การแต งกายของผ ชายอ ณหภ ม ต ดลบมาก ๆ

เผยแพร่: 9 ธ.ค. 2554 10:51 โดย: MGR Online

คอลัมน์ Sexociety โดย Dr.DENความฝันอันสูงสุดอย่างหนึ่งในชีวิตของผู้หญิงก็คือ การแต่งงาน เพื่อเริ่มต้นชีวิตคู่กับผู้ชายดีๆ สักคน คุณวาดหวังอนาคตไว้อย่างเรืองรอง คุณวางแผนการจัดงานแต่งงานไว้อย่างเลอเลิศล่วงหน้าเป็นปี และตั้งตารอวันเป็นนางเอกของงานอย่างใจจดใจจ่อ ทุกวันมีแต่ความตื่นเต้นเมื่อนึกถึงวันนั้น-วันแต่งงาน แต่แล้ว หลังจากวันในฝันผ่านไปได้ไม่นาน คู่สมรสใหม่หลายคู่พบว่าความฝันอันเรืองรองของพวกเขาพลันร่วงโรยลงอย่างรวดเร็ว“มีรายงานว่าคู่สมรสใหม่ เกิดความเบื่อหน่ายและผิดหวัง เป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากแต่งงานกันได้ไม่กี่เดือน” ดร.เจน เกรียร์ ผู้เชี่ยวชาญการใช้ชีวิตคู่และผู้เขียนหนังสือ “WHAT ABOUT ME ? STOP SELFISHNESS FROM RUINING YOUR RELATIONSHIP” กล่าวทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?เหตุใดคนที่เพิ่งแต่งงานจึงเกิดอารมณ์บูดขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว แทนที่จะชื่นมื่นกับชีวิตคู่ที่พวกเขาถวิลหามานาน?“ปัจจุบัน การจัดงานแต่งงานกลายเป็น พิธีกรรมโอ้อวดหน้าตาของทั้ง 2 ฝ่าย ไปแล้ว ต่างฝ่ายต่างพยายามทุ่มทุนและทุ่มเทความพยายามทั้งหมดลงไปในการสร้างสรรค์ ความเลิศหรูอลังการ ด้วยสถานที่อันวิจิตรและอาหารเลิศรส แขกเหรื่อถูกเชิญมาในงานเป็นจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อทำให้เจ้าบ่าว-เจ้าสาวกลายเป็น เจ้าชาย-เจ้าหญิง ที่กำลังเดินเฉิดฉายกรุยกรายอยู่ในวิมาน แทนที่จะเป็นการจัดงานอย่างเรียบง่าย เพื่อเป็นการบอกกล่าว ญาติสนิทมิตรสหายให้รับรู้การครองชีวิตคู่ของพวกเขา อย่างที่ควรจะเป็น” เคธี ทิฟฟานี ผู้ก่อตั้งทิฟฟานีเวดดิงส์ ใน แอล.เอ. อธิบาย“ทีนี้พองานเลี้ยงเลิกรา คู่บ่าว-สาวก็กลับมาเผชิญกับชีวิตจริงซึ่งแตกต่างจากงานแต่งงานของพวกเขาอย่างพลิกฝ่ามือ จึงเกิดอาการเบื่อหน่ายและผิดหวังอย่างรวดเร็วดังกล่าว”แล้วจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร?คำตอบก็คือ “ต้องมองว่า การแต่งงานคือ การเริ่มออกเดินทางครั้งใหม่ไปด้วยกัน” เกรียร์พูด “จากนั้นก็วางแผนสำหรับโครงการต่างๆ ที่คุณทั้งคู่รู้สึกตื่นเต้น”ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยมิให้แรงเฉื่อยแห่งความตื่นเต้นของงานแต่ง หยุดลงอย่างกะทันหันนั่นเองลองดูแนวคิดดังต่อไปนี้:ลิ้มรสความตื่นเต้นตั้งแต่วันแรกๆเดี๋ยวนี้คู่สมรสจำนวนมากไม่มีฮันนีมูนกันแล้ว แต่ดร.เกรียร์ บอกว่า จริงๆ แล้วการฮันนีมูน เป็น อะไรอีกอย่างที่อยู่ในความคาดหวังของชีวิตสมรส ไม่ว่าจะเป็น มินิฮันนีมูน แค่ 3 วัน หรือพักผ่อนอยู่กับบ้านเฉยๆสัก 4-5 วัน ก็ยังดี และแม้ว่าความเลิศหรูอลังการของงานแต่ง สามารถอ้อยอิ่งอยู่ในความทรงจำของคู่สมรสได้นานเป็นปีก็ตาม แต่มีแนวโน้มว่า ฝ่ายภรรยาจะรู้สึกเซ็งกะโบ๋เด๋ อย่างสุดขีด หลังจากแต่งงานได้ไม่นาน ดังนั้น ดร.โจแอน แม็กด๊อฟฟ์ นักบำบัดจิตแห่งนิวยอร์ค จึงแนะนำให้มีการวางแผนเฉลิมฉลองกันเล็กน้อยโดยการละลายเค้กแต่งงานที่แช่แข็งไว้ ออกมากิน ช่วยกันทำอาหารค่ำมือแรกของพวกคุณฉันสามี-ภรรยา เปิดแชมเปญและดื่มอวยพรให้กับการปฏิบัติขั้นต่อไปเขย่าตะกอนมิให้นอนก้น“ด้วยเหตุที่คู่สมรสส่วนใหญ่ในปัจจุบันอยู่กินด้วยกันก่อนแต่งงานมาแล้ว พวกคุณจึงไม่มีชีวิตใหม่ล้วนๆ ที่จะโดดเข้าไป” เกรียร์กล่าว จงทำให้การแต่งงานเป็นเรื่องสดใหม่ด้วยการแกะห่อของขวัญโดยทันที เอาผ้าเช็ดตัวที่ปักชื่อย่อของพวกคุณ ซึ่งเป็นของขวัญจากเพื่อนคนหนึ่ง ออกมาใช้ซะ เอาชุดภาชนะกระเบื้องเคลือบ ที่เป็นของขวัญจากคุณป้า ออกมาใช้ ชื่นชมกับของขวัญทุกชิ้นอย่างรื่นเริงบันเทิงใจ แต่งห้องใหม่นิดหน่อย ย้ายเครื่องเฟอร์นิเจอร์ไปในมุมใหม่ หรือ ทาสีห้องนอนใหม่ก็ไม่เลวและควรปรับปรุงความสัมพันธ์ของพวกคุณด้วย เพื่อทำให้เกิดความรู้สึกแตกต่างจากเดิม ตัวอย่างเช่น ไปเข้าคอร์สทำอาหารด้วยกัน ไปเรียนตีเทนนิสด้วยกัน หรือเริ่มเข้ากลุ่มคนแต่งงานใหม่ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ใหม่ๆหลังแต่งงานกับพวกเขา แล้วจากนั้นก็ให้สังเกตว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง อย่างเช่นใครบางคนเรียกคุณว่า “นาง” เป็นครั้งแรก แทนที่จะเป็น “ นางสาว” เหมือนเมื่อก่อนเพ่งมองไปในอนาคตโดยการวางแผนจัดงานต่างๆเพื่อสร้างความตื่นเต้นระยะยาว เช่น การจัดปาร์ตี้อันอบอุ่นในบ้าน เชิญญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายมาเลี้ยงอาหารค่ำ จัดคืนพิเศษเพื่อออกไปฉลองนอกบ้านในวันครบรอบแต่งงานและควรมีการผจญภัยเล็กๆน้อยๆด้วย เช่น การท่องเที่ยวไปในสถานที่ที่ไม่เคยไปมาก่อน หรือสถานที่ที่อยากไปแต่ยังหาโอกาสไม่ได้ เป็นต้นด้วยวิธีอันแสนธรรมดาเหล่านี้ พวกคุณก็จะตื่นเต้นและใจจดใจจ่ออยู่กับ เหตุการณ์ในอนาคตที่คุณจัดให้ตัวเอง และสามารถทำให้ชีวิตคู่ของคุณใหม่สดอยู่ได้เรื่อยๆ ปัญหาเรื่อง ความเหี่ยวเฉาโรยราอย่างรวดเร็วหลังแต่งงาน ก็จะไม่เกิดขึ้น

“เอสเธอร์” มึนใส่ "แม่ฌอห์ณ" โพสต์เหน็บ! ทนกระแสไม่ไหวตั้งใจทวิตดราม่า

เผยแพร่: 12 ก.พ. 2559 15:41 โดย: MGR Online

“เอสเธอร์” รับทวิตดราม่า กดดันถูกโซเชียลรุม ลั่นไม่สนใครจะรัก ใครจะยี้ ใครจะอยู่ทีมใคร เดินหน้าทำงานต่อไป มึนใส่ข้อความ “แม่ฌอห์ณ” โพสต์เหน็บ บอกไม่ได้หมายถึงตนแน่ ป้องแม่มีปัญหา “ฌอห์ณ”

กลายเป็นเรื่องราวบานปลายเพราะมีแม่เข้ามาเกี่ยวข้อง สำหรับคู่จิ้นสาว “เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา” และหนุ่ม “ฌอห์ณ จินดาโชติ” ที่ช่วงแรกๆ เหมือนมีลุ้นจิ้นนอกจอ ฝ่ายชายเดินหน้าจีบ แต่สุดท้ายแม่ของฝ่ายหญิงดูไม่ค่อยจะปลื้มหนุ่มฌอห์ณเท่าที่ควร อยากจะให้จิ้นกับพระเอกคนอื่น

เรื่องราวบานปลายไปถึงว่าแม่ฝ่ายหญิงกำจัดไม่ให้รับงานคู่กัน เมื่อสอบถามหนุ่มฌอห์ณ เจ้าตัวก็ตอบแบบสุภาพบุรุษไม่ขอพาดพิงใคร กระแสดราม่าไม่จบง่ายๆ เติมเชื้อไฟด้วยการที่แม่ของหนุ่มฌอห์ณโพสต์ข้อความในอินสตาแกรมถึงบทสัมภาษณ์ของลูกชายที่ผิดหวังต่อความรัก พร้อมแคปชั่น “แม่เคยบอก Sean แล้วว่า อย่ายุ่งกับของ (.....) ลูกใคร ใครก็รัก ต่อไป Please อย่ามโน อย่าสร้างภาพและอย่าต่อเติม (คิดไปเอง) ลูกแม่เจ็บแต่เพียงผู้เดียว” ทำเอาแฟลคลับต่างพุ่งเป้าไปว่าหมายถึงสาวเอสเธอร์ จนนางเอกดังต้องโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า “คิด วิเคราะห์ แยกแยะ” ทั้งยังรีทวิตข้อความอื่นๆ เช่น “ตลกดีนะ ที่บางครั้งแค่แสดงความดราม่าในโซเชียลก็ได้รับคะแนนสงสาร ต่างกับฝ่ายที่นิ่งๆ แม้จะเป็นผู้ถูกกระทำ ก็โดนมองว่าผิด , เงียบไม่ได้แปลว่าไม่รู้สึก แต่เพราะรู้สึกเลยเลือกที่จะเงียบ , การโดนทำร้ายโดยคนที่เราหวังดีด้วยนี่เจ็บสุด”

ล่าสุดมีโอกาสเจอสาวเอสเธอร์ในงาน JAPAN EXPO IN THAILAND 2016 เจ้าตัวก็ยอมรับว่าเป็นคนทวิตข้อความเหล่านั้นจริง และคิดมาอย่างดีแล้วจึงทำเช่นนั้น เชื่อข้อความที่แม่ฝ่ายชายโพสต์ไม่ได้หมายถึงตน

“กับพี่ฌอห์ณในกองก็เจอกันปกตินะคะ ยังทำงานด้วยกันค่ะ เรื่องราวส่วนตัวไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร เราเองก็งงๆ เรื่องมันเกิดจากที่มีคนมาคอมเมนต์อินสตาแกรมเรา เราก็งงนะ ส่วนตัวเอสก็แค่ทวิตเตอร์ไป ตอนนั้นมันมีหลายกระแสคอมเมนต์เข้ามา คนรอบข้างตัวเราก็โดนผลกระทบไปด้วย ตอนโพสต์เราก็คิดดีแล้วถึงโพสต์ไป ผลตอบรับมาเป็นไงเราก็ต้องยอมรับเพราะเราคิดที่จะโพสต์ไปแล้ว ข้อความที่แม่พี่เขาโพสต์เอสเห็นค่ะ แต่คิดว่าไม่ใช่เอส เอสเองมีโอกาสได้เจอแม่พี่ฌอห์ณแค่ครั้งเดียวซึ่งนานมากแล้วหลังจากนั้นก็ไม่ได้เจออีกเลย ตอนเจอก็ทักทายปกติ”

“เรื่องแม่เราไม่ให้รับงานด้วยกัน เรื่องนี้ไม่จริงเลยค่ะ เราก็ทำงานกันมาหลายเรื่องแล้ว ถ้าห้ามจริงๆ คงไม่มีเรื่องต่อๆ กันอย่างนี้ ส่วนที่พี่เขาพูดเขาบอกไม่ได้พาดพิงถึงใครก็คิดว่าไม่น่าจะใช่เอสนะคะ เราไม่ได้คุยกันเรื่องข่าวที่เกิดขึ้นเลย ทุกวันนี้ก็ยังทำงานด้วยกันปกติราบรื่นดี”

“เรื่องศาสนาอะไรก็ไม่เกี่ยวค่ะ ทุกศาสนาสอนให้เราเป็นคนดีค่ะ พี่ฌอห์ณกับแม่เอสก็เอสเจอกันเขาก็ทักทายกันตามปกติ รับไหว้ปกติค่ะ เราเจอกันในส่วนของการทำงานทุกอย่างปกติ ยังคุยในเรื่องของการทำงานแต่อาจจะน้อยลงตรงที่ไม่ได้ไปแฮงค์เอ้าท์กับกลุ่มเพื่อนพี่เขา เพราะต่างคนก็ต่างแยกย้ายไปทำงาน”

“ก็ไม่คิดว่าจะต้องเคลียร์อะไรเพราะมันก็ไม่มีอะไรอยู่แล้ว เจอกันก็ยังคุยตามปกติก็ไม่รู้ว่าจะต้องเคลียร์อะไร ยังไงก็ยังร่วมงานกันอยู่ได้ แม่เอสสอนเสมอว่าไม่ว่าเราจะร่วมงานกับใครก็ต้องทำให้เต็มที่ ไม่ใช่ว่าเราอยากจะเลือกเล่นกับคนนั้นคนนี้ จะจิ้นกับคนนั้นคนนี้ ไม่ว่าจะทำงานกับใครแม่จะบอกว่าทำงานอะไรก็ทำให้เต็มที่ค่ะ”