ศิลปะแบบสุโขทัยเป็นศิลปะที่เกิดขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 18-19 ในบริเวณลุ่มแม่น้ำยม แม่น้ำน่าน แถบจังหวัดสุโขทัย อุตรดิตถ์ แพร่ พิษณุโลก และบริเวณลุ่มแม่น้ำปิง ทางตอนใต้ของจังหวัดกำแพงเพชร เป็นศิลปะที่เกิดจากความเชื่อและความศรัทธาในพระพุทธศาสนาแบบลังกาวงศ์ ผลงานสร้างสรรค์แบบสุโขทัยปรากฎในงานด้านสถาปัตยกรรม ประติมากรรม และจิตรกรรม
สถาปัตยกรรม
มีความงามและมีลักษณะเด่นเฉพาะ แม้จะได้รับอิทธพลมาจากที่อื่นบ้าง แต่ก็มีการพัฒนาจนมีลักษณะเฉพาะของตนเอง
สร้างขึ้นเนื่องในพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะสถูป โดยสามารถแบ่งตามที่มาของอิทธิพลได้ 3 แบบ คือ
– เจดีย์ทรงดอกบัวตูม หรือทรงพุ่มข้าวบิณฑ์เป็นเจดีย์ทรงสุโขทัยแท้
– เจดีย์ทรงกลมแบบลังกา พร้อมกับพระพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ นอกจากนี้ยังมี เจดีย์แบบศรีวิชัยที่มีฐานและองค์ระฆังสูงทำเป็นสี่เหลี่ยม
– เจดีย์แบบศรีวิชัย หรือพระปรางค์ เลียนแบบศิลปะลพบุรีเป็นปรางค์แบบเขมรซึ่งมีอยู่เดิม แต่ถูกดัด แปลงเป็นปรางค์แบบไทย คือทรงสูงชะลูดขึ้นกว่าเดิม มียอดเรียวแหลมเพิ่มลวดลายตกแต่งแบบสุโขทัย
ประติมากรรม
พระพุทธรูปสุโขทัยจัดเป็นพระพุทธรูปที่สวยงามที่สุดในบรรดาศิลปกรรมไทยนิยม สร้าง 4 อิริยาบถ คือ นั่ง นอน ยืน เดิน หรือที่เรียกกันว่า ปางลีลาซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะเฉพาะของสุโขทัยที่งดงามที่สุดส่วน
ประติมากรรมที่งดงามอีกประเภทหนึ่ง คือลวดลายปูนปั้นประดับตกแต่งอาคารและเทวรูปหล่อสำริดที่มีความงดงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น คือ พระเกศมีรัศมีเป็นเปลว ขมวดพระเกศาเล็กน้อย พระพักตร์รูปไข่ พระโขนงโก่ง พระนาสิกงุ้ม พระโอษฐ์ยิ้มเล็กน้อย พระอังสะใหญ่ บั้นพระองค์เล็ก ครองจีวรห่อเฉียงชายจีวรยาวลงมาถึงพระนาคีคล้ายเป็นลายเขี้ยวตะขาบ สร้างเป็นปางต่างๆ เช่น ปางมารวิชัยประทับขัดสมาธิราบ ฐานเป็นหน้ากระดานเกลี้ยง เป็นต้น
ในลัทธิพราหมณ์สมัยสุโขทัยยังมีการทำเครื่องเคลือบดินเผาที่เรียกว่าเครื่องสังคโลกอาจนำแบบ อย่างมาจากจีนหรือช่างไทยเป็นผู้ค้นคิดและพัฒนาขึ้นเองส่วนมากเป็นเครื่อง ถ้วยชาม เป็นเครื่องเคลือบเซลาดอนสีเขียวไข่กาผลิตเพื่อใช้ในราชอาณาจักรและส่งเป็นสินค้าออก นอกจากนี้ยังทำเป็นตุ๊กตาส่วนประกอบตกแต่งอาคารสถาปัตยกรรมพระพุทธศาสนาด้วย
จิตรกรรม
ส่วนใหญ่ชำรุดเสียหายไปหมดมีแต่ภาพลายเส้นที่หลงเหลือ คือ ภาพแกะสลักลายเส้นบนเพดานในอุโมงค์มณฑปวัดศรีชุมนอกเมืองสุโขทัย แกะสลักเป็นเรื่องราวชาดกต่างๆ โดยได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะลังกา
��Ż� �ѵ����� ʶһѵ¡��� ��е��ҡ��� �ѹ��ҡ��
��Ż���
������⢷��
(�Դ������Ǿط�ȵ���ɷ�� 18-20)
����Ż������觴����ҡ��ШѴ���ؤ�٧�ش㹴�ҹ�س��Ҥ�������ͧ��Ż��� ��Ż�������⢷�¹��áͺ��ǹ��þѲ�ҡ�÷ҧ��Żе�����ؤ��� ž���� �����ҹ��Ż�Ẻ�ѧ���������Ԫ�·ҧ��ͧ��������Ż���⢷������ �ѹ�Դ�ҡ�������Ͷ����ѷ��㹾�оط���ʹ�
ʶһѵ¡��� ��Ẻ���ҧ�����ẺἹ�Ѵਹ������ա�����ҧ��ä��ٻẺ������͡�ѡɳ��� �����繪Ѵਹ����⢷���� ��� �ç�͡��ǵ���������ç�������ǺԳ�����Ѵ��Ҹҵ� �ѧ��Ѵ��⢷��
���ç�������ǺԳ��Ẻ��⢷���� ����Ѵ��Ҹҵ� �ѧ��Ѵ��⢷��
��е��ҡ��� ��оط��ٻ���ٻ��ҧ�ѡɳз�觴��� ��Ǵ�ç�����ҷ�ҷҧ������������ͧ��дѺ���觴��ª�ҷ�觴��� ���ᵡ��ҧ�ҡ�ؤ�������� ���ҧ�Ѵਹ ���о���Ȩ��������������͡�ѡɳ�
��оط��ٻ��зѺ����������������Ẻ���ҧ��Ż���⢷��
�Եá��� ���Ҿ���ͧ�������鹺����Թ��ǹ����Ѵ��ժ�� �ѧ��Ѵ��⢷�� ����Ҿ��¹��Ẻ�͡ç�� �������-ᴧ ����Ѵ������� ���������Ѫ����� �ѧ��Ѵ��⢷��
ศิลปกรรมของอาณาจักรสุโขทัยมีความงดงามและเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง โดยมีพื้นฐานมาจากความเชื่อความศรัทธาในพระพุทธศาสนา ซึ่งประกอบด้วยสถาปัตยกรรม ประติมากรรมและ ศิลปกรรมต่างๆ โดยเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ เป็นสถาปัตยกรรมไทยสมัยสุโขทัย สร้างขึ้นเมื่อพุทธศตวรรษที่ 19 – 20 ได้รับอิทธิพลศิลปะแบบต่างๆ เข้ามาผสมผสานกับศิลปะ ของสุโขทัย จนเกิดเป็นลักษณะเฉพาะของสุโขทัย คือเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ซึ่งมักสร้างฐาน เป็นสี่เหลี่ยมซ้อนกันสามชั้น องค์เจดีย์เป็นเหลี่ยมย่อมุมยอดเป็นทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ หรือดอกบัวตูมการก่อสร้างใช้ศิลาแลงเป็นแกน ฉาบปูน เจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์นี้ ถือเป็นเจดีย์ของสมัยสุโขทัยแท้ๆปรากฏอยู่ที่วัดมหาธาตุ เมืองเก่าสุโขทัย และเจดีย์ 7แถว เมืองศรีสัชนาลัย เป็นต้น