กรณ เพ มเต มเน อท ใบอน ญาตร านอาหารเพ ม

พล.ต.ท.ชนินทร์ ปรีชาหาญ ผช.บก.ตร. เป็นประธานเปิดโครงการตำรวจสัมพันธ์สัญจร โดยมีการอัดรายการวิทยุสัมภาษณ์พิเศษ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ตามโครงการ เพื่อเผยแพร่ผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

วันนี้ (19 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ผลิตรายการและข่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดโครงการตำรวจสัมพันธ์สัญจร ณ ลานหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อเผยแพร่ผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงในเครือข่าย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 44 สถานีทั่วประเทศ เพื่อประชาสัมพันธ์การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกิจกรรมต่างๆ รวมถึงรณรงค์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และเตือนภัยประชาชน โดยมีพลตำรวจโทชนินทร์ ปรีชาหาญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานเปิดงาน มีศิลปินดาราจากบริษัท กันตนา มูวี่ทาวน์ จำกัด บริษัท จีเอ็มเอ็ม ไทหับ จำกัด บริษัท เวิร์คพ้อยท์ เอ็นเตอเทนเมนต์ จำกัด (มหาชน) ร่วมงานอย่างคับคั่ง ภายในงานมีการตั้งซุ้มรับปรึกษาข้อสงสัย แจ้งเบาะแสและร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน การบันทึกเทปรายการ ตำรวจสัมพันธ์สัญจร โดยสัมภาษณ์พิเศษ พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเป็นการบันทึกเทปแรกของรายการ และรายการ ตำรวจสัมพันธ์สัญจร จะจัดครั้งต่อไป ที่จังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดนครสวรรค์ ในเดือนกันยายนนี้

เผยแพร่: 23 พ.ค. 2556 14:00 โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

สตม.แถลงผลจับกุม 18 มงกุฎตาน้ำข้าว ได้ผู้ต้องหา 2 ราย หลังได้รับการประสานจากสถานกงศุลอิตาลีและฝั่งเศส โดยมีพฤติการณ์ฉ้องโกงสถาบันการเงิน หนีเข้ามากบดานนาน 5 ปี มูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท

วันนี้ (23 พ.ค.) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ต.ชิษณุพงศ์ ยุกตะทัต รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.ชาติชาย เอี่ยมแสง รอง ผบก.สส.สตม. แถลงการจับกุมชาวต่างชาติหลบหนีกบดานในประเทศไทย ตามการเข้มงวดกวดขันคนต่างด้าวที่หลบหนีความผิดเข้ามากบดานในประเทศไทย สามารถจับกุมได้จำนวน 2 ราย โดยรายแรกเป็นการจับกุมร่วมมือกับ ตม.จังหวัดเชียงใหม่ และภูธรภาค 5 จนสามารถจับกุมนายรัคคาญญี สเตฟาโน อายุ 38 ปี ชาวอิตาลี ได้ที่บ้านเลขที่ 199/73 ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2556 ที่ผ่านมา ได้รับประสานจากสถานเอกอัครราชฑูตอิตาลีประจำประเทศไทย ให้ติดตามจับกุมบุคคลที่รัฐบาลอิตาลีได้ออกหมายจับหลบหนีเข้ามากบดานในประเทศไทย จากนั้นทำการสืบสวนทราบว่าได้หลบหนีไปอยู่จังหวัดเชียงใหม่ จึงประสานงานกับตม.จังหวัดเชียงใหม่กระทั่งจับกุมตัวนายรัคคาญญีได้ที่บ้านเลขที่ดังกล่าวภายในวันเดียว โดยทราบว่านายรัคคาญญีมีอาชีพเป็นช่างไม้ที่ประเทศอิตาลีแล้วช่วงค่ำได้เรียนวิชาทางการเงิน หรือไฟแนนซ์ จนมีความรู้กระทำพฤติการณ์เป็นสมาชิกองค์กรอาชญากรรมระดับแกนนำ ที่พาคนเข้ามาในสหภาพยุโรปโดยผิดกฎหมาย จากนั้นปลอมแปลงเอกสารให้บุคคลเหล่านั้นเพื่อขอรับเงินในลักษณะฉ้อโกงภาษี ฉ้อโกงธนาคาร และสถาบันการเงิน มูลค่าความเสียหายประมาณ 300 ล้านบาท

ทั้งนี้นายรัคคาญญีได้อาศัยความหัวหมอลักลอบเปิดบริษัทกว่า 50 บริษัท โดยหลอกนำคนในสหภาพยุโรปมากว่า 28 คนเพื่อตบตาให้ทราบว่ามีการเปิดบริษัทอยู่จริง เพื่อเรียกขอภาษีคืนในลักษณะฉ้อโกงภาษีแล้วทยอยปิดบริษัทไป เมื่อมีการขอเรียกตรวจสอบทรัพย์สินที่อ้างว่ามีอยู่ 250 ล้านบาทก็ไม่สามารถแสดงบัญชีทรัพย์สินจริงได้ ส่วนการฉ้อโกงธนาคารกระทำโดยการขอกู้เงินแล้วหลบหนี จากนั้นได้หลบหนีเข้ามาในประเทศไทยกว่า 5 ปีถือวีซ่านักท่องเที่ยวปีแรกจากนั้นซื้อวีซ่านักเรียนปลอมมาตลอด มาอาศัยอยู่จังหวัดเชียงใหม่กับภรรยาคนไทยที่หมู่บ้านในฝันด้านหลังพืชสวนโลก เพื่อมาประกอบธุรกิจขายของเงินผ่อนทางอินเทอร์เน็ตภายใต้ชื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดฟิเนซี่ไลฟ์ จะขายของจำพวกรถจักรยานยนต์ และโทรศัพท์มือถือซึ่งถือว่าธุรกิจทำรายได้เป็นอย่างดี กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมได้ นอกจากนี้ นายรัคคาญญี ยังมีประวัติเรื่องถูกฟ้องล้มละลายหลายคดี

พ.ต.อ.ชาติชาย กล่าวอีกว่า สำหรับอีกรายโดยความร่วมมือของตม.จังหวัดสุราษฏ์ธานี คดีของนางอีฟ ปาออลเลตี หรือแมร์แลง (Ms.EVE PAOLLET or MERLIN) ชาวฝรั่งเศศ อายุ 47 ปีได้ที่สมุยพิงค์เฮ้าส์ หาดละไม ต.มะเร็ต เกาะสมุย จังหวัดสุราษฏ์ธานี เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2556 สืบเนื่องจากได้รับการประสานงานจาก สอท.ฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย ว่าเป็นบุคคลที่ถูกสหภาพยุโรป และรัฐบาลฝรั่งเศสออกหมายจับ ในความผิดเกี่ยวกับการร่วมกับพวกหลอกลวงโดยนางอีฟ ได้สมรู้ร่วมคิดกับสามีซึ่งถูกจับกุมแล้วที่ประเทศฝรั่งเศส ร่วมกันจัดตั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้างชื่อ Home Concept Construction And Home Select มีลูกค้าทำสัญญาว่าจ้างด้วยหลายราย แต่กลับไม่ดำเนินการให้เสร็จสิ้น แล้วหนีออกนอกประเทศ และได้เข้ามากบดานในไทย ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค.2555 รวมมูลค่าความเสียหาย 1 ล้านยูโร หรือ ประมาณ 40 ล้านบาท

เบื้องต้นจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่า กระทำผิดจริง ทางบก.สส.สตม.จึงดำเนินการถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร และส่งกลับประเทศเพื่อดำเนินคดีต่อไป