2024 ทำไม google firebase ไม ม analytic web

การใช้ Google Analytics 4 (GA4) ร่วมกับ SDK ของ Google Analytics สําหรับ Firebase (SDK ของ GA4F) จะให้ข้อมูลวิเคราะห์ที่เน้นเรื่องความเป็นส่วนตัวและมีความครอบคลุม เพื่อช่วยให้คุณวัดผลและเพิ่มประสิทธิภาพของ App Campaign ได้ดีขึ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์และฟีเจอร์ที่คุณจะได้รับสิทธิ์เข้าถึงเมื่อใช้ Google Analytics 4

Show

คู่มือนี้อธิบายกระบวนการแบบทีละขั้นตอนที่ครอบคลุมในการผสานรวม Google Analytics 4 และ SDK ของ Google Analytics สำหรับ Firebase เข้ากับการเสนอราคาของ Google Ads

ในหน้านี้


ก่อนเริ่มต้น

ก่อนเริ่มต้น โปรดตรวจสอบว่าคุณมีสิ่งต่อไปนี้

  • แอปที่จะทําการตลาดใน Google Ads
  • สิทธิ์การเข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบในบัญชี Google Ads หรือบัญชีดูแลจัดการ Google Ads
  • ผู้ใช้ Android ต้องเป็นเจ้าของบัญชี Google Play Console ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระดับการเข้าถึง Play Console
  • โปรเจ็กต์ Firebase
  • (ไม่บังคับ) หากคุณมีการวิเคราะห์เว็บ ก็ตั้งค่า Google Analytics 4 สําหรับเว็บไซต์และแอปได้
  • ข้อกำหนดในการลิงก์:
    • หากจะลิงก์กับพร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4 บัญชี Google ต้องเป็นผู้ดูแลระบบหรือผู้แก้ไขในพร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4 ดังกล่าว
    • หากจะลิงก์กับโปรเจ็กต์ Firebase บัญชี Google ต้องเป็นเจ้าของโปรเจ็กต์ Firebase ที่ต้องการลิงก์

เริ่มต้นใช้งาน Google Analytics 4

หากต้องการเสนอราคาสำหรับเหตุการณ์แอปด้วย Google Ads ที่ใช้ GA4 ให้สําเร็จ ให้ทําตามขั้นตอนต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 1 จาก 9: เพิ่ม SDK ของ Google Analytics สําหรับ Firebase ในแอป

SDK ของ Google Analytics สําหรับ Firebase (SDK ของ GA4F) เป็นโค้ดที่ต้องติดตั้งใช้งานในแอป ดูวิธีการติดตั้งใช้งานและเอกสารประกอบสำหรับนักพัฒนาแอปทั้งหมดได้จากบทความนี้

ทําตามวิธีการติดตั้งผ่านลิงก์ด้านล่าง

  • สําหรับโปรเจ็กต์ iOS, Android หรือ Flutter ให้ทําดังนี้
    • เริ่มต้นใช้งาน SDK ของ Google Analytics สําหรับ Firebase
  • สําหรับโปรเจ็กต์ Unity ให้ทําดังนี้
    • เริ่มต้นใช้งาน SDK ของ Google Analytics สําหรับ Firebase ที่ใช้กับ Unity

ขั้นตอนที่ 2 จาก 9: ใช้การติดตามเหตุการณ์

SDK ของ Google Analytics สําหรับ Firebase จะรวบรวมบางเหตุการณ์โดยอัตโนมัติ ได้แก่ first_open และ in_app_purchase ซึ่งไม่ต้องใช้โค้ดเพิ่มเติมเพื่อบันทึก

ติดตั้งใช้งานเหตุการณ์เพิ่มเติมด้วยการบันทึกเหตุการณ์โดยใช้ SDK ของ GA4F

  • Android
    • บันทึกเหตุการณ์
    • เริ่มต้นใช้งาน Google Analytics สําหรับ Firebase กับ Kotlin และ Android (Firecasts)
  • iOS
    • บันทึกเหตุการณ์
    • เริ่มต้นใช้งาน Analytics ใน iOS

      1: เหตุการณ์ (Firecasts)

สําหรับเหตุการณ์ที่แนะนําโดยทั่วไป ให้ไปที่ลิงก์ด้านล่างนี้และติดตั้งใช้งานตามความเหมาะสมกับแอปของคุณ

  • เหตุการณ์สําหรับแอปทั้งหมด
  • เหตุการณ์สําหรับธุรกิจค้าปลีก อีคอมเมิร์ซ การศึกษา อสังหาริมทรัพย์ และการท่องเที่ยว
  • เหตุการณ์สําหรับเกม

ขั้นตอนที่ 3 จาก 9: เปิดใช้ Google Analytics 4 สําหรับโปรเจ็กต์

ลิงก์พร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4 ที่มีอยู่

  1. เปิดคอนโซล Firebase เลือกโปรเจ็กต์ แล้วคลิก
  2. เปิดการตั้งค่าโปรเจ็กต์ > การผสานรวม
  3. คลิกลิงก์ในการ์ด Google Analytics
  4. เลือกบัญชี Analytics หรือสร้างบัญชีใหม่
    1. หากคุณเลือกบัญชีที่มีอยู่ คุณจะมีตัวเลือกในการเลือกพร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4 ที่มีอยู่ในบัญชีดังกล่าวหรือสร้างพร็อพเพอร์ตี้ใหม่
    2. หากคุณสร้างบัญชีใหม่ ระบบจะสร้างพร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4 ใหม่ให้คุณและโปรเจ็กต์จะลิงก์กับพร็อพเพอร์ตี้นั้น
  5. กำหนดการตั้งค่า Analytics

สร้างพร็อพเพอร์ตี้ GA4 ใหม่จากคอนโซล Firebase

ขั้นตอนที่ 4 จาก 9: ลิงก์ Google Play หากแอปมีเหตุการณ์ in_app_purchase

คุณจะลิงก์ Google Play จาก Google Analytics 4 หรือคอนโซล Firebase ก็ได้

ใน Google Analytics 4

  1. ในส่วนผู้ดูแลระบบ ให้คลิกลิงก์ Google Play ภายในลิงก์ผลิตภัณฑ์
  2. คลิกลิงก์
  3. หากคุณมีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบในบัญชีนักพัฒนาแอป Play อย่างน้อย 1 บัญชี ให้คลิกเลือกแอป แล้วเลือกแอปที่ต้องการลิงก์
  4. คลิกถัดไป
  5. ยืนยันสตรีมข้อมูลแอปที่เลือกโดยอัตโนมัติ แล้วคลิกถัดไป
  6. ตรวจสอบการตั้งค่าการกําหนดค่า แล้วคลิกส่ง

ในคอนโซล Firebase

  1. เปิดคอนโซล Firebase เลือกโปรเจ็กต์ แล้วคลิก
  2. เลือกการตั้งค่าโปรเจ็กต์
  3. คลิกแท็บการผสานรวมในหน้าการตั้งค่าโปรเจ็กต์
  4. ในการ์ด Google Play ให้คลิกลิงก์
  5. คลิกลิงก์กับ Google Play ในกล่องป๊อปอัป "การลิงก์กับ Google Play"

ยืนยันว่าลิงก์แอปอย่างถูกต้องแล้ว สถานะควรเป็น "ลิงก์แล้ว"

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลิงก์ Google Play กับ Firebase และการลิงก์บัญชีนักพัฒนาแอปกับบริการของ Google

ขั้นตอนที่ 5 จาก 9: ทําเครื่องหมายเหตุการณ์เป็น Conversion

ในส่วนผู้ดูแลระบบ ภายในการแสดงข้อมูล ให้คลิกเหตุการณ์ เปิดสวิตช์ในคอลัมน์ "ทําเครื่องหมายเป็น Conversion" อย่าลืมทําเครื่องหมายเหตุการณ์ที่ต้องใช้เป็น Conversion ซึ่งก็คือเหตุการณ์ที่คุณวางแผนจะใช้สําหรับการเสนอราคาใน App Campaign

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์และ Conversion ใน Google Analytics สําหรับ Firebase

ขั้นตอนที่ 6 จาก 9: ลิงก์กับ Google Ads

เปิดใช้การเสนอราคาสำหรับ Conversion ของแอปโดยการเชื่อมต่อสตรีมข้อมูลแอปกับ Google Ads คุณจะลิงก์ Google Analytics 4 กับ Google Ads จาก GA4, คอนโซล Firebase หรือใน Google Ads โดยตรงก็ได้

ใน Google Analytics 4

  1. ในส่วนผู้ดูแลระบบ ภายในลิงก์ผลิตภัณฑ์ ให้คลิกลิงก์ Google Ads
  2. คลิกลิงก์
  3. คลิกเลือกบัญชี Google Ads จากนั้นเลือกบัญชี Google Ads ที่ต้องการลิงก์
  4. คลิกยืนยัน
  5. คลิกถัดไป
  6. ระบบจะเปิดตัวเลือกในการเปิดใช้โฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้โดยค่าเริ่มต้น
    1. หากปิดใช้โฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ คุณจะใช้รายการ Firebase/GA4 สำหรับรีมาร์เก็ตติ้งในแคมเปญเพื่อการมีส่วนร่วมในแอปหรือแคมเปญบนเว็บไม่ได้
  7. ขยายตัวเลือกเปิดใช้การติดแท็กอัตโนมัติเพื่อเปิดใช้การติดแท็กอัตโนมัติ หรือปล่อยการตั้งค่าการติดแท็กอัตโนมัติไว้ตามเดิม
    1. หากคุณเปิดใช้การติดแท็กอัตโนมัติเมื่อลิงก์กับบัญชีดูแลจัดการ ระบบจะเปิดใช้การติดแท็กอัตโนมัติในทุกบัญชี Google Ads ที่ลิงก์โดยตรงอยู่กับบัญชีดูแลจัดการนั้น
    2. การติดแท็กอัตโนมัติจำเป็นสำหรับการติดตาม Conversion ของแอปในแคมเปญเพื่อการมีส่วนร่วมและแคมเปญบนเว็บ
  8. คลิกถัดไป แล้วตรวจสอบการตั้งค่า
  9. คลิกส่งเพื่อลิงก์บัญชีกับการตั้งค่าปัจจุบัน

ในคอนโซล Firebase

  1. ใน Firebase ให้เลือกโปรเจ็กต์ แล้วคลิก
  2. เลือกการตั้งค่าโปรเจ็กต์
  3. คลิกแท็บการผสานรวมในหน้าการตั้งค่าโปรเจ็กต์
  4. คลิกลิงก์ในการ์ด Google Ads
  5. คลิกดำเนินการต่อในกล่องป๊อปอัป "การลิงก์กับ Google Ads"
  6. เลือกบัญชีที่ควรลิงก์ แล้วคลิกลิงก์กับ Google Ads
  7. เมื่อผสานรวมเรียบร้อยแล้ว คุณควรตรวจสอบบัญชีที่ลิงก์ในส่วน "การผสานรวม"

ใน Google Ads

  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนผู้ดูแลระบบ
  2. ในส่วน "จาก Google" ให้หา "Google Analytics (GA4) และ Firebase" แล้วคลิกรายละเอียด
  3. ค้นหาพร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics หรือโปรเจ็กต์ Firebase ในตาราง แล้วคลิกลิงก์
  4. ในหน้าต่างยืนยัน ให้เลือกว่าต้องการนําเข้าข้อมูลเพิ่มเติม (เช่น กลุ่มเป้าหมาย) หรือไม่ แล้วคลิกลิงก์
  5. คลิกเปิดใช้ในหน้าต่างยืนยัน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลิงก์พร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4 กับ Google Ads และการผสานรวมข้อมูลของ Google Ads

ขั้นตอนที่ 7 จาก 9: นําเข้าเหตุการณ์ Conversion ของ GA4 ไปยัง Google Ads

หมายเหตุ: วิธีการด้านล่างเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของผู้ใช้ Google Ads ที่ได้รับการออกแบบใหม่ หากต้องการใช้การออกแบบก่อนหน้า ให้คลิกไอคอน "ลักษณะที่ปรากฏ" แล้วเลือกใช้การออกแบบก่อนหน้า หากคุณใช้ Google Ads เวอร์ชันก่อนหน้าอยู่ ให้ดูแผนที่อ้างอิงฉบับย่อ หรือใช้แถบค้นหาในแผงการนำทางด้านบนของ Google Ads เพื่อค้นหาหน้าเว็บที่ต้องการ

  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนเป้าหมาย
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลง Conversion ในหมวดหมู่เมนู
  3. คลิกสรุป
  4. คลิก + การกระทําที่ถือเป็น Conversion ใหม่
  5. เลือกแอปจากรายการประเภท Conversion
  6. คลิกปุ่มพร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4 แล้วคลิกดำเนินการต่อ
  7. เลือกช่องถัดจากเหตุการณ์ Conversion ของแอป แล้วคลิกนําเข้าและดำเนินการต่อ
  8. คลิกเสร็จสิ้น

ตั้งเป้าหมายเริ่มต้นของบัญชีให้กับเหตุการณ์ที่นําเข้า

  1. ผู้ใช้ครั้งแรกของ GA4
    • รวมเป้าหมายไว้ในค่าเริ่มต้นของบัญชีหากคุณต้องการให้นับ Conversion ในแคมเปญที่มีเป้าหมาย Conversion เริ่มต้นของบัญชี ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเป้าหมาย Conversion เริ่มต้นของบัญชี
  2. การย้ายข้อมูลจากแหล่งที่มาอื่นของเหตุการณ์ Conversion
    • หากคุณเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อการกระทําที่ถือเป็น Conversion ของแอปของบุคคลที่สามเป็น "หลัก" อยู่แล้ว โปรดตั้งค่าการเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อการกระทำสำหรับการกระทําที่ถือเป็น Conversion ของ GA4 ที่เพิ่งนําเข้าใหม่ทั้งหมดเป็น "รอง" เพื่อไม่ให้ส่งผลเสียต่อแคมเปญที่มีอยู่

ขั้นตอนที่ 8 จาก 9: เปิดใช้การติดแท็กอัตโนมัติ

หมายเหตุ: วิธีการด้านล่างเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของผู้ใช้ Google Ads ที่ได้รับการออกแบบใหม่ หากต้องการใช้การออกแบบก่อนหน้า ให้คลิกไอคอน "ลักษณะที่ปรากฏ" แล้วเลือกใช้การออกแบบก่อนหน้า หากคุณใช้ Google Ads เวอร์ชันก่อนหน้าอยู่ ให้ดูแผนที่อ้างอิงฉบับย่อ หรือใช้แถบค้นหาในแผงการนำทางด้านบนของ Google Ads เพื่อค้นหาหน้าเว็บที่ต้องการ

การติดแท็กอัตโนมัติจำเป็นสำหรับการติดตาม Conversion ของแคมเปญเพื่อการมีส่วนร่วมในแอปและแคมเปญบนเว็บที่มีเป้าหมายของแอป

  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนผู้ดูแลระบบ
  2. คลิกการตั้งค่าบัญชี
  3. คลิกส่วนการติดแท็กอัตโนมัติ
  4. คุณสามารถตรวจสอบสถานะปัจจุบันของการติดแท็กอัตโนมัติในบัญชีได้ หากต้องการเปิดหรือปิดการติดแท็กอัตโนมัติ ให้คลิกเพื่อเลือกหรือยกเลิกการเลือกช่องถัดจาก "ติดแท็ก URL ที่ผู้ใช้คลิกผ่านจากโฆษณาของฉัน"
  5. คลิกบันทึก

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดแท็กอัตโนมัติ

ขั้นตอนที่ 9 จาก 9: เริ่มเสนอราคาสําหรับ Conversion ของ GA4

เมื่อนําเข้า Conversion มายัง Google Ads แล้ว คุณจะเริ่มการเสนอราคาสำหรับ Conversion ได้โดยเริ่มต้นด้วย App Campaign หรือเลือกแคมเปญที่เหมาะสม ซึ่งใช้ Conversion ของแอปได้

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเป้าหมาย Conversion และการใช้เป้าหมาย Conversion เป็นแนวทางสําหรับแคมเปญใหม่

หากคุณเสนอราคาสำหรับ Conversion ที่นําเข้าจาก SDK ของแอปอื่นอยู่แล้ว และต้องการเริ่มใช้ GA4 สําหรับการเสนอราคา ให้ทําตามวิธีการย้ายข้อมูล App Campaign เพื่อใช้ Google Analytics 4