จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
กมรเตงอัญศรีอินทรบดินทราทิตย์ |
พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย |
พ.ศ. 1781 - พ.ศ. 1811 (30 ปี)[1] |
สถาปนาอาณาจักร ก่อนหน้านั้นเป็นส่วนหนึ่งของ อาณาจักรละโว้ |
พ่อขุนบานเมือง |
นางเสือง |
พ่อขุนบานเมือง พ่อขุนรามคำแหงมหาราช พระราชโอรสอีกพระองค์ และพระราชธิดาอีกสามพระองค์ |
พระร่วง |
พ.ศ. 1731 เมืองบางยาง |
พ.ศ. 1811 (80 พรรษา) อาณาจักรสุโขทัย |
มหายาน[2] |
พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ หรือพระนามเต็ม กมรเตงอัญศรีอินทรบดินทราทิตย์ พระนามเดิม "พ่อขุนบางกลางหาว" เป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วง ตามประวัติศาสตร์ไทย ทรงครองราชย์ตั้งแต่ พ.ศ. 1781 ตราบจนเสด็จสวรรคตเมื่อ พ.ศ. 1811[1]
พระนาม[แก้]
- บางกลางหาว
- พ่อขุนบางกลางหาว
- พ่อขุนศรีอินทราทิตย์
- พระร่วง
- พระอินทราชา
- อรุณราช
- ไสยรังคราช หรือไสยรังคราชา
- ไสยนรงคราช
- รังคราช หรือสุรังคราช
- พระร่วง หรือโรจนราช
สำหรับพระนามแรก คือ พ่อขุนบางกลางหาว นั้นเป็นพระนามดั้งเดิมเมื่อครั้งเป็น เจ้าเมืองบางยาง เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า พ่อขุนบางกลางหาวเป็น พระนามสมัยเป็นเจ้าเมืองบางยาง โดยแท้จริง
พระนามที่สองนั้น เป็นพระนามแบบทางการตามอย่างราชประเพณีเขมร เป็นพระนามทรงใช้เมื่อเข้ารับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแล้ว พระนาม "ศรีอินทราทิตย์" มีกล่าวไว้อยู่ในศิลาจารึกหลักที่ 2 วัดศรีชุมว่า "ศรีอินทรปตินทราทิตย" ซึ่งเป็นพระนามเกียรติยศที่พระเจ้าแผ่นดินเขมรแต่โบราณสถาปนาให้แก่พ่อขุนผาเมืององค์รัชทายาทผู้ครองเชลียงสุกโขไทในราชวงศ์ศรีนาวนำถม ต่อมาภายหลังพ่อขุนผาเมืองทรงยกให้แก่พระสหายพ่อขุนบางกลางหาวแทน
พระราชกรณียกิจ[แก้]
พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ |
พ่อขุนบานเมือง |
พ่อขุนรามคำแหงมหาราช |
พระยาเลอไทย |
พระยางั่วนำถุม |
พระมหาธรรมราชาที่ 1 |
พระมหาธรรมราชาที่ 2 |
พระมหาธรรมราชาที่ 3 |
พระมหาธรรมราชาที่ 4 |
|
คือ พ่อขุนศรีอินทราทิตย์เมื่อครั้งยังเป็นพ่อขุนบางกลางหาวได้ร่วมมือกับพ่อขุนผาเมือง เจ้าเมืองราดแห่งราชวงศ์ศรีนาวนำถุม รวมกำลังพลกัน กระทำรัฐประหารขอมสบาดโขลญลำพง โดยพ่อขุนบางกลางหาวตีเมืองศรีสัชนาลัยและเมืองบางขลงได้ และยกทั้งสองเมืองให้พ่อขุนผาเมือง ส่วนพ่อขุนผาเมืองตีเมืองสุโขทัยได้ ก็ได้มอบเมืองสุโขทัยให้พ่อขุนบางกลางหาว พร้อมพระขรรค์ชัยศรีและพระนาม "ศรีอินทรบดินทราทิตย์" ซึ่งได้นำมาใช้เป็นพระนาม ภายหลังได้คลายเป็น ศรีอินทราทิตย์ การเข้ามาครองสุโขทัยของพระองค์ ส่งผลให้ราชวงศ์พระร่วงเข้ามามีอิทธิพลในเขตนครสุโขทัยเพิ่มมากขึ้น และได้แผ่ขยายดินแดนกว้างขวางมากออกไป แต่เขตแดนเมืองสรลวงสองแคว ก็ยังคงเป็นฐานกำลังของราชวงศ์ศรีนาวนำถุมอยู่
ในกลางรัชสมัย ทรงมีสงครามกับขุนสามชน เจ้าเมืองฉอด ทรงชนช้างกับขุนสามชน แต่ไพร่พลของพระองค์ ได้เตลิดหนีดังคำในศิลาจารึกว่า "ไพร่ฟ้าหน้าใสพ่อกู หนีญญ่ายพ่ายจแจ๋น"(หนี-ยอ-ย่าย-พ่าย-จอ-แจ้น) ขณะนั้นพระโอรสองค์เล็ก (รามราช) มีพระปรีชาสามารถ ได้ขับช้างแซงขึ้นไปชนช้างชนะขุนสามชน ภายหลังจึงทรงเฉลิมพระนามพระโอรสว่ารามคำแหง
ในยุคประวัติศาสตร์ชาตินิยม มีคติหนึ่งที่เชื่อกันว่า พระองค์ทรงเป็นผู้นำชาวสยามต่อสู้กับอิทธิพลขอมในสุวรรณภูมิ ทรงได้ชัยชนะและประกาศอิสรภาพตั้งราชอาณาจักรสุโขทัยขึ้น และทรงเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรไทย แต่ภายหลัง คติดังกล่าวได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่จริง เพราะพระองค์ไม่ได้เป็นปฐมกษัตริย์ อีกทั้งยังมีพ่อขุนศรีนาวนำถุม ครองสุโขทัยอยู่ก่อนแล้ว
พระราชวงศ์[แก้]
พ่อขุนศรีอินทราทิตย์มีพระราชโอรสและพระราชธิดารวม 5 พระองค์ ได้แก่
- พระราชโอรสองค์ใหญ่ (ไม่ปรากฏพระนาม) สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์
- พ่อขุนบานเมือง
- พ่อขุนรามคำแหงมหาราช หรือ พ่อขุนรามราช (พระนามเดิมชื่อพระราม)
- พระราชธิดา (ไม่ปรากฏพระนาม)
- พระราชธิดา (ไม่ปรากฏพระนาม)
แม้ไม่ทราบแน่นอนว่าพระองค์เสด็จสวรรคตในปีใด แต่ภายหลังจากพระองค์เสด็จสวรรคตแล้ว พ่อขุนบานเมือง พระราชโอรสพระองค์รอง ได้สืบราชสมบัติแทน
อ้างอิง[แก้]
- ↑ 1.0 1.1 นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย, หน้า 19
- ↑ บำรุง คำเอก (พฤษภาคม–สิงหาคม 2558). "อิทธิพลศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น". Veridian E-Journal (8:2), หน้า 2404
บรรณานุกรม[แก้]
- ประเสริฐ ณ นคร. พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ สารานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. เล่ม 26. หน้า 16861-16864 พ.ศ. 2549
- มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา. นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย. กรุงเทพฯ : มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา, 2554. 264 หน้า. ISBN 978-616-7308-25-8
- ภาสกร วงศ์ตาวัน. เรื่องเล่าครั้งกรุงเก่า ตอน ยึดบ้านครองเมือง สร้างขื่อแปในจารึกสยาม. กรุงเทพฯ : สยามบันทึก, พ.ศ. 2551.
- พระมหากษัตริย์ไทย: พระราชประวัติพ่อขุนศรีอินทราทิตย์
ดูเพิ่ม[แก้]
- รายพระนามพระมหากษัตริย์ไทย