Formula หรือ สูตร คือการสั่งให้ Excel คำนวณค่าบางอย่างที่เราใส่ลงไปก่อนที่จะแสดงผลลัพธ์ของการคำนวณออกมา โดยเราจะใส่ทุกอย่างหลังเครื่องหมายเท่ากับ (=) เราสามารถสั่งให้มันคำนวณเลขธรรมดา เช่น =3+5 (จะแสดงผลการคำนวณออกมาเป็นเลข 8) หรือจะเป็นแนวอื่นเช่น อ้างอิงค่าจากช่องอื่น เช่น =B6 + B9 ก็ได้ นอกจากนี้ยังใส่อะไรลงไปได้อีกมากมาย ลองติดตามอ่านได้ครับ การใส่สูตร (Formula) จะต้องขึ้นต้นด้วยเครื่องหมายเท่ากับ (=) เพื่อบอก โปรแกรม Excel ว่าสิ่งที่จะพิมพ์ต่อไปไม่ใช่ข้อความหรือตัวเลขธรรมดาๆ ทื่อๆ แล้วนะ แต่มันคือสูตรซึ่งเป็นสิ่งที่ Excel ต้องทำการคำนวณผลลัพธ์ออกมานั่นเอง หมายเหตุ: การใช้สัญลักษณ์ $ จะบอกให้ Excel ว่าการอ้างอิงไปยัง C2 เป็น "แบบสัมบูรณ์" ซึ่งหมายความว่า เมื่อคุณคัดลอกสูตรไปยังเซลล์อื่น การอ้างอิงจะเป็นไปยังเซลล์ C2 เสมอ ถ้าคุณไม่ได้ใช้สัญลักษณ์ $ ในสูตร และลากสูตรลงไปยังเซลล์ B3 Excel จะเปลี่ยนสูตรเป็น =A3/C3 ซึ่งจะไม่ได้ผล เนื่องจากมีค่าใน C3การปิด/เปิด TouchPad ของ HP Notebook บน Windows 10-กรกฎาคม 31, 2561 Touchpad ทำให้บังคับเคอร์เซอร์ ได้เหมือนเมาส์ ใช้แทนเมาส์ได้ แต่บางครั้ง ในขณะที่ใช้เมาส์ มือไปถูก Touchpad ทำให้เคอร์เซอร์เปลี่ยนตำแหน่ง สร้างความรำคาญให้ไม่น้อย
HP Notebook สิ่งสำคัญ: ผลลัพธ์จากการคํานวณของสูตรและฟังก์ชันเวิร์กชีตExcelบางอย่างอาจแตกต่างกันเล็กน้อยระหว่างพีซีWindowsที่ใช้สถาปัตยกรรม x86 หรือ x86-64 และพีซีWindows RTที่ใช้สถาปัตยกรรม ARM เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความแตกต่างข้อสอบปลายภาค50ข้อ โปรแกรมword from peter dontoom ถ้าเป็นวันเดือนปี ในภาษาอังกฤษ ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะเอามา บวกลบ กันก็เสร็จ แต่สำหรับ ประเทศไทย ที่ใช้ วัน เดือน ปี เป็นปี พุทธศักราช มีปัญหามาก เพราะการเทียบเคียงว่าหมดอายุ หรือ เกินกำหนด ต้องเทียบเคียงกับวันปัจจุบัน ซึ่ง จะหาได้จาก ฟังก์ชั่น Now() ซึ่งให้ค่าออกมาเป็น ปี คริสศักราช พอเอามา บวกลบ กับปีพุทธศักราช ผลที่ได้ ก็ไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ การแก้ปัญหาง่ายนิดเดียว เหมือนเส้นผมบังภูเขา ใน Excel 2010 มีรูปแบบเซลล์ที่เป็นปีพุทธศักราช และมีปุ่มให้คลิกว่า การป้อนข้อมูลให้สอดคล้องกับปีปฏิทินที่เลือก เพียงเท่านี้ Excel ก็จะดำเนินการทุกอย่างให้ ข้อสำคัญคือ ต้องกำหนดรูปแบบของเซลล์เสียก่อน ให้ถูกต้อง ถ้าพิมพ์ข้อมูลเข้าไปแล้ว แล้วไปกำหนดรูปแบบเซลล์ทีหลัง ก็จะไม่ได้ผลที่คาดไว้ มาดูตัวอย่างกันนะครับ สมมุติว่า เราต้องการทำให้ได้ ดังภาพข้างล่างนี้ จากภาพ จะเห็นว่า ช่วง C2:C23 เป็นวันเริ่มต้นที่จะเอามาคิดวันหมดอายุ เซลล์ E2 เป็นวันที่ปัจจุบันซึ่งได้มาจากสูตร =Now() และ G2 เป็นกำหนดระยะเวลาที่หมดอายุ ในตัวอย่าง กำหนดไว้ให้มีวันหมดอายุ คือ 10 วัน และถ้าดูในช่วง C2:C23 จะเห็นว่า วันที่หมดอายุ จะมีสีแดงเป็นสีพื้น เป็นการเตือนให้ทราบว่า หมดอายุแล้ว การใช้สี แจ้งเตือนวันหมดอายุ หรือ เกินกำหนด ตามตัวอย่างข้างต้น แบ่งออกเป็น 2 ตอน คือ
ทำโดยใช้หลักการข้างต้น ดังนี้ เตรียมการเบื้องต้น
การเปลี่ยนสีพื้นเมื่อหมดอายุ หรือ เกินกำหนดแล้ว
จากนี้ เราจะคัดลอกลักษณะพื้นหลัง ไปยังเซลล์ข้อมูลอื่น ๆ ดังนี้
ถ้าต้องการ ตรวจสอบวันหมดอายุ โดยใช้ช่วงระยะเวลาเป็นเดือน คลิกที่นี่ |