ก ตกรรมสเต ม เร องรถแข งว งไกล หย ดระยะปลอดภ ย

"เรืองไกร"ยื่นยุบประชาธิปัตย์ ร้องศาลวินิจฉัยแก้รธน.ที่มาส.ว.ไม่ชอบ

เผยแพร่: 22 ก.ย. 2556 20:57 โดย: MGR Online

วานนี้(22 ก.ย.56) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ในวันที่ 23 ก.ย.นี้ จะใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ประกอบมาตรา 62 เข้ายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่า นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กระทำการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้มีข้อเท็จจริงและคำขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ดังนี้ นายวิรัตน์ อ้างการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรคสอง ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว. และมีพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายอภิสิทธิ์ ร่วมสนับสนุนการกระทำ "นายวิรัตย์ระบุเหตุผลว่าอยากให้มี ส.ว.สรรหาต่อไป ถ้าจะมาจากการเลือกตั้งก็ต้องมาจากสาขาวิชาชีพต่างๆ เช่น แพทย์ ทนายความ เอ็นจีโอ จากความอยากของนายวิรัตน์ อันเป็นความอยากให้ได้มาโดยจะอาศัยศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยล้มล้างกระบวนการทางนิติบัญญัติ"นายเรืองไกรกล่าว นายเรืองไกร กล่าวว่า การเสนอญัตติแก้ไขเป็นรายมาตรา ดำเนินการโดยกระบวนการฝ่ายนิติบัญญัติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิฉัยที่ 18-22/2555 และคำสั่งที่ 4/2554 ไว้แล้ว และการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พรรคประชาธิปัตย์เคยดำเนินการมาแล้วในช่วงที่นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ ที่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการเลือกตั้ง ส.ส. ดังนั้น การกล่าวอ้างใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญของนายวิรัตน์ ภายใต้ความยินยอมและมอบหมายจากพรรคประชาธิปัตย์ จึงอาจมีลักษณะเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรคสอง โดยไม่มีมูลกรณีหรือข้อเท็จจริงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรคหนึ่ง แต่อย่างใด เป็นเพียงการคาดการณ์ไปเอง แล้วไปอ้างสิทธิและเสรีภาพร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ และยังเป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อคำวินิจฉัยและคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่วางไว้อีกด้วย จึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 1 และ 2 เลิกกระทำการดังกล่าว และขอให้สั่งยุบพรรคประชาธิปัตย์ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรคสาม พร้อมเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรคสี่ ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า มีเว็บไซต์ของสำนักข่าวต่างประเทศทีชื่อว่า “เดอะ ดิโพลแมท” ซึ่งเป็นสื่อของประเทศฟิลิปปินส์ เขียนโดยนายม็อง พาลาติโน โดยได้ตีแผ่พฤติกรรมก้าวร้าวของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคประชาธิปัตย์ในการประชุมสภาฯ ว่า ถือเป็นการการตบหน้านายอภิสิทธิ์และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ และที่น่าตกใจ คือผู้เขียนระบุว่านายอภิสิทธิ์ ซึ่งเคยเป็นคนสุภาพ กลับใช้ถ้อยคำไม่สุภาพบนเวทีปราศรัย โจมตีนายกรัฐมนตรี ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสียภาพลักษณ์ ทั้งนี้ หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่เข้าร่วมเวทีสภาปฏิรูปการเมืองไม่เป็นไร แต่ขอให้หันไปปฏิรูปพรรคตัวเองก่อน

“ขนาดสื่อนอกยังเขียนถึงพรรคประชาธิปัตย์ขนาดนี้ จึงไม่แปลกใจที่โพลที่ออกมาขณะนี้ ถึงบอกว่าการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยจะได้ 44 % ประชาธิปัตย์ ได้ 22% เพราะถือเป็นยุคตกต่ำของนายอภิสิทธิ์ และนายชวน”นายพร้อมพงศ์ กล่าว นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า พรรคได้เรียกประชุม ส.ส.และสมาชิก ในวันที่ 23 ก.ย.นี้ ในประเด็นแถลงผลงานของรัฐบาล ในวันที่ 24 - 25 ก.ย.โดยเชื่อว่าฝ่ายค้าน เตรียมผู้อภิปรายถึง 60 คน และคงเป็นเวทีซ้อมย่อยในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งนี้จะมีการทำความเข้าใจ ส.ส.ถึงการอภิปราย วางกรอบ กำหนดคนที่จะอภิปราย เพราะเชื่อว่าจะมีการพาดพิง และยืนยันว่า จะไม่มีการตั้งองครักษ์นายกรัฐมนตีและรัฐมนตรี แต่หากมีการพาดพิงบุคคลภายนอก ก็จะมีการประท้วงบ้าง นอกจากนี้จะกำชับให้ ส.ส.สมาชิก เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง และให้ ส.ส.งดภารกิจตั้งแต่วันที่ 24 - 28 ก.ย. อย่างไรตามเรื่องการลงมติ วาระ 3 การแก้รัฐธรรมนูญที่มาของส.ว. วิปรัฐบาลได้ประสานทางพรรคว่า จะมีการประชุมในวันที่ 28 ก.ย. และลงมติในวาระ 3 ซึ่งได้กำชับ ส.ส.เพราะจะมีการการลงมติด้วยการขานชื่อ