2024 ทำไม run index.html แล วไม ข นผลล พธ

เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 2009 ไมเคิล แจ็กสัน เสียชีวิตจากภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน มีสาเหตุจากยานอนหลับโปรโพฟอล ณ บ้านพักของเขา นอร์ธคาโรลวูดไดรฟ์ ย่านโฮล์มบีฮิลส์ ในนครลอสแอนเจลิส แพทย์ประจำตัวของเขา คอนราด เมอเรย์ กล่าวว่าเขาพบแจ็กสันอยู่ในห้องโดยเขาหยุดหายใจและชีพจรเต้นอ่อนอย่างมาก จึงทำการนวดหัวใจผายปอดกู้ชีพเพื่อช่วยเหลือแต่ไม่เป็นผล หลังจากนั้นสายด่วนแจ้งเหตุฉุกเฉิน 911 ได้รับการติดต่อเมื่อเวลา 12:21 น. แจ็กสันได้รับการรปฐมพยาบาลโดยแพทย์ในที่เกิดเหตุ และถูกนำตัวส่งศูนย์การแพทย์โรนัลด์ เรแกน มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส ซึ่งได้ประกาศว่าเขาเสียชีวิตในเวลาต่อมา วันที่ 28 สิงหาคม พนักงานสอบสวนแห่งลอสแอนเจลิสได้ระบุว่าการเสียชีวิตของเขามาจากการถูกฆาตกรรมโดยช่วงเวลาไม่นานก่อนหน้านั้น มีรายงานว่าแจ็กสันได้รับยากลุ่มโปรโพฟอล ได้แก่ลอราเซแพมและมิดาโซแลมในปีค.ศ. 2011 แพทย์ประจำตัวของเขาถูกพิพากษาว่ามีความผิดและได้รับโทษจำคุกเป็นเวลา 2 ปี ในข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา

การเสียชีวิตของไมเคิล แจ็กสันสร้างความตกตะลึงและเรียกปฏิกิริยาจากคนทั่วทุกมุมโลก ก่อให้เกิดประวัติการณ์ของการจราจรทางอินเทอร์เน็ตอย่างไม่เคยมีมาก่อน ยอดจำหน่ายเพลงของเขาและวงเดอะแจ็กสันไฟฟ์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นปรากฏการณ์ที่สื่อสิ่งพิมพ์และอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกต่างพุ่งขึ้นสูงที่สุดในรอบทศวรรษโดยก่อนหน้านี้ แจ็กสันมีความตั้งใจที่จะดำเนินการแสดงคอนเสิร์ตคัมแบ็กของเขาไปกับผู้ชมหนึ่งล้านคน ที่กรุงลอนดอน O2 Arena ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2009 จนถึงเดือนมีนาคม ค.ศ. 2010 งานพิธีไว้อาลัยได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 2009 ที่สเตเปิลส์ เซ็นเตอร์ ในลอสแอนเจลิส ซึ่งเป็นสถานที่ใช้ฝึกซ้อมสำหรับการแสดงคอนเสิร์ตในคืนวันก่อนที่เขาจะเสียชีวิต พิธีไว้อาลัยนี้ได้รับการถ่ายทอดสดออกอากาศไปทั่วโลกโดยมีผู้ชมมากกว่าพันล้านคนในปีค.ศ. 2010 บริษัทโซนี่มิวสิกเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ได้ตกลงทำสัญญากับกองทุนจัดการมรดกเป็นจำนวน 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสิทธิในการจัดจำหน่ายผลงานหลังเสียชีวิตของเขาจนถึงปีค.ศ. 2017 รวมถึงการปล่อยอัลบั้มตลอดทศวรรษ นับเป็นสัญญาที่มีมูลค่าสูงสุดที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมดนตรี การเสียชีวิตของไมเคิล แจ็กสัน จัดอยู่ในอันดับ 1 ของรายการ VH1/VH1 Classic's ในหัวข้อ "100 เหตุการณ์ที่ช็อคที่สุดในโลกดนตรี"

พฤติการณ์ช่วงเวลาเกิดเหตุ[แก้]

ร่างของเขามาถึงศูนย์การแพทย์โรนัลด์ เรแกน เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ 2009 เวลา 13:14 น. ตามเวลาท้องถิ่น

ช่วงเวลาประมาณ 18:30 น. ของวันพุธที่ 24 มิถุนายน แจ็กสันเดินทางมาถึงที่หมายสำหรับการฝึกซ้อมที่ สเตเปิลส์เซ็นเตอร์ สอดคล้องตามที่ เอ็ด อลองโซ นักมายากลซึ่งอยู่ที่นั่น ระบุว่าแจ็กสันพูดติดตลกถึงโรคกล่องเสียงอักเสบและไม่ได้มีการซ้อมจนถึงเวลา 21:00 น. พร้อมกล่าวว่า "เขาดูเฉียบขาดและมีเรี่ยวแรงที่ดี แม้ไม่ได้ร้องเพลงอย่างเต็มกำลังแต่เขาก็ยอดเยี่ยมเหมือนที่เคย" อลองโซ ได้ระบุเพิ่มเติมว่ามีการซ้อมจนล่วงเวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมาเช้าวันรุ่งขึ้น แจ็กสันยังไม่ได้ออกมาจากห้องนอนของเขาช่วงเวลาต่อมาก่อนบ่าย คอนราด เมอเรย์ แพทย์ประจำตัวได้เข้ามาในห้องนอนพบว่าเขาอยู่บนเตียงและหยุดหายใจ ก่อนจะพบว่าเขายังมีชีพจรเต้นอ่อน ๆ และร่างกายยังคงอบอุ่นเมอเรย์พยายามที่จะกู้ชีพเป็นเวลา 5 ถึง 10 นาที จนถึงจุดที่ตระหนักได้ว่าเขาต้องการที่จะเรียกขอความช่วยเหลือ เมอเรย์ระบุว่าเขาถูกขัดขวางเนื่องจากในบ้านไม่มีโทรศัพท์พื้นฐานและยังบอกว่าเขาไม่สามารถใช้โทรศัพท์มือถือของตนเองในการโทรแจ้ง 911 เนื่องจากไม่ทราบที่อยู่ที่แน่ชัด เขากล่าวว่าตนเองได้โทรหารักษาความปลอดภัยแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบใด ๆ ในที่สุดจึงได้วิ่งลงมายังชั้นล่าง ตะโกนขอความช่วยเหลือและบอกพ่อครัวเพื่อเรียกหน่วยรักษาความปลอดภัยขึ้นมายังห้องพักตามเวลาที่หน่วยรักษาความปลอดภัยโทรแจ้ง 911 ทนายความของเมอเรย์ระบุว่าเวลาได้ผ่านไปแล้วอย่างน้อย 30 นาที

รายงานคำแถลงระบุว่าแพทย์ประจำตัว คอนราด เมอเรย์ ได้ทำการนวดหัวใจผายปอดกู้ชีพอย่างผิดวิธีมาตรฐาน ในช่วงระหว่างเทปซึ่งบันทึกช่วงเวลาโทรแจ้งเหตุฉุกเฉินที่ปล่อยออกมาวันที่ 26 มิถุนายน เพียงหนึ่งวันหลังจากการเสียชีวิตของแจ็กสัน เช่น การปฐมพยาบาลบนเตียงซึ่งไม่ได้เป็นพื้นแข็งตามวิธีการคืนชีพมาตรฐาน ทนายความแพทย์กล่าวว่า เมอเรย์ใช้มือหนึ่งข้างประคองใต้ร่างแจ็กสันและใช้มืออีกข้างหนึ่งในการกดหน้าอก ทั้งที่ปกติแล้ว ตามมาตรฐานการกู้ชีพอย่างถูกต้อง ต้องใช้มือสองข้างในการปั้มหัวใจ โฆษกแผนกดับเพลิงลอสแอนเจลิสได้แถลงว่า 911 ได้รับแจ้งเหตุเมื่อเวลา 12:21 น. โดยทีมแพทย์ได้ไปถึงแจ็กสันเมื่อเวลา 12:26 น. และพบว่าเขาหยุดหายใจ

ทีมแพทย์ได้ปฏิบัติการนวดหัวใจผายปอดกู้ชีพในบ้านพักเป็นเวลา 42 นาทีทนายความของเมอเรย์อ้างว่าแจ็กสันยังคงมีชีพจรเมื่อเขาถูกนำตัวออกจากบ้านพักและขึ้นรถพยาบาลอย่างไรก็ตาม แผนกดับเพลิงลอสแอนเจลิสได้ให้คำอธิบายที่ต่างออกไปว่าทีมแพทย์ได้พบว่าแจ็กสันอยู่ในภาวะ "หัวใจหยุดเต้น" และพวกเขาไม่สังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในช่วงเวลาบนเส้นทางขณะไปโรงพยาบาลแผนกดับเพลิงลอสแอนเจลิสได้ส่งตัวแจ็กสันไปยัง ศูนย์การแพทย์โรนัลด์ เรแกน มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียหลังจากที่รถพยาบาลมาถึงโรงพยาบาลในเวลาประมาณ 13:14 น. ทีมแพทย์ได้พยายามคืนชีพเขาเป็นเวลามากกว่า 1 ชั่วโมง แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ การเสียชีวิตของไมเคิล แจ็กสัน ได้รับประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการ เมื่อเวลา 14.26 น. ตามเวลาท้องถิ่น รวมอายุได้ 50 ปี

การสอบสวน[แก้]

รายงานการชันสูตร[แก้]

ร่างของเขาถูกนำขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังสำนักงานชันสูตรศพลอสแอนเจลิส ขั้นตอนดำเนินการชันสูตรมีขึ้นในวันถัดมาในความรับผิดชอบของพนักงานสอบสวนแห่งลอสแอนเจลิสโดยหัวหน้าแพทย์นิติเวช Lakshmanan Sathyavagiswaran โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงซึ่งต่อมาครอบครัวของแจ็กสันได้ดำเนินการเตรียมชันสูตรศพครั้งที่ 2 เพื่อเร่งหาผลข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตของเขาหลังจากที่การชันสูตรเบื้องต้นเสร็จสิ้น เครก ฮาร์วีย์ หัวหน้าผู้ตรวจสอบสำนักงานชันสูตรกล่าวว่าไม่พบเครื่องพิสูจน์ถึงการบาดเจ็บหรือผิดกฎหมาย วันที่ 28 สิงหาคม พนักงานสอบสวนแห่งลอสแอนเจลิส ได้ออกแถลงอย่างเป็นทางการถึงสาเหตุการเสียชีวิตของแจ็กสันว่ามาจากการถูกฆาตกรรม เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพประจำพื้นที่ระบุว่า เขาเสียชีวิตอันเนื่องมาจากการรวมกันของยาหลายชนิดในร่างกาย โดยสารเสพติดที่สำคัญที่สุดคือ โปรโพฟอล ที่มีฤทธิ์ระงับความรู้สึกและ ลอราเซแพม คลายความกังวล ส่วนสารเสพติดอื่น ๆที่พบได้น้อยกว่าในร่างกาย ได้แก่ มิดาโซแลม ไดแอซีแพม ลิโดเคน และเอฟิดรีน ซึ่งล้วนเป็นสารเสพติดประเภทช่วยในการนอนหลับและคลายความเครียด โดยเจ้าหน้าที่ชันสูตรได้ส่งผลทางพิษวิทยาที่เสร็จสมบูรณ์เป็นรายงานส่วนตัวตามคำร้องของเจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการเขตต่อมาวันที่ 1 ตุลาคม สถานีออกอากาศอังกฤษ ได้รายงานถึงบันทึกผลการชันสูตรโดยเปิดเผยว่าเขามี "สุขภาพที่ดีมาก"สำหรับอายุของเขาและหัวใจยังคงแข็งแรง เอกสารระบุว่าปัญหาสุขภาพที่สำคัญที่สุดของแจ็กสันคือการอักเสบเรื้อรังที่ปอด แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุที่นำไปสู่การเสียชีวิต อวัยวะอื่น ๆ ที่สำคัญของเขายังเป็นปกติ และไม่พบการแข็งตัวของหลอดเลือดแดงยกเว้นการสะสมของคราบจุลินทรีย์เล็กน้อยในหลอดเลือดแดงที่ขารายงานการชันสูตรระบุว่าเขามีน้ำหนัก 136 ปอนด์ (62 กิโลกกรัม) และมีความสูง 5 ฟุต 9 นิ้ว (175 เซนติเมตร) ซึ่งเท่ากับดัชนีมวลกาย 20.1ฟ็อกซ์นิวส์ สถานีโทรทัศน์ข่าวสหรัฐระบุว่าข้อมูลนี้ยืนยันถึงข่าวลือที่ว่าแจ็กสันผอมแห้งขณะที่สำนักข่าวเอพีระบุว่า น้ำหนักตัวของเขาอยู่ในช่วงที่ยอมรับได้

หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย[แก้]

แม้จะไม่ได้ประกาศออกมาโดยทันทีว่าพวกเขาสงสัยถึงการกระทำความผิด กรมตำรวจลอสแอนเจลิสเริ่มสอบสวนความผิดปกติและรายละเอียดของรูปคดีอย่างเต็มที่ภายในวัน หลังจากการเสียชีวิตของแจ็กสัน โดยวันที่ 28 สิงหาคม กรมตำรวจลอสแอนเจลิสได้ประกาศว่าคดีนี้จะถูกส่งไปยังพนักงานอัยการผู้อาจยื่นฟ้องในคดีอาญาดังกล่าวนั้น

อ้างอิง[แก้]

  • http://edition.cnn.com/2009/SHOWBIZ/Music/06/25/michael.jackson/index.html
  • http://www.reuters.com/article/us-jackson-idUSTRE57R4EY20090828
  • http://www.stuff.co.nz/entertainment/celebrities/5751365/Jackson-investigators-errors
  • https://www.theguardian.com/world/2011/nov/07/michael-jackson-conrad-murray-guilty
  • http://www.novinite.com/articles/105049/Michael+Jackson+Album+Sales+Skyrocket+after+His+Death
  • "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-07-29. สืบค้นเมื่อ 2016-10-04.
  • http://www.rollingstone.com/music/news/michael-jacksons-this-is-it-tour-balloons-to-50-show-run-stretching-into-2010-20090312
  • http://www.telegraph.co.uk/culture/music/michael-jackson/5771156/Michael-Jackson-memorial-service-the-biggest-celebrity-send-off-of-all-time.html
  • "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-11-07. สืบค้นเมื่อ 2016-10-04.
  • http://www.musicmalt.com/2011/08/michael-jackson-gloved-one.html
  • http://www.latimes.com/la-et-jackson-rehearsal27-2009jun27-story.html
  • "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-04-02. สืบค้นเมื่อ 2016-10-04.
  • http://edition.cnn.com/2009/SHOWBIZ/Music/06/28/michael.jackson/index.html?eref=ib_us
  • http://transcripts.cnn.com/TRANSCRIPTS/0906/29/sitroom.01.html
  • http://transcripts.cnn.com/TRANSCRIPTS/0906/29/sitroom.01.html
  • https://www.theguardian.com/music/2009/jun/28/michael-jackson-doctor-lawyer
  • http://news.bbc.co.uk/2/hi/entertainment/8120084.stm
  • "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-04-02. สืบค้นเมื่อ 2016-10-04.
  • "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-24. สืบค้นเมื่อ 2016-10-04.
  • http://edition.cnn.com/2009/SHOWBIZ/Music/06/25/michael.jackson/index.html http://www.foxnews.com/entertainment/2010/02/09/michael-jackson-balding-incredibly-tattooed-facial-features.html