ก นกระเท ยมแล ว ม กล นต ว ทำอย างไร

กลิ่นตัวเกิดขึ้นจากกลิ่นของสารที่ถูกสร้างจากต่อมไขมัน และกลิ่นของโปรตีนเคอราตินที่อยู่บนผิวหนังที่ถูกย่อยสลายโดยเชื้อแบคทีเรีย และกลิ่นของอาหารที่เรารับประทานเข้าไป เช่น กระเทียม เครื่องเทศ ที่ถูกขับออกมาทางต่อมเหงื่อธรรมดา

ซึ่งเหงื่อออกรักแร้มากๆเข้า ก็จะทำให้เราเสียบุคลิกภาพ ไม่ว่าจะเป็นการมีกลิ่นเหม็น หรือเสื้อบริเวณรักแร้เปียก จึงเป็นปัญหาที่หลายคนแก้ไม่ตก จนทำให้เสียความมั่นใจไปทันที

สาเหตุหลักในการเกิดปัญหากลิ่นตัว 1. แบคทีเรียประจำถิ่นบริเวณรักแร้ จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากความร้อนและความชื้นของอากาศ 2. การสร้างเหงื่อจากต่อมเหงื่อชนิดอะโพครายน์ ผู้ที่มีกลิ่นตัวจะมีต่อมเหงื่อใต้ผิวหนังขนาดใหญ่และมีจำนวนมากต่อมเหงื่อนี้ยังถูกกระตุ้นได้ด้วยฮอร์โมนเพศชาย Androgrn

ปัจจัยกระตุ้นให้เกิดกลิ่นตัว 1. อาหารรสจัด เช่น แกงกะหรี่ แกงเผ็ดต่างๆ ที่มีส่วนผสมของขมิ้น กระเทียม และเครื่องเทศที่มีกลิ่นแรง เมื่อผ่านการย่อยจะเกิดแก๊สซัลเฟอร์ปนอยู่กับออกซิเจนในเลือดที่ไปอยู่ตามรูขุมขน หากทานอาหารรสจัดทำให้ร่างกายขับเหงื่อออกมาโดยเฉพาะใต้วงแขน 2. โรคอ้วน คนอ้วนมักมีกลิ่นตัวแรงกว่าคนที่ผอมกว่า เพราะคนอ้วนมีโอกาสที่อวัยวะภายนอกมีส่วนอับชื้น สร้างกลิ่นไม่พึงประสงค์ ตามรักแร้ ชั้นพุง ขาหนีบ มากกว่าคนผอม และต่อมเหงื่อยังผลิตเหงื่อมากกว่าคนที่ผอมอีกด้วย 3. โรคเบาหวาน ในกรณีโรคเบาหวานที่ไม่ได้รับการรักษา ร่างกายจะเริ่มขับไขมันเพื่อใช้เป็นพลังงานส่งผลให้ระดับคีโตน (Ketone) ในร่างกายสูงขึ้น หลังจากนั้นสิ่งที่สะสมไว้ก็จะเปลี่ยนเป็นกลิ่นตัว 4. ยาบางชนิด ยาสามารถรักษาโรคได้แต่ก็สามารถทำให้มีกลิ่นได้ด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น มอร์ฟีน หรือยาลดไข้ ที่สามารถทำให้เหงื่อออกจนเกิดกลิ่นตัวขึ้นได้ 5. ความเครียด เหงื่อที่ออกตามปกติจะมีกลิ่นน้อยกว่าเหงื่อที่ออกจากความเครียด ต่อมเหงื่อชนิดนี้เรียกว่า ต่อมอะโพไครน์ (Apocrine glands) ของเหลวจากต่อมนี้มีน้ำน้อยกว่า แต่ดึงดูดแบคทีเรียได้สูงกว่า ทำให้เกิดกลิ่นได้มากกว่า

สามารถลดกลิ่นตัวได้อย่างไรบ้าง 1. รักษาสุขภาพอนามัย ล้างบริเวณรักแร้บ่อยๆ ด้วยน้ำสะอาดจะลดปริมาณสารก่อกลิ่น การล้างด้วยสบู่ฆ่าเชื้อจะช่วยลดปริมาณแบคทีเรียได้แต่ไม่ควรล้างบ่อยเพราะอาจะเกิดการระคายเคือง 2. หลีกเลี่ยงภาวะที่ร้อนจัด ภาวะอับชื้น การใช้ยาระงับกลิ่นกลาย (deodorants) จะมีส่วนประกอบสารต่างๆ เช่น สารลดเหงื่อ สารฆ่าเชื้อแบคทีเรีย สารลดกลิ่นที่สร้างขึ้น และน้ำหอมจะช่วยลดกลิ่นตัวได้ 3. การใช้ยาระงับเหงื่อ (antiperspirants) ส่วนมากจะมีส่วนประกอบของโลหะ เช่น อลูมิเนียมคลอไรด์ ( aluminium chloride) ซึ่งจะไปอุดท่อต่อมเหงื่อ ลดการหลั่งเหงื่อ ทำให้ผิวแห้งแบคทีเรียเติบโตได้ไม่ดี สามารถช่วยลดกลิ่นตัวได้

มีจำนวนไม่น้อยเลยที่พบว่าเป็นปัญหาในเรื่องของกลิ่นตัวเหม็น บางคนหมดความมั่นใจไปเลย เพียงแค่เดินสวนกับเพื่อน ก็ถูกทักว่า “ทำไม…กลิ่นตัวเหม็นจัง กลิ่นตัวแรงจัง? ” และเราก็เชื่อว่าบางครั้งการรับรู้กลิ่นของตนเองก็อาจจะผิดเพี้ยนไปจากความเคยชิน จนต้องอาศัยคนรอบข้าง แต่ใครว่าการถูกทักทายด้วยเรื่องของกลิ่นกายจะเป็นเรื่องดี หนำซ้ำยังทำให้ผู้ที่ประสบหมดความมั่นใจไปอีก

วันนี้เราก็จะขอเอาใจผู้ที่มีปัญหาในด้านกลิ่นตัวเหม็น กลิ่นตัวแรงมาฝากว่า มีสาเหตุเกิดจากอะไร และเมื่อเป็นแล้วจะรักษาอย่างไร มีคำตอบรออยู่ในบทความนี้แล้ว

ทำความเข้าใจเรื่อง กลิ่นตัวเหม็น

ภาวะของการเกิดกลิ่นค่อนข้างที่จะซับซ้อน จำเป็นจะต้องแยกเป็น 2 ประเภท คือ

ประเภทของกลิ่นตัวเหม็นที่เกิดจากต่อมกลิ่น และ ประเภทของโรคกลิ่นเหงื่อ

ต่อมกลิ่น : จะผลิตสาร Pheromone (ฟีโรโมน)ออกมา จะมีกลิ่นเพียงเล็กน้อย แต่เมื่อต่อมกลิ่นหลั่งสารชนิดนี้ออกมาแล้วปะปนเข้ากับเชื้อแบคทีเรียก็จะเปลี่ยนให้เป็นสารที่มีกลิ่น ก็คือ แอมโมเนียและกรดไขมันสายสั้น ที่ให้กลิ่นรุนแรง พบได้มากสุด บริเวณรักแร้และบริเวณอวัยวะเพศ ไม่ได้เหมือนกันกับกลิ่นเหงื่อที่มีทั่วร่างกาย

กลิ่นเหงื่อ : จะเกิดจากการที่ ต่อมเหงื่อทำงานเยอะ ร่วมกับการมีแบคทีเรียที่บริเวณพื้นผิวไปย่อยสลายผิวหนังกำพร้าจึงทำให้เกิดเหงื่อได้ ยกตัวอย่างเช่น มีเหงื่อเยอะที่บริเวณมือ เท้า รักแร้

เป็นผู้ที่มีกลิ่นค่อนข้างเหม็น เท้ามีหลุม ซึ่งก็มาสาเหตุมาจากการที่มีเหงื่อออกเยอะ มีความอับชื้น และแบคทีเรียก็ไปทำการย่อยสลายบริเวณผิวหนังกำพร้า นอกจากจะทำให้เกิดเป็นหลุมแล้วก็ยังส่งกลิ่นเหม็นที่ตามมาได้อีกด้วย

ก นกระเท ยมแล ว ม กล นต ว ทำอย างไร

สาเหตุการเกิด กลิ่นตัวเหม็น

โดยทั่วไปจะมีปัจจัยที่ทำให้เกิดนั่นก็คือ

1 ภาวะเหงื่อออกเยอะ ไม่ว่าจะกลิ่นตัวที่เหม็นหรือกลิ่นเท้าที่รุนแรงก็ตามมักจะเกิดขึ้นในภาวะที่มีเหงื่อออกมาก

2 แบคทีเรียประจำถิ่น แบคทีเรียที่ว่านี้ไม่ได้ถูกจัดว่าเป็น แบคทีเรียชนิดรุนแรง ซึ่งก็เป็นแบคทีเรียที่อยู่ในร่ากายของทุกคน

3. การทำงานของต่อมใต้ผิวหนัง ของต่อมไขมัน และต่อมเหงื่อ

4. พฤติกรรมการรับประทาน มีความเชื่อมโยงในบางคนที่มีพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่มีรสจัดเช่นหอม กระเทียม ซึ่งส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าอยู่ในอาหารไทยๆที่ดาวรับประทานกันเป็นประจำอยู่ไหนแล้วไม่ว่าจะเป็นในส่วนของเครื่องเทศในบางชนชาติมีกลิ่นที่เป็นลักษณะเฉพาะซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะอาหารการกินที่รับประทานในแต่ละคนเช่นกัน

  • ผู้ที่มีเหงื่อออกทุกๆคนจะต้องมีกลิ่นตัวไหม? : ไม่จำเป็น หลายๆคนที่มีเหงื่อออกไม่มีกลิ่นตัวก็เยอะ
  • ถ้าเหงื่อออกมาก ๆ จนรบกวนการทำงานควรทำอย่างไรดี? : กรณีที่เป็นผู้ที่มีเหงื่อออกมาก สวมใส่ชุดทำงานแล้ว เกิดเหงื่อซึมเปียกเสื้อผ้า รวมถึงมีเหงื่อออกตามมือมาก ๆ หยิบจับอะไรลำบาก จำเป็นต้องได้รับการรักษา

กลิ่นตัวเหม็นมีโอกาสที่จะหายไปไหม?

โดยทั่วไป ตามที่ได้อธิบายไปว่า เกิดขึ้นจาก ” แบคทีเรียประจำถิ่น” อาจมีสิ่งแวดล้อมเป็นตัวการทำให้เหงื่อออก ถ้าปัจจัยพ่อนี้ไม่เปลี่ยนแปลง โอกาสที่จะหายก็คงยาก แต่ก็สามารถที่จะควบคุมได้เช่นในเรื่องของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นหากใช้สบู่ที่มีฤทธิ์ควบคุมเชื้อแบคทีเรียในการระงับก็มองว่าสามารถช่วยให้เห็นผลที่ดีได้

ก นกระเท ยมแล ว ม กล นต ว ทำอย างไร

รักษากลิ่นตัวเหม็นด้วยผลิตภัณฑ์ตามท้องตลาดต่างๆ

1 ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการระงับกลิ่นตัว ส่วนใหญ่ที่มีส่วนประกอบหลักก็คือ “เกลือลูมิเนียม” ซึ่งมีฤทธิ์ไประงับได้ดีแล้วในระดับหนึ่ง

2.”สารส้ม”

นั่นก็ถือว่าเป็นเกลืออลูมิเนียมแบบหนึ่งเพียงแต่ว่าในความผิดพลาดมาจะเกิดขึ้นก็คืองามทั้งก้อนมาขัด ถู สิ่งที่เกิดขึ้นคือปัญหาผิวหนังถลอก และเกิดเป็นบาดแผล ที่แม้จะเป็นไปตามภูมิปัญญาชาวบ้านแน่นอนว่าเปอร์เซ็นต์ที่ดีก็ย่อมมีเนื่องจากมีการใช้กันมายาวนานแล้ว เพียงแต่ว่าควรปรับรูปแบบให้เหมาะสมซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ช่วยโดยตรงมีราคาที่ไม่ได้สูงมากนะ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานน่าจะค่อนข้างดีกว่า

3.สเปรย์น้ำหอม Perfume

กลไกของสเปรย์น้ำหอมหรือน้ำหอมก็จะเน้นหรือช่วยเบี่ยงเบนในการสร้างกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์หลายๆคนก็เลือกใช้วิธีนี้ซึ่งเป็นวิธีที่ดีไม่แพ้กัน (ถ้าไม่แพ้น้ำหอม/Perfume)

4. การปรับพฤติกรรม

การอาบน้ำทำความสะอาดรับไหนแห้งหรือบางคนที่มีปัญหาเหงื่อออกก็สามารถใช้แป้งฝุ่นในการโรยเพื่อระงับงานข้อนี้ก็เป็นประโยชน์ได้ดีเลยทีเดียว

ก นกระเท ยมแล ว ม กล นต ว ทำอย างไร

วิธีการรักษา กลิ่นตัวเหม็น ทางการแพทย์

1.สารระงับเหงื่อ

ส่วนใหญ่พวกนี้จะเป็นเกลืออลูมิเนียมซึ่งอยู่ในส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์อยู่ในรูปแบบต่างๆ คุณสมบัติก็คือจะไปควบคุมเหงื่อได้ดีในระดับหนึ่ง

2. (Botulinum Toxin)โบทูลินั่ม ท็อกซิน

หากถ้าไม่ได้จากเกลืออลูมิเนียมก็จะมีขั้นตอนอื่นๆด้วย การใช้สารพิษBotulinum Toxinซึ่งเป็นสารพิษที่อยู่ในหน่อไม้กระป๋องมีฤทธิ์ในการควบคุมเหงื่อออกได้แต่ในการใช้เป็นยาในระดับที่มีความปลอดภัยและบริสุทธิ์สารพิษชีวภาพนี้สามารถที่จะใช้ฉีดลงไปในบริเวณที่เหงื่อออกเยอะ ระงับเหงื่อได้ดี แต่ข้อเสียคือราคาแพงมาก และที่สำคัญก็อยู่ได้ไม่นานนัก โอกาสของการกลับมาเป็นซ้ำได้ไหมมีค่อนข้างสูง

3.กระแสไฟฟ้า Lontophoresis เป็นเครื่องที่สามารถช่วยในการจัดการ และระงับได้

4.ยารับประทาน

5. กลิ่นตัวเหม็น รักษาด้วยทางการแพทย์

  • ในอดีตนั้นการรักษาคนที่มี กลิ่นตัวเหม็น กลิ่นตัวแรง จะใช้การผ่าตัดเอาต่อมเหงื่อออก แต่ทว่าผลการรักษานั้นไม่ได้ผลดีเท่าที่ควรและใช้เวลาในการรักษานานมาก เนื่องจากแพทย์จะต้องผ่าเปิดผิวหนังเพื่อดึงต่อมเหงื่อออกทีละอัน ซึ่งมีขนาดเล็กมาก อาจทำได้ไม่ครอบคลุมทั้งหมดบริเวณ การผ่าตัดต่อมเหงื่อนี้จึงไม่ค่อยได้รับความนิยม

รักษา กลิ่นตัวเหม็นด้วย miraDry

miraDry (มิรา-ดราย) เป็นเทคโนโลยีใหม่จากสหรัฐอเมิรกา ที่ช่วยรักษากำจัดเหงื่อและกลิ่นตัวใต้วงแขน ที่มีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์ดีที่ี่สุดทางหนึ่ง รวมถึงยังสามารถจำกัดรากขนออกได้บางส่วนด้วย

miraDry มีหลักการทำงานคือใช้พลังงานคลื่นในการทำลายต่อมเหงื่อและต่อมกลิ่นใต้วงแขน ที่มีความปลอดภัยสูง แก้ปัญหาได้ถาวร ไม่ต้องทำซ้ำหลายครั้ง และที่สำคัญได้รับอนุญาตจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ FDA ใช้ในการรักษากลิ่นเหงื่อ-กลิ่นตัว

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : miraDry กำจัดเหงื่อและกลิ่นตัวถาวร ไม่เจ็บ ไม่ต้องผ่าตัด เทคนิคเฉพาะ Rattinan

ติดต่อสอบถาม ปรึกษาแพทย์ ผ่านช่องทางไลน์ หรือโทรศัพท์

098-294-6464

ก นกระเท ยมแล ว ม กล นต ว ทำอย างไร

ก นกระเท ยมแล ว ม กล นต ว ทำอย างไร

ก นกระเท ยมแล ว ม กล นต ว ทำอย างไร

หากว่าคนที่มีกลิ่นตัวแล้วไม่สามารถจะขจัดปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวขึ้นได้ก็จะเป็นแล้วเป็นอีกเป็นซ้ำไม่หาย แต่ถ้าสามารถขจัดได้โดยเฉพาะอาหารในกลุ่มของเครื่องเทศอาหารรสจัด ถ้าระงับและลดลงได้ก็จะทำให้กลิ่นไม่พึงประสงค์นั้นเบาลง รวมถึงการดูแลเรื่องความสะอาดบนร่างกายก็จะช่วยได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้หากคุณรู้สึกว่าตัวเองมีกลิ่นกายและขาดความมั่นใจก็แนะนำว่าที่นำวิธีดีดีที่เราได้ให้ข้อมูลเอาไว้นี้ไปลองปรับปฏิบัติตามดูก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจของคุณกลับคืนมาได้นั่นเอง

Reference

  1. Odor Trait Disgust Sensitivity Predicts Perception of Sweat Biosamples https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/28486665/ Crystal deodorant dermatitis: irritant dermatitis to alum-containing deodorant https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/10431678/