ซึ่งเราคาดว่าปัญหาของคนที่กำลังจะเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ตอนนี้ คือชั่งใจไม่ถูกว่าระหว่างรุ่นโปรยิ่งกว่าโปรอย่าง iPhone 14 Pro/Pro Max หรือใหญ่ยิ่งกว่าใหญ่อย่าง iPhone 14 Plus โดยนอกจากขนาด สี น้ำหนัก ความจุ ก็มีหลายอย่างที่แตกต่างกันอยู่พอสมควร (ตามราคา 😂)
และพอมารวมกับตัว iOS16 ก็ยิ่งเพิ่มความสวย (และความอยากได้) ให้เราสามารถตกแต่งหน้าจอคุมโทนไปตามสีของตัวเครื่อง รวมถึงฟีเจอร์ที่ควรค่าแก่การลองใช้
✅ สแกน Face ID แนวนอน
✅ Visual Look Up แตะค้างไดคัทได้
✅ Live Text รองรับการแปลภาษาไทย
✅ Edit / Undo ข้อความใน iMessage ได้
แล้ว iPhone 14 Plus แตกต่างจาก 14 Pro ยังไง ? Mango Zero ได้เปรียบเทียบความแตกต่างมาให้ประกอบการตัดสินใจก่อนเลือกซื้อแล้วววว
หน้าจอ
สมนิยาม “ใหญ่เจอใหญ่กว่า” เมื่อ iPhone 14 Plus มีขนาดหน้าจอ 6.7” เท่ากับรุ่น Pro Max ขณะที่ รุ่น 14 Pro มีขนาด 6.1” เท่ารุ่นปกติ ซึ่งเป็นประเภทจอ Super Retina XDR เช่นเดียวกัน แต่ 14 Pro เป็นแบบ ProMotion ที่มีความละเอียด 120Hz มาพร้อมกับ Always-on Display เพิ่มความเก๋ด้วย Interface ยืดหดได้ เป็นจอเจาะรู้แบบ Dynamic Island ขณะที่ 14 Plus ยังคงเป็นจอรอยบากเช่นเดิม
สี
iPhone 14 Plus : Blue / Purple / Midnight / Starlight / Product Red shades
iPhone 14 Pro : Deep Purple / Gold / Silver / Space Black
ด้าน Plus มีสีมากกว่า Pro ด้วยโทนอ่อนพาสเทลละมุนตุ้นซะส่วนใหญ่ ขณะที่ Pro คงไว้ที่ 3 สีพื้นและเปิดตัวสีใหม่ Deep Purple
ชิป
สำหรับ iPhone 14 Plus ยังคงใช้ชิป A15 Bionic (5-core GPU) เหมือน iPhone 13 Pro ที่โดดเด่นเรื่องของการประหยัดพลังงาน ขณะที่ 14 Pro ใช้ชิปเซ็ต A16 Bionic รุ่นใหม่ล่าสุด ทำให้เร็วและแรงกว่า ใครเป็นสายเกมเมอร์ที่อยากเล่นเกมแบบไม่ติดขัด อาจจะเทใจให้กับรุ่นนี้ ซึ่ง 14 Pro มีความอึดของแบตเตอรี่ นานกว่า 14 Plus ประมาณ 3 ชั่วโมง
กล้อง
จุดขายอีกหนึ่งอย่างที่เรียกได้ว่าเป็นตัวชี้ชะตาเวลาตัดสินใจ สำหรับกล้อง iPhone 14 Plus มี 2 กล้องหลังที่ขนาดไม่ใหญ่ (กล้องหลัก / กล้อง Ultrawide ความละเอียด 12MP) และกำลังพอดีไปกับตัวเครื่อง แถมยังมี Photo Engine ช่วยเก็บรายละเอียดของแสงและสีสัน พร้อมกล้องหน้าที่รองรับ Auto Focus และ Action Mode
ทางด้าน 14 Pro มีกล้องหลัง 3 ตัว (กล้องหลัก / Ultrawide / Telephoto) พร้อมโหมดถ่ายภาพ ProRAW 48MP ความละเอียดสูงได้
ความจุและราคาเริ่มต้น
- iPhone 14 Plus >> 128GB / 256GB / 512GB
เริ่มต้น 37,900 บาท
- iPhone 14 Pro >> 128GB / 256GB / 512GB / 1TB
เริ่มต้น 41,900 บาท
เหมาะกับใคร ?
สรุปช่วงสุดท้าย หากถามว่า iPhone 14 Plus เหมาะกับใคร? คงต้องขอตอบว่าเหมาะกับคนที่ชอบมือถือไม่หนัก เพราะตัวเครื่องเบา ถือสบาย สำหรับสายที่ชอบถือดูหนังหรือซีรีส์ยาวๆ บวกกับจอยักษ์สะใจ เสพการ์ตูน ซีรีส์ได้แบบสบายมาก แต่คนชอบถ่ายรูปอาจไม่ตอบโจทย์นัก เมื่อเทียบกับตัว Pro
ขณะที่ iPhone 14 Pro จะเหมาะกับสายมัลติมีเดียที่ชอบทำอะไรหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเล่นเกม ดูหนัง ถ่ายคอนเทนต์ ใครชอบฟีเจอร์ระดับโปร ชอบความลื่นไหล ไม่ติดขัดถือว่าตอบโจทย์ฮะะะ
เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ iPhone 14 series ที่ในปีนี้ยังคงเปิดตัว 4 รุ่นเหมือนเช่นเคย นั่นก็คือ iPhone 14, iPhone 14 Plus, iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.1 นิ้วและ 6.7 นิ้ว เคาะราคาเริ่มต้นที่ 32,900 บาท
โดยในปีนี้ นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ประเทศไทย อยู่ในกลุ่มประเทศแรกแล้ว ซึ่งจะเปิดพรีออเดอร์วันแรกในวันพรุ่งนี้ (9 กันยายน 2022) ส่วน iPhone 14 ทั้ง 4 รุ่น สเปกและคุณสมบัติต่าง ๆ แตกต่างกันอย่างไรนั้น มาดูตารางเปรียบเทียบสเปกกันเลย
เปรียบเทียบสเปก iPhone 14, iPhone 14 Plus, iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max
-------------------------------------
ที่มา : Apple
นำเสนอบทความโดย : techmoblog.com
Update : 08/09/2022
iPhone 14 iPhone 14 Pro
สำหรับในการเปิดตัว iPhone 14 Series แน่นอนว่าสาวกเองก็เห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงเยอะพอสมควรแต่คำถามคือเมื่อมีการเปลี่ยนเยอะแบบนี้แต่ถ้ากางสเปกจริงๆ แล้วมันแตกต่างกันแค่ไหน ทีม Sanook Hitech ได้รวบรวมกันให้คุณได้รับชมกันพร้อมแล้วมาดูกัน
ภาพรวมของสเปกของ iPhone 14 และ 14 Pro นี้ก็จะเห็นได้ชัดเจนได้แก่
- การมาของ iPhone 14 Plus แทนรุ่น 14 Mini ที่เรียกได้ว่าเปลี่ยนขนาดเล็กเป็นขนาดใหญ่นั่นเอง
- ขุมพลังของ iPhone 14 อัปเกรดแค่ GPU แต่ iPhone 14 Pro เปลี่ยนใหม่หมด
- กล้องหลังของ iPhone 14 Pro / 14 Pro Max ความละเอียด สูงขึ้นเป็น 48 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้าความละเอียดเท่าเดิมแต่มีรูรับแสงกว้างขึ้น และยังมีระบบ Auto Focus ทุกรุ่น
- มีระบบประมวลผลภาพ Photonic Engine มาให้ใช้ทุกรุ่น
- สีใหม่แยกชัดเจนคือ iPhone 14 สดใส iPhone 14 Pro จะเข้ม ๆ
- ระบบติดต่อกับดาวเทียมยามฉุกเฉินมีเหมือนเดิม
ส่วนราคานั้นเมื่อเทียบกับรุ่นเดิมอย่าง iPhone 13 Pro / iPhone 13 ก็จะสูงขึ้นกว่าเดิม 3,000 บาทด้วยกันครับ ทั้งนี้ต้องรอติดตามกันต่อไปว่าราคาจากให้ผู้ให้บริการนั้นตัวไหนจะเหมาะ แต่ถ้าใครจะเลือก iPhone 14 ทั้งหมดนี้ ว่าแบบไหนเหมาะกับคุณก็ขอตอบดังนี้
iPhone 14 รุ่นปกติ เหมาะกับคนที่ไม่อยากจ่ายเยอะกับมือถือใหม่ ที่เขาอัปเกรดมาก็ภถือว่าเพียงวพอแล้ว, หรือ กลุ่มคนที่อยากลอง iPhone รุ่นใหม่งบไม่สูงไว้ลากใช้ยาวๆ รุ่นนี้ถือว่าเหมาะสมอยู่
iPhone 14 Plus โจทย์เหมือนกับข้อแรกแต่ว่า ขนาดหน้าจอต้องใหญ่ หรือมองว่า Pro Max เยอะไปใช้ไม่หมด อยากได้แค่จอใหญ่กับเครื่องใหม่พอ
iPhone 14 Pro นอกจากการเปลี่ยนให้นำเทรนด์แล้วยังมาพร้อมกับสเปกใหม่หมดใครต้องการความสดใหม่แต่พกพาได้นี่ก็คือคำตอบ แต่ถ้าอยากได้แบบนี้แต่จอใหญ่ iPhone 14 Pro Max ก็จะคือคำตอบนั่นเอง
ถ้าใครเงินพร้อมเจอกัน 9 กันยายน นี้ทุกช่องทางการเปิดจองครับ ขายจริง 16 กันยายน ยกเว้น iPhone 14 Plus ที่มาวางจำหน่ายต้นเดือนตุลาคม