เรื่องของความรุนแรงในครอบครัว เป็นสิ่งที่เราเห็นในสังคมมานาน บางที่ถึงขั้นลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายกันก็มี คนที่ตกเป็นเหยื่อหลายรายไม่กล้าบอกความจริงกับญาติ หรือไม่กล้าเข้าแจ้งความเอาผิด ยิ่งถ้าคนนอกอยากเข้าไปช่วย แล้วกลับเจอประโยค “เรื่องผัวเมียอย่ามายุ่ง!!” เจอแบบนี้ไป น้อยคยนักที่จะกล้าเข้าไปยุ่ง แต่การที่สามีภรรยาทะเลาะกันเป็นปกติแบบนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง
การทะเลาะของสามีภรรยาถึงขั้นลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายกันถือว่ามีความ “ผิด” ตามประมวลกฎหมายอาญา กำหนดโทษของคดีทำร้ายร่างกาย โดยเจตนาไว้หลายระดับ ตามความหนักเบาของบาดแผลที่เกิดขึ้น เป็นการกระทำต่อบุคคลเฉพาะที่กำหนดไว้ หรือมีพฤติกรรมพิเศษ ดังนี้
มาตรา 391 ผู้ใดใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือ จิตใจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ยกตัวอย่างเช่น ตบหน้ามีรอยแดงๆ ชกต่อยเพียงฟกช้ำไม่มีเลือดไหล ศีรษะโน เป็นต้น
มาตรา 295 ผู้ใดทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 296 ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ถ้าได้กระทำต่อบุคคลเฉพาะเจาะจง เช่น บุพการี เจ้าพนักงาน เป็นต้น หรือพฤติการณ์พิเศษ เช่น การวางแผนล่วงหน้า กระทำทารุณกรรม เป็นต้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 297 ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตราย สาหัส ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 200,000 บาท โดยกำหนดลักษณะบาดแผลซึ่งถือเป็นอันตรายสาหัสไว้ 8 ลักษณะ เช่น ตาบอด ใบหน้าเสียโฉมอย่างติดตัว แท้งลูก ป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาหรือทำงานไม่ได้เกินกว่า 20 วัน เป็นต้น
ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300
อ้างอิง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ,296,297,297,391
พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาและคุ้มครองสถาบันครอบครัว พ.ศ. 2562 (มาตรา 4, 23)
กฎหมายน่ารู้ : บ้านไม่ใช่เวทีมวย! เราจึงต้องช่วยหยุดความรุนแรง
กฎหมายน่ารู้คดีอาญาครอบครัวความรุนแรงทะเลาะทำร้ายร่างกายผัวผัวเมียตีกันภรรยาสามีเมีย
- Facebook iconFacebook
- Twitter iconTwitter
- LINE iconLine
OJA
สำนักงานกิจการยุติธรรม ให้ความรู้กฎหมาย เป็นเรื่องใกล้ตัวของทุกคน
คดีทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายจะมีบทลงโทษเท่าไหร่และ มีอายุความยังไงมันมีความแตกต่างกันไปเนื่องจากในข้อหานี้ยังมีความหนักเบาแห่งข้อหาแตกต่างกันออกไปดังรายละเอียดกฎหมายดังนี้คือ
ในเรื่องบทลงโทษ ทำร้ายร่างกาย
1.ทำร้ายร่างกายตาม 295 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.ทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส ตาม 297 จำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี
3.ทำร้ายร่างกายตาม 296 คือทำร้ายร่างกาย+ เหตุฉกรรจ์ตาม 289 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท
4.มาตรา 290 ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย(เจตนาทำร้าย) ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี
แต่เห็นว่าคดี ทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกาย มีโทษแตกต่างกันออกไปตามแต่ละข้อหา
คดีทำร้ายร่างกายมีอายุความกี่ปี
เมื่อมี บทลงโทษจำคุกแตกต่างกันออกไปจึงส่งผลให้มีอายุความแตกต่างกันออกไปด้วย ตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 95 ในคดีอาญา ถ้ามิได้ฟ้องและได้ตัวผู้กระทำความผิดมายังศาลภายในกำหนดดังต่อไปนี้ นับแต่วันกระทำความผิด เป็นอันขาดอายุความ
(1) ยี่สิบปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกยี่สิบปี
(2) สิบห้าปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกกว่าเจ็ดปีแต่ยังไม่ถึงยี่สิบปี
(3) สิบปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกกว่าหนึ่งปีถึงเจ็ดปี
(4) ห้าปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกกว่าหนึ่งเดือนถึงหนึ่งปี
(5) หนึ่งปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งเดือนลงมาหรือต้องระวางโทษอย่างอื่น
ประมวลกฎหมายอาญา ลักษณะ 10 หมวด2 ความผิดเกี่ยวกับร่างกาย
มาตรา 295 ผู้ใดทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 296 ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ถ้าความผิดนั้น มีลักษณะประการหนึ่งประการใดดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 289 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 297 ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี
อันตรายสาหัสนั้น คือ
(1) ตาบอด[ถาวร] หูหนวก[ถาวร] ลิ้นขาด[ถาวร] หรือเสียฆานประสาท[ความสามารถในการดมกลิ่น]
(2) เสียอวัยวะสืบพันธุ์ หรือความสามารถสืบพันธุ์
(3) เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้วหรืออวัยวะอื่นใด
(4) หน้าเสียโฉมอย่างติดตัว
(5) แท้งลูก
(6) จิตพิการอย่างติดตัว
(7) ทุพพลภาพ หรือป่วยเจ็บเรื้อรังซึ่งอาจถึงตลอดชีวิต
(8) ทุพพลภาพ หรือป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่ายี่สิบวันหรือจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่ายี่สิบวัน
มาตรา 298 ผู้ใดกระทำความผิดตามมาตรา 297 ถ้าความผิดนั้นมีลักษณะประการหนึ่งประการใดดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 289 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี
สำหรับเรื่องเหตุฉกรรจ์ ตาม มาตรา 289 ผู้ใด
(1) ฆ่าบุพการี
(2) ฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่จะกระทำ หรือได้กระทำการตามหน้าที่
(3) ฆ่าผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน[กว้างกว่า ป.วิอาญา 182] ในการที่เจ้าพนักงานนั้นกระทำตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่บุคคลนั้นจะช่วยหรือได้ช่วยเจ้าพนักงานดังกล่าวแล้ว
(4) ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน[ประสงค์ต่อผลเท่านั้น - เจตนาเล็งเห็นผลไม่มีไตร่ตรอง]
(5) ฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
(6) ฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น หรือ
(7) ฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้
การทำร้ายร่างกาย จะเข้าความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตราใด จึงต้องมาพิจารณาละเอียดถี่ถ้วนอีกครั้งว่าผู้เสียหายมีอาการบาดเจ็บมากน้อยเพียงใด มีการบาดเจ็บหรือไม่อาการใดที่แสดงว่าเป็นอาการบาดเจ็บสาหัส หรือมีเหตุฉกรรจ์ไหม เช่นทำร้ายพ่อแม่ ทำร้ายครูอาจารย์ ทำร้ายเจ้าพนักงาน หรือ ทำร้ายผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนหรือโดยทรมาน หรือตัดเตรียมการ เพื่อความสะดวกในการกระทำความผิดอาญาอย่างอื่น ซึ่งจะมีรายละเอียดที่จะต้องพิจารณามาก โดยดูข้อเท็จจริงในคดี เพื่อวินิจฉัยวิเคราะห์ต่อไป