เอกภพ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
โลกเป็นเพียงจิ๊กซอว์เล็ก ๆ ชิ้นหนึ่งที่เมื่อนำมาประกอบรวมกับระบบสุริยะ และกาแล็กซี หรือ ดาราจักร (galaxy) ก็จะกลายภาพขนาดใหญ่ที่เรียกกันว่า เอกภพ โดย เอกภพ นั้นเปรียบเสมือนเป็นต้นกำเนิดของทุกสิ่ง ซึ่งเมื่อเอ่ยถึง เอกภพ เราก็เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้ว่า เอกภพ คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร วันนี้กระปุกดอทคอมจึงขอนำเรื่องราวของ เอกภพ มาบอกกับทุกท่านค่ะ
เอกภพ หรือ จักรวาล (Universe) เป็นระบบที่ใหญ่ที่สุดและไร้ขอบเขต และเป็นห้วงอวกาศที่เต็มไปด้วยดวงดาวจำนวนมหาศาล ซึ่งเราจะเรียกดวงดาวที่เกาะกันเป็นกลุ่มว่า กาแล็กซี และในแต่ละกาแล็กซี ก็จะมีระบบของดาวฤกษ์ กระจุกดาว เนบิวลา หลุมดำ อุกกาบาต ฝุ่นผง กลุ่มก๊าซ และที่ว่างอยู่รวมกันอยู่ ซึ่งก็โลกอยู่ในกาแล็กซีหนึ่ง ที่เรียกกันว่า กาแล็กซีทางช้างเผือก นั่นเอง
สำหรับต้นกำเนิดที่แท้จริงของ เอกภพ นั้น ที่จริงมีอยู่หลายทฤษฎี แต่ทฤษฎีที่ได้รับการยอมรับจากนักดาราศาสตร์มากที่สุดในปัจจุบัน ก็คือ ทฤษฎีบิ๊กแบง (Big Bang Theory) ของ จอร์จ เลอแมตร์ ที่เชื่อกันว่า เอกภพเริ่มต้นจากความเป็นศูนย์ ไม่มีเวลา ไม่มีแม้แต่ความว่างเปล่า และเอกภพกำเนิดขึ้นโดยการระเบิด ซึ่งหลังจากการระเบิดนั้น เอกภพ ก็เริ่มขยายตัวออกไป ก่อนที่จะเกิดอนุภาคมูลฐาน อะตอม และโมเลกุล ต่าง ๆ ขึ้นตามมาหลังจากนั้น ทั้งแรงระเบิดดังกล่าว ยังทำให้เกิดแรงดันระหว่างกาแล็กซีต่าง ๆ ให้ห่างกันออกไปเรื่อย ๆ ซึ่งแรงดันที่ถือว่าเป็นวิวัฒนาการของเอกภพมีอยู่แรง 2 แรง คือ แรงดันออกหลังจากการระเบิดครั้งใหญ่ และแรงโน้มถ่วงดึงดูดให้เอกภพเข้ามารวมตัวกัน ซึ่งทั้ง 2 แรงดังกล่าวเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดลักษณะของ เอกภพ ดังนี้
เอกภพ
แม้ปัจจุบันเรายังไม่อาจทราบได้ว่าเอกภพของเราจะมีลักษณะแบบใดในสามอย่างนี้ รวมถึงไม่อาจทราบด้วยว่า การเปลี่ยนแปลงของเอกภพ จะส่งผลกระทบเช่นไรต่อโลก แต่ทุกวันนี้ โลกก็ไม่ส่งสัญญาณเตือนกับเราด้วยภัยธรรมชาติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกแล้วว่า หากมนุษย์ไม่หันมาถนอมโลกให้มากขึ้น สักวันมนุษย์อาจต้องสูญพันธุ์เหมือนไดโนเสาร์เมื่อหลายล้านปีก่อน
อ่านเพิ่มเติมได้จาก
waghor.go.th, rmutphysics.com,
myfirstbrain.com
สอบถามและจองค่ายหว้ากอ |
ฐานความเป็นไปได้ในจักรวาล |
เอกภพ ประกอบด้วยกาแล็กซีจำนวนมากกว่า 10,000 ล้านกาแล็กซี ซึ่งในแต่ละกาแล็กซีจะมีระบบของดาวฤกษ์ กระจุกดาว เนบิวลา หลุมดำ อุกกาบาต ฝุ่นผง กลุ่มก๊าซ และที่ว่างอยู่รวมกัน ดาราจักรหรือกาแล็กซี่ (Galaxy) คือ ดวงดาวต่างๆ ในจักรวาล ที่รวมกันอยู่เป็นกลุ่มๆ ซึ่งประกอบด้วยดาวฤกษ์จำนวนมากมาย พร้อมด้วยดาวเคราะห์ที่เป็นบริวาร นอกจากนี้ยังมีดาวหาง อุกกาบาต ฝุ่นละออง และแก๊ซในอวกาศ ซึ่งกาแล็กซี่ที่มีโลก ของเราอยู่ด้วย เรียกว่า กาแล็กซี่ทางช้างเผือก (The Milky Way Galaxy) เนบิวลา (Nebula) เป็นกลุ่มแก๊สและฝุ่นผงในอวกาศที่จับกลุ่มกันค่อนข้างหนาแน่น
อยู่ในที่ว่างระหว่างดาวฤกษ์ มีทั้งประเภทเรืองแสงและไม่เรืองแสง กระจุกดาว : อาณาบริเวณของดาวฤกษ์บางแห่งมีดาวฤกษ์หลายร้อย ดวงอยู่รวมกันอย่างหลวมๆ เรียกว่า กระจุกดาวเปิด บางแห่งมี ีดาวฤกษ์หนาแน่นหลายแสนดวงจนถึงหลายร้อยล้านดวง เรียกว่า กระจุกดาวปิด ดาวฤกษ์มักมีอายุไล่เลี่ยกัน อยู่รวมกันด้วยแรงโน้มถ่วง ร่วมกัน
อุกกาบาต (meteor) เศษวัตถุขนาดเล็กในอวกาศ มีทั้งที่เป็นโลหะ และ อโลหะ ซึ่งส่วนใหญ่มีขนาดเท่าเม็ดทราย เมื่อถูกแรงโน้มถ่วงของโลก ดึงดูดให้ตกลงมา เสียดสีกับบรรยากาศของโลกก็เกิดความร้อนจน ลุกไหม้ติดไฟ ทำให้เรามองเห็นเป็นทางยาว เรียกว่า "ดาวตก" หรือ "ผีพุ่งใต้" เอื้อเฟื้อข้อมูลโดย :: นายณัฏฐกิตติ์ สุวรรณโมลี/น.ส.นบกมล เจริญยิ่ง
นิทรรศการความเป็นไปในจักรวาล เป็นนิทรรศการที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการค้นหาคำตอบเกี่ยวกับเทห์วัตถุบนท้องฟ้าของ มนุษย์และเทคโนโลยีการสำรวจอวกาศในปัจจุบัน เปิดให้บริการศึกษาฐานการเรียนรู้ และบริการศึกษาตามอัธยาศัย โดยสามารถ เข้าชมนิทรรศการได้ตั้งแต่ เวลา 09.00 - 16.00 น. ซึ่งเนื้อหาภายในนิทรรศการ แบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่
โซนที่ 1 การกำเนิดเอกภพ และส่วนประกอบของเอกภพ
ทฤษฎีกำเนิดเอกภพ ที่ได้รับความเชื่อถือมาก ในหมู่นักดาราศาสตร์ คือ ทฤษฎีระเบิดใหญ่ หรือ Big Bang เป็นการระเบิด ครั้งยิ่งใหญ่จากพลังงานบางอย่างสาดกระจายมวลสารทั้งหลายออกไปทุกทิศทาง แล้วเริ่มเย็นตัวลงจับกลุ่มเป็นก้อนก๊าซ ขนาด ใหญ่จนยุบตัวลงเป็นกาแล็กซีและดาวฤกษ์ ได้ก่อรูปขึ้นมาในกาแล็กซีเหล่านั้นประมาณหนึ่งหมื่นล้านปี หลังจากการระเบิดใหญ่ ที่เกลียวของของกาแล็กซีทางช้างเผือก ดวงอาทิตย์ โลก
และดาวเคราะห์ดวงอื่น ได้ถือกำเนิดขึ้นเป็นระบบสุริยะ
หลุมดำ ( Black Holes) เกิดจากการยุบตัวของดาวฤกษ์มวลมากเมื่อสิ้นอายุขัย หลุมดำมีความหนาแน่นมาก จนกระทั่งไม่มีสิ่งใดๆ จะหลุดรอดจากแรงโน้มถ่วงอันมหาศาลของมันได้แม้กระทั่งแสง
ซึ่งในปัจจุบัน นักดาราศาสตร์พบหลักฐานว่าหลุมดำมีอยู่จริงซึ่งมักจะอยู่บริเวณใจกลางของกาแล็กซี่ด้วย