ฉบับย่อ:
- ประเทศญี่ปุ่นเปิดรับชาวต่างชาติให้เข้ามาทำงานในตำแหน่งทักษะเฉพาะที่กำลังขาดแคลนอยู่อย่างหลากหลาย
- วิธีการไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นที่ง่ายที่สุดคือการไปศึกษาต่อ เพื่อรับ VISA นักเรียน เมื่อเรียนจบก็จะขอทำงานต่อในประเทศญี่ปุ่นได้ในทันที
- ฐานเงินเดือนของการทำงานในประเทศญี่ปุ่นขึ้นอยู่กับอาชีพ แต่โดยพื้นฐานแล้วหากจบการศึกษาระดับปริญญาตรีไม่มีประสบการณ์จะอยู่ที่ประมาณ 199,600 เยน / เดือน และปรับขึ้นเมื่ออายุงานเพิ่มขึ้นตามเกณฑ์ของบริษัท
- การหักภาษีเงินได้ในประเทศญี่ปุ่นเป็นแบบขั้นบันได 5-45% แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 10% / ปี และภาษีบำรุงเมือง 10% ในกรณีที่รายได้ถึงเกณฑ์ที่กำหนดเอาไว้
อยากหางานทำที่ญี่ปุ่น ก่อนอื่นมารู้จักกับฐานเงินเดือนและค่าครองชีพกันก่อน ว่ามีอะไรต้อง
หลายคนอาจคิดว่าการหางานทำที่ญี่ปุ่นเป็นเรื่องยาก…
แต่.. ที่สิ่งที่ชวนให้ปวดหัวกันมากที่สุด อาจเป็นเรื่องของเงินเดือนและค่าครองชีพ กับรายจ่ายอีกหลายประการที่อาจไม่เคยทราบมาก่อน
ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการหางานทำที่ญี่ปุ่น ลองมาทำความรู้จักกับฐานเงินเดือนและรายจ่ายจำเป็นต่างในการทำงาน ณ ประเทศญี่ปุ่นนั้นจะมีอะไรกันบ้าง!?
ทำงานที่ญี่ปุ่นมีงานอะไรบ้างที่เปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติเข้าไปทำงาน?
สำหรับงานทั่วไปที่ชาวต่างชาตินิยมสมัครเข้าไปทำงาน ณ ประเทศญี่ปุ่น สามารถสรุปออกเป็นประเภทงานต่าง ๆ ได้ดังต่อไปนี้
- วิศวกร บริษัทในประเทศญี่ปุ่นจำนวนมากเปิดรับตำแหน่งงานทางด้านวิศวกรสำหรับชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก
- เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาในเรื่องการปรับปรุงความรวดเร็วในการส่งเทคโนโลยีสารสนเทศไปยังต่างประเทศ
- ครูสอนภาษาอังกฤษ ถึงแม้ว่าอาจไม่ได้รับค่าตอบแทนที่คุ้มค่านัก แต่หลายคนก็ตัดสินใจไปทำงานอาชีพนี้ในประเทศญี่ปุ่น เพื่อแลกกับประสบการณ์ในต่างแดนที่แสนล้ำค่านั่นเอง
- พนักงานในสำนักงานทั่วไป เป็นอาชีพที่คนไทยที่เดินทางไปศึกษาต่อในประเทศญี่ปุ่นให้ความนิยมเป็นอย่างมาก และยังมีการจ้างชาวต่างชาติมาเป็นที่ปรึกษาเพื่อปรับปรุงแผนขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศอีกด้วย
- อุตสาหกรรมบริการ ที่เกี่ยวข้องกับร้านอาหาร ศูนย์ให้บริการทางด้านความบันเทิงทั่วไป
- พนักงานขาย ทำหน้าที่ทำการตลาดระหว่างบริษัท กับบริษัทของชาวต่างชาติที่ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น
- นักวิจัย ประเทศญี่ปุ่นติดอันดับต้น ๆ ของโลกในเรื่องของการวิจัยและพัฒนาในด้านต่าง ๆ ทำให้มีการจ้างนักวิจัยชาวต่างชาติเพื่อทำงานระยะสั้นในประเทศญี่ปุ่น
วิธีหางานทำในประเทศญี่ปุ่น สำหรับคนที่ต้องการสมัครงานด้วยตัวเอง
สำหรับคนที่มีความต้องการอยากที่จะเดินทางไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ก็สามารถที่จะทำการมองหาและสมัครงานในประเทศญี่ปุ่นได้ด้วยตัวเองผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่มีความน่าสนใจดังต่อไปนี้
1.สมัครทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นผ่านเว็บไซต์หางาน ที่มีบริการชาวต่างชาติโดยเฉพาะ แต่มักจะไม่ค่อยมีเจ้าหน้าที่ทำการสนับสนุนในการจัดหางานอย่างเหมาะสม
2.สมัครทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นผ่านบริการจัดหาบุคลากร เหมาะกับคนที่มีประสบการณ์และทักษะเฉพาะ ในการจัดหางาน นัดหมายและเงื่อนไขข้อตกลงต่าง ๆ ส่วนข้อเสียคือบริษัทเหล่านี้มักให้ความสำคัญกับชาวญี่ปุ่นก่อนเป็นอันดับแรก
3.สมัครทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นผ่านบริการคนกลางหางานของรัฐบาลญี่ปุ่น สามารถใช้บริการโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่มีข้อจำกัดในเรื่องของสาขาและช่วงเวลาในการให้บริการ
4.สมัครทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นผ่านเว็บไซต์ของบริษัทโดยตรง เป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุด แต่ในขณะเดียวกันก็มักจะไม่สามารถทราบได้ว่าตำแหน่งที่เปิดรับเต็มแล้วหรือยัง
5.สมัครทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นผ่านคำแนะนำของสถานศึกษา ศูนย์อาชีพของสถาบันศึกษาในประเทศญี่ปุ่นจะให้คำปรึกษาในด้านของอาชีพ แต่มีข้อด้อยคือหากรับข้อเสนอแล้วต้องเข้าทำงาน ไม่สามารถรับข้อเสนอจากหลายบริษัทได้
6.สมัครทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นผ่าน JOB Fair มีลักษณะคล้ายกับมหกรรมจัดหางานในประเทศไทย หลาย ๆ บริษัทของญี่ปุ่นจะมารวมตัวกันเพื่อจัดงานทำให้มีตัวเลือกในการทำงานที่หลากหลาย แต่เนื่องจากมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากทำให้ไม่มีเวลาพูดคุยสอบถามอย่างละเอียด
7.สมัครทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะในปัจจุบันบริษัทจำนวนมากได้หันมาใช้ช่องทางนี้ในการประกาศรับสมัครงานมากขึ้น แต่ข้อเสียคือประเภทของงานส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นแบบงานประจำและมีข้อมูลน้อย เนื่องจากข้อจำกัดของแพลตฟอร์มต่าง ๆ
การขอวีซ่าสำหรับทำงานในบริษัทญี่ปุ่นยากไหม!?
สำหรับคนที่มีทักษะความเชี่ยวชาญในสายงานของตัวเองและเป็นที่ต้องการของบริษัทในญี่ปุ่น สามารถที่จะขอวีซ่าสำหรับการทำงานในประเทศญี่ปุ่นได้ไม่ยาก แต่โดยส่วนใหญ่แล้วคนไทยที่สมัครเข้าทำงานกับบริษัทญี่ปุ่นมักจะเป็นนักศึกษาที่ไปเรียนต่อในประเทศญี่ปุ่น แล้วทำการสมัครทำงานต่อมากกว่า ซึ่งการสมัครเข้าทำงานในลักษณะนี้จะนับว่าเป็นหนักงานคนหนึ่งของบริษัทที่ได้รับค่าจ้าง สวัสดิการและความคุ้มครองทางกฎหมายของญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน
วิธีง่ายดายที่สุดในการเดินทางไปทำงาน ณ ประเทศญี่ปุ่น
ถ้าหากมีความต้องการอยากที่จะเดินทางไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นและมีโอกาสที่จะได้รับการจ้างงานมากที่สุดก็คือ “การเดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น” หรือการ “ไปเรียนภาษา” เพื่อที่จะได้รับ VISA นักเรียน ที่ช่วยให้สามารถทำงานแบบ Part Time ในประเทศญี่ปุ่นได้ แต่การทำงานดังกล่าวก็จะถูกจำกัดจำนวนของชั่วโมงที่สามารถทำได้เอาไว้และยังเสียค่าใช้จ่ายในการไปเรียนต่อก็ค่อนข้างที่จะสูงพอสมควร
อย่างไรก็ตาม หากเดินทางไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่นจนกระทั่งจบการศึกษาก็จะมีโอกาสในการสมัครงานเพื่อทำงานในประเทศญี่ปุ่นต่อไปได้ ซึ่งควรมองหางานทำให้ในประเทศญี่ปุ่นให้ได้เสียก่อน เพื่อที่จะได้นำหนังสือตอบรับการเข้าทำงานจากบริษัทไปยื่นประกอบการขอ “VISA ทำงานในประเทศญี่ปุ่น” ได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง
ฐานเงินเดือนที่ควรได้รับสำหรับคนที่หางานทำในประเทศญี่ปุ่น (*โดยเฉลี่ย)
โดยพื้นฐานแล้ว รายได้โดยเฉลี่ยของคนญี่ปุ่นจะอยู่ที่ประมาณ 253,000 เบน / เดือน โดยคนที่อยู่ในเมืองโตเกียวจะมีรายได้เฉลี่ยมากกว่าในจังหวัดอื่น หรือประมาณ 310,900 เยน ส่วนอาชีพอื่นนั้น จะมีรายได้โดยเฉลี่ยอ้างอิงจากตารางดังต่อไปนี้ครับ
อาชีพ | ฐานเงินเดือนโดยเฉลี่ย (เยน) |
ระดับปริญญาตรี (จบใหม่) | 199,600 |
ระดับปริญญาโท-เอก (จบใหม่) | 226,100 |
งานด้านสายก่อสร้าง | 242,600 – 348,200 |
งานด้านสายการผลิต | 215,500 – 318,500 |
งานด้านการสื่อสาร | 300,000 – 392,500 |
งานขนส่งและไปรษณีย์ | 226,000 – 284,500 |
งานค้าปลีกและค้าส่ง | 232,500 – 344,800 |
งานด้านการเงินและธนาคาร | 274,000 – 466,400 |
งานด้านนักวิจัยและเทคนิค | 289,400 – 397,800 |
งานด้านบริการในโรงแรมและร้านอาหาร | 196,700 – 271,100 |
งานด้านบริการอื่นๆ | 213,800 – 288,400 |
งานด้านการศึกษา | 304,200 – 435,000 |
งานด้านการแพทย์และพยาบาล | 254,400 – 343,400 |
อัตราเงินเดือนเฉลี่ยในช่วงอายุ ที่คนอยากหางานทำที่ญี่ปุ่นควรทราบ
นอกจากรายได้ในสายงานอาชีพที่ได้กล่าวถึงกันไปแล้วในตอนต้น เมื่อทำงานระยะเวลาผ่านไปนานหลายปี ก็จะมีระดับของฐานเงินเดือนที่มากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน สำหรับฐานเงินเดือนแต่ละช่วงอายุโดยเฉลี่ยในการหางานทำที่ประเทศญี่ปุ่น มีข้อมูลที่น่าสนใจตามตารางดังต่อไปนี้
อายุ (ปี) | รายได้เฉลี่ย (เยน) |
20 – 24 | 191,300 |
25-29 | 218,400 |
30-34 | 251,300 |
35-39 | 279,100 |
40-44 | 314,100 |
45-49 | 333,600 |
50-54 | 356,300 |
55-59 | 356,500 |
60-64 | 225,200 |
65-69 | 185,500 |
การหักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่คนหางานทำที่ญี่ปุ่นควรทราบ
การหักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในประเทศญี่ปุ่นจะมีลักษณะเป็นขั้นบันไดเหมือนกับในประเทศไทย โดยเริ่มต้นที่ 5% และสูงสุดที่ 45% หากมีรายได้โดยเฉลี่ยเหมือนกับข้อมูลที่ได้แนะนำไปแล้วในตารางข้างต้นส่วนใหญ่แล้วมักจะเสียภาษีอยู่ที่ประมาณ 10% ต่อเงินเดือนประมาณ 3,040,000 เยน / ปี เท่านั้น ดังนั้น ไม่ต้องตกใจจนเกินไปนัก
ภาษีบำรุงเมือง อีกรายจ่ายควรรู้สำหรับคนหางานทำที่ญี่ปุ่น
สำหรับคนไทย ชื่อของภาษีบำรุงเมืองอาจฟังไม่ค่อยคุ้นหูนัก แต่ในประเทศญี่ปุ่นเมื่อมีรายได้ถึงเกณฑ์ที่กำหนดเอาไว้จะต้องทำการเสียภาษีบำรุงเมืองเพื่อนำไปใช้ฝนการพัฒนาท้องถิ่นที่อยู่อาศัยของตัวเอง โดยมีอัตราที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับมาตรฐานของเมือง ส่วนใหญ่ภาษีนี้จะถูกเก็บที่ 10% โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ภาษีสำหรับจังหวัด 6% และภาษีสำหรับเมืองที่อยู่อาศัยอีก 4%
ภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าใช้จ่ายประจำวันของคนที่หางานทำที่ญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่นมีการคิดภาษีมูลค่าเพิ่มที่ค่อนข้างถูกหากเปรียบเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วในระดับเดียวกัน ในปลายปี 2019 ภาษีมูลค่าเพิ่มของญี่ปุ่นอยู่ที่ประมาณ 10% เท่านั้น
เรื่องที่ควรรู้เพิ่มเติมก่อนตัดสินใจไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น
หากมองเพียงแค่เม็ดเงินที่ได้รับตอบแทนมา เชื่อว่ามันคงเพียงพอที่จะเป็นสิ่งจูงใจให้หลาย ๆ คนอยากที่จะเดินทางไปทำงาน ณ ประเทศญี่ปุ่นนั้น โอกาสที่ชาวต่างชาติจะได้ทำงานใน “สถานะเท่าเทียมกับคนญี่ปุ่นมีน้อย” เนื่องจากชาวญี่ปุ่นจะมองชาวต่างชาติในฐานะของ “ผู้ช่วย” เพราะชาวญี่ปุ่นมักที่จะนิยมทำงานที่สำคัญมากด้วยตัวเอง
นอกจากนี้ ชาวญี่ปุ่นยังมีความเป็นชาตินิยมสูง ทำให้มักเลือกให้ความสำคัญกับชาวญี่ปุ่นด้วยกันเองก่อนชาวต่างชาติ จึงไม่ใช่เรื่องชวนแปลกใจที่หากตำแหน่งงานเดียวกัน คุณสมบัติของผู้สมัครใกล้เคียงกันบริษัทในประเทศญี่ปุ่นก็มักที่จะตอบรับชาวญี่ปุ่นด้วยกันเองก่อนนั่นเอง
ค่าครองชีพในประเทศญี่ปุ่นค่อนข้างมีหลายอย่าง แล้วจะคุ้มค่ากับค่าจ้างที่ได้มาหรือเปล่าคะ?
ถึงค่าใช้จ่ายที่ถูกเก็บการทำงานในญี่ปุ่นจะมีหลายอย่าง แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าค่าตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อเช่นกัน
ก่อนเดินทางไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น การปูพื้นฐานภาษาให้แน่นรับรองช่วยเพิ่มโอกาสได้งาน!
ภาษาญี่ปุ่น เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากในการเดินทางไปทำงาน ณ ประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังสร้างความได้เปรียบมากกว่าผู้สมัครคนอื่นที่พูดได้เฉพาะภาษาอังกฤษอีกด้วย ถ้าหากใครอยากที่จะทำการเรียนภาษาญี่ปุ่นให้แน่น เข้าใจง่ายและมีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาโดยเฉพาะ ขอแนะนำให้ลองพิจารณา 3 สถาบันชั้นนำ ดังต่อไปนี้กัน
1.สถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น Berlitz Thailand
ภาพจาก : www.facebook.com/berlitzthailandofficial/
สถาบันสอนภาษา Berlitz Thailand (แบร์ลิซท์ ไทยแลนด์) เป็นหนึ่งในสถาบันสอนภาษาที่มีคอร์สเรียนทันสมัยผ่านระบบออนไลน์สำหรับคนที่มีความต้องการอยากที่จะเรียนภาษาญี่ปุ่น โดยมีจุดเด่นในเรื่องของความง่ายและสนุกกับการเรียนที่สนุก เนื้อหาที่ผู้เรียนสามารถปรับแต่งกำหนดบทเรียนได้จากอาจารย์สอนภาษาผู้เชี่ยวชาญ เลือกความสะดวกในการเข้าเรียนของตัวเองและฝึกพูดกับอาจารย์ผู้สอน เพื่อให้ผู้เรียนได้รับผลประโยชน์จากการเรียนรู้อย่างสูงสุด
พร้อม 3 คอร์สเรียนที่เลือกได้ เช่น Berlitz Connect กำหนดบทเรียนได้เอง Berlitz Live Online (เรียนเดี่ยว) เรียนรู้ภาษาโดยการโต้ตอบกับผู้สอนแบบตัวต่อตัว เน้นการพัฒนาและแก้ไขเฉพาะจุดที่ต้องการ และ Berlitz Live Online (กลุ่มเล็ก) คลาสเรียนออนไลน์ที่สอนโดยอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษาญี่ปุ่น เพิ่มโอกาสได้เรียนรู้เพิ่มเติมจากนักเรียนของสถาบันสอนภาษา Berlitz จากประเทศอื่น ๆ
สมัครคอร์สเรียนภาษาญี่ปุ่นกับ Berlitz วันนี้ พร้อมรับส่วนลดทันที! ข้อเสนอดี ๆ แบบนี้ไม่ควรพลาด!!!
เพียงสมัคร “คอร์สเรียนภาษาญี่ปุ่น” กับสถาบันสอนภาษา Berlitz วันนี้ ผ่าน //bit.ly/3xLrhwf หรือสแกน QR Code ด้านล่างนี้ พร้อมกรอกรหัส JPDJ2022 รับส่วนลดฟรีทันที!
***ส่วนลดนี้ ใช้สำหรับหลักสูตรสอนภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น!
2.สถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น OKLS
ภาพจาก : www.facebook.com/OKLSschool
สถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น OKLS เปิดสอนภาษkญี่ปุ่นสำหรับบุคคลทั่วไป โดยเน้นให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ที่ได้รับมาใช้สนทนาในชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายดายมากขึ้น สอนโดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษาญี่ปุ่นที่ได้รับการฝึกอบรมและคัดสรรมาเป็นอย่างดี พร้อมกับใช้ตำราเรียน Minna no Nihongo ที่มีเนื้อหาสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีการวัดผล ความรู้ ความเข้าใจและทักษะของภาษาญี่ปุ่นของผู้เข้าเรียน โดยมีให้เลือกเรียน 8 สาขา ครอบคลุมทั่วเขตกรุงเทพฯ
3.สถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น Success Language
www.successlanguages.com
สถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น Success Language (ศูนย์ภาษาซัคเซส) เน้นการฝึกอบรมภาษาคุณภาพสูงในพื้นที่ของจังหวัดชลบุรี ที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการ สอนภาษาญี่ปุ่นโดยอาจารย์ผู้สอนเจ้าของภาษาที่มีประสบการณ์ ผ่านการฝึกสนทนาโต้ตอบ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้นำสิ่งที่ได้เรียนรู้มาใช้ในสถานการณ์จริง ทั้งแบบส่วนตัว กลุ่มย่อยและนอกสถานที่
ในปัจจุบันทางสถาบันได้มีบริการแพลตฟอร์มเรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อำนวยความสะดวกให้ผู้เรียนเข้าเรียนได้จากทุกสถานที่เหมือนกับมีอาจารย์ผู้สอนส่วนตัวอยู่ในห้องนั่งเล่นโดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปเรียนที่สถาบันสอนภาษา ด้วยหลักสูตรจุใจถึง 120 ชั่วโมง
บทสรุปส่งท้าย : ตัดสินใจไปหางานทำที่ญี่ปุ่นดีไหม!?
การมาทำงาน ณ ประเทศญี่ปุ่น…
นอกจากจะได้รับค่าตอบแทนที่สูงมากกว่าการทำงานประเทศไทยเป็นอย่างมากแล้ว ก็ยังเป็นการเปิดโอกาสให้พัฒนาทักษะการทำงาน รวมไปถึงภาษาญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี
แถมถ้าหากทราบฐานเงินเดือนและรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในข้างต้น รับรองว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยคำนวณได้เป็นอย่างดีว่าการไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น คุ้มค่าหรือเปล่าอย่างแน่นอน…