สีน้ำมันและสีอะคริลิคมีความแตกต่างกันอย่างไร

ถ้าเกิดเป็นการทาสีบ้านนั้น หลายคนอาจจะต้องซื้อสีนั้นมาทาบ้านเองกันทั้งนั้น แต่หลายคนนั้นอาจจะบอกว่าควรซื้อสีพลาสติกนั้นดีกว่า หรือหลายคนนั้นชอบให้ไปซื้อสีน้ำอะคริลิคนั้นแทน แต่สองอันนี้แตกต่างกันยังไงมีใครเคยสงสัยไหมว่า วันนี้นั้นผมนั้นจะมาแนะนำคนที่ต้องการจะใช้สีน้ำ อะคริลิคกันนะครับ

ถ้าเกิดเป็นการทาสีบ้านนั้น หลายคนอาจจะต้องซื้อสีนั้นมาทาบ้านเองกันทั้งนั้น แต่หลายคนนั้นอาจจะบอกว่าควรซื้อสีพลาสติกนั้นดีกว่า หรือหลายคนนั้นชอบให้ไปซื้อสีน้ำอะคริลิคนั้นแทน สีน้ำอะคริลิค VS สีพลาสติก ใช่อันเดียวกันไหม ? แต่สองอันนี้แตกต่างกันยังไงมีใครเคยสงสัยไหมว่า วันนี้นั้นผมนั้นจะมาแนะนำคนที่ต้องการจะใช้สีน้ำ อะคริลิคกันนะครับ

สีน้ำมันและสีอะคริลิคมีความแตกต่างกันอย่างไร
สีน้ำมันและสีอะคริลิคมีความแตกต่างกันอย่างไร

2. สีอะคริลิคมีคุณสมบัติที่แห้งเร็ว โดยจะมีข้อดีและข้อเสียของมัน มันจะดีสำหรับการวาดภาพและคุณชอบที่จะทำงานได้รวดเร็ว แต่ถ้าคุณได้ทำผิดพลาด ข้อเสียเปรียบหลักเลยเพราะมันแห้งอย่างรวดเร็ว บางครั้งอาจจะเป็นเรื่องยากในการผสมสีเพราะสีมีความหนืดสูง แต่เราสามารถแก้ได้โดยใช้น้ำยา medium ผสมกับสี ซึ่งใช้เวลานานขึ้นกว่าจะแห้ง

3. สีอะคริลิค มีหลากหลายแบบมาก ซึ่งหมายความว่าพวกเขาสามารถบรรจุในภาชนะที่แตกต่างกัน และการนำมาใช้งานได้ง่ายสำหรับความหลากหลายของรูปแบบงาน ตัวอย่างเช่น พวกเราสามารถระบายได้ทั้งหนาหรือบาง พื้นผิววัสดุงาน และเราสามารถเพิ่มเม็ดทราย หรือลูกปัดแก้ว เพื่อสร้างพื้นผิวขรุขระ หรืออาจจะใช้น้ำยาเวนิชเพื่อเพิ่มความเงางามของสี ทำให้มีความมันวาวสูง และเคลือบสีไปในตัว ช่วยเพิ่มความทนทานของสีได้อีกด้วย และยังมี สีเพ้นท์เสื้อ ที่ทนต่อการซักได้มากกว่าด้วย

สีน้ำมันและสีอะคริลิคมีความแตกต่างกันอย่างไร
สีน้ำมันและสีอะคริลิคมีความแตกต่างกันอย่างไร

4. ในงานสีที่นิยมนำมาใช้ในการวาดภาพบนวัสดุพวกแผ่นผ้าใบ canvas กระดาษปอน์ดสำหรับวาดเขียนอย่างหนา สและามารถทาสีบนพื้นผิวได้เกือบทุกชนิด เช่น ผ้า ดินเผา หรือแม้กระทั่งแผ่นเสียงเก่าๆ ถ้าเราอยากเพิ่มความหลากหลายโดยใช้เครื่องมืออื่นๆ แนะนำเป็นแปรงสีฟันครับ จุ่มสี แล้วเอานิ้วดีดที่ขนแปรงเลย อาร์ตสุดๆ

5. คุณสมบัติของ สีอะคริลิค ที่เด่นๆก็คือความทึบแสงครับ หากเขียนอย่างหนาๆ ด้วยพู่กันหรือเกรียง ผลที่ออกมาจะดูเหมือนสีน้ำมัน ในทางตรงกันข้าม หากนำมาผสมน้ำแล้วเขียนอย่างบางๆ ลักษณะสีก็จะดูโปร่งใสเหมือนสีน้ำ จัดว่าเป็นสีอเนกประสงค์ที่แห้งเร็วทันใจ เขียนทับไปมาได้ แถมยังติดทนทานได้ดี (ยกเว้นหากทาบนวัตถุที่มีผิวมันวาว)

และเพิ่มเติมสำหรับพู่กันที่เหมาะสมสำหรับใช้กับสีอะคริลิกนั้น จะเป็นพู่กันชนิดที่ทำจากขนสัตว์ครับ หากแต่ก็ต้องระมัดระวังพอสมควร เนื่องจากเป็นสีที่แห้งตัวเร็ว ดังนั้นหากปล่อยให้พู่กันแห้ง สีก็จะเกาะติดจนล้างออกยาก จึงควรรีบล้างสีออกจากพู่กันด้วยน้ำอุ่นทันทีเมื่อเลิกใช้งานครับ ?

ความจริงท่านอาจจะตอบได้ หรือเลือกได้ว่าจะใช้สีน้ำที่ไหน และสีน้ำมันที่ไหน และคำตอบของท่านก็คงจะตรงกับข้อมูลที่ว่าสีน้ำใช้กับผิวปูนและคอนกรีต ในขณะที่สีน้ำมันใช้กับผิวไม้และโลหะ ดังนั้นผิวปูน ผิวคอนกรีต

รวมทั้งผิวใดๆ ที่ไม่ใช่ไม้และโลหะ เช่น ผิวกระดาษของแผ่นยิบซั่มก็เหมาะที่จะใช้สีน้ำ สำหรับผิวไม้และโลหะ ที่หมายถึง เหล็ก อะลูมิเนียม หรือโลหะใดที่ปรากฎอยู่เป็นองค์ประกอบของสถาปัตยกรรมที่จำต้องทาสีทับแล้ว สีน้ำมันก็จะเป็นสีที่เหมาะที่สุด

คำว่า สีน้ำ จริงๆ แล้วคำที่ถูกต้องคือ สีพลาสติก เพราะองค์ประกอบ

สำคัญก็คือพลาสติก หรือที่เรียกตามภาษาวิทยาศาสตร์ก็คือ โพลีไวนีลอะซีเตท เหตุที่เราเรียกสีน้ำก็เพราะว่าสีชนิดนี้ใช้ น้ำ เป็นตัวผสมทำให้เจือจาง เช่นเดียวกับสามารถชำระล้างออกด้วยน้ำเช่นกัน ส่วนสีน้ำมันนั้นก็บอกตัวมันเองอยู่แล้ว

เนื้อหาในตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่การเปรียบเทียบเพื่อความกระจ่างระหว่างสีทั้งสอง เนื่องจากมีข้อกำหนดในการใช้สีแต่ละชนิดค่อนข้างจะชัดเจน แต่สิ่งที่ทำให้สับสนหรือขาดความกระจ่างก็คือทั้งสีน้ำและสีน้ำมันนั้นมีอยู่หลายชนิดด้วยกัน เพื่อความเหมาะสม ต่อการใช้งาน ผิวพื้นอย่างไร สภาพอย่างไร หรือลักษณะการใช้งานอย่างไร ควรจะใช้สีน้ำมันหรือสีน้ำมันชนิดใด จึงเป็นสิ่งที่ท่านควรทราบอย่างมาก

ก่อนอื่นอยากให้ท่านได้รู้จักกับสีเสียก่อนว่า สีที่ใช้ทาวัตถุต่างๆนั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง เพื่อประดับความรู้ ดังนี้

1. ผงสี (PIGMENT) เป็นองค์ประกอบสำคัญตามธรรมชาติของเนื้อสี ซึ่งจะเป็นอณูเล็กๆ ให้สีสันนั้นๆ เป็นตัวหรือเนื้อสีนั่นเอง

2. ตัวทำให้เกิดชั้นของเนื้อสี (BINDER) บางทีเราเรียกว่า ตัวทำให้เกิดฟิล์มเคลือบเนื้อสี เมื่อเราทาลงบนพื้นผิวใดๆ แล้ว และเช่นเดียวกัน มันก็ยังเป็นตัวยึดผงสีให้อยู่ด้วยกัน สารตัวนี้เราเรียกว่า RESIN (คำว่า BINDER นั้นหมายถึงหน้าที่หรือคุณสมบัติของเจ้า RESIN นั่นเอง) สารดังกล่าวก็ได้แก่อะครีลิก (ACRYLIC)และ โพลียูรีเทน (POLYURETHANE) เป็นต้น

นอกจากนี้ยังทำให้เกิดความเงางาม ความแข็งแกร่งทนทานต่อสภาพแวดล้อม

3. ตัวทำละลาย (SOLVENT) สารตัวนี้เป็นตัวผสมองค์ประกอบที่ 1 และ 2 ให้ได้ความข้นเหลวของสีชนิดนั้นๆ ตามต้องการ เพื่อสะดวกต่อการทาหรือพ่น หลังจากนั้นก็จะระเหยไป ซึ่งเราจะเห็นได้ชัดเจนว่า สำหรับสีน้ำหรือสีพลาสติกนั้น น้ำ ก็คือตัวทำละลายและสีน้ำมันก็มีทินเนอร์เป็นตัวทำละลายนั่นเอง

4. สารเติมพิเศษ (ADDITIVES) เป็นสารที่เติมเข้าไปในเนื้อสีให้มีคุณสมบัติต่างๆเพิ่มเติม เช่น ทำให้แห้งเร็ว ทาแล้วเรียบปราศจากรอยแปรงหรือสามารถกันชื้นกันเชื้อราได้

และรายละเอียดที่จะเสนอต่อท่านผู้อ่านถึงการเลือกใช้สีให้เหมาะสมกับสภาพของผิวพื้นที่จะทา กับสภาพความจำเป็นหรือความต้องการ โดยจะแสดงเป็นตารางเพื่อง่ายต่อการพิจารณาเช่นเคย ดังนี้

 

สีน้ำมันและสีอะคริลิคมีความแตกต่างกันอย่างไร
สีน้าอคริลิก สำหรับทาอาคาร

สีพลาสติกหรือสีอคริลิก (สีน้ำ)

สภาพพื้นผิว,ความต้องการชนิดของเนื้อสีหมายเหตุพื้นผิวปกติต้องการทาสีทับเป็นครั้งแรกสีรองพื้นมีส่วนผสมอะครีลิก(สีขาว)พื้นผิวเป็นฝุ่นมีสภาพผุกร่อนของผิวปูนต้องการทาสีทับสีรองพื้นแบบเคลือบปูน(สีใส)เพื่อให้ฝุ่นปูนยึดเกาะกันเป็นแผ่นทาสีทั่วๆไปทั้งภายในภายนอกเพื่อความสวยงามสีอีมัลชั่น(EMULSION PAINT)ทำจากโพลีไวนีลอะซีเตทกับอะครีลิกคือสีพลาสติกธรรมดานั่นเอง บางยี่ห้อทนต่อเชื้อราและปราศจากสารปรอททาสีตกแต่งเฉพาะภายในสีอีมัลชันประเภทเนื้ออะครีลิกทนต่อฤทธิ์ด่าง เชื้อรา ทาได้โดยไม่ต้องทาสีรองพื้นในสภาวะปกติ ปราศจากสารปรอททาสีภายนอกอาคารทั่วไปสำหรับผิวพื้นปูน หินล้าง ทรายล้าง อิฐก่อสีที่มีเทอร์โมพลาสติกและอะครีลิกเป็นองค์ประกอบให้ความคงทน ไม่ซีดขาว ทนต่อฤทธิ์ด่าง ไม่มีสารตะกั่ว ทนเชื้อรา และทนต่อสภาพภูมิอากาศ ผิวพื้นเมื่อทาเสร็จจะเรียบเนียนทาสีผนังปูน,คอนกรีตที่ต้องการความทนทานพิเศษสีชนิดคลอริเนทเต็ดรับเบอร์เหมาะกับอาคารที่ต้องการความทนทานของสีมีโอกาสทาสีซ้ำบ่อยๆได้ยาก เช่น อาคารสูงต้องการอายุการใช้งานยาว

 

สีน้ำมันและสีอะคริลิคมีความแตกต่างกันอย่างไร
สีน้ำมันสำหรับงานโลหะและงานไม้

สีน้ำมัน

สภาพพื้นผิว,ความต้องการชนิดของเนื้อสีหมายเหตุพื้นผิวปกติหรือเคยทาสีมาแล้วต้องการทาสีทับสีรองพื้นไม้และอะลูมิเนียม(เป็นสีอะลูมิเนียม)ป้องกันเชื้อราได้ บางยี่ห้อแยกเป็นสีรองพื้นเหล็กหรือไม้ทาสีทั่วไปทั้งภายในและภายนอกสีน้ำมันทั่วไปบางชนิดทำเป็นสีเคลือบเงา ทนเชื้อราต้องการทาสีให้สวยเนียนสีรองพื้นชั้นที่สอง ทำมาจากเรซินสังเคราะห์(เป็นสีขาว)ทนทาน ทนความร้อนทาสีบนโลหะสีรองพื้นกันสนิมมีผงเหล็ก(RED OXIDEและZINC CHROMATE(เป็นสีแดงอมน้ำตาล)มักเรียกกันว่าสีกันสนิมทากันสนิมอย่างดีสีอีพ็อกซี่ มีส่วนผสมของอีพ็อกซี่ เรซินและตะกั่วแดง(เป็นสีแดงส้ม)เหมาะกับโครงเหล็กที่ต้องการความทนทานพิเศษเช่น สะพาน ท้องเรือทากันสนิมสำหรับโลหะต่างๆ โครงสร้างเหล็กสีกันสนิมที่มีผงสีซิ้งค์โครเมท(ZINC CHROMATE)ผสมใช้ได้กับเหล็ก สังกะสี อะลูมิเนียมป้องกันสารเคมี,การขัดถู ขีดข่วนสีอีพ็อกซี่มีทั้งชนิดใช้ภายนอกและภายใน ใช้ทาเคลือบทับหน้ามีทั้งใช้ทาไม้ โลหะ หรือผิวปูนทาเคลือบท้องเรือ ถังเหล็กป้องกันการกัดกร่อนจากสารเคมีสีอีพ็อกซี่สำหรับทา “แท็งก์ทาเคลือบให้เป็นสีอะลูมิเนียมสีอะลูมิเนียมทาได้ทั้งไม้ โลหะ ใช้สีรองพื้นกันสนิมทาก่อนมีทั้งแบบทนความร้อนสูง

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก 

http://www.bestroomstyle.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99/