- เราบอกได้เลยว่านี่เป็นหนังที่น่ารัก อบอุ่น ละมุนและอ่อนโยนที่สุด(เปรียบเสมือนรอยยิ้มของ เบลล์ เขมิศรา ไม่ใช่ ผิด!!) เป็น Anti - Bullying แห่งปี ถ้าใครกำลังลังเลว่า Wonder มันดีสมราคาที่เขาว่ากันไว้ไหม แนะนำเลยครับ แม้จะไม่ใช่หนังที่ Prefect สมบูรณ์ แต่ก็เป็นหนังที่เรารู้สึกอบอุ่นและประทับใจสุดๆ #โคตรรักและโคตรเชียร์
- Wonder ว่าด้วยเรื่องของ Auggie (Jacob Tremblay) เป็นเด็กที่เกิดมาพร้อมโรค Treacher Collins syndrome ผ่านการผ่าตัดมากว่า 27 ครั้ง ทำให้มีใบหน้าแปลกประหลาดกว่าคนปกติ เขาเรียนหนังสือที่บ้านโดยมี Isabel (Julia Roberts) คุณแม่เป็นครูสอนจนอายุได้ 10 ขวบ แม่ของเขาจึงตัดสินใจส่งเข้าศึกษาในโรงเรียนที่ซึ่งทำให้เขาต้องเข้าสังคมครั้งแรก ที่ๆมีทั้งมิตรภาพและการกลั่นแกล้งที่เขาจะต้องผ่านมันไปให้ได้ โดยมีกำลังใจดี ๆ จาก Nate (Owen Wilson) คุณพ่ออารมณ์ดี และ Vai (Izabela Vidovic) พี่สาวที่คอยเคียงข้างเสมอ
- เพราะระบบสุริยะไม่ได้มีแค่ดวงอาทิตย์ดวงเดียว ตัวหนังไม่ได้เล่ามุมมองของตัวละครของ Auggie แค่คนเดียว ยังมีการพูดถึงดาวเคราะห์ต่างๆที่โคจรอยู่รอบตัวของ Auggie ด้วย จึงทำให้เราได้เห็นมุมมองต่างๆของตัวละครอื่นๆ อย่างเพื่อนๆ พี่สาว พ่อแม่ คนรอบข้าง ซึ่งในทุกๆเรื่องต่างก็มีที่มาที่ไปและเหตุผลของตัวมันเอง มันจึงเป็นจุดที่น่าสนใจและสนุกเอามากๆ
- Wonder ยังบอกเล่าเรื่องราวของการ Bullying ซึ่งเอาจริงๆเรื่องพวกนี้มันเหมือนเรื่องธรรมดาที่เราพบเห็นได้บ่อย แต่จริงๆมันเป็นเรื่องที่ลึกซึ้งและยิ่งใหญ่มากๆ ในวัยเด็กของเรา เรามักจะเห็น เจ้า A โดนไอ้เจ้า B,C แกล้ง แล้วเจ้า D เป็นเพื่อนของ B C จึงคิดว่าไอ้ B C ที่เป็นเพื่อนของเรายังแกล้ง A ได้เลย ทำไมเราจะแกล้งไม่ได้ แล้วมันจะเป็นอย่างนี้ มันจะเกิดการแกล้งเป็นทอดๆต่อไป ซึ้งนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ดีเอาซะเลย ซึ่งก็จะคล้ายๆกับ Auggie เขาคงรู้สึกเจ็บปวดกับการล้อเลียน ตัวละคร Auggie ผ่านการผ่าตัดมากว่า 27 ครั้ง แต่คงเจ็บปวดน้อยกว่าการโดนด่าว่าไอ้หน้าผีเพียงครั้งเดียว ถ้าเราย้อนเวลากลับไปได้เราอยากจะเอาหนังเรื่องนี้ไปให้ตัวเองในวัยเด็กดูเหลือเกิน แล้วเราก็จะเรียกเด็กคะนองแถวบ้านให้มาดูด้วย ว่าการกลั่นแกล้ง ล้อเลียน ใครสักคนมันเป็นการทำร้ายเขาขนาดไหน มันจะดีกว่าไหมถ้าเราได้เล่นสนุกด้วยกัน ดีกว่ามาแกล้งกัน ซึ่งตรงจุดนี้ตัวหนังถ่ายทอดออกมาได้ดีเอามากๆ
หนังเล่าเรื่องผ่านเด็กหนุ่ม อ๊อกกี้ (เจค็อบ เทรมเบลย์) ในวัย 10 ปี ที่มีความพิเศษกว่าเด็กทั่วไปคือ มีใบหน้าที่ผิดปกติ ซึ่งมีสาเหตุมาจากโรคเทรเชอร์ คอลลินส์ โรคทางพันธุกรรมหายาก อย่างไรก็ดีเขาต้องพบเจอกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่คือการเข้าเรียนที่โรงเรียนเหมือนเด็กทั่วไป เพราะที่ผ่านมาเขาอยู่ในเซฟโซนและเรียนหนังสือแบบโฮมสคูลมาโดยตลอด นับเป็นจุดสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของตัวละครที่ต้องก้าวออกมาเจอสังคมภายนอก หรือโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งเขาต้องปรับตัวและหาเพื่อนในโรงเรียนให้ได้
เป็นหนังที่มีฉากเรียกน้ำตาและความสะใจได้หลายฉากมาก ข้อคิดสำคัญที่ได้จากเรื่องนี้คือ เด็กจะโตมาอย่างไรขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดู และการปลูกฝังค่านิยมของครอบครัวแม้จะแตกต่างไม่เหมือนใครแต่ก็มีความดีงามในตัวได้
หนังเล่นกับประเด็นการมองคนจากภายนอกทั้งๆที่บางคนเองก็ไม่ได้มีชีวิตที่ดีไปกว่าเขา ซึ่งนี่กระแทกใจอย่างแรง ถือว่าหนังทำให้แบบถึงใจ ทัชใจ ประทับใจ เรียกว่าครบรสมีน้ำตา มีเสียงเฮฮา มีความน่ารัก และที่สำคัญมีนักแสดงชั้นนำในดวงใจใครหลายคน อย่าง “จูเลีย โรเบิร์ตส์” มารับบทได้ทรงพลังมากๆ
ส่วนเจ้าหนู “เจค็อป” ก็แสดงได้ดี ทั้งน่ารักและน่าสงสารเรียกว่าบทดี บทส่งมากๆ สรุปคือ "Wonder" ควรค่าแก่การดูมาก เนื้อเรื่องทัชใจ ทุกๆอย่างลงตัว และจุดประกายความคิดได้ดีไม่รู้จะอวยอะไรแล้วสรุปคืออยากให้ทุกคนไปดูค่ะ