กลอน ด า คน ไม ม ความ ร บผ ดชอบ

กวา่ ๔๐ ปี ในระหวา่ ง ๑ ปถี งึ ๔๐ ปนี น้ั มพี ระเณรและฆราวาสมารบั การ อบรมกบั ทา่ นมากเพยี งไร เฉพาะพระทม่ี หี ลกั ฐานมน่ั คงทางดา้ นจติ ใจและ ขอ้ ปฏบิ ตั มิ จี ำ� นวนมากมาย ทา่ นอาจารยเ์ หลา่ นจี้ ะเปน็ ครอู าจารยส์ ง่ั สอน ผคู้ นพระเณรใหม้ หี ลกั ยดึ ตอ่ ไปในอนาคต ซงึ่ สบื เนอ่ื งมาจากทา่ นอาจารยม์ น่ั เปน็ ผใู้ หก้ ำ� เนดิ ความรทู้ งั้ ภายในและภายนอกมากอ่ น มฉิ ะนน้ั กห็ าทางเดนิ ไมไ่ ด้แมต้ ัวเอง โดยไมต่ อ้ งพูดถึงการส่ังสอนคนอืน่ ให้เป็นคนดีได้เลย

ดว้ ยเหตนุ ้ี การวางรากฐานจติ ใจใหม้ น่ั คงตอ่ เหตผุ ลอรรถธรรมความ ถูกต้องดีงามเป็นข้ันๆ จึงเป็นงานช้ินใหญ่และหนักมากกว่างานช้ินใดๆ ในโลกท่พี วกเราเคยทำ� และเคยบน่ กันว่ายากๆ เพราะงานน้นั เปน็ เพยี ง ส่ิงคล้อยตามจิตใจของผู้พาด�ำเนินเท่านั้น หลักใหญ่ของงานทุกแขนง และทุกชิ้นอย่างแท้จริงข้ึนอยู่กับใจท้ังสิ้น นอกจากน้ันยังเกี่ยวกับงาน ผดิ ถกู ชว่ั ดอี กี วา่ ใครเปน็ ผบู้ งการและพาดำ� เนนิ ถา้ ไมใ่ ชใ่ จ ถา้ ใจเปน็ ผชู้ ข้ี าด และพาดำ� เนนิ ใจไดร้ บั การศกึ ษาอบรมพอทราบเรอื่ งของตวั เกย่ี วกบั ความ ผิดถูกช่ัวดีอย่างไรบ้างเพียงไร จึงจะประคองตัวและงานน้ันๆ ไปด้วย ความราบรนื่ ชน่ื ใจ ตลอดความปลอดภยั อนั เกดิ จากผลงานทต่ี นทำ� ทกุ อยา่ ง เม่ือกล่าวถึงจิตใจ บรรดาท่านที่เคยทราบความลึกซ้ึงหนาบางของท่าน อาจารย์ม่ันมาบ้างแล้ว จะต้องกราบท่านอย่างสนิทใจ ระลึกไว้มิได้ลืม ทง้ั เวลาทา่ นยงั มชี วี ติ อยแู่ ละเวลาทา่ นจากไปแลว้ อดระลกึ ถงึ ความกตญั ญู กตเวทใี นทา่ นมิได้อย่างแน่นอน แม้ชวี ิตจะขาดไปกย็ อมถวายไปเลย

ทา่ นอาจารยม์ นั่ เปน็ อาจารยเ์ อกทางดา้ นพฒั นาจติ ใจคน อาจพดู ไดว้ า่ เกอื บทว่ั ประเทศ ซงึ่ เปน็ การพฒั นาทถ่ี กู จดุ สำ� คญั ของโลกดว้ ย เพราะใจ ที่ได้รับการพัฒนาด้วยอรรถด้วยธรรมด้วยดี ความเสียหายไม่ค่อยมี

497

หรืออาจพดู ได้อยา่ งเตม็ ปากวา่ จติ ทไ่ี ด้รบั การพฒั นาเต็มทแี่ ลว้ แน่ใจว่า ความเสยี หายไมม่ ี ทง้ั งานและผลของงานกเ็ ปน็ ท่ีแน่ใจ โลกทีไ่ ดร้ ับการ พัฒนาจิตใจไปพร้อมๆ กันด้วยดีย่อมเป็นโลกท่ีเจริญจริง ประชาชน มคี วามสงบสขุ มใิ ชเ่ จรญิ แตด่ า้ นวตั ถอุ ยา่ งเดยี ว แตใ่ จรอ้ นเหมอื นไฟ มแี ต่ การเบียดเบียนท�ำลายกัน เอารัดเอาเปรียบกัน ฉ้อโกงกัน เร็วย่ิงกว่า เจา้ บอนนขี่ น้ึ โลกพระจนั ทร์ ซงึ่ ไมผ่ ดิ อะไรกบั ความเจรญิ แหง่ ไฟในแดนนรก

ถ้ายังไม่ทราบว่าแดนนรกมีความเจริญด้วยความรุ่มร้อนขนาดไหน กค็ วรดโู ลกทปี่ ราศจากการพฒั นาจติ ใจ ซงึ่ มแี ตค่ วามรงุ รงั ไปดว้ ยสงิ่ สกปรก ทรี่ ะบายออกจากทอ่ ไอเสยี คอื ใจ ความประพฤตกิ ารกระทำ� ทกุ ดา้ นเปน็ สงิ่ ขวางโลก ขวางธรรม ขวางหู ขวางตา ขวางใจไปหมด ไมม่ อี ะไรนา่ ดนู า่ ชมเลย เตม็ ไปดว้ ยสง่ิ ไมพ่ งึ ปรารถนา ฉะนน้ั ทา่ นผมู้ คี วามฉลาดแหลมคม จงึ นยิ ม การพัฒนาจิตใจก่อนพัฒนาสิ่งอื่นใด ซึ่งเป็นเพียงบริวารของใจเท่าน้ัน เมอื่ พฒั นาใจดแี ลว้ การระบายออกทางกายวาจา ความประพฤติ การกระทำ� ตลอดทกุ ดา้ น ยอ่ มกลายเปน็ ของสะอาดไปตามสว่ นใหญค่ อื ใจ โลกยอ่ มมี ความสงบสุขสมกับคนฉลาดด้วยจิตพัฒนาปกครองโลก ปกครองตน โดยทางเหตุผลอรรถธรรม

ความฉลาดของมนุษย์ท่ีปราศจากธรรมจะฉลาดเพียงไร ยังไม่ควร เป็นที่ไวใ้ จและชมเชยโดยถ่ายเดยี วได้ แม้จะฉลาดแสดงความสามารถ ขน้ึ ชมดวงดาว พระอาทิตย์ พระจันทร์บนฟา้ ไดก้ ย็ งั ไมถ่ อื เปน็ จดุ สำ� คญั ความฉลาดถา้ ยงั ขนื ระบายสงิ่ ทเ่ี ปน็ พษิ เปน็ ภยั ออก เพอ่ื ความเดอื ดรอ้ น แกต่ นและผ้อู ่ืนอยู่ อย่างไม่ส�ำนึกตวั ว่าเปน็ ความผิด ความรู้ความฉลาด นนั้ ยงั ไมอ่ าจเลยภมู ขิ องสตั วเ์ ดยี รจั ฉานทเ่ี คยเปน็ อยดู่ ว้ ยการเบยี ดเบยี น

498

และกัดฉีกกันกิน โดยถือว่าเป็นความฉลาดและเป็นความสุขของเขา ซึ่งอยูใ่ นภมู นิ น้ั ๆ

ความฉลาดทร่ี บั รองกนั ตามหลกั เหตผุ ลทย่ี งั ตนและโลกใหเ้ จรญิ นน้ั ไม่จ�ำต้องออกใบประกาศนียบัตรให้โชว์ก็ได้ แต่การระบายออกทางใจ และความประพฤติส่ิงกระท�ำอันเป็นไปเพ่ือตนและโลกได้รับความสุข ความเย็นใจดว้ ยน้นั ถือว่าเป็นผลงานท่อี อกจากความฉลาดอย่างแท้จรงิ และเปน็ ประกาศนยี บตั รอยู่ในตัวพรอ้ มแลว้ ไมจ่ ำ� ตอ้ งหาใบประกาศมา บังหน้าและอวดโลกเพื่ออ�ำนาจในทางผิดอย่างลึกลับ ซึ่งผลคือความ เดอื ดรอ้ นของผไู้ ดร้ บั มไิ ดเ้ ปน็ ของลบั ๆ ไปดว้ ย แตเ่ ปน็ ความทกุ ขร์ อ้ นอยู่ อย่างเปดิ เผย ดงั ทีเ่ ห็นๆ กนั อยอู่ ย่างเต็มตา รอู้ ยู่อยา่ งเต็มใจ นอกจาก ไมพ่ ูดกนั เท่านัน้ ทงั้ นห้ี ากมใิ ช่โทษของการมองข้ามการพัฒนาภายในคอื ใจแล้ว ใครจะเช่ือกันไดล้ งคอวา่ การพฒั นาแต่ด้านวัตถุดว้ ยทัง้ ใจทีร่ ก รงุ รงั ดว้ ยสนมิ คอื กเิ ลส ความเหน็ แกต่ วั และพวกพอ้ งของตวั ทำ� ใหโ้ ลกเจรญิ ประชาชนอยเู่ ยน็ เปน็ สขุ โดยทวั่ กนั ดงั นี้ นอกจากคนทตี่ ายหมดความรสู้ กึ ดชี ว่ั ทกุ อยา่ งแลว้ เทา่ นน้ั จะไมม่ คี วามขดั ใจและคดิ แยง้ การกระทำ� ดงั ทวี่ า่

เมอ่ื นำ� มาเทยี บระหวา่ งผมู้ กี ารพฒั นาทางใจกบั ผไู้ มไ่ ดพ้ ฒั นาทางใจเลย การงานและผลของงานตา่ งกนั ราวฟา้ กบั ดนิ ฉะนนั้ พระพทุ ธเจา้ จงึ ไมท่ รง ชมเชยสมาธสิ มาบตั เิ พอื่ ความเหาะเหนิ เดนิ อากาศดำ� ดนิ ดำ� นำ�้ เหาะขา้ ม ทะเลตา่ งๆ วา่ เปน็ ผฉู้ ลาดเลอื่ งลอื แตท่ รงชมเชยผพู้ ยายามฝกึ อบรมตน โดยวธิ ตี ่างๆ เพอ่ื ความดีงาม จะเปน็ ทางสมาธสิ มาบัตหิ รอื ทางใดกต็ าม ดว้ ยความรอบคอบตอ่ การระบายออกทางความประพฤตกิ ารกระทำ� มใิ ห้ เกดิ โทษแก่ตนและผอู้ ่นื ว่าเปน็ ผฉู้ ลาด เพราะความน่าอยู่ของโลกท่ัวไป

499

ย่อมขน้ึ อยูก่ บั ความสขุ ใจเป็นหลักใหญ่ แมร้ ่างกายและความเป็นอยใู่ น ดา้ นตา่ งๆ จะมอี ดบา้ งอม่ิ บา้ งตามคตธิ รรมดาของโลกอนจิ จฺ ํ แตก่ ย็ งั นา่ อยู่ เพราะผพู้ าอยพู่ าไปคอื ใจมคี วามสขุ เทา่ ทค่ี วร ไมแ่ ผดเผาเรา่ รอ้ น จนทำ� ให้ คิดอยากยา้ ยภพย้ายชาตยิ า้ ยบ้านเรือนและสถานทีอ่ ย่ตู า่ งๆ

ปญั หาเรอื่ งอฐั ทิ า่ นพระอาจารยม์ นั่ พระอาจารยเ์ สาร์ กลายเปน็ พระธาตุ ปรากฏวา่ กระจายไปในทต่ี า่ งๆ จนทำ� ใหเ้ กดิ ความสงสยั กนั กม็ ี ในระยะอฐั ิ ท่านกลายเป็นพระธาตุใหมๆ่ บางทา่ นมาถามวา่ อฐั ขิ องพระอรหนั ต์ก็ดี ของสามญั ชนกด็ ี ตา่ งก็เปน็ ธาตุดินชนดิ เดียวกนั ส่วนอฐั ขิ องสามญั ชน ทำ� ไมจงึ กลายเปน็ พระธาตไุ มไ่ ด้ เฉพาะอฐั ขิ องพระอรหนั ตท์ ำ� ไมจงึ กลาย เปน็ พระธาตไุ ด้ ทง้ั สองนมี้ คี วามแปลกตา่ งกนั อยา่ งไรบา้ ง กไ็ ดอ้ ธบิ ายใหฟ้ งั เทา่ ทส่ี ามารถแตเ่ พยี งโดยยอ่ วา่ เรอื่ งอฐั นิ นั้ ปญั หาสว่ นใหญข่ นึ้ อยกู่ บั ใจ เป็นส�ำคัญ ค�ำว่าจิตแม้เป็นจิตเช่นเดียวกัน แต่มีอ�ำนาจและคุณสมบัติ ต่างกนั อยมู่ าก คอื จิตของพระอรหันต์ทา่ นเป็นอรยิ จิต เปน็ จติ ทีบ่ รสิ ุทธ์ิ ส่วนจิตของสามญั ชนเป็นเพยี งสามัญจติ เป็นจติ ทม่ี กี ิเลสโสมมตา่ งๆ

เมอ่ื จติ ผเู้ ปน็ เจา้ ของเขา้ ครองอยใู่ นรา่ งใด และจติ เปน็ จติ ประเภทใด ร่างนั้นอาจกลายไปตามสภาพของจิตผู้เป็นใหญ่พาให้เป็นไป เช่น จิต พระอรหันต์เป็นจิตท่ีบริสุทธ์ิ อาจมีอ�ำนาจซักฟอกธาตุขันธ์ให้เป็นธาตุ ทบี่ รสิ ทุ ธ์ิไปตามส่วนของตน อัฐทิ า่ นจึงกลายเป็นพระธาตุได้ แตอ่ ัฐิของ สามญั ชนทว่ั ๆ ไป แมจ้ ะเปน็ ธาตดุ นิ เชน่ เดยี วกนั แตจ่ ติ ผเู้ ปน็ เจา้ ของเตม็ ไป ด้วยกเิ ลส และไมม่ ีอำ� นาจซกั ฟอกธาตุขันธใ์ ห้เปน็ ของบริสุทธิ์ได้ อฐั จิ ึง กลายเปน็ ธาตขุ นั ธท์ บ่ี รสิ ทุ ธไิ์ ปไมไ่ ด้ จำ� ตอ้ งเปน็ สามญั ธาตไุ ปตามจติ ของ คนมกี เิ ลสอยโู่ ดยดี หรอื จะเรยี กไปตามภมู ขิ องจติ ภมู ขิ องธาตวุ า่ อรยิ จติ

500

อรยิ เหตุ และสามญั จติ สามญั ธาตกุ ค็ งไมผ่ ดิ เพราะคณุ สมบตั ขิ องจติ ของ ธาตุระหว่างพระอรหันต์กับสามัญชนต่างกัน อัฐิจ�ำต้องต่างกันอยู่โดยดี ผสู้ ำ� เรจ็ เปน็ พระอรหนั ตข์ น้ึ มานน้ั ทกุ องคเ์ วลานพิ พานแลว้ อฐั ติ อ้ งกลาย เปน็ พระธาตดุ ว้ ยกนั ทงั้ ส้ินดังนี้

ข้อน้ีผูเ้ ขยี นยังไมแ่ นใ่ จวา่ จะเปน็ ไปไดอ้ ยา่ งนนั้ ทุกๆ องค์ เฉพาะจติ ท่านที่ส�ำเร็จพระอรหัตภูมิเป็นจิตท่ีบริสุทธ์ิเต็มภูมินับแต่ขณะที่ส�ำเร็จ ส่วนร่างกายท่ีเก่ียวโยงไปถึงอัฐิเวลาถูกเผาแล้วจะกลายเป็นพระธาตุได้ เชน่ เดยี วกนั ทกุ องคห์ รอื ไม่ ยงั เปน็ ปญั หาอยบู่ า้ ง ระหวา่ งกาลเวลาทบ่ี รรลุ ถึงวนั ท่านนพิ พานมีเวลาสนั้ ยาวต่างกนั องค์ท่บี รรลุแล้วมเี วลาทรงขนั ธ์ อยนู่ าน เวลานพิ พานแลว้ อฐั ยิ อ่ มมที างกลายเปน็ พระธาตไุ ดโ้ ดยไมม่ ปี ญั หา เพราะระยะเวลาท่ีทรงขันธ์อยู่ จิตท่ีบริสุทธิ์ก็ย่อมทรงขันธ์เช่นเดียว กับความสืบต่อแห่งชีวิตด้วยการท�ำงานของระบบต่างๆ ภายในร่างกาย มลี มหายใจ เปน็ ตน้ และมกี ารเขา้ สมาบตั ปิ ระจำ� อริ ยิ าบถ ซง่ึ เปน็ การซกั ฟอก ธาตุขันธ์ให้บริสุทธ์ิไปตามส่วนของตนโดยล�ำดับด้วยในขณะเดียวกัน เวลานิพพานแลว้ อัฐิจงึ กลายเปน็ พระธาตดุ ังทเี่ หน็ ๆ กันอยู่ ส่วนองค์ที่ บรรลแุ ลว้ มไิ ดท้ รงขนั ธ์อยู่นานเท่าทค่ี วร แล้วนิพพานไปเสียนัน้ อฐั ทิ า่ น จะกลายเป็นพระธาตุได้เหมือนพระอรหันต์ท้ังหลายท่ีมีโอกาสอยู่นาน หรอื ไม่ เป็นความไมส่ นิทใจ เพราะจิตไมม่ ีเวลาอย่กู ับธาตุขนั ธ์นาน และ มไิ ดซ้ กั ฟอกด้วยสมาธสิ มาบัติดังกล่าวมา

ท่านที่เปน็ ทนั ธาภญิ ญา คือรไู้ ด้ชา้ คอ่ ยเป็นค่อยไป เช่นบ�ำเพญ็ ไป ถงึ ขน้ั อนาคามผี ลแลว้ ตดิ อยนู่ านจนกวา่ จะกา้ วขนึ้ ขนั้ อรหตั ภมู ไิ ด้ คอื ตอ้ ง พิจารณาท่องเที่ยวไปมาอยู่ในระหว่างอรหัตมรรคกับอรหัตผลจนกว่า

501

จติ จะชำ� นชิ ำ� นาญและมกี ำ� ลงั เตม็ ทจ่ี งึ ผา่ นไปได้ ในขณะทก่ี ำ� ลงั พจิ ารณาอยู่ ในขน้ั อรหตั มรรคเพอื่ อรหตั ผล กเ็ ปน็ อบุ ายวธิ ซี กั ฟอกธาตขุ นั ธใ์ นตวั ดว้ ย เวลานพิ พานแลว้ อฐั อิ าจกลายเปน็ พระธาตไุ ด้ สว่ นทา่ นทเ่ี ปน็ ขปิ ปาภญิ ญา คอื รไู้ ดเ้ รว็ และนพิ พานไปเรว็ หลงั จากบรรลแุ ลว้ ทา่ นเหลา่ นไี้ มแ่ นใ่ จวา่ อฐั ิ จะกลายเปน็ พระธาตไุ ดห้ รือประการใด เพราะจิตท่ีบรสิ ุทธ์ไิ ม่มเี วลาทรง และซกั ฟอกธาตขุ นั ธอ์ ยนู่ านเทา่ ทคี่ วร สว่ นสามญั จติ ของสามญั ชนทวั่ ๆ ไปนนั้ ไมอ่ ยใู่ นขา่ ยทอ่ี ฐั จิ ะควรแปรเปน็ พระธาตไุ ดด้ ว้ ยกรณใี ดๆ จงึ ขอกลา่ วเทา่ ที่ กล่าวผ่านมาแล้ว

เฉพาะองคท์ า่ นพระอาจารยม์ น่ั นอกจากอฐั กิ ลายเปน็ พระธาตใุ หเ้ หน็ อยา่ งประจกั ษแ์ ลว้ พระธาตยุ งั แสดงความอศั จรรยใ์ หเ้ หน็ หลายอยา่ ง ดงั ท่ี เขยี นผา่ นมาบา้ งแลว้ วา่ ผมู้ พี ระธาตสุ ององคอ์ ธษิ ฐานขอใหเ้ ปน็ สามองค์ ก็เป็นสามองค์ได้ ผมู้ ีสององคอ์ ธิษฐานขอใหเ้ ปน็ สามองค์ แตก่ ลับเปน็ องคเ์ ดยี วกไ็ ด้ ซงึ่ ไมน่ า่ จะเปน็ ไปไดเ้ ลย แตไ่ ดเ้ ปน็ ไปเสยี แลว้ ผไู้ ดม้ าสององค์ จากท่านผู้มีเมตตาจิตมอบให้ พอตกเย็นมาเปดิ ดกู ลบั เปน็ สามองค์ก็ได้ รายนเ้ี ปน็ ความแปลก เพราะชว่ั ระยะเวลาเชา้ ไปถงึ เยน็ เทา่ นนั้ กม็ าเพมิ่ ได้

ทา่ นผนู้ เ้ี ปน็ ขา้ ราชการผใู้ หญม่ ศี รทั ธาในองคท์ า่ นพระอาจารยม์ น่ั มาก และเปน็ ผใู้ หค้ วามสะดวกตลอดการชว่ ยเหลอื ตา่ งๆ แทบทกุ กรณที เ่ี กยี่ ว กับงานท่านพระอาจารย์ม่ัน นับแต่วันแรกท่ีท่านไปถึงวัดสุทธาวาสจน ตลอดงาน พระผู้ใหญเ่ หน็ ใจและสงสารมาก เมอ่ื คณุ วนั นครราชสมี า ถวายพระธาตุท่านอาจารย์ม่ันมา ท่านจึงมอบให้ข้าราชการผู้น้ีตอนเช้า พอไดร้ บั พระธาตจุ ากทา่ นแลว้ ขณะนนั้ ไมม่ กี ลอ่ งหรอื ผอบจะใส่ มแี ตข่ วด ยานตั ถเ์ุ ปลา่ ตดิ กระเปา๋ เสอ้ื จงึ ไดเ้ อาใสพ่ ระธาตไุ ปพลาง ขณะเชญิ พระธาตุ

502

เข้ากระเป๋าเสอ้ื กป็ ดิ กระดมุ เสอื้ ด้วยดี ขวดกป็ ดิ ฝาด้วยดี กลัวพระธาตุ จะสญู หายไปเสยี

นับแต่ขณะทไี่ ด้พระธาตจุ ากมือพระผ้ใู หญแ่ ล้ว ปรากฏวา่ ใจมีความ ปีติยินดีเป็นล้นพ้น ลุกจากท่ีนั้นก็ไปท�ำงานเลยทีเดียว และเกิดความ อม่ิ เอบิ ตน้ื ตนั ใจตลอดวนั ประหนงึ่ จติ มไิ ดค้ ดิ เหนิ หา่ งจากพระธาตทุ ไ่ี ดร้ บั มานั้นเลยทั้งวัน พอเลิกจากงานไปถึงบ้านก็โฆษณาใหญ่ว่าตนได้ของ ประเสรฐิ มา ในชีวติ ไม่เคยมี คนในบ้านตา่ งกม็ ารุมดู จากนน้ั กเ็ อาผอบ มาใสพ่ ระธาตทุ นั ที พอเปดิ ฝาขวดออกเชญิ พระธาตทุ า่ นอาจารยม์ นั่ ออกมา โดยไมค่ าดฝนั วา่ จะพบความอศั จรรยท์ แี่ สดงออกมาจากพระธาตทุ า่ น คอื พอเชญิ พระธาตอุ อกจากขวดกไ็ ดเ้ หน็ กลายเปน็ สามองคใ์ นขณะนนั้ ยงิ่ เพมิ่ ความอศั จรรยใ์ นองคท์ า่ นและเกดิ ความปตี ใิ นพระธาตยุ งิ่ ขน้ึ แทบจะเหาะ ลอยไปท้ังตัว พร้อมกับประกาศความอัศจรรย์ของท่านอาจารย์มั่นว่า เป็นองค์พระอรหันต์ให้ภรรยาและลูกๆ ฟังในขณะนั้น อย่างไม่คิดว่า ใครจะหาว่าเปน็ บ้าเปน็ บออะไรเลย

ภรรยาและลกู ๆ ยงั ไมแ่ นใ่ จ เกรงวา่ ทรี่ บั พระธาตมุ าจะจำ� จำ� นวนผดิ ไป ฝา่ ยสามกี เ็ ถยี งใหญแ่ บบไม่ยอมฟังเสียงใครเลยว่า พระธาตุสององค์ที่ ทา่ นเจา้ คณุ …ใหม้ าเมอื่ เชา้ นจี้ ำ� ไมผ่ ดิ แน่ เพราะขณะรบั จากทา่ นกร็ บั ดว้ ย ความสนใจและเลอื่ มใสอยา่ งบอกไมถ่ กู แมอ้ ยทู่ ที่ ำ� งานกม็ ไิ ดล้ มื พระธาตุ ตลอดวันว่าไดพ้ ระธาตุมาสององค์ ได้พระธาตมุ าสององค์ จนกลายเป็น คำ� บรกิ รรมเหมอื นคนภาวนาแลว้ จะใหห้ ลงลมื ไดอ้ ยา่ งไร ถา้ ใครๆ ยงั ไมล่ งใจ วา่ เปน็ ความจรงิ พรงุ่ นเี้ ชา้ เราจะไปเรยี นถามทา่ นเจา้ คณุ ทา่ นใหม่ เหน็ จรงิ กนั พรุ่งนี้เอง

503

ฝา่ ยคนในบา้ นไมย่ อม อยากรใู้ นวนั นเี้ ดย๋ี วนี้ ขอใหไ้ ปเรยี นถามทา่ น เด๋ียวนี้ ตกลงตอ้ งไปเด๋ียวนัน้ และเรยี นถามว่า ทที่ ่านเมตตาให้พระธาตุ กระผมเมอ่ื เชา้ นก้ี อ่ี งค์ ทา่ นตอบวา่ ใหส้ ององค์ ทำ� ไมถามอยา่ งนนั้ พระธาตุ หายหรือ ข้าราชการผู้น้ันตอบด้วยความตื้นตันใจว่า พระธาตุมิได้หาย แตก่ ลบั ได้เพิ่มขึน้ อีกหนึง่ รวมเป็นสามองค์ด้วยกัน ทก่ี ระผมเรียนถาม กเ็ พราะเวลาไปถงึ บา้ นแลว้ เปดิ ฝาขวดออกดู เพอ่ื จะเชญิ พระธาตเุ ขา้ ในผอบ แทนทจ่ี ะมสี ององคต์ ามที่เข้าใจ แตก่ ลบั มสี ามองค์ เลยทำ� ให้กระผมเกิด ความดใี จจนตวั สน่ั รบี บอกกบั ลกู เมยี แตไ่ มม่ ใี ครเชอ่ื วา่ เปน็ ความจรงิ เลย เกรงวา่ ผมอาจจำ� ผดิ กไ็ ด้ เลยเคยี่ วเขญ็ ใหก้ ระผมมาเรยี นถามทา่ นอกี ครง้ั จงึ ไดม้ าตามคำ� เขาแล้วก็เป็นความจริง ยิง่ ทำ� ให้กระผมดีใจเสยี ใหญ่

วา่ อยา่ งไร? เชอ่ื หรอื ยงั ทนี ?้ี นเี่ ปน็ คำ� พดู กบั ภรรยาทมี่ าดว้ ย ภรรยา ยมิ้ แลว้ พดู วา่ กเ็ กรงจะจำ� ผดิ และหาเรอ่ื งไปโกหกกนั เลน่ กต็ อ้ งพดู อยา่ งนน้ั เป็นความจริงดังที่ว่าก็ต้องเช่ือ ใครจะฝืนความจริงเพ่ือประโยชน์อะไร ทา่ นเจา้ คณุ กย็ มิ้ และเลา่ ตามความจรงิ ใหภ้ รรยาฟงั วา่ อาตมาไดใ้ หค้ ณุ …. สององค์จริงเมื่อเช้านี้ เพราะเห็นว่าเป็นผู้มีคุณต่อท่านอาจารย์ม่ันมาก ตลอดพระสงฆ์ เรอ่ื ยมาแตว่ นั ทา่ นมรณภาพจนเสรจ็ งาน อาตมายงั จำ� ไมล่ มื เมอ่ื ไดพ้ ระธาตทุ า่ นอาจารยม์ นั่ มาจากคณุ วนั คมนามลู รา้ น ศริ ผิ ลพานชิ นครราชสมี า กเ็ ลยสงวนไว้ เพอ่ื นำ� มามอบใหเ้ ปน็ ทร่ี ะลกึ ซง่ึ เปน็ ของหายาก ในสมยั ปจั จบุ นั เพงิ่ จะพบอฐั กิ ลายเปน็ พระธาตเุ ฉพาะของทา่ นอาจารยม์ น่ั เพียงองค์เดียว นอกนั้นก็ได้ยินแต่ต�ำราท่านบอกไว้ ยังไม่เห็นตัวจริง ประจักษต์ า

504

บดั นไ้ี ดเ้ หน็ เป็นพยานหลกั ฐานอยา่ งแทจ้ รงิ เสียแล้ว กรณุ ารกั ษาไว้ ในทส่ี มควร เด๋ียวท่านหายไปก็ยง่ิ ล�ำบากมากกว่าเปน็ ความสุขใจในเวลา ทา่ นมาเพม่ิ ใหเ้ ปน็ ไหนๆ จะวา่ อาตมาไมบ่ อก เพราะพระธาตทุ า่ นอาจารยม์ น่ั เป็นของอศั จรรยม์ าก ยงิ่ ท่านมาไดง้ า่ ยๆ อย่างนี้ บทเวลาท่านไปเพราะ ความเคารพเราไม่พอยิง่ ไปไดง้ ่าย กรณุ าเชญิ ท่านไวท้ ีส่ ูง เคารพบชู าท่าน ทุกเช้าเย็น ท่านอาจบันดาลความเป็นสิริมงคลเกินคาดให้เวลาใดก็ได้ อาตมาเชอื่ ทา่ นรอ้ ยเปอรเ์ ซน็ ตว์ า่ เปน็ พระผบู้ รสิ ทุ ธมิ์ านานแลว้ แตไ่ มก่ ลา้ บอกใครไดง้ า่ ยๆ กลัวเขาจะหาว่าเป็นบา้ เพราะคนเรามีนิสยั เชือ่ ในสิ่ง ท่ีดีได้ยาก แต่เชื่อในสิ่งไม่ดีได้ง่าย จึงหาคนดีได้ยาก หาคนชั่วได้ง่าย แมใ้ นตัวเราเอง ถา้ สังเกตดกู พ็ อทราบได้วา่ ใจชอบคิดในทางชวั่ มากกวา่ ทางดเี ปน็ ประจำ� นสิ ยั พอทา่ นแนะจบลง ทา่ นขา้ ราชการกบั ภรรยากก็ ราบ นมสั การลาทา่ นกลบั ดว้ ยความชน่ื บานหรรษาอยา่ งบอกไมถ่ กู ทงั้ สองคน

น่ีแลพระธาตุท่านพระอาจารย์มั่นเป็นความแปลกและอัศจรรย์ ดงั ทนี่ ำ� มาลง เพอ่ื ทา่ นผอู้ า่ นไดพ้ จิ ารณาหามลู เหตแุ หง่ ความอศั จรรยข์ อง พระธาตุดังกล่าวนี้ต่อไป ส่วนการค้นหาหลักฐานและเหตุผลมาพิสูจน์ ดงั ทโ่ี ลกใชก้ นั นัน้ รู้สึกจะพิสจู น์ได้ยาก อาจมองไม่เหน็ รอ่ งรอยเลยกไ็ ด้ ส�ำหรับเร่ืองท�ำนองน้ี เพราะสดุ วิสัยส�ำหรบั พวกเราทมี่ กี เิ ลสจะตามรไู้ ด้ เพยี งแตธ่ าตดุ นิ ทอี่ ยใู่ นสว่ นรา่ งกายทา่ นผบู้ รสิ ทุ ธก์ิ บั อยใู่ นตวั เรา กแ็ สดง ให้เห็นเป็นของแปลกต่างกันอย่างชัดเจนอยู่แล้ว ว่าอัฐิท่านกลายเป็น พระธาตไุ ดอ้ ยา่ งประจกั ษต์ า สว่ นรา่ งกายของพวกเราทม่ี กี เิ ลส แมม้ จี ำ� นวน ลา้ นๆ คน ไมม่ รี ายใดสามารถเปน็ ไปไดอ้ ยา่ งทา่ น จงึ ควรเรยี กไดว้ า่ ทา่ นเปน็ บคุ คลทแี่ ปลกตา่ งจากมนษุ ยท์ งั้ หลายอยมู่ ากจนเทยี บกนั ไมไ่ ด้ ยง่ิ ใจทบ่ี รสิ ทุ ธ์ิ

505

ดว้ ยแลว้ ยง่ิ เพม่ิ ความประเสรฐิ และอศั จรรยจ์ นไมม่ นี มิ ติ เครอื่ งหมายใดๆ มาเทียบไดเ้ ลย เป็นจิตท่โี ลกท้งั หลายควรเคารพบชู าจริงๆ จงึ ตอ้ งยอม บชู ากนั

ตามปกตโิ ลกผมู้ คี วามหยง่ิ ในชาตขิ องตนประจำ� นสิ ยั ไมค่ อ่ ยยอมลง กับใครหรืออะไรได้อย่างง่ายๆ แต่เมื่อหาทางคัดค้านไม่ได้ก็จ�ำต้องยอม เพราะอยากเป็นคนดี เมื่อเห็นของดีแล้วไม่ยอมรับก็รู้สึกจะโง่เกินไป ไม่สมภูมิเป็นมนุษย์ ดังท่านอาจารย์ม่ันเป็นต้นในสมัยปัจจุบัน บรรดา พระเณรเถรชที เี่ ขา้ ไปถงึ องคท์ า่ นจรงิ ๆ และไดร้ บั คำ� แนะนำ� สงั่ สอนจากทา่ น จนเป็นที่เข้าใจแล้ว เทา่ ทสี่ งั เกตมา ยงั ไมเ่ คยเหน็ รายใดจะดอ้ื ดา้ นหาญ สทู้ า่ นดว้ ยทฐิ มิ านะ ไมย่ อมลงกบั ความจรงิ ทสี่ งั่ สอนเลย เหน็ แตย่ อมรบั แบบเอาชีวิตเข้าแลกไดโ้ ดยไม่อาลยั เสยี ดายเลย

ถา้ เทยี บความจรงิ ทที่ า่ นแสดงออกมาจากความบรสิ ทุ ธิ์ ทรี่ จู้ รงิ เหน็ จรงิ ในธรรมทกุ ขน้ั แตล่ ะบทละบาทนน้ั มคี วามถกู ตอ้ งตายตวั อยา่ งทคี่ า้ นไมไ่ ด้ เชน่ เดยี วกบั ผบู้ วก ลบ คณู หาร ดว้ ยความรสู้ กึ ทถ่ี กู ตอ้ งเชย่ี วชาญนนั่ เอง เช่น หน่ึงบวกกับหนึ่งต้องเป็นสอง สองบวกสองต้องเป็นส่ี เป็นต้น จะบวกลบคูณหารทวีข้ึนไปสูงเท่าไร ก็มีแต่ความถูกต้องแม่นย�ำตาม หลกั วชิ า ไมม่ ผี ดิ พลาดคลาดเคลอื่ น จะเปน็ เดก็ หรอื ผใู้ หญบ่ วกลบคณู หาร เม่ือถกู ตอ้ งตามหลักแล้วก็ไมม่ ีใครคัดค้านได้วา่ ผิดวสิ ยั

ผทู้ มี่ าคดั คา้ นหลกั ทถ่ี กู ตอ้ งแลว้ แมม้ จี ำ� นวนมากคนเพยี งไร กเ็ ทา่ กบั มาประกาศขายความโงไ่ มเ่ ปน็ ทา่ ของตนใหค้ วามจรงิ หวั เราะเปลา่ ๆ ฉะนนั้ กฎความถกู ตอ้ งจงึ ไมน่ ยิ มวา่ ควรมอี ยใู่ นเดก็ หรอื ผใู้ หญ่ หญงิ ชาย หรอื ชาติ

506

ชนั้ วรรณะใดๆ ทงั้ สนิ้ ยอ่ มเปน็ ทยี่ อมรบั กนั อยา่ งหาทค่ี า้ นไมไ่ ด้ หลกั ธรรม ทพ่ี ระพทุ ธเจา้ และสาวกผรู้ ถู้ งึ มลู ความจรงิ โดยตลอดทวั่ ถงึ แลว้ ยอ่ มสามารถ แสดงออกไดอ้ ยา่ งเตม็ ภมู ิ โดยไมม่ คี วามสะทกสะทา้ นหวนั่ ไหวใดๆ ทง้ั สนิ้

ทา่ นอาจารยม์ นั่ เปน็ ผทู้ รงความรจู้ รงิ เหน็ จรงิ เตม็ ภมู นิ สิ ยั วาสนาทา่ น ผู้หนึ่ง ดังน้ันบรรดาความรู้ที่เก่ียวกับภายในภายนอกท่ีท่านรู้เห็นอย่าง ประจกั ษใ์ จ จงึ สามารถแสดงออกไดอ้ ยา่ งเตม็ ภมู ิ โดยไมส่ นใจวา่ ใครจะเชอื่ หรือไม่เชอื่ จะตำ� หนิหรอื ชมเชยใดๆ เลย ภูมิธรรมภายใน นบั แตศ่ ลี สมาธิ ปญั ญาทกุ ขนั้ ตลอดถงึ วมิ ตุ ตพิ ระนพิ พาน ทา่ นแสดงออกมาอยา่ ง อาจหาญและเปิดเผย ตามแต่ผู้ฟังจะยึดได้น้อยมากเท่าที่ก�ำลังความ สามารถจะอำ� นวย ธรรมภายนอกเกย่ี วกับเหตกุ ารณ์ตา่ งๆ ไม่มีประมาณ เชน่ เทวบุตร เทวธิดา อนิ ทร์ พรหม ภตู ผีชนิดตา่ งๆ ท่านกแ็ สดงอยา่ ง องอาจกลา้ หาญ สดุ แตผ่ ฟู้ งั จะพจิ ารณาตามไดห้ รอื ไมเ่ พยี งไร ผมู้ นี สิ ยั ไป ในแนวเดยี วกบั ทา่ น ยอ่ มไดร้ บั ความเพม่ิ พนู สง่ เสรมิ หรอื ตอ่ เตมิ ความรู้ ทมี่ อี ยแู่ ลว้ ใหก้ วา้ งขวางและแมน่ ยำ� มากขน้ึ ทำ� ใหร้ วู้ ธิ ปี ฏบิ ตั ติ อ่ วชิ าแขนง นน้ั ๆ ดีย่ิงขึ้น และปฏิบัติต่อเหตุการณ์ตา่ งๆ ได้สะดวกและทันทว่ งที

ลกู ศษิ ยท์ า่ นบางองคพ์ อเปน็ พยานทา่ นไดบ้ า้ งในบางกรณี เกย่ี วกบั เหตกุ ารณภ์ ายนอก แมไ้ มแ่ ตกฉานเหมอื นทา่ น จะขอยกตวั อยา่ งพอเปน็ หลกั พจิ ารณา เชน่ บางคนื ทา่ นตอ้ นรบั แขกเทวดาหลายพวกจนดึก ไมไ่ ด้ พกั ผอ่ น รสู้ กึ เหนอื่ ยมากตอ้ งการพกั ผอ่ นรา่ งกายบา้ ง แขกเทพฯ พวกหนง่ึ พากนั มาขอฟงั ธรรมทา่ นอกี ตอนดกึ ๆ ทา่ นจำ� ตอ้ งบอกวา่ คนื นเ้ี หนอ่ื ยมากแลว้ เพราะรบั แขกเทพฯ มาสองสามพวกแลว้ จะขอพกั ผอ่ น ขอเชญิ พากนั ไป ฟงั ธรรมทา่ นองคน์ นั้ พอทา่ นบอกแลว้ พวกเทพฯ กพ็ ากนั ไปหาพระองคน์ น้ั

507

และบอกกบั ทา่ นตามทท่ี า่ นอาจารยส์ ง่ั มา ทา่ นกแ็ สดงธรรมใหฟ้ งั พอสมควร แล้วพากันกลบั

พอตนื่ เชา้ พระองคน์ นั้ กม็ าเรยี นถามทา่ นอาจารยว์ า่ คนื นพ้ี วกเทวดา ไปหากระผม โดยบอกวา่ กอ่ นจะมาหาทา่ นทนี่ กี่ ไ็ ดพ้ ากนั ไปหาทา่ นอาจารย์ ขอฟังธรรมท่าน แต่ท่านบอกว่าท่านรับแขกหลายพวกแล้วรู้สึกเหน่ือย มากจะขอพักผอ่ น ขอใหพ้ ากันไปฟงั ธรรมท่านองค์นั้น จงึ ไดพ้ ากนั มาหา ทา่ นดงั น้ี ขอ้ ทพ่ี วกเทวดาพดู อยา่ งนน้ั เปน็ ความจรงิ ประการใด หรอื เขามา โกหกหาอบุ ายฟงั เทศนก์ ระผมตา่ งหาก กระผมไมแ่ นใ่ จ จงึ ไดม้ าเรยี นถาม ทา่ นอาจารยอ์ กี ครง้ั หนง่ึ ดงั น้ี ทา่ นอาจารยต์ อบวา่ กผ็ มรบั แขกตง้ั สองสามพวก เหนอ่ื ยจะตายอยแู่ ลว้ พอพวกหลงั มา ผมกไ็ ดบ้ อกเขามาหาทา่ นจรงิ ๆ ดงั ท่ี เขาอ้างนน่ั แล

พวกเทวดาไม่โกหกพระหรอก ไม่เหมือนมนุษย์ที่แสนปลิ้นปล้อน หลอกลวงไวใ้ จไมค่ อ่ ยได้ เขาวา่ จะมาตอ้ งมา และวา่ จะมาเวลาเทา่ ไรตอ้ งมา เวลาเทา่ นน้ั ผมเคยสมาคมกบั พวกเทพฯ ทงั้ เบอ้ื งบนเบอ้ื งลา่ งมานานแลว้ ไมเ่ คยเหน็ เขาพดู โกหกหลอกลวงเลย เขามสี ตั ยม์ ศี ลี ยง่ิ กวา่ มนษุ ยห์ ลายเทา่ ความสตั ยเ์ ขาถอื กนั มาก เปน็ ชวี ติ จติ ใจจรงิ ๆ ไปทำ� เคลอ่ื นใหเ้ ขาเหน็ ไมไ่ ด้ เขาตำ� หนเิ อามากมาย ถา้ แกไ้ มม่ เี หตผุ ลความจรงิ เขาไมย่ อมนบั ถอื เอาเลย ผมเคยถูกเขาต�ำหนิเอาบ้างเหมือนกัน แต่เรามิได้มีเจตนาจะโกหกเขา เปน็ แตเ่ วลาเขา้ สมาธเิ พลนิ ไปในบางครงั้ ซง่ึ เลยภมู ริ บั แขก กวา่ จะถอนจติ ข้ึนมาเขามารออยูน่ านแลว้ เมือ่ ถูกเขาตอ่ วา่ เรากบ็ อกตามเหตผุ ลวา่ เรา พักจติ มิไดถ้ อนข้ึนมาตามเวลา ซ่งึ เขาก็ยอมรบั

508

บางครงั้ ผมกว็ า่ ใหเ้ ขาเหมอื นกนั วา่ พระเพียงองค์เดียว ส่วนเทวดา เปน็ หมน่ื ๆ แสนๆ ทง้ั เบอื้ งบนเบอื้ งลา่ ง ตลอดรกุ ขเทวดา ซง่ึ มาจากทตี่ า่ งๆ ต่างก็มุ่งมาหาแต่พระองค์เดียว ใครจะไปชนะต้อนรับได้ทุกหมู่ทุกพวก และตรงตามเวล�่ำเวลาเอาเสียทุกคร้งั บางทสี ขุ ภาพไม่ค่อยดยี งั ตอ้ งทน รับแขก ซึ่งมีความลำ� บากมากเพยี งไร ควรเห็นใจบ้าง บางทีก�ำลังเขา้ พกั ในสมาธอิ ยา่ งเพลนิ ๆ กต็ อ้ งถอนออกมารบั แขก เคลอ่ื นเวลาบา้ งเลก็ นอ้ ย ก็คอยแต่จะต�ำหนิติเตียนกัน ถ้าเป็นเช่นนี้เด๋ียวจะอยู่คนเดียวให้สบาย ไมต่ อ้ งตอ้ นรบั ใครใหเ้ สยี เวลาและเหนอื่ ยเปลา่ จะวา่ อยา่ งไร เมอ่ื ถกู เราวา่ ดังนั้น เขายอมรับสารภาพและขอโทษทันที ถ้าเป็นพวกที่เคยมาและ รเู้ รอื่ งของเราดแี ลว้ แมจ้ ะเคลอื่ นคลาดไปบา้ งไมต่ รงตามเวลา เขากไ็ มถ่ อื สา หาโทษกับเราเอางา่ ยๆ นัก นอกจากพวกที่ไมเ่ คยมาอาจมอี ยบู่ า้ ง เพราะ เขาถอื สตั ยม์ ากตามนสิ ยั ของพวกเทพฯ ทงั้ หลาย ไมว่ า่ เบอ้ื งบนเบอ้ื งลา่ ง ตลอดรกุ ขเทวดาเหมือนกันหมด

บางครง้ั เขากก็ ลวั เปน็ บาปเหมอื นกนั ทไ่ี ดท้ ราบวา่ เรากำ� ลงั เขา้ พกั ใน สมาธิ ตอ้ งถอนออกมาตอ้ นรบั เขา ซง่ึ พอดถี กู เขาวา่ ใหเ้ ราวา่ ไมร่ กั ษาสตั ย์ บางครงั้ เรากว็ า่ ใหเ้ ขาหนกั บา้ งเหมอื นกนั วา่ เรารกั ษาสตั ยย์ งิ่ กวา่ ชวี ติ อยา่ วา่ แตเ่ พียงยิ่งกวา่ เทวดาเลย แต่ที่ไมไ่ ดอ้ อกมาตามเวลาเพราะความจ�ำเป็น ในธรรม ซงึ่ มนี �้ำหนกั มากกว่าการรกั ษาสตั ย์เพอ่ื เทวดาเป็นไหนๆ เทวดา ทงั้ หลายในข้นั ตา่ งๆ บนสวรรคแ์ ละพรหมโลกทุกชนั้ แมจ้ ะมีกายทพิ ย์ อันละเอียดกว่ากายอาตมาที่เป็นมนุษย์ก็ตาม แต่ธรรมและจิตตลอด ความสัตย์ท่อี าตมารักษาอยู่เป็นประจำ� มคี วามละเอยี ดสขุ ุมย่ิงกวา่ กาย กว่าจิตและกว่าความสัตย์ของเทวดา อินทร์ พรหมเป็นร้อยเท่าพันทวี แตม่ ใิ ชฐ่ านะทอี่ าตมาจะมาพดู พลา่ มๆ แบบคนไมม่ สี ตอิ ยกู่ บั ตวั ทพี่ ดู ขณะนี้

509

กเ็ พ่อื ท่านท้งั หลายไดท้ ราบและระลกึ กันเสียบา้ งว่า ธรรมทีอ่ าตมารักษา อยมู่ คี วามสำ� คญั เพยี งไร จะไดไ้ มพ่ ากนั คดิ อะไรๆ ตำ� หนอิ อกมาเอางา่ ยๆ โดยไมพ่ ิจารณาให้รอบคอบเสยี กอ่ น

พอแสดงความจริงทีจ่ �ำเปน็ ตอ่ หนา้ ทข่ี องเราใหเ้ ขาทราบ ตา่ งพากัน เห็นโทษกลัวเป็นบาปกันมากมายและพากันขอขมาโทษ เราก็บอกว่า เรามไิ ดถ้ อื โทษอะไรกบั ใครๆ ทงั้ สนิ้ ไมว่ า่ สตั ว์ มนษุ ย์ เทวดา อนิ ทร์ พรหม นาค ครุฑท่ีมีอยู่ทั่วไตรโลกธาตุ เราถือธรรมท่ีเต็มไปด้วยความเมตตา สงสารโลก ปราศจากความรษิ ยาเบียดเบยี นใดๆ ทงั้ มวล อิริยาบถท้ังส่ี เราอยดู่ ว้ ยธรรมคอื ความบรสิ ทุ ธใิ์ จลว้ นๆ พวกเทวดาทงั้ หลายมเี พยี งเจตนา ทีเ่ ปน็ กศุ ลและค�ำสตั ย์เทา่ นั้น ยงั ไม่เปน็ ของอัศจรรย์เท่าทค่ี วรจะชมเชย สว่ นพระพุทธเจ้าและสาวกทา่ นมที ัง้ ความสตั ยท์ ่ีบริสุทธิ์ ธรรมท่ีบริสุทธ์ิ และพระทยั ทบ่ี รสิ ทุ ธล์ิ ว้ นๆ โดยไมม่ สี ตั วโ์ ลกแมร้ ายหนงึ่ จะสามารถลว่ งรไู้ ด้ ว่าเป็นธรรมชาติท่ีประเสรฐิ และอัศจรรย์เพยี งไร

ความสัตย์ท่ีเทวดาทั้งหลายยึดถือกันอยู่ประจ�ำนิสัยนั้น เป็นเพียง ความสัตย์ท่ีอยู่ในข่ายแห่งสมมุติ ซ่ึงใครๆ ก็พอทราบและรักษากันได้ ไม่สดุ วิสัย ส่วนความสตั ย์ ธรรม พระทัยและใจท่บี ริสทุ ธ์ิ อันเป็นสมบัติ ของพระองคแ์ ละพระสาวกโดยเฉพาะนน้ั ไมม่ ใี ครสามารถรแู้ ละรกั ษาได้ ถ้ายังไม่ก้าวเข้าถึงภูมินั้นก่อน ส่วนอาตมาจะมีภูมิความสัตย์ชั้นวิมุตติ ธรรมเพยี งไรหรอื ไมน่ นั้ ไมใ่ ชฐ่ านะทมี่ าอวดอา้ งกนั แตโ่ ปรดทราบเพยี งวา่ ศีลสัตย์ท่ีเทวดารักษากันอยู่เวลานี้ มิใช่ศีลสัตย์ท่ีวิเศษเหมือนของ พระพุทธเจา้ และสาวกท่าน

510

ท่านว่าให้พวกเทวดาขนาดน้ี ถ้าเป็นมนุษย์เราน่ากลัวจะเกิดความ อบั อายหรอื อะไรๆ กย็ ากจะเดาได้ แตท่ ราบวา่ เทวดาทงั้ หลายยนิ ดฟี งั ธรรม ท่านด้วยความสนใจจดจ่อ และเห็นโทษของตนท่ีได้ล่วงเกินท่านด้วย ความรเู้ ท่าไมถ่ งึ การณ์ จากน้นั ต่างทำ� ความระมดั ระวังดว้ ยจติ ใจยนิ ดเี ป็น อยา่ งยิ่ง มไิ ด้คิดถือโกรธถอื โทษในทา่ นเลยแมแ้ ต่น้อย ทา่ นว่าน่าชมเชย เป็นอย่างยง่ิ สมกบั เขาเปน็ สตั วช์ น้ั สูงจริงๆ ดงั นี้

ที่ยกตัวอย่างมาเพียงย่อๆ น้ีพอเป็นแนวแห่งความคิดเกี่ยวกับ สงิ่ ลกึ ลบั ทไ่ี มส่ ามารถมองเหน็ ดว้ ยตาเนอื้ ถา้ มผี รู้ เู้ หน็ ดว้ ย สง่ิ นน้ั ๆ กม็ ไิ ด้ ลกึ ลบั เสมอไป เชน่ เดยี วกบั ธรรมาภสิ มยั ถา้ ทรงรไู้ ดเ้ ฉพาะพระพทุ ธเจา้ พระองค์เดียวก็ราวกับเป็นธรรมลึกลับ ต่อเม่ือสาวกรู้ตามเห็นตามได้ ธรรมนน้ั กห็ มดความลกึ ลับ แมส้ ิ่งลึกลับดังกล่าวก็เชน่ เดียวกนั ผทู้ ่ีเห็น จำ� นวนมากนอ้ ยเหลา่ นน้ั ไมถ่ อื เปน็ ของลกึ ลบั แตผ่ ทู้ ย่ี งั ไมร่ ไู้ มเ่ หน็ จำ� นวน เท่าไร ก็ยังเป็นของลึกลับส�ำหรับคนจ�ำนวนน้ัน ส่ิงลึกลับทางภายใน ท่ีเคยเด่นในครั้งพุทธกาล มีพระพุทธเจ้าและสาวกเป็นผู้ได้เห็นได้ชม และส่ิงลกึ ลบั ทางภายนอกกม็ ีพระพทุ ธเจา้ และสาวก ผมู้ นี สิ ยั ในทางนั้น ไดเ้ หน็ ได้ชมเทา่ นนั้ มิไดส้ าธารณะแก่ผู้ท่ียังไม่รไู้ ม่เห็น ส่วนคนในคร้งั พุทธกาลท่ีไม่สามารถอาจรู้เห็นได้ อย่างมากก็เพียงได้ยินค�ำบอกเล่า แล้วน�ำมาพิจารณาพอให้เกิดผลเป็นความเช่ือตาม และเกิดความสุขใจ ท้งั ทีต่ นยงั ไม่ได้รู้เหน็ และพอให้เกดิ ผล ไมเ่ ชอ่ื วา่ มวี า่ เป็นได้ กลายเปน็ ความขดั ขอ้ งแกต่ วั อยเู่ พยี งเทา่ นน้ั คงไมม่ สี ว่ นตามพระพทุ ธเจา้ และสาวก ทา่ นผไู้ ดช้ มอยา่ งเตม็ พระทัยและเต็มใจ

511

แม้สมัยนี้ก็คงเป็นท�ำนองเดียวกัน สิ่งลึกลับท้ังภายในภายนอกจะ เปดิ เผยขนึ้ มาไดเ้ ฉพาะทค่ี วรแกว่ สิ ยั เทา่ นนั้ ผไู้ มส่ ามารถกค็ งไดย้ นิ แตค่ ำ� บอกเลา่ แมจ้ ะเชอ่ื ตามหรอื จะไมเ่ ชอื่ ตลอดการคดั คา้ น กค็ งไมม่ เี หตผุ ล มายนื ยนั เหมอื นดา้ นวตั ถุ ผเู้ ขยี นกน็ บั เขา้ ในจำ� นวนผคู้ ดิ อยากจะคดั คา้ น แต่ไม่มีเหตุผลเพียงพอเฉยๆ จึงยอมหมกตัวน่ิงอยู่ และเขียนประวัติ ทา่ นอาจารยม์ นั่ ดว้ ยความบอกเลา่ จากทา่ น และจากบรรดาครบู าอาจารย์ ทเ่ี คยอยกู่ บั ทา่ นมาในยคุ นน้ั ๆ แบบเถรตรง ไมม่ คี วามแยบคายภายในตวั บา้ งเลย แตค่ วามเชอ่ื เลอ่ื มใสในองคท์ า่ นอาจารยม์ น่ั นนั้ ยอมรบั วา่ มมี าก เต็มหวั ใจ

ถา้ มที า่ นผเู้ คารพเชอื่ ถอื ไดม้ าพดู อะไรเปน็ ความจรงิ ตามทพี่ ดู มาบอกวา่ ใหท้ า่ นตายแทนทา่ นอาจารยม์ นั่ เสยี แลว้ จะอาราธนานมิ นตท์ า่ นอาจารยม์ น่ั ที่มรณภาพไปแล้วกลับมาส่ังสอนโลก ซึ่งจะเกิดประโยชน์แก่โลกอย่าง มากมาย อยา่ งทา่ นนอ้ี ยไู่ ปทำ� ไม ทำ� ประโยชนแ์ กโ่ ลกกไ็ มไ่ ด้ เพราะความ โง่เขลาตวั เดียวน่ีเองท่ีเด่นท่สี ดุ ส�ำหรับท่าน ทา่ นจะยินดีตายเพอื่ เปลยี่ น ท่านอาจารย์มั่นกลับมาส่ังสอนโลกไหม เพียงเท่านี้ ผู้เขียนจะถามเอา ความจรงิ ทนั ทวี า่ ทา่ นอาจารยม์ นั่ จะฟน้ื กลบั มาถา้ ผมตายแทนทา่ นแลว้ จรงิ หรอื ถ้าท่านผนู้ ้นั ตอบเป็นความจรงิ วา่ จรงิ เท่านี้ จะรบั ทนั ที และรีบใหจ้ ดั การ เพือ่ ตายในเดย๋ี วนน้ั โดยไมต่ อ้ งขอรอเวลาแมว้ ินาทหี นง่ึ เลย

เพราะคิดหนักใจกบั ความโงข่ องตนอยู่มากตลอดมา แมไ้ ม่มีใครมา บอกให้ตายแทนท่านอาจารย์ม่ัน ท้ังรู้สึกเสียใจขณะท่ีเขียนประวัติท่าน วา่ ตนโงม่ าก แมท้ า่ นเมตตาเลา่ อะไรใหฟ้ งั ทกุ แงท่ กุ มมุ กจ็ ำ� ไมไ่ ดเ้ ทา่ ทคี่ วร ปลอ่ ยใหห้ ลุดหายไปเสยี มากต่อมาก เพราะภาชนะรบั ไมด่ ี ท่ไี ด้มาเขยี น

512

บา้ งนต้ี อ้ งขออภยั ถา้ เทยี บกบั สตั วก์ ค็ งเปน็ ชนดิ สตั วเ์ ลยี้ งทไ่ี ลไ่ มย่ อมหนี นัน่ แล จึงยังตกคา้ งอยใู่ นความจำ� พอไดม้ าลงใหท้ ่านผู้อา่ นคันฟนั ไปด้วย เพราะอ่านไมถ่ ึงใจ

ความลกึ ลบั ดงั กลา่ วมา ในสมยั ปจั จบุ นั กม็ ที า่ นอาจารยม์ น่ั เปน็ ผรู้ อื้ ฟน้ื ขึ้นมาพอเป็นขวัญใจบ้าง ส�ำหรับผู้ได้ยินจากท่านเมตตาท้ังภายในและ ภายนอก แตผ่ รู้ ตู้ ามทา่ นบา้ งในความลลี้ บั ทงั้ สองนรี้ สู้ กึ มนี อ้ ยมาก แทบไมม่ ี ประหนง่ึ ทา่ นปฏบิ ตั เิ พอื่ ความตาดใี จสวา่ ง เราปฏบิ ตั เิ พอื่ ความตาบอดใจมดื จงึ ไมย่ อมรเู้ หน็ อยา่ งทา่ นบา้ ง พอไดเ้ ขยี นแทรกลงในประวตั ทิ า่ นแมไ้ มม่ าก นี้เปน็ ความจนใจของผ้เู ขียนเอง มไิ ดส้ นใจบรรดาความรคู้ วามเห็นต่างๆ ทท่ี า่ นแสดงใหฟ้ งั อยา่ งฉะฉาน เทา่ ทส่ี งั เกตดลู กู ศษิ ยท์ พ่ี อรเู้ หน็ ตามทา่ น ไดบ้ า้ ง ทงั้ ภายในภายนอก ไมป่ รากฏวา่ มรี ายใดคดั คา้ นทา่ นเลย แตก่ ลบั เป็นพยานแก่กันและกันในสิ่งที่ตนรู้เห็นและสิ่งท่ีท่านรู้เห็นเป็นอย่างดี อีกด้วย พอแสดงให้ผู้ไม่รู้ไม่เห็นมีเงื่อนพิจารณาว่าอาจมีมูลความจริง ในสิ่งท่ีตนไม่รู้ไม่เห็นน้ันๆ ได้เช่นเดียวกับพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ธรรม และทรงรเู้ หน็ เหตกุ ารณต์ า่ งๆ เปน็ พระองคแ์ รก แลว้ มพี ระสาวกรเู้ หน็ ตาม และกลายเป็นพยานของกันและกัน ฉะน้ัน เร่อื งทีท่ ่านอาจารยม์ ่ันรู้เหน็ ทง้ั ภายในภายนอกในสมยั ปจั จุบัน กม็ ิได้เป็นของลล้ี ับเสมอไป เมอื่ ยงั มี ผู้รเู้ ห็นตามท่านไดอ้ ยู่ แมไ้ ม่มากราย

ยังมีเรื่องลี้ลับอีกเร่ืองหน่ึงซึ่งน่าพิจารณาและน่าสงสัยอยู่มาก ในสมาคมแห่งบุคคลผู้ชอบเป็นคนนักสงสัยเช่นพวกเรา คือเม่ือท่าน พกั อยวู่ ดั บา้ นหนองผอื นาใน มอี บุ าสกิ านงุ่ ขาวหม่ ขาวคนหนงึ่ ซงึ่ มคี วาม เคารพเล่ือมใสท่านมาก มาเล่าเร่ืองของตัวเองถวายท่านว่า ขณะแก

513

น่ังภาวนาตลอดกลางคืนยามดึกสงัด พอจิตรวมสงบลงสนิทไม่แสดง กริ ยิ าใดๆ ปรากฏแตค่ วามสงบนงิ่ อยเู่ ฉพาะในเวลานน้ั ทำ� ใหแ้ กเหน็ กระแส จิตอันละเอียดยิ่งออกจากดวงจิตเป็นสายใยยาวเหยียด ออกนอกกาย นอกใจไปสภู่ ายนอก แกเกดิ ความสงสยั จงึ ตามดวู า่ กระแสจติ นมี้ นั ขโมย สง่ ออกไปแตเ่ มอื่ ไร สง่ ไปเกย่ี วขอ้ งกบั อะไรและสง่ ไปเพอื่ อะไร พอแกตาม กระแสจติ อนั ละเอยี ดนนั้ ไป กท็ ราบชดั ในขณะนนั้ วา่ กระแสจติ แกเรมิ่ ไป จบั จองทเี่ กดิ เอาไวใ้ นทอ้ งหลานสาวคนหนง่ึ ในหมบู่ า้ นเดยี วกนั ทง้ั ทตี่ วั แก ยังไมต่ าย

พอทราบเชน่ นนั้ กเ็ กิดความตกใจ เลยต้องยอ้ นจิตกลับคนื มาท่เี ดมิ และถอนจติ ออกจากสมาธิ แกใจไมด่ เี ลยนบั แตข่ ณะนน้ั มา และในระยะ เดียวกัน หลานสาวคนน้ันก็เริ่มตั้งครรภ์มาได้หน่ึงเดือนแล้วเช่นกัน พอตนื่ เช้าวนั หลงั แกรีบออกมาวดั เลา่ เรอื่ งนนั้ ถวายท่านอาจารยฟ์ งั ดงั ที่ กลา่ วมา ขณะน้นั ผู้เขยี นกบั พระเณรหลายท่านกน็ ่ังฟงั อยดู่ ว้ ย ตา่ งองค์ ต่างงงไปตามๆ กัน ขณะท่ไี ดฟ้ ังแกเล่าเรือ่ งแปลกๆ ที่ไม่เคยได้ยินไดฟ้ ัง มากอ่ น เฉพาะผเู้ ขยี นสนใจอยากทราบเรอื่ งนเ้ี ปน็ พเิ ศษอยอู่ ยา่ งกระหาย ว่าท่านอาจารย์ทา่ นจะอธบิ ายไปในแงใ่ ดบา้ งใหห้ ญงิ แกค่ นนนั้ ฟงั ขณะนน้ั ทกุ คนนงั่ นง่ิ เงยี บราวกบั ไมห่ ายใจ นยั นต์ าตา่ งชำ� เลอื งดทู ่านอาจารย์ด้วย ความกระหายอยากฟงั ในเด๋ยี วนนั้ ๆ

ท่านอาจารยเ์ องนง่ั หลบั ตานง่ิ เงยี บอยู่ครหู่ น่งึ ราว ๒ นาที แลว้ จึง อธบิ ายธรรมใหแ้ กโ่ ยมแกค่ นนน้ั ฟังว่า “เมื่อจติ รวมสงบลง คราวต่อไป ใหโ้ ยมตรวจดกู ระแสจติ ดว้ ยดี ถา้ เหน็ กระแสนนั้ สง่ ออกไปภายนอกดงั ท่ี โยมวา่ นน้ั ใหก้ ำ� หนดจติ ตดั กระแสนนั้ ใหข้ าดดว้ ยปญั ญา ถา้ กำ� หนดตดั ขาด

514

ด้วยปัญญาจริงๆ ต่อไปกระแสนั้นจะไม่ปรากฏ แต่โยมต้องก�ำหนดดู กระแสจติ นัน้ ด้วยดีและก�ำหนดตดั ใหข้ าดด้วยปัญญาจรงิ ๆ อย่าทำ� เพยี ง สักแต่ว่าท�ำเท่าน้ัน เดี๋ยวเวลาตายโยมจะไปเกิดในท้องหลานสาวนะจะ หาวา่ อาตมาไมบ่ อก น่ีคอื คำ� บอกของอาตมา จงจำ� ให้ดี ถ้าโยมกำ� หนด ตัดกระแสจิตน้ันไม่ขาด เวลาโยมตายต้องไปเกิดในท้องหลานสาวแน่ๆ ไมส่ งสัย”

พอแกไดร้ บั คำ� แนะนำ� จากทา่ น แลว้ กก็ ลบั บา้ น ราวสองวนั แกกลบั มา หาทา่ นอกี ดว้ ยสหี นา้ ยมิ้ แยม้ แจม่ ใสมาก แมค้ นไมม่ ญี าณ ยงั ทราบไดจ้ าก สหี นา้ ของแกทบ่ี ง่ บอกอยา่ งชดั เจนวา่ สมประสงคแ์ ลว้ พอแกนง่ั ลงเทา่ นนั้ ทา่ นอาจารยก์ ถ็ ามเปน็ เชงิ เลน่ บา้ ง จรงิ บา้ งทนั ทวี า่ “เปน็ อยา่ งไร หา้ มอยู่ หรอื เปลา่ ทจ่ี ะไปเกดิ กบั หลานสาวทงั้ ทต่ี วั ยงั ไมต่ ายนะ่ ” แกเรยี นตอบทา่ น ทันทีเลยว่า “โยมตัดขาดแล้วคืนแรก คือพอจิตรวมสงบลงสนิทแล้ว ก�ำหนดดู ก็เห็นเด่นชัดดงั ท่ีเคยเห็นมาแลว้ โยมก็ก�ำหนดตัดดว้ ยปัญญา ดงั หลวงพอ่ บอกจนขาดกระเดน็ ไปเลย คนื นโ้ี ยมกำ� หนดดอู กี อยา่ งละเอยี ด เพอ่ื ความแนใ่ จ วานนจี้ งึ ยงั ไมอ่ อกมา ไมป่ รากฏวา่ มอี กี หายเงยี บไปเลย วันนี้อยไู่ มไ่ ด้ต้องออกมาเล่าถวายหลวงพ่อฟงั

ท่านเร่ิมประโยคแรกวา่ น่แี ลความละเอียดของจิต จะทราบไดจ้ าก การภาวนาเท่านนั้ วธิ ีอ่นื ไมม่ ที างทราบได้ โยมเกอื บเสยี ตัวให้กเิ ลสตัวนี้ จบั ไสไปเกดิ ในทอ้ งหลานสาวแบบไมร่ สู้ กึ ตวั แตย่ งั ดภี าวนารเู้ รอ่ื งของมนั เสียกอ่ น แล้วรีบแกไ้ ขกันทนั เหตุการณ์ ฝ่ายผู้หญงิ คนนั้นพอทางนต้ี ัด กระแสจติ ขาดจากความสบื ต่อกแ็ ทง้ ในระยะเดียวกัน

515

อยมู่ าไมน่ านนกั ปญั หาเกย่ี วกบั การไปเกดิ ทง้ั ทเี่ จา้ ของยงั ไมต่ าย และ ปญั หาเกยี่ วกบั การแทง้ บตุ รกเ็ กดิ ขนึ้ ในวงคณะสงฆด์ ว้ ยกนั เพราะคนอนื่ ไมม่ ใี ครทราบ ตวั ยายแกก่ ไ็ มเ่ คยบอกเรอื่ งแกใหใ้ ครทราบ แกมาเลา่ ถวาย เฉพาะทา่ นอาจารยอ์ งค์เดยี ว แตพ่ ระหลายองคซ์ ่ึงน่งั ฟังอยู่ดว้ ยกพ็ ลอย ได้ทราบเร่อื งของแกอยา่ งละเอียดทกุ แขนงไป ฉะนนั้ ปัญหานีจ้ งึ เกดิ ขึ้น ในวัดหนองผอื โดยพระสงฆ์น�ำปญั หาท้ังสองข้อน้ีเรียนถามท่านอาจารย์

ในปัญหาแรกว่า คนยังไม่ตายท�ำไมจึงเริ่มไปเกิดในท้องเขาแล้ว ทา่ นตอบวา่ กเ็ พยี งเรมิ่ นน่ี ายงั มไิ ดไ้ ปเกดิ แมก้ จิ อน่ื ๆ กย็ งั มที างเรมิ่ ไดท้ งั้ ที่ ยังไม่ลงมือทำ� นแี่ กก็เพียงเร่ิมจะไปเกิดเทา่ น้ัน แต่ยังมิไดไ้ ปเกิด จึงยัง ไมเ่ ปน็ ปญั หาและอปุ สรรคแกค่ ำ� วา่ คนยงั ไมต่ าย แตไ่ ปเกดิ แลว้ ถา้ แกรไู้ มท่ นั กม็ หี วังไปตง้ั บ้านเรือนคือเกดิ ในท้องหลานสาวแนๆ่

ปญั หาทสี่ องวา่ การตดั กระแสจติ ทก่ี ำ� ลงั สบื เนอ่ื งเกยี่ วโยงกนั ระหวา่ ง ยายแก่กับหญิงคนนั้น ไม่เป็นการท�ำลายชีวิตมนุษย์หรืออย่างไร ท่าน ตอบวา่ จะทำ� ลายอะไรกเ็ พียงตัดกระแสจิตเท่านั้น มิไดต้ ดั หวั คนที่เกิด เปน็ ตนเปน็ ตวั แลว้ จติ แทย้ งั อยกู่ บั ยายแก่ สว่ นกระแสจติ แกสง่ ไปยดึ ไวท้ ี่ หลานสาว พอแกรกู้ ร็ บี แกไ้ ขคอื ตดั กระแสจติ ของตนเสยี มใิ หไ้ ปเกย่ี วขอ้ ง อีกตอ่ ไป เร่ืองก็ยตุ กิ นั ไปเท่าน้ัน

ท่ีส�ำคัญก็ตอนที่ยายแก่มาเล่าถวายท่านว่า กระแสจิตตนขโมยไป จบั จองเอาท้องหลานสาวเปน็ ทเ่ี กดิ โดยเจา้ ตัวไม่รู้ ท่านอาจารย์เองก็มไิ ด้ คดั ค้านว่าท่ีรู้อย่างนนั้ ไม่จรงิ ไม่ถูก ควรพจิ ารณาเสยี ใหม่ แตก่ ลบั ตอบไป ตามรอ่ งรอยทย่ี ายแกร่ เู้ หน็ จงึ เปน็ เรอ่ื งทนี่ า่ คดิ อยมู่ าก เม่ือพิจารณาให้ ดีแล้วก็มีสาเหตุท่ีพาให้จิตส่งไปเกี่ยวเกาะกับหลานสาวได้ คือยายแก่

516

เลา่ วา่ แกรกั หลานสาวคนนม้ี ากเสมอมา มเี มตตาหว่ งใยและตดิ ตอ่ เกยี่ วขอ้ ง กับหลานสาวคนน้ีเสมอ แต่มิได้คิดว่าจะมีส่ิงลึกลับคอยแอบขโมยไป กอ่ เหตเุ ชน่ นน้ั ขน้ึ มา ถงึ กบั จะตอ้ งไปเกดิ เปน็ ลกู เขาอกี ถา้ ไมไ่ ดห้ ลวงพอ่ ชว่ ยวธิ แี กไ้ ขก็คงไม่พ้นไปเกดิ ในทอ้ งหลานสาวแนน่ อน

ทา่ นอาจารยม์ นั่ วา่ จติ นพ้ี สิ ดาร เกนิ กวา่ ความรคู้ วามสามารถของคน ธรรมดาจะตามรู้ตามรักษาได้ โดยมใิ หเ้ ป็นภัยแก่ตวั ผู้เป็นเจา้ ของ ดังที่ ยายแกพ่ ดู ไมม่ ผี ดิ ถา้ แกไมม่ หี ลกั ใจทางสมาธภิ าวนาอยบู่ า้ ง แกไมม่ ที างรู้ วถิ ีทางเดินของใจไดเ้ ลย ทั้งเวลาเปน็ อยูแ่ ละเวลาตายไป ฉะนัน้ การท�ำ สมาธภิ าวนา จงึ เป็นวิธปี ฏิบตั ติ ่อใจไดด้ แี ละถกู ทาง ยงิ่ เวลาหัวเลี้ยว หัวต่อด้วยแล้ว สติปัญญายิ่งมีความส�ำคัญมากในการตามรู้และ รกั ษาจติ ตลอดการตา้ นทานทกุ ขเวทนาไมใ่ หม้ าทบั จติ ในเวลาจวนตวั ซึง่ เป็นเวลาเอาแพ้เอาชนะกันจรงิ ๆ

ถา้ พลาดทา่ ขณะนนั้ กเ็ ทา่ กบั พลาดไปอยา่ งนอ้ ยภพหนงึ่ ชาตหิ นง่ึ เชน่ ไปเกดิ เปน็ สตั วช์ นดิ ใดกต็ อ้ งเสยี เวลานานเทา่ ชวี ติ ของสตั วใ์ นภพภมู นิ น้ั ๆ ขณะที่เสียเวลายังต้องเสวยกรรมในก�ำเนิดนั้นไปด้วย ถ้าจิตดีมีสติพอ ประคองตัวได้ อย่างน้อยก็มาเกิดเป็นมนุษย์ มากกว่าน้ันก็ไปเกิดใน เทวสถาน ชมวมิ านและเสวยทิพย์สมบตั อิ ย่นู านปถี งึ จะกลับมาเกิดเป็น มนษุ ยอ์ กี เวลามาเกดิ เปน็ มนษุ ยก์ ไ็ มล่ มื ศลี ธรรมทต่ี นเคยบำ� เพญ็ รกั ษามา แตบ่ พุ เพชาติ ทำ� ใหเ้ พม่ิ อำ� นาจวาสนาบญุ ญาภสิ มภารขน้ึ โดยลำ� ดบั จนจติ มกี ำ� ลงั แกก่ ลา้ สามารถรกั ษาตวั ได้ การตายกเ็ ปน็ เพยี งการเปลยี่ นรา่ งจาก ตำ่� ขนึ้ ไปสงู จากสนั้ ไปหายาว จากหยาบไปหาละเอยี ด จากวฏั จกั รไปเปน็ วิวัฏจักร ดังพระพุทธเจ้าและสาวกท่านเปล่ียนภพเปล่ียนภูมิ เปล่ียน

517

เครอื่ งเสวยมาเปน็ ลำ� ดบั สดุ ทา้ ยกห็ มดสงิ่ ทจ่ี ะเปลยี่ นแปลงใหเ้ ปน็ อะไร ตอ่ ไปอกี เพราะจติ ทไ่ี ดร้ บั การอบรมไปทกุ ภพทกุ ชาตจิ นฉลาดเหนอื สง่ิ ใดๆ กลายเปน็ นพิ พานสมบัตขิ น้ึ มาอยา่ งสมพระทัยและสมใจ ซ่ึงลว้ นไปจาก การฝกึ ฝนอบรมจติ ให้ดไี ปโดยลำ� ดับทง้ั ส้นิ

ดว้ ยเหตนุ น้ี กั ปราชญท์ งั้ หลายจงึ ไมท่ อ้ ถอยในการสรา้ งกศุ ล อนั เปน็ สวัสดีมงคลแก่ตนทุกเพศทุกวัย จนสุดวิสัยที่จะท�ำได้ไม่เลือกกาล ตอ้ งขออภยั ทา่ นผอู้ า่ นมากๆ ทเี่ ขยี นวกไปเวยี นมาทงั้ ทพี่ ยายามจนสดุ กำ� ลงั แต่ความหลงลืมรู้สึกจะออกหน้าออกตาอยู่ตลอดเวลาจึงท�ำให้ยุ่ง หยบิ หนา้ ใสห่ ลงั หยบิ หลงั ใสห่ นา้ ไมร่ จู้ กั จบสน้ิ ลงได้ ทงั้ นเ้ี รอื่ งทา่ นผา่ นไป ไกลจนแทบพูดได้ว่าเกือบจบแล้ว ผู้เขียนก็ยังเก็บไม่หมดเพราะความ หลงลมื ตวั เดยี วเทา่ นน้ั พาใหว้ นุ่ ไมเ่ ลกิ แลว้ ไปได้ อา่ นตอ่ ไปทา่ นกย็ งั จะได้ เหน็ ความเหลวไหลของผเู้ ขยี นไปตลอดสาย เกย่ี วกบั เรอ่ื งสบั สนระคนกนั ไม่เรียงล�ำดบั ไปตามแถวตามแนวท่คี วรจะเปน็

อกี เรอื่ งหนงึ่ ทนี่ า่ คดิ กค็ อื ทว่ี ดั หนองผอื นนั่ เอง เชา้ วนั หนงึ่ ขณะทที่ า่ น ออกจากทภี่ าวนาแลว้ ออกมาจากหอ้ ง ทา่ นถามขน้ึ มาเลยโดยไมม่ ใี ครเรมิ่ เร่ืองไว้ก่อนว่า “พากันไปดูซิที่ใต้ถุนกุฎีเรา เห็นรอยงูใหญ่ออกไปจาก ทนี่ นั่ หรอื เปลา่ คนื นพี้ ญานาคมาเยย่ี มฟงั ธรรม กอ่ นจะไปเราบอกใหแ้ สดง รอยไว้เพื่อเป็นเคร่ืองหมายให้พระเณรดูกันตอนเช้าบ้าง” พระก็เรียน ตอบท่านวา่ “มีรอยงูตวั ใหญ่มาก ซง่ึ ออกจากใต้ถุท่านอาจารยเ์ ขา้ ไปใน ปา่ โน้น งตู วั น้มี าจากไหนก็ไม่รู้ ทีอ่ นื่ รอยไมป่ รากฏ แตม่ าปรากฏเอาตรง ใตถ้ ุนน้เี ท่านั้น ลานวดั เตยี นๆ รอยมาจากทางไหนก็พอจะเหน็ ได้ แต่น่ี ไมเ่ ห็นมาจากทีอ่ ื่นเลย มามีเฉพาะใตถ้ นุ น้แี หง่ เดยี วนอกนนั้ ไม่มี”

518

ท่านตอบว่า “จะให้มีมาจากท่ีไหนกันก็พญานาคลงไปจากกุฎีเรา เม่ือคืนน้ี ก่อนจะไปเราบอกให้แสดงรอยไว้ใต้ถุนกุฎีเรา” ดังนี้ ถ้ามี พระเณรเห็นรอยงูก่อนแล้วขึ้นไปเรียนถามท่านเป็นต้นเหตุก่อนก็จะ ไม่นา่ คิดนัก แตน่ ้ที ่านถามออกมาเลยทเี ดียว โดยไมม่ ใี ครปรารภเร่ืองน้ี ไว้ก่อน ประกอบกับรอยงูใหญ่ท่ีใต้ถุนท่านก็มีจริงๆ ดังท่ีท่านถามด้วย นแี้ สดงวา่ ทา่ นรเู้ หน็ ทางใน และใหพ้ ญานาคแสดงรอยไวใ้ หพ้ ระเณรดทู าง ตาเนอ้ื เพราะตาในบอด ไมส่ ามารถมองเหน็ ได้เวลาพญานาคมาเย่ียม ฟงั ธรรมท่าน

แลว้ กพ็ ากันเรียนถามทา่ นในโอกาสว่างๆ ว่า เวลาพญานาคมาหา ท่านอาจารย์ เขามาในร่างแหง่ งูหรอื ในร่างอะไร ทา่ นตอบวา่ พวกนี้เอา แนน่ อนไมไ่ ด้ ถา้ มาเพอื่ อรรถเพอ่ื ธรรมดงั ทมี่ าหาเรา กม็ าในรา่ งแหง่ มนษุ ย์ เปน็ ชนั้ ๆ ตามแตย่ ศใครสงู หรอื ตำ่� ถา้ เปน็ พญานาคกม็ าในรา่ งแหง่ กษตั รยิ ์ มบี ริวารห้อมล้อมมา กิรยิ าอาการท้งั หมดเหมือนกริ ยิ าของกษตั รยิ ท์ ง้ั ส้นิ การสนทนาก็เหมือนพระสนทนากับกษัตริย์ ใช้ราชาศัพท์กันเป็นพื้น บรรดาบริวารที่มาด้วยก็เหมือนข้าราชการตามเสด็จพระมหากษัตริย์ ต่างมีมรรยาทเรียบร้อยสวยงาม มีความเคารพกันมากย่ิงกว่ามนุษย์เรา ขณะท่ีนั่งฟังธรรมไม่มีใครแสดงกิริยากระดุกกระดิกอันเป็นการแสดง ความร�ำคาญ ขณะสนทนาธรรมก็มีเฉพาะหัวหน้าเป็นผู้ท�ำหน้าที่แทน ใครสงสยั กพ็ ดู กบั หวั หนา้ หวั หนา้ กเ็ รยี นถามทา่ นแทน ทา่ นกอ็ ธบิ ายใหฟ้ งั ตามจดุ ท่สี งสยั จนเป็นทีเ่ ขา้ ใจแล้วกพ็ ากนั ลากลับ

ยังมีอีกเร่ืองหน่ึงที่พวกเราจะพอเชื่อตามท่านได้แม้ตนไม่รู้ คือมี พระองค์หนึ่งเห็นท่านชอบสูบบุหร่ีตราไก่ เลยส่ังโยมไปแลกเปล่ียนมา

519

ถวายทา่ น เวลาเขาน�ำมาให้แล้วกน็ �ำไปถวายทา่ น ขณะน้ันทา่ นก็ยงั ไมว่ ่า อะไร คงยงั ไมม่ เี วลาพจิ ารณา เพราะขณะทพี่ ระนำ� บหุ รไ่ี ปถวาย เปน็ เวลา ท่ีท่านก�ำลังพูดธรรมะอยู่ จึงพากันฟังธรรมท่านไปเรื่อยๆ จนจบแล้ว พากันกลับมา พอเช้าวันหลังพระองค์น้ันขึ้นไปหาท่านอีก ท่านบอกว่า “บุหรี่กล่องนี้ให้เอาไปเสีย ผมไม่สูบ เพราะเป็นบุหร่ีหลายเจ้าของ” ทางพระองคน์ น้ั เรยี นทา่ นวา่ “บหุ รน่ี เี่ ปน็ ของกระผมคนเดยี ว ทสี่ งั่ ใหโ้ ยม ไปแลกเปลย่ี นมาวานนม้ี ไิ ดเ้ ปน็ ของหลายเจา้ กระผมสงั่ เขาใหห้ ามาถวาย ทา่ นอาจารย์โดยเฉพาะ” ท่านก็พดู ยนื คำ� อยอู่ ยา่ งน้นั วา่ “ใหเ้ อาไปเสยี เพราะบหุ รน่ี มี้ หี ลายเจา้ ของเปน็ กรรมสทิ ธไิ์ มบ่ รสิ ทุ ธ์ิ จะสบู เอาประโยชน์ อะไร”

พระองค์นั้นก็ไม่กล้าเรียนท่านอีกเพราะกลัวถูกดุ ต้องจ�ำใจถือ บหุ รี่กล่องน้นั กลบั มา แลว้ เรียกโยมคนท่สี ัง่ ให้ไปแลกเปล่ยี นนั้นมาถาม เรอื่ งราววา่ เขาทำ� อยา่ งไรกนั แน่ เมอ่ื ถามโยมคนนน้ั กท็ ราบวา่ เขาเอาปจั จยั ซึ่งเหลือจากที่แลกเปลี่ยนสมณบริขารของพระหลายองค์ ที่ส่ังเขามา แลกเปลยี่ นบหุ รก่ี ลอ่ งนนั้ มา ทา่ นถามเขาวา่ พระองคใ์ ดบา้ งทสี่ งั่ และปจั จยั ขององค์ใดบา้ งท่โี ยมเอามาแลกเปลี่ยนบหุ รีก่ ลอ่ งน้ีมา เขาก็บอกว่าของ องคน์ น้ั ๆ พอทราบเรือ่ งละเอยี ดแล้ว ทา่ นกร็ ีบไปหาพระทโ่ี ยมระบุนาม และบอกเร่ืองราวของบุหร่ีให้ท่านทราบ ต่างก็แสดงความยินดีต่อท่าน อยแู่ ลว้ จงึ พอใจอนโุ มทนาโดยทัว่ กันในขณะน้ัน

พระองค์นั้นจึงได้น�ำบุหร่ีกล่องน้ันไปถวายท่านอีก โดยกราบเรียน สารภาพตวั วา่ เปน็ ความผดิ ของตวั จรงิ ๆ ทไ่ี มไ่ ดไ้ ตถ่ ามโยมผไู้ ปแลกเปลย่ี น โดยละเอียดถ่ีถ้วนก่อน แต่แล้วก็เป็นความจริงดังท่านอาจารย์ว่าจริงๆ

520

บดั นก้ี ระผมไดถ้ ามโยมดแู ลว้ วา่ เปน็ ของหลายเจา้ ทเี่ ขาเอารวมกนั ซอ้ื มา ส่วนพระท้ังหลายพอทราบ ต่างยินดีถวายท่านอาจารย์ด้วยกันทั้งหมด ท่านก็รบั บุหรีก่ ล่องน้นั ไว้โดยมไิ ดพ้ ดู อะไรต่อไป แมห้ ลังจากวันนัน้ แล้ว ก็หายเงียบไปเลย พอพระองคน์ น้ั กลบั มาพูดเรอื่ งบหุ รก่ี บั หมู่เพอื่ นทต่ี น ไปคัดคา้ นท่านแตไ่ ม่ได้ผล สุดทา้ ยก็ถกู ตามค�ำท่าน พระทีไ่ ด้ยินคำ� น้เี กดิ ความแปลกใจวา่ ทา่ นรู้ได้อย่างไร เพราะไมม่ ใี ครไปกราบเรยี นท่านเลย

ทา่ นหนงึ่ พดู คา้ นขน้ึ ในสมาคมหนู (สภาลบั ของพระทแี่ อบคยุ กนั ) วา่ กถ็ ้าท่านเหมือนพวกเราๆ กจ็ ะวา่ ทา่ นร้ทู ่านฉลาดอย่างไรละ่ เพราะท่าน ต่างจากพวกเราทุกด้านน้ันเอง จึงได้เคารพและชมว่าท่านฉลาดจริง ที่พวกเราพากันมารุมอาศัยพึ่งร่มเงาท่านอยู่ ก็เพราะเห็นความสามารถ ท่านต่างจากพวกเราราวฟ้ากับดินน่ันแล ผมเองไม่สงสัย แม้ไม่รู้อย่าง ท่านก็ยังเช่ือว่า ท่านรู้กว่าผม ฉลาดกว่าผมทุกด้าน ไม่มีอะไรต้องติ จึงได้มามอบกายถวายชีวิตให้ท่านดุด่าส่ังสอน โดยมิได้มีทิฐิมานะ แสดงออกใหก้ ระเทอื นใจทา่ นแมแ้ ตน่ อ้ ย ทง้ั ทก่ี เิ ลสมีอยกู่ ับใจ แตก่ เิ ลส มันคงกลวั ทา่ นเหมือนกนั จงึ ไม่กล้าแสดงออกมาบา้ งเลย

ผมเขา้ ใจวา่ เพราะความยอมตน ความกลวั ความเคารพเลอ่ื มใสทา่ น ซงึ่ มอี ำ� นาจมากกวา่ กเิ ลสประเภทเลวๆ ทเ่ี คยตอ่ สกู้ บั ครหู รอื กบั ใครๆ มา ประจ�ำนิสัย แต่พอมาถึงท่านแล้วมันหมอบราบไปเสียหมด ไม่มีกิเลส ตัวใดกล้าออกมาเพ่นพ่านเหมือนอยู่กับอาจารย์อื่นๆ ถ้าทราบว่าเรายัง ไมย่ อมลงทา่ น ผมเองกไ็ มก่ ลา้ มาอยกู่ บั ทา่ น แมข้ นื อยไู่ ปคงไมเ่ กดิ ประโยชน์ นอกจากจะเกดิ โทษโดยถ่ายเดียวเท่านัน้

521

จะว่าอะไร แค่น�ำของไปถวายทา่ นดังที่เหน็ ๆ มา เพียงเราคิดไม่ดี ในตอนกลางคนื พอตกตอนเชา้ ไปกฎุ ที า่ น มองดูสายตาท่านแหลมคม ราวกับจะฉีกเราให้แหลกละเอียดไปในขณะน้ันทีเดียว ถ้าเห็นอาการ อยา่ งนนั้ อยา่ ขนื เขา้ ไปรบั บรขิ ารหรอื อะไรๆ จากมอื ทา่ น ทา่ นเปน็ ไมย่ อม ให้คนแบบน้ันรับเด็ดขาด ที่ท่านท�ำอย่างนั้น ก็เพ่ืออุบายทรมานความ ดอ้ื ดา้ นของเราโดยทางออ้ ม ยงิ่ กวา่ นน้ั กใ็ สป่ ญั หาแทงเขา้ ไปในขว้ั หวั ใจเรา ใหเ้ จ็บแสบอยู่นานๆ เพื่อจะได้เข็ดหลาบเสยี ที แตแ่ ปลกใจปุถชุ นเรานี้ มนั เขด็ แตไ่ มห่ ลาบ คอื เขด็ ขณะทถ่ี กู ของแขง็ และเจบ็ แสบลงลกึ ในเวลานนั้ พอทา่ นแสดงอาการธรรมดากบั ตนบ้าง เอาอีกแล้ว เกิดเรื่องอีกจนได้

ทั้งที่ไม่มีเจตนาจะคิดสิ่งท่ีเห็นว่าเป็นภัยแก่ตน แต่มันตามอาจารย์ ของเจา้ บอนน่ี (ลงิ ) ไมท่ นั สกั ที เพราะมนั รวดเรว็ ยงิ่ กวา่ ลงิ รอ้ ยตวั เปน็ ไหนๆ พอมาหาทา่ นอกี ดทู า่ ทางแลว้ ชกั จะเขา้ ไมต่ ดิ มสี หี นา้ และสายตาแปลกๆ พอใหร้ ะวงั ยากๆ อยู่นน่ั แล แม้เชน่ นั้นมนั ยงั ไม่รู้สกึ เขด็ หลาบเลย คอื ไมเ่ หน็ ภยั ไปนาน พอไปๆ ชักจะเหน็ สิง่ ทีเ่ คยเปน็ ภัยน้ันๆ วา่ เปน็ มิตร โดยไมร่ สู้ กึ ตวั อกี แลว้ ฉะนนั้ จงึ วา่ มนั เขด็ แตไ่ มห่ ลาบ ถา้ ทงั้ เขด็ ทง้ั หลาบ กร็ สู้ ึกตัวและกลัวสง่ิ นน้ั ไปนานๆ ใจก็สงบเยน็ ไมร่ มุ่ รอ้ น เวลามาหาทา่ น กไ็ มไ่ ดร้ ะวงั นกั วา่ ทา่ นจะดดุ า่ ตา่ งๆ จติ ผมเปน็ อยา่ งนจี้ งึ หนจี ากทา่ นไปไหน ไม่ค่อยได้ เพราะไม่ไว้ใจตัวเอง อยู่กับท่านมันกลัวและระวังอยู่เสมอ ใจก็ไมก่ ล้าคดิ ไปนอกลนู่ อกทางนกั หากมบี า้ งกร็ ้ไู ด้เรว็ รีบฉดุ มาทนั กับ เหตุการณ์ ไมถ่ ึงกับแสดงผลร้อนให้ปรากฏ

ผมน่ะเชอื่ ทา่ นชนดิ หมอบราบเลยทกุ วนั นี้ ว่าทา่ นอาจารยม์ ่ันท่านรู้ วาระจติ ผมจรงิ ๆ สว่ นทา่ นจะรวู้ าระจติ ใครหรอื ไมผ่ มไมส่ นใจ สนใจเฉพาะ

522

เรอื่ งทา่ นกบั ผมเทา่ นน้ั เพราะผมมนั เปน็ คนชอบดอ้ื ไมเ่ ขา้ เรอ่ื ง นา่ ใหท้ า่ น ดัดสันดาน ท่านจึงดัดเสียบ้างพอให้เข็ด คือบางทีมันคิดบ้าๆ ไปก็มี เมอ่ื มาอยกู่ บั ทา่ นใหมๆ่ โดยคดิ วา่ เขาวา่ ทา่ นอาจารยม์ น่ั นร้ี จู้ ติ ใจคน ใครคดิ อะไรท่านรู้ได้หมด ท่านจะรู้ได้หมดจริงๆ หรือ ถ้าท่านรู้ได้หมดจริงๆ สำ� หรบั เราไมจ่ ำ� เปน็ ทที่ า่ นจะสนใจรไู้ ปหมด ขอใหท้ า่ นรแู้ ตค่ วามคดิ ของเรา ทค่ี ดิ อยขู่ ณะนกี้ พ็ อแลว้ ถา้ ทา่ นรแู้ มเ้ พยี งขณะจติ ทเี่ ราคดิ ตอ่ ทา่ นอยเู่ วลาน้ี เท่านน้ั เราจะยอมกราบท่านอย่างราบเลย นอกนั้นเราไม่คิดเขา้ บัญชีว่า เป็นเร่ืองสำ� คัญสำ� หรบั ท่านเลย

พอตกตอนเยน็ ไปหาทา่ น ดทู า่ ทางแทบนง่ั ไมต่ ดิ พน้ื เสยี แลว้ ตาทา่ น จับจ้องมาหาเราราวกับไม่กะพริบตาเอาเลย ขณะที่ตาจ้องมาก็เหมือน จะตะโกนจใ้ี จเราอยทู่ กุ ขณะดว้ ย พอทา่ นเรม่ิ เทศนใ์ หพ้ ระฟงั เราไมค่ อ่ ย ได้เรอ่ื งอะไร ไดแ้ ตค่ วามรอ้ นใจอย่างเดยี วและกลวั ท่านจะดเุ ราคนเดียว ทไี่ ปดอ้ื ทดลองทา่ น พอทา่ นเรมิ่ เทศนไ์ มน่ านนกั ธรรมทเี่ ตม็ ไปดว้ ยไมเ้ รยี ว ชนิดต่างๆ ก็เร่ิมเฉียดหลัง เฉียดไปเฉียดมาและเฉียดใกล้เฉียดไกล เข้ามาทุกที บางทีเฉียดมาข้ัวหัวใจจนร้อนวูบและตัวไหวโดยไม่รู้สึกตัว ยิ่งกลัวใจก็ยิ่งร้อนไม่เป็นสุขเลย ขณะนั่งฟังท่านเฆี่ยนท่านตีด้วยอุบาย ตา่ งๆ พอจวนจะจบการแสดงธรรม ทนไมไ่ หวตอ้ งยอมทา่ นทางภายในวา่ เท่าที่คิดไปน้ันก็เป็นเพียงอยากทราบเร่ืองท่านอาจารย์เท่านั้น ว่าจะรู้ใจ คนอ่ืนจริงไหม มิได้มีความคิดจะดูถูกเหยียดหยามว่าไม่มีคุณธรรม อย่างอ่ืน มาบัดนี้ได้ยอมรับแล้ว ว่าท่านอาจารย์สามารถและเก่งจริง กระผมขอมอบกายถวายชีวิตต่อท่านอาจารย์ตลอดวันตาย ขอท่านได้ เมตตาอนเุ คราะหส์ ง่ั สอนตอ่ ไปเถดิ อยา่ ไดเ้ กดิ ความอดิ หนาระอาใจดว้ ย เรอ่ื งเพียงเท่านี้เสียก่อนเลย

523

เราคิดยอมตนเพียงเท่านี้ การแสดงธรรมท่ีก�ำลังเผ็ดร้อนก็ค่อยๆ ออ่ นลงๆ สดุ ทา้ ยกแ็ ยม้ ปญั หาออกมาฝากไวว้ าระสดุ ทา้ ยอกี วา่ ความผดิ ความถกู มอี ยกู่ บั ตวั ทำ� ไมจงึ ไมส่ นใจดบู า้ ง เสอื กไปหาดเู รอื่ งผดิ เรอื่ งถกู ของคนอื่นเพ่ือประโยชน์อะไร ความคิดชนิดนั้นหรือที่พาให้เราเป็น คนเกง่ คนดี แมจ้ ะรู้ว่าคนอื่นเก่งคนอน่ื ดี แต่ถ้าเจา้ ของไม่เกง่ ไม่ดมี นั กอ็ ยแู่ คน่ น้ั เองไปไมร่ อด ถา้ อยากรเู้ รอ่ื งของคนอนื่ วา่ ดหี รอื ไมด่ เี พยี งไร กต็ ้องดูเรือ่ งของตวั ให้รอบคอบทุกดา้ นก่อน เร่อื งของคนอื่นกร็ ้ไู ปเอง ไมจ่ ำ� ตอ้ งทดลอง คนลองไม่ใชค่ นเกง่ คนดี ถ้าเก่งถ้าดีจริงแล้วไม่ตอ้ ง ลองก็รู้ แลว้ กจ็ บธรรมเพียงเทา่ นน้ั

ผมเองเกอื บสลบในขณะนน้ั เหงอื่ แตกโชกไปทงั้ ตวั ยอมทา่ นอยา่ ง หมอบราบและเข็ดหลาบจนป่านน้ี ไม่เคยไปหาญลองดีกับท่านอีกเลย คราวนเ้ี ปน็ คราวเขด็ หลาบขนาดหนกั สำ� หรบั เรอ่ื งทเ่ี กย่ี วกบั ทา่ น ถา้ เรอ่ื ง อื่นๆ ทไ่ี มเ่ ก่ียวกบั ทา่ นมันเขด็ ขนาดนี้ ผมคงพน้ ทุกข์ไปนานแลว้ แต่มัน ไม่เข็ดแบบนีจ้ งึ น่าโมโหจะตายไป

นี่เป็นเร่ืองพระท่านแอบสนทนากันในสภาหนู ผู้เขียนก็อยู่ในสภา นนั้ ดว้ ย และมสี ว่ นไดเ้ สยี ไปดว้ ยกนั จงึ ไดน้ ำ� เรอ่ื งนม้ี าลงโดยมบี หุ รต่ี ราไก่ เปน็ ตน้ เหตุ พอเป็นขอ้ คดิ ว่า ความจริงของความจรงิ มอี ย่ทู ุกแหง่ ทุกหน และทกุ เวลาอกาลโิ ก ขอแตป่ ฏบิ ตั ใิ หถ้ งึ ความจรงิ ทำ� จรงิ ตอ้ งรตู้ ามความ สามารถและภมู วิ าสนาของตนแนน่ อน ไมว่ า่ ธรรมภายในคอื สจั ธรรม และ ธรรมภายนอกคือความรู้แขนงต่างๆ ตามภูมินิสัยวาสนาของแต่ละราย ทส่ี ร้างมา และความปรารถนาท่ีตัง้ ไว้ไม่เหมอื นกัน แตผ่ ลส่วนใหญค่ ือ มรรคผลนพิ พานนน้ั เม่อื ถงึ แล้วเหมอื นกนั

524

ท่านอาจารย์มั่นท่านเป็นอาจารย์ที่ผู้อยู่ใกล้ชิดจะลืมเรื่องต่างๆ และปฏิปทาทท่ี า่ นพาดำ� เนนิ ไม่ได้ตลอดไปเมอ่ื ยงั มีลมหายใจอยู่ บรรดา ลกู ศษิ ยท์ า่ นทเี่ ปน็ พระเถระผใู้ หญเ่ วลานม้ี อี ยหู่ ลายองคด์ ว้ ยกนั แตล่ ะองค์ มีนิสัยวาสนาและปฏิปทาเคร่ืองด�ำเนินภายใน ตลอดความรู้อรรถธรรม และความรพู้ เิ ศษแปลกตา่ งกนั ไปเปน็ รายๆ เทา่ ทเี่ ขยี นตอนตน้ ไดร้ ะบนุ าม ลูกศิษย์ท่านผ่านมาบ้างแล้ว ท่ียังมิได้ระบุนามท่านก็มี จึงได้เรียนไว้ว่า เมอื่ ดำ� เนนิ เรอ่ื งทา่ นเจา้ ของประวตั ไิ ปพอสมควร หากมเี วลากจ็ ะระบนุ าม คณะลูกศิษย์ท่านต่อไปอีกดังนี้ จึงได้เร่ิมฟื้นนามลูกศิษย์ท่านข้ึนมาอีก พอทราบบา้ งว่าทา่ นด�ำเนินและรกู้ ันอยา่ งไร ทา่ นประสบเหตุการณ์ตา่ งๆ มาอยา่ งไรบา้ งแตล่ ะองคต์ ามคตธิ รรมดา พระพทุ ธเจา้ ทรงเผชญิ ความลำ� บาก และรธู้ รรมอยา่ งไรบา้ ง บรรดาสาวกกย็ อ่ มเดนิ ตามรอยพระบาททที่ รงพา ดำ� เนนิ ตลอดความรคู้ วามเหน็ กเ็ ปน็ ไปตามรอ่ งรอยของศาสดาแบบศษิ ย์ มคี รู บรรดาลกู ศษิ ยท์ า่ นอาจารยม์ น่ั กม็ ลี กั ษณะคลา้ ยคลงึ กนั ทางปฏปิ ทา เครอื่ งดำ� เนนิ สว่ นการประสบเหตกุ ารณภ์ ายนอกทนี่ า่ ตน่ื เตน้ หวาดเสยี ว มีตา่ งๆ กนั ไปตามสถานทอี่ ยบู่ ำ� เพ็ญและท่ีเทยี่ วไป ไมเ่ หมือนกัน

เมื่อกล่าวมาถึงตอนนี้ ก็ท�ำให้ระลึกเล่ือมใสและบูชาท่านอาจารย์ องค์หนึ่งซ่ึงเป็นศิษย์ผู้ใหญ่ท่านอาจารย์ ท่ีมีการเท่ียวธุดงคกรรมฐาน แตกต่างจากหมู่คณะอยู่บ้าง จึงขอประทานโทษน�ำเร่ืองท่านออกมาลง ให้ท่านผู้อ่านได้ทราบบ้างในสมัยปัจจุบันว่า ส่ิงท่ีเคยมีในคร้ังพุทธกาล อันเป็นส่วนภายนอกอาจยังมีในสมัยน้ีได้อยู่บ้างหรืออย่างไร คือเรา เคยไดย้ ินหรอื ได้เห็นในหนังสอื ว่าชา้ งมาถวายอารกั ขา และลิงมาถวาย รวงผง้ึ แดพ่ ระพทุ ธเจา้ เปน็ ตน้ เรอ่ื งคลา้ ยคลงึ กนั ในสมยั นกี้ อ็ าจเปน็ เรอื่ ง

525

ของทา่ นอาจารยอ์ งคน์ ี้ จงึ ขอประทานออกนามทา่ นดว้ ย เพอ่ื เปน็ หลกั ฐาน ไว้กบั เร่ืองท่กี ำ� ลงั ด�ำเนินอยูข่ ณะนี้

ทา่ นมนี ามวา่ “ทา่ นพระอาจารยช์ อบ” อายคุ งยา่ งเขา้ ๗๐ ปี จำ� ไมถ่ นดั ทราบวา่ ทา่ นบวชมานาน การปฏบิ ตั ทิ า่ นชอบอยใู่ นปา่ ในเขาตลอดมาจนถงึ ปัจจุบัน นิสัยท่านชอบออกเดินทางในเวลาคำ�่ คืน ท่านจึงชอบเจอสัตว์ จำ� พวกคำ่� คนื มเี สอื เปน็ ตน้ เสมอ บา่ ยวนั หนง่ึ ทา่ นออกเดนิ ทางจากหลม่ สกั เพชรบรู ณ์ มงุ่ ไปทางจงั หวดั ลำ� ปาง เชยี งใหม่ พอจวนจะเขา้ ดงหลวงกพ็ บ ชาวบา้ น เขาบอกทา่ นดว้ ยความเป็นห่วงวา่ ขอนิมนตท์ ่านพักอยหู่ มูบ่ า้ น แถบนก้ี ่อน เช้าวันหลงั คอ่ ยเดินทางตอ่ ไป

เพราะดงนก้ี วา้ งมาก ถา้ ตกบา่ ยแลว้ เดนิ ทางไมท่ ะลดุ งไดเ้ ลย ถา้ เดนิ ไมท่ ะลปุ า่ ในตอนกลางวนั โดยมากคนมกั เปน็ อาหารเสอื อยเู่ สมอ เพราะ ความไมร่ ู้ระยะทางใกล้ไกล ดังนี้พอบา่ ยไปแล้วเดินทางไมท่ ะลุแน่ และ ตอนกลางคืนเสือออกมาเท่ียวหากินทุกคืน ถ้าเจอคนแล้วมันก็ถือเป็น อาหารของมันเลย ไม่มีรายใดผ่านปากเสือไปได้ น่ีก็กลัวพระคุณเจ้า จะเป็นเช่นน้นั จึงไมอ่ ยากใหไ้ ปในเวลาบา่ ยแล้วเช่นวันน้ี ปา้ ยประกาศ เขาปดิ ไวเ้ พอื่ ผเู้ ดนิ ทางจะไดอ้ า่ น และทราบเรอื่ งของดงยกั ษน์ แี้ ลว้ ไมก่ ลา้ ไป ยกั ษ์จะได้ไมก่ นิ เปน็ อาหารของมัน

ทา่ นถามเขาวา่ ยกั ษอ์ ะไรกนั เคยไดย้ นิ แตโ่ บราณทา่ นวา่ ไว้ แตท่ กุ วนั นี้ ไม่เคยไดเ้ หน็ ไดย้ ินเลย เพิ่งมาได้ยินเอาวันนีเ้ อง เขาเรยี นทา่ นวา่ ยักษ์ เสือโคร่งใหญล่ ายพาดกลอนนั่นเองท่าน มิใช่ยักษ์อื่นทีไ่ หนหรอก ถา้ ไป ไม่ทะลุดง เสือต้องกินเป็นอาหารแน่นอน จึงขอนิมนต์ท่านกลับคืนไป

526

พักค้างท่ีบ้านแถบน้ีเสียก่อน พรุ่งนี้เช้าฉันเสร็จแล้วค่อยเดินทางต่อไป แต่ทา่ นไม่ยอมกลับและจะขอเดินทางตอ่ ไปในวันนั้น เขาเรียนถามทา่ น ด้วยความเป็นห่วงว่า บ่ายขนาดนี้ใครจะเดินเร็วขนาดไหนต้องมืดอยู่ กลางดงใหญ่นไ้ี มม่ ที างพน้ ไปไดเ้ ลย ท่านไมฟ่ ังเสียงเขาเลย มีแตจ่ ะไป ทา่ เดียว

เขาถามทา่ นวา่ “ทา่ นกลวั เสอื ไหม” ทา่ นตอบเขาวา่ “กลวั แตจ่ ะไป” ชาวบา้ นเรยี นทา่ นวา่ “หากมนั มาเจอแลว้ อยา่ งไรมนั กไ็ มห่ นคี นเลย ตอ้ ง กนิ เป็นอาหารแน่นอน ถา้ ทา่ นกลวั เสือกินคน ทา่ นก็ไมค่ วรไปเพราะถา้ ขืนไปมนั กก็ ินท่านจนได”้ ทา่ นตอบว่า “ถ้ากรรมมาถงึ ตวั แลว้ ก็ยอมเปน็ อาหารของมันไปเสีย ถา้ กรรมยงั สืบตอ่ อยูม่ นั คงไมก่ ิน” ว่าแลว้ กล็ าเขา ออกเดนิ ทางไปอยา่ งไม่อาลยั เสยี ดายชวี ติ เลย

พอก้าวเข้าในดงมองดูสองฟากทางมีแต่รอยเสือตะกุยดิน ท้ังขี้ ทงั้ เยย่ี วทง้ั เกา่ ทงั้ ใหมเ่ ตม็ ไปตลอดทาง ทา่ นกเ็ ดนิ ภาวนาเรอื่ ยไป ดรู อยเสอื ตามทางเร่อื ยไป ใจก็ไมก่ ลวั พอมดื ก็ถึงกลางดงพอดี ในขณะเดียวกนั กไ็ ดย้ ินเสียงเสอื โครง่ ใหญก่ ระห่มึ ตามมาขา้ งหลงั ตวั หนึ่งกระหมึ่ มาทาง ดา้ นหนา้ ตา่ งรอ้ งมาหากนั ตวั อยขู่ า้ งหลงั กร็ อ้ งใกลเ้ ขา้ มาจวนจะทนั ทา่ น ตวั อยขู่ า้ งหนา้ กร็ อ้ งใกลเ้ ขา้ มาหาทา่ น และตา่ งตวั ตา่ งรอ้ งใกลเ้ ขา้ มาทกุ ทๆี ผลสดุ ทา้ ยทง้ั ตวั อยขู่ า้ งหนา้ ทงั้ ตวั อยขู่ า้ งหลงั กม็ าถงึ ทา่ นพรอ้ มกนั พอมา ถึงทา่ นแล้วย่ิงกระห่มึ ใหญ่

พอเหน็ ทา่ ไมด่ ี ทา่ นกห็ ยดุ ยนื นงิ่ ปลงอนจิ จฺ วํ า่ เราคงครงั้ นแ้ี นเ่ ปน็ ครงั้ ยตุ ขิ องชีวิต เพราะมองไปดตู ัวอยขู่ า้ งหนา้ ก็กำ� ลงั ท�ำทา่ ทำ� ทางจะโดดมา ตะครบุ ทา่ น ชำ� เลอื งตาไปดตู วั อยขู่ า้ งหลงั กก็ ำ� ลงั ทำ� ทา่ จะโดดมาตะครบุ

527

ท่านอยู่เช่นเดียวกัน แตล่ ะตวั อยู่ห่างจากทา่ นราววาเศษเทา่ นนั้ ขณะน้ัน ปรากฏวา่ จติ กลวั จนเลยกลัว ยืนตัวแข็งโด่อยกู่ บั ท่ี แตส่ ตยิ ังดจี งึ กำ� หนด จติ ใหด้ ไี ม่ใหเ้ ผลอ แมจ้ ะตายในขณะนั้นเพราะเสอื กนิ ก็ไมใ่ ห้เสียที

พอไดส้ ตกิ ก็ ำ� หนดยอ้ นกลบั จากเสอื เขา้ มาหาตวั โดยเฉพาะ จติ กร็ วม ลงอย่างสนทิ ในขณะนน้ั ความรผู้ ดุ ข้นึ มาว่า เสอื กนิ ไมไ่ ด้แนน่ อน ดงั น้ี จากน้ันก็หายเงียบไปเลยทั้งเสือท้ังคน ไม่รู้สึกว่าตนยืนอยู่หรือนั่งอยู่ ความรสู้ กึ เกย่ี วกบั สง่ิ ตา่ งๆ ภายนอก ตลอดรา่ งกายไดห้ ายไปโดยสนิ้ เชงิ ในเวลานนั้ ความหมายว่าเสือกห็ ายไปพรอ้ มๆ กนั ยงั เหลืออยู่เฉพาะ ความรทู้ เี่ ดน่ ดวงเพยี งอนั เดยี วทรงตวั อยใู่ นขณะนนั้ จติ รวมลงอยา่ งเตม็ ท่ี คอื ถึงฐานแหง่ สมาธแิ ทแ้ ละนานเป็นเวลาหลายชัว่ โมงจึงถอนขนึ้ มา

พอจติ ถอนขนึ้ มาตวั เองยงั ยนื อยอู่ ยา่ งเดมิ บา่ แบกกลดและสะพาย บาตร มอื ขา้ งหนง่ึ หวิ้ โคมไฟเทยี นไข สว่ นไฟดบั แตเ่ มอ่ื ไรไมท่ ราบไดเ้ พราะ จิตรวมอยู่นาน พอจุดไฟสว่างขึ้น แล้วตามองไปดูเสือสองตัวนั้นเลย ไม่เหน็ ไมท่ ราบว่าพากนั หายไปไหนเงียบ ขณะที่จติ ถอนขึน้ มาน้ันมไิ ด้ คดิ กลวั อะไรเลย แตม่ คี วามอาจหาญเตม็ ดวงใจ ขณะนนั้ แมเ้ สอื จะมาอกี สกั รอ้ ยตวั พนั ตวั ใจกไ็ มม่ สี ะทกสะทา้ นเลย เพราะไดเ้ หน็ ฤทธขิ์ องใจและ ของธรรมประจกั ษแ์ ลว้ เมอ่ื จติ ถอนขน้ึ มาแลว้ ยงั เกดิ ความอศั จรรยต์ วั เอง ว่า รอดปากเสอื มาได้อยา่ งไรกนั และอศั จรรย์จนไม่มีอะไรเทียบได้

ขณะนั้นท�ำให้เกิดความรักความสงสารเสือตัวน้ัน ว่าเป็นคู่มิตรมา ใหอ้ รรถใหธ้ รรมเราอยา่ งถงึ ใจ แลว้ กพ็ ากนั หายไปราวกบั ปาฏหิ ารยิ ์ ทำ� ให้ คดิ ถงึ มนั มากแทนทจี่ ะกลวั เหมอื นครง้ั แรกพบ ทา่ นวา่ เสอื โครง่ ทง้ั สองตวั

528

นนั้ ใหญม่ าก ตวั ขนาดมา้ ทแี่ ขง่ อยทู่ ส่ี นามมา้ นางเลงิ้ กรงุ เทพฯ เราดๆี นเ่ี อง แตต่ วั มนั ยาวกวา่ มา้ มากมาย หวั มนั วดั ผา่ ศนู ยก์ ลางคงไดร้ าว ๔๐ เซนตเิ มตร ใหญพ่ ลิ กึ ไมเ่ คยพบเคยเหน็ นบั แตเ่ กดิ มา ฉะนน้ั เมอ่ื เหน็ มนั ทแี รกจงึ ยนื ตวั แขง็ โดร่ าวกบั ตายไปแลว้ เพยี งแตย่ งั มสี ตดิ อี ยเู่ ทา่ นน้ั หลงั จากจติ ถอน ขึ้นมาแล้วมแี ต่ความรน่ื เรงิ เย็นใจ คิดว่าไปท่ีไหนไปได้ท้ังนั้น ไม่คดิ กลวั อะไรเลยในโลก และมไิ ดค้ ดิ วา่ จะมอี ะไรสามารถทำ� ลายได้ เพราะไดเ้ ชอ่ื จติ เช่ือธรรมว่าเป็นเอกในโลกทั้งสามอย่างเต็มใจเสียแล้ว หลังจากนั้นก็ ออกเดินทางด้วยวิธีจงกรมไปในตัว อย่างเยือกเย็นเห็นผลในธรรมเต็ม ดวงใจ ไม่หว่ันไหว จิตมีความระลึกคิดถึงเสือคู่มิตรท้ังสองตัวน้ันมิได้ ลมื เลย ถา้ เผอื่ เหน็ มนั อกี คราวน้ี คดิ วา่ จะเดนิ เขา้ ไปลบู คลำ� หลงั มนั เลน่ ได้ อย่างสบาย ราวกับสัตว์เล้ียงในบา้ นเราดๆี น่เี อง แต่มันจะยอมให้เรา ลบู คล�ำหรือไม่เท่านัน้

การเดนิ ทางในคนื วนั นั้น หลงั จากพบเสือแลว้ มีแตค่ วามวิเวกวงั เวง และรนื่ เรงิ ในใจไปตลอดทาง จนสวา่ งกย็ งั ไมท่ ะลดุ งเลย กวา่ พน้ ดงไปถงึ หมู่บ้านกร็ าว ๙ น.กวา่ จงึ เตรยี มครองผา้ เขา้ ไปบณิ ฑบาตในหมบู่ า้ นนัน้ พอชาวบา้ นเห็นทา่ นเขา้ ไปบณิ ฑบาตตา่ งก็ร้องบอกกนั มาใสบ่ าตร พอใส่ บาตรเสรจ็ เขากต็ ามทา่ นออกมาทพ่ี กั ซงึ่ วางบรขิ ารทไี่ มจ่ ำ� เปน็ ไวท้ น่ี น้ั และ ถามถงึ การมาของทา่ น ทา่ นกบ็ อกวา่ มาจากทโ่ี นน้ ๆ ดงั ทเ่ี ขยี นผา่ นมาแลว้ มคี วามประสงค์จะเท่ยี ววิเวกไปเรือ่ ยๆ

บ้านแถบนั้นเป็นบ้านป่าบ้านดงกันทั้งน้ัน พอเห็นท่านผ่านมาจาก ทางดงหลวงผิดเวลา จึงพากันถามท่าน ก็ทราบว่า ทา่ นเดินผ่านดงหลวง มาตลอดคนื ไมไ่ ดพ้ กั หลับนอนท่ไี หนเลย พวกเขาพากันตกใจวา่ ท่านมา

529

ได้อย่างไร เพราะทราบกันดีว่าใครก็ตามถา้ ผ่านดงนีม้ าผดิ เวลา ตอ้ งเป็น อาหารเสอื โครง่ ใหญใ่ นดงนกี้ นั แทบทง้ั นน้ั แลว้ ทา่ นมาไดอ้ ยา่ งไร เสอื ถงึ ไมเ่ อาทา่ นเปน็ อาหารเลา่ เขาถามทา่ นวา่ ขณะทา่ นเดนิ ผา่ นดงใหญม่ าเจอ เสอื บา้ งหรอื เปลา่ ตลอดคนื ทม่ี า ทา่ นกบ็ อกวา่ เจอเหมอื นกนั แตม่ นั ไมไ่ ด้ ทำ� อะไรอาตมา เขาไมอ่ ยากจะเชอื่ ทา่ น เพราะเสอื เหลา่ นค้ี อยดกั กนิ คนท่ี ตกคา้ งในปา่ ในเวลาคำ่� คนื อยูเ่ ปน็ ประจ�ำ เม่อื ท่านเล่าพฤติการณร์ ะหวา่ ง ทา่ นกบั เสอื เจอกันใหเ้ ขาฟงั แล้ว เขาถงึ ได้ยอมเชือ่ ว่า เป็นอภินหิ ารของ ท่านโดยเฉพาะ ไมเ่ กีย่ วกบั รายอน่ื ๆ ซ่ึงเป็นอาหารเสือแทบทงั้ นน้ั

เรอื่ งนเี้ ปน็ เรอื่ งทนี่ า่ คดิ อยไู่ มน่ อ้ ย เพราะปกตคิ นทเี่ ดนิ ผา่ นดงทวี่ า่ น้ี โดยมากก็มกั เป็นอาหารเสือกนั ดงั กลา่ ว ความไมร่ ูห้ นทางและระยะทาง ใกลไ้ กล ตลอดอนั ตรายตา่ งๆ ท่ีอาจมใี นระหวา่ งทาง นับวา่ เป็นอปุ สรรค แกก่ ารเดนิ ทาง ไม่วา่ ทางภายในคอื ทางใจ และทางภายนอกคือทางเดนิ ดว้ ยเทา้ ยอ่ มอาศยั ผเู้ คยเดนิ เปน็ ผนู้ ำ� ทางจงึ จะปลอดภยั นเ่ี ปน็ เรอื่ งควรคดิ สำ� หรบั พวกเราผกู้ ำ� ลงั เดนิ ทาง เพอื่ ความปลอดภยั และความสขุ ความเจรญิ แกต่ นทง้ั ปจั จบุ นั และอนาคต ไมค่ วรประมาทวา่ ตนเคยคดิ เคยพดู เคยทำ� และเคยเดนิ โดยมากมกั เปน็ ความเคยในทางทผ่ี ดิ มาแลว้ จงึ ชอบพาคน ไปในทางผิดอยเู่ สมอโดยไม่เลือกวยั และเพศ ถ้าเดินไมถ่ กู ทาง

ท่านอาจารย์องค์นี้ชอบจะพบเหตุการณ์ท�ำนองน้ีอยู่เสมอ ในชีวิต นกั บวชทที่ า่ นดำ� เนนิ มา อีกครั้งหนึ่งท่านไปเท่ียวธุดงค์ในประเทศพม่า พักบ�ำเพ็ญเพียรอยู่ในถ้�ำ เสือชอบมาหาท่านเสมอแต่ไม่ท�ำอะไรท่าน วนั หนงึ่ ราว ๕ โมงเยน็ ทา่ นนง่ั ภาวนาอยใู่ นถำ�้ โดยมไิ ดค้ าดฝนั วา่ จะมสี ตั ว์ มเี สือทอี่ าจหาญขนาดนั้นมาหาทา่ น พอออกจากทภี่ าวนาพอดตี ามองไป

530

หน้าถ้ำ� เห็นเสือโครง่ ใหญ่ลายพาดกลอนตัวหนึ่งเดินข้นึ มาหนา้ ถ้ำ� ทท่ี ่าน กำ� ลังพักอยู่ มนั ตวั ใหญ่มาก นา่ กลัวพลิ กึ แตท่ า่ นไมค่ ดิ กลัวมัน คงจะ เปน็ เพราะทา่ นเคยเหน็ สตั วพ์ รรคน์ มี้ าบอ่ ยครง้ั กเ็ ปน็ ได้ พอมนั เดนิ ขนึ้ มา มันกม็ องเหน็ ทา่ น และท่านก็มองเหน็ มันพอดเี ชน่ เดียวกัน

ขณะท่มี นั มองมาเห็นทา่ น แทนทมี่ นั จะแสดงอาการกลวั หรือแสดง อาการคำ� รามใหท้ า่ นกลวั แตม่ นั ทำ� อาการเฉยๆ เหมอื นสนุ ขั บา้ น ไมแ่ สดง อาการกลวั และอาการขู่คำ� รามใดๆ ทง้ั สิน้ พอมันขึน้ มาถึงถ�้ำแลว้ ตามัน มองโน้นมองนี้แล้วกระโดดข้ึนไปนั่งอยู่บนก้อนหินด้านทางขึ้นถ�้ำสูง ประมาณ ๑ เมตร หา่ งจากท่านประมาณ ๓ วา นง่ั เลียแขง้ เลียขาอยูน่ ั้น อยา่ งสบายแบบทองไมร่ รู้ อ้ น และไมส่ นใจกบั ทา่ นเลยทงั้ ทมี่ นั กเ็ หน็ และ รอู้ ยวู่ า่ ทา่ นอยทู่ นี่ น้ั การนง่ั ของมนั นงั่ แบบสนุ ขั บา้ น พอนง่ั เลยี แขง้ เลยี ขา เหน่อื ยกน็ อนหมอบแบบสุนัขอีกเช่นกนั แล้วเลียแข้งขาและล�ำตวั แบบ ไม่สนใจกับอะไรทั้งสิ้น ท่านว่าท่านก็ไม่กล้าออกไปเดินจงกรมที่หน้าถ�้ำ ใกลช้ ดิ กบั ทมี่ นั กำ� ลงั นอนอยไู่ ดเ้ ชน่ กนั เพราะทำ� ใหร้ สู้ กึ หวาดเสยี วเลก็ นอ้ ย เนอ่ื งจากไมเ่ คยพบเคยเหน็ มาในชวี ติ ทเี่ สอื ปา่ ทงั้ ตวั มาทำ� ตวั เปน็ เหมอื น สตั วเ์ ลย้ี งในบา้ นเชน่ นนั้ แตก่ น็ ง่ั ภาวนาไดต้ ามธรรมดา ไมน่ กึ กลวั วา่ มนั จะ มาทำ� อะไรใหต้ น

ตอนมันขึ้นมาทีแรกท่านก็น่ังอยู่แคร่เล็กๆ น่ันเอง ส่วนมันนานๆ จะมองมาดเู ราสกั ครง้ั หนงึ่ และมองแบบไมส่ นใจจดจอ้ ง มองอยา่ งธรรมดาๆ ในลักษณะเป็นมิตรมาแต่ครั้งไหนก็ยากจะพูดถูก นับแต่มันมาน่ังนอน เลียแข้งเลียขาอยู่ที่น้ันก็นานพอสมควร นึกว่ามันจะหนีไปที่ไหนต่อไป แตท่ ไ่ี หนไดม้ นั กลบั อยสู่ บายไปเลย ไมส่ นใจวา่ จะไปไหนอกี ตอนมนั มาถงึ

531

ทแี รกทา่ นกน็ ง่ั อยนู่ อกมงุ้ จนมดื แลว้ ทา่ นจงึ เขา้ ในมงุ้ เวลาจดุ ไฟและแสง ไฟสวา่ งไปหาตวั มนั มนั กไ็ มส่ นใจกบั ทา่ น คงอยทู่ ำ� นองทม่ี นั เคยอยนู่ น่ั แล จนดึกด่ืนได้เวลาพักท่านก็พักตามปกติ ท่านต่ืนนอนราว ๓ น. และ จุดเทียนไขสวา่ งขึ้นมองไปดู มันยังนอนอย่ทู ีเ่ กา่ แบบไม่สนใจกบั ท่าน อีกเชน่ เคย พอล้างหนา้ ลา้ งตาเสร็จแลว้ ทา่ นกน็ ัง่ ขดั สมาธิภาวนาตอ่ ไป จนสวา่ ง เวลาออกจากทภี่ าวนารอื้ มงุ้ ขน้ึ เกบ็ มองไปดมู นั ยงั นอนสบายอยู่ เหมอื นสนุ ขั นอนอยูใ่ นบา้ นเราดๆี นเ่ี อง

จนกระท่ังถึงเวลาจะออกบิณฑบาต ทางออกบิณฑบาตก็จ�ำต้อง เดินผ่านมันไปท่ีนั่นเอง ท่านเกิดนกึ สงสัยข้ึนมาว่า เวลาเราเดนิ ผ่านมัน ไปทีน่ ่นั มันจะมคี วามรู้สึกอยา่ งไร และจะท�ำอะไรเราบ้างหรือเปล่าหนอ จนครองผา้ เสรจ็ มนั กย็ งั นอนมองมาทางเราดว้ ยสายตาออ่ นๆ ทน่ี า่ สงสาร เหมือนสุนัขมองดูเจ้าของฉะน้ัน ท่านเลยตัดสินใจว่าต้องไปตรงนั้นแล ซึง่ ห่างจากตัวมนั ราว ๑ เมตรกวา่ เท่านั้น ท่อี ื่นไมม่ ีทางพอจะดน้ ด้นั หลีก ไปได้ เวลาจะไปทราบวา่ ทา่ นพดู กบั มนั บา้ งวา่ นถ่ี งึ เวลาออกบณิ ฑบาตแลว้ เรากม็ ีท้องมปี ากมคี วามหวิ กระหายเหมอื นสัตวโ์ ลกทว่ั ไป เราจะขอทาง ออกไปบิณฑบาตมาฉันหน่อยนะ จงให้ทางเราบ้าง ถ้าเจ้าอยากอยู่ที่นี่ ต่อไปก็ได้ หรือจะไปเพื่อหาอยู่หากินท่ีไหนก็ตามใจสะดวก เราไม่ว่า ทราบวา่ มนั นอนฟงั ทา่ นเหมอื นสนุ ขั นอนฟงั เจา้ ของพดู กบั มนั ฉะนน้ั พอพดู จบคำ� ทา่ นก็เดนิ ผา่ นออกมาที่มนั กำ� ลังนอนอยูอ่ ย่างสบายนัน่ แล

ขณะทที่ า่ นเดนิ ผา่ นมนั ออกมา ตามนั ชำ� เลอื งดทู า่ นแบบแสงตาออ่ นๆ เหมอื นจะบอกวา่ ไปเถอะท่าน ไมต่ ้องกลัวหรอก ท่มี านีก้ ็มาเพือ่ รกั ษา อันตรายให้ทา่ นนนั่ เอง แล้วท่านกเ็ ดินเขา้ บิณฑบาตในหม่บู ้าน ทราบว่า

532

ท่านมิได้บอกใครให้ทราบเลย กลัวเขาจะมาท�ำลายมัน พอบิณฑบาต กลบั มาถงึ ทม่ี นั เคยนอน มองหาทไี่ หนกไ็ มเ่ จอ ไมท่ ราบมนั หายไปทางไหน เงียบไปเลย นับตั้งแต่วันนั้นก็ไม่เคยเห็นมันมาหาท่านอีก จนกระทั่ง ทา่ นจากทนี่ นั้ ไป ทา่ นวา่ คงไมใ่ ชเ่ สอื ในปา่ ธรรมดาเรา อาจเปน็ เสอื เทพบนั ดาล จึงท�ำตัวเหมือนสัตว์เลี้ยงในบ้านได้ดี ไม่ท�ำให้เป็นที่น่ากลัวอะไรเลย นบั แตข่ ณะมนั ขน้ึ มาหาทแี รกจนกระทงั่ มนั จากไป จงึ เปน็ สตั วท์ นี่ า่ รกั นา่ สงสาร อยา่ งยิง่ ตวั หนง่ึ

ท่านว่าท่านคิดถึงมันอยู่หลายวัน นึกว่ามันจะมาหาท่านอยู่เร่ือย แต่ไม่เห็นกลบั มาอกี เลย ไดย้ นิ แตเ่ สยี งมันรอ้ งในเวลากลางคนื ดกึ สงัด แทบทกุ คนื จะเปน็ เสยี งมนั หรอื เสยี งเสอื ตวั อน่ื ๆ กไ็ มท่ ราบ เพราะแถบนนั้ เสือชุมมากจริงๆ คนขี้ขลาดไปอยู่ไม่ได้ ส�ำหรับท่านเองท่านบอกว่า ไมน่ กึ กลวั มนั เลย ยงิ่ เหน็ มนั มานอนเฝา้ อยจู่ นตลอดรงุ่ และมกี ริ ยิ าทา่ ทาง เหมือนสัตว์บ้านด้วยแล้ว ยิ่งท�ำให้รักและสงสารมันมากกว่าจะกลัวมัน เสยี อกี จากนน้ั แลว้ ยง่ิ ทำ� ใหเ้ รามคี วามเชอื่ ธรรมในแงต่ า่ งๆ เปน็ พเิ ศษขนึ้ อกี แยะ

ทา่ นวา่ ทา่ นไปอยปู่ ระเทศพมา่ ถงึ ๕ ปี จนพดู ภาษาพมา่ ไดค้ ลอ่ งปาก คลา้ ยกบั ภาษาของตวั เหตทุ ท่ี า่ นจะไดก้ ลบั มาไทยเราเนอื่ งจากสงครามโลก ครงั้ ทีส่ อง ญปี่ ุน่ กับอังกฤษเข้าไปวุน่ วายในเมืองพมา่ เต็มไปหมด ไมว่ า่ ในเมือง บ้านป่า ภูเขา พวกทหารอังกฤษไปเท่ียวค้นจนหมด เพราะ คนอังกฤษเคียดแค้นคนไทยมากเวลานั้น หาว่าเข้ากับญี่ปุ่น ถ้าค้นพบ คนไทยไมว่ า่ หญงิ ชายและนกั บวชจะฆา่ ทงิ้ ใหห้ มดไมม่ ขี อ้ ยกเวน้ ชาวบา้ น ทท่ี า่ นอาศยั เขาอยู่ รสู้ กึ เขาเคารพเลอ่ื มใสและรกั ทา่ นมาก พอเหน็ ทหาร

533

องั กฤษมาเทย่ี วจนุ้ จา้ นมาก กลวั ทา่ นจะไมป่ ลอดภยั พวกเขารบี ปรกึ ษากนั พาท่านไปซอ่ นอย่ใู นเขาลึกทพ่ี วกทหารองั กฤษไม่สามารถค้นพบ

แต่ทราบว่าเขามาพบท่านเข้าวันหนึ่งเหมือนกัน ขณะท่ีก�ำลังน่ัง อนโุ มทนาใหพ้ รชาวบา้ นอยู่ พวกชาวบา้ นหนา้ เสยี ไปหมด เขาไตถ่ ามทา่ น กบ็ อกวา่ มาอยทู่ นี่ น่ี านแลว้ ทา่ นมไิ ดเ้ กย่ี วกบั การบา้ นเมอื ง ทา่ นเปน็ พระ ไม่รู้เร่ืองอะไรกับใครเลย พวกชาวบ้านก็ช่วยพูดกันอย่างเต็มท่ีด้วย เหตุผลวา่ พระทา่ นมิเกย่ี วกับการสงครามแบบฆราวาส จะมาเกี่ยวขอ้ ง เอาเรอ่ื งเอาราวกบั ทา่ นนน้ั ไมถ่ กู ถา้ เอาเรอ่ื งกบั ทา่ นกเ็ ทา่ กบั ทำ� ลายหวั ใจ ของคนชาวพมา่ ซงึ่ ไมม่ คี วามผดิ ใหเ้ กดิ ความเสยี หายโดยใชเ่ หตุ นบั ว่า ท�ำไม่ถูกอย่างยิ่ง ประการหน่ึงท่านมาอยู่ที่นี่แต่ก่อนสงคราม ท่านไม่รู้ เรือ่ งอะไรกบั การบ้านเมืองอะไรเลย แมค้ นพมา่ เองยังไมเ่ หน็ วา่ ท่านเปน็ ภยั แก่ประเทศ ทงั้ ทป่ี ระเทศพม่ากำ� ลังตกอย่ใู นภาวะสงคราม ถา้ ทำ� ลาย ทา่ นกเ็ ทา่ กบั ทำ� ลายคนพมา่ ทงั้ ประเทศดว้ ย ชาวพมา่ ไมเ่ หน็ ดดี ว้ ยในการ ทำ� เชน่ น้ัน

ทหารอังกฤษหลายคนยืนพูดกันอยู่ประมาณคร่ึงชั่วโมงเกี่ยวกับ เรือ่ งทา่ น จากน้ันเขาก็แนะวา่ ใหร้ บี พาท่านหนีจากทนี่ ีเ่ สยี โดยเรว็ เดีย๋ ว พวกอื่นมาจะลำ� บาก บางทีเขาไม่ฟังค�ำขอรอ้ ง ทา่ นอาจเป็นอนั ตรายได้ องค์ท่านเองขณะเข้าจับจ้องมองดูด้วยท่าทางเป็นศัตรู ท่านมีแต่เจริญ เมตตาและระลกึ ถงึ พระคณุ ของพระพทุ ธเจา้ พระธรรม พระสงฆ์ อยตู่ ลอด เวลา เมอื่ เขาผา่ นไปแลว้ ญาตโิ ยมกพ็ าทา่ นไปสง่ และพาไปอย่ใู นภูเขา ทล่ี กึ ลับไมใ่ ห้เขาค้นพบ ไม่ใหท้ ่านลงมาบณิ ฑบาต พอถงึ เวลาชาวบ้าน พากันแอบเอาจังหันไปถวายท่าน นับแต่วันน้ันผ่านไปทหารอังกฤษมา

534

กวนเรื่อย ถา้ พบทา่ นเห็นทา่ นคงท�ำลายจรงิ ๆ เขามาวุน่ วายถามหาท่าน วนั หน่ึงหลายๆ พวก

พวกญาตโิ ยมเหน็ ทา่ ไมด่ ี กลวั ทา่ นจะไมป่ ลอดภยั จงึ ไดพ้ าทา่ นไปสง่ ใหห้ ลบหนกี ลบั มาเมอื งไทยเรา โดยเขามาสง่ ใสท่ างในปา่ ในเขาซง่ึ เปน็ ทาง ปลอดภยั และพวกทหารองั กฤษเขา้ ไปไมถ่ งึ เขาบอกทางทา่ นอยา่ งละเอยี ด ไมใ่ หป้ ลกี แวะทางเดมิ ทเี่ ขาบอก แมท้ างจะรกแสนรกกใ็ หพ้ ยายามไปตามนน้ั ทางน้ันเป็นทางเดินเท้าของพวกชาวป่า เขาเดินท่องเท่ียวหากันจนทะลุ ถึงเมอื งไทยเรา พอเขาบอกทางใหเ้ รยี บรอ้ ยแล้ว ท่านกเ็ ริม่ ออกเดนิ ทาง ทงั้ กลางวนั กลางคนื ทง้ั ไมไ่ ดห้ ลบั นอน ทงั้ ไมไ่ ดฉ้ นั อะไรเลย นอกจากนำ้� เท่านั้น ทั้งเดินบุกป่าฝ่าเขาแทบเป็นแทบตาย ในป่ามีแต่รอยสัตว์เต็ม ไปหมด มเี สือ ช้าง เป็นตน้ มิได้นึกวา่ ชวี ติ จะรอดพ้นมาได้ นกึ แตว่ า่ จะ ตายทา่ เดียว เพราะหลงปา่ ถา้ เดนิ ผิดทางเสียนดิ เดียว

ตอนเชา้ วนั คำ� รบสรี่ าว ๙ นาฬกิ า เปน็ เรอื่ งอศั จรรยเ์ กนิ คาด สว่ นจะ จริงเท็จแค่ไหนกรุณาน�ำไปพิจารณาเมื่ออ่านพบเร่ืองซึ่งก�ำลังด�ำเนินอยู่ ขณะน้ี พอท่านเดินไปถึงไหล่เขาแห่งหน่ึง ปรากฏว่ามีความเมื่อยหิว อ่อนเพลียเป็นก�ำลัง คิดว่าจะไปไม่ตลอด เหมือนใจจะขาดในเวลานั้น จนได้ เพราะเดินทางมาได้สามวันกับสามคืนเต็มๆ แลว้ ไมไ่ ด้พักนอน และฉันอะไรท่ีไหนเลย นอกจากนั่งพักพอบรรเทามหันตทุกข์จากการ เดนิ ทางชวั่ ขณะหนงึ่ เทา่ นน้ั พอมาถงึ ทนี่ นั้ เกดิ ความคดิ ขน้ึ มาวา่ เรากเ็ ดนิ ทางเสย่ี งความตายมาทกุ ลมหายใจ จนกระทงั่ บดั นกี้ พ็ อผา่ นมาไดย้ งั ไมต่ าย ลมหายใจก็ยังไม่ขาดความสืบต่อ แต่นับแต่ขณะแรกที่เราออกเดินทาง มาจนบดั น้ี ไมเ่ คยเหน็ บา้ นคนเลยแมห้ ลงั คาเรอื นหนง่ึ พอไดอ้ าศยั โคจร

535

บณิ ฑบาตประทงั ชวี ติ ไวบ้ า้ ง นี่เราเลยจะตายทง้ิ เสียเปล่าๆ จะไมม่ ีคนมา ชบุ ชีวิตไวด้ ้วยอาหารเพยี งม้อื หนึ่งบ้างหรอื

เรามาด้วยความล�ำบากยากเย็นในคราวน้ี ซ่ึงไม่มีคราวไหนในชีวิต ของเราจะทกุ ขม์ ากเหมอื นครงั้ น้ี ก็เพ่ือหลบภยั สงครามอันเปน็ เร่ืองของ ความตายท่ีมนุษย์กลัวกัน แต่แล้วก็จะมาตายเพราะสงครามอดอยาก หิวโหย และการเดินทางแบบล้มทง้ั ยนื น้หี รอื ถา้ เทวบตุ รเทวธิดาชน้ั ฟ้า บนสวรรคม์ ดี งั พระพทุ ธเจา้ ตรสั ไว้ และวา่ พวกนม้ี ตี าทพิ ยห์ ทู พิ ย์ มองเหน็ ได้ไกลจริงดงั ว่า กจ็ ะไมม่ องเหน็ พระซึ่งกำ� ลงั จะสิ้นลมตายอยูเ่ วลานี้บ้าง หรอื อยา่ งไร เราเชอื่ คำ� ของพระพทุ ธองคต์ รสั ไว้ แตเ่ ทพฯ ทง้ั หลายทเ่ี คย ได้รับความอนุเคราะห์จากพระมามากต่อมากท้ังครั้งโน้นและคร้ังน้ี จะเปน็ ผมู้ ใี จอนั จดื ดำ� จนถงึ ขนาดนเ้ี ชยี วหรอื ถา้ ไมใ่ จจดื กข็ อไดแ้ สดงนำ้� ใจ ให้พระท่ีก�ำลังจะตายอยู่ขณะน้ีได้เห็นบ้าง จะได้ชมว่าเทวธิดาเทวบุตร ทง้ั หลายเปน็ ผมู้ ใี จสงู และสะอาดจรงิ ดงั ชาวมนษุ ยส์ รรเสรญิ (ทที่ า่ นพดู อยา่ งนที้ ราบวา่ ทา่ นกเ็ คยมอี ะไรๆ กบั พวกนอี้ ยเู่ หมอื นกนั แตข่ อผา่ นไป)

เปน็ ทนี่ า่ ประหลาดและอศั จรรย์ บาปมบี ญุ มเี หน็ ผลทนั ตาซง่ึ ไมน่ า่ จะ เป็นไปได้ พอท่านนึกอย่างน้ันจบลงไมก่ น่ี าทเี ลย ขณะท่กี ำ� ลังเดนิ โซซัด โซเซไปนนั้ กไ็ ดเ้ หน็ สภุ าพบรุ ษุ คนหนงึ่ แตง่ ตวั หรหู ราผดิ คนชาวปา่ อยมู่ าก ราวฟา้ กับดิน กำ� ลังนง่ั นง่ิ ยกเครอ่ื งไทยทานขึน้ จบอยู่บนศีรษะ ข้างทาง ทที่ า่ นจะเดนิ ผา่ นไปในหบุ เขาอนั ลกึ ซง่ึ ไมน่ า่ จะเปน็ ไปได้ ขณะนน้ั ทา่ นเกดิ ความอัศจรรย์ขนลุกซู่ๆ ไปท้ังตัว ลืมความเมื่อยหิวอ่อนเพลียไปหมด ปรากฏว่าความอัศจรรย์เต็มหัวใจ เมื่อมองเห็นสุภาพบุรุษผู้ใจบุญนั่งรอ ใส่บาตรอยขู่ า้ งหน้าห่างกับทา่ นประมาณ ๔ วา ขา้ งพมุ่ ไม้

536

พอท่านเดินไปถึง สุภาพบุรุษน้ันพูดขึ้นประโยคแรกว่า “นิมนต์ พระคุณเจ้าพักฉันจังหันพอบรรเทาความหิวโหยอ่อนเพลียท่ีน่ีก่อน มีก�ำลังแล้วค่อยเดินทางต่อไป คงจะพ้นดงหนาป่าทึบในวันนี้แน่นอน” ท่านเองก็หยุดปลงบริขาร จัดบาตรเตรียมรับบาตรกับสุภาพบุรุษนั้น เสรจ็ แลว้ กเ็ ขา้ รบั บาตร นา่ อศั จรรยไ์ มว่ า่ ขา้ ววา่ กบั หวานคาวทกุ ชนิ้ ทบี่ รุ ษุ นน้ั ใสบ่ าตร ขณะท่ีเทลงในบาตร ปรากฏวา่ หอมตลบอบอวลไปท้ังปา่ และ ทว่ั พภิ พ ขา้ วกบั กพ็ อดกี บั ความตอ้ งการไมม่ ากไมน่ อ้ ย ซง่ึ ลว้ นแตม่ โี อชารส อยา่ งมหศั จรรยท์ งั้ สน้ิ ชนดิ บอกไมถ่ กู ถา้ พดู มากเขากจ็ ะวา่ โกหก แตค่ วามจรงิ ได้กลายเป็นความอัศจรรย์ต่อหน้าต่อตา จนไม่สามารถพูดอยา่ งไรจงึ จะ ถกู กบั ความจรงิ ท่ปี ระจักษต์ าประจกั ษใ์ จในขณะน้นั

พอใส่บาตรเสร็จท่านถามว่า “โยมมาจากไหน บ้านโยมอยู่ท่ีไหน อาตมาเดินทางมาได้สามคืนกับส่ีวันนี้แล้ว ไม่เคยเจอบ้านคนเลย” สภุ าพบุรุษนั้นตอบท่านวา่ “ผมมาจากโน้น” ชีม้ ือไปสงู ๆ พกิ ล “บ้านผม อยโู่ นน้ ” ทา่ นถามวา่ “ทำ� ไมถงึ รวู้ า่ พระจะมาทนี่ แ่ี ละมาคอยใสบ่ าตรถกู ” เขายมิ้ นดิ แตไ่ มต่ อบวา่ กระไรเลย จากนน้ั ทา่ นกอ็ นโุ มทนาใหพ้ ร พอใหพ้ ร เสรจ็ เขากพ็ ดู เปน็ ประโยคสดุ ทา้ ยวา่ “โยมจะไดล้ าทา่ นกลบั ไปเพราะบา้ น อยูไ่ กล” ดังนี้ ซึ่งปกติเขาเป็นคนพูดน้อย แตม่ ที า่ ทางองอาจมากผิดคน ธรรมดา ผวิ กายทกุ สว่ นผอ่ งใสมาก ขนาดกลางคนตามวยั รปู รา่ งกป็ านกลาง ไม่สูงนกั ตำ่� นกั กริ ิยาส�ำรวมดีมาก

พอเขาลาท่านแล้วก็ลุกจากที่ ท่านพยายามคอยสังเกตเพราะเขา เปน็ คนทผี่ ิดสังเกตอยู่แลว้ เม่อื เขาเดนิ ออกไปประมาณ ๔ วา กล็ ับ กบั ไมต้ น้ หนงึ่ ซงึ่ ไมใ่ หญโ่ ตนกั แลว้ หายไปเลย คอยจะผา่ นออกไปกไ็ มเ่ หน็

537

ตาจบั จอ้ งคอยดเู ทา่ ไรกไ็ มเ่ หน็ ยง่ิ ทำ� ใหผ้ ดิ สงั เกต ทา่ นจงึ ลกุ จากทน่ี งั่ เดนิ ไปดทู ต่ี น้ ไมท้ เ่ี ขาผา่ นไปกไ็ มเ่ หน็ มองไปมาทไี่ หน ซงึ่ ถา้ มคี นอยบู่ รเิ วณนนั้ ตอ้ งเหน็ แนน่ อน แตน่ ี่ไมเ่ หน็ เลยแตบ่ ัดนัน้ ยิ่งท�ำให้ท่านผิดสังเกตและ เกิดความสงสยั ยงิ่ ข้นึ บรุ ุษนัน้ ทำ� ใหท้ า่ นประหลาดใจมาก

เมอื่ ไมเ่ ห็นทา่ นกก็ ลบั มาเร่มิ ฉนั จังหัน ขา้ วก็ดีแกงก็ดี หยิบช้ินไหน ข้ึนมามันมิใช่อาหารในเมืองมนุษย์ท่ีเคยฉันมาธรรมดา ความหอมหวน ชวนชน่ื และรสชาติเอรด็ อรอ่ ย มนั เป็นเรอ่ื งอศั จรรยไ์ ปเสียหมด ท้งั ข้าว และอาหารหวานคาวล้วนพอดิบพอดีกับความต้องการของธาตุทุกส่วน อะไรๆ ซง่ึ ชา่ งพอดเี อาเสยี ทกุ อยา่ งไมเ่ คยพบเคยเหน็ ขณะทฉี่ นั ปรากฏวา่ โอชารสของอาหารวิ่งซา่ นไปทกุ ขุมขน ประกอบกับความหิวโหยก็ก�ำลัง บีบบังคับอย่างเต็มที่อยู่ด้วย เลยไม่ทราบว่ารสความหิวหรือรสอาหาร เทวดากันแน่ อาหารที่สุภาพบุรุษถวายทั้งสิ้นท่านฉันหมดพอดี และ พอเหมาะกบั ความตอ้ งการของธาตุ ไมม่ ากไมน่ อ้ ย ไมข่ าดไมเ่ กนิ ถา้ สมมตุ ิ ว่าอาหารยังเหลืออยอู่ กี แม้เพยี งเลก็ นอ้ ยกค็ งฉันต่อไปอีกไมไ่ ด้

พอฉนั เสรจ็ กเ็ รมิ่ ออกเดนิ ทางดว้ ยทา่ ทางแขง็ แรงเปลง่ ปลง่ั อาจหาญ สุดจะคาด ราวกบั มใิ ช่คนทกี่ ำ� ลงั จะสน้ิ ลมหายใจอยใู่ นครู่กอ่ นๆ นน่ั เลย ทั้งเดินทางทัง้ คดิ เรอ่ื งบุรษุ ลกึ ลับไปตลอดทาง จนลืมเหนด็ เหนอ่ื ย และ ลืมระยะทางว่า ยงั ใกลย้ งั ไกล เปน็ ทางผดิ หรือทางถูก ลมื สนใจทง้ั สนิ้ พอตกเย็นก็พ้นดงหนาป่าใหญ่พอดี ตรงกับค�ำสุภาพบุรุษท�ำนายไว้ ทกุ ประการ ก้าวเข้าเขตประเทศไทยเราด้วยความปีติยินดีมาตลอดทาง วันน้ันหายความทุกข์ทรมานกายทรมานใจตลอดวัน เมื่อเข้าถึงเขตไทย อนั เปน็ แดนทเ่ี กดิ ของตน จงึ เกดิ ความแนใ่ จวา่ เรายงั ไมต่ ายสำ� หรบั คราวนี้

538

ทา่ นวา่ บรุ ษุ นนั้ ตอ้ งเปน็ ทวยเทพชาวไตรภพแนน่ อน ไมใ่ ชค่ นธรรมดาสามญั ที่ตั้งบ้านเรือนอยู่แถบนั้นเลย คิดดูเวลาจากสุภาพบุรุษคนน้ันมาแล้วก็ ไมป่ รากฏว่าได้พบบ้านเรอื นท่ีไหนอีกเลย ทางสายนน้ี า่ แปลกใจ ซง่ึ น่า จะมหี มบู่ า้ นอยบู่ า้ งในระหวา่ งทางอยา่ งนอ้ ยสกั แหง่ หนง่ึ เลยทำ� ใหส้ งสยั ไปเสียหมด กระทั่งหนทางเดนิ เพอ่ื หลบภัย

การหลบภัยก็หลบเอาเสียจริงๆ หลบกระทั่งผู้คนไม่เจอ จังหันก็ ไมเ่ จอ หลบจนแทบเจอภยั คอื ความอดตายถงึ ผา่ นมาได้ ทา่ นวา่ การทผี่ า่ น ความตายและความรอดตายมาได้คร้ังน้ี ท�ำให้ท่านอดคิดไปในแง่เทวา ปาฏิหาริย์ไม่ได้ เพราะทางท่ีมาล้วนเต็มไปด้วยอันตรายรอบด้าน ช้าง เสอื หมี งู ชกุ ชมุ มากตลอดเวลา แตต่ ลอดทางทผ่ี า่ นมาไมเ่ คยเจอจำ� พวก สัตว์ร้ายเหล่านี้เลย นอกจากจ�ำพวกเนื้อท่ีไม่เป็นภัยต่อชีวิตเราเท่านั้น ถา้ อยา่ งธรรมดาแลว้ ทา่ นวา่ อยา่ งนอ้ ยตอ้ งเจอในวนั หรอื คนื หนงึ่ ๆ ถงึ หา้ จ�ำพวก เฉพาะเสือกับช้างเป็นส�ำคัญ น่ากลัวจะยังไม่ข้ามวันข้ามคืน ตอ้ งทอดทิง้ ร่างกายไว้กับสตั ว์รา้ ยจำ� พวกใดจ�ำพวกหนง่ึ แน่นอน

แต่ที่ยังผ่านมาได้ราวกับปาฏิหาริย์เช่นนี้จะไม่อัศจรรย์อย่างไร ต้องเป็นเรื่องของธรรมบันดาลหรือเทวาฤทธิ์บันดาลอย่างใดอย่างหน่ึง หรอื ทง้ั สองอยา่ งแนน่ อน เพราะกอ่ นจะมา ชาวบา้ นกว็ ติ กหว่ งใยดว้ ยกนั ทง้ั บา้ นวา่ กลวั เราจะไปไมร่ อด อนั ตรายทเี่ กดิ จากสตั วม์ เี สอื ชา้ ง เปน็ ตน้ แต่เขาก็หาทางหลีกเลี่ยงช่วยเราไม่ได้ ถ้าขืนก็ไม่ได้ คือขืนอยู่พม่าอีก ตอ่ ไปกย็ ่ิงแนต่ อ่ อนั ตรายจากสงครามและทหารองั กฤษ จงึ ชว่ ยกนั คดิ เพอ่ื แบง่ หนกั ใหเ้ ปน็ เบาลงบา้ ง โดยสง่ เราขา้ มเขตอนั ตรายของมนษุ ยก์ ระหาย เลือดไปเสีย เพ่ืออนาคตของเราที่อาจจะยังสืบต่อไปอีกนาน ถ้าเขา

539

ไม่ฆ่าเสียในระยะน้ี จึงได้ฝืนเดินฝ่าอันตรายนานาชนิดมาแทบเอาตัว ไมร่ อดดังน้ี

กรณุ าทา่ นผอู้ า่ นพจิ ารณาดู ผเู้ ขยี นไดย้ นิ มาอยา่ งนไ้ี มก่ ลา้ ตดั สนิ เอา คนเดียว แบ่งให้ท่านผู้อ่ืนได้มีส่วนวินิจฉัยด้วย แต่อดท่ีจะอัศจรรย์ใน เหตุการณ์ไมไ่ ด้ ทไี่ ม่นา่ เปน็ ไปได้แตก่ เ็ ปน็ ไปให้เหน็ อย่างชดั เจน นับว่า ชีวิตธุดงคกรรมฐานของท่านอาจารย์องค์นี้สมบุกสมบันมาก นอกนั้น ยงั มปี ระสบการณป์ ลกี ๆ ยอ่ ยๆ เรอ่ื ยมา เพราะทา่ นชอบอยแู่ ตป่ า่ แตเ่ ขา ตลอดมา ไมค่ ่อยเห็นทา่ นเขา้ มาเกย่ี วข้องกบั ฝูงชน ท่านอย่ลู กึ ไมม่ ใี คร กล้าเขา้ ไปนมิ นตถ์ ึง

พระปฏิบัติสายท่านพระอาจารย์ม่ันท่านมักอยู่แต่ในป่าในเขา เนื่องจากองค์ท่านอาจารย์เองพาด�ำเนินมาและส่งเสริมบรรดาศิษย์ใน ทางนัน้ เทา่ ทส่ี ังเกตทา่ นตลอดมา ท่านชอบพูดชมปา่ ชมเขาประจำ� นิสัย ทที่ า่ นชอบอยปู่ า่ อยเู่ ขาตลอดมา ทา่ นวา่ แมร้ ธู้ รรมมากนอ้ ย หยาบละเอยี ด เพียงไรก็ชอบรู้อยู่ตามป่าตามเขาแทบท้ังน้ัน ไม่ค่อยรู้ธรรม พอให้มี ความสงบเยน็ เพราะอยใู่ นทเ่ี กลอ่ื นกลน่ บา้ งเลย แมธ้ รรมทน่ี ำ� มาสงั่ สอน หมูค่ ณะอยู่ทุกวนั น้ี กไ็ ด้มาจากความรอดตายในปา่ ในเขานน่ั แล

หลงั จากทา่ นมรณภาพแลว้ โดยทางรปู กาย แตค่ วามสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง นมิ ติ ทป่ี รากฏเปน็ องคแ์ ทนทา่ น กบั ความรทู้ างจติ ตภาวนาของบรรดาศษิ ย์ ทมี่ นี สิ ยั ในทางนก้ี ม็ ตี อ่ กนั อยเู่ สมอมา ราวกบั ทา่ นยงั มชี วี ติ อยู่ การภาวนา เกิดขัดข้องอย่างไรบ้าง ท่านก็มาแสดงบอกอุบายวิธีแก้ไขโดยทางนิมิต เหมอื นองคท์ า่ นแสดงจรงิ ๆ ท�ำนองพระอรหันตม์ าแสดงธรรมให้ทา่ นฟงั

540

ในทตี่ า่ งๆ ดงั ทเี่ ขยี นผา่ นมาแลว้ ถา้ จติ ของผนู้ น้ั อยใู่ นภมู ใิ ด และขดั ขอ้ ง ธรรมแขนงใด ทไี่ มส่ ามารถแกไ้ ขโดยลำ� พงั ตนเองได้ ทา่ นกม็ าแสดงธรรม แขนงน้ันจนเป็นท่ีเข้าใจ แล้วนิมิตคือรูปภาพขององค์ท่านก็หายไป หลงั จากนนั้ กน็ ำ� ธรรมเทศนาทท่ี า่ นแสดงใหฟ้ งั ในขณะนน้ั มาแยกแยะหรอื ตีแผอ่ อกตามกำ� ลงั สตปิ ัญญาของตนให้กว้างขวางออกไป และได้อุบาย เพ่มิ ข้ึนอกี ตามภมู ทิ ่ตี นสามารถ

ทา่ นท่มี นี ิสัยในทางออกรู้ส่งิ ต่างๆ ยอ่ มมีทางรับอบุ ายจากท่านที่มา แสดงใหฟ้ งั ไดต้ ลอดไป ทเี่ รยี กวา่ ฟงั ธรรมทางนมิ ติ ภาวนา ทา่ นมาแสดงธรรม ให้ฟังทางนิมิต ผู้รับก็รับรู้ทางนิมิต ซ่ึงเป็นความลึกลับอยู่บ้างส�ำหรับ ผไู้ มเ่ คยปรากฏ หรอื ผไู้ มเ่ คยไดย้ นิ มาเลย อาจคดิ วา่ ผรู้ บั ในทางนมิ ติ เปน็ ความเหลวไหลหลอกลวงก็ได้ แต่ความจริงก็เป็นอยา่ งน้ัน พระปฏิบตั ิ ที่มีนิสัยในทางน้ี ท่านรับเหตุการณ์ในทางน้ีด้วย อันเป็นความรู้พิเศษ เฉพาะรายๆ มไิ ดท้ วั่ ไปแกผ่ ปู้ ฏบิ ตั ทิ งั้ หลาย คอื เปน็ ไปตามภมู นิ สิ ยั วาสนา ดังท่านอาจารย์ม่ันฟังพระโอวาทของพระพุทธเจ้าท่ีเสด็จไปโปรด และ ฟังธรรมท่ีพระสาวกมาแสดง โดยทางนมิ ติ เสมอมา บรรดาศิษยท์ ม่ี ีนสิ ยั คล้ายคลึงทา่ นก็มีทางทราบไดจ้ ากนมิ ิตทท่ี ่านมาแสดง หรอื พระพุทธเจ้า และพระสาวกมาแสดง ถา้ เทยี บกน็ า่ จะเหมอื นพทุ ธนมิ ติ ของพระพทุ ธเจา้ ทรงแสดงธรรมโปรดพระพทุ ธมารดาในช้ันดาวดงึ สส์ วรรคฉ์ ะนน้ั

แต่เร่ืองของพระพุทธเจ้าเป็นเร่ืองใหญ่มาก จิตใจคนน้อมเชื่อได้ งา่ ยกวา่ เรอื่ งทว่ั ๆ ไป แม้มีมูลความจริงเทา่ กนั จงึ เป็นการยากท่จี ะพดู ให้ละเอยี ดยิง่ กว่าท่ีเห็นว่าควร ดงั นั้น ผูเ้ ขยี นจึงไม่สะดวกใจท่ีจะเขียน ให้มากไปกว่าน้ี และขอมอบไว้กับท่านผู้ปฏิบัติ จะทราบเร่ืองเหล่านี้

541

ดว้ ยความรอู้ นั เปน็ ปจั จตั ตงั ของตวั เอาเองดกี วา่ ผอู้ น่ื อธบิ ายใหฟ้ งั เพราะ เป็นความแนใ่ จต่างกนั อย่มู าก สำ� หรบั ผู้เขยี นมีความรสู้ ึกอย่างน้ัน

อะไรก็ตามถ้าตนมีความสามารถพอเห็นได้ฟังได้ สูดกล่ินลิ้มรส และรู้เห็นทุกส่ิงได้ด้วยตัวเอง ก็ไม่อยากรับทราบจากผู้อ่ืนมาเล่าให้ฟัง เพราะแม้ทราบแล้ว บางอย่างก็อดสงสัยและคิดต�ำหนิติเตียนไม่ได้ แม้ผู้มีเมตตาจิตเล่าให้ฟังด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพราะเรามันปุถุชน ไมบ่ รสิ ทุ ธนิ์ ่ี จงึ มกั จะชนดะไปเรอื่ ยไมค่ อ่ ยลงใครเอางา่ ยๆ ฉะนนั้ จงึ ควร ใหต้ นรเู้ อาเอง ผดิ กบั ถกู กต็ วั รบั เอาเสยี เอง ไมต่ อ้ งใหค้ นอนื่ พลอยรำ� คาญ ทนฟังค�ำต�ำหนิติเตียนจากตน ดังท่านว่าบาปใครบุญใครก็รับเอาเอง ทกุ ข์ก็แบกหามเอง สุขกเ็ สวยเอง รู้สกึ ว่าถกู ตอ้ งและง่ายดีดว้ ย

ประวัติท่านพระอาจารย์ม่ัน ผู้เขียนได้พยายามหมดภูมิเพียงเท่าน้ี ในชวี ิตกน็ ่าจะมีครั้งเดียวเท่าน้ี ไมส่ ามารถจะเขยี นใหล้ ะเอียดลออและ ไพเราะเพราะพรง้ิ ย่ิงกว่านไ้ี ดอ้ ีก ผดิ ถูกประการใดก็หวังได้อภัยจากทา่ น ผู้อ่านดังที่เคยให้มาแล้ว ที่เขียนมาแต่ต้นจนเข้าข้ันสรุปความพยายาม ก็นับว่ากินเวลานานพอควร แต่เร่ืองท่านแม้จะเขียนไปอีกราวสามปีก็ คงไม่จบ ส่วนความสามารถแห่งการจดจ�ำและการเขยี น หากหมดก�ำลัง เอาเอง ทงั้ ทอ่ี ยากเขยี นใหพ้ นี่ อ้ งทงั้ หลายไดอ้ า่ นสมใจทพี่ วกเราไมเ่ คยเหน็ องคท์ ่านก็อาจมีอยู่มาก ท่ไี ดอ้ า่ นประวัติทา่ นอย่เู วลานี้ ตลอดการปฏบิ ตั ิ ด�ำเนินที่ท่านพยายามฝึกตนมานับแต่วันบวชจนถึงวันมรณภาพ แม้ได้ เห็นบ้างเพียงประวัติท่าน ทั้งที่ไม่สมบูรณ์เต็มภูมิแห่งเรื่องท่ีบรรจุอยู่ใน องค์ทา่ น

542

ท่านพระอาจารย์มั่น เป็นผู้มีประวัติงดงามมากมาแต่เป็นฆราวาส ทา่ นมีนิสยั สมเปน็ นักปราชญม์ าด้ังเดิม ไมป่ รากฏว่าไดท้ ำ� ความเสยี หาย และกระทบกระเทอื นจติ ใจท่านผูใ้ ดมากอ่ นเลย ตลอดบิดามารดาวงศา คณาญาติ ทา่ นปฏบิ ตั ติ วั ราบรนื่ ปลอดภยั ตลอดมา เวลามาบวชกพ็ ยายาม บ�ำเพ็ญตนจนเป็นหลกั ฐานมน่ั คงในองคท์ ่าน และเปน็ ทย่ี ดึ เหนี่ยวจติ ใจ ประชาชนพระเณรตลอดมาจนวันอวสานสุดท้าย นี้คือท่านผู้สว่างมา และสว่างไป ควรเป็นคติตัวอย่างอันดีเยี่ยมในสมัยปัจจุบันได้ผู้หนึ่ง โดยปราศจากความเคลอื บแคลงสงสัย

การบ�ำเพ็ญประโยชน์ตนก็เยี่ยมยอดเฉียบขาด ไม่มีกิเลสตัวใด แซงหนา้ ทา่ นไปได้ ทำ� ความบำ� ราบปราบปรามจนหมดเกลย้ี งไมเ่ หลอื หลอ จนไดน้ ามจากบรรดาศษิ ยผ์ ใู้ กลช้ ดิ และเคารพนบั ถอื วา่ ทา่ นเปน็ พระอรหนั ต์ องค์หนึ่งในสมยั ปัจจุบัน

การบำ� เพญ็ ประโยชนแ์ กโ่ ลกกไ็ มม่ อี ะไรเคลอื่ นคลาดขาดสตปิ ญั ญา พอจะแทรกแซงคดั คา้ นไดว้ า่ ทา่ นพาดำ� เนนิ ผดิ ทาง นบั แตข่ นั้ ตน้ จนอวสาน แหง่ ธรรม เปน็ ผูส้ ามารถฉลาดรทู้ ง้ั ภายใน คอื จรติ นสิ ัยของผมู้ าอบรม ศกึ ษา ทงั้ ภายนอกเกย่ี วกบั การสงั คมสงเคราะหโ์ ลกทว่ั ไป ไมน่ ยิ มวา่ เปน็ คนปา่ คนเขาคนฉลาดชาตชิ นั้ วรรณะสงู ตำ่� ประการใด ทา่ นเตม็ ไปดว้ ยการ เมตตาอันหาท่เี ปรียบมิได้

แม้วันใกล้จะลาโลกลาขันธ์ เมื่อลูกศิษย์ผู้จนตรอกออกซอยไม่ได้ เข้าไปกราบเรียนถามปญั หาข้ออรรถขอ้ ธรรม แทนทีท่ ่านจะปล่อยวางไป ตามขนั ธเ์ สยี ทกุ อยา่ ง แตเ่ มตตาจติ ประจำ� นสิ ยั มไิ ดป้ ลอ่ ยวาง ยงั อตุ สา่ ห์

543

เมตตาอนเุ คราะหส์ งั่ สอนจนสน้ิ สงสยั ไปในขณะนน้ั บรรดาศษิ ยแ์ ตล่ ะองค์ ไดป้ จั ฉมิ โอวาทไวเ้ ปน็ ขวญั ใจคนละบทละบาท ไมเ่ สยี ชาตทิ ไี่ ดม้ าพบเหน็ ทา่ นผูป้ ระเสริฐเลิศโลก ยงั ไดย้ ึดไวเ้ ปน็ สรณะอย่างสนิทตดิ ใจตลอดมา บรรดาศิษย์ผู้ใหญ่หลายท่าน ท่ีได้รับประสิทธ์ิประสาทธรรมจากท่านมา เป็นหลักยึด ต่างก็ตั้งตัวเป็นหลักฐานทางด้านจิตใจได้ จนกลายเป็น ครูอาจารย์ส่ังสอนสานุศิษย์สืบทอดกันมา ไม่ขาดทุนสูญอริยทรัพย์ อนั เลศิ ไปเสยี สว่ นศษิ ยผ์ นู้ อ้ ยและยอ่ ยๆ ลงไปทจ่ี ะเปน็ กำ� ลงั ของศาสนา ตอ่ ไปก็ยังมอี ยู่มาก และทา่ นท่มี สี มบตั ิ (คุณธรรม) แต่มไิ ดป้ รากฏตัว เปิดเผยก็ยังมีอยู่หลายท่าน ซ่ึงล้วนเป็นลูกศิษย์ท่ีท่านเมตตาเป่า กระหมอ่ มกลอ่ มธรรมลงในดวงใจมาแล้วทงั้ นนั้

บรรดาการพัฒนาหมู่ชนและการเข้าถึงประชาชน ควรพูดได้ว่า ท่านเป็นอาจารย์เอกในการพัฒนาจิตใจคนให้เข้าถึงอรรถถึงธรรมถึงเหตุ ถงึ ผล ใหร้ ดู้ รี ชู้ วั่ อนั เปน็ หลกั สากลของการปกครองโลก เพราะการพฒั นา จิตใจเป็นการพัฒนาที่ถูกกับจุดศูนย์กลางของโลกของธรรมอย่างแท้จริง โลกจะเสอ่ื มพนิ าศ ธรรมจะฉบิ หาย ตอ้ งขนึ้ อยกู่ บั จติ เปน็ ผเู้ สอื่ มฉบิ หาย มาก่อน การเคล่อื นไหวคือการทำ� จงึ เปน็ ประโยคสงั หารโลกทำ� ลายธรรม ตามกนั มา ถา้ ใจไดร้ บั การอบรมดว้ ยดี การเคลอ่ื นไหวทางกายวาจา กเ็ ปน็ ประโยคส่งเสริมโลกให้เจริญ ธรรมก็รุ่งเรืองเป็นเงาตามตัว ก็คนที่ได้ รับการอบรมธรรมจนเข้าถึงจิตใจแล้วจะท�ำความฉิบหายได้ลงคอละหรือ ไมเ่ คยเหน็ มใี นคตธิ รรมดาทเี่ ปน็ มาแลว้ นอกจากความรปู้ ระเภทนกขนุ ทอง ทอ่ งไดค้ ลอ่ งปาก จำ� ได้คล่องใจ แต่ธรรมนิสัยไมเ่ ข้าถงึ ใจเท่าน้นั

544

ท่านเป็นผู้เข้าถึงจิตใจประชาชนพระเณรแท้ ผู้เคารพเลื่อมใสท่าน อยา่ งถงึ ใจแลว้ แมช้ วี ติ กย็ อมถวายไดไ้ มอ่ าลยั เสยี ดาย ทกุ สง่ิ ถา้ ลงไดเ้ ขา้ ถงึ ใจแลว้ ไมว่ า่ ดหี รอื ชว่ั ยอ่ มเปน็ แรงผลกั ดนั อยา่ งไมม่ แี รงใดๆ เทยี บเทา่ ได้ในโลก ไม่เช่นน้ันคนเราไม่กล้าท�ำความดีหรือความช่ัวอย่างสมใจได้ ที่ท�ำได้อย่างไม่สะทกสะท้านและกลัวตาย ก็เพราะใจได้เข้าถึงสิ่งน้ันๆ โดยไมม่ ที างหลบหลกี แลว้ นพี่ ดู เฉพาะทางดเี กยี่ วกบั ความเคารพเลอ่ื มใส ในท่านอาจารย์ม่ันว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ เท่าที่ทราบในวงปฏิบัติด้วยกัน เฉพาะอยา่ งยงิ่ คอื พระทธ่ี รรมเขา้ ถงึ ใจแลว้ ทา่ นแสดงความอาจหาญมาก ว่าความเช่ือความเลื่อมใสท่านไม่มีอะไรเทียบได้เลย แม้ชีวิตท่ีแสนรัก สงวนมาดง้ั เดมิ ยงั กลา้ สละเพอื่ ทา่ นไดด้ ว้ ยอำ� นาจความเชอ่ื ความเลอ่ื มใส ทมี่ กี �ำลังแรง สิง่ นี้สละไม่ได้ สว่ นชีวิตสละไดไ้ ม่ยากเลยดังนี้

เพยี งเทา่ นกี้ พ็ อทราบไดว้ า่ ทา่ นเปน็ เหมอื นแมเ่ หลก็ ทดี่ งึ ดดู จติ ใจคน ไดอ้ ยา่ งอศั จรรย์ ทงั้ ยงั ชวี ติ อยแู่ ละผา่ นไปแลว้ เฉพาะความเคารพรกั และ เล่อื มใสในทา่ น ส�ำหรับผ้เู ขยี นคนไมเ่ ป็นทา่ มาดัง้ เดิม ร้สู กึ ว่าแปลกตา่ ง คนทง้ั หลายอยมู่ าก วา่ ทา่ นเพงิ่ ผา่ นไปโดยทางขนั ธเ์ มอื่ วานนเ้ี ทา่ นนั้ ทง้ั ที่ ได้ ๒๐ ปีเตม็ แล้ว ส่วนทางจติ ใจท่านเหมอื นไมไ่ ด้ผา่ นไปเลย คงเมตตา ตอ่ เราอยตู่ ลอดเวลา

สดุ ทา้ ยแหง่ ประวตั ทิ า่ น จงึ ขอนำ� ธรรมทท่ี า่ นแสดงในระยะทเ่ี รม่ิ ปว่ ย มาถึงระยะปัจฉมิ โอวาทมาลงเท่าทีจ่ ำ� ได้ เพราะความสลกั ใจในองค์ทา่ น ตลอดมา ในเนอ้ื ธรรมทแ่ี สดงในระยะเรม่ิ ปว่ ยคลา้ ยกบั เปน็ คำ� เตอื นสงฆว์ า่ นับแต่ขณะท่านเริ่มป่วยคราวนี้ เป็นการป่วยในลักษณะที่เริ่มถอดถอน รากเหงา้ เคา้ มลู ชวี ติ ธาตขุ นั ธเ์ กยี่ วกบั การผสมทกุ สว่ นของรา่ งกาย ใหล้ ด

545

ความคงท่ีดีงามลง เป็นของช�ำรุดใช้การใช้งานไม่ได้โดยล�ำดับ นับแต่ บัดน้ีเป็นตน้ ไป การห่วงธาตุขันธ์ความเป็นความตายน้นั ผมได้พจิ ารณา มานานแล้วเกอื บ ๖๐ ปี ไมม่ สี ิ่งเป็นทน่ี ่าหว่ งใยเสียดายใดๆ ท้งั ส้นิ แลว้ ผมหายสงสัยกับสง่ิ เหลา่ นโ้ี ดยส้นิ เชิงแล้ว นบั แต่ขณะธรรมของจริงเตม็ สว่ นเขา้ ถงึ ใจมาจนบดั น้ี มองดสู ิง่ ใดทัง้ ในกายท้ังนอกกาย มนั เปน็ สภาพ อนั เดยี วกนั กบั สง่ิ อนั มอี ยใู่ นกายเรา ทเ่ี รมิ่ สลายตวั ลงวนั ละเลก็ ละนอ้ ยน้ี เพ่ือความเป็นของเดมิ เขา แมส้ มมุตวิ า่ ยังเปน็ กายเราอยู่ก็ตาม มนั กค็ อื ส่งิ เดยี วกนั กบั ธาตทุ ่วั ๆ ไปน้ันเอง

ส่ิงท่ีผมเป็นห่วงใยอยู่เวลาน้ีคือท่านผู้มาศึกษาทั้งหลาย ทั้งมา จากที่ใกลแ้ ละทไี่ กล กลัวจะไม่ไดอ้ ะไรเป็นหลกั ใจ เมื่อผมผ่านไปแล้ว จงึ ไดเ้ ตอื นอยเู่ สมอวา่ อยา่ พากนั ประมาทนอนใจวา่ กเิ ลสคอื เชอื้ แหง่ ภพ ความเกิดตายไม่มีทางส้ินสุด เป็นของเล็กน้อยไม่เป็นภัยแก่ตน แลว้ ไมก่ ระตอื รอื รน้ เพอื่ แกไ้ ขถอดถอนเสยี แตก่ าลทย่ี งั ควรอยู่ เมอ่ื ถงึ กาลท่ีสุดวสิ ัยแลว้ จะทำ� อะไรกบั กเิ ลสเหลา่ นี้ไมไ่ ดน้ ะ จะว่าไม่บอก ไมเ่ ตือน คนและสัตวท์ กุ ขท์ รมานมาประจำ� โลก อย่าเขา้ ใจวา่ เปน็ มา จากอะไร แต่เป็นมาจากกเิ ลสตณั หาทเ่ี ห็นวา่ ไม่ส�ำคัญและไมเ่ ป็นภยั นนั่ แล ผมค้นดูทางมาของการเกิดตาย และการมาของกองทุกขม์ าก น้อยจนเต็มความสามารถของสติปัญญาที่มีอยู่แล้ว ไม่มีอะไรเป็น ตัวเหตุชักจูงจิตใจให้มาหาที่เกิดตายและรับความทุกข์ทรมานมาก น้อยเลย มีแต่กิเลสตัวท่ีสัตว์โลกเห็นว่าไม่ส�ำคัญและมองข้ามไปมา อยนู่ ้ที ้งั สิ้นเปน็ ตัวการส�ำคญั

546