ในอนาคต คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานจะมีบทบาทสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนสถานศึกษา ดังนั้น ผู้เกี่ยวข้องทุกคน ควรทำความรู้จักและให้ความสำคัญกับความเป็นมาและเป็นไปของคณะกรรมการชุดนี้
คณะกรรมการสถานศึกษาและคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา ได้เกิดขึ้นตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 ในอนาคต คณะกรรมการทั้ง 2 ประเภทนี้ น่าจะมีบทบาทมากขึ้น หรือได้รับการพัฒนาหรือขยายบทบาทให้มากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นองค์กรสำคัญในการขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาและของเขตพื้นที่การศึกษา
แม้ว่า คณะกรรมการทั้ง 2 ประเภทนี้ ได้จัดให้มีขึ้นทั่วประเทศมาร่วม 4-6 ปี แล้ว แต่บทบาทในการช่วยขับเคลื่อนคุณภาพการจัดการศึกษา ก็ยังไม่หนักแน่นเท่าที่ควร ผมขอใช้บล็อกนี้ เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สะท้อนปัญหา หรือแนวทางการพัฒนาที่ควรจะเป็น ระหว่างสมาชิกที่สนใจนะครับ
ในวาระแรกนี้ เรามารู้จักกับ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานก่อนนะครับ ซึ่งทุกสถานศึกษาในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นรัฐ หรือเอกชน จะต้องมีคณะกรรมการชุดนี้ ทุกสถานศึกษา
(ในครั้งต่อไปจะนำเสนอ บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา หลังจากนั้น จะเป็นแนวคิด แนวปฏิบัติ และปัญหาการทำงาน หรือ แนวทางการพัฒนา ที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการ 2 ประเภทนี้ เรื่อยไปครับ)
คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คือ ใคร...มีหน้าที่อย่างไร
---------------------------
คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เกิดขึ้นตามมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 รวมทั้งอำนาจหน้าที่การบริหารงานบุคคลที่จะเกิดตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหาร ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
1. กำกับการดำเนินการของสถานศึกษาให้สอดคล้องกับกฏหมาย กฎ ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง และนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และความต้องการของชุมชนและท้องถิ่น
2. ส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินการกิจการด้านต่างๆของสถานศึกษา
3. มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในสถานศึกษา ตามที่กฎหมายว่าด้วย ระเบียบข้าราชการและบุคลากรทางการศึกษากำหนด
4. ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่กฎหมาย ระเบียบ ประกาศ ฯลฯ กำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
องค์ประกอบของคณะกรรมการสถานศึกษา
ในสถานศึกษาขนาดเล็ก ให้มีคณะกรรมการสถานศึกษาจำนวน 9 คน และสถานศึกษาขนาดใหญ่ให้มีคณะกรรมการสถานศึกษา จำนวน 15 คน ประกอบด้วย
1. ประธานกรรมการ
2. กรรมการที่เป็นผู้แทนผู้ปกครอง จำนวนหนึ่งคน
3. กรรมการที่เป็นผู้แทนครู จำนวนหนึ่งคน
4. กรรมการที่เป็นผู้แทนองค์กรชุมชน จำนวน 1 คน
5. กรรมการที่เป็นผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
จำนวนหนึ่งคน
6.กรรมการที่เป็นผู้แทนศิษย์เก่า จำนวนหนึ่งคน
7.กรรมการที่เป็นผู้แทนพระภิกษุสงฆ์ หรือผู้แทนองค์กรศาสนาในพื้นที่ จำนวนหนึ่งรูป หรือหนึ่งคน สำหรับสถานศึกษาขนาดเล็ก และจำนวน สองรูป หรือสองคน สำหรับสถานศึกษาขนาดใหญ่
8.กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนหนึ่งคนสำหรับสถานศึกษาขนาดเล็ก และจำนวนหกคนสำหรับสถานศึกษาขนาดใหญ่
9.ผู้อำนวยการ เป็นกรรมการและเลขานุการ
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564มติครม. ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) อนุมัติการแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้ง รวม 17 คน เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2564 ดังนี้
ศาสตราจารย์บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ ประธานกรรมการ
นายวิสิทธิ์ ใจเถิง กรรมการที่เป็นผู้แทนองค์กรเอกชน
นายนิวรณ์ แสงวิสุทธิ์ กรรมการที่เป็นผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
นายปิยะบุตร วานิชพงษ์พันธุ์ กรรมการที่เป็นผู้แทนองค์กรวิชาชีพ
นางชลิดา อนันตรัมพร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านธุรกิจและการบริการ)
นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการประถมศึกษา/ด้านการงบประมาณ)
นายบุญรักษ์ ยอดเพชร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการอาชีวศึกษา/ด้านการบริหารการศึกษา)
นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ)
นายปราโมทย์ แก้วสุข กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการมัธยมศึกษา)
นางพรรณพิมล วิปุลากร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการศึกษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส)
นายวิริยะ ฤาชัยพาณิชย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย)
นางศรินธร วิทยะสิรินันท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการศึกษาเพื่อคนพิการ)
รองศาสตราจารย์ศิริเดช
สุชีวะ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการบริหารการศึกษา)
นายสนิท แย้มเกษร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการบริหารงานบุคคล/ด้านการกีฬา)
นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านอุตสาหกรรม)
นายอำนาจ วิชยานุวัติ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย/ด้านการศึกษาเอกชน/ด้านการศึกษาปฐมวัย)
พระพรหมบัณฑิต กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม)
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป
ที่มา…ประชาสัมพันธ์ สพฐ.