วิกฤตการณ์ คือความท้าทายที่จะทำให้ก้าวไปข้างหน้า ฟินเทค คืออาวุธทางการค้าที่ทำให้ธุรกิจคุณเข้มแข็งมากขึ้น เรามีโอกาสได้สัมภาษณ์ Mr. Fintech หรือ คุณ แซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวตจำกัด
ฟินเทค (Fin Tech) คืออะไร
ชื่อเต็มคือ Financial Technology แปลตรงตัวคือ เทคโนโลยีทางด้านการเงิน ยกตัวอย่างเช่นธุรกิจแบบเดิมที่มีช่องทางการขายแบบเก่า เก็บแค่เงินสด เกิดวันหนึ่งเขาอยากจะมีช่องทางการขายที่มากขึ้น มีช่องทางการจ่ายเงินที่มากขึ้น เลยใช้การโอนผ่านธนาคาร จ่ายผ่านมือถือ ผ่าน QR Code นั่นแหละเรียกว่า ฟินเทค
ฟินเทค สำคัญในชีวิตประจำวันคนธรรมดาอย่างไร
มนุษย์เราทุกคนมีชีวิตอยู่กับเรื่องการเงินและไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทย ยกตัวอย่างเช่น บางประเทศอาจไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องเทคโนโลยี บางประเทศอาจไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องการท่องเที่ยว เขาอาจจะไปเน้นความสำคัญในเรื่องอื่น แต่ไม่ว่าประเทศไหนก็หนีเรื่องการเงินไม่พ้น ทุกประเทศล้วนต้องใช้เงิน ฟินเทคจึงสำคัญ
อะไรทำให้คุณรู้สึกสนใจในเรื่องของฟินเทค
ตั้งแต่เรียนจบก็ทำงานธนาคารมาตลอด ช่วงหนึ่งในฝ่ายด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อ เรารู้สึกว่าเวลาสมัคร ทำไมต้องกรอกเอกสารยาวถึงสามสี่หน้า จึงมองหาเทคโนโลยีมาช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า เลยเริ่มทำแอปพลิเคชัน ขึ้นมา สามารถแลกคะแนนได้ เจ้านายซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางด้านดิจิทัลของธนาคารก็ให้ไปหาความรู้เพิ่มเติม จึงได้มารู้จักกับ เทคซอส จนกระทั่งได้มาทำโปรเจคร่วมกันโดยใช้ชื่อว่า กรุงศรียูนิสตาร์ทอัพ ต่อมาก็อีกโครงการคือ กรุงศรีไรส์ขึ้นมา สร้างกระแสฮือฮาอย่างมาก ทีมที่ชนะเลิศการประกวดในเวลานั้นชื่อ ฟินโนมีนา ซึ่งเราร่วมลงทุนกับเขา นั่นเป็นการลงทุนในฟินเทคครั้งแรกเมื่อสามปีที่แล้ว และยังทำมาตลอด
ทิศทางของฟินเทคในปี 2020 เป็นอย่างไรบ้าง
ถ้าพูดถึงฟินเทคทุกธนาคารให้ความสำคัญมานานแล้ว แต่จะไม่ทำเองเพราะใช้เวลานาน สตาร์ทอัพสามารถทำให้เสร็จได้เร็วกว่ามากเพราะเขาโฟกัสอยู่เรื่องเดียว ถ้าเป็นบุคลากรจากธนาคารเราจะต้องทำงานไปพร้อมกันหลายด้าน ในปีนี้เราจึงจะเห็นธนาคารร่วมมือสตาร์ทอัพเจ้าต่าง ๆ เพื่อทำฟินเทค
อีกตัวอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นคือ ธนาคารจะลดจำนวนสาขาลง เปลี่ยนช่องทางไปใช้ออนไลน์มากขึ้น ปฏิเสธไม่ได้ที่เราต้องใช้เทคโนโลยีทางด้านการเงินมาช่วย ต่างกันในแต่ละแบรนด์เท่านั้นว่าจะเน้นในเรื่องไหน
สงครามการค้า ไวรัสโคโรนา ฝุ่น PM2.5 หรือแม้กระทั่งเซอร์กิตเบรกเกอร์ วิกฤตการณ์เหล่านี้จะกระทบกับวงการฟินเทคมากน้อยแค่ไหน
ที่กระทบมากที่สุดคงจะเป็นเรื่องโคโรนาไวรัส ตัวลูกค้าของธนาคารจะอยู่รอดหรือไม่ ส่งผลกระทบต่อธนาคารโดยตรง ยอดหนี้เสียมากขึ้น ยอดขายของธนาคารลดลง ถ้าคุณอยู่ในธุรกิจเดลิเวอรี่ออนไลน์อาจจะอยู่ในจังหวะขึ้น แต่ถ้าคุณอยู่ในธุรกิจที่ไม่จำเป็นต้องใช้ก็อยู่ยาก แต่แน่นอนว่ายอดการใช้จ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์จะเติบโตขึ้นทดแทนการใช้เงินสดในช่วงนี้
ช่วงหลายปีที่ผ่านมากระแส Digital Disruption กำลังมีบทบาทสำคัญกับธุรกิจทุกประเภท รวมถึงฟินเทค สำหรับผู้เล่นหน้าเก่าที่อยู่ในวงการนี้มามานานควรปรับตัวอย่างไรและผู้เล่นรายใหม่ที่กำลังเข้ามาสู่ธุรกิจฟินเทคควรทำอย่างไรเพื่อให้อยู่รอดในวงการนี้ได้
Digital Disruption เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตลอด คุณต้องปรับตัวให้ทันในทุกสถานการณ์ เคล็ดลับคือการดูเทรนต่างประเทศ จะพอเห็นแนวโน้มที่น่าจะเกิดขึ้นกับประเทศไทยในอนาคต ยกตัวอย่างเช่น เรื่องการปล่อยกู้ของธนาคาร ซึ่งตอนนี้เป็นการสร้างรายได้มากที่สุด เรากำลังจะโดนแทนที่โดยธุรกิจที่เรียกว่า เพียร์ทูเพียร์ เขาจะเป็นผู้จับคู่กันระหว่างผู้ที่มีความต้องการจะกู้กับตัวนักลงทุน ยกตัวอย่างเช่นธุรกิจเอ เดินเข้าไปในธนาคารกรุงศรีเพื่อขอกู้เงิน ธนาคารก็จะขอดูสินทรัพย์ บ้าน รถ โฉนดที่ดิน เพื่อค้ำประกันเงินกู้ แต่เอเป็นธุรกิจที่เปิดได้ไม่นานยังไม่มีสินทรัพย์ ทำให้เอไม่ได้เงินกู้ แต่เพียร์ทูเพียร์ไม่ได้ใช้หลักการพิจารณาเดียวกับธนาคาร เขาจะดูลึกไปถึงประวัติของบุคคลที่ขอกู้ ประเมินความเป็นไปได้ของธุรกิจว่าจะทำกำไรในอนาคตหรือไม่ ดูแผนธุรกิจว่าจะคืนทุนในระยะเวลาเท่าไหร่ พิจารณาแล้วก็ให้เกรด เอ บี ซี ดี สมมติได้เกรดซีดอกเบี้ยสิบห้าเปอร์เซ็นต์ เพียร์ทูเพียร์ก็จะประกาศไปยังบรรดานักลงทุนว่ามีใครอยากลงทุนจำนวนเท่านี้ไหม นักลงทุนเข้ามาดูแล้วสนใจเพราะว่ามันดีกว่าฝากเงินไว้ เฉย ๆ
นอกจากนี้ยังมีการ Disruption ด้านบริหารเงิน คนทั่วไปจะลงทุนก็จะวิ่งเข้าสาขาธนาคาร ถ้าวิ่งเข้ากรุงศรีก็จะได้ของกรุงศรี ซึ่งเราอาจจะมีไม่กี่ตัวนอกจากนี้ก็ต้องไปธนาคารอื่น แต่ทุกวันนี้จะมีตัวกลางที่เรียกว่า ฟีโนมีนา เขาสามารถลงได้ทุกกองทุน และที่สำคัญคือเขาไม่ได้วิเคราะห์โดยมนุษย์แต่เป็นด้วยระบบเรียกว่าโรบอทแอดไวเซอร์
ด้านการปรับตัวธนาคารก็ต้องปรับ หนึ่งคือทำแข่งกันเลยซึ่งจะมีแค่บางโปรดักส์ที่เรากล้าที่จะแข่ง (หัวเราะ) ถ้าเรายังไม่พร้อมที่จะแข่งก็จะไปร่วมทุน เขาโตเราโตด้วยลดความเสี่ยงโดยที่เราไม่ต้องทำเอง
ธุรกิจฟินเทคแบบไหนที่กำลังมาแรงบ้าง
ก็จะมีเพียร์ทูเพียร์ที่เล่าให้ฟังเมื่อสักครู่กับอีกอันคือเรื่องการโอนเงินไปยังต่างประเทศ มีอยู่แค่สองกลุ่มที่ใช้งานบ่อย หนึ่งคือคนที่ทำธุรกิจกับต่างประเทศ สองคือแรงงานต่างด้าว ลาว พม่า เวียดนาม ปัญหาคืออย่างหลังเขาเรียกว่าโอนผ่านโพยก๊วน คือระบบเก่าที่โอนเงินให้กับนายหน้า แล้วนายหน้าส่งต่อให้กับครอบครัวโดยหักค่าดำเนินการซึ่งไม่มีกำหนดมาตรฐาน ปัจจุบันนี้ยังไม่มีอะไรทดแทนกันได้ ระบบนี้มันยากตรงที่การพิสูจน์ว่าเงินที่โอนมาจากการทำงานสุจริตไม่ใช่การฟอกเงิน ต้องหาวิธีพิสูจน์ก่อนถึงจะเปิดใช้ ถ้ามีใครทำได้เราก็พร้อมจะลงทุนด้วย (หัวเราะ) มีอีกหลายอย่างซึ่งเป็นธุรกิจที่มองเห็นปัญหาและมีวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้คือดาวรุ่งทั้งหมด
แล้วธุรกิจฟินเทคแบบไหนเรียกว่าดาวร่วง
ดาวร่วงส่วนใหญ่จะเป็นสตาร์ทอัพที่ตัวเจ้าของยังไม่มีประสบการณ์ ปัญหาของเด็กยุคนี้คือมีมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก กับ อีลอน มัสก์ เป็นไอดอล คิดว่าไม่ต้องเรียน ไม่ต้องมีประสบการณ์ก็ประสบความสำเร็จได้ ถามว่าเป็นไปได้ไหมก็เป็นไปได้ แต่มันคิดเป็นแรร์เคสซึ่งมีจำนวนน้อย ในต่างประเทศสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จในพวกเขาอายุค่อนไปทางแก่ทั้งหมด เขามีประสบการณ์จากบริษัทที่เขาเคยไปเป็นลูกจ้างมาก่อน เขาเรียนรู้ระบบทำงานกับคนหมู่มาก เรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างมาเรียบร้อยแล้ว เห็นปัญหาที่เกิดขึ้น รวมทั้งเห็นวิธีการแก้ไขปัญหาในองค์กรเก่า ๆ คนพวกนี้ส่วนใหญ่จะทำสำเร็จแล้วนักลงทุนจะให้ความน่าเชื่อถือค่อนข้างมาก
ธุรกิจฟินเทคในประเทศไทยมีโอกาสที่จะเติบโตก้าวขึ้นไปสู่ระดับแนวหน้าของเอเชียและระดับโลกได้หรือไม่
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วกรุงศรีประกาศการลงทุนในแกร็บ เขามีมูลค่าไปไกลเกินกว่าหนึ่งหมื่นสี่พันล้านเหรียญ เรียกได้ว่านี่เป็นยูนิคอร์นสิบสี่ตัว (หัวเราะ) เรื่องที่น่าสนใจสำหรับแกร็บคือ เขาสามารถเข้าถึงการเงินของคนจำนวนมากได้มากกว่าธนาคาร ในอนาคตจะกลายเป็นธุรกิจที่ใหญ่ในระดับโลก ประกอบกับเทรนด์โลกต่อจากนี้ คนจะใช้รถยนต์ส่วนตัวน้อยลงเปลี่ยนเป็นใช้รถยนต์สาธารณะ หรือไม่ก็เปลี่ยนมาเช่ารถยนต์ระยะยาว นั่นคือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
มีอะไรเพิ่มเติมที่จะฝากถึงคนที่ทำฟินเทคและคนที่กำลังจะเริ่มลงมือทำฟินเทคบ้าง
เมื่อไม่นานมานี้กรุงศรีเราเปิดตัว กรุงศรียูนิคอร์น โดยเริ่มจากบริษัทลูกก่อน ใครที่อยากเป็นสตาร์ทอัพให้มาสมัคร จะมีทีมที่ช่วยดูและและให้คำแนะนำ ถ้าผ่าน คุณจะได้ออกมาทำสตาร์ทอัพจริง ๆ แต่ถ้าคุณไม่ผ่าน คุณก็สามารถกลับมาเป็นพนักงานได้ คือมันมีเหตุผลที่ทำแบบนี้เพราะพนักงานเราชอบลาออกไปตามฝันแล้วก็เจ๊ง พอเจ๊งแล้วก็กลับมาไม่ได้ นั่นคือความน่าเสียดาย เราเลยหันมาสนับสนุน ถ้าเขาทำได้ดีเราจะเป็นผู้ลงทุนให้เลย เพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จให้มากขึ้น แต่ถ้าไม่ใช่พนักงานกรุงศรี เราแนะนำให้หาที่ปรึกษาให้ดี ซึ่งทางกรุงศรีเองก็กำลังคุยกับบริษัทเอกชนอื่น ๆ เพื่อรวมตัวกันสร้างเป็นโรงเรียนสอน น่าจะมีให้เห็นในอีกไม่นานและก็แนะนำว่าถ้าคิดอยากจะทำมันต้องเป็นสิ่งที่คุณมีความรู้ความเข้าใจอย่างดี หรือถ้าฟอร์มทีมเริ่มทำไปแล้วก็ปรึกษาเราได้ โดยเข้าไปที่เว็บไซต์หรือทางเฟซบุ๊กของกรุงศรีฟินโนเวตได้
เราอยู่ในยุคของการเปลี่ยนแปลง ในยุคของวิกฤตการณ์ ทั้งโคโรนาไวรัสที่กำลังระบาด PM2.5 และอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้น ทางรอดของพวกเราในยุคนี้คือการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด และนี่คืออีกบทหนึ่งที่เราต้องเรียนรู้