Nissan X-Trail เวอร์ชั่นธรรมดาไม่ไฮบริดจะมากับเครื่องยนต์เบนซิน 2 เกรดให้เลือกทั้งขนาด 2.0L และ 2.5L รายละเอียดมีดังนี้
- 2.5L รหัส QR25DE ให้กำลังอยู่ที่ 171 แรงม้า ที่ให้แรงบิดสูงสุดถึง 223 Nm โดยในเครื่องตัวนี้จะมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น
- 2.0L รหัส QR25DE ให้กำลังอยู่ที่ 141 แรงม้า ที่ให้แรงบิดสูงสุดถึง 200 Nm มีทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อให้เลือก
ในรุ่น Hybrid จะเน้นความแตกต่างที่การตกแต่งจากสีฟ้าของกระจังหน้าและส่วนต่างๆ
สำหรับการซื้อมือสอง เรื่องความแตกต่างของรุ่นย่อยเป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องรู้ ด้วยรถมือสองปัจจัยหลักของการตั้งราคาขายจะอยู่ในเรื่องของ “สภาพตัวรถ” เรื่องของรุ่นย่อยจะถูกมองข้ามไป นั่นถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่คุณจะได้รถราคาประหยัดแต่อ๊อพชั่นแน่น และ Nissan X-Trail ความแตกต่างของแต่ละรุ่นย่อย “หลัก ๆ” จะมีอะไรบ้างที่คุณต้องรู้ก่อนซื้อ ไปชมกัน !
1.หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิคจะมีให้แค่เฉพาะรุ่นท็อป 2.5V เท่านั้น 2.รุ่นท็อป 2.5V จะได้ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ส่วนรุ่นอื่น ๆ จะเป็นขนาด 17 นิ้ว 3.ภายในจะมีมาสองโทนสี “สีเบจและสีดำ” ถ้ารถที่มือสองที่คุณจะไปดูนั้นภายในเป็นสีรู้ไว้เลยว่าเป็นรุ่นท็อป 2.5V หรือรองท็อป 2.0V 4.Cruise Control จะมีให้กับรุ่นท็อป 2.5V และรองท็อป 2.0V เท่านั้น 5.จำนวนลำโพงในรุ่น 2.5V และ 2.0V จะมีมาให้ 6 ตำแหน่ง ส่วนรุ่นเริ่มต้นมีมาให้ 4 ตำแหน่ง 6.เรื่องความปลอดภัยจากถุงลมนิรภัย น่าเสียดายที่รถรุ่นนี้ไม่มีม่านถุงลมมาให้ มีมาให้เพียงคู่หน้าและสำหรับรุ่น 2.5V จะเพิ่มมาให้แค่ถุงลมด้านข้างมาคู่หน้าเท่านั้น 7.รุ่น 2.0V และ 2.5V มีจะมีระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันหรือ HDC มาให้ด้วย
ภายในมีมา 2 สีให้เลือก แต่สีดำจะอยู่ในรุ่นท็อป ตอนซื้อมือสองต้องอย่าลืม !
มองในเรื่องจำนวนที่รถรุ่นนี้วิ่งอยู่บนท้องถนนจากการสำรวจพบว่า ยอดขายของ Nissan X-Trail ที่เริ่มขายอย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อปี 2016 ไล่มาถึงสิ้นปี 2017 มียอดขายรวมทั้งสิ้นราวเกือบ 5 พันคันนับรวมหมดทั้งแบบเครื่องยนต์สันดาปธรรมดาและไฮบริด ส่วนในฝั่งของตลาดมือสองจากการสำรวจใน Chobrod.com มี Nissan X-trail ลงขายอยู่รวมกว่า 150 คัน โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 750,000 บาท **สำรวจเมื่อ 08/2018
ราคาเริ่มต้นในแบบมือสองของรุ่นนี้อยู่ที่ 750,000 บาท เท่านั้น
ซื้อ Nissan X-Trail มือสองดีไหม ? การเลือกซื้อมือสองสำหรับ Nissan X-Trail ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจระดับหนึ่งเลย เพราะคุณจะได้รถที่ปีไม่เก่ามาก ถ้าเจอคันที่วิ่งน้อยสภาพไม่โทรมหนักเกินไปยิ่งดีก็ไม่ต่างกับได้รถใหม่ป้ายแดงที่ประหยัดเงินในกระเป๋าได้หลายแสน จากรถที่ราคาเกินล้านตอนป้ายแดงมาตอนนี้ในแบบมือสองราคาตกลงมาก เป็นโอกาสดีที่คุณจะได้รถที่พร้อมด้วยอ๊อพชั่นอุปกรณ์ต่าง ๆ ครบครัน
เรื่องการใช้งาน เหมาะมากสำหรับการจะเป็นรถสำหรับครอบครัวอย่างแท้จริง จำนวนเบาะ 7 ที่นั่ง 3 แถวนั่งสบาย ๆ แม้เบาะแถว 3 พื้นที่จะเล็กไปสักหน่อย นั่งนาน ๆ อาจมีเมื่อยสำหรับผู้ใหญ่ ควรไล่ให้เด็ก ๆ ไปนั่งหรือใช้เก็บสัมภาระมากกว่า ช่องแอร์หลังมีมาให้สำหรับเบาะแถว 2 ระบบความปลอดภัยพอรับได้แม้จะไม่มีม่านถุงลม หลังคาซันรูฟกว้าง ๆ ให้ความรู้สึกถึงความพิเศษได้กับทุกคนที่โดยสาร เรียกได้ว่าพร้อมสรรพทุกความต้องการที่รถ SUV น้ำดีสักคันจะสามารถให้ได้
Nissan X-Trail ถือเป็นรถอีกหนึ่งคันน่าซื้อในแบบมือสอง เพราะราคาตกเร็วกว่ารถตลาดรุ่นอื่น
ดูเพิ่มเติม \>> เปิด Warp! เส้นทางลัด 4 ภูมิภาคเลี่ยงรถติด Confirm! ถึงเร็วก่อนใครๆ \>> สงสัยกันไหมทำไมฮอนด้าไม่มีรถกระบะ แล้วisuzu ไม่มีรถเก๋ง
ส่วน nissan x-trail ปัญหา พบว่า จะมีเรื่องของ “เกียร์” ถือเป็นส่วนสำคัญที่รถรุ่นนี้ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ทุก 20,000 กิโลเมตรจะช่วยทำป้องกันอาการเสียที่เกิดตรงจุดนี้ได้ โดยปัญหา nissan x-trail จากผู้ใช้รถรุ่นนี้พบว่า เกียร์ของ X-Trail ค่อนข้างเปาะบางอ่อนแอ ถ้าปล่อยให้ใช้น้ำมันเกียร์สกปรกนาน ๆ อาจทำให้ชิ้นส่วนภายในเกิดความเสียหายรุนแรงพังก่อนเวลาอันควร อย่าปล่อยเลยวิ่งใช้งานไปจนถึง 100,000 กิโลเมตรค่อยเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ และสำหรับคุณถ้าซื้อรุ่นนี้ในแบบมือสองรุ่นนี้ หลังจากรับรถสิ่งแรกที่ควรทำคือการเปลี่ยนถ่ายของเหลวตามจุดต่าง ๆ ทันที ทั้งน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์หรือของเหลวส่วนอื่น ๆ นอกจากนี้ใน Nissan X-Trail ผู้ใช้หลายคนยังมีบ่นถึงเรื่องของ “เสียง” จากภายในห้องโดยสารที่อาจทำให้ผู้ขับขี่หงุดหงิดจากงานประกอบไม่ค่อยสมบูรณ์ (สำหรับบางคัน) แต่สามารถนำเข้าไปแก้ไข้ได้ที่ศูนย์บริการ
และทั้งหมดคือเรื่องที่คุณควรรู้ก่อนที่จะซื้อรถ Nissan X-Trail มือสอง น่าจะพอเป็นไอเดียให้กับคุณได้ไม่มากก็น้อย สำหรับคนที่สนใจในรถรุ่นนี้ Nissan X-Trail ในแบบมือสอง ซื้อดีไหม ? น่าซื้อไหม ? คำตอบของคำถามนี้ ถ้าใจคุณเอนเอียงไปแล้วเกิน 50% คำตอบที่ได้ก็คงจะเป็น “น่าซื้อ” จงซื้อเถอะอย่ารอมัวแต่ลังเลอีกเลย เพราะถือเป็นรุ่นหนึ่งที่ปัญหาการใช้งานไม่ค่อยจุดจิกมากนัก ถ้าได้ในแบบมือสองมาแล้วซ่อมดีซ่อมถึงจากศูนย์หรืออู่นอกที่จบปัญหาได้จริง รวมไปถึงการดูแลบำรุงรักษาทำอย่างต่อเนื่องไม่ขาด Nissan X-Trail คันนี้จะกลายเป็นรถอีกคันที่คุณต้องรักอย่างแน่นอน
Chobrodขอฝากความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไว้เพียงเท่านี้และอย่าลืมแชร์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ของคุณให้เราด้วยโดยการให้ Comment ด้านล่างนี้ได้เลย