 0.6 เมตร ให้ใช้วางตู้เก็บของ เก็บรองเท้าหรือวางของตกแต่งได้ และใน Common Area ยังเป็นพื้นที่สำหรับมีวางโต๊ะทานอาหาร ซึ่งรองรับขนาดประมาณ 3 – 4 ที่นั่งได้ ติดกับโต๊ะทานอาหารจะมีครัวปิด โดยโครงการจะให้ประตูมาเป็นกระจก ทำให้ห้องดูไม่ทึบ ไม่อึดอัด ประตูห้องครัวเป็นบานเลื่อน 3 ตอนจึงเปิดใช้งานได้กว้าง เดินผ่านเข้า-ออกได้สะดวก Pantry ครัวให้มาเหมือนในแบบห้องแรก ฟังก์ชันครบ และเครื่องดูดควันก็เป็นแบบต่อท่อออกด้านนอก จึงช่วยระบายอากาศได้ดีกว่าแบบหมุนเวียนนะคะ ภายในมีพื้นที่สำหรับยืนทำครัวประมาณ 1.8 x 1 เมตร สำหรับประตูห้องอเนกประสงค์ทางโครงการจะติดตั้งมาให้เป็นประตูบานเลื่อน 3 ตอนเช่นกัน รางประตูจะทำเรียบไปกับพื้นเลย จึงเดินผ่านได้ไม่ต้องกลัวสะดุด ภายในห้องอเนกประสงค์จัดเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อน วางชุดโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งได้ ระยะดูทีวีอยู่ที่ 2.4 เมตร และมีมุมโต๊ะทำงานที่ติดกับระเบียง จึงดูน่าใช้งาน สำหรับห้องจริงจะได้เป็นห้องเปล่าๆไม่มีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งให้ ซึ่งเราสามารถเลือกฟังก์ชันที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์เราได้ค่ะ ในส่วนของระเบียงมีขนาด 0.8 x 1.9 เมตร ปูพื้นด้วยกระเบื้องจึงทำความสะอาดง่าย ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ไม่จำเป็นต้องใช้วางเครื่องซักผ้านะคะ เพราะโครงการเดินงานระบบให้ติดตั้งใต้เคาน์เตอร์ครัวแล้วค่ะ จะวางราวตากผ้าหรือกระถางต้นไม้ก็ได้เลย เมื่อโครงการได้แขวน Condensing Unit 2 เครื่องไว้ด้านข้าง ทำให้สามารถมองเห็นวิวได้อย่างเต็มที่ด้วยไม่มีอะไรมารบกวนสายตา สำหรับห้องนอนจะได้ประตูบานทึบ ซึ่งให้ความเป็นส่วนตัวได้ดีกว่าประตูกระจกค่ะ ภายในห้องนอนมีพื้นที่กว้างพอสมควรเลยนะคะ ทำให้สำหรับวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุต พร้อมโต๊ะหัวเตียงและตู้เสื้อผ้าได้เพียงพอ และเหลือพื้นที่ให้เดินได้รอบเตียง สำหรับหน้าต่างยังคงได้มาเป็นบานใหญ่เกือบจรดพื้นถึงฝ้า ซึ่งเราสามารถนอนมองวิวได้จากเตียงนอนเลย อีกฝั่งนึงของห้องจะมีพื้นที่สำหรับ Built-in ตู้เสื้อผ้า ซึ่งอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้องน้ำพอดีจึงใช้งานต่อเนื่องกันได้สะดวก ห้องนอนนี้จะได้ห้องน้ำในตัวด้วยเพราะ มีประตูเข้าได้ 2 ทางตามที่เคยอธิบายไว้นะคะ Image 1/2 Rhythm-เจริญกรุง-พาวิลเลี่ยน-LR-220 Rhythm-เจริญกรุง-พาวิลเลี่ยน-LR-220 ห้องน้ำเป็นแบบสำเร็จรูปเช่นเดียวกับห้องแรก ภายในแยกส่วนเปียกแห้งออกเป็นสัดส่วน และให้วัสดุอุปกรณ์ไว้เป็นของ TOTO และ Grohe เหมือนกัน ได้ Shower Box และชั้นวางของมาครบเหมือนในห้องตัวอย่าง พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1 x 1 เมตร กระทัดรัดหน่อยแต่ใช้งานพอสมควรค่ะ สำหรับห้อง 2 Bedroom ขนาด 96 ตร.ม. ห้องนี้มีจุดเด่นที่เป็นห้องหน้ากว้าง ได้ระเบียงขนาดใหญ่ พื้นที่ภายในแบ่งออกเป็นสัดส่วนทั้งโซนครัว, ห้องนั่งเล่น+ทานอาหาร, โซนแม่บ้านที่มีห้องน้ำในตัวเป็นสัดส่วน, ห้องนอน 2 ห้องพร้อมห้องน้ำในตัว เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิก 3-4 คน แบบพ่อแม่ลูก และรองรับแม่บ้านหรือพี่เลี้ยงเด็กให้อยู่ในห้องนี้ด้วยกันได้ค่ะ Image 1/11 2 Bedroom 96 ตร.ม. **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ ราคาRHYTHM Charoenkrung Pavillion (ริทึ่ม เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน) ณ วันที่ 22 February 2023
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ บทสรุปจุดเด่นของทำเลโครงการ RHYTHM เจริญกรุง-พาวิลเลี่ยน มีอยู่ 2 ข้อหลักๆ เรื่องแรกคือ ” ความใกล้” ทั้งในเรื่องของโรงเรียนอย่าง Shrewsbury ที่แค่ข้ามถนนก็ถึงแล้ว และยังมีโรงเรียนดังอย่าง กรุงเทพคริสเตียน, อัสสัมชัญบางรัก ที่อยู่ในระยะไม่เกิน 2 กิโลเมตรอีกด้วย หรือจะเป็นแหล่งงานก็ใกล้กับย่านสีลม-สาทร ที่เต็มไปด้วยอาคารสำนักงานต่างๆ มากมายเช่น Chartered Square, TPIPL, JTC, Sathorn Square, Empire Tower, สาทรธานี คอมเพล็กซ์ และ Bangkok City Tower เป็นตัวเลือกหนึ่งของคนที่ทำงานในย่านเหล่านี้เพราะปัจจุบันคอนโดในย่านสีลมและสาทรแท้ๆ เองก็มีราคาสูงมากจนหยิบจับได้ค่อนข้างยากค่ะ เรื่องที่ 2 คือ เป็นทำเลที่ได้วิวแม่น้ำในย่านเจริญกรุง ที่แม้ว่าจะไม่ได้มีพื้นที่ติดริมน้ำ แต่ก็ยังสามารถ Take View ได้จริง ไม่ได้โดนบล็อควิวด้วยอาคารสูงทั้งหมด ซึ่งหากลองเช็คหลายๆ โครงการที่ราคาพอๆ กันในโซนนี้จะได้วิวไม่ดีเท่านี้นะคะ ถือว่าสะดวกดีเพราะถนนจันทน์เป็นถนนที่เชื่อมต่อไปยังถนนหลักได้หลายทาง สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนเจริญราษฎร์เพื่อขึ้นเหนือไปถนนสาทร หรือลงใต้ไปยังถนนพระราม 3 ได้ หรือถ้าวิ่งตามถนนจันทน์ไปเรื่อยๆก็จะเชื่อมกับถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ทางตะวันตกเชื่อมกับถนนเจริญกรุง สามารถวิ่งต่อไปยังวงเวียนใหญ่ได้ค่ะ และสำหรับใครที่เร่งรีบทำเลนี้ก็มีทางพิเศษศรีรัชให้ใช้ในระยะ 1-2 กิโลเมตรเท่านั้น อีกประเด็นคือทางโครงการให้ที่จอดรถ 100% ซึ่งในย่านนี้ก็มีโครงการให้ที่จอด 100% เช่นกัน แต่ที่จอดของ Rhythm จะเป็นแบบ Conventional ที่ต้องขับวนขึ้นตึกไปจอด ส่วนตัวมองว่าใช้งานง่ายกว่าและในชั่วโมงเร่งด่วนไม่ต้องต่อคิวรอนานค่ะ เนื่องจากโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ทั้ง 2 ฝั่ง จะออกไปเรียกรถ Taxi บนถนนจันทน์หรือถนนเจริญกรุงก็ได้ค่ะ ส่วนเรื่องของรถไฟฟ้านั้น ใกล้ที่สุดคือสถานีสะพานตากสินในระยะประมาณ 1.1 กิโลเมตร เกินระยะเดินสบาย 500 เมตรไปแล้วนะคะ จึงต้องเรียกพี่วินมอเตอร์ไซค์ หรือต่อรถไปอีกที เรียกง่ายค่ะ พี่วินมอเตอร์ไซค์เยอะเลย ส่วนตัวมองว่าโครงการให้ความสำคัญกับการใช้รถส่วนตัวแต่ก็มีรถสาธารณะเป็นทางเลือกในช่วงเวลาเร่งด่วนค่ะ ส่วนกลาง – มีความพิถีพิถันขึ้น เช่น การติดเครื่อง ERV ในพื้นที่ส่วนกลางเพื่อช่วยกรองอากาศและ PM 2.5 ทำให้ได้อากาศบริสุทธิ์ รวมถึงเลือกใช้สีของ TOA Duraclean เกรดเดียวกับที่ใช้ในห้องผ่าตัด เพราะมีนวัตกรรมที่ช่วยกำจัดเชื้อราและแบคทีเรียค่ะ ห้องพัก – Fully Fitted ให้ชุดครัวและวัสดุอุปกรณ์ในห้องน้ำ ถือว่ามีการอัพเกรดสเปคให้ดูดีกว่า Rhythm ตัวอื่นๆ เช่น แบรนด์สุขภัณฑ์และวัสดุในห้องน้ำจะใช้ของ TOTO, Grohe และ Kasch ส่วนที่ชอบคือติดให้ Home Automation ทำให้สามารถควบคุมดวงไฟ, แอร์, Digital Door Lock ผ่านมือถือได้ และอีกเรื่องหนึ่งที่คอนโดแบรนด์อื่นไม่ค่อยได้ทำกันคือห้องน้ำสำเร็จรูป ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องน้ำรั่ว ห้องน้ำไม่ได้มาตรฐานไปได้ค่ะ การออกแบบโครงการ – เป็นคอนโดตรงข้ามโรงเรียนจึงมีการออกแบบเผื่อเด็กๆ โดยใช้แนวคิด Luxury Gated Community หรืออธิบายง่ายๆ ก็คือรั้วรอบขอบชิด เพราะให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยสำหรับลูกหลาน แต่ก็ยังแยกอาคาร Pavillion ที่เรียกได้ว่าเป็นฐานทัพสำหรับทำกิจกรรมของเด็กๆ ออกมาให้ห่างจากอาคารพักอาศัยสักหน่อย เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัยของลูกบ้านท่านอื่นๆ และชั้นพักอาศัยจัดวาง Layout เป็นรูปตัว L ทำให้ทุกห้องสามารถเห็นวิวได้อย่างเต็มที่ไม่บังวิวซึ่งกันและกัน การออกแบบตัวห้อง – มีแบบห้องให้เลือกเยอะมากรวมๆ แล้ว 20 แบบ โดยห้องส่วนใหญ่ในโครงการใช้แนวคิด Interlocked Layout Plan ทำให้การจัดวางผังห้องที่ลงตัวกว่าห้องทั่วไปที่เป็นสี่เหลี่ยมตามปกติ และเน้นห้องไซส์ใหญ่โดยมี 2-4 Bedroom รวมกันประมาณ 40% ซึ่งถือว่าเยอะทีเดียวและเน้นออกแบบให้เป็นหน้ากว้าง ระเบียงยาว สำหรับรับลมชมวิวโดยเฉพาะ ส่วนห้องแบบ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ก็มีให้เลือกเช่นกัน และสามารถ Combine ห้องได้เพื่อให้ตอบโจทย์กลุ่มที่อยู่อาศัยเป็นครอบครัวมากขึ้น Facilities ส่วนกลางทำออกมาได้ดี สวย น่าใช้งานมากๆ และมีให้เลือกใช้หลากหลายตอบโจทย์ทั้งเด็กๆ และผู้ปกครอง โดยพื้นที่ใช้งานหลักๆ คือที่ชั้น 1 ให้พื้นที่สีเขียวแนวราบมากกว่า 1 ไร่ ซึ่งหาไม่ได้จากโครงการขนาดเล็กแน่นอน และที่ชั้น 1 มี Highlight เป็น Pavillion ทั้ง 3 ส่วน ตอบโจทย์เด็กๆ วัยเรียน รองรับการกิจกรรมกลุ่มร่วมกับเพื่อนๆ ค่ะ อีกส่วนหนึ่งคือ Sky Facility 3 ชั้น คือ 42-44 ที่จัดมาครบทั้งฟังก์ชันแบบนั่งชิลๆ ชมวิว, Play Room สำหรับเด็ก และการออกกำลังกายทั้งว่ายน้ำและฟิตเนส ส่วนที่คิดว่าเป็น Benefit ของส่วนกลางโครงการนี้คือ “วิวแม่น้ำ” เพราะเค้าออกแบบให้ส่วนกลางเปิดรับวิวในทุกๆ จุดเลย แลกกับค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม. ถือว่าคุ้มค่าทีเดียวนะคะ Judgementการให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้ ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10% ราคา AVG ของโครงการเราไม่ได้ข้อมูลมานะคะ แต่เราจะให้คะแนนจากราคา AVG ที่เราคาดการณ์เอง ซึ่งคิดว่าน่าจะประมาณ 18x,xxx/ตร.ม. ซึ่งเราจะใช้เป็นเกณฑ์ในการให้คะแนนนะคะ แต่ถ้าราคาที่เพื่อนๆ ได้มาเพิ่มลดมากกว่านี้ก็สามารถปรับคะแนนได้ตามความเหมาะสมเลยค่ะ, วันที่ 22 February 2023
RHYTHM เจริญกรุง-พาวิลเลี่ยน เหมาะกับใครเรามองว่าโครงการ RHYTHM เจริญกรุง-พาวิลเลี่ยน เหมาะกับคน 2 กลุ่มนะคะ กลุ่มแรกคือ ครอบครัวที่มีลูกๆ เรียนอยู่โรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury หรือโรงเรียนชื่อดังในย่านนี้ ซึ่งต้องการประหยัดเวลาเดินทางให้เด็กๆ และต้องการคอนโดที่มี Facility ส่วนกลางขนาดใหญ่รองรับกิจกรรมของเด็กๆ เช่น ติวหนังสือ, จัดปาร์ตี้ส่วนตัว, วิ่งเล่นกับเพื่อนๆ มองหาห้องพักขนาดใหญ่หน่อยอยู่เป็นคอรบครัวได้ อีกกลุ่มหนึ่งคือ คนที่ต้องการคอนโดมือ 1 วิวแม่น้ำเจ้าพระยา ในทำเลที่เดินทางไปทำงานย่านสีลม-สาทรได้ง่าย อยากได้คอนโดใหม่ที่ให้พื้นที่ส่วนกลางเยอะและหลากหลาย ในงบประมาณ 7.29 – 27 ล้านบาท หรือผ่อนเริ่มต้นประมาณ 51,000 บาทค่ะ |