พรบ.ภาษ บ าร งท องท และท แก ไขเพ มเต ม

322 แตม่ ีการตัง้ ขอ้ สังเกตที่ว่าถ้าหากครบกำหนดระยะเวลาในการยกเวน้ ภาษีในปี พ.ศ. 2566 เกษตรกรซึ่งมีท่ดี ิน

เหลา่ นน้ั จะไดร้ บั การยกเว้นภาษตี อ่ หรือไม่ ซึง่ ถ้ายึดตามพระราชบญั ญตั นิ แ้ี ลว้ หากเกษตรกรผ้เู ป็นเจา้ ของที่ดนิ และ

ได้ขน้ึ ทะเบียนเกษตรกรไว้ทุกปี อีกท้งั ทีด่ ินดงั กลา่ วมกี ารเพาะปลูกหรือทำการเกษตรอยา่ งสม่ำเสมอในทุกๆ ปี และ

ทด่ี นิ มีมูลคา่ ไมเ่ กิน 50 ล้านบาท23 จงึ จะไดร้ บั ยกเวน้ ภาษตี อ่ ไปตามมาตรา 4024 แต่ถ้าเกษตรกรคนใดมีที่ดินท่ีมี

มูลค่าเกนิ 50 ลา้ นบาทกจ็ ะตอ้ งเสียภาษใี นส่วนที่เกิน 50 ลา้ นบาทน้นั โดยมอี ตั ราภาษไี มเ่ กินร้อยละ 0.1 ในสว่ นท่ี

เกนิ แม้วา่ จะเปน็ การเสยี ภาษใี นอัตราน้อยกว่าที่ดนิ ประเภทอน่ื ๆ แต่ถา้ หากเกษตรกรผ้ถู ือครองทด่ี ินดงั กลา่ วนนั้ ไม่

มรี ายได้เนอ่ื งจากสภาพเศรษฐกจิ หรอื ปัจจัยอื่นใด ภายใน 3 ปีท่ีไดร้ บั การยกเวน้ ภาษี ซึง่ มีโอกาสท่ที ำให้เกษตรกรผู้

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๒๑ ๑๒ มนี าคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา

พระราชบญั ญัติ

ภาษที ดี่ นิ และสงิ่ ปลูกสร้าง พ.ศ. ๒๕๖๒

สมเด็จพระเจา้ อยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกูร

ให้ไว้ ณ วนั ท่ี ๙ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๖๒ เปน็ ปที ่ี ๔ ในรชั กาลปจั จบุ ัน

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศวา่

โดยท่ีเป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยภาษีโรงเรือนและที่ดินและกฎหมายว่าด้วย ภาษบี ารงุ ท้องที่

พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๖ ประกอบกับมาตรา ๓๓ และมาตรา ๓๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บญั ญตั ิใหก้ ระทาได้โดยอาศัยอานาจตามบทบญั ญตั แิ ห่งกฎหมาย

เหตุผลและความจาเป็นในการจากัดสิทธิและเสรภี าพของบุคคลตามพระราชบัญญัติน้ี เพ่ือให้ การดาเนินการเก่ียวกับการจัดเก็บภาษีท่ีดินและส่ิงปลูกสร้างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ อันจะเป็นประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจของประเทศ ซ่ึงการตราพระราชบัญญัตินี้สอดคล้องกับเงื่อนไขที่ บัญญัติไวใ้ นมาตรา ๒๖ ของรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทยแลว้

จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติข้ึนไว้โดยคาแนะนาและยินยอมของ สภานิตบิ ญั ญัตแิ ห่งชาติทาหนา้ ทีร่ ฐั สภา ดงั ตอ่ ไปนี้

มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติภาษีที่ดินและส่ิงปลูกสร้าง พ.ศ. ๒๕๖๒”

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๒๒ ๑๒ มนี าคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา

มาตรา ๒ พระราชบัญญัติน้ีให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป เว้นแต่การจัดเก็บภาษีสาหรับท่ีดินและสิ่งปลูกสร้างตามพระราชบัญญั ตินี้ ให้ใช้บังคับ ต้ังแต่วันท่ี ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๓ เป็นตน้ ไป

มาตรา ๓ ใหย้ กเลิก (๑) พระราชบัญญตั ภิ าษีโรงเรือนและทีด่ นิ พทุ ธศักราช ๒๔๗๕ (๒) พระราชบัญญัติภาษโี รงเรอื นและท่ีดนิ แกไ้ ขเพ่มิ เติม พุทธศักราช ๒๔๗๕ (๓) พระราชบัญญัตภิ าษีโรงเรือนและที่ดิน (ฉบับท่ี ๓) พุทธศักราช ๒๔๘๕ (๔) พระราชบัญญตั ภิ าษโี รงเรือนและที่ดนิ (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๓๔ (๕) พระราชบัญญัตภิ าษโี รงเรอื นและท่ดี ิน (ฉบบั ที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๓ (๖) พระราชบญั ญตั ภิ าษบี ารงุ ทอ้ งท่ี พ.ศ. ๒๕๐๘ (๗) ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบบั ท่ี ๑๕๖ ลงวันที่ ๔ มถิ ุนายน พุทธศักราช ๒๕๑๕ (๘) พระราชบัญญัตภิ าษบี ารุงท้องที่ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๑๖ (๙) พระราชกาหนดแก้ไขเพมิ่ เติมพระราชบญั ญัติภาษีบารงุ ทอ้ งที่ พ.ศ. ๒๕๐๘ พ.ศ. ๒๕๒๔ (๑๐) พระราชกาหนดแกไ้ ขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติภาษีบารุงท้องท่ี พ.ศ. ๒๕๐๘ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๙ (๑๑) พระราชบัญญัตภิ าษีบารุงท้องที่ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๓ (๑๒) พระราชบัญญัติกาหนดราคาปานกลางของท่ีดินสาหรับการประเมินภาษีบารุงท้องท่ี พ.ศ. ๒๕๒๙ มาตรา ๔ กฎหมาย กฎ ระเบียบและข้อบังคับใดท่ีใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่ พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับท่ีกล่าวถึงหรืออ้างถึงภาษีโรงเรือนและที่ดินตามกฎหมายว่าด้วยภาษีโรงเรือน และท่ีดินหรือภาษีบารุงท้องท่ีตามกฎหมายว่าด้วยภาษีบารุงท้องท่ี ไม่ให้มีความหมายเป็นการกล่าวถึง หรอื อา้ งถงึ ภาษตี ามพระราชบัญญัตนิ ้ี กฎหมายใดท่ีใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ซึ่งได้บัญญัติให้ทรัพย์สิน ของบุคคลใดได้รับยกเว้นภาษีอากรตามกฎหมายโดยมิได้ระบุถึงภาษีอากรประเภทใดประเภทหนึ่งโดยเฉพาะ หรือได้รับการยกเว้นภาษีโรงเรือนและท่ีดินตามกฎหมายว่าด้วยภาษีโรงเรือนและท่ีดินหรือภาษีบารุง ท้องทีต่ ามกฎหมายว่าด้วยภาษีบารงุ ท้องท่ี ไม่ใหม้ ีความหมายเปน็ การยกเว้นภาษตี ามพระราชบญั ญัตนิ ี้

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๓๐ ก หน้า ๒๓ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา

ความในวรรคสองมิให้ใช้บังคับกับการยกเว้นภาษีอากรตามกฎหมายที่ตราข้ึนตามข้อผูกพันท่ี ประเทศไทยมีอยู่ต่อองค์การสหประชาชาติ หรือตามกฎหมายระหว่างประเทศ หรือตามความตกลง ระหวา่ งประเทศ หรือตามหลักถอ้ ยทีถ้อยปฏบิ ัติตอ่ กนั กบั นานาประเทศ

มาตรา ๕ ในพระราชบญั ญัตินี้ “ภาษ”ี หมายความวา่ ภาษีท่ดี ินและส่งิ ปลกู สร้าง “ผูเ้ สยี ภาษี” หมายความวา่ บุคคลธรรมดาหรือนิติบคุ คลซึง่ เป็นเจา้ ของที่ดินหรือสิ่งปลกู สร้าง หรือเป็นผคู้ รอบครองหรอื ทาประโยชนใ์ นทด่ี นิ หรือส่ิงปลกู สร้างอันเป็นทรัพย์สินของรัฐ ซง่ึ เป็นผ้มู ีหน้าท่ี เสียภาษีตามพระราชบัญญัตินี้ และให้หมายความรวมถึงผู้มีหน้าท่ีชาระภาษีแทนผู้เสียภาษี ตามพระราชบญั ญตั ิน้ดี ว้ ย “ทีด่ นิ ” หมายความว่า พนื้ ดนิ และใหห้ มายความรวมถงึ พน้ื ที่ทเ่ี ปน็ ภูเขาหรอื ท่ีมีนา้ ด้วย “ส่ิงปลูกสร้าง” หมายความว่า โรงเรือน อาคาร ตึก หรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอ่ืน ที่บุคคล อาจเข้าอยูอ่ าศัยหรอื ใช้สอยได้ หรอื ทีใ่ ช้เปน็ ท่เี กบ็ สนิ คา้ หรอื ประกอบการอตุ สาหกรรมหรอื พาณชิ ยกรรม และให้หมายความรวมถงึ หอ้ งชุดหรอื แพท่บี ุคคลอาจใช้อยอู่ าศยั ได้หรอื ที่มีไว้เพอ่ื หาผลประโยชน์ดว้ ย “ห้องชุด” หมายความว่า ห้องชดุ ตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุดที่ได้ออกหนงั สือแสดงกรรมสิทธิ์ หอ้ งชดุ แลว้ “องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ” หมายความวา่ เทศบาล องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล กรงุ เทพมหานคร เมืองพัทยา และองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินอื่นตามท่ีมีกฎหมายจัดตั้ง แต่ไม่หมายความรวมถึง องคก์ ารบรหิ ารส่วนจงั หวัด “เขตองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น” หมายความว่า (๑) เขตเทศบาล (๒) เขตองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล (๓) เขตกรงุ เทพมหานคร (๔) เขตเมืองพทั ยา (๕) เขตองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินอ่ืนตามที่มีกฎหมายกาหนด แต่ไม่หมายความรวมถึง เขตองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจังหวัด “ผู้บรหิ ารทอ้ งถ่นิ ” หมายความว่า (๑) นายกเทศมนตรี (๒) นายกองคก์ ารบริหารส่วนตาบล

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๓๐ ก หน้า ๒๔ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา

(๓) ผ้วู ่าราชการกรงุ เทพมหานคร (๔) นายกเมอื งพัทยา (๕) ผบู้ ริหารทอ้ งถ่นิ อื่นตามท่ีมีกฎหมายกาหนด แต่ไมห่ มายความรวมถึงนายกองคก์ ารบริหาร ส่วนจังหวัด “ข้อบญั ญตั ทิ ้องถิ่น” หมายความว่า (๑) เทศบญั ญตั ิ (๒) ขอ้ บญั ญตั ิองค์การบริหารสว่ นตาบล (๓) ข้อบญั ญัติกรงุ เทพมหานคร (๔) ขอ้ บัญญตั เิ มืองพัทยา (๕) ข้อบัญญัติขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นตามท่ีมีกฎหมายกาหนด แต่ไม่หมายความ รวมถึงข้อบัญญัติองค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวดั “คณะกรรมการกาหนดราคาประเมินทุนทรัพย์” หมายความว่า คณะกรรมการกาหนด ราคาประเมินทุนทรัพยต์ ามประมวลกฎหมายท่ดี ิน “คณะอนุกรรมการประจาจงั หวัด” หมายความวา่ คณะอนุกรรมการประจาจังหวดั ตามประมวล กฎหมายทด่ี ิน “คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมินภาษี” หมายความว่า คณะกรรมการพิจารณา อุทธรณ์การประเมินภาษีประจาจงั หวัด หรือคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมนิ ภาษีกรุงเทพมหานคร แล้วแต่กรณี “พนักงานสารวจ” หมายความว่า ผู้ซึ่งได้รับแต่งต้ังให้มีหน้าที่สารวจที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทีผ่ ูเ้ สยี ภาษเี ป็นเจา้ ของหรอื ครอบครองอยู่ “พนักงานประเมนิ ” หมายความวา่ ผซู้ ึง่ ได้รบั แต่งตั้งใหม้ ีหนา้ ท่ีประเมนิ ภาษี “พนักงานเก็บภาษี” หมายความว่า ผู้ซ่ึงได้รับแต่งตั้งให้มีหน้าท่ีรับชาระภาษี และเร่งรัด การชาระภาษี “ป”ี หมายความว่า ปีปฏทิ ิน “รฐั มนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรผี รู้ ักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ มาตรา ๖ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการตามพระราชบญั ญตั ิน้ี และใหม้ ีอานาจออกกฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศเพอ่ื ปฏบิ ตั ิการ ตามพระราชบญั ญัตินี้ ทงั้ นี้ ในสว่ นที่เกย่ี วกบั หนา้ ที่และอานาจของตน กฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศนัน้ เมื่อได้ประกาศในราชกจิ จานุเบกษาแล้วใหใ้ ช้บงั คบั ได้

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๓๐ ก หน้า ๒๕ ๑๒ มนี าคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา

หมวด ๑ บททั่วไป

มาตรา ๗ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอานาจจัดเก็บภาษีจากที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ท่ีอยู่ในเขตองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ น้นั ตามทบ่ี ญั ญตั ิไว้ในพระราชบญั ญัติน้ี

ภาษีท่ีจัดเก็บได้ในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินใด ให้เป็นรายได้ขององค์กรปกครอง ส่วนทอ้ งถ่ินน้ัน

มาตรา ๘ ให้ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นทรัพย์สินดังต่อไปน้ีได้รับยกเว้นจากการจัดเก็บ ภาษีตามพระราชบัญญัตนิ ี้

(๑) ทรพั ย์สินของรัฐหรือของหน่วยงานของรัฐซ่ึงใช้ในกิจการของรฐั หรือของหน่วยงานของรัฐ หรือในกจิ การสาธารณะ ท้ังน้ี โดยมิไดใ้ ช้หาผลประโยชน์

(๒) ทรัพย์สินท่ีเป็นที่ทาการขององค์การสหประชาชาติ ทบวงการชานัญพิเศษขององค์การ สหประชาชาตหิ รือองคก์ ารระหว่างประเทศอ่นื ซงึ่ ประเทศไทยมีขอ้ ผกู พันท่ีต้องยกเว้นภาษีให้ตามสนธสิ ญั ญา หรอื ความตกลงอื่นใด

(๓) ทรัพย์สินที่เป็นที่ทาการสถานทูตหรือสถานกงสุลของต่างประเทศ ทั้งน้ี ให้เป็นไป ตามหลกั ถ้อยทีถ้อยปฏิบัติต่อกัน

(๔) ทรัพย์สินของสภากาชาดไทย (๕) ทรัพย์สินที่เป็นศาสนสมบัติไม่ว่าของศาสนาใดที่ใช้เฉพาะเพ่ือการประกอบศาสนกิจหรือ กิจการสาธารณะ หรือทรัพย์สินที่เป็นที่อยู่ของสงฆ์ นักพรต นักบวช หรือบาทหลวง ไม่ว่าในศาสนาใด หรือทรัพย์สินทีเ่ ป็นศาลเจา้ ทัง้ น้ี เฉพาะทม่ี ไิ ด้ใช้หาผลประโยชน์ (๖) ทรัพย์สนิ ท่ีใชเ้ ป็นสสุ านสาธารณะหรือฌาปนสถานสาธารณะ โดยมไิ ด้รับประโยชน์ตอบแทน (๗) ทรัพย์สินท่ีเป็นของมูลนิธิหรือองค์การหรือสถานสาธารณกุศลตามที่รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลงั ประกาศกาหนด ทั้งน้ี เฉพาะที่มิไดใ้ ช้หาผลประโยชน์ (๘) ทรัพย์สินของเอกชนเฉพาะส่วนที่ได้ยินยอมให้ทางราชการจัดให้ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ ทั้งน้ี ตามหลักเกณฑแ์ ละเงือ่ นไขที่รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงการคลังประกาศกาหนด (๙) ทรัพย์ส่วนกลางที่มีไว้เพื่อใช้หรือเพื่อประโยชน์ร่วมกันสาหรับเจ้าของร่วมตามกฎหมาย ว่าดว้ ยอาคารชดุ (๑๐) ที่ดนิ อันเปน็ สาธารณปู โภคตามกฎหมายวา่ ด้วยการจัดสรรทีด่ ิน (๑๑) ที่ดนิ อันเป็นพ้นื ทีส่ าธารณปู โภคตามกฎหมายว่าดว้ ยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

(๑๒) ทรัพย์สินอื่นตามทก่ี าหนดในกฎกระทรวง

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๒๖ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา

มาตรา ๙ ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของหรือครอบครองท่ีดินหรือสิ่งปลูกสร้างอยู่ในวันที่ ๑ มกราคม ของปีใด เปน็ ผมู้ ีหน้าท่เี สียภาษสี าหรับปีนัน้ ตามท่ีกาหนดไว้ในพระราชบญั ญัติน้ี

การเสยี ภาษีของผ้เู สยี ภาษตี ามพระราชบญั ญัตนิ ้ี ไมเ่ ปน็ เหตใุ ห้เกดิ สทิ ธิตามกฎหมายอื่น มาตรา ๑๐ ในกรณีท่ีมีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนการเช่า ในที่ดินหรือส่ิงปลูกสร้างใด ให้สานักงานที่ดินหรอื สานักงานท่ีดินสาขาแจง้ การโอนหรอื การจดทะเบียน การเชา่ ดงั กลา่ วต่อองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ท่ีทดี่ ินหรอื สิง่ ปลกู สรา้ งตง้ั อย่ตู ามรายการที่รัฐมนตรวี ่าการ กระทรวงมหาดไทยประกาศกาหนด ทัง้ นี้ ให้แจ้งเปน็ รายเดอื นภายในวันทส่ี บิ หา้ ของเดือนถดั ไป การแจ้งการโอนหรือการจดทะเบียนการเช่าให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามวรรคหนึ่ง ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายตามประมวลกฎหมายท่ีดินและ กฎหมายวา่ ด้วยอาคารชุด มาตรา ๑๑ ให้ผู้บริหารท้องถิ่นมีอานาจแต่งตั้งพนักงานสารวจ พนักงานประเมิน และ พนักงานเกบ็ ภาษี เพื่อปฏบิ ัตกิ ารใหเ้ ปน็ ไปตามพระราชบัญญตั นิ ้ี ในการปฏิบัติหน้าท่ีตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานตามวรรคหนึ่ง เป็นเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๒ ในกรณีที่องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ มอบหมายใหส้ ว่ นราชการหรอื หนว่ ยงานของรัฐ รับชาระภาษีแทนตามมาตรา ๕๐ สว่ นราชการหรือหนว่ ยงานของรัฐนั้นอาจไดร้ ับส่วนลดหรือค่าใช้จา่ ย ในการจัดเกบ็ ภาษตี ามอตั ราที่กาหนดในกฎกระทรวง แตท่ ้งั นี้ตอ้ งไมเ่ กนิ รอ้ ยละสามของภาษที ร่ี บั ชาระ มาตรา ๑๓ การส่งคาสั่งเป็นหนังสือ หนังสือแจ้งการประเมินหรือหนังสืออ่ืน ให้เจ้าหน้าที่ ส่งให้แก่ผู้เสียภาษีโดยตรง หรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ โดยให้ส่ง ณ ภูมิลาเนาหรือถิ่นท่ีอยู่ หรือสถานท่ีทาการของบุคคลนั้นในระหว่างเวลาพระอาทิตยข์ ้ึนถึงพระอาทิตย์ตกหรอื ในเวลาทาการของ บุคคลนั้น ถ้าไม่พบผู้เสียภาษี ณ ภูมิลาเนาหรือถิ่นท่ีอยู่หรือสถานที่ทาการของผู้เสียภาษีจะส่งให้แก่ บุคคลใดซึ่งบรรลุนิตภิ าวะแลว้ และอยู่ ณ ภูมิลาเนาหรือถ่นิ ทีอ่ ยู่หรอื สถานท่ีทาการท่ีปรากฏว่าเปน็ ของ ผเู้ สยี ภาษีนั้นกไ็ ด้ ถ้าไม่สามารถส่งหนังสือตามวิธีการที่กาหนดในวรรคหน่ึงได้ จะกระทาโดยวิธีปิดหนังสือในท่ี ท่ีเห็นได้ง่าย ณ ภูมิลาเนาหรือถ่ินท่ีอยู่หรือสถานท่ีทาการของผู้เสียภาษีน้ันหรือลงประกาศแจ้งความ ในหนงั สอื พมิ พ์กไ็ ด้ เมื่อไดด้ าเนินการตามวรรคสองและเวลาไดล้ ว่ งพน้ ไปไม่น้อยกวา่ เจด็ วนั นบั แต่วันที่ได้ดาเนินการ ดงั กลา่ ว ให้ถือว่าผู้เสยี ภาษไี ดร้ บั หนังสือนนั้ แล้ว

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๓๐ ก หน้า ๒๗ ๑๒ มนี าคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา

มาตรา ๑๔ กาหนดเวลาการชาระภาษีหรอื แจ้งรายการต่าง ๆ หรอื กาหนดเวลาการคดั คา้ น การประเมินภาษีตามที่กาหนดไว้ในพระราชบัญญัติน้ี ถ้าผู้มีหน้าท่ีต้องปฏิบัติตามกาหนดเวลาดังกล่าว มเี หตจุ าเป็นจนไมส่ ามารถจะปฏิบัตติ ามกาหนดเวลาได้ ให้ย่นื คารอ้ งขอขยายหรือเลอ่ื นกาหนดเวลากอ่ น กาหนดเวลาส้ินสุดลง เมื่อผู้บริหารท้องถิ่นพิจารณาเห็นเป็นการสมควร จะให้ขยายหรือให้เลื่อน กาหนดเวลาออกไปอกี ตามความจาเป็นแก่กรณกี ็ได้

กาหนดเวลาต่าง ๆ ที่กาหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ เม่ือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เหน็ เปน็ การสมควร จะขยายหรอื เล่อื นกาหนดเวลานนั้ ออกไปเปน็ การทัว่ ไปตามความจาเปน็ แก่กรณีกไ็ ด้

หมวด ๒ คณะกรรมการวินิจฉัยภาษที ่ดี นิ และสงิ่ ปลูกสร้าง

มาตรา ๑๕ ให้มีคณะกรรมการคณะหน่ึง เรียกว่า “คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีที่ดินและ สิ่งปลูกสร้าง” ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงมหาดไทย อธบิ ดกี รมท่ีดนิ อธิบดีกรมธนารักษ์ อธบิ ดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถ่ิน อธิบดีกรมสรรพากร และ ผู้อานวยการสานักงานเศรษฐกจิ การคลัง เป็นกรรมการ

ให้ผู้อานวยการสานักงานเศรษฐกิจการคลังแต่งต้ังข้าราชการของสานักงานเศรษฐกิจการคลัง เป็นเลขานุการ และอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นแต่งต้ังข้าราชการของกรมส่งเสริม การปกครองท้องถ่นิ เปน็ ผชู้ ่วยเลขานุการ

มาตรา ๑๖ คณะกรรมการวนิ จิ ฉยั ภาษที ่ดี ินและสิ่งปลกู สร้างมหี นา้ ทแี่ ละอานาจ ดงั ต่อไปนี้ (๑) วนิ ิจฉยั ปัญหาเกย่ี วกับการจัดเกบ็ ภาษตี ามมาตรา ๒๓ วรรคสาม และตามท่กี ระทรวงการคลงั หรือกรงุ เทพมหานครรอ้ งขอ (๒) ให้คาปรึกษาหรือคาแนะนาเก่ียวกับการจัดเก็บภาษีและการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติน้ี กับคณะกรรมการภาษีที่ดินและสง่ิ ปลูกสรา้ งประจาจงั หวดั กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย หรือ กรงุ เทพมหานคร (๓) ปฏิบตั ิการอื่นใดตามท่ีกฎหมายกาหนดใหเ้ ป็นหน้าที่และอานาจของคณะกรรมการวินิจฉัย ภาษีทด่ี นิ และสงิ่ ปลกู สรา้ ง มาตรา ๑๗ การประชุมคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีท่ีดินและส่ิงปลูกสร้างต้องมีกรรมการ มาประชุมไมน่ อ้ ยกวา่ กง่ึ หน่งึ ของจานวนกรรมการทง้ั หมด จงึ จะเปน็ องคป์ ระชมุ

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๒๘ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา

ในการประชุมคณะกรรมการ ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ทป่ี ระชมุ เลือกกรรมการคนหนงึ่ เป็นประธานในทป่ี ระชุม

การวินจิ ฉัยชี้ขาดของทีป่ ระชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งใหม้ ีเสียงหน่ึงในการลงคะแนน ถา้ คะแนนเสยี งเท่ากันใหป้ ระธานในทปี่ ระชมุ ออกเสียงเพิ่มข้นึ อกี เสียงหนง่ึ เป็นเสยี งชข้ี าด

มาตรา ๑๘ คาวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้เป็นที่สุด และในกรณีท่ีมีการเปล่ียนแปลงคาวินิจฉัยในภายหลัง คาวินิจฉัยท่ีเปล่ียนแปลงนั้น ให้มีผลใช้บังคับ ต้ังแต่วนั ท่มี คี าวินิจฉยั เปลี่ยนแปลงเปน็ ตน้ ไป

มาตรา ๑๙ ในกรณีท่ีคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีท่ีดินและส่ิงปลูกสร้างได้มีคาวินิจฉัย คาปรึกษาหรือคาแนะนาเก่ียวกับการจัดเก็บภาษีและการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้แล้ว ให้แจ้ง คาวินิจฉัย คาปรึกษาหรือคาแนะนาดังกล่าวไปยังผู้ท่ีย่ืนขอคาวินิจฉัย คาปรึกษาหรือคาแนะนาน้ัน และใหส้ ่งเรอ่ื งดังกล่าวไปยงั กระทรวงมหาดไทยเพอ่ื ใหแ้ จง้ หนว่ ยงานท่เี ก่ียวขอ้ งทราบและถอื ปฏบิ ตั ิต่อไป

มาตรา ๒๐ คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีที่ดินและส่ิงปลูกสร้างอาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ เพอ่ื ปฏิบัติงานตามที่คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีท่ีดนิ และสงิ่ ปลกู สร้างมอบหมายกไ็ ด้

ในการประชมุ คณะอนกุ รรมการ ใหน้ าความในมาตรา ๑๗ มาใช้บงั คับโดยอนโุ ลม

หมวด ๓ คณะกรรมการภาษที ดี่ นิ และสง่ิ ปลูกสร้างประจาจงั หวดั

มาตรา ๒๑ ในแต่ละจังหวัดยกเว้นกรุงเทพมหานคร ให้มีคณะกรรมการคณะหน่ึง เรียกว่า “คณะกรรมการภาษีท่ีดินและสิ่งปลูกสร้างประจาจังหวัด” ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานกรรมการ ปลัดจังหวัด เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด ธนารักษ์พื้นท่ี โยธาธิการและผังเมืองจังหวัด สรรพากรพน้ื ท่ที ี่ผ้วู ่าราชการจังหวัดแตง่ ตงั้ จานวนหน่ึงคน นายกองค์การบริหารส่วนจงั หวัด นายกเทศมนตรี จานวนห้าคน นายกองค์การบริหารส่วนตาบลจานวนห้าคน เป็นกรรมการ และให้ท้องถิ่นจังหวัด เป็นกรรมการและเลขานุการ

ในกรณีท่ีจังหวัดใดมผี ู้บรหิ ารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ อ่ืนในจงั หวัด ให้ผูบ้ ริหารท้องถิ่น ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นอืน่ ในจงั หวัดน้นั เปน็ กรรมการรว่ มดว้ ยจานวนหนึง่ คน

ให้นายกเทศมนตรี นายกองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล และผู้บริหารท้องถ่ินขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ินอื่นในจังหวัด เป็นผู้พิจารณาเลือกนายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตาบล หรือ

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๒๙ ๑๒ มนี าคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา

ผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินอ่ืนในจังหวัดตามวรรคหน่ึงและวรรคสอง แล้วแต่กรณี ทงั้ นี้ ตามระเบยี บที่รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทยประกาศกาหนด

คณะกรรมการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจาจังหวัด มีหน้าที่และอานาจพิจารณาให้ ความเห็นชอบอตั ราภาษตี ามรา่ งขอ้ บญั ญตั ิท้องถิน่ ขององคก์ รปกครองส่วนท้องถน่ิ ตามมาตรา ๓๗ วรรคเจ็ด ให้ความเห็นชอบการลดภาษีหรือยกเว้นภาษีของผู้บริหารท้องถิ่นตามมาตรา ๕๖ หรือมาตรา ๕๗ และให้คาปรึกษาหรือคาแนะนาแก่ผู้บริหารท้องถ่ินเก่ียวกบั การจดั เก็บภาษีขององคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น ในจังหวดั รวมท้งั ปฏิบัติการอน่ื ตามทก่ี าหนดในพระราชบัญญตั นิ ้ี

เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้ คาว่า “ผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอ่ืน ในจงั หวัด” ให้หมายความรวมถึงนายกเมอื งพัทยาด้วย

มาตรา ๒๒ การประชมุ คณะกรรมการภาษีทด่ี นิ และส่งิ ปลูกสรา้ งประจาจังหวดั ใหน้ าความ ในมาตรา ๑๗ มาใชบ้ งั คบั โดยอนโุ ลม

มาตรา ๒๓ เมื่อคณะกรรมการภาษีท่ดี ินและสิง่ ปลูกสร้างประจาจังหวดั ได้ให้คาปรึกษาหรือ คาแนะนาแก่ผู้บริหารท้องถ่ินเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีขององค์กรปก ครองส่วนท้องถ่ินในจังหวัดแล้ว ใหส้ ง่ คาปรกึ ษาหรอื คาแนะนาดังกล่าวไปยังกระทรวงมหาดไทยเพอ่ื พิจารณาตอ่ ไป

ในกรณีท่ีกระทรวงมหาดไทยเห็นด้วยกบั คาปรึกษาหรือคาแนะนาของคณะกรรมการภาษีที่ดิน และส่ิงปลูกสร้างประจาจงั หวัดตามวรรคหน่ึง ให้กระทรวงมหาดไทยแจง้ ให้คณะกรรมการภาษีท่ีดินและ สง่ิ ปลูกสร้างประจาจังหวดั ทราบภายในสิบห้าวันนับแต่วันได้รับคาปรึกษาหรือคาแนะนา พร้อมทงั้ ส่งให้ คณะกรรมการภาษีทีด่ นิ และสง่ิ ปลกู สร้างประจาจงั หวดั อ่นื และองค์กรปกครองส่วนท้องถ่นิ ทกุ แห่งทราบ และถอื ปฏิบัติตอ่ ไป

ในกรณีที่กระทรวงมหาดไทยไม่เห็นด้วยกับคาปรึกษาหรือคาแนะนาของคณะกรรมการภาษีท่ีดิน และส่ิงปลูกสร้างประจาจังหวัดตามวรรคหน่ึง ให้กระทรวงมหาดไทยส่งเรื่องพร้อมกับความเห็นไปยัง คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีที่ดินและส่ิงปลูกสร้างภายในสิบห้าวันนับแต่วันท่ีได้รับคาปรึกษาหรือคาแนะนา ดงั กล่าว

การแจ้งและการส่งเร่ืองตามมาตราน้ี ให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย ประกาศกาหนด

มาตรา ๒๔ ในแต่ละปี ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินยกเว้นกรุงเทพมหานครจัดส่งข้อมูล เก่ยี วกบั การจัดเก็บภาษี จานวนภาษที ีจ่ ัดเกบ็ ได้ มูลค่าทดี่ นิ และส่ิงปลกู สร้างท่ใี ช้เปน็ ฐานในการคานวณภาษี ใหแ้ ก่คณะกรรมการภาษีท่ดี ินและส่ิงปลกู สรา้ งประจาจังหวดั

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๓๐ ก หน้า ๓๐ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา

ให้คณะกรรมการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจาจังหวัดรวบรวมข้อมูลขององค์กรปกครอง ส่วนทอ้ งถิ่นตามวรรคหนงึ่ และจดั สง่ ให้แกก่ ระทรวงมหาดไทย

ใหก้ รงุ เทพมหานครจัดส่งข้อมูลตามที่กาหนดในวรรคหนง่ึ ใหแ้ กก่ ระทรวงมหาดไทยโดยตรง ใหก้ ระทรวงมหาดไทยประมวลผลข้อมลู ทไี่ ดร้ ับตามวรรคสองและวรรคสาม และใหจ้ ัดสง่ ข้อมูล ท่ีมีการประมวลผลแล้วให้แก่กระทรวงการคลังและคณะกรรมการการกระจายอานาจให้แก่องค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ินตามกฎหมายว่าด้วยการกาหนดแผนและข้ันตอนการกระจายอานาจให้แก่องค์กรปกครอ ง สว่ นท้องถ่นิ การรวบรวมและการจัดส่งข้อมูลตามมาตราน้ี ให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทยประกาศกาหนด มาตรา ๒๕ ในการจัดส่งขอ้ มลู ให้แกก่ ระทรวงมหาดไทยตามมาตรา ๒๔ ใหค้ ณะกรรมการ ภาษีท่ีดินและส่ิงปลูกสร้างประจาจังหวัดและกรุงเทพมหานคร รายงานสภาพปัญหาและอุปสรรคเก่ียวกับ การจดั เก็บภาษี พรอ้ มกบั เสนอแนวทางการแก้ไขดว้ ย

หมวด ๔ การสารวจและจดั ทาบญั ชีรายการทด่ี นิ และสงิ่ ปลูกสรา้ ง

มาตรา ๒๖ เพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บภาษี องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินอาจจัดให้มี การสารวจที่ดินและส่ิงปลูกสร้างที่อยู่ภายในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ เพ่ือให้ทราบข้อมูลเก่ียวกับ ทีด่ ินและสิ่งปลูกสร้างน้นั ตามหลักเกณฑแ์ ละวธิ กี ารท่กี าหนดไวใ้ นหมวดน้ี

มาตรา ๒๗ ก่อนท่ีจะดาเนินการสารวจที่ดินและส่ิงปลูกสร้าง ให้ผู้บริหารท้องถ่ินประกาศ กาหนดระยะเวลาที่จะทาการสารวจที่ดินและส่ิงปลูกสร้าง และแต่งต้ังพนักงานสารวจเพื่อปฏิบัติการ ดังกล่าว โดยปิดประกาศล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน ณ สานักงานหรือท่ีทาการขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถน่ิ หรือสถานทอ่ี น่ื ตามที่เหน็ สมควรภายในเขตองคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ินน้ัน

มาตรา ๒๘ ให้พนักงานสารวจมีหน้าที่และอานาจสารวจที่ดินและสิ่งปลูกสร้างภายใน เขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในส่วนท่ีเกี่ยวกับประเภท จานวน ขนาดของที่ดินและส่ิงปลูกสร้าง การใช้ประโยชนใ์ นทีด่ นิ และส่ิงปลกู สรา้ ง และรายละเอียดอนื่ ทจ่ี าเป็นแก่การประเมนิ ภาษี

ในการปฏิบตั ิหน้าที่ พนักงานสารวจต้องแสดงบัตรประจาตวั ตอ่ บุคคลทเ่ี กี่ยวข้อง บัตรประจาตัวตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามแบบท่ีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประกาศกาหนด

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๓๐ ก หน้า ๓๑ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา

มาตรา ๒๙ ในการสารวจที่ดินและส่ิงปลูกสร้าง ให้พนักงานสารวจมีอานาจเข้าไปในที่ดิน หรือสิ่งปลูกสร้างหรือสถานที่อ่ืนท่ีเก่ียวข้องในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตกหรือในเวลา ทาการได้ และมีอานาจเรยี กเอกสารหรือหลกั ฐานอืน่ ใดท่เี กยี่ วข้องกับท่ดี นิ หรอื ส่ิงปลกู สร้างจากผู้เสยี ภาษี ทง้ั นี้ ใหผ้ ู้เสียภาษีหรือบุคคลซงึ่ เกยี่ วข้องอานวยความสะดวกตามสมควร

ในการดาเนินการตามวรรคหน่ึง พนักงานสารวจอาจขอให้ผู้เสียภาษีช้ีเขตที่ดินหรือ ให้รายละเอียดเก่ียวกบั ทด่ี นิ หรอื สง่ิ ปลกู สรา้ งได้

ในกรณีท่ีผู้เสียภาษีไม่ส่งมอบเอกสารหรือหลักฐานอื่นใดที่เก่ียวข้องกับท่ีดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ตามวรรคหน่ึงให้แก่พนักงานสารวจ ให้พนักงานสารวจรายงานให้ผู้บริหารท้องถ่ินทราบเพื่อมีหนังสือ เรียกเอกสารหรอื หลักฐานดังกลา่ วตอ่ ไป

มาตรา ๓๐ เม่ือพนักงานสารวจไดด้ าเนินการสารวจทดี่ นิ และส่ิงปลูกสร้างภายในเขตองค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ินแล้ว ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินจัดทาบัญชีรายการที่ดินและส่ิงปลูกสร้าง โดยต้องแสดงประเภท จานวน ขนาดของท่ีดินและส่ิงปลูกสร้าง การใช้ประโยชน์ในที่ดินและส่ิงปลูกสร้าง และรายละเอียดอื่นท่ีจาเป็นแก่การประเมินภาษี ตามระเบียบที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประกาศกาหนด และให้ประกาศบัญชีดังกล่าว ณ สานักงานหรือท่ีทาการขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน หรือสถานที่อื่นด้วยตามที่เห็นสมควร ภายในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน เป็นเวลาไม่น้อยกว่า สามสิบวัน พร้อมท้ังให้จัดส่งข้อมูลที่เก่ียวข้องกับผู้เสียภาษีแต่ละรายตามประกาศบัญชีดังกล่าว ให้ผเู้ สยี ภาษรี ายน้นั ทราบด้วย

มาตรา ๓๑ ในกรณีที่ปรากฏว่าบัญชีรายการท่ีดินและสิ่งปลูกสร้างที่ได้จัดทาข้ึนไม่ถูกต้อง ตามความเป็นจริง ใหผ้ บู้ ริหารท้องถน่ิ มอี านาจส่งั ใหแ้ ก้ไขเพิ่มเตมิ บญั ชีรายการที่ดินและส่ิงปลกู สรา้ งได้

มาตรา ๓๒ ในกรณีท่ีผู้เสียภาษีเห็นว่าบัญชีรายการท่ีดินและส่ิงปลูกสร้างท่ีได้จัดทาขึ้น ไม่ถกู ต้องตามความเปน็ จรงิ ให้ผู้เสยี ภาษยี นื่ คารอ้ งตอ่ ผู้บริหารท้องถ่ินเพ่ือขอแกไ้ ขให้ถกู ตอ้ งได้

เม่ือได้รับคาร้องตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้บริหารท้องถิ่นมีคาส่งั ใหพ้ นักงานสารวจดาเนนิ การตรวจสอบ ข้อเท็จจริงอีกคร้ังหน่ึงโดยเร็ว ในกรณีตอ้ งแก้ไขบัญชีรายการทีด่ ินและส่ิงปลูกสรา้ ง ให้ผู้บริหารท้องถิ่น ดาเนนิ การแกไ้ ขบญั ชรี ายการที่ดินและสิง่ ปลูกสรา้ งใหถ้ ูกตอ้ ง

ให้ผู้บริหารท้องถิ่นแจ้งผลการดาเนินการตามวรรคสองให้ผู้เสียภาษีทราบภายในสามสิบวัน นบั แต่วนั ทไ่ี ด้รบั คารอ้ งจากผ้เู สียภาษี

มาตรา ๓๓ ในกรณีท่ีการใช้ประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่า ด้วยเหตุใด อันมผี ลทาให้ท่ีดนิ หรือสิง่ ปลูกสร้างต้องเสยี ภาษีในอตั ราท่ีสูงขึ้นหรือลดลง ให้ผ้เู สียภาษีแจ้ง

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๓๐ ก หน้า ๓๒ ๑๒ มนี าคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา

การเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ในท่ีดินหรือส่ิงปลูกสร้างนั้นต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภายใน หกสิบวันนับแต่วันท่ีมีการเปล่ียนแปลงหรือวันที่ผู้เสียภาษีรู้ถึงเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ ท่ี รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทยประกาศกาหนด

มาตรา ๓๔ การแจ้งประกาศกาหนดระยะเวลาที่จะทาการสารวจตามมาตรา ๒๗ การจัดส่งข้อมูลของผู้เสียภาษีแต่ละรายตามประกาศบัญชีตามมาตรา ๓๐ การแจ้งผลการดาเนินการ ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามมาตรา ๓๒ และการแจ้งการเปล่ียนแปลงการใช้ประโยชน์ในที่ดินหรือ ส่งิ ปลูกสร้างตามมาตรา ๓๓ อาจดาเนนิ การโดยผา่ นทางสอ่ื อเิ ล็กทรอนิกสห์ รอื ดว้ ยวธิ กี ารอน่ื ใดได้ ทั้งนี้ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยประกาศกาหนด

หมวด ๕ ฐานภาษี อตั ราภาษี และการคานวณภาษี

มาตรา ๓๕ ฐานภาษีเพื่อการคานวณภาษีตามพระราชบัญญัติน้ี ได้แก่ มูลค่าท้ังหมด ของทีด่ นิ หรอื สง่ิ ปลูกสร้าง

การคานวณมลู คา่ ของที่ดนิ หรอื สง่ิ ปลกู สร้าง ใหเ้ ปน็ ไปตามหลกั เกณฑ์ ดงั ต่อไปน้ี (๑) ท่ีดนิ ให้ใช้ราคาประเมนิ ทนุ ทรัพยท์ ่ีดนิ เปน็ เกณฑใ์ นการคานวณ (๒) สงิ่ ปลูกสร้าง ใหใ้ ช้ราคาประเมนิ ทนุ ทรัพย์ส่งิ ปลูกสรา้ งเปน็ เกณฑใ์ นการคานวณ (๓) สงิ่ ปลูกสรา้ งทีเ่ ปน็ ห้องชุด ให้ใชร้ าคาประเมินทนุ ทรพั ย์ห้องชดุ เป็นเกณฑใ์ นการคานวณ กรณีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างท่ีไม่มีราคาประเมินทุนทรัพย์ การคานวณมูลค่าให้เป็นไป ตามหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงอื่ นไขทกี่ าหนดในกฎกระทรวง ราคาประเมินทนุ ทรพั ย์ท่ีดนิ สิ่งปลูกสรา้ ง หรือส่งิ ปลูกสรา้ งทเ่ี ป็นห้องชุด ใหเ้ ป็นไปตามราคา ประเมินทุนทรัพย์ของอสังหาริมทรัพย์เพ่ือเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ตามประมวลกฎหมายท่ีดิน ที่คณะอนุกรรมการประจาจังหวัดกาหนดโดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการกาหนดราคาประเมินทุนทรัพย์ มาตรา ๓๖ ให้กรมธนารักษ์หรือสานักงานธนารักษ์พื้นท่ี แล้วแต่กรณี ส่งบัญชีกาหนด ราคาประเมินทุนทรัพย์ท่ีดิน ส่ิงปลูกสร้าง หรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นห้องชุดตามมาตรา ๓๕ ให้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินซ่ึงท่ีดิน ส่ิงปลูกสร้าง หรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นห้องชุดนั้นตั้งอยู่ใน เขตองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่คณะอนุกรรมการประจาจังหวัดประกาศ ใช้ราคาประเมินทุนทรพั ย์

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๓๓ ๑๒ มนี าคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา

มาตรา ๓๗ ทีด่ ินหรอื สิ่งปลกู สร้าง ให้จดั เก็บภาษตี ามอัตรา ดงั ต่อไปน้ี (๑) ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างท่ีใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม ให้มีอัตราภาษีไม่เกิน รอ้ ยละศนู ยจ์ ดุ หนง่ึ ห้าของฐานภาษี (๒) ทด่ี นิ หรือสิ่งปลกู สร้างท่ใี ช้ประโยชนเ์ ป็นทีอ่ ยูอ่ าศัย ให้มอี ัตราภาษไี มเ่ กนิ ร้อยละศนู ย์จุดสาม ของฐานภาษี (๓) ที่ดินหรือส่ิงปลูกสร้างท่ีใช้ประโยชน์อ่ืนนอกจาก (๑) หรือ (๒) ให้มีอัตราภาษีไม่เกิน ร้อยละหน่งึ จดุ สองของฐานภาษี (๔) ทด่ี ินหรือส่ิงปลูกสรา้ งท่ีท้ิงไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทาประโยชน์ตามควรแกส่ ภาพ ให้มีอัตรา ภาษไี มเ่ กินรอ้ ยละหน่งึ จดุ สองของฐานภาษี การใช้ประโยชนใ์ นการประกอบเกษตรกรรมตาม (๑) ต้องเปน็ การทานา ทาไร่ ทาสวน เลี้ยงสตั ว์ เล้ียงสัตว์น้า และกิจการอ่ืนตามหลักเกณฑ์ท่ีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทยร่วมกันประกาศกาหนด ทั้งนี้ ในการจัดทาประกาศดังกล่าวให้นาความเห็นของ รฐั มนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณม์ าประกอบการพจิ ารณาด้วย การใช้ประโยชน์เป็นท่ีอยู่อาศัยตาม (๒) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลงั และรัฐมนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทยร่วมกนั ประกาศกาหนด ท่ีดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทาประโยชน์ตามควรแก่สภาพตาม (๔) ให้เปน็ ไปตามหลกั เกณฑท์ ่กี าหนดในกฎกระทรวง อัตราภาษีที่ใช้จัดเก็บตามวรรคหนึ่ง ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา โดยจะกาหนดเป็นอัตราเดียว หรือหลายอัตราแยกตามมูลค่าของท่ีดินหรือส่ิงปลูกสร้างก็ได้ ทั้งน้ี ต้องไม่เกินอัตราภาษีท่ีกาหนด ตามวรรคหนึ่ง และจะกาหนดแยกตามประเภทการใช้ประโยชน์หรอื ตามเง่อื นไขในแต่ละประเภทการใช้ ประโยชน์ก็ได้ ในกรณีที่องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ใดมีความประสงคท์ ี่จะจัดเก็บภาษใี นอัตราทส่ี ูงกว่าอตั ราภาษี ที่กาหนดโดยพระราชกฤษฎีกาตามวรรคห้า ให้มีอานาจตราข้อบัญญัติท้องถิ่นกาหนดอัตราภาษีท่ีใช้ จัดเกบ็ ภายในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ นน้ั ได้ แตต่ อ้ งไม่เกนิ อตั ราทก่ี าหนดในวรรคหน่ึง ในการตราข้อบัญญัติท้องถิน่ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ ตามวรรคหก ยกเว้นกรุงเทพมหานคร ก่อนการลงนามใช้บังคับข้อบัญญัติท้องถิ่นตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยการจัดต้ังองค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ิน ให้ผู้บริหารท้องถิ่นเสนออัตราภาษีตามร่างข้อบัญญัติท้องถิ่นให้คณะกรรมการภาษีท่ีดิน และส่ิงปลูกสร้างประจาจังหวัดให้ความเห็นชอบก่อน เมื่อคณะกรรมการภาษีที่ดินและส่ิงปลูกสร้าง

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๓๐ ก หน้า ๓๔ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา

ประจาจังหวัดเห็นชอบกับอัตราภาษีตามร่างข้อบัญญัติท้องถ่ินดังกล่าวแล้ว ให้ผู้บริหารท้องถิ่นลงนาม ใชบ้ งั คับข้อบญั ญตั ิทอ้ งถิ่นตอ่ ไปได้

ในกรณีท่ีคณะกรรมการภาษีที่ดินและส่ิงปลูกสร้างประจาจังหวัดไม่เห็นชอบกับอัตราภาษี ตามร่างข้อบัญญัติท้องถ่ินดังกล่าว ให้ส่งความเห็นเก่ียวกับอัตราภาษีคืนผู้บริหารท้องถ่ินเพื่อเสนอ สภาทอ้ งถิ่นดาเนินการแก้ไขอัตราภาษีตามความเห็นของคณะกรรมการภาษที ่ีดินและสิง่ ปลูกสร้างประจา จังหวัด หรือพิจารณายืนยันด้วยคะแนนเสียงไมน่ ้อยกวา่ สองในสามให้แล้วเสรจ็ ภายในสามสิบวันนับแต่ วันท่ีได้รับความเห็นเก่ียวกับอัตราภาษีคืนจากคณะกรรมการภาษีที่ดินและส่ิงปลูกสร้างประจาจังหวัด หากสภาท้องถ่ินดาเนินการแก้ไขไม่แล้วเสร็จหรือสภาท้องถ่ินพิจารณายืนยันด้วยคะแนนเสียงน้อยกว่า สองในสามของจานวนสมาชกิ สภาท้องถิ่นทง้ั หมดเท่าท่ีมีอยู่ ใหร้ า่ งขอ้ บญั ญตั ิท้องถนิ่ นั้นตกไป

มาตรา ๓๘ ในกรณีที่ท่ีดินหรือสิ่งปลูกสร้างใดมีการใช้ประโยชน์หลายประเภท ให้องค์กร ปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ จดั เกบ็ ภาษตี ามสดั ส่วนของการใชป้ ระโยชนใ์ นท่ดี ินหรือสงิ่ ปลูกสร้าง ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยร่วมกันประกาศ กาหนด

มาตรา ๓๙ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินประกาศราคาประเมินทุนทรัพย์ของท่ีดินและ สง่ิ ปลกู สร้าง อัตราภาษีท่ีจดั เก็บ และรายละเอียดอื่นที่จาเป็นในการจัดเกบ็ ภาษีในแต่ละปี ณ สานักงาน หรือที่ทาการขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินก่อนวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ของปีน้ัน ทั้งน้ี ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการท่ีกาหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๔๐ ในกรณีท่ีดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาใช้ประโยชน์ใน การประกอบเกษตรกรรมอยู่ภายในเขตองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ ใด ให้ไดร้ ับยกเว้นมูลคา่ ของฐานภาษี ของท่ีดินหรือส่ิงปลูกสร้างภายในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินนั้นรวมกันในการคานวณภาษีไม่เกิน หา้ สบิ ล้านบาท

การยกเว้นมูลค่าของฐานภาษีตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รฐั มนตรีว่าการ กระทรวงการคลังและรฐั มนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทยรว่ มกนั ประกาศกาหนด

มาตรา ๔๑ ในกรณีท่ีดินและส่ิงปลูกสร้างที่เจ้าของซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาใช้เป็นท่ีอยู่อาศัย และมีช่ืออยู่ในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรในวันท่ี ๑ มกราคมของปีภาษีนั้น ให้ได้รับยกเว้นมูลค่าของฐานภาษใี นการคานวณภาษไี ม่เกนิ ห้าสิบลา้ นบาท

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๓๕ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา

ในกรณที บ่ี ุคคลธรรมดาเปน็ เจ้าของสง่ิ ปลกู สรา้ ง แตไ่ ม่ไดเ้ ปน็ เจา้ ของท่ีดนิ และใช้สงิ่ ปลูกสรา้ ง ดังกล่าวเป็นที่ อยู่อาศัยและมีช่ืออยู่ในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบี ยนรา ษฎรในวันที่ ๑ มกราคมของปภี าษีน้ัน ใหไ้ ดร้ ับยกเว้นมลู ค่าของฐานภาษีในการคานวณภาษีไม่เกินสบิ ลา้ นบาท

ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประกาศกาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเพื่อคานวณ การยกเวน้ มลู คา่ ของฐานภาษีตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง

มิให้นาความในวรรคหน่ึงหรือวรรคสองมาใช้บังคับกับท่ีดินและสิ่งปลูกสร้างหรือสิ่งปลูกสร้าง ท่ีเจ้าของซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาใช้เป็นท่ีอยู่อาศัยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วย การทะเบียนราษฎรในวันที่ ๑ มกราคมของปีภาษีนั้น ซ่ึงต้องย้ายชื่อออกจากทะเบียนบ้านดังกล่าว เพราะเหตุจาเป็นทางราชการตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมกันประกาศกาหนด โดยให้ถือเอาที่ดินและสิ่งปลูกสร้างหรือส่ิงปลูกสร้างก่อนการย้ายช่ือออกจาก ทะเบยี นบา้ นตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการทะเบยี นราษฎร เป็นทีด่ ินและสงิ่ ปลกู สรา้ งหรือส่งิ ปลูกสร้างทีไ่ ดร้ ับ การยกเว้นมูลคา่ ของฐานภาษใี นการคานวณภาษีตามวรรคหนึง่ หรือวรรคสอง

มาตรา ๔๒ การคานวณภาษีให้ใช้ฐานภาษีของท่ีดินหรือส่ิงปลูกสร้างซึ่งคานวณได้ ตามมาตรา ๓๕ หักด้วยมูลค่าของฐานภาษีที่ได้รับยกเว้นตามมาตรา ๔๐ หรือมาตรา ๔๑ แล้วคูณด้วย อัตราภาษีตามมาตรา ๓๗ ตามสดั ส่วนทก่ี าหนดในมาตรา ๓๘ ผลลัพธ์ที่ไดเ้ ปน็ จานวนภาษีที่ต้องเสีย

เพ่ือประโยชน์ในการคานวณจานวนภาษีตามวรรคหน่ึง กรณีท่ีดินหลายแปลงซึ่งมีอาณาเขต ติดต่อกันและเป็นของเจา้ ของเดยี วกนั ใหค้ านวณมลู คา่ ท่ดี ินท้งั หมดรวมกนั เปน็ ฐานภาษี

มาตรา ๔๓ ในกรณีท่ีท่ีดินหรือส่ิงปลูกสร้างท่ีต้องเสียภาษีเป็นที่ดินหรือส่ิงปลูกสร้างท่ีทิ้งไว้ วา่ งเปล่าหรือไม่ได้ทาประโยชน์ตามควรแก่สภาพเป็นเวลาสามปีติดต่อกัน ให้เรียกเก็บภาษีสาหรับท่ีดิน หรือสิ่งปลูกสร้างในปีที่ส่ี เพ่ิมข้ึนจากอัตราภาษีทีจ่ ัดเก็บตามมาตรา ๓๗ (๔) ในอัตราร้อยละศูนย์จดุ สาม และหากยังท้ิงไวว้ า่ งเปล่าหรอื ไมไ่ ดท้ าประโยชนต์ ามควรแก่สภาพอีกเปน็ เวลาตดิ ตอ่ กัน ใหเ้ พิม่ อัตราภาษี อีกร้อยละศนู ยจ์ ุดสามในทกุ สามปี แต่อตั ราภาษีที่เสยี รวมท้ังหมดแล้วต้องไมเ่ กินรอ้ ยละสาม

หมวด ๖ การประเมินภาษี การชาระภาษี และการคนื ภาษี

มาตรา ๔๔ ในแต่ละปี ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินแจ้งการประเมินภาษี โดยส่ง แบบประเมนิ ภาษใี หแ้ กผ่ ้เู สยี ภาษีตามมาตรา ๙ ภายในเดอื นกุมภาพันธ์

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๓๖ ๑๒ มนี าคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา

การแจง้ การประเมินภาษีและแบบประเมนิ ภาษี ใหเ้ ป็นไปตามที่รฐั มนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประกาศกาหนด ซ่ึงอย่างน้อยต้องมีรายการที่ดินหรือส่ิงปลูกสร้าง ราคาประเมินทุนทรัพย์ อัตราภาษี และจานวนภาษที ่ตี อ้ งชาระ

มาตรา ๔๕ ในการประเมินภาษี ให้พนักงานประเมินมีอานาจเรียกผู้เสียภาษีหรือบุคคล ซ่ึงเก่ยี วข้องมาใหถ้ ้อยคา หรอื ส่งเอกสารหรือหลกั ฐานอื่นใดมาเพ่ือตรวจสอบภายในระยะเวลาที่กาหนด โดยจะตอ้ งมหี นังสอื แจ้งให้บคุ คลดังกล่าวทราบลว่ งหนา้ ไม่นอ้ ยกวา่ เจด็ วนั

มาตรา ๔๖ ใหผ้ ู้เสยี ภาษชี าระภาษีตามแบบแจง้ การประเมนิ ภาษีภายในเดือนเมษายนของทกุ ปี มาตรา ๔๗ ให้บุคคลดังตอ่ ไปน้มี ีหน้าทีช่ าระภาษีแทนผ้เู สยี ภาษี (๑) ผจู้ ดั การมรดกหรอื ทายาท ในกรณที ผี่ ู้เสยี ภาษถี ึงแก่ความตาย (๒) ผูจ้ ัดการทรัพย์สิน ในกรณีท่ีผู้เสียภาษีเป็นผู้ไม่อยู่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ วา่ ด้วยสาบสญู (๓) ผ้แู ทนโดยชอบธรรม ผูอ้ นุบาลหรือผ้พู ิทกั ษ์ ในกรณที ี่ผู้เสียภาษเี ปน็ ผู้เยาว์ คนไรค้ วามสามารถ หรือคนเสมอื นไร้ความสามารถ แลว้ แตก่ รณี (๔) ผแู้ ทนของนิติบุคคล ในกรณีทีผ่ ้เู สียภาษีเปน็ นิติบคุ คล (๕) ผชู้ าระบญั ชี ในกรณที ผี่ ูเ้ สยี ภาษีเป็นนติ บิ ุคคลเลิกกันโดยมกี ารชาระบัญชี (๖) เจา้ ของรวมคนหนง่ึ คนใด ในกรณีทที่ รัพยส์ ินทีต่ ้องเสียภาษเี ปน็ ของบุคคลหลายคนรวมกัน มาตรา ๔๘ ในกรณีที่ท่ีดินและส่ิงปลูกสร้างบนที่ดินนั้นเป็นของต่างเจ้าของกัน ให้ถือว่า เจา้ ของทด่ี นิ และเจา้ ของสงิ่ ปลูกสรา้ งเป็นผูเ้ สียภาษี สาหรับท่ีดนิ หรอื สิ่งปลูกสร้างทต่ี นเปน็ เจา้ ของ มาตรา ๔๙ ให้ผู้เสียภาษีชาระภาษีต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินตามจานวนภาษีท่ีได้มี การแจ้งประเมนิ ณ สถานท่ี ดังต่อไปนี้ (๑) สานักงานเทศบาล สาหรับท่ดี นิ หรือสงิ่ ปลกู สรา้ งท่อี ยูใ่ นเขตเทศบาล (๒) ทีท่ าการองค์การบรหิ ารส่วนตาบล สาหรบั ทดี่ ินหรือสงิ่ ปลูกสร้างท่อี ยูใ่ นเขตองค์การบริหาร ส่วนตาบล (๓) สานักงานเขตที่ท่ีดินหรือส่ิงปลูกสร้างน้ันตั้งอยู่ สาหรับที่ดินหรือส่ิงปลูกสร้างที่อยู่ใน เขตกรุงเทพมหานคร (๔) ศาลาวา่ การเมอื งพัทยา สาหรับทดี่ นิ หรือสิ่งปลกู สรา้ งทีอ่ ย่ใู นเขตเมอื งพทั ยา (๕) ที่ทาการขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินอ่ืนตามท่ีมีกฎหมายกาหนด สาหรับท่ีดินหรือ ส่ิงปลกู สรา้ งท่ีอยใู่ นเขตองค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ นั้น

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๓๗ ๑๒ มนี าคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา

ในกรณที ่ีมีความจาเปน็ ผ้บู ริหารท้องถน่ิ อาจกาหนดให้ใชส้ ถานที่อ่นื ภายในเขตองค์กรปกครอง สว่ นทอ้ งถน่ิ นัน้ เปน็ สถานทสี่ าหรับชาระภาษตี ามวรรคหน่งึ ได้ตามท่ีเห็นสมควร

การชาระภาษีตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าวันท่ีพนักงานเก็บภาษีลงลายมือช่ือในใบเสร็จรับเงิน เป็นวนั ท่ีชาระภาษี

มาตรา ๕๐ องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่ินอาจมอบหมายใหส้ ่วนราชการหรอื หน่วยงานของรัฐ รับชาระภาษีแทนองคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ินก็ได้

การชาระภาษีตามวรรคหน่ึง ให้ถือว่าวันที่เจ้าหน้าที่ของส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ ซงึ่ ได้รบั มอบหมายลงลายมือช่ือในใบเสรจ็ รับเงนิ เป็นวนั ทช่ี าระภาษี

มาตรา ๕๑ เพ่ือเป็นการอานวยความสะดวกสาหรบั การชาระภาษี ผเู้ สยี ภาษอี าจชาระภาษี โดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ หรือโดยการชาระผ่านธนาคารหรือโดยวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ การชาระผ่านธนาคารหรือโดยวิธีการอ่ืนใดนั้น ให้เป็นไปตามท่ีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประกาศกาหนด

กรณีชาระภาษีทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ ให้ผู้เสียภาษีชาระภาษีตามท่ีได้รับแจ้ง การประเมิน โดยส่งธนาณัติ ตั๋วแลกเงินไปรษณีย์ เช็คธนาคารหรือเชค็ ท่ีธนาคารรับรอง ส่ังจ่ายให้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ท่ีดินหรือสง่ิ ปลูกสร้างนน้ั ตั้งอยู่ และให้ถอื ว่าวนั ท่ีหน่วยงานให้บริการไปรษณีย์ ประทับตราลงทะเบยี นเป็นวันที่ชาระภาษี

กรณีชาระโดยผ่านทางธนาคารหรือวิธีการอื่นใด ให้ผู้เสียภาษีชาระภาษีตามที่ได้รับแจ้ง การประเมินต่อธนาคารหรือโดยวิธีการตามท่ีกาหนด และให้ถือว่าวันที่ธนาคารได้รับเงินค่าภาษีหรือ วันที่มกี ารชาระเงินคา่ ภาษีโดยวิธกี ารทีก่ าหนดเป็นวนั ท่ีชาระภาษี

มาตรา ๕๒ ในการชาระภาษีตามพระราชบัญญัติน้ี ผู้เสียภาษีอาจขอผ่อนชาระเป็นงวด งวดละเทา่ ๆ กนั ก็ได้

จานวนงวดและจานวนเงินภาษีขั้นต่าท่ีจะมีสิทธิผ่อนชาระ รวมทั้งหลักเกณฑ์และวิธีการใน การผ่อนชาระใหเ้ ปน็ ไปตามท่กี าหนดในกฎกระทรวง

ในกรณีที่ผู้เสียภาษีตามวรรคหนึ่งไม่ชาระภาษีตามระยะเวลาท่ีกาหนดในการผ่อนชาระ ให้ผู้เสียภาษีหมดสิทธิท่ีจะผ่อนชาระ และต้องเสียเงินเพ่ิมอีกร้อยละหนึ่งต่อเดือนของจานวนภาษี ทค่ี า้ งชาระ เศษของเดอื นให้นบั เปน็ หนึง่ เดือน

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๓๘ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา

มาตรา ๕๓ ในกรณีท่ีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพบว่ามีการประเมินภาษีผิดพลาดหรือ ไม่ครบถ้วน ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอานาจทบทวนการประเมินภาษีให้ถูกต้องตามท่ีผู้เสียภาษี มหี นา้ ทตี่ อ้ งเสยี ได้ ทงั้ น้ี ใหน้ าความในมาตรา ๔๔ วรรคสอง และมาตรา ๔๕ มาใชบ้ ังคับโดยอนโุ ลม

การทบทวนการประเมินภาษีตามวรรคหน่ึง จะกระทามิได้ เม่ือพ้นสามปีนับแต่วันสุดท้าย แห่งกาหนดเวลาการชาระภาษีตามพระราชบัญญตั ินี้

ในกรณีที่ต้องมีการชาระภาษีเพ่ิมเติม ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินแจ้งการประเมินภาษี ตามวรรคหน่ึง และส่งแบบประเมินภาษีให้แก่ผู้เสียภาษี และให้ผู้เสียภาษีชาระภาษีที่ต้องเสียเพ่ิมเติม โดยไมต่ ้องเสยี เบยี้ ปรับหรือเงินเพมิ่ ภายในสามสบิ วันนบั แตว่ นั ท่ไี ด้รบั แจ้งการประเมนิ

ในกรณีท่ีมีการชาระภาษีไว้เกินจานวนท่ีจะต้องเสีย ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินมีหนังสือ แจ้งให้ผู้เสียภาษีทราบภายในสิบห้าวันนับแต่วันท่ีตรวจสอบพบว่ามีการประเมินภาษีผิดพลาดเพ่ือให้ มารับเงินทชี่ าระเกินคืนภายในหนึ่งปนี ับแต่วนั ทไ่ี ด้รับหนังสอื แจง้

มาตรา ๕๔ ผู้ใดเสียภาษีโดยไม่มีหน้าท่ีต้องเสียหรือเสียภาษีเกินกว่าจานวนท่ีต้องเสีย ไม่ว่าโดยความผิดพลาดของตนเองหรือจากการประเมินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้น้ันมีสิทธิ ได้รบั เงนิ คนื

การขอรับเงินคืนตามวรรคหน่ึง ให้ยื่นคาร้องต่อผู้บริหารท้องถ่ินตามแบบท่ีรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทยประกาศกาหนด ภายในสามปีนับแต่วันท่ีชาระภาษี ในการน้ี ให้ผู้ย่ืนคาร้องส่งเอกสาร หลกั ฐาน หรือคาชแ้ี จงใด ๆ ประกอบคารอ้ งดว้ ย

ให้ผู้บริหารท้องถิ่นพิจารณาคาร้องให้เสร็จสิ้นและแจ้งผลการพิจารณาคาร้องให้ผู้ย่ืนคาร้องทราบ ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคาร้อง ท้ังน้ี ในกรณีท่ีผู้บริหารท้องถ่ินเห็นว่าผู้ย่ืนคาร้องมีสิทธิ ได้รับเงินคืน ให้ผู้บริหารท้องถ่ินมีคาส่ังคืนเงินให้แก่ผู้ย่ืนคาร้อง โดยต้องแจ้งคาสั่งให้ผู้ยื่นคาร้องทราบ ภายในสบิ ห้าวนั นบั แตว่ นั ท่ีไดม้ ีคาส่ัง

ในกรณีท่ีผู้บริหารท้องถิ่นเห็นว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินประเมินภาษี ผิดพลาด ให้ผู้บริหารท้องถิ่นสั่งให้ดอกเบ้ียแก่ผู้ได้รับคืนเงินในอัตรารอ้ ยละหนึ่งต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงิน ที่ไดร้ บั คืนโดยไมค่ ดิ ทบตน้ นับแต่วันท่ียื่นคาร้องขอรบั คืนเงนิ จนถึงวันท่ีคืนเงิน แต่ต้องไม่เกินจานวนเงนิ ที่ไดร้ บั คนื

ถ้าผู้ยื่นคาร้องไม่มารับเงินคืนภายในหนึ่งปีนับแต่วันท่ีได้รับแจ้ง ให้เงินน้ันตกเป็นของ องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิน่

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๓๙ ๑๒ มนี าคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา

หมวด ๗ การลดและการยกเวน้ ภาษี

มาตรา ๕๕ การลดภาษีสาหรับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างบางประเภท เพ่ือให้เหมาะสมกับ สภาพความจาเป็นทางเศรษฐกิจ สังคม เหตุการณ์ กิจการ หรือสภาพแห่งท้องท่ี ให้กระทาได้โดยตราเป็น พระราชกฤษฎีกา แต่ตอ้ งไมเ่ กนิ รอ้ ยละเก้าสิบของจานวนภาษที ่จี ะต้องเสีย

มาตรา ๕๖ ในกรณีที่ที่ดินหรือส่ิงปลูกสร้างภายในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดได้รับ ความเสยี หายมากหรือถกู ทาลายให้เสอ่ื มสภาพดว้ ยเหตอุ ันพ้นวสิ ยั ท่จี ะปอ้ งกันได้โดยท่วั ไป ให้ผบู้ ริหารทอ้ งถนิ่ โดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการภาษที ด่ี นิ และส่ิงปลูกสรา้ งประจาจังหวดั หรือผู้วา่ ราชการกรงุ เทพมหานคร โดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีอานาจประกาศลดหรือยกเว้นภาษีภายใน เขตพื้นที่ที่เกิดเหตุนั้นในช่วงระยะเวลาใดช่วงระยะเวลาหน่ึงได้ ท้ังน้ี ตามระเบียบท่ีรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทยประกาศกาหนด

มาตรา ๕๗ ในกรณีท่ีมีเหตุอันทาให้ที่ดินได้รับความเสียหายหรือทาให้ส่ิงปลูกสร้าง ถูกรื้อถอนหรือทาลาย หรือชารุดเสียหายจนเป็นเหตุให้ต้องทาการซ่อมแซมในส่วนสาคัญ ให้ผู้เสียภาษีมีสิทธิยื่นคาขอลดหรือยกเว้นภาษีท่ีจะต้องเสียต่อผู้บริหารท้องถ่ินได้ตามระเบียบท่ี รฐั มนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยประกาศกาหนด

เมอ่ื มีการยน่ื คาขอลดหรอื ยกเวน้ ภาษีตามวรรคหนง่ึ ใหอ้ งค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นทาการตรวจสอบ ข้อเท็จจริง หากปรากฏข้อเท็จจริงเป็นท่ีเชื่อได้ว่ามีเหตุอันสมควรลดหรือยกเว้นภาษีให้แก่ผู้ยื่นคาขอ ให้ผู้บริหารท้องถ่ินโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการภาษีท่ีดินและส่ิงปลูกสร้างประจาจังหวัด หรือ ผู้วา่ ราชการกรงุ เทพมหานครโดยความเหน็ ชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมอี านาจออกคาสั่งลด หรือยกเว้นภาษีได้ ท้ังนี้ โดยคานึงถึงสัดส่วนความเสียหายที่เกิดข้ึนและระยะเวลาท่ีไม่ได้รับประโยชน์ จากทด่ี นิ หรือส่ิงปลกู สร้างนน้ั

หมวด ๘ ภาษีคา้ งชาระ

มาตรา ๕๘ ภาษที ่มี ิได้ชาระภายในเวลาท่ีกาหนด ใหถ้ ือเปน็ ภาษคี า้ งชาระ มาตรา ๕๙ การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโอนกรรมสิทธ์ิหรือสิทธิครอบครองในท่ีดิน หรือสิ่งปลูกสร้างตามพระราชบัญญัติน้ี จะกระทามิได้ เม่ือปรากฏหลักฐานจากองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ตามมาตรา ๖๐ วา่ มภี าษีคา้ งชาระสาหรับทด่ี นิ หรอื ส่งิ ปลกู สร้างนนั้ เว้นแต่เป็นกรณตี ามมาตรา ๖๗

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๓๐ ก หน้า ๔๐ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา

มาตรา ๖๐ ภายในเดือนมิถุนายนของปี ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินแจ้งรายการภาษี ค้างชาระให้สานักงานที่ดินหรือสานักงานที่ดินสาขา ซ่ึงที่ดินหรือส่ิงปลูกสร้างอยู่ในเขตท้องท่ีของ สานักงานที่ดินหรือสานักงานที่ดินสาขานั้นทราบ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม โอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธคิ รอบครองในที่ดินและอสังหาริมทรพั ยต์ ่อไป เว้นแต่องค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น และสานกั งานทีด่ ินหรือสานักงานทด่ี นิ สาขาจะตกลงกาหนดเวลาเปน็ อย่างอืน่

มาตรา ๖๑ เพ่ือประโยชน์ในการเร่งรัดภาษีค้างชาระ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน มหี นังสอื แจง้ เตอื นผเู้ สียภาษีทม่ี ีภาษคี ้างชาระภายในเดอื นพฤษภาคมของปี เพ่อื ใหม้ าชาระภาษีค้างชาระ พร้อมทง้ั เบยี้ ปรับและเงินเพม่ิ ตามทีก่ าหนดในหมวด ๙

มาตรา ๖๒ ถา้ ผเู้ สยี ภาษีมิไดช้ าระภาษีคา้ งชาระ เบี้ยปรับและเงนิ เพม่ิ ภายในเวลาที่กาหนดไว้ ในหนังสือแจ้งเตือนตามมาตรา ๖๑ เมื่อพ้นเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งเตือนดังกล่าวแล้ว ให้ผู้บริหารท้องถิ่นมีอานาจออกคาสง่ั เป็นหนังสือยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้เสียภาษี เพื่อนาเงนิ มาชาระภาษีคา้ งชาระ เบี้ยปรับ เงนิ เพ่ิม และค่าใช้จา่ ยอันเน่ืองมาจากการยึด อายัด และ ขายทอดตลาดทรัพย์สินนั้นได้ แต่ห้ามมิให้ยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้เสียภาษี เกินกวา่ ความจาเปน็ ที่พอจะชาระภาษีคา้ งชาระ เบยี้ ปรบั เงินเพ่ิม และค่าใช้จา่ ยดงั กลา่ ว

การออกคาส่ังเป็นหนังสือยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้บริหารท้องถ่ิน ตามวรรคหนึ่ง ในกรณีท่ีเป็นนายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตาบล และนายกเมืองพัทยา ต้องได้รับความเหน็ ชอบจากผูว้ า่ ราชการจงั หวัด

วิธีการยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้เสียภาษีตามวรรคหน่ึง ให้นาวิธีการ ตามประมวลกฎหมายวธิ พี ิจารณาความแพ่งมาใชบ้ งั คับโดยอนุโลม

เพ่ือประโยชน์แห่งมาตราน้ี การยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้เสียภาษี ไม่ให้หมายความรวมถึงการยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้มีหน้าที่ชาระภาษีแทน ตามมาตรา ๔๗

มาตรา ๖๓ เพ่ือประโยชน์ในการยึดหรืออายัดทรัพย์สินตามมาตรา ๖๒ ให้ผู้บริหารท้องถ่ิน หรอื เจา้ หน้าท่ซี งึ่ ไดร้ บั มอบหมายจากผู้บริหารทอ้ งถนิ่ มอี านาจ

(๑) เรียกผ้เู สยี ภาษีมาใหถ้ อ้ ยคา (๒) ส่งั ให้ผู้เสียภาษีนาบัญชี เอกสาร หรือหลักฐานอื่นอันจาเป็นแก่การจัดเก็บภาษีค้างชาระ มาตรวจสอบ

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๓๐ ก หน้า ๔๑ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา

(๓) ออกคาสั่งเป็นหนังสือให้เจ้าหน้าที่ทาการตรวจสอบ ค้น หรือยึดบัญชี เอกสารหรือ หลกั ฐานอ่ืนของผู้เสียภาษี

(๔) เข้าไปในที่ดินหรือส่ิงปลูกสร้างหรือสถานท่ีอ่ืนที่เก่ียวข้องในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ข้ึน ถึงพระอาทิตย์ตกหรอื ในเวลาทาการของสถานที่น้นั ในการนี้ ให้มอี านาจสอบถามบุคคลที่อยู่ในสถานทน่ี ้ัน เท่าทจ่ี าเปน็ เก่ียวกบั การจัดเก็บภาษี

การดาเนินการตาม (๑) หรือ (๒) ต้องให้เวลาล่วงหน้าไม่น้อยกว่าเจ็ดวันนับแต่วันท่ีได้รับ หนังสือเรียกหรือคาส่ัง และการออกคาส่ังและทาการตาม (๓) หรือ (๔) ต้องเป็นไปตามระเบียบที่ รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทยประกาศกาหนด

มาตรา ๖๔ ในกรณที ่ีมกี ารยึดหรืออายดั ทรพั ยส์ ินของผเู้ สียภาษีไว้แล้ว ถ้าผู้เสยี ภาษีได้นาเงิน มาชาระค่าภาษีค้างชาระ เบ้ียปรับ เงินเพิ่ม และค่าใช้จ่ายอันเนื่องมาจากการยึดหรืออายัดทรัพย์สิน โดยครบถ้วนก่อนการขายทอดตลาด ให้ผู้บริหารท้องถ่ินมีคาสั่งเพิกถอนการยึดหรืออายัดทรัพย์สินน้ัน และดาเนินการแจ้งการถอนการยึดหรืออายัดไปยังเจ้าพนักงานผู้ยึดหรืออายัดให้แล้วเสร็จภายในสิบห้าวัน นับแต่วันที่ชาระค่าภาษีที่ค้างชาระ เบี้ยปรับ เงินเพิ่ม และค่าใช้จ่ายอันเน่ืองมาจากการยึดหรืออายัด ทรพั ยส์ นิ ครบถว้ นแล้ว

มาตรา ๖๕ การขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้เสียภาษีตามมาตรา ๖๒ จะกระทามิได้ ในระหว่างระยะเวลาท่ีให้คัดค้านหรืออุทธรณ์ตามมาตรา ๗๓ หรือให้ฟ้องเป็นคดีต่อศาลตามมาตรา ๘๒ และตลอดเวลาทก่ี ารพิจารณาและวินจิ ฉยั คาคัดคา้ นหรอื อุทธรณด์ งั กลา่ วยังไม่ถงึ ทส่ี ุด

มาตรา ๖๖ เงินท่ีได้จากการขายทอดตลาดตามมาตรา ๖๒ ให้หักไว้เป็นค่าภาษีค้างชาระ เบี้ยปรับ เงินเพิ่ม และค่าใช้จ่ายอันเนื่องมาจากการยึด อายัด และขายทอดตลาด ทรัพย์สินน้ัน เหลือเท่าใดใหค้ นื แก่ผู้เสียภาษี

มาตรา ๖๗ ในกรณีท่ีเป็นการขายทอดตลาดที่ดินหรือส่ิงปลูกสร้างใดตามคาพิพากษา กอ่ นทาการขายทอดตลาด ให้เจา้ พนกั งานบังคบั คดแี จ้งองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น ใหแ้ จง้ รายการภาษีคา้ งชาระ สาหรับที่ดินหรือส่ิงปลูกสร้างน้ันต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีภายในสามสิบวันนับแต่วันท่ีได้รับแจ้งจาก เจ้าพนักงานบังคับคดี และเม่ือทาการขายทอดตลาดแล้ว ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีกันเงินท่ีได้รับจาก การขายทอดตลาดไว้เท่ากับจานวนค่าภาษีค้างชาระ และนาส่งเงินดังกล่าวให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน เพอื่ ชาระหนค้ี ่าภาษที ีค่ ้างชาระดังกล่าว

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๓๐ ก หน้า ๔๒ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา

หมวด ๙ เบี้ยปรบั และเงนิ เพมิ่

มาตรา ๖๘ ในกรณีท่ีผู้เสียภาษีมิได้ชาระภาษีภายในเวลาที่กาหนด ให้เสียเบี้ยปรับร้อยละ ส่สี ิบของจานวนภาษีคา้ งชาระ เว้นแต่ผูเ้ สียภาษีไดช้ าระภาษกี ่อนจะไดร้ ับหนังสอื แจ้งเตือนตามมาตรา ๖๑ ให้เสียเบ้ียปรับร้อยละสบิ ของจานวนภาษคี ้างชาระ

มาตรา ๖๙ ในกรณีท่ีผู้เสียภาษีมิได้ชาระภาษีภายในเวลาที่กาหนด แต่ต่อมาได้ชาระภาษี ภายในเวลาที่กาหนดไว้ในหนังสือแจ้งเตือนตามมาตรา ๖๑ ให้เสียเบ้ียปรับร้อยละย่ีสิบของจานวน ภาษคี า้ งชาระ

มาตรา ๗๐ ผู้เสียภาษีผู้ใดมิได้ชาระภาษีภายในเวลาท่ีกาหนด ให้เสียเงินเพิ่มอีกร้อยละ หนง่ึ ตอ่ เดือนของจานวนภาษีคา้ งชาระ เศษของเดอื นให้นับเปน็ หนึง่ เดือน ทั้งน้ี มใิ หน้ าเบ้ียปรับมารวม คานวณเพื่อเสียเงินเพมิ่ ด้วย

ในกรณีผู้บริหารท้องถิ่นอนุมัติให้ขยายกาหนดเวลาชาระภาษี และได้มีการชาระภาษีภายใน กาหนดเวลาท่ีขยายให้น้ัน เงินเพ่ิมตามวรรคหนึ่งให้ลดลงเหลือร้อยละศูนย์จุดห้าต่อเดือนหรือ เศษของเดอื น

เงินเพ่ิมตามมาตราน้ี ให้เริ่มนับเม่ือพ้นกาหนดเวลาชาระภาษีจนถึงวันที่มีการชาระภาษี แต่มิให้เกินกวา่ จานวนภาษีทตี่ ้องชาระโดยไม่รวมเบ้ียปรับ และมใิ ห้คดิ ทบตน้

มาตรา ๗๑ เบ้ียปรบั อาจงดหรือลดลงได้ตามทก่ี าหนดในกฎกระทรวง มาตรา ๗๒ เบยี้ ปรบั และเงนิ เพ่ิมตามหมวดน้ใี หถ้ ือเปน็ ภาษี

หมวด ๑๐ การคดั คา้ นและการอุทธรณก์ ารประเมนิ ภาษี

มาตรา ๗๓ ผู้เสียภาษีผู้ใดได้รับแจ้งการประเมินภาษีตามมาตรา ๔๔ หรือมาตรา ๕๓ หรือการเรียกเกบ็ ภาษตี ามมาตรา ๖๑ แล้วเหน็ วา่ การประเมนิ ภาษหี รือการเรียกเก็บภาษีน้นั ไม่ถูกตอ้ ง ให้มีสิทธิคัดค้านและขอให้ผู้บริหารท้องถ่ินพิจารณาทบทวนการประเมินหรือการเรียกเก็บภาษีได้ โดยให้ ย่ืนคาร้องต่อผู้บริหารท้องถ่ินตามแบบท่ีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยประกาศกาหนด ทั้งนี้ ภายในสามสิบวนั นับแตว่ ันท่ีไดร้ บั แจง้ การประเมินภาษหี รอื การเรยี กเกบ็ ภาษี แล้วแตก่ รณี

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๔๓ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา

ผู้บริหารท้องถ่ินต้องพิจารณาคาร้องของผู้เสียภาษีตามวรรคหนึ่งให้แล้วเสร็จภายในหกสิบวัน นับแต่วันท่ีได้รับคาร้องดังกล่าว และแจ้งคาสั่งพร้อมด้วยเหตุผลเป็นหนังสอื ไปยงั ผู้เสียภาษโี ดยไม่ชักช้า กรณีท่ีผู้บริหารท้องถิ่นพิจารณาคาร้องของผู้เสียภาษีไม่แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว ให้ถือว่า ผบู้ รหิ ารท้องถิ่นเหน็ ชอบกบั คาร้องของผเู้ สียภาษี

ในกรณีท่ีผู้บริหารท้องถิ่นพิจารณาเห็นชอบกับคาร้องของผู้เสียภาษี ให้แจ้งจานวนภาษี ท่ีจะต้องเสียเป็นหนังสือไปยังผู้เสียภาษี และให้ผู้เสียภาษีมารับชาระภาษีคืนภายในสิบห้าวันนับแต่ วันที่ไดร้ ับหนงั สอื แจ้งดังกลา่ ว

ในกรณีที่ผู้บริหารท้องถิ่นพิจารณาไม่เห็นชอบกับคาร้องของผู้เสียภาษี ให้ผู้เสียภาษีนั้น มีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมินภาษี โดยย่ืนอุทธรณ์ต่อผู้บริหารท้องถ่ิน ภายในสามสิบวันนับแต่วันท่ีได้รับหนังสือแจ้ง และให้ผู้บริหารท้องถ่ินส่งคาอุทธรณ์ไปยังคณะกรรมการ พิจารณาอุทธรณ์การประเมินภาษีภายในสิบห้าวันนบั แต่วนั ที่ไดร้ บั คาอุทธรณด์ ังกล่าว

การคัดคา้ นและการอุทธรณ์ไม่เป็นการทุเลาการชาระภาษี เว้นแตผ่ ู้เสียภาษีจะได้ยนื่ คารอ้ งต่อ ผูบ้ ริหารท้องถ่ินขอให้ทุเลาการชาระภาษีไว้ก่อน และผู้บริหารท้องถ่ินมีคาสั่งให้ทุเลาการชาระภาษีแล้ว ในกรณีเชน่ วา่ น้ี ให้ผบู้ รหิ ารท้องถ่นิ มคี าสัง่ ให้ทุเลาการชาระภาษเี ฉพาะส่วนต่างท่เี พม่ิ ขึ้นจากจานวนภาษี ท่ีต้องเสยี ในปกี ่อนและจะสง่ั ให้วางประกนั ตามที่เหน็ สมควรกไ็ ด้

ในกรณีท่ีผู้บริหารท้องถิ่นได้สั่งให้ทุเลาการชาระภาษีตามวรรคห้าไว้แล้ว ถ้าต่อมาปรากฏว่า ผู้เสียภาษีได้กระทาการใด ๆ เพื่อประวิงการชาระภาษี หรือจะกระทาการโอน ขาย จาหน่าย หรือ ยักย้ายทรัพย์สินท้ังหมดหรือบางส่วนเพ่ือให้พ้นอานาจการยึดหรืออายัด ผู้บริหารท้องถิ่นมีอานาจ เพิกถอนคาส่ังให้ทุเลาการชาระภาษนี ้ันได้

มาตรา ๗๔ ให้มีคณะกรรมการคณะหน่ึง เรียกว่า “คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ การประเมินภาษีประจาจังหวัด” ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานกรรมการ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด ธนารักษ์พ้ืนที่ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัด สรรพากรพื้นที่ท่ีผู้ว่าราชการจังหวัด แต่งตั้งจานวนหน่ึงคน ผู้แทนของผู้บริหารท้องถ่ินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดจานวน ไม่เกินสองคน เป็นกรรมการโดยตาแหน่ง และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งประธานกรรมการและกรรมการ โดยตาแหนง่ แตง่ ตั้งอีกจานวนไม่เกนิ สองคน เปน็ กรรมการ

ใหผ้ ูบ้ ริหารทอ้ งถ่ินขององคก์ รปกครองส่วนท้องถ่นิ ในจังหวัด เป็นผพู้ ิจารณาร่วมกันเลือกผ้แู ทน ของผู้บริหารท้องถิ่นตามวรรคหนึ่ง ท้ังนี้ ตามระเบียบที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยประกาศ กาหนด

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๔๔ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา

ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้งข้าราชการสังกัดสานักงานส่งเสริมการปกครองท้องถ่ินจังหวัด เปน็ เลขานุการและผชู้ ่วยเลขานกุ าร

มาตรา ๗๕ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง เรียกว่า “คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ การประเมินภาษีกรุงเทพมหานคร” ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานกรรมการ อธบิ ดีกรมที่ดนิ อธิบดกี รมธนารกั ษ์ อธิบดกี รมโยธาธกิ ารและผังเมือง อธบิ ดกี รมสง่ เสริมการปกครองท้องถ่นิ อธิบดีกรมสรรพากร ผู้อานวยการสานักงานเศรษฐกิจการคลัง ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นกรรมการ โดยตาแหน่ง และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งประธานกรรมการและกรรมการโดยตาแหน่งแต่งต้ังอีกจานวน ไมเ่ กนิ สองคน เปน็ กรรมการ

ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแต่งตั้งข้าราชการสังกัดกรุงเทพมหานครเป็นเลขานุการและ ผ้ชู ว่ ยเลขานกุ าร

เบ้ียประชุมของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมินภาษีกรงุ เทพมหานคร ให้เบิกจ่าย จากงบประมาณของกรงุ เทพมหานคร

มาตรา ๗๖ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๗๔ และมาตรา ๗๕ มีวาระการดารง ตาแหน่งคราวละสามปี

เมื่อครบกาหนดตามวาระในวรรคหน่ึง หากยังมิได้มีการแต่งต้ังกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นใหม่ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตาแหน่งตามวาระนั้น อยู่ในตาแหน่งเพ่ือดาเนินงานต่อไปจนกว่า กรรมการผ้ทู รงคุณวฒุ ซิ ่งึ ไดร้ บั แต่งตงั้ ใหมเ่ ข้ารบั หน้าที่

กรรมการผู้ทรงคณุ วุฒิซ่ึงพ้นจากตาแหน่งตามวาระอาจได้รบั แตง่ ตง้ั อีกได้ แตจ่ ะดารงตาแหน่ง ตดิ ต่อกันเกินสองวาระไม่ได้

มาตรา ๗๗ นอกจากการพ้นจากตาแหน่งตามวาระ กรรมการผทู้ รงคณุ วุฒิตามมาตรา ๗๔ และมาตรา ๗๕ พ้นจากตาแหนง่ เมือ่

(๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) เปน็ บุคคลลม้ ละลาย (๔) เปน็ คนไรค้ วามสามารถหรือคนเสมอื นไรค้ วามสามารถ (๕) ถกู จาคุกโดยคาพิพากษาถึงทส่ี ุดใหจ้ าคกุ (๖) คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมินภาษีมีคาส่ังให้ออกเนื่องจากมีเหตุบกพร่อง อย่างยิง่ ตอ่ หน้าที่หรือมีความประพฤตเิ ส่ือมเสียอยา่ งร้ายแรง

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๓๐ ก หน้า ๔๕ ๑๒ มนี าคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา

ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตาแหน่งก่อนวาระ ให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ การประเมินภาษีแต่งตัง้ ผู้อื่นเปน็ กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิแทน และให้ผไู้ ด้รบั แต่งต้งั แทนตาแหน่งทวี่ า่ งน้ัน อยู่ในตาแหนง่ เทา่ กบั วาระทเี่ หลอื อยู่ของกรรมการผ้ทู รงคณุ วฒุ ิซง่ึ ไดแ้ ต่งตั้งไวแ้ ลว้

มาตรา ๗๘ การประชุมคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมินภาษี ให้นาความใน มาตรา ๑๗ มาใช้บงั คบั โดยอนุโลม

มาตรา ๗๙ ในการปฏิบตั ิหน้าท่ี กรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมินภาษีผู้ใดมีส่วนได้เสีย ในเรอื่ งใดจะเข้าร่วมพิจารณาหรอื ร่วมวินิจฉัยลงมตใิ นเรอื่ งนั้นมไิ ด้

มาตรา ๘๐ เพ่ือประโยชน์ในการวินิจฉัยอุทธรณ์ ให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ การประเมินภาษีมีอานาจออกหนังสือเรียกผู้อุทธรณ์หรือบุคคลซึ่งเก่ียวข้อง มาให้ถ้อยคาหรือ ให้ส่งเอกสารหรือหลักฐานอ่ืนใดมาแสดงได้ โดยให้เวลาแก่บุคคลดังกล่าวไม่น้อยกว่าสิบห้าวันนับแต่ วนั ที่ไดร้ ับหนงั สือเรยี ก

ผอู้ ุทธรณ์ผู้ใดไม่ปฏบิ ัติตามหนังสือเรยี กตามวรรคหนง่ึ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร คณะกรรมการ พจิ ารณาอุทธรณ์การประเมนิ ภาษจี ะยกอุทธรณ์น้ันเสียกไ็ ด้

มาตรา ๘๑ คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมินภาษี มีอานาจส่ังไม่รับอุทธรณ์ ยกอุทธรณ์ เพิกถอนหรือแก้ไขการประเมินขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน หรือให้ผู้อุทธรณ์ได้รับ การลดหรือยกเว้นภาษหี รอื ได้คนื ภาษี

ใหค้ ณะกรรมการพจิ ารณาอุทธรณ์การประเมินภาษีวนิ ิจฉัยอุทธรณใ์ ห้แล้วเสร็จภายในหกสบิ วัน นับแต่วันท่ีได้รับแจ้งคาอุทธรณ์จากผู้บริหารท้องถิ่นตามมาตรา ๗๓ วรรคส่ี และต้องแจ้งคาวินิจฉัย อุทธรณ์พร้อมด้วยเหตุผลเป็นหนังสือไปยังผู้อุทธรณ์ภายในสิบห้าวันนับแต่วันท่ีพิจารณาเสร็จ ทั้งน้ี จะวินิจฉัยใหเ้ รียกเกบ็ ภาษีเกินกวา่ จานวนภาษที ่ที าการประเมินไมไ่ ด้ เว้นแต่จะได้มกี ารประเมินภาษีใหม่

ในกรณีทม่ี ีเหตจุ าเป็น คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมินภาษี อาจขยายระยะเวลา พิจารณาอุทธรณ์ออกไปอีกได้ แต่ต้องไม่เกินสามสิบวันนับแต่วันท่ีครบกาหนดระยะเวลาตามวรรคสอง และใหม้ ีหนงั สอื แจ้งระยะเวลาทีข่ ยายออกไปพรอ้ มกับวันครบกาหนดระยะเวลาใหผ้ อู้ ุทธรณ์ทราบด้วย

ในกรณีท่ีคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมินภาษีวินิจฉัยอุทธรณ์ไม่แล้วเสร็จภายใน ระยะเวลาทกี่ าหนดตามวรรคสองหรอื วรรคสาม ให้ผอู้ ทุ ธรณ์มีสิทธิฟ้องเป็นคดตี ่อศาลไดโ้ ดยไม่ตอ้ งรอฟงั ผลการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมินภาษี แต่ต้องยื่นฟ้องต่อศาลภายใน สามสบิ วันนับแตพ่ ้นกาหนดระยะเวลาดังกล่าว

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๓๐ ก หน้า ๔๖ ๑๒ มนี าคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา

ในกรณีที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมินภาษี มีคาวินิจฉัยให้คืนเงินแก่ผู้อุทธรณ์ ให้แจ้งคาวินิจฉัยไปยังผู้บริหารท้องถ่ินเพื่อให้มีคาส่ังคืนเงินและแจ้งให้ผู้อุทธรณ์ทราบภายในสิบห้าวัน นบั แต่วันท่ีไดม้ ีคาสั่งคืนเงิน

ให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมินภาษี ส่ังผู้บริหารท้องถ่ินให้ดอกเบี้ยแก่ผู้ได้รับ คืนเงินในอัตราร้อยละหนึ่งต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินที่ได้รับคืน โดยไม่คิดทบต้น นับแต่วันท่ี ชาระภาษีถึงวนั ทีม่ คี าวนิ ิจฉัยใหค้ นื เงนิ แตต่ อ้ งไมเ่ กนิ จานวนเงนิ ทีไ่ ด้รบั คนื

ถ้าผู้อุทธรณ์ไม่มารับเงินคืนภายในหน่ึงปีนับแต่วันท่ีได้รับแจ้ง ให้เงินน้ันตกเป็นขององค์กร ปกครองสว่ นท้องถนิ่

มาตรา ๘๒ ผู้อุทธรณ์มีสิทธิอุทธรณ์คาวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ การประเมนิ ภาษี โดยฟ้องเป็นคดตี ่อศาลภายในสามสบิ วันนบั แตว่ ันทไ่ี ดร้ บั แจ้งคาวินิจฉยั อทุ ธรณ์

หมวด ๑๑ บทกาหนดโทษ

มาตรา ๘๓ ผู้ใดขัดขวางการปฏิบัติหนา้ ที่ของพนกั งานสารวจตามมาตรา ๒๘ หรือมาตรา ๒๙ หรือของผู้บริหารท้องถิ่นหรือเจ้าหน้าที่ซ่ึงผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายตามมาตรา ๖๓ (๓) หรือ (๔) ต้องระวางโทษจาคุกไมเ่ กนิ หกเดอื น หรอื ปรับไม่เกนิ หนึง่ หมืน่ บาท หรอื ท้ังจาทั้งปรับ

มาตรา ๘๔ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามหนังสือเรียกของผู้บริหารท้องถิ่น ตามมาตรา ๒๙ หรือ ของพนักงานประเมินตามมาตรา ๔๕ หรือหนังสือเรียกหรือคาสั่งของผู้บริหารท้องถ่ินหรือเจ้าหน้าที่ ซง่ึ ผ้บู ริหารทอ้ งถ่นิ มอบหมายตามมาตรา ๖๓ (๑) หรอื (๒) ต้องระวางโทษปรับไมเ่ กินสองพันบาท

มาตรา ๘๕ ผู้ใดไม่แจ้งการเปล่ยี นแปลงการใช้ประโยชน์ทดี่ นิ หรอื สิ่งปลูกสร้างตามที่กาหนดไว้ ในมาตรา ๓๓ ตอ้ งระวางโทษปรบั ไม่เกนิ หนึง่ หม่นื บาท

มาตรา ๘๖ ผใู้ ดขัดขวางหรือไม่ปฏิบัติตามคาส่ังของผู้บริหารท้องถ่ินตามมาตรา ๖๒ หรือ ทาลาย ยา้ ยไปเสีย ซ่อนเร้น หรือโอนไปให้แก่บคุ คลอ่ืนซ่ึงทรพั ยส์ นิ ท่ีผูบ้ ริหารท้องถ่ินมคี าส่ังให้ยดึ หรือ อายัด ต้องระวางโทษจาคกุ ไม่เกินหนงึ่ ปี หรือปรับไม่เกนิ สองหมน่ื บาท หรือทั้งจาทั้งปรับ

มาตรา ๘๗ ผ้ใู ดไม่ปฏิบัติตามหนังสือเรียกของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมิน ภาษตี ามมาตรา ๘๐ ตอ้ งระวางโทษปรับไม่เกินสองพันบาท

ความในวรรคหนงึ่ มใิ หใ้ ช้บงั คับกบั ผูอ้ ุทธรณ์

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๔๗ ๑๒ มนี าคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา

มาตรา ๘๘ ผู้ใดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จหรือนาพยานหลักฐานอันเป็นเท็จมาแสดง เพ่ือหลกี เลี่ยงการเสียภาษี ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไม่เกนิ สองปี หรอื ปรบั ไมเ่ กนิ สี่หม่นื บาท หรอื ทง้ั จาท้งั ปรับ

มาตรา ๘๙ ในกรณีทผ่ี ูก้ ระทาความผดิ เป็นนติ ิบคุ คล ถา้ การกระทาความผดิ ของนติ บิ ุคคลนั้น เกิดจากการส่ังการหรือการกระทาของกรรมการ หรือผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบใน การดาเนนิ งานของนิติบุคคลนั้น หรือในกรณีที่บุคคลดังกล่าวมีหน้าท่ีต้องสัง่ การหรือกระทาการและละเว้น ไม่สั่งการหรอื ไม่กระทาการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้นกระทาความผิด ผู้นั้นต้องรับโทษตามท่ีบัญญัติไว้ สาหรบั ความผิดนั้น ๆ ด้วย

มาตรา ๙๐ ความผิดตามมาตรา ๘๓ มาตรา ๘๔ มาตรา ๘๕ หรือมาตรา ๘๗ ใหผ้ ู้บรหิ ารท้องถ่นิ หรอื ผู้ซ่ึงผูบ้ ริหารทอ้ งถน่ิ มอบหมายมีอานาจเปรยี บเทียบได้

เมือ่ ผกู้ ระทาผิดได้ชาระเงนิ คา่ ปรับตามจานวนทเ่ี ปรยี บเทียบภายในสามสิบวนั ให้ถือวา่ คดเี ลิกกัน ตามบทบญั ญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณาความอาญา

ถ้าผู้กระทาผิดไม่ยินยอมตามท่ีเปรียบเทียบ หรือเมื่อยินยอมแล้วไม่ชาระเงินค่าปรับภายใน ระยะเวลาทก่ี าหนด ให้ดาเนนิ คดตี อ่ ไป

เงินค่าปรับท่ีได้จากการเปรียบเทียบตามพระราชบัญญัติน้ีเกิดข้ึนในเขตองค์กรปกครอง สว่ นท้องถ่นิ ใด ให้ตกเป็นรายไดข้ ององคก์ รปกครองสว่ นท้องถิน่ น้ัน

บทเฉพาะกาล

มาตรา ๙๑ บทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยภาษีโรงเรือนและที่ดิน กฎหมายว่าด้วยภาษี บารุงท้องท่ี และกฎหมายวา่ ดว้ ยการกาหนดราคาปานกลางของทดี่ นิ สาหรับการประเมินภาษบี ารุงท้องที่ ซ่ึงถูกยกเลิกโดยพระราชบัญญัตินี้ ให้ยังคงใช้บังคับต่อไป ในการจัดเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดินและ ภาษีบารงุ ท้องท่ี ทต่ี ้องเสยี หรอื ทพ่ี งึ ชาระหรอื ทคี่ า้ งอยูห่ รอื ท่ตี ้องคืนกอ่ นวนั ท่ี ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๓

มาตรา ๙๒ ให้กรมที่ดินจัดส่งข้อมูลรูปแปลงที่ดินและข้อมูลเอกสารสิทธิของท่ีดินและ สิ่งปลูกสร้างท่ีตั้งอยู่ในเขตพื้นท่ีขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ๆ เพ่ือใชใ้ นการเตรยี มการจดั เกบ็ ภาษภี ายในหกสิบวันนับแตว่ ันทพี่ ระราชบัญญตั นิ ีใ้ ช้บังคบั

การจดั ส่งข้อมลู ใหแ้ กอ่ งค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ตามวรรคหน่ึง ให้องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น ได้รบั ยกเว้นคา่ ธรรมเนยี มหรือคา่ ใช้จา่ ยตามประมวลกฎหมายทดี่ ินและกฎหมายวา่ ด้วยอาคารชดุ

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๓๐ ก หน้า ๔๘ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา

มาตรา ๙๓ มิให้นาความในมาตรา ๖๗ แห่งพระราชบัญญตั ินม้ี าใช้บังคบั แก่การขายทอดตลาด ทด่ี ินหรือส่ิงปลูกสรา้ งของเจา้ พนกั งานบังคับคดีซ่งึ ได้มีการประกาศขายทอดตลาดท่ีดินหรือสิง่ ปลกู สร้างไว้ ในวันกอ่ นวันท่พี ระราชบญั ญัตินี้ใช้บังคบั

มาตรา ๙๔ ในสองปีแรกของการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามพระราชบัญญัติน้ี ให้ใชอ้ ตั ราภาษีตามมูลค่าของฐานภาษี ดังตอ่ ไปนี้

(๑) ท่ีดินหรือสง่ิ ปลกู สร้างท่ใี ชป้ ระโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม (ก) มูลค่าของฐานภาษไี มเ่ กินเจด็ สบิ หา้ ล้านบาท ใหใ้ ชอ้ ัตราภาษีร้อยละศูนยจ์ ดุ ศนู ย์หน่งึ (ข) มูลค่าของฐานภาษีเกินเจ็ดสิบห้าล้านบาท แต่ไม่เกินหนึ่งร้อยล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษี

รอ้ ยละศูนยจ์ ุดศนู ย์สาม (ค) มูลคา่ ของฐานภาษีเกินหน่ึงร้อยล้านบาท แต่ไม่เกินห้าร้อยล้านบาท ให้ใชอ้ ัตราภาษี

รอ้ ยละศนู ยจ์ ดุ ศูนยห์ า้ (ง) มูลค่าของฐานภาษีเกินห้าร้อยล้านบาท แต่ไม่เกินหน่ึงพันล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษี

ร้อยละศนู ย์จุดศูนย์เจ็ด (จ) มูลคา่ ของฐานภาษีเกินหน่งึ พันล้านบาทขึน้ ไป ให้ใช้อตั ราภาษีร้อยละศนู ย์จดุ หนึ่ง

(๒) ที่ดินและส่ิงปลูกสร้างที่เจ้าของซ่ึงเป็นบุคคลธรรมดาใช้เป็นที่อยู่อาศัยและมีช่ืออยู่ใน ทะเบียนบ้านตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการทะเบยี นราษฎร

(ก) มลู คา่ ของฐานภาษีไมเ่ กนิ ยส่ี ิบห้าล้านบาท ให้ใชอ้ ัตราภาษรี อ้ ยละศนู ย์จดุ ศนู ยส์ าม (ข) มูลค่าของฐานภาษีเกินยี่สิบห้าล้านบาท แต่ไม่เกินห้าสิบล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษี รอ้ ยละศนู ยจ์ ุดศูนย์ห้า (ค) มลู คา่ ของฐานภาษีเกนิ ห้าสบิ ล้านบาทขนึ้ ไป ให้ใช้อัตราภาษีรอ้ ยละศนู ยจ์ ุดหนงึ่ (๓) ส่ิงปลูกสร้างท่ีเจ้าของซ่ึงเป็นบุคคลธรรมดาใช้เป็นที่อยู่อาศัยและมีช่ืออยู่ในทะเบียนบ้าน ตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร (ก) มลู คา่ ของฐานภาษีไม่เกนิ ส่ีสิบล้านบาท ใหใ้ ชอ้ ตั ราภาษีรอ้ ยละศูนยจ์ ุดศูนยส์ อง (ข) มูลค่าของฐานภาษีเกินสี่สิบล้านบาท แต่ไม่เกินหกสิบห้าล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษี รอ้ ยละศูนยจ์ ดุ ศนู ย์สาม (ค) มูลค่าของฐานภาษีเกนิ หกสิบห้าลา้ นบาท แต่ไม่เกนิ เก้าสิบล้านบาท ใหใ้ ช้อัตราภาษี ร้อยละศนู ยจ์ ดุ ศูนย์หา้ (ง) มลู ค่าของฐานภาษเี กินเก้าสบิ ล้านบาทขึ้นไป ให้ใชอ้ ตั ราภาษรี อ้ ยละศนู ยจ์ ดุ หนึ่ง

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๓๐ ก หน้า ๔๙ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา

(๔) ท่ีดินหรือส่ิงปลูกสร้างท่ีใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัยกรณีอื่นนอกจากการใช้ประโยชน์เป็น ทอ่ี ยูอ่ าศยั ตาม (๒) และ (๓)

(ก) มูลคา่ ของฐานภาษไี มเ่ กนิ ห้าสิบล้านบาท ให้ใช้อตั ราภาษรี อ้ ยละศูนยจ์ ดุ ศนู ยส์ อง (ข) มูลค่าของฐานภาษีเกินห้าสิบล้านบาท แต่ไม่เกินเจ็ดสิบห้าล้านบาท ให้ใช้อตั ราภาษี รอ้ ยละศนู ยจ์ ดุ ศนู ยส์ าม (ค) มูลค่าของฐานภาษีเกินเจ็ดสิบห้าล้านบาท แต่ไม่เกินหน่ึงร้อยล้านบาท ให้ใช้อัตรา ภาษรี ้อยละศูนยจ์ ุดศนู ย์หา้ (ง) มลู ค่าของฐานภาษเี กินหนึ่งร้อยล้านบาทข้ึนไป ใหใ้ ช้อตั ราภาษีรอ้ ยละศูนยจ์ ุดหน่ึง (๕) ที่ดนิ หรอื ส่งิ ปลกู สร้างท่ีใชป้ ระโยชนอ์ ืน่ นอกจากการประกอบเกษตรกรรมและเปน็ ที่อยอู่ าศยั (ก) มูลคา่ ของฐานภาษไี ม่เกินห้าสบิ ลา้ นบาท ใหใ้ ช้อตั ราภาษีร้อยละศูนย์จุดสาม (ข) มูลค่าของฐานภาษีเกินห้าสิบล้านบาท แต่ไม่เกินสองร้อยล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษี ร้อยละศนู ยจ์ ุดสี่ (ค) มลู คา่ ของฐานภาษเี กินสองรอ้ ยล้านบาท แตไ่ ม่เกนิ หนึง่ พันล้านบาท ให้ใชอ้ ตั ราภาษี ร้อยละศนู ยจ์ ุดห้า (ง) มูลค่าของฐานภาษีเกินหน่ึงพันล้านบาท แต่ไม่เกินห้าพันล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษี ร้อยละศนู ย์จดุ หก (จ) มลู ค่าของฐานภาษีเกินหา้ พันล้านบาทขน้ึ ไป ใหใ้ ชอ้ ตั ราภาษีรอ้ ยละศูนยจ์ ุดเจ็ด (๖) ที่ดนิ หรอื สิง่ ปลูกสรา้ งทีท่ ิ้งไว้ว่างเปลา่ หรอื ไม่ไดท้ าประโยชนต์ ามควรแกส่ ภาพ (ก) มูลค่าของฐานภาษีไม่เกินห้าสบิ ล้านบาท ใหใ้ ช้อัตราภาษรี ้อยละศูนย์จุดสาม (ข) มลู ค่าของฐานภาษเี กนิ หา้ สบิ ล้านบาท แต่ไม่เกนิ สองรอ้ ยลา้ นบาท ให้ใชอ้ ัตราภาษีร้อยละ ศนู ยจ์ ดุ สี่ (ค) มลู คา่ ของฐานภาษเี กินสองรอ้ ยล้านบาท แตไ่ ม่เกินหนึ่งพันล้านบาท ให้ใชอ้ ัตราภาษี รอ้ ยละศูนย์จุดห้า (ง) มูลค่าของฐานภาษีเกินหนึ่งพันล้านบาท แต่ไม่เกินห้าพันล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษี ร้อยละศูนยจ์ ดุ หก (จ) มูลคา่ ของฐานภาษเี กนิ หา้ พนั ล้านบาทขึน้ ไป ใหใ้ ชอ้ ตั ราภาษีรอ้ ยละศนู ย์จุดเจ็ด

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๓๐ ก หน้า ๕๐ ๑๒ มนี าคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา

มาตรา ๙๕ ในสองปีแรกของการคานวณภาษตี ามพระราชบญั ญตั ิน้ี ให้ใช้ฐานภาษขี องท่ดี นิ หรอื ส่ิงปลูกสร้าง ซ่ึงคานวณได้ตามมาตรา ๓๕ หักด้วยมูลค่าของฐานภาษีที่ได้รับยกเว้นตามมาตรา ๔๐ หรือมาตรา ๔๑ แล้วคูณด้วยอัตราภาษีตามมาตรา ๙๔ ตามสัดส่วนท่ีกาหนดในมาตรา ๓๘ ผลลพั ธท์ ไี่ ดเ้ ป็นจานวนภาษที ่ตี อ้ งเสยี

เพ่ือประโยชน์ในการคานวณจานวนภาษีตามวรรคหน่ึง กรณีท่ีดินหลายแปลงซ่ึงมีอาณาเขต ติดต่อกันและเป็นของเจา้ ของเดียวกนั ใหค้ านวณมลู ค่าทีด่ นิ ทัง้ หมดรวมกนั เปน็ ฐานภาษี

มาตรา ๙๖ เพ่ือเป็นการบรรเทาการชาระภาษี ในสามปีแรกของการจัดเก็บภาษีที่ดินและ สงิ่ ปลกู สร้างตามพระราชบญั ญัตินี้ ใหย้ กเว้นการจัดเก็บภาษีสาหรับเจา้ ของทีด่ ินหรือส่ิงปลูกสร้างซ่ึงเป็น บุคคลธรรมดาและใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม

มาตรา ๙๗ เพื่อเป็นการบรรเทาการชาระภาษี ในสามปีแรกของการจัดเก็บภาษีที่ดินและ สิ่งปลูกสร้างตามพระราชบัญญัตินี้ ในกรณีท่ีผู้เสียภาษีได้รับการประเมินภาษีในจานวนท่ีสูงกว่าจานวน ภาษีโรงเรือนและท่ีดินหรือภาษีบารุงท้องที่ท่ีต้องเสียหรือพึงชาระในปีก่อนท่ีการจัดเก็บภาษีที่ดินและ สิ่งปลูกสร้างตามพระราชบัญญัติน้ีมีผลใช้บังคับ ให้ผู้เสียภาษีชาระภาษีตามจานวนท่ีต้องเสียหรือ พงึ ชาระในปกี ่อน เหลอื จานวนภาษีเท่าใด ใหผ้ เู้ สียภาษีชาระภาษี ดงั นี้

(๑) ปที ห่ี น่ึง รอ้ ยละยี่สิบหา้ ของจานวนภาษที เี่ หลอื (๒) ปที สี่ อง ร้อยละหา้ สบิ ของจานวนภาษีทเ่ี หลอื (๓) ปที สี่ าม รอ้ ยละเจ็ดสิบหา้ ของจานวนภาษีที่เหลือ มาตรา ๙๘ การดาเนนิ การออกกฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ดาเนินการให้แล้วเสร็จภายในหน่ึงรอ้ ยยี่สิบวันนับแต่วันท่ีพระราชบัญญัติน้ีมีผลใช้บังคับ หากไม่สามารถ ดาเนนิ การได้ ให้รัฐมนตรรี ายงานเหตุผลทีไ่ ม่อาจดาเนินการไดต้ ่อคณะรัฐมนตรเี พือ่ ทราบ

ผู้รบั สนองพระราชโองการ พลเอก ประยทุ ธ์ จันทรโ์ อชา

นายกรฐั มนตรี

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๕๑ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่กฎหมายว่าด้วยภาษีโรงเรือนและที่ดิน และกฎหมายวา่ ด้วยภาษีบารุงท้องทไี่ ด้ใช้บังคับมาเป็นเวลานานแล้ว การจัดเก็บภาษีตามกฎหมายทั้งสองฉบับ ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน สมควรยกเลิกกฎหมายท้ังสองฉบับดังกล่าวและให้ใช้กฎหมายว่าด้วย ภาษีที่ดินและส่ิงปลูกสร้างแทน โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้รับผิดชอบการจัดเก็บภาษีดังกล่าว จงึ จาเป็นตอ้ งตราพระราชบญั ญัติน้ี