1. 俿�ҷ������������ҹ��� �Ҩҡ����
�. ��ҹ俩��
�. ẵ�����
�. �ç俿��
�. ����俿��
2. ���觾�ѧ�ҹ������Ե��ѧ�ҹ俿��㹢��� ��������觾�ѧ�ҹ��ع���¹
�. ��
�. ���
�.
����ѹ����
�. �١��駢�� � ��� �
3. ��õ���س����Ԣͧ����ͧ��Ѻ�ҡ�� ��õ���س��������㴨֧���������������Թ�
�. 15 ͧ��������
�. 20 ͧ��������
�. 25 ͧ��������
�. �٧���� 25 ͧ��������
4. ��觷�������Դ�����俿������ǧ��俿�� ���
�. ����硵�
�. ��ǵ�
�. ��������
�. �õ�
5. 俿�ҡ�����ա�誹Դ
�. 1 ��Դ
�. 2 ��Դ
�. 3 ��Դ
�. 4 ��Դ
6. ���觨���俷���Դ�ҡ�ѵ�� 2 ��Դ�ҢѴ�աѹ ���
�.
俿��ʶԵ
�. 俿�ҡ���ʵç
�. 俿�ҡ������Ѻ
�. 俿���˹���ǹ�
7. 俿�ҡ���ʵç����ö���͡�繡��Ẻ
�. 1 Ẻ
�. 2 Ẻ
�. 3 Ẻ
�. 4 Ẻ
8. �ػ�ó��Ӥѭ����˹�ҷ��Դ�Դ俿�Ҽ�ҹǧ�������ʹ�����ʹ�Դ��������������ʹ����ͧ
��ҧ �����俿�Ҩ֧����ö��ż�ҹ��ʹ俿�Ҩҡ���¢�ҧ˹����ѧ�ա��ҧ˹�� ������Դ�ʧ
���ҧ���ͧ��� ���
�. ����
�. �����ʵ�
�. ʵ������
�. ��Է�� �Դ/�Դ
9. �����ʵ����Ť- ��ԡ�� ��Сͺ�����ػ�ó����Ť��ԡ���������� ��˹�ҷ���Ե俿�Ҥ�������٧
��� ��������
�. 10 � 20 ��������
�. 10 � 30 ��������
�. 10 � 40 ��������
�. 10 � 50 ��������
10. ˹����Ѵ��ѧ�ҹ俿�ҷ����㹺�ҹ����դ����˹���俿�� �������¡���
�. ��ŵ
�. �ѵ��
�. �ٹԵ俿��
�. ������
��ṹ���س����= ��ṹ �ҡ��ṹ��� 10 ��ṹ
��¤ӵͺ :
การทำความรู้จักหรือทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของ ไฟฟ้ากระแสตรง(DC) และไฟฟ้ากระแสสลับ(AC) นั้นเป็นเรื่องพื้นฐานเลยทีเดียวก็ว่าได้ เพราะเป็นหัวใจหลักในการเลือกซื้อเครื่องมือวัดไฟ หรือเลือกฟังก์ชั่นในการใช้งานเครื่องมือวัดไฟนั้นเอง..
ซึ่งอย่างที่เราทุกคนเข้าใจกันดีว่าในประเทศไทยของเรา อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างที่ทำออกมา รองรับ การใช้งานกับไฟบ้านหรือกับไฟฟ้ากระแสสลับ(AC) ซึ่งมีค่าแรงดันไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 220 โวล์ ส่วนไฟฟ้าที่อยู่ในพวกแผงวงจร หรือไฟฟ้าที่มาจากถ่านไฟฉายนั้น เป็นไฟฟ้ากระแสตรง(DC) นั้นเอง
ไฟฟ้ากระแสสลับ (Alternating current) คือ
ไฟฟ้าที่มีทิศทางการไหลของกระแสไฟฟ้าไปในทางกลับกัน คือกระแสไฟจะไม่มีขั้วไฟฟ้าว่าเป็นขั่วบวกหรือขั่วลบ และจะมีทิศทางการไหลที่กลับไปกลับมาอยู่ตลอดเวลา โดยอัตราการเปลี่ยนทิศทางนี้เราเรียกว่าความถี่ของไฟกระแสสลับ มีหน่วยวัดเป็นเฮิร์ท(Hz) ซึ่งก็คือจำนวนรอบคลื่นต่อ หนึ่งวินาที (ไฟบ้าน ในประเทศไทยใช้ความถี่ 50Hz) และภาพลักษณะการไหลเราจะเรียกกันว่า Sine Wave นั้นเอง ดังภาพด้านล่างครับ
ไฟฟ้ากระแสตรง (Direct current) คือ
ไฟฟ้าที่มีทิศทางการไหลเพียงทิศทางเดียวจากขั้วลบของแหล่งกำเนิดไฟฟ้า แล้วไหลผ่านอุปกรณ์ไฟฟ้า แล้วกลับเข้าไปยังขั้วบวกของแหล่งกำเนิดไฟฟ้าอีกครั้ง ภาพด้านล่างเป็นภาพลักษณะรูปคลื่นไฟฟ้าของไฟฟ้ากระแสตรง
ทำไมไฟบ้าน เราจึงใช้เป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC)
สาเหตุที่ไฟฟ้าตามบ้านส่งแบบกระแสสลับ (AC) ประเด็นหลักๆ ก็มีอยู่สองข้อใหญ่ครับ
(1) ไฟฟ้ากระแสสลับ(AC) นั้นส่งได้ไกลกว่า ไฟฟ้ากระแสตรง(DC)มาก เนื่องจากเวลาส่งกระแสไฟฟ้ามาตามสายไฟ ถ้าเป็นไฟฟ้ากระแสตรง(DC) ก็ทำให้แรงเคลื่อนสูงมากไม่ได้ ต้องเป็นแรงเคลื่อนไฟฟ้าที่ต่ำ ทำให้ต้องส่งกระแสไฟฟ้าที่มาก เมื่อส่งกระแสที่มากก็จะมีค่าการสูญเสียพลังงานไปตามสายส่งไฟฟ้ามากด้วย
แต่ถ้าเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ(AC) เขาจะแปลงกระแสไฟ ให้เป็นไฟฟ้าแรงสูงก่อนที่จะส่งมาตามบ้านเรือน (ที่เราเห็นเสาไฟฟ้าแรงสูงอยู่ทั่วไปนั้นเอง) แล้วมาลดกลับที่ปลายทางโดยผ่านหม้อแปลง (Transformer) แต่หากเป็นไฟฟ้ากระแสตรง(DC) จะไม่สามารถทำได้โดยง่ายครับ
(2) ไฟฟ้ากระแสสลับ(AC) นั้น สามารถแปลงแรงดันให้มากขึ้น หรือลดต่ำลงได้ โดยการใช้หม้อแปลง (Transformer) ซึ่งในการแปลงแรงดันนี้ถ้าเป็นไฟกระแสตรง(DC) จะยุ่งยากมาก
สรุปประโยชน์และการนำไปใช้งานของไฟฟ้าทั้ง 2 ชนิด
คุณสมบัติของไฟฟ้ากระแสสลับ(AC)
(1) สามารถส่งไปในที่ไกลๆได้ดี กำลังไม่ตก
(2) สามารถแปลงแรงดันให้สูงขึ้นหรือต่ำลงได้ตามต้องการโดยการใช้หม้อแปลง(Transformer)
ประโยชน์ของไฟฟ้ากระแสสลับ(AC)
(1) ใช้กับระบบแสงสว่างได้ดี
(2) ประหยัดค่าใช้จ่าย และผลิตได้ง่าย
(3) ใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องการกำลังมากๆ
(4) ใช้กับเครื่องเชื่อม
(5) ใช้กับเครื่องอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์ไฟฟ้าได้เกือบทุกชนิด
คุณสมบัติของไฟฟ้ากระแสตรง(DC)
(1) กระแสไฟฟ้าไหลไปทิศทางเดียวกันตลอด
(2) มีค่าแรงดันหรือแรงเคลื่อนเป็นบวกอยู่เสมอ
(3) สามารถเก็บประจุไว้ในเซลล์ หรือแบตเตอรี่ได้
ประโยชน์ของไฟฟ้ากระแสตรง(DC)
(1) ใช้ในการชุบโลหะต่างๆ
(2) ใช้ในการทดลองทางเคมี
(3) ใช้เชื่อมโลหะและตัดแผ่นเหล็ก
(4) ทำให้เหล็กมีอำนาจแม่เหล็ก
(5) ใช้ในการประจุกระแสไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่
(6) ใช้ในวงจรอิเล็กทรอนิกส์
(7) ใช้เป็นไฟฟ้าเดินทาง เช่น ไฟฉาย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
- ● เลือกซื้อเครื่องวัดไฟฟ้า มัลติมิเตอร์ คลิก
- ● สามารถเยี่ยมชม บทความเกี่ยวกับไฟฟ้า จาก LEGA CORPARATION ได้ที่นี่
- ● โทรศัพท์: 02-746-9933
- ● อีเมล:
- ● LINE ID: @LEGA