หลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต สาขาวิชามัลติมีเดีย
ชื่อปริญญาและสาขาวิชา
ปรัชญา หลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต สาขาวิชามัลติมีเดีย เป็นหลักสูตรที่เน้นให้ผู้เรียน เรียนรู้ศาสตร์นิเทศศาสตร์เป็นแกนหลัก และนำความรู้ด้านศิลปะที่เกี่ยวข้องกับสุนทรียศาสตร์ รวมถึงความรู้เกี่ยวเทคโนโลยีการสื่อสารใหม่ๆ มาหลอมรวม (Multi-discipline) ในการสร้างสรรค์ การออกแบบ และการผลิตสื่อมัลติมีเดีย เพื่อให้เกิดศักยภาพสูงสุดต่อการสื่อสาร สาขาวิชามัลติมีเดีย มุ่งผลิตบัณฑิตที่เน้นให้ผู้เรียนมีความรู้ในทางวิชาการและทักษะวิชาชีพ โดยมีปรัชญาในการสร้างบัณฑิตให้เป็น “คนสร้างสาร สรรสร้างสื่อ สื่อสารสัมพันธ์แห่งมวลมนุษย์” และพร้อมทั้งมุ่งพัฒนาศักยภาพให้เป็นไปตามคุณลักษณะของหลักสูตรที่กำหนดไว้ 4 ด้าน ได้แก่ 1) เป็นผู้สร้างสรรค์กลยุทธ์และรูปแบบการสื่อสารใหม่ๆ ที่เหมาะกับสภาพการณ์ของการสื่อสารในยุคปัจจุบัน 2) เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถในการใช้มัลติมีเดียที่สนองต่อความต้องการของสถานการณ์ในปัจจุบันและสนองต่อความต้องการด้านวิชาชีพได้ 3) เป็นผู้มีคุณธรรมและจริยธรรมในการประกอบอาชีพ มีเจตคติที่ดีต่อวิชาชีพและเป็นที่ยอมรับในวงการวิชาชีพของตนเอง และ 4) เป็นผู้ที่ประยุกต์ความรู้ ทักษะประสบการณ์ นำไปใช้กับการสร้างสรรค์สื่อมัลติมีเดียในรูปแบบใหม่ๆ วัตถุประสงค์ของหลักสูตร
แนวทางการประกอบอาชีพ
| รายละเอียดเพิ่มเติม โครงสร้างหลักสูตร
คำอธิบายรายวิชา
แผนการศึกษา |
เทคโนโลยีดิจิตอลและเทคโนโลยีมัลติมีเดีย กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในการติดต่อสื่อสาร มัลติมีเดียคือการนำองค์ประกอบของสื่อชนิดต่าง ๆ มาผสมผสานรวมกัน เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับงานด้านความคิดสร้างสรรค์และงานเชิงพาณิชย์ ซึ่งสามารถปรับใช้กับงานได้หลายหลายวัตถุประสงค์ไม่ว่าจะเป็น การให้ข้อมูล ให้ความบันเทิง ชักชวนจูงใจ หรือให้คำแนะนำ
คำว่ามัลติมีเดียถูกใช้เป็นครั้งแรกในยุค 1960 เมื่อ Bob Goldstein นักร้องและศิลปินคนหนึ่ง ใช้คำนี้ในการเปิดตัวโชว์ของเขาที่ชื่อว่า Lightworks & L’Ouisin และทุกวันนี้ผลจากความนิยมในการใช้อินเทอร์เน็ต ทำให้งานศิลปะสาขามัลติมีเดียได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
อาชีพและโอกาสงานในอนาคต
ศิษย์เก่าสาขาวิชามัลติมีเดีย มีทางเลือกอาชีพที่ค่อนข้างหลากหลาย โดยสามารถทำงานได้ทั้งในแวดวงการศึกษา การอนุรักษ์วัฒนธรรม พาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์ หรืออุตสาหกรรมสื่อ บัณฑิตส่วนใหญ่มักทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ อย่างเช่นเป็นผู้พัฒนาเกมส์ หรือ เป็นโปรแกรมเมอร์
ทุกวันนี้ธุรกิจทุกชนิดต่างต้องการเพิ่มช่องทางในการติดต่อสื่อสารออนไลน์เพื่อความอยู่รอด ดังนั้น บุคลากรที่มีทักษะทางด้านมัลติมีเดียจึงเป็นที่ต้องการตัวอย่างมาก ผู้เรียนจำนวนมากจึงจบไปทำงานเป็น นักออกแบบเว็บไซต์ หรือ นักออกแบบกราฟิก เพื่อการสร้างแบรนด์ให้กับองค์กรต่างๆ
งานด้านโฆษณาก็เป็นงานยอดนิยมของผู้ที่จบมัลติมีเดียเช่นกัน อุตสาหกรรมการโฆษณา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโฆษณาผ่านทางออนไลน์กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว จึงทำให้สายงานนี้เป็นงานที่ได้ค่าตอบแทนสูงพอสมควร
การสมัครเรียนสาขามัลติมีเดีย
บางหลักสูตรกำหนดไว้ว่า ผู้สมัครไม่จำเป็นต้องสอบผ่านระดับ A-level ด้านมัลติมีเดียมาก่อน แต่หากมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีมาบ้าง ก็จะเป็นประโยชน์ต่อการทำความเข้าใจบทเรียนในปีแรกๆ ของการศึกษามากขึ้น แต่ละมหาวิทยาลัยจะกำหนดเงื่อนไขในการรับสมัครนักศึกษาที่ต่างกัน ซึ่งมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะกำหนดเกณฑ์ไว้ว่า ผู้สมัครต้องมีผลการเรียนระดับ 3 A-levels ขึ้นไป หรือเทียบเท่าสำหรับนักเรียนจากประเทศที่ใช้ระบบการศึกษาต่างจากประเทศอังกฤษ และผู้มาจากประเทศที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก จะต้องสอบ IELTS ได้อย่างน้อย 6.0 คะแนนขึ้นไป
หลักสูตรส่วนใหญ่จะใช้ระยะเวลาเรียนอย่างน้อย 3 ปี เนื้อหาวิชาที่เรียนจะครอบคลุมถึงสื่อหลากหลายรูปแบบ ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้เพื่อการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ บางหลักสูตรกำหนดให้นักศึกษาต้องฝึกปฏิบัติงานในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงอาจจะต้องขยายระยะเวลาในการศึกษาออกไปอีก 1 ปี
เรียนที่ไหนดี
สภาพแวดล้อมและสังคมเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกสถานศึกษา คุณอาจมีนิสัยเข้ากับคนอื่นได้ง่ายและรักการถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้คน หรืออาจรู้สึกกังวลใจเล็กน้อยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนแปลกหน้าจำนวนมาก ซึ่งก็ไม่ได้มีแบบไหนถูกหรือผิด แต่สิ่งที่สำคัญคือ คุณต้องเลือกสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับบุคลิกภาพและอุปนิสัยของตัวเอง บางคนอาจจะเหมาะกับเมืองใหญ่ที่คึกคักมีสีสัน ในขณะที่บางคนอาจค้นพบตัวเองมากขึ้น เมื่อได้เรียนอยู่ในเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบ
สาขาวิชามัลติมีเดีย มีสถาบันการศึกษาให้เลือกมากมาย ซึ่งแต่ละที่ก็มีโครงสร้างหลักๆ ในการเรียนการสอนใกล้เคียงกัน แต่ก็มีรายละเอียดบางส่วนที่แตกต่างกัน บางมหาวิทยาลัยอาจมีอาจารย์ที่เชี่ยวชาญด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ หรือโดดเด่นในเนื้อหาเฉพาะทางบางอย่างมากกว่ามหาวิทยาลัยอื่น คุณควรเลือกมหาวิทยาลัยที่มีเนื้อหาหลักสูตร เอื้อประโยชน์ต่อการทำงานในอนาคตมากที่สุด และอย่าลืมพิจารณาคุณสมบัติของตัวเอง ให้ผ่านเกณฑ์ตามที่มหาวิทยาลัยกำหนดด้วย
จุดประสงค์ของการเรียนมหาวิทยาลัยไม่ใช่แค่เพื่อรับวุฒิการศึกษาเท่านั้น แต่มันยังช่วยเพิ่มโอกาสในการมีหน้าที่การงานที่ดี ดังนั้น จึงควรถามตัวเองก่อนยื่นใบสมัครว่า คุณอยากจบไปประกอบอาชีพอะไร ทำงานอยู่ส่วนไหนของสายงานด้านมัลติมีเดีย ถ้ารู้แน่ชัดแล้วว่าตัวเองต้องการทำอะไรหลังเรียนจบ คุณควรเลือกมหาวิทยาลัยที่มีคอนเนคชั่นกับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง บริษัทส่วนใหญ่มีเปอร์เซ็นต์สูงที่จะจ้างงานบัณฑิต ที่จบจากมหาวิทยาลัยที่พวกเขามีสายสัมพันธ์อันดีด้วย
ค่าธรรมเนียมการศึกษา เป็นอีกปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง หากคุณมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ก็ควรมองหามหาวิทยาลัยที่มีทุนสำหรับนักศึกษาขาดแคลนไว้เป็นทางเลือกหนึ่งด้วย หลังจากเลือกสถาบันการศึกษาได้แล้ว คุณควรลองประเมินค่าใช้จ่าย ทั้งค่าเทอม ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่นๆ ออกมาคร่าวๆ เพื่อใช้ประกอบในการตัดสินใจเลือกสถานที่เรียน