ม.ธ รก จบ ณฑ ตย สาขาประว ต ศาสตร ส งคม

..ช...า...ว...ญ.....ี่.ป...ุ.น.....ท....่ีไ...ด....เ..ข....า...ม...า...อ....า...ศ....ัย....อ....ย...ู.เ..ป....น.....ก....ล....ุม.........จ....น....ก.....ล....า...ย...เ..ป.....น.......

..ห....ม...บู....า...น....ช...า...ว..ญ.....ป่ี....นุ.......ส....ว..น.....ห....น....ง่ึ...ม....อี ...า...ช...พี ....ค...า...ข...า..ย......ส....ว...น....ห....น.....งึ่ ...ส....ม...คั....ร......

..เ..ป...น. ....ก....อ...ง...ท....พั....อ....า...ส....า..ช...า...ว...ญ.....ปี่ ....นุ .......ห....ร...อื....เ.ข...า...ร...บั....ร....า..ช...ก....า...ร......ท....าํ...ใ..ห....เ..ก....ดิ ......

กองทหารอาสาญ่ีปนุ ในกองทัพอยุธยา ..ก....า...ร...แ...ล....ก....เ..ป....ล....ยี่ ...น.....ภ...มู....ปิ....ญ.....ญ....า...แ...ล....ะ...ว...ัฒ.....น....ธ....ร...ร...ม....ร...ะ...ห....ว...า...ง...ก....ัน................. ..................อ....า...จ....ก....ล.....า...ว...โ...ด....ย....ส....ร....ุป.....ไ..ด.....ว....า...แ...ม....ส.....ัง....ค....ม....อ....ย...ุธ....ย....า...จ...ะ...ม....ีค.....ว...า...ม....ห....ล....า...ก....ห.....ล....า...ย....ท....า...ง....เ..ช...ื้อ....ช...า...ต....ิ.....ว...ัฒ......น.....ธ...ร....ร....ม.....

.แ....ล....ะ..ภ....ูม....ิป....ญ.....ญ.....า.......แ....ต....ท....ุก....ค....น.....ส....า...ม....า...ร...ถ....ด....ํา...ร....ง...ช...ีว...ิต....อ....ย...ู.ร...ว...ม....ก....ัน.....ไ..ด.........อ....ย...ุธ....ย...า...จ....ึง...เ..ป....น.....ส....ัง....ค....ม...ท....่ี.ผ...ส....ม....ผ....ส....า...น.....ค....ว...า...ม.....

.ห....ล....า...ก....ห....ล...า...ย...แ....ล...ะ...เ..ป...น. ....แ...บ....บ....อ....ย...า...ง...ข...อ...ง...ส.....งั ...ค....ม...ไ...ท....ย...ใ...น....ส....ม....ยั ...ต....อ...ม....า..อ....กี....ด....ว ..ย.............................................................................................

เฉลยฉบับ .......................................................................................................................................................................

a“�1คเc�ดต.�tอhคิ�ะ/)วe,ลา-นbมา.oลเช�oแู �ื�อkบ�เ/lกร/L,อ์�ียจWา้วดงก2ถหบั0ึงม1ผใา(นีหSยร)จเอื5หร0ไตญัส/LลุยWโาศฆล2าษแู0สบณ1ต-รร3าฉ์ใ์ .นนบpนัปdบั ทfรสช,ั์มญปบรราู ชั ณกญฎ์ เาหลกมม่ ฎา�หย,มไแทาปยยล,ไ”โทดสยยบื ,สค(มนัน้ ต.เปม์ ท.�ือท.ว.โ:นั กมทมห�ี ล�าบวกตุิทนั รยย,าา(พลยยันระร�นา�มค�คร�าํ:,แโhรหtงtงpพ,:มิ�//พ�ol�ร์dุง่�-เ)bร,อoื ภoงารkยตั.rในuต.,์ ้

18

ใหเ้ ห็นเด่นชดั ผ่านกฎหมายไทยในอดีต ไดแ้ ก่ กฎหมาย ตราสามดวง ซ�ึงเกิดจากการชาํ ระสะสางหลกั กฎหมาย โบราณตงั� แตใ่ นสมยั อยธุ ยา เป็นตน้ วา่

(1) พระไอยการลักษณะเบ็ดเสร็จ

เป็นกฎหมายซ�งึ รวบรวมหลกั กฎหมายในเร�ืองต่าง ๆ (บทเบด็ เตลด็ ) รวม �� ลกั ษณะ ทงั� นี� ในกฎหมายลกั ษณะ ดังกล่าวมีหลายบทบัญญัติท�ีมีความเก�ียวขอ้ งกับผีหรือ ไสยศาสตร์ตวั อยา่ งเชน่ ลกั ษณะท�ี �� ซง�ึ วา่ ดว้ ยคดเี ก�ียวกบั การเป็นผีรา้ ยตามความเช�ือของสงั คมไทยในขณะนนั� ไดแ้ ก่ ฉมบ จะกละ กระสือ และกระหาง2 รวมถึงการเป็นผูใ้ ช้ เวทมนตรค์ าถาซง�ึ ทาํ ใหผ้ อู้ น�ื ถงึ แกค่ วามตาย กฎหมายบญั ญตั ิ ใหล้ งโทษผเู้ ป็นผหี รอื ผใู้ ชเ้ วทมนตรค์ าถาดงั กลา่ ว ดงั ปรากฏ ในความตอนหนง�ึ วา่

ถ้าเป็นสัจว่าเป็นกระสือ กระหาง จะกละ ในการฟอ้ งคดีความตอนหนง�ึ ของกฎหมายลกั ษณะดงั กลา่ ว จริงไซร้ ให้เอามันผู้เป็นกระสือ กระหาง ไดก้ าํ หนดลกั ษณะตอ้ งหา้ มในการฟ้องคดี (เหตตุ ดั ฟ้อง) จะกละ มาขวิดษารภาเสีย ทรัพยส์ ิ่งสินมนั ไว้ �� ประการ ซ�ึงหากจาํ เลยผูถ้ ูกฟ้องพิสจู นไ์ ดว้ ่าโจทก์ ให้เอาเขา้ พระคลังหลวง ผู้ฟ้องคดีมีลักษณะต้องห้ามประการใดประการหน�ึง ผพู้ ิพากษาจะตอ้ งพิพากษายกฟ้องไปทนั ทีโดยไม่จาํ ตอ้ ง “มาตราหนง�ึ ผใู้ ดสอ่ ทา่ นวา่ เป็นฉมบ กฤษตยิ า รูว้ า่ น ยา พิจารณาถึงเนือ� หาของคดีเลย ทั�งนี� ลักษณะตอ้ งหา้ ม รูว้ ทิ ยาคณุ กระทาํ ใหท้ า่ นตาย พจิ ารณามเิ ป็นสจั และหากเทษ ประการหน�ึง คือ การเป็นผีรา้ ย � ประเภท ไดแ้ ก่ ฉมบ สอ่ ทา่ นดง�ั นี� ทา่ นใหล้ งโทษโดยโทษานโุ ทษ แลว้ ใหไ้ หมขวบ จะกละ และกระสอื ดงั ปรากฏในความตอนหนง�ึ วา่ คา่ ตวั ผสู้ อ่ ถา้ เป็นสจั ดจุ ผสู้ อ่ ทา่ นใหฆ้ า่ มนั ผรู้ ูค้ ณุ วา่ นยาฉมบ จะกละกฤษตยิ านนั� เสยี เพราะมนั จะทาํ ไปภายหนา้ ...” 3 “ถา้ แลอนาประชาราษฎรมถี อ้ ยคาํ รอ้ งฟอ้ งศาลา แล ฟอ้ งรอ้ งเรยี นกฎหมายโรงสารกรมใด ๆ ...อน�งึ เปนสจั วา่ (2) พระไอยการลักษณะรับฟอ้ ง เปนฉมบจะกละกะสือ แลมาฟ้องรอ้ งเรียนแก่มุขลูกขุน กด็ .ี ..แลราษฎรผตู้ อ้ งคะดมี ถี อ้ ยคาํ ตดั ฟอ้ ง ๒๐ ประการนี� เป็นกฎหมายวิธีพิจารณาความท�ีกาํ หนดหลกั เกณฑ์ ท่ า น ใ ห้ มุ ข ลู ก ขุ น พิ ภ า ก ษ า ต า ม บ ท พ ร ะ ไ อ ย ก า ร เกย�ี วกบั การรบั ฟอ้ ง การตดั ฟอ้ ง การตดั สาํ นวน และอายคุ วาม พระราชกฤษฏีกา ถ้าต้องด้วยพระไอยการห้าม ๒๐ ประการนแี� ลว้ ใหย้ กฟอ้ งเสยี ” 4

2 ฉมบ คือ ผีผหู้ ญิงซ�ึงตายในป่ าและสิงสถิตอย่ใู นบริเวณท�ีตาย มีรูปรา่ งเห็นเป็นเงา ๆ , จะกละ คือ ผีชนิดหน�ึงท�ีหมอผี เลยี� งไวใ้ ชท้ าํ รา้ ยคน เชอ�ื วา่ รูปรา่ งคลา้ ยแมว, สว่ นกระสอื กค็ อื ผซี ง�ึ สงิ สอู่ ยใู่ นตวั ของคนเพศหญิง ชอบรบั ประทานของสดคาว มกั ออกหากนิ เวลากลางคนื โดยไปแตห่ วั กบั ตบั ไตไสพ้ งุ เหน็ เป็นดวงไฟสแี ดงหรอื สเี ขยี ว, สว่ นกระหาง (หรอื กระหงั ) เป็นผชี าย เช�ือกนั วา่ เป็นผเู้ ลน่ ไสยศาสตร์ เม�อื อาคมแกก่ ลา้ จนไมส่ ามารถควบคมุ ไดก้ จ็ ะเขา้ ตวั กลายเป็นกระหางไป 3 อา้ งแลว้ เชงิ อรรถท�ี �. 4 สาํ นกั งานราชบณั ฑติ สภา, “ผี ในตราสามดวง,” สบื คน้ เม�อื วนั ท�ี � กนั ยายน ����, จาก http://www.royin.go.th/?knowl- edges=ผ-ี ในตราสามดวง

19

(3) พระไอยการลักษณะพิสูจน์ดาํ น้าํ ลยุ เพลิง

เป็นกฎหมายวิธีพิจารณาความท�ีว่าดว้ ยการพิสูจน์ ความจรงิ ในกรณีท�คี กู่ รณีไมอ่ าจยตุ ขิ อ้ พพิ าทกนั ไดเ้ น�อื งจาก ไม่สามารถหาพยานหลักฐานมาหักลา้ งกันได้ กฎหมาย จงึ อาศยั อาํ นาจสง�ิ ศกั ดสิ� ทิ ธิ�ในการตดั สนิ ชีข� าดผา่ นพธิ ีกรรม ตา่ ง ๆ เชน่ การสาบาน การวา่ ยนา�ํ การดาํ นา�ํ หรอื การลยุ เพลงิ เป็นตน้ 5 ทงั� นี� ส่วนหน�ึงของกฎหมายลกั ษณะดงั กล่าว คือ บทอ่านประกอบพิธี (โองการ) ซง�ึ แต่งดว้ ยกาพยฉ์ บงั �� มี เนอื� หาเก�ียวกบั การอญั เชญิ สง�ิ ศกั ดสิ� ทิ ธิ� เชน่ ภตู ผหี รอื เทวดา ทสง�ิัง� ศหกั ลดาสิ� ยทิ มธาิเ� หเปล็นา่ นพนั� ยอาาํนนใวนยพอิธวีย(พอรงใคหพ์ แ้ ยกผ่าบนู้ ร)สิ แทุ ลธะิแ� รลอ้ ะงลขงอโทใษห้ ผกู้ ระทาํ ผดิ ซง�ึ กลา่ วความเทจ็ 6 ตวั อยา่ งเชน่ บทอา่ นประกอบ พิธีพิสจู นด์ ว้ ยการดาํ นา�ํ (โองการดาํ นา�ํ ) ซ�ึงปรากฏความ ตอนหนง�ึ วา่

“ใครเทจ็ ชวนกนั สงั หาร อยา่ ไวเ้ นน�ิ นาน จงผลาญอยา่ ทนั ภาพพระไวยและขนุ ชา้ งดาํ นา�ํ พสิ จู นต์ อ่ หนา้ พระพนั วษา พรบิ ตา สทิ ธศิ� กั ดอิ� ารกั ษ์เทวา สาํ แดงฤทธา ใหเ้ หน็ ประจกั ษ์ โดย อาจารยเ์ ฉลมิ นาครี กั ษ์ ประกอบหนงั สอื เลา่ เรอื� งขนุ ชา้ ง ทนั ใด อาเพศเป็นงเู งอื กใน พรายนา�ํ เตบิ ใหญ่ รวบรดั กระหวดั ขนุ แผน สาํ นวน กาญจนาคพนั ธ์ุ และ นายตาํ รา ณ เมอื งใต,้ บาทา เป็นรูปอสเุ รนทยกั ษา แยกเขยี� วเบยี� วตา คาํ รามคคอื พมิ พค์ รงั� ที� �, สาํ นกั พมิ พอ์ มรินทร์, พ.ศ. ����, อา้ งใน ถอื คอ ดนั� ดาบดจุ เดยี� วเขยี� วงอ ล�าํ สนั พงึ พอ ตระมนั ตระม�นิ เวปไซตศ์ ลิ ปวฒั นธรรม, https://www.silpa-mag.com/ พงึ กลวั แลบลนิ� ปลนิ� ตาแสยงหวั หนวดเคราพนั พวั ทอ้ งพลยุ้ history/article_40782 ชลยุ กาํ ยาํ หลอกหลอนไลร่ มุ รนั ทาํ ทบุ ตอี าวอาํ คาํ รามในพนื� คงคา ใหผ้ ดุ ลกุ โลดขนึ� มา จากหลกั คลาศดา มฤาษาเอาเทจ็ เป็นจรงิ ” 7

5ศนู ยก์ ฎหมายกลาง สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา, “��� ปี กฎหมายตราสามดวง,” สบื คน้ เม�อื วนั ท�ี � กนั ยายน ����, จาก http://web.krisdika.go.th/pdfPage.jsp?type=act&actCode=40 6Silpa-mag.comศลิ ปวฒั นธรรม,“ดาํ นา�ํ ลยุ เพลงิ วธิ ีพจิ ารณาคดคี วามสมยั โบราณของไทย เมอ�ื สง�ิ ศกั ดสิ� ทิ ธิค� อื ผพู้ พิ ากษา”, สบื คน้ เม�อื วนั ท�ี � กนั ยายน ����, จาก https://www.silpa-mag.com/history/article_40782 7 เสนีย์ ปราโมทย,์ กฎหมายสมยั กรุงศรอี ยธุ ยา, (กรุงเทพมหานคร : วญิ �ชู น, ����), น.��.

20

จากท�ีกลา่ วมาขา้ งตน้ แสดงใหเ้ หน็ วา่ สก�ฎิงศหมักาดยิ�สไิททยธิ� “ขา้ พเจา้ ขอสาบานตอ่ พระแกว้ มรกต เจา้ พอ่ หลกั เมอื ง ในอดีตยอมรับในความมีอยู่จริงของผี พระสยามเทวาธริ าช และสง�ิ ศกั ดสิ� ทิ ธทิ� งั� หลายวา่ ขา้ พเจา้ จะ ไสยศาสตร์และอาํ นาจเหนอื ธรรมชาตอิ น�ื ๆ ทงั� ในฐานะทเ�ี ป็น เบกิ ความตอ่ ศาลดว้ ยความสตั ยจ์ รงิ ทงั� สนิ� หากขา้ พเจา้ นาํ ผปู้ ระสาทความยตุ ธิ รรมหรอื สญั ลกั ษณข์ อง “ธรรมะ” และ ความเทจ็ มากลา่ วแมแ้ ตน่ อ้ ย ขอภยนั ตรายและความวบิ ตั ิ ในฐานะความช�วั รา้ ยหรอื สญั ลกั ษณข์ อง “อธรรม” ถงึ แมว้ า่ ทงั� ปวงจงบงั เกิดแก่ขา้ พเจา้ โดยพลนั หากขา้ พเจา้ กล่าว ความเช�อื ในเรอ�ื งอาํ นาจเหนือธรรมชาตจิ ะเลอื นรางไปตาม ความจริงต่อศาลขอใหข้ า้ พเจา้ จงประสบแต่ความสุข การเปลย�ี นแปลงของสงั คม และบรรดาหลกั กฎหมายดงั กลา่ ว ความเจริญ” ขา้ งตน้ จะไดถ้ ูกยกเลิกไปนานแลว้ แต่ความเช�ือในเร�ือง อาํ นาจเหนือธรรมชาติดงั กล่าวก็ไม่ไดถ้ ูกตดั ขาดไปจาก อน�ึง ผู้เขียนมีข้อสังเกตทิง� ท้ายว่า สังคมไทยใน สงั คมไทยในปัจจบุ นั อยา่ งสนิ� เชิง ความเช�ือดงั กลา่ วยงั คง ปัจจบุ นั นี�ความเชอ�ื ในเรอ�ื งผหี รอื อาํ นาจเหนอื ธรรมชาตคิ อ่ ย ๆ หลงเหลืออยู่ในสังคมไทยและถูกสะท้อนให้เห็นผ่าน ถูกลดบทบาทลงไปตามการเปล�ียนแปลงของสังคม บทบญั ญตั กิ ฎหมายซง�ึ ใชบ้ งั คบั อยใู่ นปัจจบุ นั ตวั อยา่ งเชน่ โดยเฉพาะอยา่ งย�งิ ในมมุ มองของคนรุน่ ใหมซ่ ง�ึ มคี วามเช�อื ในสง�ิ ท�ีพสิ จู นไ์ ด้ และมีแนวโนม้ ท�ีจะไมน่ บั ถือลทั ธิ ศาสนา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 112 หรอื อาํ นาจเหนอื ธรรมชาตใิ ด ๆ เชน่ นี�จงึ นา่ คดิ วา่ บทบญั ญตั ิ กฎหมายท�ีสะท้อนความเช�ือดั�งเดิมดังกล่าวจะยังมี วางหลกั ว่า “ก่อนเบิกความ พยานทกุ คนตอ้ งสาบานตน ความจาํ เป็นหรอื เป็นประโยชนต์ อ่ การดาํ เนนิ คดแี ละพสิ จู น์ ตามลทั ธิศาสนาหรอื จารตี ประเพณีแหง่ ชาติของตน หรอื ความจรงิ ในปัจจบุ นั หรอื ไม่ กลา่ วคาํ ปฏญิ าณวา่ จะใหก้ ารตามความสตั ยจ์ รงิ เสยี กอ่ น...” อาจารย์กิตติภพ วังคํา บทบญั ญตั ิดงั กลา่ วกาํ หนดใหพ้ ยาน (บคุ คล) ตอ้ ง กลา่ วคาํ สาบานตนวา่ จะใหก้ ารดว้ ยความสตั ยจ์ รงิ ก่อนท�ี อ า จ า ร ย์ ป ร ะ จํ า ศู น ย์ ก ฎ ห ม า ย แ พ่ ง จะเบกิ ความตอ่ ศาล ทงั� นี�ถอ้ ยคาํ สาบานนนั� อาจแตกตา่ งกนั คณะนติ ศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร,์ ไปตามลทั ธิหรอื ศาสนาของพยาน แตต่ า่ งก็มีสาระสาํ คญั น.บ. (เกยี รตนิ ยิ มอนั ดบั 1) ในทาํ นองเดียวกัน คือ ขอให้ส�ิงศักดิ�สิทธิ�ลงโทษหรือ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (รหัส 56), ดลบันดาลให้พยานพบกับภยันตรายและความวิบัติ เนตบิ ณั ฑติ ไทย สาํ นกั อบรมกฎหมายแหง่ ทงั� หลายหากพยานกลา่ วความเทจ็ และขอใหส้ ง�ิ ศกั ดสิ� ทิ ธิ� เนตบิ ณั ฑติ สภา, น.ม. (สาขากฎหมายภาษ)ี อํานวยอวยพรให้พยานพบแต่ความสุขความเจริญ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ (รหสั 60) หากพยานกลา่ วความจรงิ ดงั จะเหน็ ไดจ้ ากถอ้ ยคาํ สาบาน ของพยานท�ีนบั ถือพระพทุ ธศาสนา ดงั นี�

21

UPDATES LEGAL ISSUES

กฎหมายใหม่

ความผดิ ฐานทําใหแ้ ทง้ ลูก ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ ไดม้ ีคําวินิจฉยั

เน�ืองจาก Thammasat Law Alumni e-Newsletter ฉบบั นีม� าใน รูปแบบฮาโลวนี ผเู้ ขยี นจงึ นกึ ไปถงึ เหตกุ ารณห์ นง�ึ ในปี พ.ศ. ���� ท�มี ี ขา่ วดงั แหง่ ปีเป็นขา่ วเก�ียวกบั การถา่ ยตดิ วญิ ญาณทารก ประกอบกบั การคน้ พบรา่ งทารกจาํ นวนมากถงึ �,��� ศพ ในบรเิ วณวดั ไผเ่ งนิ ซง�ึ ถกู ทาํ แทง้ โดยคลนิ ิกทาํ แทง้ เถ�ือนและนาํ มาทิง� ไวร้ อการแอบเผาทาํ ลาย อย่างลับ ๆ อันเป็นการสะทอ้ นใหเ้ ห็นถึงปัญหาการตัดสินใจยุติ การตงั� ครรภใ์ นขณะท�ียงั ไมพ่ รอ้ มของผหู้ ญิงดว้ ยการทาํ แทง้ เถ�ือนได้ เป็นอยา่ งดี

ทั�งนี� สาเหตุท�ีผูห้ ญิงส่วนหน�ึงตัดสินใจเขา้ ไปใชบ้ ริการคลินิก ทาํ แทง้ เถ�ือนคงเป็นเพราะการทาํ ใหต้ นเองแทง้ ลกู หรือยอมใหผ้ อู้ �ืน ทาํ ใหต้ นแทง้ ลกู เป็นการกระทาํ ความผดิ อาญา ตามมาตรา ��� แหง่ ประมวลกฎหมายอาญา อนั เป็นบทบญั ญตั ิท�ีม่งุ จะคมุ้ ครองสิทธิใน การมชี วี ติ ของทารกในครรภ์ อยา่ งไรกด็ ี สง�ิ ทค�ี วรตงั� เป็นคาํ ถามไวก้ ค็ อื ผูห้ ญิงท�ีตงั� ครรภเ์ องก็ควรท�ีจะมีสิทธิเสรีภาพในเนือ� ตวั ร่างกายใน การตดั สนิ ใจและเขา้ ถงึ การยตุ กิ ารตงั� ครรภข์ องตนเองอยา่ งปลอดภยั โดยแพทยผ์ เู้ ช�ยี วชาญเชน่ เดยี วกนั ใชห่ รอื ไม่

อน�ึง ในเร�ืองนีศ� าลรฐั ธรรมนญู ไดม้ ีคาํ วินิจฉัยท�ี �/���� ลงวนั ท�ี �� กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ���� วา่ ความผดิ ฐานทาํ ใหต้ นเองแทง้ ลกู หรอื ยอม ใหผ้ อู้ น�ื ทาํ ใหต้ นแทง้ ลกู ตามมาตรา ��� แหง่ ประมวลกฎหมายอาญา ขดั หรอื แยง้ กบั มาตรา �� ของรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาญาจกั รไทย โดย สว่ นทข�ี ดั หรอื แยง้ จะมผี ลเมอ�ื พน้ กาํ หนด ��� วนั นบั แตม่ คี าํ วนิ จิ ฉยั และ ใหห้ นว่ ยงานทเ�ี กย�ี วขอ้ งชว่ ยกนั ปรบั ปรงุ แกไ้ ขประมวลกฎหมายอาญาใหม่ อันนาํ ไปสู่มติของคณะรฐั มนตรี ในวนั ท�ี � มีนาคม พ.ศ. ���� ท�ี มอบหมายใหห้ นว่ ยงานตา่ งๆรว่ มกนั แกไ้ ขปรบั ปรงุ ประมวลกฎหมายอาญา เพอ�ื ใหเ้ ป็นไปตามคาํ วนิ จิ ฉยั ของศาลรฐั ธรรมนญู ดว้ ยเหตนุ คี� ณะกรรมการ พจิ ารณาปรบั ปรุงประมวลกฎหมายอาญาจงึ ไดย้ กรา่ งพระราชบญั ญตั ิ แกไ้ ขเพ�ิมเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบบั ท�ี ..) พ.ศ. .... (แกไ้ ข เพ�มิ เตมิ บทบญั ญตั คิ วามผดิ ฐานทาํ แทง้ ) ขนึ� มา1

1โปรดดู การรบั ฟังความคดิ เหน็ รา่ งพระราชบญั ญตั แิ กไ้ ขเพ�มิ เตมิ ประมวลกฎหมายอาญา (ฉบบั ท�ี ..) พ.ศ. .... (แกไ้ ขเพ�ิมเตมิ บทบญั ญตั คิ วามผิดฐานทาํ แทง้ ) จาก https://www.krisdika.go.th/data/comment/bill/bill242.pdf

23

โดยรา่ งพระราชบญั ญตั ฯิ ฉบบั ดงั กลา่ วไดแ้ กไ้ ของคป์ ระกอบความผดิ ของความผดิ ฐานทาํ ใหต้ นเองแทง้ ลกู หรอื ยอมใหผ้ อู้ �ืนทาํ ใหต้ นแทง้ ลกู ตามมาตรา ��� แหง่ ประมวลกฎหมายอาญา และเพ�ิมเติมอาํ นาจกระทาํ ท�ีเป็นเหตแุ ห่งการทาํ แทง้ โดยชอบดว้ ยกฎหมาย ตามมาตรา ��� แห่งประมวลกฎหมายอาญาอีกดว้ ย ซ�งึ สามารถเปรยี บเทียบใหเ้ ห็นถึงความแตกต่างระหว่างบทบญั ญตั ิท�ีใชบ้ งั คบั อย่ใู นปัจจบุ นั กบั บทบญั ญตั ิใน รา่ งพระราชบญั ญตั ขิ า้ งตน้ ดงั นี�

มาตรา / ประมวล รา่ งพระราชบญั ญตั แิ กไ้ ขเพิ่มเตมิ ประมวล กฎหมาย กฎหมายอาญา กฎหมายอาญา (ฉบบั ท่ี ..) พ.ศ. ....

(แก้ไขเพ่ิมเติมบทบัญญัติความผิดฐาน ทาํ แทง้ )

มาตรา ��� “หญิงใดทาํ ใหต้ นเองแทง้ ลกู หรอื ยอม “หญิงใดทาํ ใหต้ นเองแทง้ ลกู หรอื ยอมใหผ้ อู้ �ืน ใหผ้ อู้ น�ื ทาํ ใหต้ นเองแทง้ ลกู ตอ้ งระวางโทษ ทาํ ใหต้ นแทง้ ลกู ขณะมีอายคุ รรภเ์ กินสบิ สอง จาํ คุกไม่เกินสามปี หรือปรบั ไม่เกิน สปั ดาห์ ตอ้ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ่ กินหกเดือน หกหมน�ื บาท หรอื ทงั� จาํ ทงั� ปรบั ” หรอื ปรบั ไมเ่ กนิ หนง�ึ หมน�ื บาท หรอื ทงั� จาํ ทงั� ปรบั ” (แก้ไขเพ�ิมเติมโดยพระราชบัญญัติ แกไ้ ขเพม�ิ เตมิ ประมวลกฎหมายอาญา (ฉบบั ท�ี ��) พ.ศ. ����)

มาตรา ��� “ถา้ การกระทาํ ความผดิ ตามมาตรา ��� “ถา้ การกระทาํ ความผิดตามมาตรา ��� หรอื หรือมาตรา ��� วรรคแรกนั�น เป็น มาตรา ��� นนั� เป็นการกระทาํ ของผปู้ ระกอบ การกระทาํ ของนายแพทยแ์ ละ วิชาชีพเวชกรรมและตามหลักเกณฑ์ของ แพทยสภา ในกรณีดงั ตอ่ ไปนี� (�) จาํ เป็นตอ้ งกระทาํ เน�ืองจาก สขุ ภาพของหญิงนนั� (1) จาํ เป็นตอ้ งกระทาํ เน�ืองจากหากหญิง ตงั� ครรภต์ อ่ ไปจะเสย�ี งตอ่ การไดร้ บั อนั ตรายตอ่ (�) หญงิ มคี รรภเ์ นอ�ื งจากการกระทาํ สขุ ภาพทางกายหรอื จติ ใจของหญิงนนั� ความผิดอาญาตามท�ีบัญญัติไวใ้ น มาตรา ��� มาตรา ��� มาตรา ��� (2) จาํ เป็นตอ้ งกระทาํ เน�ืองจากหากทารก มาตรา ��� หรอื มาตรา ��� คลอดออกมาจะมคี วามเสย�ี งอยา่ งมากทจ�ี ะได้ รบั ผลกระทบจากความผิดปกติทางกายหรือ ผกู้ ระทาํ ไมม่ คี วามผดิ ” จติ ใจถงึ ขนาดทพุ พลภาพอยา่ งรา้ ยแรง

(3) หญงิ มคี รรภเ์ นอ�ื งจากการกระทาํ ความผดิ เก�ยี วกบั เพศ หรอื

(4) หญงิ ซง�ึ มอี ายคุ รรภไ์ มเ่ กนิ สบิ สองสปั ดาห์ ยนื ยนั ทจ�ี ะยตุ กิ ารตงั� ครรภ์

ผกู้ ระทาํ ไมม่ คี วามผดิ ”

จะเหน็ ไดว้ า่ สาํ หรบั มาตรา ��� ของรา่ งพระราชบญั ญตั แิ กไ้ ขเพ�มิ เตมิ ประมวลกฎหมายอาญา (ฉบบั ท�ี ..) พ.ศ. .... (แกไ้ ขเพ�มิ เตมิ บทบญั ญตั คิ วามผดิ ฐานทาํ แทง้ ) มีการเพ�มิ เตมิ เง�ือนไขเรอ�ื งอายคุ รรภข์ นึ� มาวา่ การท�ี หญงิ ใดจะมคี วามผดิ ฐานทาํ ใหต้ นเองแทง้ ลกู หรอื ยอมใหผ้ อู้ น�ื ทาํ ใหต้ นแทง้ ลกู จะมคี วามผดิ เฉพาะไดท้ าํ ในขณะ ทม�ี อี ายคุ รรภเ์ กนิ สบิ สองสปั ดาหเ์ ทา่ นนั� ซง�ึ เป็นอายคุ รรภท์ เ�ี ป็นอนั ตรายกบั หญงิ และมรี ะวางโทษลดลงเหลอื เพยี ง ตอ้ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ่ กนิ หกเดอื น หรอื ปรบั ไมเ่ กนิ หนง�ึ หมนื� บาท หรอื ทงั� จาํ ทงั� ปรบั

24

ขวกซฐกสสจา่อาาฎง�ึขขาุุ กสนนงภภหร“หเจ่วทไ่ามาาดดญานจํพาพาํมิ เร้แะยมปจขงิทบัทเอหตอิา็นใ�ีปาองน้รตงขต็น)ญอืหันออรอ้ไคไนญางตาดมงวหมุกรแ(้่�ิงาใฉญาารกนน�มตบะยไ้น�รัิ�งพทรขบัตาด่”าหยาทรํง่อว้ท(เ่พาลา�ีย�นส.�มีง.ยาร))นอ�ืุขพะยขีาซพ�งนัภรอมร้ง�ึจๆ.าเศบะาถอทาชถ.รพญกังก�บีจ.าอ้.เหทะญ.ัญถชย.(ทาาียแบคญตักงาํงกาญัํวิหกใกตัไใ้า่หขญาหนฯัิญเ“เ้ยเวพ้กจกิงกัตาห่ตาม�ิไิด็ํดิ ิหแดเรงเั�คปคตกมมืคอ้ ็วนวมิไก้ราีจาาตขบรยาิตมมภอเ้รทรใพชชแงตว์บจกดกด�ิััมมอ่ญัขรไเเ้ถไเจะขจอตปญงึทนโนงิมจสดาตยํัหวะขยปุเคง�ิิา่นญเภบขรสวรอ�ื ะาญนึัาวิย�ี�งงพมมมนงจญเตจผชวาถั�นกตดินตอล่ิ่ัึง”ิ กคทราวนณงากอมีทากเ�ีจยจสหาํา�ียเรกปงอื นอ็นจีย�ยติตงั่าใอ้มจงงีกถมทางึาาํรขกแเนพททา�มิ �ีงจ้ดเเะทตนไมพิุ�ือดอพงร้ นจลับามุภผกาาลหตพการอากรยะท(า่ �ทงา)รบราข้กจยนึ�คาแมลกราองคใดหวอมาอม่ ใกผหมิดร้ าวปจมกะถตมงึ ิี ขขทกออจา�ี ตะงรงแทรยลา่พตุาํองกแิทดพาทยจรรงส้ะตนใภรงั�หมาคาแ้ีชกรไกมรบาภ่หเ่รญัปโ์เญดพ็นญยิง�คิมผตัซวเปู้ฯิง�ตึารมมิมดะีอผกงอั ากดิอนยลบุมซคุา่วง�ึาวชริสตรอาอภชรกี ดพาีไ์ดคมเว้(วลเ่�ยชกอ้)กินงรขตสรึน�มอบิ้ มงแสกลาอนัะงโตกดสาบั ปยัมมบดหาาญัลตหกั รญเย์ากืนัตณ�ยิว�ฑนั่�า์ ผพพคแรคกะาว่ฎลวร.หศนาะาทหะวมร.มขมัม�าง่าค�นั�ผงนีาชกบื�วติดียบ�านั�หอปฐอญรัท�นนัาจาข�ี ากน�ญ้ตจญยอ�าทุ่บอตัายราสาํจันพฯิยา่งแิ(างจิรหรฉดทกไ่าะาาบรงัง้นรคงยตก)บัณีพไม�อ่ละไทปไรดาาเ่พ�ีปเวะแว.ผ้ร..ศลอลรา)่า.าอวา้คนพ�ชกกงรข�.ศบไาต่าน�ั� ปง.ั�รอญ้ตพอ.รงถอ.ีกญรับ.ตงึน.ะควิดฟัตร(กรนัแาัตงิงแั�าทกชจาครก�ีบไ้�นมรว้ขไ�บญััถราขเอฟพสงึมเญวพงดัิ�งิมคหนัตัค�ิูกมเิดาทตฯิวันเคเ�ีิมาตดว�หมมิบม่า�งั็นพคกทปกหข.ิลดศบรนัลอา่เ.ะญัหยงัวง�มจา็จนร�ญยวะา่�าใมนันต�ลกงีิ

อาจารยเ์ พียรรตั น์ ลลี าพงศธร

นอคสมณาห.ํามนาจะ.กัวนา(ทฝิสติรึกยาศิยอาขา์ปลบาสยกัรตรมธฎระรว์หมจรชิ มหมําาาาศวศวยา่าูทนิอคสยายวตาญา์รกลม์ (ายฎั สร)ธหหภรมสัรามหมท�าาศน�วยาา)ทิส,อยยตปคาารรว,ญล์ะานกยัม.าาบธใแศร.นร(นลพเมกยีะรศยีบะอราบตัตาสรรนิตชมวยิรชิญรม์าา(อรชาวหนัปาู่วสดคัถิทบวัมั�ยาภ��มา)),์

25

เส้นทางการเปิดเสรแี ละ การกํากับดแู ลกจิ การดาวเทยี ม สอื่ สารของประเทศไทย

ประเทศไทยไดร้ เิ รม�ิ “กจิ การดาวเทยี มสื�อสารภายในประเทศ” อยา่ งเป็นทางการในปี พ.ศ. ���� เดมิ กจิ การดาวเทยี มสอ�ื สารภายใน ประเทศอยใู่ นการควบคมุ ของกระทรวงคมนาคมโดยกระทรวงคมนาคม ไดท้ าํ สญั ญาสมั ปทานอนญุ าตใหบ้ รษิ ัท ชินวตั รคอมพิวเตอรแ์ อนด์ คอมมนู เิ คชน�ั ส์จาํ กดั เป็นผดู้ าํ เนนิ กจิ การดาวเทยี มสอ�ื สารภายในประเทศ ตงั� แตว่ นั ท�ี��กนั ยายน����โดยใหส้ ทิ ธขิ าดดาํ เนนิ การแตเ่ พยี งผเู้ ดยี ว เป็นเวลา �� ปี กิจการดาวเทยี มสอ�ื สารภายในประเทศจงึ ผกู ขาดโดย เอกชนท�ีไดร้ บั สมั ปทานและอย่ใู นการควบคมุ ของผใู้ หส้ มั ปทาน ซ�งึ ปัจจบุ นั คอื กระทรวงดจิ ทิ ลั เพอ�ื เศรษฐกจิ และสงั คม

นอกจากนี� ดาวเทยี มสอ�ื สารจดั เป็นโครงสรา้ งพนื� ฐานทเ�ี ป็นโครงขา่ ย ทางการสอ�ื สาร ซง�ึ อยบู่ นวงโคจรนอกโลก หรอื กลา่ วอกี นยั หนง�ึ คอื เป็น เขตแดนบนอวกาศทไ�ี มม่ รี ฐั ใดเป็นเจา้ ของเลย กจิ การดาวเทยี มสอ�ื สาร จงึ มีความเก�ียวพนั กบั เรอ�ื งระหวา่ งประเทศ มีองคก์ รระหวา่ งประเทศ มาเป็นผกู้ าํ หนดใหส้ ทิ ธแิ ตล่ ะรฐั เขา้ มาใชป้ ระโยชนไ์ ดอ้ ยา่ งเหมาะสมและ เป็นธรรมในทน�ี คี� อื สหภาพโทรคมนาคมระหวา่ งประเทศ(International Telecommunication Union : ITU) การประสานงานขอใชส้ ทิ ธใิ นวงโคจร ดาวเทียมจงึ ตอ้ งดาํ เนินการในนามของรฐั ดาวเทียมจงึ เป็นเร�อื งของ ความม�นั คงระหวา่ งประเทศและความม�นั คงของรฐั ในอกี ทางหนง�ึ ดว้ ย

อยา่ งไรกต็ าม สญั ญาสมั ปทานกาํ ลงั จะหมดอายใุ นวนั ท�ี �� กนั ยายน ���� กจิ การดาวเทยี มสอ�ื สารในประเทศมคี วามทา้ ทายอกี ครงั� วา่ จะ ผกู ขาดโดยระบบสมั ปทานและถกู ควบคมุ โดยรฐั อยา่ งเขม้ ขน้ หรอื เปิด เสรกี ารแขง่ ขนั โดยระบบใบอนญุ าตและอยใู่ นการกาํ กบั ดแู ลขององคก์ ร ของรฐั ทเ�ี ป็นอสิ ระใหเ้ กดิ การแขง่ ขนั เสรอี ยา่ งเป็นธรรมตามหลกั การแยก ผใู้ หบ้ รกิ าร (operator) ออกจากผกู้ าํ กบั กจิ การ (regulator)

สาํ หรบั ประเทศไทย ผลจากการประกนั สทิ ธิเสรภี าพขนั� พนื� ฐานตาม รฐั ธรรมนญู ทย�ี นื ยนั เสรภี าพในการสอ�ื สารถงึ กนั ของบคุ คลและเสรภี าพ ในการประกอบอาชพี เพอ�ื ใหเ้ กดิ การแขง่ ขนั อยา่ งเป็นธรรม ขจดั การกดี กนั การแข่งขันหรือผูกขาด และโดยเฉพาะอย่างย�ิงการเปิดเสรีใน กิจการโทรคมนาคมท�ีสง่ ผลใหเ้ ทคโนโลยีการส�ือสารมีไปสแู่ นวคิดใน การเปิดเสรใี นกิจการดาวเทยี มสอ�ื สารภายหลงั จากการสนิ� สดุ สญั ญา สมั ปทาน โดยเรยี งลาํ ดบั ของเสน้ ทางการเปิดความกา้ วหนา้ และมบี รกิ าร ทห�ี ลากหลายเป็นพลงั ในการขบั เคลอ�ื นเศรษฐกจิ มหาศาล บรบิ ทแวดลอ้ ม ตา่ ง ๆ เหลา่ นี�นาํ เสรแี ละการกาํ กบั กจิ การดาวเทยี มสอ�ื สารในประเทศ ดงั นี�

26

กฎหมายระดับรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560

“หมวดหนา้ ทีข่ องรัฐ” มาตรา 60

ไดก้ าํ หนดใหร้ ฐั มีหนา้ ท�ีรกั ษาไวซ้ �ึงคล�ืนความถ�ีและ สทิ ธิในวงโคจรดาวเทยี มอนั เป็นสมบตั ขิ องชาติ

“หมวดแนวนโยบายของรัฐ” มาตรา 75

กําหนดให้รัฐพึงจัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้เกิด การแขง่ ขนั และขจดั การผกู ขาดทางเศรษฐกจิ อยา่ งไมเ่ ป็นธรรม ทงั� นี� รฐั ตอ้ งไมป่ ระกอบกจิ การอนั มลี กั ษณะแขง่ ขนั กบั เอกชน เวน้ แต่ เพ�ือความม�นั คงของรฐั ประโยชนส์ ว่ นรวม หรือเพ�ือ การจดั ทาํ บรกิ ารสาธารณะ

ทงั� นี� จะเหน็ ไดว้ า่ ตามกฎหมายรฐั ธรรมนญู ฉบบั ปัจจบุ นั ไดเ้ พ�ิมเติมใหส้ ิทธิในวงโคจรดาวเทียมท�ีรฐั มีสิทธิอย่นู นั� ให้ เป็นสมบตั ขิ องชาติ การกาํ หนดเพ�ิมเตมิ ดงั กลา่ วนีจ� งึ ตอ้ งทาํ ใหม้ อี งคก์ รของรฐั เขา้ มาทาํ หนา้ ทก�ี าํ กบั ดแู ลประกอบกบั รฐั ธรรมนญู ไดร้ บั รองแนวนโยบายทางเศรษฐกจิ เสรี รฐั ตอ้ งไมด่ าํ เนนิ การ ในลกั ษณะทแ�ี ขง่ ขนั กบั เอกชน และเปิดใหเ้ อกชนไดม้ กี ารแขง่ ขนั อยา่ งเสรแี ละเป็นธรรม จงึ เป็นการเปิดทางใหก้ จิ การดาวเทยี ม ส�ือสารท�ีกาํ ลงั จะหมดอายุสญั ญาสมั ปทาน ไดอ้ ยู่ภายใต้ การกาํ กบั ดแู ลขององคก์ รของรฐั ทเ�ี ป็นอสิ ระและไมไ่ ดเ้ ป็นผใู้ ห้ บรกิ าร ตามหลกั การแยกผใู้ หบ้ รกิ ารออกจากผกู้ าํ กบั กิจการ กฎหมายระดับพระราชบัญญัติ

ในสว่ นของกฎหมายระดบั พระราชบญั ญตั ไิ ดม้ ีการปรบั ปรุงแกไ้ ขเพ�มิ เตมิ เพ�ือใหส้ อดคลอ้ งกบั หลกั การตาม รฐั ธรรมนญู และกาํ หนดรายละเอยี ดในการกาํ กบั ดแู ลกจิ การดาวเทยี มสอ�ื สาร โดยไดม้ กี ารแกไ้ ขเพม�ิ เตมิ พระราชบญั ญตั ิ องคก์ รจดั สรรคลน�ื ความถแ�ี ละการกาํ กบั การประกอบกจิ การวทิ ยกุ ระจายเสยี ง วทิ ยโุ ทรทศั นแ์ ละกจิ การโทรคมนาคม พ.ศ. ���� แกไ้ ขเพม�ิ เตมิ ฉบบั ท�ี � พ.ศ. ���� เพอ�ื ใหค้ ณะกรรมการกจิ การกระจายเสยี ง กจิ การโทรทศั น์ และกจิ การ โทรคมนาคม (กสทช.) เป็นหนว่ ยงานกาํ กบั ดแู ล โดยมเี นือ� หาสาระสาํ คญั ดงั นี� �) เพ�มิ เตมิ หนา้ ท�ใี ห้ กสทช. จดั ทาํ แผนการบรหิ ารสทิ ธิในวงโคจรดาวเทยี ม �) กาํ หนดให้กสทช. เป็นผแู้ ทนของรฐั ทม�ี อี าํ นาจในการบรหิ ารกจิ การสอ�ื สารระหวา่ งประเทศกบั สหภาพโทรคมนาคม ระหวา่ งประเทศ หรอื กบั องคก์ ารระหวา่ งประเทศอน�ื รฐั บาล และหนว่ ยงานตา่ งประเทศ ตามทอ�ี ยใู่ นหนา้ ทแ�ี ละอาํ นาจ ของ กสทช. หรอื ตามท�รี ฐั บาลมอบหมาย �) กาํ หนดให้ กสทช. เป็นผมู้ หี นา้ ท�ดี าํ เนนิ การใหไ้ ดม้ าและรกั ษาสทิ ธิในวงโคจรดาวเทยี มอนั เป็นสมบตั ขิ องชาติ �) กาํ หนดให้ กสทช. มอี าํ นาจพจิ ารณาอนญุ าตและกาํ กบั ดแู ลการประกอบกจิ การตามพระราชบญั ญตั นิ โี� ดยใช้ ชอ่ งสญั ญาณดาวเทยี มตา่ งชาติและกาํ หนดหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการเก�ยี วกบั การอนญุ าตเงอ�ื นไขและคา่ ธรรมเนยี ม การอนญุ าตดงั กลา่ ว

บทบญั ญตั ติ ามพระราชบญั ญตั ฉิ บบั ท�ีมีการแกไ้ ขเพ�ิมเตมิ ดงั กลา่ วนี� เป็นการยืนยนั การวา่ กิจการดาวเทียม สอ�ื สารในระบบกฎหมายไทยเตรยี มเปลย�ี นผา่ นไปสกู่ ารเปิดเสรกี ารแขง่ ขนั โดยการกาํ หนดอาํ นาจหนา้ ทท�ี เ�ี กย�ี วขอ้ ง

27

กบั การใชส้ ทิ ธใิ นวงโคจรดาวเทยี มและการอนญุ าตประกอบกจิ การ รวมถงึ การใหบ้ รกิ ารดาวเทยี มสอ�ื สารตา่ งชาติ กฎหมายไดเ้ ปิดทางใหม้ ีการประกอบกิจการและการอนญุ าตใหป้ ระกอบกิจการภายใตก้ ารกาํ กบั ดแู ลของ กสทช. แทนการอนญุ าตผา่ นกระทรวง กฎหมายลําดบั รอง

ในช่วงต้นปี พ.ศ. ���� ท�ีผ่านมานี� กสทช. ได้ออก ประกาศ กสทช. ทเ�ี กย�ี วขอ้ งกบั การกาํ กบั ดแู ลกจิ การดาวเทยี ม สอ�ื สาร � ฉบบั ไดแ้ ก่

(1) แผนบรหิ ารสทิ ธใิ นการเขา้ ใชว้ งโคจรดาวเทยี ม ส่ือสาร (พ.ศ. 2563)

ตามประกาศฉบบั นี� กสทช. ไดร้ บั รองวิธีการกาํ กบั ดแู ล ตามหลกั เกณฑร์ ะหวา่ งประเทศตามขอ้ บงั คบั วทิ ยขุ องสหภาพ โทรคมนาคมระหว่างประเทศ โดยการกาํ หนดประเภท วงโคจรดาวเทียมท�ีอยู่ในระบบอนุญาตตามกฎหมาย คือ (�) วงโคจรดาวเทียมประจาํ ท�ี (Geostationary Orbit : GSO) และ (�) วงโคจรดาวเทียมไมป่ ระจาํ ท�ี (Non-Geostationary Orbit : NGSO) และกาํ หนดสทิ ธิในวงโคจรดาวเทยี ม ซง�ึ แบง่ เป็นสิทธิท�ีสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) จัดสรรใหเ้ ป็นข่ายงานดาวเทียมของประเทศไทย เรียกว่า “สทิ ธิในการเขา้ ใชว้ งโคจรดาวเทยี มตามแผน(Plan)”และอกี ประเภทคอื สทิ ธิในการเขา้ ใชว้ งโคจรดาวเทยี มท�ปี ระเทศไทย ยงั ไม่ไดม้ ีสิทธิในข่ายงานดาวเทียมนนั� และตอ้ งการท�ีจะใช้ ข่ายงานดาวเทียมท�ีนอกเหนือจากสิทธิท�ีตนได้ ทัง� หมดนี� กําหนดให้ กสทช. เป็นผู้จดแจ้งสิทธิการเข้าใช้วงโคจร ดาวเทยี มในนามประเทศไทย

(2) หลกั เกณฑ์และวิธกี ารใหใ้ ช้สิทธิในวงโคจรดาวเทยี ม

ตามประกาศ กสทช. เรอ�ื งนี� กสทช. ไดก้ าํ หนดหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการอนญุ าตในการเขา้ ใชว้ งโคจรดาวเทียม เฉพาะทป�ี ระเทศไทยยงั ไมไ่ ดร้ บั การจดแจง้ สทิ ธิในขา่ ยงานดาวเทยี ม ไดแ้ ก่ (�) สทิ ธิในการเขา้ ใชว้ งโคจรดาวเทยี ม ขนั� ตน้ และ (�) สทิ ธใิ นการเขา้ ใชว้ งโคจรดาวเทยี มขนั� สมบรู ณ์ โดยวธิ ีการมากอ่ นมสี ทิ ธกิ อ่ น ทงั� นี� ผทู้ ป�ี ระสงคจ์ ะขอ เขา้ ใชส้ ทิ ธใิ นวงโคจรดาวเทยี มจะตอ้ งเป็นผไู้ ดร้ บั ใบอนญุ าตใหป้ ระกอบกจิ การโทรคมนาคมแบบท�ี � ตามกฎหมาย วา่ ดว้ ยการประกอบกจิ การโทรคมนาคม หลกั เกณฑน์ เี� ป็นการยนื ยนั การจดั ประเภทกจิ การดาวเทยี มสอ�ื สารใหเ้ ป็น กิจการโทรคมนาคม

กสทช. จะเป็นตวั แทนของรฐั ในการจดแจง้ สทิ ธิในการเขา้ ใชว้ งโคจรดาวเทยี มขนั� ตน้ จากสหภาพโทรคมนาคม ระหวา่ งประเทศ (ITU) แทนผขู้ ออนญุ าตใชส้ ทิ ธิในวงโคจรดาวเทียมขนั� ตน้ หลงั จากนนั� ผขู้ อนญุ าตจะไดร้ บั สทิ ธิ ในการประสานงานเพ�ือการเจรจาเช�ือมตอ่ สญั ญาณดาวเทียมตามระยะของขา่ ยงานดาวเทียมและการกวนกนั ของคล�ืนความถ�ี เม�ือกระบวนการทางเอกสารและทางเทคนิคเรยี บรอ้ ยแลว้ กสทช. จะทาํ การตรวจสอบขอ้ มลู เรยี บรอ้ ยและดาํ เนินการยืนยนั สทิ ธิในการเขา้ ใชว้ งโคจรดาวเทียมขนั� สมบรู ณต์ อ่ สหภาพโทรคมนาคมระหวา่ ง ประเทศ (ITU) และสหภาพโทรคมนาคมระหวา่ งประเทศ (ITU) จะเป็นผพู้ จิ ารณาความถกู ตอ้ งในการจดทะเบยี น ใชส้ ทิ ธิและแจง้ ยนื ยนั กลบั มา กสทช. ในฐานะผแู้ ทนของรฐั ตอ่ ไป

28

(3) หลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารอนญุ าตใหใ้ ชด้ าวเทยี มตา่ งชาตใิ นการใหบ้ รกิ ารภายในประเทศ

หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตของ กสทช. เมอ�ื พจิ ารณากฎหมายทกุ ระดบั แลว้ จะเหน็ ไดว้ า่ จากเดมิ ท�กี ระทรวงดจิ ทิ ลั เพ�อื เศรษฐกจิ และสงั คมเป็น เป็นการเปิดประตูสู่เสน้ ทางการเปิดเสรีในกิจการ ผอู้ นญุ าต โดยผไู้ ดร้ บั อนญุ าตใหป้ ระกอบกิจการวทิ ยุ ดาวเทยี มสอ�ื สารแมว้ า่ สญั ญาสมั ปทานจะยงั ไมส่ นิ� สดุ ลง กระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ หรอื กิจการโทรคมนาคม แตไ่ ดม้ ีการปรบั กฎหมายเพ�ือกาํ หนดอาํ นาจหนา้ ท�ีให้ หรอื ผปู้ ระสงคจ์ ะใชช้ ่องสญั ญาณดาวเทียมต่างชาติ กสทช. เป็นหนว่ ยงานกาํ กบั ดแู ลกจิ การดาวเทยี มสอ�ื สาร จะตอ้ งมีการสถานะเป็นบรษิ ัทท�ีจดั ตงั� เป็นผแู้ ทนของ อกี ทงั� การออกประกาศกาํ หนดรายละเอยี ดการดาํ เนนิ การ ดาวเทยี มตา่ งชาตนิ นั� ในประเทศไทย ของดาวเทยี มสอ�ื สารตา่ ง ๆ นนั� เป็นการทาํ ใหก้ ระบวนการ ตามกฎกติการะหว่างประเทศอย่ใู นระบบกฎหมาย อย่างไรก็ตาม การใชช้ ่องสญั ญาณดาวเทียม ผ่านการกาํ กบั ดแู ลและการอนญุ าตภายในประเทศ ต่างชาติอาจไม่ตอ้ งขออนุญาตตามหลกั การกาํ กับ ทงั� นี� เป็นไปเพ�อื ใหก้ ารเปลย�ี นผา่ นสรู่ ะบบใบอนญุ าต ดูแลดงั กล่าวนีไ� ด้ หาก (�) เป็นการใชค้ ล�ืนความถ�ี และการเปิดเสรใี นกจิ การดาวเทยี มสอ�ื สารไดอ้ ยา่ งตอ่ เนอ�ื ง วิทยุคมนาคมท�ีเป็นการเฉพาะกิจ เช่น การติดต่อ ส�ือสารระหว่างองคก์ รระหว่างประเทศหรือสถานทตู อยา่ งไรกต็ ามเสน้ ทางการเปิดเสรแี ละการกาํ กบั กงสลุ ต่าง ๆ การติดต่อส�ือสารสาํ หรบั การคน้ หาหรอื กิจการดาวเทียมส�ือสารของประเทศไทยยังคงมี กภู้ ยั โดยใชด้ าวเทยี ม การสอ�ื สารเพอ�ื การจดั การทรพั ยากร ความทา้ ทาย เพราะเสน้ ทางท�ีจะเกิดขึน� ในตลาด สง�ิ แวดลอ้ ม เหตภุ ยั พบิ ตั ฉิ กุ เฉนิ เป็นตน้ (�) การใชช้ อ่ ง ดาวเทยี มสอ�ื สารนนั� มี � เสน้ ทางดว้ ยกนั คอื สัญญาณดาวเทียมต่างชาติเป็นการช�ัวคราว เช่น ภารกิจของพระราชวงศ์ ภารกิจถ่ายทอดกิจกรรม (�) การประกอบกิจการดาวเทียมส�ือสารดว้ ย ระดับชาติ ภารกิจภัยพิบัติแห่งชาติ ภารกิจด้าน ระบบใบอนญุ าตโดย กสทช. ในฐานะองคก์ รกาํ กบั ดแู ล ความม�นั คง เป็นตน้ ขอ้ ยกเวน้ เหล่านี� ไม่จาํ ตอ้ งขอ ตามหลกั การแขง่ ขนั เสรอี ยา่ งเป็นธรรม อนญุ าตในการใชด้ าวเทยี มตา่ งชาตใิ นการบรกิ ารภาย ในประเทศ การเปิดเสรีในกิจการดาวเทียมส�ือสาร อาจมี ผใู้ หบ้ รกิ ารมากกวา่ � ราย และเกิดการแขง่ ขนั มกี าร นาํ เสนอรูปแบบเทคโนโลยดี าวเทยี มมาสกู่ ารใหบ้ รกิ าร ดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศอ�นื ๆ แตใ่ นทางขอ้ เทจ็ จรงิ กจิ การดาวเทยี มสอ�ื สารเป็นกจิ การทม�ี มี ลู คา่ การลงทนุ ท�สี งู มาก การมผี เู้ ลน่ นอ้ ยรายกอ็ าจเกิดขนึ� ไดเ้ ป็นปกติ และหากกฎเกณฑก์ ารกาํ กบั ดแู ลไม่สามารถสง่ เสรมิ และขบั เคลอ�ื นใหเ้ กิดการแขง่ ขนั ได้ ขาดประสทิ ธิภาพ ในการบรกิ ารกอ็ าจกลายเป็นขอ้ จาํ กดั ในการใหบ้ รกิ าร และนาํ ไปสกู่ ารผกู ขาดในกิจการโดยธรรมชาตไิ ด้

(�) การประกอบกจิ การดาวเทยี มดว้ ยการรบั สทิ ธิ บรหิ ารจดั การสิทธิในสินทรพั ยด์ าวเทียมส�ือสารหลงั สนิ� สดุ สญั ญาสมั ปทานจากกระทรวงดจิ ทิ ลั เพอ�ื เศรษฐกจิ และสงั คม ซง�ึ ไดร้ บั การยกเวน้ ตามบทเฉพาะกาลของ ประกาศ กสทช. เรอ�ื ง หลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการใหใ้ ชส้ ทิ ธิ ในวงโคจรดาวเทยี ม

29

การประกอบกิจการดาวเทียมในกลุ่มนี� เป็นผลพวง สมมัาจปาทกาขนอ้สกราา้ํ งหขนนึ� ดตใกนเปส็ญันกญรรามสสมั ทิ ปธทิ�ขาอนงกวร่าะใทหรท้ วรงพัคยสู่ ส์ญั ินญทา�ีผรู้ซบัง�ึ ในปัจจบุ นั คอื กระทรวงดจิ ทิ ลั เพอ�ื เศรษฐกจิ และสงั คม อยา่ งไร กด็ ี ดาวเทยี มสอ�ื สารยงั คงมอี ายใุ ชง้ านได้กระทรวงฯ ผรู้ บั มอบ ทรพั ยส์ นิ คนื ยอ่ มตอ้ งรบั มอบดาวเทยี มทย�ี งั คา้ งฟา้ และใชง้ านได้ พรอ้ มทงั� การบรกิ ารท�ตี อ้ งตอ่ เน�อื งตอ่ ไป กระทรวงฯ จงึ ตอ้ งหา ผมู้ าบรหิ ารสทิ ธใิ นสนิ ทรพั ยด์ าวเทยี มดงั กลา่ วดว้ ยวธิ กี ารคดั เลอื ก ตามพระราชบญั ญตั กิ ารรว่ มทนุ ระหวา่ งรฐั กบั เอกชน พ.ศ. ���� และถา้ หากไมส่ ามารถดาํ เนนิ การไดท้ นั เวลา กระทรวงฯ ยอ่ ม ตอ้ งรบี สรรหาผทู้ �ีสามารถบรหิ ารสทิ ธิดว้ ยวธิ ีการอ�ืน เพ�ือท�ีจะ ทาํ ใหก้ ารสอ�ื สารผา่ นดาวเทยี มมคี วามตอ่ เนอ�ื ง ทงั� นี�หากรายใด ไดส้ ิทธิการบรหิ ารไป ย่อมไดท้ งั� โครงข่ายดาวเทียมและผใู้ ช้ บรกิ ารท�ีตดิ ตวั ดาวเทียมมา โดยไมต่ อ้ งลงทนุ ใหมแ่ ตอ่ ยา่ งใด

สดุ ทา้ ยนี�เสน้ ทางการเปิดเสรแี ละการกาํ กบั กจิ การดาวเทยี ม สอ�ื สารในประเทศไทยนนั� ในระยะเปลย�ี นผา่ นยงั คงมเี สน้ ทางท�ี คู่ขนาน เพราะยงั คงมีมรดกของระบบสมั ปทานท�ียงั คงทิง� รอ่ งรอยอย่ตู ่อไปผ่านการบริหารสินทรพั ยด์ าวเทียมและจะ เป็นเช่นนีจ� นกว่าจะถึงอายกุ ารใชง้ านของดาวเทียม ดงั นนั� ในระยะเร�ิมตน้ เราอาจจะมีผูป้ ระกอบกิจการดาวเทียมท�ี เขา้ ถงึ ตลาดคนละรปู แบบและอาจทาํ ใหเ้ กดิ ผใู้ หบ้ รกิ ารหลายราย เพม�ิ มากขนึ� จากเสน้ ทางคขู่ นานนี�แตใ่ นทางกลบั กนั เราอาจจะ เห็นการเขา้ ถึงการใหบ้ ริการท�ีไม่เป็นธรรมจากการเร�ิมตน้ เช่นนีก� ็เป็นได้ หากการเปิดเสรีในกิจการดาวเทียมส�ือสาร สามารถทาํ ใหเ้ กดิ การแขง่ ขนั ท�เี สรแี ละเป็นธรรมได้ ตลาดของ กจิ การดาวเทยี มสอ�ื สารคงไมไ่ ดม้ เี พยี งแคก่ ารสอ�ื สารและสทิ ธิ ในวงโคจรดาวเทียมเทา่ นนั� แตจ่ ะมาพรอ้ มกบั เทคโนโลยีทาง อวกาศและกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ทเ�ี กดิ ขนึ� จากกจิ การดาวเทยี ม ส�ือสาร ซ�ึงจะเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจของประเทศและ ประชาชนต่อไป

คณุ พสธร อรญั ญพงษไ์ พศาล นิติกรสว่ นกฎหมายโทรคมนาคม ฝ่ายกฎหมาย บรษิ ัท กสท MmUมมโทหหnaéราiาrdvควsวeiทeมิaทิ riยนslsยlาeiาาteล,éลคtยFั ยมัdธdraธร’eAจรnรsมรiาcํ xมศกetéMาศดั สlาéaต(สcrมรsตoห์e(รmราiห์l(lชmรeสั หน,u�สั)F�n,r)�iaน,c�นn.a)บ.c,tมie.Mo.,((nสเaMกssา,ียaขtUeารsrnกตte1iฎินvrหDeิย2มrrมsoาDอiiยttrนัéมoPดหiudtาบัbd’ชAleiน�cisx)),

30

HAUNTED SPOTS CHECK-IN

รวมจดุ เชค็ อนิ สถานทชี่ วนหลอน @TU Law

ตอ้ นรบั เทศกาลฮาโลวนี ในเดอื นตลุ าคมนี� ดว้ ยการรวบรวมจดุ เชค็ อนิ สถานท�ใี นมหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ อกี ครงั� แตค่ รงั� นีเ� รามาพรอ้ มกบั ตาํ นานความเช�ือและเรอ�ื งราวสดุ ลลี� บั ซง�ึ ถกู ขบั ขานและเลา่ ลอื ถงึ สถานท�ีนนั� ๆ จนเรียกไดว้ ่าเป็นตาํ นานเร�ืองราวลีล� บั ประจาํ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตรไ์ ปแลว้ ก็ว่าได้ ซ�ึงทางเราเช�ือไดว้ ่า ลกู แม่โดมหลาย ๆ ท่านคงเคยไดย้ ินเร�ืองราวตาํ นานจากสถานท�ีเหล่านีม� าบา้ งไม่มากก็นอ้ ยอย่างแน่นอน วนั นีเ� ราจะพาท่านไปเช็คอินสถานท�ีในตาํ นานท�ีถกู กล่าวขวญั กนั มากท�ีสดุ เร�ืองไหนจะทาํ ใหท้ ่านขนหวั ลกุ เรอ�ื งไหนจะทาํ ใหท้ า่ นกลวั จนไมก่ ลา้ นอนคนเดยี ว อยา่ รอชา้ ไปดกู นั เลย

ท่าพระจนั ทร์

ลิฟตแ์ ดง คณะศิลปศาสตร์ เจา้ แม่สิงโต หรอื ศาลสิงห์โตทอง สิ่งศักดิส์ ิทธทิ์ ชี่ าว มธ. นับถือ

เชา้ มดื วนั ท�ี � ตลุ าคม ���� เหลา่ นกั ศกึ ษาไดช้ นุ นมุ ทางการเมอื ง ศาลรูปปั�นสิงโตเพศเมียขนาดใหญ่ ตั�งอยู่บริเวณข้างตึก แตก่ ลบั ถกู ทหารและตาํ รวจบกุ เขา้ กวาดลา้ งภายในมหาวทิ ยาลยั คณะเศรษฐศาสตรใ์ นมหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ (ท่าพระจนั ทร)์ ธรรมศาสตร์ นกั ศกึ ษาก็ไดว้ �ิงหนีเพ�ือเอาชีวิตรอดอยา่ งไมค่ ดิ ชีวติ ติดริมแม่นา�ํ เจา้ พระยา ตาํ นานเล่าว่า พ่อคา้ ชาวจีนคนหน�ึงได้ มีนกั ศกึ ษากลมุ่ หน�งึ ว�ิงเขา้ ไปในในลิฟตใ์ นคณะศิลปศาสตร์ เม�ือ บรรทกุ สินคา้ ลงเรอื สาํ เภาแลน่ มาตามแม่นา�ํ เจา้ พระยาเพ�ือท�ีจะ ประตลู ฟิ ตเ์ ปิดออก นกั ศกึ ษาในลฟิ ตโ์ ดนกระหนา�ํ ยงิ อยา่ งโหดเหยี� ม เขา้ มาคา้ ขายกบั ชาวไทย สนิ คา้ หน�งึ ในนนั� คือรูปปั�นสงิ โตตวั เมีย โดยท�ีไม่สามารถหลบหนีได้ ทาํ ใหท้ กุ คนเสียชีวิตและเลือดสาด และตวั ผู้ แตแ่ ลว้ ก็เกิดพายโุ หมกระหน�าํ จนเรอื อบั ปางลงในท�ีสดุ กระจายท�วั ลฟิ ต์ เม�ือพายไุ ดผ้ า่ นพน้ ไปคนในละแวกนนั� ก็ไดช้ ว่ ยกนั กสู้ �งิ ท�ีจมอยใู่ ต้ นา�ํ ขึน� มา แต่รูปปั�นนัน� สามารถกูข้ ึน� มาไดเ้ พียงแค่ตวั เมียเพียง หลงั จากเหตกุ ารณจ์ บลง ทางมหาวทิ ยาลยั ไดท้ าํ ความสะอาด ตวั เดยี วเทา่ นนั� สว่ นตวั ผนู้ นั� หาอยา่ งไรกไ็ มพ่ บ จงึ ไดต้ งั� รูปปั�นสงิ โต มหาวทิ ยาลยั แตล่ ฟิ ตท์ เ�ี ตม็ ไปดว้ ยเลอื ดกท็ าํ ใหท้ าํ ความสะอาดยาก ตวั เมยี ไวท้ �รี มิ แมน่ า�ํ หนั หนา้ เขา้ หาฝ�ัง แตใ่ นวนั รุง่ ขนึ� กพ็ บวา่ รูปปั�น จึงไดเ้ ลือกท�ีจะทาสีแดงทงั� หมดเพ�ือลบรอยเลือด และเปิดใหใ้ ช้ ไดห้ นั หนา้ ออกไปทางแม่นา�ํ นอกจากนีค� นท�ีน�ีมกั จะไดย้ ินเสียง งานปกติ คณาจารย์และนักศึกษาจึงเรียกกันว่า "ลิฟตแ์ ดง" ครา�ํ ครวญของสงิ โตตวั เมยี ท�รี อ้ งเรยี กหาคขู่ องมนั ดว้ ยความคดิ ถงึ จากนนั� ก็เรม�ิ มีเสียงเลา่ ลือถงึ ความสยองขวญั ของลฟิ ตต์ วั นนั� ทงั� และเศรา้ ใจ แตถ่ า้ เป็นคืนวนั เพ็ญบางคนก็จะเห็นลาํ แสงคสู่ ีแดง นกั ศกึ ษาและอาจารยต์ า่ งเคยสมั ผสั เหตกุ ารณช์ วนขนลกุ กนั มาแลว้ สอ่ งขนึ� มาจากแมน่ า�ํ เช�อื กนั วา่ เป็นแสงจากตาของสงิ โตตวั ผทู้ �เี ฝา้ เชน่ บางคนเขา้ ไปในลฟิ ตค์ นเดยี ว จากนนั� ไมน่ านกม็ องเหน็ คนอยู่ คอยมองหาสงิ โตตวั เมยี ท�อี ยบู่ นฝ�ัง ในลิฟตเ์ ต็มไปหมด หรอื จู่ ๆ ขณะกาํ ลงั ขนึ� ลิฟตก์ ็มีนกั ศกึ ษาเดิน เขา้ มาพรอ้ มรอยเลอื ดทไ�ี หลมาตามทาง ไมเ่ วน้ แมแ้ ตเ่ สยี งโหยหวนหรอื ส่วนใหญ่นักเรียนมาบนกับเจา้ แม่สิงโตเพ�ือขอใหส้ อบติด รอยคราบเลอื ดสแี ดง ท�หี ลายคนบอกวา่ เคยเจอกบั ตวั เองมาแลว้ ! มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ และขอใหส้ มหวงั เรอ�ื งความรกั เนอ�ื งจาก มีตาํ นานความรกั ของเจา้ แม่สิงโต สาํ หรบั ของท�ีใชใ้ นการบนกบั ในตอนนไี� มม่ กี ารใชล้ ฟิ ตแ์ ดงแลว้ เพราะลฟิ ตเ์ กา่ มาก จงึ เปลย�ี น เจา้ แมส่ งิ โต สว่ นใหญ่จะเป็น “ลกู แกว้ ” วา่ กนั วา่ เจา้ แมท่ า่ นชอบ มาใชล้ ิฟตต์ วั ใหม่ แต่ประตลู ิฟตท์ �ีเป็นสีแดงทางมหาวิทยาลยั ก็ เล่นลูกแก้วมาก แต่ก็ไม่ไดเ้ จาะจงว่าจะตอ้ งเป็นจาํ นวนก�ีลูก ไม่ไดเ้ อาไปไหน ยงั คงตงั� ไวภ้ ายในตึกตรงบริเวณบนั ไดทางขึน� นอกจากนนั� ก็ยงั มีพวกผลไม้ ดอกไม้ และพวงมาลยั แลว้ แต่ว่า ระหว่างชั�น � และชั�น � เพ�ือให้เป็นอนุสรณ์สาํ หรับระลึกถึง คนมากราบไหวไ้ ดบ้ นบานดว้ ยอะไร การตอ่ สเู้ พ�อื ประชาธิปไตยของนกั ศกึ ษา

0342

ศนู ย์รังสติ

หอพระ ทางป่ นั จักรยาน บร.1-4 หอพระ หรือเรียกช�ือเต็มว่า “หอพระพทุ ธธรรมทิฐิศาสดา” เป็นท�รี ูก้ นั มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ศนู ยร์ งั สติ นนั� มเี สน้ ทาง ตงั� อยใู่ นบรเิ วณตรงขา้ มหอสมดุ ป๋ วยในมหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ป�ันจกั รยานภายในมหาวิทยาลยั แตใ่ ครจะไปรูล้ ะ่ วา่ เสน้ ทางป�ัน ศนู ยร์ งั สิต โดยไดก้ ่อสรา้ งแลว้ เสร็จใน พ.ศ. ���� ปัจจบุ นั เป็น จกั รยานน�แี หละ จะเป็นอกี หนง�ึ จดุ ท�เี กดิ เรอ�ื งลลี� บั สดุ หลอนเชน่ กนั สถานทจ�ี ดั กจิ กรรมตา่ ง ๆ ทางศาสนา เชน่ ทาํ บญุ สวดมนต์ไหวพ้ ระ เน�ืองจากเสน้ ทางนีใ� นช่วงเวลากลางคืนทงั� เปล�ียวและมืดมาก วิปัสนา กรรมฐาน ทั�งในวันพระ รวมถึงเปิดใหเ้ วียนเทียนใน แถมไฟกด็ บั ๆ ตดิ ๆ ชวนคดิ ถงึ บรรยายชวนหลอนในยามกลางคนื เทศกาลสาํ คญั ตา่ ง ๆ ทางศาสนา โดยเปิดใหน้ กั ศกึ ษา และบคุ คลกร เสน้ ทางปันจกั รยานเสน้ นนั� ก็คือ “ทางป�ันจกั รยาน บร.�-�” โดย ของมหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ รวมถงึ ประชาชนสามารถเขา้ รว่ ม เร�อื งเลา่ มีอยวู่ า่ นกั ศกึ ษาคนนงึ ออกมาป�ันจกั รยานกลางดกึ ตรง กิจกรรมทางศาสนาดงั กลา่ วได้ บรเิ วณ บร.�-บร.� ซง�ึ ทางเปลย�ี วและมดื มาก แถมไฟกด็ บั ๆ ตดิ ๆ นอกจากจะเป็นสถานทส�ี าํ หรบั ประกอบกจิ กรรมทางศาสนาแลว้ ระหวา่ งทางท�ีเขากาํ ลงั ป�ันจกั รยานอยนู่ นั� อยดู่ ี ๆ ก็รูส้ กึ วา่ ตอ้ งใช้ หอพระยงั มีอีกหน�งึ เรอ�ื งราวชวนหลอนท�ียงั ไมส่ ามารถอธิบายได้ แรงในการป�ันจกั รยานมากขนึ� เหมือนมีคนน�งั ซอ้ นทา้ ยจกั รยาน เลา่ กนั วา่ ...มีคนเคยเขา้ ไปไหวพ้ ระท�ีหอพระแลว้ ถา่ ยภาพกลบั มา ดว้ ยความกลวั จงึ ไมก่ ลา้ หนั ไป และรบี ป�ันจกั รยานมงุ่ หนา้ กลบั หอ ปรากฏว่าในภาพเห็นหัวของผูห้ ญิงหน�ึงหัวซ�ึงไม่ใช่เพ�ือนท�ีไป พอพน้ บร.� จงึ คอ่ ยรูส้ กึ วา่ ไมม่ อี ะไรอยขู่ า้ งหลงั จนทาํ ใหพ้ ดู กนั วา่ ดว้ ยกัน และบริเวณใกลเ้ คียงอีกท�ี คือ พิพิธภณั ฑธ์ รรมศาสตร์ อยา่ ผา่ นเสน้ บร. ในเวลากลางคนื มเิ ชน่ นนั� กอ็ าจจะมคี นซอ้ นทา้ ย เฉลิมพระเกียรติ ซ�ึงเป็นสถานท�ีจัดแสดงวัตถุทางวัฒนธรรม รถจกั รยานโดยไมร่ ูต้ วั ทั�งโบราณและร่วมสมัย ท�ีน�ีมักจะมีเร�ืองราวแปลก ๆ เกิดขึน� อย่เู สมอ เช่น รปภ. ท�ีเฝา้ ตอนกลางคืนคนหน�งึ เลา่ วา่ บางคืนไฟ ในพพิ ธิ ภณั ฑก์ ็เปิดปิดเอง บางคนื ก็ไดย้ นิ เสยี งเดก็ ว�งิ เลน่ บางคน ก็เล่าว่าเคยเห็นชายแก่คนหน�ึงน�ังยอง ๆ อุม้ ตูพ้ ระไตรปิฎกซ�ึง เป็นโบราณวตั ถชุ ิน� หน�ึงในพิพิธภณั ฑเ์ อาไว้ซ�งึ น่าจะเป็นเจา้ ของ คนเก่าท�ีบรจิ าคโบราณวตั ถชุ ิน� นีใ� หก้ บั พิพิธภณั ฑ์

0343

ศูนย์รังสิต

สะพานดาว หอใน โซน B และ C สะพานดาวบรเิ วณตรงขา้ มตกึ เรยี นคณะแพทยศาสตร์ เป็น สาํ หรับหอพักบริเวณโซน B นั�นมีหลากหลากตาํ นาน สถานท�ีจัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น งานลอยกระทง งานคอนเสิรต์ หลากหลายรูปแบบซ�ึงแต่ละคนเจอเร�ืองราวสุดสยองขวัญท�ี ฟังเพลงฤดหู นาว เป็นตน้ เรอ�ื งเลา่ สยองขวญั ทส�ี ะพานดาวเกดิ ขนึ� อธิบายไม่ไดแ้ ตกต่างกัน แต่วันนีท� างเราของยกมาอย่างหน�ึง ในช่วงเวลากลางคืน เล่ากนั ว่าเคยมีคนเห็นผหู้ ญิงผมยาวสวม เรอ�ื งราวจากโซน B และโซน C ทใ�ี ครไดอ้ า่ นแลว้ รบั รองคงขนหวั ลกุ ชดุ ขาวยนื มองหนา้ กอ่ นทเ�ี ธอคนนนั� จะคอ่ ย ๆ เดนิ ลงนา�ํ ไปตอนดกึ อยา่ งแน่นอน เรม�ิ ตน้ จากหอพกั บรเิ วณโซน B เร�อื งมีอยวู่ า่ จะมีผี และผหู้ ญงิ คนนนั� มาเขา้ ฝันใหไ้ ปทาํ บญุ ให้ และอกี เรอ�ื งราวจากคน ผหู้ ญิงคนหน�งึ ท�ีมากระโดดตกึ ฆา่ ตวั ตาย โดยในคืนวนั หน�งึ มีคน คนหนง�ึ ทเ�ี ขาเลา่ วา่ เขาเคยเหน็ คนเดนิ ตามตนเองตงั� แตส่ ะพานดาว มาเคาะประตหู อ้ งของผชู้ ายคนหนง�ึ ดว้ ยความสงสยั เจา้ ของหอ้ ง จนถึงหน้าห้อง เม�ือสังเกตดูดี ๆ ปรากฏว่าคนท�ีตามมาเป็น จึงมองลอดตาแมว ปรากฏว่าเห็นผหู้ ญิงยืนอย่หู นา้ หอ้ งของตน ผชู้ ายไมม่ ขี า ไมเ่ พยี งเทา่ นนั� หลงั จากตามมาแลว้ ยงั มายนื รอหนา้ และท�ีงงไปกวา่ นนั� ผหู้ ญิงคนนีข� นึ� มาไดย้ งั ไงเพราะหอท�ีเขาพกั อยู่ ประตปู ระมาณ �-� วนั ไมย่ อมไปไหน นอกจากนี� ยงั มีอีกตาํ นาน เป็นหอชาย แตเ่ ขายงั ไมท่ นั จะเอย่ อะไรไป ผหู้ ญิงคนนนั� กก็ ม้ หนา้ สะพานดาวสดุ หลอนจากเดก็ แพทย์ � คนทไ�ี ปเดนิ เลน่ ทส�ี ะพานดาว รอ้ งไห้ แลว้ ก็กรี�ดดดดดดดดด!!! จากนัน� ก็ว�ิงตดั หนา้ ตรงไปท�ี ตอนกลางคืน ระหวา่ งทางเดินสะพานทงั� สามคนเห็นคนกระโดด ระเบยี ง แลว้ กระโดดลงไปตอ่ หนา้ ตอ่ ตาเลย ผชู้ ายคนนนั� กลวั มาก ลงนา�ํ คนแรกจงึ กระโดดลงไปชว่ ย แลว้ คนท�ี � กก็ ระโดดตาม สว่ น แตอ่ ยากรูเ้ รอ�ื งวา่ มนั เกิดอะไรขนึ� กนั แน่ จงึ จะลงไปถาม รปภ. แต่ อกี คนโทรเรยี กใหเ้ พอ�ื นมาชว่ ย สกั พกั เพอ�ื นคนท�ี � ผดุ ขนึ� มา แตค่ น ดว้ ยความกลวั ทาํ ใหเ้ ขาเลอื กเดนิ ลงบนั ไดหนไี ฟแทนลงลฟิ ต์ และ แรกหายไปเลยคิดว่าจมนา�ํ จึงงมหาต่อ สกั พกั เพ�ือนโทรกลบั มา สง�ิ ทท�ี าํ ใหเ้ ขาตกใจจนพดู ไมอ่ อกคอื เขากไ็ ดเ้ หน็ ผผี หู้ ญิงทก�ี ระโดด บอกวา่ ใหเ้ พอ�ื นหยดุ หาและขนึ� มาจากนา�ํ เพราะวา่ เพอ�ื นคนแรกนนั� ลงไปตอ่ หนา้ เขา เดนิ สวนกลบั ขนึ� มาอีกครงั� นอกจากนีย� งั เลา่ กนั กาํ ลงั น�งั อา่ นหนงั สอื อยู่ ทาํ ใหเ้ ดก็ แพทยก์ ลมุ่ นเี� กดิ คาํ ถามอยใู่ นใจวา่ ว่าผหู้ ญิงคนนีม� าเคาะประตแู ละกระโดดตึกฆ่าตวั ตายวนเวียน แทจ้ รงิ แลว้ คนท�เี ดนิ มาดว้ ยตอนแรกคอื ใคร แลว้ ใครกระโดดลงนา�ํ อยา่ งนนั� ทกุ ปี และแตล่ ะปีจะเลอื กหอ้ งไมซ่ า�ํ กนั กนั แน?่

34

ศนู ย์รังสติ ศูนย์ลําปาง

หอใน โซน B และ C (ต่อ) เงาดาํ บนตึกศิลปกรรมศาสตร์ สาํ หรบั เร�อื งราวของหอพกั ในโซน C มีผหู้ ญิงคนหน�งึ อาศยั ศิษยธ์ รรมศาสตรท์ �ีเรยี น ณ ศนู ยล์ าํ ปางลว้ นรบั รูเ้ ร�อื งเลา่ ท�ี อย่ใู นหอ้ ง เธอมกั จะไดย้ ินเสียงคลา้ ย ๆ โทรศพั ทส์ �นั อย่บู อ่ ยครงั� ชวนขนลกุ ขนพองเร�อื งนีอ� ย่างแน่นอน เร�อื งมีอย่วู ่า ในสมยั ตอน จนวนั หนง�ึ แมข่ องเธอมาท�ีหอแลว้ พาเพ�ือนมาดว้ ย ผหู้ ญิงเจา้ ของ กอ่ สรา้ งตกึ ศลิ ปกรรมฯ มกี ารพบศพ ซง�ึ เป็นเรอ�ื งบอกเลา่ ตอ่ กนั มา หอ้ งก็เลยเลา่ เหตกุ ารณท์ �ีเกิดขนึ� ใหแ้ มแ่ ละเพ�ือนของแมฟ่ ัง เพ�ือน ตงั� แตส่ มยั มหาวิทยาลยั เพ�ิงยา้ ยจากศาลากลางหลงั เดิมมาอยทู่ �ี ของแม่ถามถึงเลขหอ้ งและบอกว่า “เคยมีคนทาํ แทง้ ในหอ้ งเรา หา้ งฉตั รเชน่ เดยี วกบั ปัจจบุ นั นี� ตอ่ มามเี รอ�ื งเลา่ วา่ มนี กั ศกึ ษากาํ ลงั แต่ไม่มีอะไร เขาแค่อยากมาเลน่ ดว้ ย คยุ เลน่ กบั เขาบา้ ง มีอะไร จะเดนิ จากหอไปท�หี อ้ งสมดุ ตอนชว่ งโพลเ้ พล้ ฟา้ ใกลม้ ดื โดยผา่ น กเ็ รยี กเขากนิ แบง่ เขา ซอื� นา�ํ แดงซอื� อะไรมาวางไวใ้ หเ้ ขาเลน่ หนอ่ ย” ทางเดินทางเก่า ก็คือ ทางเดินเสน้ ผ่านหนา้ หอพกั บคุ ลากร เม�ือ หลงั จากนนั� ก็พดู คยุ กนั จนแยกยา้ ยกลบั บา้ น ตอนนนั� ผหู้ ญิงคนนี� นกั ศกึ ษาคนนนั� เงยหนา้ มองขนึ� ไปท�ีดาดฟา้ ของตกึ ศลิ ปกรรมฯ ก็ มกี ีตารต์ วั หนง�ึ และเธอชอบเลน่ กีตารไ์ ปรอ้ งเพลงไป เธอสงั เกตวา่ เห็นเป็นเงาคนยืนอย่บู นขอบตกึ ตอนนนั� นกั ศกึ ษาเลา่ ว่าก็ไม่ได้ เม�ือเล่นกีตารเ์ วลาท�ีไดย้ ินเสียงส�นั ๆ เสียงส�นั ๆ นัน� จะหายไป คดิ อะไรมาก พอ �-� วนั ตอ่ มารุน่ พ�กี ด็ นั เลา่ เรอ�ื งลลี� บั ถงึ เงาบนตกึ เสมอ ทาํ ใหเ้ ธอคดิ ไปวา่ นอ้ งเขาชอบฟังเธอเลน่ กีตาร์ หลงั จากนนั� ศลิ ปกรรมฯ ใหฟ้ ังวา่ ชว่ งเวลาเยน็ ๆ ใกลค้ �าํ � โมงบา้ ง � โมงบา้ ง เธอจึงน�งั เลน่ กีตารเ์ ม�ือกลบั มาท�ีหอ้ งทกุ วนั แต่ระหว่างตอนเล่น บางครงั� จะเหน็ เงาดาํ ทะมนึ ยนื อยบู่ นตกึ ศลิ ปกรรมฯ ทาํ ใหย้ อ้ นกลบั กีตารเ์ ธอจะรูส้ กึ ชาบรเิ วณขาขา้ งซา้ ย เหมือนมีอะไรมาทบั ตลอด ไปนกึ ถงึ เหตกุ ารณข์ องตวั เอง จงึ น�งั คดิ ทบทวนพลางสงสยั วา่ เวลา เวลา เม�ือเลน่ จบแลว้ พดู ว่า เลน่ เสรจ็ แลว้ ลกุ ไดแ้ ลว้ อาการแบบ ตอนทเ�ี หน็ นนั� มนั กเ็ ป็นชว่ งเวลาใกลค้ า�ํ ทท�ี อ้ งฟา้ จะออกสสี ม้ ๆ จาก นีก� ็หายไป ทาํ แบบนั�นทุกวัน....จนเหมือนส�ิงนั�นเป็นส่วนหน�ึง สีของดวงอาทิตย์ ถา้ หากเป็นคนจริง ๆ อย่างนอ้ ยก็ตอ้ งเห็นสี ในชีวิตเธอ เสอื� ผา้ บา้ ง เหน็ การขยบั รา่ งกายบา้ ง หรอื แมแ้ ตเ่ งาหนา้ ตา อกี ทงั� เวลาโพลเ้ พลแ้ บบนนั� ก็ไมม่ ีเหตผุ ลอะไรท�ีจะขนึ� ไป แตน่ �ีท�ีเหน็ คือ เป็นแคเ่ งาสีดาํ สนิท ไมม่ ีรายละเอียดใด ๆ แถมยืนตรงน�ิงมาก ก็ ไมร่ ูว้ า่ สง�ิ ท�นี กั ศกึ ษาคนนนั� มองเหน็ นนั� ….ใชห่ รอื เปลา่ จวบจนทกุ วนั นแี� มบ่ า้ นทค�ี อยดแู ลตกึ นกี� พ็ ดู อยเู่ สมอวา่ ตกึ นมี� สี ง�ิ เรน้ ลบั อยู่ หรอื ส�งิ ท�ีเรากาํ ลงั คิด บางครงั� อาจจะอยใู่ กลต้ วั พวกคณุ …ก็เป็นได้

35

ALUMNI TALKS

. . .พูดคยุ กบั ศษิ ยเ์ กา่

ศษิ ย์ธรรมศาสตร์ มงุ่ มน่ั สร้างสงั คม แหง่ ความเปน็ ธรรม

ตลอดชว่ งเวลากวา่ �� ปี ทค�ี ณะนติ ศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ กอ่ ตงั� มา คณะฯ ไดผ้ ลติ นกั กฎหมายจาํ นวนมากทม�ี คี วามสามารถพรอ้ มดว้ ย คณุ ธรรมออกไปรบั ใชส้ งั คมกองบรรณาธกิ ารจลุ สารประชาคมศษิ ยเ์กา่ นติ ศิ าสตร์ จงึ ขอพาทกุ ทา่ นไปทาํ ความรูจ้ กั กบั ศษิ ยเ์ กา่ ทา่ นหนง�ึ ซง�ึ อทุ ศิ ตนทาํ งานเพ�อื สว่ นรวมผา่ นการประกอบกิจการเพ�ือสงั คม (social enterprise) ศิษยเ์ ก่า ทา่ นนนั� คอื อาจารยเ์ ทวญั อทุ ยั วฒั น์ ศษิ ยเ์ กา่ คณะนติ ศิ าสตร์ รุน่ ���� หรอื นติ โิ ดม รุน่ ��

ปัจจุบันอาจารย์เทวัญดาํ รงตาํ แหน่งกรรมการในบริษัทต่าง ๆ (กรรมการอาชพี ) และเป็นนกั วชิ าการอสิ ระ อกี ทงั� ยงั เป็นผกู้ อ่ ตงั� และดาํ เนนิ โครงการ “Better Thailand” ซง�ึ เป็นโครงการทไ�ี มพ่ ง�ึ พางบประมาณจากภาครฐั หรอื การบรจิ าคจากบคุ คลท�วั ไป แตด่ าํ เนินโครงการในรูปแบบของกิจการ เพอ�ื สงั คม (social enterprise) ซง�ึ กค็ อื กจิ การทม�ี รี ายไดจ้ ากการจาํ หนา่ ยสนิ คา้ หรอื บรกิ ารโดยมเี ปา้ หมายเพอ�ื แกไ้ ขปัญหาสงั คม โครงการนสี� ามารถหารายได้ ดว้ ยการรบั สินคา้ จากผดู้ อ้ ยโอกาสและกล่มุ แม่บา้ นต่าง ๆ มาจาํ หน่ายท�ี ตปู้ ันสขุ โดยตปู้ ันสขุ จะตงั� อย่ตู ามรา้ นคา้ ตา่ ง ๆ ท�ีเขา้ รว่ มเป็นผสู้ นบั สนนุ โครงการ รวมทงั� จากการจาํ หนา่ ยสนิ คา้ ผา่ นรา้ นคา้ ณ อา่ งศลิ า จงั หวดั ชลบรุ ี นอกจากนีอ� าจารยเ์ ทวญั ยงั นาํ เงนิ สว่ นตวั มาใชใ้ นการดาํ เนินโครงการดว้ ย สาํ หรบั รายไดจ้ ากการดาํ เนินโครงการ อาจารยเ์ ทวญั และคณะทาํ งานได้ นาํ มาใชใ้ นการจดั กิจกรรมใหค้ าํ ปรกึ ษาทางกฎหมายและจดั เสวนาทาง กฎหมายแก่ประชาชนโดยไมค่ ดิ คา่ ใชจ้ า่ ยในนาม “ชมรมกฎหมายปันสขุ ” โดยจดั เป็นประจาํ ทกุ สปั ดาหใ์ นชว่ งบา่ ยวนั พฤหสั บดี ณ สมาคมบา้ นปันรกั

แรงบนั ดาลใจในการทาํ งานเพ�ือสงั คมของอาจารยเ์ ทวญั เรม�ิ ตน้ จาก การศกึ ษาทค�ี ณะนติ ศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ คณาจารยไ์ ดถ้ า่ ยทอด แนวคิดในการดาํ เนินชีวิตและปลูกฝังจิตวิญญาณธรรมศาสตรใ์ หแ้ ก่ อาจารยเ์ ทวญั โดยอาจารยเ์ ทวญั กลา่ ววา่

ควตอขผคา่อามววอ้ จจาางขงาํมมาครอเอรเผณอลป“ยบดินตย็นท์ะคใญเุอ้ นธปพนิ องร็าิตนคยขบรติดศผช์มอเเสนบอูีา้อพศมาสกรย่าูดญสิตอสชวรทุอืต�ร่าาตัจ์ธออรมทโะจิ�ใ์ยานจีคี�ทนนจู่นสะวคาํากถสะาอรววคง่มยาะซา่ผรรทม์ไจ�ึงลูบัส้รยทรี�ะกตกึูส้งมัา่ทรอ้ผนกึนกีะ่างูกผกึาไทนขดมพถรบีดตพงถึค้นั ตเออ้า่สอิ่สกอ่ยงยจูนนบั้เกเู่ทนสขสใคาอาครต์้มณรภีงดว้อใม�าาคะหก�าพมฯวค็เ้�กรผแาอืแามลเดิอสลมอะคานแะ้ีาคอดิจลธจสิวาเผรวรา้ารรรมอืก�รภยมมยงอแ็ท์ารศวเ์าลพกกอุ ชิาจะยทีขบาสาเรอา่ชพครตตนงยพีออื�รบขิทป์์นมบนจคุสี�รกาัแรคดีอๆกกลวลนี นฎเะใจักกนะเมหนพษม็ ครมีคะรคีุ่มนรสาวาวบัททยวาะารสกุัขมกมสพัดคอฎลสมยิงน�หะนตยัค์อทเมอทินอารกี�านบสัจนีัย� ย็คนนาเดทสนงรนมั�ใจนยา่ัยี�ทนกนะจน์ผาบ่ักยสิตษิมนลางัอตฐเครกูจปนิาวดิศตาํ็นวนิเวไษิงิคา่คได่าศเยวรณรม้ภกาม้์หานับะทอ่ัจารมหนดกยิือะี์ี์ ทใหศี� แ้ ษิ กยพ่ เ์วกก่าเรธารรทมาํ ศใหาเ้สราตไรด์ทเ้ หกุ น็ คถนงึ มคกีวาค็ มอื สกาํ าครญั ทขเี� รอางรกัการปชรว่ ะยชเหาชลอนื ส”งั คมครบั ผมคดิ ว่าความเป็ นธรรมศาสตร์

37

การทาํ งานเพ่อื สังคม ทาํ ใหผ้ มทราบวา่ ปั ญหาสําคญั ของสังคมไทย คอื ปั ญหาเรอ่ื งความเหลอ่ื มล้าํ ทางสังคม ซ่ึงเป็นปั ญหาเชิงโครงสร้างท่ีค่อนข้างหย่ังรากลึก โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ปั ญหาความเหลอ่ื มล้าํ ในการเขา้ ถงึ ความรทู้ างกฎหมายและกระบวนการยตุ ธิ รรม คนไทย ส่วนใหญ่ไม่รู้กฎหมาย บางคนไม่ทราบว่าสิ่งท่ีตนได้ ประพฤติปฏิบัติมาน้ันเป็นสิ่งท่ีผิดกฎหมาย ทําให้ใน บางครง้ั อาจกอ่ เกดิ ความเสียหายข้นึ อยา่ งรา้ ยแรงและ ยากตอ่ การเยยี วยา เพราะฉะนน้ั จงึ เปน็ หนา้ ทข่ี องเรา ๆ ในฐานะทเ่ี ปน็ นกั กฎหมายจากคณะนติ ศิ าสตร์ ธรรมศาสตร์ ท่ีจะต้องนําความรู้ท่ีได้รับจากสถาบันไปช่วยเหลือ ประชาชน และแก้ไขปั ญหาความเหล่ือมล้ําทางสังคม ทห่ี ยง่ั รากลกึ อยใู่ นสังคมไทยใหห้ มดไป

นอกจากนี� อาจารยเ์ ทวญั ยงั ไดแ้ รงบนั ดาลใจจากประสบการณก์ ารทาํ งานทส�ี าํ นกั งานกฎหมายของ ดร.อกุ ฤษ มงคลนาวนิ ซง�ึ ถอื เป็นบคุ คลตน้ แบบของการทาํ เพอ�ื สงั คม รวมทงั� ประสบการณใ์ นชว่ งทศ�ี กึ ษาอยทู่ อ�ี งั กฤษและสหรฐั อเมรกิ า และประสบการณก์ ารทาํ งาน ทส�ี าํ นกั งานกฎหมายในรฐั Texas ซง�ึ เคยไดม้ โี อกาสไปชว่ ยงาน Legal Pro Bono ซง�ึ เป็นการชว่ ยเหลอื ทางกฎหมายแกค่ นยากจนและ คนผวิ สี ประกอบกบั การสวรรคตของในหลวงรชั กาลท�ี � ในชว่ งปลายปี พ.ศ. ���� ทาํ ใหอ้ าจารยเ์ ทวญั เกดิ ความคดิ ทจ�ี ะกอ่ ตงั� โครงการ เพอ�ื สงั คมและไดต้ ดั สนิ ใจกอ่ ตงั� โครงการ Better Thailand ขนึ� มา

อาจารยเ์ ทวญั ไดน้ าํ ทกั ษะและความรูจ้ ากการเรียน คณะนติ ศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ มาใชใ้ นการทาํ งาน เพ�ือสว่ นรวม โดยใชท้ กั ษะการมองส�งิ ตา่ ง ๆ อยา่ งเป็นระบบ ในการบริหารจดั การโครงการและใชค้ วามรูท้ างนิติศาสตร์ ในการใหค้ าํ ปรกึ ษาและถ่ายทอดความรูด้ า้ นกฎหมายอยา่ ง ม�นั ใจ โดยอาจารยเ์ ทวญั กลา่ ววา่

“การเรยี นนติ ศิ าสตรช์ ว่ ยใหเ้ รามองเหน็ ถงึ ปัญหาและ สามารถแกไ้ ขปญั หาไดอ้ ยา่ งเป็นระบบ ผมเชอื� วา่ ปญั หามไี ว้ กมกในหากบัีคั แรก้ ควใฎกาชณหไ้มค้ขมาวรจาูทาไ้ ยามมี�จร่ไระผยดูท้ นม์ทม้รี� คาํ�าีค�ํีไดไิเวณรปวใ้ยีา่หใะนคชนท้ งมใ้ ติมกุ นาอขิศีใกปน์ใุาาจสกสรราตแกรรรคกาช์อรไ้วท่ ยเขยราํา่ปียเใงหัญหนมลเา้นหอรืกติาสาใมิศนงั แคกีคาลามสวระตาทถกมราํา้า์ทมโผคราํ�นัมรเใรงใไหีกยจมเ้าในใ่รรนชาร”ู่้

นอกจากการศกึ ษาทค�ี ณะนติ ศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตรจ์ ะทาํ ใหอ้ าจารยเ์ ทวญั ไดร้ บั ทกั ษะและความรูแ้ ลว้ อาจารยเ์ ทวญั ยงั ไดร้ ูจ้ กั เพ�ือน ๆ ท�ีมีอดุ มการณเ์ ดียวกนั สง่ ผลใหก้ ารดาํ เนินโครงการ Better Thailand ไดร้ บั ความรว่ มมือและการสนบั สนนุ ใน ลกั ษณะตา่ ง ๆ จากบรรดาศษิ ยเ์ กา่ ของคณะนติ ศิ าสตรเ์ป็นอยา่ งดี เชน่ การมสี ว่ นรว่ มในการดาํ เนนิ โครงการ การอดุ หนนุ สนิ คา้ ของโครงการ การอาํ นวยความสะดวกเรอ�ื งสถานทใ�ี นการประชมุ คณะทาํ งาน ดงั ทอ�ี าจารยเ์ ทวญั ไดก้ ลา่ วถงึ การสนบั สนนุ ของศษิ ยเ์ กา่ ไวว้ า่

328

ดา้ นสง“ั คศมิษยก์เอ็ กา่าจคจณะเอะย่นชิตอื� ิศทาา่ สนตกรค็ ์หงไลดา้ คยอืท่ารนนุ่ พเอนี� งติ กโิ ็ไดปมทราํ นุ่ งา�น� หลงั จากท�ีไดท้ าํ ความรูจ้ กั กบั อาจารยเ์ ทวญั และโครงการ กชอกื�็ รสณุ ถาารพบั รเปล็นมิ� ทมปี� ณรกึ ี ทษเี�าปข็นอเงจชา้มขรอมงนสะาํ คนรกับั พบมิ าพงคว์ ญินเ�ป็นูชเนจา้ ทขา่อนง Better Thailand ไปแลว้ เราจะเหน็ ไดว้ า่ แผนงานตา่ ง ๆ ภายใต้ สอาะํ นไรกั เกกฎี�ยหวขมอ้ายงกกบั บ็ คอดกีคววา่ าไมมม่ เเี ขวาลกาม็ยาินสดอีในหหค้ รวอากมชแ่วตยว่ า่เหถลา้ มือี โครงการ Better Thailand ลว้ นแลว้ แตเ่ กิดขนึ� ดว้ ยความมงุ่ ม�นั ผมก็ถือว่านิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์เราเนี�ย พอผมไปขอ ของอาจารยเ์ ทวัญและคณะทาํ งานท�ีตอ้ งการผลกั ดันใหเ้ กิด ความร่วมมือ พอชกั ชวนมาเนีย� ทุกคนก็ใหค้ วามร่วมมือ ความเสมอภาคทางดา้ นกฎหมาย จงึ นบั ไดว้ า่ อาจารยเ์ ทวญั เป็น ใหก้ ารสนบั สนนุ และใหค้ วามชว่ ยเหลอื เป็นอยา่ งมาก” หน�ึงในบุคคลตน้ แบบท�ีม่งุ ม�นั ท�ีจะเปล�ียนแปลงสงั คมใหด้ ีขึน� เป็นนกั กฎหมายท�นี าํ ทกั ษะและความรูม้ าใชใ้ หเ้ กิดประโยชนแ์ ก่ ประชาชนและสงั คมอยา่ งแทจ้ รงิ

ศษิ ยเ์ กา่ ทต�ี อ้ งการแบง่ ปันเรอ�ื งราวทต�ี นเองหรอื เพอ�ื นไดท้ าํ ประโยชนแ์ ก่ประชาชนและสงั คมผ่านคอลมั น์ Alumni Talks ท่านสามารถติดต่อเราทางอีเมลท�ี [email protected] หรือ โทรสายตรงมายงั Alumni Desk ทเ�ี บอร์ �� ��� ����

การสนบั สนนุ โครงการ Better Thailand และสมาคมบา้ นปันรกั

แรงสนบั สนนุ ทาํ ใหโ้ ครงการ Better Thailand ดาํ เนิน หากศษิ ยเ์ กา่ ทา่ นใดตอ้ งการสนบั สนนุ การดาํ เนนิ โครงการ ต่อไปและพฒั นาอย่างต่อเน�ือง โดยปัจจุบนั อาจารยเ์ ทวญั Better Thailand เพอ�ื เป็นฟันเฟืองใหเ้ กดิ ความเสมอภาคทางดา้ น และคณะทาํ งานมีแผนท�ีจะปรับปรุงห้องสมุดประชาชน กฎหมายในสงั คมไทย ทา่ นสามารถตดิ ตอ่ หรอื เขา้ ไปพดู คยุ กบั จงั หวดั นครนายกใหเ้ ป็นทท�ี าํ การสาํ หรบั การใหค้ าํ ปรกึ ษาทาง อาจารยเ์ ทวญั ทส�ี มาคมบา้ นปันรกั ในทกุ ชว่ งบา่ ยของวนั พฤหสั บดี กฎหมายแกป่ ระชาชนโดยไมค่ ดิ คา่ ใชจ้ า่ ย และมแี ผนท�จี ะจด ทะเบียนเป็นวิสาหกิจเพ�ือสงั คมเพ�ือใหไ้ ดร้ บั ความช่วยเหลือ เม�อื เขา้ ไปท�สี มาคมบา้ นปันรกั เพ�อื พดู คยุ กบั อาจารยเ์ ทวญั ทางกฎหมายตามพระราชบญั ญตั วิ สิ าหกจิ เพอ�ื สงั คม พ.ศ. ���� แลว้ ในชว่ งฮาโลวีนแบบนีท� า่ นสามารถแวะจิบนา�ํ ชิมขนมไดท้ �ี อกี ทงั� ยงั มแี ผนทจ�ี ะสรา้ งระบบสง่ ตอ่ ผทู้ ส�ี มควรไดร้ บั การชว่ ยเหลอื “มรณานุสตคิ าเฟ่ ” หรอื “Kid-Mai Death Awareness Café” ดา้ นอรรถคดี เนอ�ื งจากปัจจบุ นั โครงการ Better Thailand ยงั อยู่ ซง�ึ ตงั� อยใู่ กลก้ นั กบั สมาคมบา้ นปันรกั โดยคาเฟ่ แหง่ นีเ� กิดจาก ในระยะเร�ิมตน้ ขอ้ จาํ กัดในการดาํ เนินโครงการคือ การไม่ ความรว่ มมือของมลู นิธิบา้ นอารีย์ บรษิ ัท คิดใหม่ จาํ กดั และ สามารถดาํ เนนิ การในสว่ นกระบวนการยตุ ธิ รรมหรอื สว่ นคดตี อ่ สมาคมบา้ นปันรกั ซง�ึ อาํ นวยความสะดวกดา้ นสถานทใ�ี นการจดั หลงั จากการใหค้ าํ ปรกึ ษาได้ อาจารยเ์ ทวญั และคณะทาํ งานจงึ กิจกรรมใหค้ าํ ปรกึ ษาทางกฎหมายของชมรมกฎหมายปันสขุ มแี ผนทจ�ี ะใหช้ มรมกฎหมายปันสขุ ทาํ หนา้ ทค�ี ดั กรองผทู้ ไ�ี ดร้ บั ความเดือดรอ้ นและสมควรไดร้ บั การช่วยเหลือดา้ นอรรถคดี มรณานสุ ติคาเฟ่ จะจดั โซนสาํ หรบั เรยี นรูเ้ ร�อื งการเกิด แก่ ก่อนท�ีจะส่งต่อใหห้ น่วยงานท�ีสามารถทาํ คดีต่อโดยไม่คิด เจบ็ ตาย คน้ หาความจรงิ ระหวา่ งการมชี ีวติ อยกู่ บั การท�เี ราเสยี คา่ ใชจ้ า่ ย ทงั� นี� ดว้ ยความประสงคท์ จ�ี ะใหป้ ระชาชนทกุ คนไดม้ ี ชวี ติ ไป ซง�ึ อาจารยเ์ ทวญั ใหค้ วามเหน็ วา่ “ผมคดิ วา่ มนั กเ็ ป็นสง�ิ ท�ี โอกาสเขา้ ถงึ กระบวนการยตุ ธิ รรมอยา่ งเทา่ เทยี มกนั นา่ เรยี นรูแ้ ละกน็ า่ สนใจนะครบั ”

สมาคมบา้ นปันรกั ซอยอารยี ์ � ถนนพหลโยธิน � เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร (ใกล้ BTS อารยี )์ มรณานุสตคิ าเฟ่ ���� ถนนพหลโยธิน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร สมาคมบา้ นปันรกั , Kid Mai Death Awareness Cafe

39

คุณสมลักษณ์ พนั ธัย นอกจากนี� ผมยงั ทาํ หนา้ ท�ีเป็นผชู้ ่วยเลขาฯ คณะกรรมการ กนาติ รกิ ไรฟรฟะดา้ สบั ว่ �นภแูมผภินากคกฎเขหตมา�ย(ภกาอคงอเหาํ นนอืว)ยจกงัาหรวดั เชยี งใหม่ กล�นั กรองสาํ นวนการสอบสวนทางวินยั และความรบั ผิดทาง ละเมดิ ของหนว่ ยงานในระดบั เขตดว้ ย องคค์ วามรูท้ �ีผมไดร้ บั ผมเขา้ เรยี นนิตศิ าสตร์ ภาคบณั ฑิต รุน่ ท�ี � (รุน่ สดุ ทา้ ย จากคณาจารยผ์ ทู้ รงคณุ วฒุ ิทกุ ทา่ นชว่ ยเตมิ เตม็ มมุ มองทาง ของศูนยล์ าํ ปาง) หลกั สูตรท�ีผมเรียนเป็นหลกั สูตรสาํ หรบั กฎหมายใหค้ รบถว้ น ชว่ ยใหส้ ามารถจบั ประเดน็ และวเิ คราะห์ ผทู้ จ�ี บปรญิ ญาตรสี าขาอน�ื มาแลว้ นกั ศกึ ษามคี วามหลากหลาย ไดอ้ ย่างรวดเรว็ ตรงจดุ เป็นเหตเุ ป็นผล มองประเด็นปัญหา ทางวยั วฒุ ิและสาขาวิชาชีพท�ีเรียนมา ส่วนตวั ผมจบ ปวส. ไดช้ ดั เจน ชว่ ยสง่ เสรมิ ใหม้ ีจิตสาํ นกึ ในการเคารพและปฏิบตั ิ ดา้ นไฟฟา้ กาํ ลงั จากวทิ ยาลยั เทคนิคพิษณโุ ลก, ปรญิ ญาตรี ตามกฎหมายและหลกั ธรรมาภบิ าลขององคก์ ร ซง�ึ องคค์ วามรู้ สาขาการจดั การ จากสถาบนั ราชภฎั เชยี งใหม่ และปรญิ ญาโท เหลา่ นเี� ป็นฟันเฟื องสาํ คญั ท�ีจะช่วยขบั เคล�ือนองคก์ รไดเ้ ป็น สาขารัฐประศาสนศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อยา่ งดี สว่ นประโยชนใ์ นทางออ้ มนนั� คณะนติ ศิ าสตรท์ าํ ใหผ้ ม ก่อนหนา้ นีผ� มประกอบวิชาชีพดา้ นงานเทคนิคช่างไฟฟ้า พัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ใชเ้ หตุผลและ กาํ ลงั เป็นหลกั และไดร้ บั ผดิ ชอบงานเกย�ี วกบั การบรกิ ารลกู คา้ การคดิ วเิ คราะห์ และมคี วามม�นั ใจในตนเอง กดรา้ รนมนสิตทิ ิกธริ� รกมารสใญั ชท้ญาางภ(สาญรั ะญจาํ ายซอือ� มขาฯยลไฯฟซฟง�ึ ้าล)ว้ งนาแนตตเ่ ปรว็นจงสานอบท�ี เก�ียวขอ้ งกับการใชก้ ฎหมาย ผมจึงอยากศึกษากฎหมาย ผมอยากเหน็ คณะนติ ศิ าสตรพ์ ฒั นาไปในทศิ ทางทย�ี �งั ยนื เพ�ิมเติมเพ�ือท�ีจะไดน้ าํ ความรูม้ าใชป้ ระโยชนใ์ นการทาํ งาน โดยการขยายโอกาสทางการศึกษาในระดับปริญญาตรี ประจวบกบั ในขณะนนั� ทางคณะนติ ศิ าสตรไ์ ดม้ กี ารจดั การเรยี น ภาคบณั ฑติ และในระดบั ปรญิ ญาโทไปท�ศี นู ยล์ าํ ปาง เพ�อื เป็น การสอนในหลกั สตู รภาคบณั ฑิตท�ีมหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ทางเลือกสาํ หรบั บคุ ลากรประจาํ หนว่ ยงานและประชาชนใน ศนู ยล์ าํ ปาง ผมจงึ ไดส้ อบเขา้ และมโี อกาสไดศ้ กึ ษากฎหมาย ภมู ภิ าคในการศกึ ษาและพฒั นาตอ่ ยอดความรูท้ างกฎหมาย ตามท�ีไดต้ ัง� ใจไว้ หลังจากจบการศึกษา ก็ไดป้ รบั เปล�ียน สดุ ทา้ ยนี� อยากฝากถึงนอ้ ง ๆ ท�ีกาํ ลงั ศึกษาหรือท�ีกาํ ลงั จะ สายงานจากงานช่างมาเป็นงานดา้ นกฎหมายเต็มตัวคือ สาํ เร็จการการศึกษาว่าสายงานอาชีพนิติกรก็เป็นหน�ึงใน การเป็นนิตกิ รประจาํ หนว่ ยงาน ทางเลือกท�ีดีในการทาํ งานเพ�ือเก็บเก�ียวประสบการณแ์ ละ ตอ่ ยอดไปสคู่ วามฝันของนอ้ ง ๆ ตอ่ ไป สาํ หรบั งานการไฟฟ้าสว่ นภมู ิภาค เขต � (ภาคเหนือ) จงั หวดั เชยี งใหมท่ ผ�ี มสงั กดั อยู่ มหี นา้ ทค�ี วามรบั ผดิ ชอบตอ้ งดแู ล พนื� ท�ี � จงั หวดั ภาคเหนอื คอื เชยี งใหม่ เชยี งราย ลาํ พนู ลาํ ปาง พะเยา และแม่ฮ่องสอน ความรูท้ �ีไดจ้ ากคณะนิติศาสตร์ ในทางตรงนนั� ชว่ ยสง่ เสรมิ ในการทาํ งานเป็นอยา่ งมาก เนอ�ื งจาก งานสว่ นใหญ่ของทกุ ภาคสว่ นในหนว่ ยงานมีความเก�ียวขอ้ ง กกรบั รกมฎสหทิ มธิ�ากยารไลมะ่วเ่ามจิดะขเปอ้ ็นพเิพร�ืาอทงเรกะ�ียหววกา่ งบั หสนญั ว่ ญยงาาตน่ารงฐั ดๆว้ เยรก�ือนัง รวมถงึ การทาํ หนา้ ทท�ี นายความในการแกต้ า่ งคดใี หก้ บั หนว่ ยงาน

40

คุณชลธาร ทรัพยไ์ พบลู ยเ์ ลศิ คุณเคารพ ลอยทอง IAAnsstesiaroncaainatidtoenPaNalacCtiifooicnmaPmlroLisgesrgiaoamnl mAofdeJvuisroisrt,s, L(บบeรรgษิ ษิ aทั ทัl Cเอปoสนู uซซnีจิเsมิ eซนlิเloตมrไ์นทตย์ ใจนาํ เคกดรั อื (มSหCาGชน))

งานทท�ี าํ ในปัจจบุ นั สว่ นหนง�ึ คอื การพจิ ารณากรอบของ คงตอ้ งตอบว่าท�ีสรา้ งพืน� ท�ียืนใหต้ นเองอย่ใู นวิชาชีพ กฎหมายภายในประเทศเพอ�ื พเิ คราะหว์ า่ ประเทศไทยไดก้ ระทาํ กฎหมายไดอ้ ย่างทุกวนั นี� รากฐานสาํ คญั ส่วนหน�ึงก็มาจาก หนา้ ท�ีตามพนั ธกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศในเร�ือง คณะนติ ศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ เพราะตงั� แตเ่ ขา้ มา สทิ ธมิ นษุ ยชนทป�ี ระเทศไทยเป็นภาคอี ยา่ งครบถว้ นแลว้ หรอื ไม่ เป็นนกั ศกึ ษาชนั� ปีท�ี � ส�ิงแรกท�ีไดร้ บั ก็คือ “โอกาส” ซง�ึ ไดน้ าํ ความรูแ้ ละทกั ษะทจ�ี าํ เป็นตอ้ งมกี ค็ อื ความรูค้ วามเขา้ ใจทงั� ใน ตวั เองเขา้ มาเป็นสว่ นหนง�ึ ของกจิ กรรมตา่ ง ๆ ของคณะนติ ศิ าสตร์ แงข่ องกฎหมายระหวา่ งประเทศและกฎหมายภายใน เนอ�ื งจาก ไดม้ ีโอกาสเป็นประธานนกั ศกึ ษา เป็นผชู้ ว่ ยงานวจิ ยั อาจารย์ การทาํ หนา้ ทต�ี ามกฎหมายระหวา่ งประเทศจะตอ้ งกระทาํ ผา่ น จนประสบการณต์ ่าง ๆ ไดห้ ล่อหลอมเกิดมีขึน� ในตวั เราเอง องคก์ รต่าง ๆ ภายในรฐั ทงั� ในทางบริหาร นิติบญั ญัติ และ เชน่ นแี� ลว้ อกี สง�ิ หนง�ึ ทค�ี ณะฯไดม้ อบใหแ้ กเ่ รานน�ั กค็ อื “ความพรอ้ ม” ตลุ าการ การพจิ ารณาวา่ กรอบกฎหมายไทยไดม้ าตรฐานในทาง ในท�ีนี� ไดแ้ ก่ ความพรอ้ มในความรูท้ �ีไดร้ บั การส�งั สอนจาก ระหวา่ งประเทศหรอื ไมจ่ งึ ตอ้ งอาศยั ความรูค้ วามเขา้ ใจระบบ คณาจารยแ์ ละมีโอกาสไดน้ าํ ไปปรับใช้ในการช่วยเหลือ กฎหมายไทยอยา่ งรอบดา้ น ทงั� กฎหมายมหาชนและเอกชน งานคณะฯ ช่วยเหลืองานอาจารย์ ความพรอ้ มในทัศนคติ ตงั� แตก่ ฎหมายชนั� รฐั ธรรมนญู จนถงึ กฎหรอื คาํ ส�งั ทางปกครอง และวิธีคิดท�ีนักกฎหมายควรจะมี รวมทั�งความพรอ้ มใน ความรกู้ ฎหมายซง�ึ ผมไดร้ บั จากคณะนติ ศิ าสตรเ์หลา่ นไี� มเ่ พยี งแค่ ความกลา้ ท�ีจะการแสดงออกซง�ึ ความถกู ตอ้ งชอบธรรมผ่าน เป็นประโยชน์แตเ่ ป็นสง�ิ จาํ เป็นสาํ หรบั การทาํ งาน ตอ้ งขอขอบ เหตผุ ลทางวิชาการหรอื มมุ มองในเจตนารมณข์ องกฎหมาย พระคณุ อาจารยท์ กุ ทา่ น โดยเฉพาะอยา่ งย�ิง อาจารยพ์ ิรุณา โดยไมล่ ะเลยความเป็นจรงิ ของสงั คม ซง�ึ โอกาสและความพรอ้ ม ติงศภัทิย์ ท�ีอบรมส�ังสอนและสนับสนุนกิจกรรมท�ีเป็ น ทงั� � ส�งิ นี� คือ ส�งิ ท�ีคณะฯ ไดใ้ หไ้ วแ้ ก่เราเพ�ือใหเ้ ราไปพฒั นา ประโยชนต์ อ่ การเรยี นรูก้ ฎหมายระหวา่ งประเทศครบั ตอ่ ยอดเตมิ แตง่ สรา้ งความสมบรู ณต์ อ่ ไปดว้ ยตนเอง

อยากใหค้ ณะฯ กาํ หนดวชิ ากฎหมายสทิ ธิมนษุ ยชนเป็น นาํ ความรูท้ �ีเรยี นไปใชโ้ ดยแบง่ เป็น � เร�อื ง คือ การใช้ วชิ าหลกั เพราะการขาดความรูค้ วามเขา้ ใจในเรอ�ื งนีน� าํ มาซง�ึ ชีวติ สว่ นตวั และการทาํ งาน ในมมุ ของการใชช้ ีวติ สว่ นตวั นนั� ความลม้ เหลวในการเคารพและคมุ้ ครองสิทธิมนษุ ยชนของ ความรูท้ ค�ี ณาจารยไ์ ดถ้ า่ ยทอดมายอ่ มเป็นธรรมดาทเ�ี มอ�ื ไมไ่ ด้ ประเทศไทยในหลายดา้ น อกี ทงั� ในปี พ.ศ. ���� ประเทศไทยยงั ได้ ทบทวนกย็ อ่ มเลอื นลางจางหายไป แตท่ ไ�ี มเ่ คยจางหายไปเลย จดั ทาํ แผนปฏบิ ตั กิ ารระดบั ชาตวิ า่ ดว้ ยธรุ กจิ กบั สทิ ธิมนษุ ยชน คือ ทศั นคติและวิธีคิดของการเป็นนกั กฎหมายท�ีดี ซ�งึ คาํ ว่า ระยะท�ี � (the 1st National Action Plan on Business and “ท�ีดี” นีท� าํ ใหเ้ ราตระหนกั เสมอว่าส�ิงท�ีเราทาํ นนั� เป็นส�ิงท�ีผิด Human Rights) ซง�ึ นบั เป็นจดุ เรม�ิ ตน้ ของการกาํ หนดหนา้ ท�ี หรือไม่ (จะผิดกฎหมายหรือศีลธรรมอนั ดีหรือไม่) หรือหาก ในการเคารพสิทธิมนษุ ยชนใหแ้ ก่ภาคธุรกิจ จากเดิมท�ีเคย เป็นส�ิงท�ีถกู แมเ้ รามีสิทธิโดยชอบท�ีจะทาํ แตห่ ากกระทบหรอื เป็นหนา้ ท�ีของรฐั เพียงฝ่ ายเดียว ผมจงึ เหน็ วา่ จากนไี� ปความ อาจสรา้ งความเดือดรอ้ นใหใ้ คร เราควรจะทาํ หรือไม่ หรือมี เขา้ ใจหลกั การพนื� ฐานของกฎหมายสทิ ธิมนษุ ยชนจะเป็นเรอ�ื ง วธิ อี น�ื เพอ�ื ยงั ใหไ้ ดผ้ ลลพั ธเ์ หมอื นกนั แตเ่ มอ�ื ทาํ แลว้ เราไมแ่ คลงใจ สาํ คญั สาํ หรบั นกั กฎหมายทกุ คน ไมว่ า่ ในภาครฐั หรอื เอกชน ในการกระทาํ นนั� เราควรจะเลือกวิธีใด วิธีคิดดงั กล่าวทาํ ให้

41

เกิดความรอบคอบ ไมห่ นุ หนั หรอื ประมาทในการดาํ รงชีวติ ซง�ึ คุณรตริ ัตน์ คงเอยี ด สามารถนาํ มาปรบั ใชใ้ นการดาํ เนินชีวติ สว่ นตวั ได้เรอ�ื งท�ีสอง กนอติ งกิ กรฎชาหํ นมาาญย กการรมศลุ กากร คอื เรอ�ื งการทาํ งาน สง�ิ ทไ�ี ดร้ บั การปลกู ฝังมาจากทา่ นคณาจารย์ คือ ความกลา้ ท�ีจะแสดงออกซ�ึงเหตผุ ลท�ีถูกตอ้ งชอบธรรม ในปี พ.ศ. ���� ไดเ้ ขา้ ศกึ ษาในระดบั ปรญิ ญาโท สาขา เพอ�ื ใชค้ วามรูค้ วามสามารถดา้ นกฎหมายเป็นเครอ�ื งมอื ในการ กฎหมายภาษี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ อาํ นวยใหค้ วามยตุ ธิ รรมปรากฏชดั ใหม้ ากทส�ี ดุ หรอื ทาํ ใหง้ าน ควบคไู่ ปกบั การทาํ งานดา้ นกฎหมายทก�ี รมศลุ กากร จนกระท�งั นนั� ๆ มคี วามชอบธรรมถกู ตอ้ งครบถว้ นมากทส�ี ดุ สาํ เร็จการศึกษาในปี พ.ศ. ���� ในปัจจุบนั รบั ราชการใน ตาํ แหน่งนิติกรชํานาญการ ส่วนกฎหมายและระเบียบ สว่ นตวั ไมไ่ ดม้ ีความรูส้ กึ แคลงใจ เพราะมีความเช�ือม�นั กองกฎหมายกรมศลุ กากร ในมาตรฐานและคณุ ภาพทางวิชาการของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตรอ์ ยแู่ ลว้ ไมว่ า่ จะศนู ยก์ ารศกึ ษาใด ตั� ง แ ต่ วั น แ ร ก ท�ี ไ ด้ เ ข้ า ศึ ก ษ า ท�ี ค ณ ะ นิ ติ ศ า ส ต ร ์ กต็ าม หากถามถงึ สง�ิ ทอ�ี ยากใหค้ ณะฯ เป็นกค็ งอยากใหค้ ณะฯ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ จนถึงทกุ วนั นี� ยงั คงมีความรูส้ กึ พฒั นาหลกั สตู รทางดา้ นกฎหมายทส�ี อดคลอ้ งกบั สภาวการณ์ ภาคภมู ใิ จท�ี ไดเ้ ขา้ มาเป็นสว่ นหนง�ึ ในรวั� ของสถาบนั อนั ทรงเกยี รติ ของสงั คมท�ีเปล�ียนแปลงไปอย่างรวดเรว็ เพ�ือลดผลกระทบ แห่งนี� เม�ือมีคาํ ถามวา่ สาํ เรจ็ การศกึ ษาจากท�ีไหน ก็จะตอบ จากปัญหา Disruption ท�ีอาจมีขนึ� ตอ่ วชิ าชีพนกั กฎหมายใน คาํ ถามนีด� ว้ ยความรูส้ กึ ท�ีเต็มภาคภมู ิเสมอ คณะนิติศาสตร์ อนาคต ทงั� นี� เพ�ือใหค้ ณะนิติศาสตรค์ งความเป็น The First แหง่ นีเ� ปรยี บเสมือนสถานท�ีจดุ ประกายแรงขบั เคล�ือนในทาง and The Best ตอ่ ไป วชิ าการ ใหค้ วามรู้ เปิดมมุ มองแงค่ ดิ ตา่ ง ๆ ในทศั นะเชิงบวก และใหโ้ อกาสในการเรยี นรูเ้ พ�ือพฒั นาศกั ยภาพทางวิชาการ ดว้ ยตนเองอยา่ งแทจ้ รงิ คณาจารยผ์ สู้ อนในสาขากฎหมายภาษี นอกจากอาจารยป์ ระจาํ ท�ีเป�ียมลน้ ไปดว้ ยองคค์ วามรูท้ าง ทฤษฎีและเนือ� หาของกฎหมายแลว้ ยงั มีอาจารยผ์ สู้ อนจาก หนว่ ยงานจดั เก็บภาษี องคก์ รศาล และผเู้ ช�ียวชาญกฎหมาย ภาษีเฉพาะดา้ น ถา่ ยทอดประสบการณแ์ ละเตมิ เตม็ องคค์ วามรู้ ทเ�ี ป็นรูปธรรมในทางปฏบิ ตั ิเนอื� หาการสอนของอาจารยผ์ สู้ อน แตล่ ะทา่ น นอกจากจะใหค้ วามรูใ้ นเนอื� หาวชิ าการตามหลกั สตู ร ทเ�ี รยี นแลว้ ยงั มงุ่ เนน้ ใหผ้ เู้ รยี นไดศ้ กึ ษาคน้ ควา้ และสรา้ งสรรค์ งานวชิ าการดว้ ยตนเองโดยมเี หลา่ คณาจารยเ์ ป็นผทู้ ค�ี อยใหค้ าํ แคนณะนาาจํ แาลระยป์ทรุกะคทบั่าปนรทะค�ีปอรงะอสยิทเู่ คธยี ิ�ปงขรา้ะงสซาง�ึทตคอ้ วงขาอมขรอู้จบนพสราะํ คเรณุ ็จ การศึกษาไดเ้ ป็นนิติศาสตรมหาบัณฑิต และไดร้ บั รางวัล วิทยานิพนธด์ ีเด่นในระดบั ปริญญาโท สาขากฎหมายภาษี ของคณะนติ ศิ าสตร์ผลลพั ธท์ ไ�ี ดจ้ ากการศกึ ษาทค�ี ณะนติ ศิ าสตร์

42

มีส่วนสาํ คัญอย่างย�ิงต่อการเพ�ิมองคค์ วามรูแ้ ละพัฒนา คุณธัญรัช ธัญญะกจิ ศักยภาพในการทํางานด้านกฎหมายท�ีกรมศุลกากร นติ กิ รปฏบิ ตั กิ าร คณะนติ ศิ าสตรแ์ หง่ นีเ� ป็นเสมอื นเครอ�ื งหมายท�รี บั รองความรู้ กองกฎหมาย กรมสรรพากร ความสามารถ ทาํ ใหก้ ารปฏิบตั ิหนา้ ท�ีราชการกรมศลุ กากร ไดร้ บั การยอมรบั ความรูท้ �ีไดร้ บั ทาํ ใหส้ ามารถต่อยอดโดย ความรูท้ ส�ี าํ คญั ทส�ี ดุ ทข�ี า้ พเจา้ ไดร้ บั จากคณะนติ ศิ าสตร์ การเขียนบทความเก�ียวกบั กฎหมายศุลกากรในวารสาร นัน� คือ ความรูใ้ นดา้ นการตีความกฎหมาย เพราะในชีวิต กฎหมายภาษีอากร นอกจากนีย� งั ไดร้ บั โอกาสท�ีไม่คาดคิด การทาํ งานนนั� มีกฎหมายหลายตวั ท�ีขา้ พเจา้ ไม่เคยไดเ้ รียน มาก่อนคือการไดร้ ับเชิญใหไ้ ปเป็นอาจารยพ์ ิเศษในวิชา ในชนั� ปรญิ ญาตรมี ากอ่ น แตท่ กั ษะการตคี วามกฎหมายสง่ ผลให้ วิธีสบญั ญัติทางภาษีในส่วนท�ีเก�ียวกับภาษีศลุ กากรทาํ ให้ ขา้ พเจา้ สามารถทาํ ความเขา้ ใจกฎหมายเชน่ วา่ นนั� ไดอ้ ยา่ งดี รูส้ กึ เป็นเกียรติอย่างย�ิงกบั โอกาสท�ีคณะนิติศาสตรม์ อบให้ ท�สี ดุ สว่ นในแงเ่ นอื� หาของกฎหมายตา่ ง ๆ นนั� ขา้ พเจา้ กไ็ ดร้ บั ความรูท้ างกฎหมายอย่างลึกซึง� โดยเฉพาะกฎหมายดา้ น ตงั� แตอ่ ดตี จนถงึ ปัจจบุ นั คณะนติ ศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ภาษีอากร ซ�ึงตรงกับสายงานท�ีขา้ พเจา้ ปฏิบัติราชการอยู่ ธรรมศาสตร์ไดม้ กี ารพฒั นามาอยา่ งตอ่ เนอ�ื งในทกุ ดา้ นกา้ วทนั นอกจากนีย� งั ไดม้ โี อกาสศกึ ษากฎหมายท�เี ก�ียวขอ้ งกบั องคก์ ร ตอ่ ยคุ สมยั ทเ�ี ปลย�ี นแปลงไป ในทางวชิ าการนนั� คณะนติ ศิ าสตร์ ธรุ กิจตา่ ง ๆ ซง�ึ เป็นผลดีอยา่ งมากตอ่ การทาํ งานของขา้ พเจา้ ไดส้ รา้ งผลงานวิจยั ในทางกฎหมายตา่ ง ๆ ออกมามากมาย เพราะความเขา้ ใจเหลา่ นีส� ง่ ผลใหข้ า้ พเจา้ สามารถเขา้ ใจถึง ไมว่ า่ จะเป็นงานวิจยั ของคณาจารยผ์ ทู้ รงคณุ วฒุ ิ สารนิพนธ์ ลกั ษณะขององคก์ รธุรกิจต่าง ๆ และรวมไปถึงลกั ษณะของ หรือวิทยานิพนธข์ องนกั ศกึ ษาในทกุ ระดบั งานวิจยั จาํ นวน ธุรกรรมต่าง ๆ ท�ีองคก์ รเหล่านีม� กั กระทาํ หรือเขา้ ไปมีส่วน ไมน่ อ้ ยทม�ี เี นอื� หาในเชงิ พฒั นาและสามารถแกป้ ัญหาในแงม่ มุ เก�ียวขอ้ ง และสามารถนาํ องคค์ วามรูเ้ หลา่ นไี� ปประยกุ ตใ์ ชก้ บั ตา่ ง ๆ ของประเทศได้ นา่ เสยี ดายหากงานวจิ ยั เหลา่ นนั� ถกู เกบ็ การทาํ งานไดเ้ ป็นอย่างดี และในทา้ ยท�ีสุด การศึกษาใน ไวบ้ นชนั� หนงั สอื ในหอ้ งสมดุ ดงั นนั� คณะนติ ศิ าสตรจ์ งึ ควรหา คณะนติ ศิ าสตรย์ งั ทาํ ใหข้ า้ พเจา้ ไดม้ โี อกาสทาํ รายงานคน้ ควา้ ชอ่ งทางในการผลกั ดนั หรอื นาํ เสนองานวจิ ยั ทม�ี คี ณุ คา่ เหลา่ นนั� ตา่ ง ๆ เป็นกลมุ่ ซง�ึ ประสบการณท์ �ีขา้ พเจา้ ไดจ้ ากการทาํ งาน ใหห้ น่วยงานท�ีมีอาํ นาจไดร้ บั ทราบถึงปัญหาและแนวทาง กล่มุ เช่นนีส� ามารถนาํ ไปปรบั ใชก้ บั การทาํ งานของขา้ พเจา้ ในการแกไ้ ขหรอื พฒั นาเพอ�ื ใหน้ าํ ไปปรบั ใชไ้ ดอ้ ยา่ งเป็นรูปธรรม ในปัจจบุ นั ได้ เนอ�ื งจากลกั ษณะงานทข�ี า้ พเจา้ ทาํ อยนู่ นั� จาํ เป็น หากเป็นเชน่ นแี� ลว้ กย็ อ่ มจะกอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชนต์ อ่ ประเทศชาติ ตอ้ งอาศยั ทกั ษะการทาํ งานรว่ มกนั และตอ้ งอาศยั ความรว่ มมอื สมดงั วตั ถปุ ระสงคท์ �แี ทจ้ รงิ ของงานวจิ ยั ระหวา่ งบคุ คลหลายคน งานถงึ จะสาํ เรจ็ ลลุ ว่ งไปได้

43

คุณกฤษณพ์ งษ์ เตชะพลี คุณภดู ทิ โทณผลิน เจา้ หนา้ ทฝี� ่ ายกฎหมาย ---ส-ออกกภานรรารรจกุ ทมมารนรกกรยมาาาพ์ยรรกสผเคิาศมูจ้วรษดัสาาคกม�งิ คแมาใณวนรนดพะกบั ลนรกรอะต้ิษิฎบมศิ ทัหฝราม่มสาสารตยยยาคราชค์ ดมมูปมุ้ แีหถกคลามรัระวนีอภปทิ ง์ฏลยสาอบิทิ ลวตัธย์ั ิแกิจศลาาํ รระกปี สดั ท�งิ มุแววดทิ ลยอ้ ามเข(ตLชEลPบAรุ )ี สมาคมคนตาบอดแหง่ ประเทศไทย เน�ืองจากผมช่วยงานสภาทนายความเก�ียวกับคดี สง�ิ ท�ไี ดร้ บั จากคณะนติ ศิ าสตร์ ชว่ ยสง่ เสรมิ การทาํ งาน การดาํ เนินคดีส�งิ แวดลอ้ ม และยงั ทาํ งานรว่ มกบั องคก์ รดา้ น ของผมเป็นอย่างมากทงั� ทางตรงและทางออ้ ม โดยเฉพาะ ส�ิงแวดล้อมต่าง ๆ ผมจึงเลยตัดสินใจมาเรียนต่อด้าน การไดน้ าํ เอาความรูท้ างกฎหมายไปใหค้ วามชว่ ยเหลอื สมาชกิ กฎหมายสง�ิ แวดลอ้ มในระดบั ชนั� ปรญิ ญาโททค�ี ณะนติ ศิ าสตร์ คนตาบอดทป�ี ระสบกบั ปัญหาทางกฎหมาย เชน่ มคี ดขี อ้ พพิ าท มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ประโยชนท์ างตรงท�ีไดร้ บั ก็คือ หรือถูกเลือกปฏิบัติ เน�ืองจากลักษณะงานท�ีสมาคมฯ ได้ การมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจดา้ นกฎหมายสง�ิ แวดลอ้ มมากขนึ� ทงั� ใน มอบหมายใหผ้ มคอื การเป็นผใู้ หค้ าํ ปรกึ ษาทางกฎหมายเบอื� งตน้ แงต่ วั บทบญั ญตั ขิ องกฎหมายสง�ิ แวดลอ้ ม เชน่ พระราชบญั ญตั ิ ใหก้ ับสมาชิกคนตาบอด รวมถึงการรบั เร�ืองรอ้ งเรียน หรือ สง่ เสรมิ และรกั ษาคณุ ภาพสง�ิ แวดลอ้ มแหง่ ชาตฯิ และรฐั ธรรมนญู ประสานส่งต่อในกรณีท�ีสมาชิกตอ้ งการเขา้ ส่กู ระบวนการ แหง่ ราชอาณาจกั รไทยฯ รวมทงั� เจตนารมณแ์ ละท�ีมาของ ยตุ ธิ รรม ซง�ึ วชิ าทจ�ี ดุ ประกายใหผ้ มสนใจทาํ งานทเ�ี ก�ยี วขอ้ งกบั บทบญั ญตั ดิ งั กลา่ ว จงึ สามารถนาํ ความรคู้ วามเขา้ ใจไปปรบั ใชไ้ ด้ คนพิการคือ วิชาสมั มนาวา่ ดว้ ยแผนนโยบายของรฐั เก�ียวกบั กบั การทาํ งานในขนั� ตอนตา่ ง ๆ เชน่ การทาํ คาํ ฟอ้ ง คาํ ใหก้ าร คนพกิ าร ซง�ึ ทาํ ใหผ้ มไดศ้ กึ ษาเก�ียวกบั สทิ ธิของคนพกิ ารตาม อทุ ธรณฎ์ ีกา หรือในกระบวนการพิจารณาอ�ืน ๆ ไดอ้ ย่างมี กฎหมายไทยและอนสุ ญั ญาทเ�ี กย�ี วขอ้ งนอกจากนี�คณะนติ ศิ าสตร์ ประสทิ ธิภาพมากขนึ� ยงั ช่วยส่งเสรมิ ใหผ้ มสามารถถ่ายทอดเนือ� หาทางกฎหมาย ไมว่ า่ จะเป็นการเขียนหรอื การพดู ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ซง�ึ ประโยชนท์ างออ้ ม คือ ทาํ ใหร้ ูถ้ ึงวิธีการคน้ ควา้ ขอ้ มลู ทกั ษะเหลา่ นเี� กดิ จากการฝึกฝนใหน้ กั ศกึ ษาไดถ้ า่ ยทอดเนอื� หา ทางวชิ าการ ขอ้ กฎหมาย ความเหน็ ของนกั วชิ าการ ทงั� ในและ ทางกฎหมายผา่ นวธิ กี ารตา่ ง ๆ เชน่ การวดั ผล หรอื การนาํ เสนอ ต่างประเทศ โดยอาศัยทรัพยากรของทางห้องสมุดของ ในรูปแบบตา่ ง ๆ มหาวทิ ยาลยั ซง�ึ เป็นประโยชนอ์ ยา่ งยง�ิ ในการทาํ งาน เชน่ ใชใ้ น การอา้ งองิ ในคาํ คคู่ วามตา่ ง ๆ ในคดีส�งิ แวดลอ้ ม รวมถงึ ชว่ ย อยากใหค้ ณะนติ ศิ าสตรส์ ง่ เสรมิ การศกึ ษาของนกั ศกึ ษา ในการเขยี นรายงานตา่ ง ๆ ไดด้ ยี ง�ิ ขนึ� นอกจากนี� เน�อื งจากผม พกิ ารทางการเหน็ ใหม้ ากขนึ� โดยเฉพาะการเขา้ ถงึ สอ�ื การสอน ไดม้ ีโอกาสทาํ งานเป็นอาจารยพ์ ิเศษอยู่ท�ีคณะนิติศาสตร์ ในทุกรายวิชา โดยเน้นให้ส�ือการสอนอยู่ในรูปแบบของ มหาวทิ ยาลยั ศรปี ทมุ วทิ ยาเขตชลบรุ ี รวมทงั� มโี อกาสสอนใน เอกสารอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ เพ�อื ท�นี กั ศกึ ษาพกิ ารจะไดส้ ามารถใช้ สถาบนั ติวกฎหมายเอกชน การเรียนท�ีคณะนิติศาสตรก์ ับ คอมพวิ เตอรห์ รอื สมารต์ โฟนทม�ี โี ปรแกรมเสยี งอา่ นจอภาพเป็น คณาจารยท์ ม�ี คี วามรูค้ วามสามารถและมเี ทคนคิ ตา่ งๆในการ ตวั ช่วยในการเขา้ ถึงเนือ� หาการเรียนการสอนจากเอกสาร ถ่ายทอดความรูแ้ ก่นกั ศกึ ษา จงึ ทาํ ใหผ้ มสามารถนาํ เทคนิค อเิ ลก็ ทรอนกิ สไ์ ดโ้ ดยตรง การสอนต่าง ๆ ไปปรบั ไปใชเ้ พ�ือพฒั นาการสอนของตนเอง ใหด้ ขี นึ� กวา่ เดมิ

44

มารว่ มกันพัฒนาคณะนติ ิศาสตร์

WE NEED YOUR SUPPORT

บริจาคเงนิ เข้ากองทุนนิตธิ รรมพฒั นเ์ พอ�ื พฒั นาการศกึ ษา

กองทนุ นิตธิ รรมพฒั น์คณะนิตศิ าสตร์จดั ตงั� ขนึ� เพ�ือพฒั นาการศกึ ษาโดยเป็นทนุ การศกึ ษาของนกั ศกึ ษาและทนุ พฒั นาอาจารย์ และการพฒั นาคณะนิติศาสตรใ์ นดา้ นอ�ืน ๆ นอกจากนี� เป็นกลไกในการประสานความสมั พนั ธ์ ระหวา่ งคณะนติ ศิ าสตรก์ บั ศษิ ยเ์ กา่ นติ ศิ าสตร์ จงึ เชญิ ชวนศษิ ยเ์ กา่ นติ ศิ าสตรแ์ ละผมู้ จี ติ ศรทั ธารว่ มบรจิ าคทนุ ทรพั ย์ เขา้ กองทนุ นิตธิ รรมพฒั นด์ งั กลา่ ว สามารถบรจิ าคได้ � วธิ ี ดงั ตอ่ ไปนี�

บรจิ าคผา่ น QR code บรจิ าคผ่าน บรจิ าคด้วยตวั เอง บรจิ าคผา่ น BillerID:010753700088290 ธนาคารกรุงไทย ท�ีสาํ นกั งานเลขานกุ าร บตั รเครดติ ช�ือบญั ชี : Faculty of Law เลขบญั ชี : 983-6-77038-0 คณะนิตศิ าสตร์ ชนั� � บรจิ าคทางเวบ็ ไซต์ Thammasat University ชอ�ื บญั ชี : คณะนติ ศิ าสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ทา่ พระ alumni.law.tu.ac.th (0994002524185002) มธ. (กองทนุ นติ ธิ รรมพฒั น)์ จนั ทร์ ในเวลาราชการ เบอรต์ ดิ ตอ่ 02-222-9598, 02-613-2109, 02-613-2165 คณุ ศภุ ลกั ษณ,์ คณุ นรนิ ทร

โครงการพระ �� ปี นิตศิ าสตร์ ธรรมศาสตร์ โดยทกุ การบริจาค สามารถนาํ ไปลดหย่อนภาษีได้ � เทา่

ชุดเหรียญ พระพุทธนิตธิ รรมศาสดา เหรียญ

บรจิ าค ���,��� บาท บรจิ าค ��,��� บาท บรจิ าค �,��� บาท สมนาคณุ เหรยี ญเนือ� เงิน สมนาคณุ ชดุ เหรยี ญประกอบดว้ ย สมนาคณุ พระบชู าพระพทุ ธนิตธิ รรมศาสดา บรจิ าค �,��� บาท สมนาคณุ เหรยี ญเนือ� โลหะ เนือ� ทองคาํ , เนือ� เงิน, เนือ� โลหะ (บรอนซ)์ , เนือ� ผง ขนาดหนา้ ตกั � นิว�

สอบถามรายละเอยี ดไดท้ �ี ��-���-����, ���-���-����, ���-���-���� (คุณศุภลักษณ)์

45

PROFESSIONAL DEVELOPMENT WITH TU LAW

พัฒนาความรแู้ ละทกั ษะ การทาํ งานกบั คณะนติ ศิ าสตร์

Training and Professional Development ศนู ยจ์ ดั อบรมและใหค้ าํ ปรกึ ษาดา้ นกฎหมาย (Legal Training and

Education Center) คณะนิตศิ าสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ใชช้ �ือยอ่ วา่ “LeTEC” มีภารกิจหลกั ในการรบั จัดอบรมพฒั นาบุคลากรทางกฎหมาย ในสาขาตา่ ง ๆ ทงั� ระยะสนั� และระยะยาวใหแ้ กห่ นว่ ยงานภาครฐั รฐั วสิ าหกิจ และภาคธุรกิจเอกชน รวมถึงกล่มุ ผบู้ ริหาร นกั วิชาการ บคุ คลท�วั ไป หรอื ผทู้ �ี ตอ้ งการทกั ษะชนั� สงู เฉพาะทาง โดยทางศนู ยฯ์ เนน้ การจดั อบรมท�มี คี ณุ ภาพ และมาตรฐานดว้ ยหลกั สตู รท�ที นั สมยั อนั เป็นท�ยี อมรบั กนั ในสงั คม เพ�อื เป็น หนว่ ยงานท�ีใหบ้ รกิ ารวิชาการแก่สงั คมและสาธารณะ

นอกจากนนั� ศนู ยอ์ บรมและใหค้ าํ ปรกึ ษาดา้ นกฎหมายยงั รบั ออกแบบ หลกั สตู รอบรมตามทห�ี นว่ ยงานหรอื บรษิ ทั ตอ้ งการโดยคาํ นงึ ถงึ ความตอ้ งการ ขององคก์ ร และปรบั เปล�ียนหลกั สตู รใหส้ อดคลอ้ งกบั การดาํ เนินงานและ ประกอบกจิ การทเ�ี ปลย�ี นแปลงอยเู่ สมอ เพอ�ื ใหส้ ามารถนาํ ความรูไ้ ปใชป้ ฏบิ ตั ไิ ด้

โครงการอบรม ทกี่ าํ ลงั เปดิ รบั สมคั ร

โครงการอบรมหลักสูตรประกาศนียบัตร กฎหมายมหาชน รุ่น 50

วตั ถปุ ระสงคเ์ พอ�ื ผลติ นกั กฎหมายในภาครฐั ทม�ี คี วามเขา้ ใจพนื� ฐานทาง กฎหมายมหาชน เพม�ิ พนู ประสทิ ธภิ าพในการปฏบิ ตั งิ านและการพฒั นาความรู้ ความเขา้ ใจในดา้ นกฎหมายมหาชน ซง�ึ จะทาํ ใหก้ ระบวนการปฏบิ ตั ริ าชการ ในความดแู ลรบั ผิดชอบของบคุ ลากรในหน่วยงานเป็นไปตามแนวทางและ วัตถุประสงคข์ องกฎหมายท�ีได้มีการเปล�ียนแปลงและบัญญัติขึน� ใหม่ จาํ นวนมากในปัจจุบนั เป็นการตระเตรียมบุคลากรในภาครฐั เพ�ือรองรบั การเกิดขนึ� ขององคก์ ารและแนวความคดิ ทางกฎหมายมหาชนใหม่ ๆ

อบรมระหวา่ งวนั ท�ี �� เมษายน - วนั ที� �� กรกฎาคม ���� สมคั รไดต้ งั� แตว่ นั นีเ� ป็ นตน้ ไป จนถงึ กอ่ นวนั อบรมวนั แรก

46

...ขา่ ว ด.ี ..

สาํ หรับบริษัทและหน่วยงานที� เข้าร่วมฝึ กอบรมหลักสูตร � ช�ัวโมง ขนึ� ไปตามหลักสูตรทจ�ี ดั โดยศูนย์

จดั อบรมและใหค้ าํ ปรึกษาดา้ น กฎหมาย (LeTEC)

จสาากมการรมถสขรอรกยพร�ืนะาลทกดรรวหแงยลแ่อะรกงนงรภามานฝษีมีไือดแ้ �รง�ง�า%น

ตดิ ตอ่ สอบถาม ขอ้ มลู เพมิ่ เตมิ ไดท้ ี่ เวบ็ ไซต์ : www.letec.law.tu.ac.th โทร : ��-���-����, ��-���-���� อีเมล : [email protected] เฟซบ๊กุ : LeTEC.LawTU ไลน์ : @leteclawtu

47

รายนามคณะผู้จดั ทํา I End Credit

About Contributors

About Thammasat Law Alumni Contributors I นักเขียนกติ ติมศักดิ์ e-Newsletter I เกีย่ วกับจุลสาร อคอคคาาณณณุุุ จจพเอาาทตรรสวยยริธญัุจเก์์รพิตตออียตนรัทุรภิญัรบยั ตพั ญุวญนฒั วเพ์จงัลนงครลี ษ์ญิาําไ์ พพงศศาธลร เมวeกปขจจศปิอชััุิ-รมดดษห็นNะงาภสทายฉปชกe่วางําบา์ปราwิทสพะับัจรeeชมัยsันทจ-แ-าพlาN�ธีุNบeคล�นัล์ eมัtนะeพปธtัยกwศwe.ร์ ขธรศิษจิะrssาว่ร.จกยlวlปมรe�าeํรเส์มก�ทtรรtเาtดtา�่มศะั�งeรeมอ�ืตชาปrงrกนี สา่าารฉามตํนงะตคหบลีุวคชรๆมนาจิับว์าคดศยมัราชตมอะิีษวผมน่ออหัตลพยยผกไวงถ.์เปิเูนศ้ส่าาปกุปนง.ในด็่นา�ครหวีใเร�ะชิณป้จแคา�สา็ยกน�ณะกeงไ่ทฯอาตค-คะรN่ายณรก์เนมกพน่eาบั ะิาตา�ืwองใกศรสินศยเสsริษปฉร�ิาเงlมั eมย็ดบนทสมtกเ์ือบ�ีัสtนกจตาeนน�ื่อาาะรรrี�์ Design Editorial Graphic Design I ออกแบบกราฟิก Editorial Board Members I คณะกรรมการจัดทาํ จุลสาร บรษิ ัท ไอสาม เกทเวย์

อรนอนนนออาาาาาาาจงยจจยยงาศอาาสธพรายรนรีราัฒสยย์กวดุวตเ์ธร์ุรนลนพร.รนธ์ภารตียภนสจิทนันราูุวรมาทร์วรรรนิตัณรยัอจรนนณด์ันยโดท์สน์ทลจรไ์ขุ.งตรลีลรจ,ัสนส์ราาตินปยุวดวพตาิ,่ไร์า์,,ง์งลยีองนศสนายา,าธาจา,นงวราแงนสาเ,รสกปยงาาอว้าพมท์วยาลวชิกสััศสจะรศาาุรนาาเุภอธภพรชียิียนรยลเูัน์ณมดศีก์ักธสือ,ิิลต์ษ์ าตงภปตฤดณักิภนณบษ์ รพไุวญเาฒทุศวแสยพริังสรษแคงาว้ ษทฐาํงง์์้ Contact

Contact Us I ติดตอ่ เรา

เแคเวบขณบ็ อวไะงรซพนโ์ตทิรต:์ะริศwบ:าwร�สมw�ตม.รlaห�์ มwา�รห.�tาuา�ช.วaว�ิทcงั �ย.tเ�hขา�ลต,ยพั อธระีรเมรนมคลศร: ากlaสรwตุงเรaท์ l�พuมmถหnนาiนน@พคtรรuะ.�aจ�cนั�.ท�t�hร์