จักรวรรดิโรมัน (ละติน: Imperium Rōmānum
[ɪmˈpɛri.ũː roːˈmaːnũː];
กรีก: Βασιλεία τῶν Ῥωμαίων; อังกฤษ: Roman Empire)
เป็นช่วงระยะเวลาหนึ่งของอารยธรรมโรมันโบราณซึ่งปกครองโดยรูปแบบอัตตาธิปไตย
จักรวรรดิโรมันได้สืบต่อการปกครองมาจากสาธารณรัฐโรมัน (510 ปีก่อนคริสตกาล – ศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตาล) ซึ่งได้อ่อนแอลงหลังจากความขัดแย้งระหว่างไกอุส มาริอุสและซุลลา
และสงครามกลางเมืองระหว่างจูเลียส
ซีซาร์และปอมปีย์[8] มีวันหลายวันที่ได้ถูกเสนอให้เป็นเส้นแบ่งของการเปลี่ยนแปลงระหว่างสาธารณรัฐและจักรวรรดิ ได้แก่
จักรวรรดิโรมัน เว็กซีเลียม อินทรีจักรวรรดิ จักรวรรดิโรมันในช่วงสูงสุดเมื่อ ค.ศ. 117
ในช่วงที่จักรพรรดิไตรยานุสสวรรคต
(รัฐบริวารเป็นสีชมพู)[4] • 27 ปีก่อนคริสต์ศักราช – ค.ศ. 14 • ค.ศ. 98–117 • ค.ศ. 270–275 • ค.ศ. 284–305 • ค.ศ. 306–337 • ค.ศ. 379–395 • ค.ศ. 474–480 • ค.ศ. 475–476 • ค.ศ. 527–565 • ค.ศ. 610–641 • ค.ศ. 780–797 • ค.ศ. 976–1025 • ค.ศ. 1449–1453 • สงครามครั้งสุดท้ายของ • ก่อตั้งจักรวรรดิ • คอนสแตนติโนเปิล • การแบ่งตะวันออก-ตะวันตกครั้งสุดท้าย • การปลดจักรพรรดิโรมุลุส เอากุสตุส • การสังหารจักรพรรดิยูลิอุส แนโปส • สงครามครูเสดครั้งที่ 4 • การพิชิตคอนสแตนติโนเปิลอีกครั้ง • การเสียกรุงคอนสแตนติโนเปิล • เตรบีซอนด์ล่มสลาย • 25 ปีก่อนคริสต์ศักราช[7]
Basileía tôn Rhōmaíōn27 ปีก่อนคริสต์ศักราช – ค.ศ. 476
(วันที่ดั้งเดิม)[1][2]
ค.ศ. 395 – 476/480
(ตะวันตก)
ค.ศ. 395–1453
(ตะวันออก)
ที่มีอินทรีจักรวรรดิเมืองหลวง
(โดยพฤตินัยและโดยนิตินัยใน 27 ปีก่อนคริสต์ศักราชถึง
ค.ศ. 286 ส่วนนิตินัยอยู่ใน ค.ศ. 286 ถึง 476)
(ค.ศ. 286–402, ตะวันตก)
(ค.ศ. 402–476, ตะวันตก)
(ค.ศ. 286–330, ตะวันออก)
(ค.ศ. 330–1453, ตะวันออก)ภาษาทั่วไป ศาสนา
(ก่อน ค.ศ. 274)
(ก่อน ค.ศ. 380)
(ทางการ, ค.ศ. 380 เป็นต้นมา)การปกครอง ราชาธิปไตยกึ่งโดยเลือกตั้ง,
ตามระบบเป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์
จักรพรรดิ
เอากุสตุส (องค์แรก)
ไตรยานุส
ออเรเลียน
ดิออเกลติอานุส
คอนสแตนตินมหาราช
เทออดอซิอุสที่
1[n 2]
ยูลิอุส แนโปส[n 3]
โรมุลุส เอากุสตุส
ยุสตินิอานุสที่ 1
เฮราคลิอัส
คอนสแตนตินที่ 6[n 4]
เบซิลที่ 2
คอนสแตนตินที่
11[n 5]
สภานิติบัญญัติ วุฒิสภา
ยุคประวัติศาสตร์ สมัยคลาสสิกถึงสมัยกลางตอนปลาย
สาธารณรัฐโรมัน32–30 ปีก่อนคริสต์ศักราช
30–2 ปีก่อนคริสต์ศักราช
กลายเป็นเมืองหลวง 11 พฤษภาคม ค.ศ. 330
17 มกราคม ค.ศ. 395
4 กันยายน ค.ศ. 476
25 เมษายน ค.ศ. 480
12 เมษายน ค.ศ. 1204
25 กรกฎาคม ค.ศ. 1261
29 พฤษภาคม 1453
15 สิงหาคม ค.ศ. 1461
พื้นที่ 25 ปีก่อนคริสต์ศักราช[5] 2,750,000 ตารางกิโลเมตร (1,060,000 ตารางไมล์)
ค.ศ. 117[5][6] 5,000,000 ตารางกิโลเมตร (1,900,000 ตารางไมล์)
ค.ศ. 390[5] 4,400,000 ตารางกิโลเมตร (1,700,000 ตารางไมล์)
ประชากร
56,800,000
สกุลเงิน เซ็ซเตรีอุส, เอาเรอุส, โซลีดุส, โนมิสตา
ก่อนหน้า
ถัดไป
สาธารณรัฐโรมัน
จักรวรรดิโรมันตะวันตก
จักรวรรดิโรมันตะวันออก
จักรวรรดิโรมันเคยมีดินแดนอยู่ในการครอบครองมากมาย ได้แก่ อังกฤษและเวลส์ ยุโรปส่วนใหญ่ (ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไรน์และทางใต้ของเทือกเขาแอลป์) ชายฝั่งของแอฟริกาเหนือ บริเวณมณฑลใกล้เคียงของอียิปต์ แถบบอลข่าน ทะเลดำ เอเชียไมเนอร์ และส่วนใหญ่ของบริเวณลิแวนต์ ซึ่งดินแดนเหล่านี้ จากตะวันตกสู่ตะวันออกในปัจจุบันได้แก่ โปรตุเกส สเปน อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี แอลเบเนียและกรีซ แถบบอลข่าน ตุรกี ภาคตะวันออกและภาคตะวันตกของเยอรมนี ทางภาคใต้จักรวรรดิโรมันได้รวบรวมตะวันออกกลางไว้ ซี่งในปัจจุบันก็ได้แก่ซีเรีย เลบานอน อิสราเอล จอร์แดน จากนั้นในภาคตะวันตกเฉียงใต้ จักรวรรดิได้รวบรวมอียิปต์โบราณไว้ทั้งหมด และได้ทำการยึดครองต่อไปทางตะวันตกซึ่งเป็นบริเวณชายฝั่งทะเลซี่งในปัจจุบันคือประเทศลิเบีย ตูนิเซีย แอลจีเรียและโมร็อกโก จนถึงตะวันตกของยิบรอลตาร์ ประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ในจักรวรรดิโรมันเรียกว่าชาวโรมัน และดำเนินชีวิตภายใต้กฎหมายโรมัน การขยายอำนาจของโรมันได้เริ่มมานานตั้งแต่ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ และเรืองอำนาจสูงสุดในสมัยจักรพรรดิทราจัน ด้วยชัยชนะเหนือดาเซีย (ปัจจุบันคือประเทศโรมาเนียและมอลโดวา และส่วนหนึ่งของประเทศฮังการี บัลแกเรียและยูเครน) ในปี ค.ศ. 106 และเมโสโปเตเมียในปี ค.ศ. 116 (ซึ่งภายหลังสูญเสียดินแดนนี้ไปในสมัยจักรพรรดิฮาดริอานุส) ถึงจุดนี้ จักรวรรดิโรมันได้ครอบครองแผ่นดินประมาณ 5,900,000 ตารางกิโลเมตร (2,300,000 ตารางไมล์) และห้อมล้อมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งชาวโรมันเรียกทะเลนี้ว่า mare nostrum ("ทะเลของเรา") อิทธิพลของโรมันได้ส่งผลต่อการพัฒนาทางด้านภาษา ศาสนา สถาปัตยกรรม ปรัชญา กฎหมายและระบบการเมืองมาจนถึงทุกวันนี้
จักรวรรดิถูกแบ่งออกเป็นฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกในสมัยของจักรพรรดิไดโอคลีเชียน และถือว่าจักรวรรดิโรมันล่มสลายลงในช่วงเวลาประมาณวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 476 เมื่อจักรพรรดิโรมุลุส เอากุสตุส จักรพรรดิพระองค์สุดท้ายของจักรวรรดิโรมันตะวันตกถูกขับไล่และเกิดการจลาจลขึ้นในโรม (ดูในการล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน) อย่างไรก็ตาม จักรวรรดิโรมันตะวันออก หรือที่รู้จักกันในชื่อจักรวรรดิไบแซนไทน์ ก็ได้รักษากฎหมาย ขนบธรรมเนียมประเพณีแบบกรีก-โรมัน รวมถึงศาสนาคริสต์นิกายออโธดอกซ์ไว้ได้ในอีกสหัสวรรษต่อมา จนถึงการล่มสลายเมื่อเสียกรุงคอนสแตนติโนเปิลให้กับจักรวรรดิออตโตมัน ในปีค.ศ. 1453