ทุกวันนี้ผมว่าน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก Facebook twitter LinkedIn หรือ Google+ และอื่นๆ อีกมากมายที่เป็นโปรแกรมทางด้าน Social Network นอกจากที่จะรู้จักแล้ว ผมก็ยังเชื่ออีกว่า เกือบทุกคนที่อ่านบทความนี้ก็จะต้องมี account ใน social network สักอัน บางคนอาจจะมีมากกว่า 1 ก็เป็นได้
ปัจจุบันเราหลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับเรื่องของ Social Network ดังนั้นเราควรจะหาประโยชน์ทางสิ่งนี้มากที่สุด โดยเฉพาะกับการบริหารทรัพยากรบุคคล เรื่องของ Social Network ได้เข้ามามีส่วนในการเป็นเครื่องมือหนึ่งในการบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย ลองมาดูประโยชน์ของ Social Network ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารทรัพยากรบุคคลบ้างว่ามีอะไรบ้าง
- การสรรหาผู้สมัคร สิ่งแรกที่ Social Network สามารถช่วยในการบริหารทรัพยากรบุคคลได้ก็คือ การสรรหาผู้สมัคร โดยเฉพาะองค์กรที่สร้าง Page ของตัวเองและทำให้เกิดเป็น ชุมชนออนไลน์ได้นั้น เวลาที่จะสรรหาผู้สมัครใหม่ก็แค่เพียงประกาศลงใน page ของตนเอง เพื่อให้ผู้ที่ติดตามเห็น และมาสมัครงานได้ ยิ่งไปกว่านั้น การประกาศใน page นั้นเราจะได้คนที่มีความชื่นชอบในตัวองค์กรอยู่แล้วมิฉะนั้นเขาคงไม่ติดตามเราแบบนี้ ก็ยิ่งจะทำให้เราได้คนที่เหมาะสมและอยากทำงานกับองค์กรเรามากขึ้นกว่าการไปประกาศหว่านแหแบบกว้างๆ ด้วยวิธีการอื่นๆ
- การคัดเลือกผู้สมัคร เราสามารถใช้ Social Network ในการคัดเลือกผู้สมัครก็ได้ โดยการเข้าไปพิจารณาในหน้า Social Network ของผู้สมัครคนนั้น เพื่อพิจารณาสิ่งที่ผู้สมัครได้ลงไว้ในหน้า page ของตนเอง ว่าเป็นคนแบบไหน มีสไตล์ในการใช้ชีวิตอย่างไร ชอบไม่ชอบอะไร พฤติกรรมก้าวร้าวหรืออย่างไร ฯลฯ เราสามารถเห็นได้จาก page ของผู้สมัครแต่ละคนได้เลย บางคนมีเขียน blog ของตนเองไว้ ซึ่งก็เป็นผลงานอย่างหนึ่งว่าเขาเป็นคนอย่างไร และมีความสนใจ ใส่ในในเรื่องอะไรบ้าง ก็น่าจะพอทำให้เรามองเห็นคุณสมบัติของผุ้สมัครได้ชัดเจนขึ้น
- การพัฒนาพนักงาน เราสามารถใช้Social Network ในการพัฒนาพนักงานก็ได้ โดยให้พนักงานเชื่อมต่อหน้า page ของตนเองกับหน้าเว็บที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาตนเองในเรื่องราวต่างๆ เช่นถ้าใน facebook ก็ให้พนักงานกด like ใน page ที่เป็นเรื่องราวความรู้ต่างๆ เพื่อให้เวลาที่มีการ update page พนักงานก็จะได้รับทราบเรื่องราวความรู้ใหม่ๆ ไปด้วย นอกจากนั้นทางบริษัทเองก็สามารถเปิด Page ของตนเองเพื่อใส่ความรู้ ซึ่งใส่ได้ทั้งภาพและเสียง และภาพเคลื่อนไหว ได้หมด ทั้งนี้ก็เพื่อให้พนักงานเข้ามาเรียนรู้ และเพิ่มความรู้ใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา
- การสร้างสังคมและทีมงาน เราสามารถใช้เครือข่ายสังคมนี้ในการสร้างชุมชนพนักงานภายในองค์กรได้ โดยให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการทำงานซึ่งกันและกัน ใครอยากคุยอะไร และติดต่อกับใคร ก็สามารถใช้เครือข่ายนี้เป็นสื่อกลางได้
- ใช้สื่อสารระหว่างพนักงานกับองค์กร องค์กรสามารถที่จะใช้เครื่องมือนี้ในการสื่อสารนโยบาย กฎระเบียบต่างๆ รวมทั้งเรื่องราวความคืบหน้าของโครงการต่างๆ ภายในบริษัท เพื่อให้พนักงานแต่ละคนทราบ ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะทำให้พนักงานรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรที่ทำงานอยู่ด้วย บางแห่งใช้เป็นเครื่องมือของการติดตามผลงานของพนักงาน โดยให้พนักงานนำเอาผลงานที่ทำได้ขึ้นหน้า page ขององค์กรไว้ เพื่อให้ผู้บริหารและพนักงานคนอื่นสามารถเข้ามาดูได้
- ใช้เพื่อรับทราบความรู้สึกของพนักงานเนื่องจากพนักงานเองชอบที่จะระบายอะไรต่างๆ เข้าไปในเครือข่ายนี้ ซึ่งก็จะทำให้องค์กรสามารถมองเห็นและรับรู้ถึงความรู้สึกของพนักงานได้ และสามารถที่จะวางแผน และกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วขึ้นได้ด้วย
เท่าที่ผมเขียนมานี้ ก็เป็นสิ่งที่หลายๆ องค์กรได้ทำกันไปแล้ว และเอามาเล่าให้อ่านกัน ผมเชื่อว่าเครือข่ายสังคมนี้ยังมีประโยชน์อีกมากมาย เพียงแต่เราอาจจะยังมองไม่เห็นและยังไม่ได้นำเอาประโยชน์ของมันมาใช้อย่างเต็มที่ ในอนาคตข้างหน้า เราอาจจะใช้ประโยชน์จาก Social Network ได้มากขึ้นกว่านี้แน่นอน
อย่างไรก็ดี มีข้อดี ก็ต้องมีข้อเสียอยู่เสมอ เหมือนมีด้านสว่างก็ต้องมีด้านมืด วันนี้เรากำลังพูดถึงด้านสว่างของ Social Network พรุ่งนี้เราจะมาคุยกันถึงด้านมืดของ Social Network กันบ้างว่ามีอะไรบ้างที่เราควรจะต้องระวัง ในการบริหารทรัพยากรบุคคลครับ
Social Network คือ สื่อที่มนุษย์ใช้สื่อสารกันระหว่างบุคคลถึงบุคคล แบบไม่ต้องผ่านตัวกลางที่เป็นสื่อมวลชน โดยเนื้อหาที่อยู่ใน Social Network ก็มีทั้งข้อมูล , ความรู้ , ความรู้สึก และความเห็น รวมทั้งการแบ่งปันความสุข และความบันเทิงให้แก่ผู้อื่น จัดเป็นเครื่องมือที่ทำให้มนุษย์ได้สื่อสารกันมากขึ้น-ง่ายขึ้น ก่อให้เกิดสารสนเทศจำนวนมากออนไลน์อยู่ในระบบ จึงทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้มากขึ้น เช่น การแนะนำร้านอาหารอร่อย , การแนะนำผลิตภัณฑ์ดีๆ , การแนะนำเรื่องราวดีๆ เป็นต้น ทำให้ผู้คนมีความรู้มากขึ้น โดยบุคคลเป็นผู้แบ่งปันความรู้ระหว่างกัน
มองอีกด้านใน Social Network
สำหรับข้อเสียของ Social Network คือ ข้อมูลบางประการ ไม่ได้รับการยืนยันว่าถูกต้องหรือไม่ ดังนั้นผู้รับสื่อจาก Social Network จึงจะต้องพิจารณา รวมทั้งตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ผู้นำข้อมูลมาเผยแพร่ว่า มีความน่าเชื่อถือจริงหรือไม่ และจะหาแหล่งอ้างอิงได้อย่างไร ซึ่งอีกสิ่งหนึ่ง ที่ต้องมีความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง ในการใช้ Social Network คือ การแพร่กระแสสังคมเรื่องเชิงลบอันเป็นได้อย่างรวดเร็ว ต้องระวังเป็นอย่างสูง เนื่องจากบางทีคนเรามีอารมณ์ด้านลบสะสมไว้ในใจต่อมาเมื่อปล่อยออกมาทาง Social Network จึงทำให้เกิดปัญหาลุกลาม เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้จะดึงคนในสังคมไปในทางด้านลบ และขาดสติในการยั้งคิดในการสื่อสารต่างๆ เป็นต้น
แนะนำพร้อมอยากชักชวนคุณผู้อ่านมาใช้ Social Network อย่างสร้างสรรค์ สร้างสุขภาวะอันดีงามให้เกิดขึ้นในสังคม ได้แก่…
- แบ่งปันแต่เรื่องดีๆ ให้แก่กัน เมื่อคุณเจอเรื่องดีๆมาก ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม คุณสามารถแบ่งปันให้กับผู้ใช้อื่นๆได้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเนื้อหาที่ดี ให้ความรู้ใหม่ๆ , สถานที่ใหม่ๆ หรือถ้ามีคำพูดดีๆ ก็สามารถส่งต่อแบ่งปันให้แก่ผู้อื่นได้เลย
- ชักชวนทำความดี ถ้าคุณได้ไปทราบเรื่องเกี่ยวกับเรื่องการช่วยเหลือสังคม หรือการอุทิศตนให้แก่จิตสาธารณะใดๆก็ตาม เช่น งานอาสาสมัคร , กิจกรรมเพื่อสังคม ให้รีบแบ่งปันทันที เพื่อชวนเพื่อนๆไปสร้างความสุขให้แก่ผู้อื่นด้วยกัน
- ใช้แก้ไขปัญหาอย่างมีสติ เมื่อเกิดปัญหาขึ้นในชุมชน คุณสามารถนำเสนอปัญหาของกลุ่มหรือชุมชน เพื่อมาขอระดมสมอง Social Network ได้ เช่น สร้างหน้าแฟนเพจของกลุ่มให้คนที่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน มาช่วยกันนำเสนอทางออก เพียงเท่านี้ก็จะได้มุมมองความคิดใหม่ๆแล้ว
สรุปแล้ว การใช้ Social Network ในด้านบวก ที่มีประโยชน์ เพื่อสร้างภาวะอันดีงามให้แก่สังคมนั้น เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากๆ โดยการเริ่มจากการแบ่งปันเรื่องดีๆ มีความสุข เชิญชวนคนมาทำดี และสุดท้ายคุณก็เป็นผู้เริ่มในการทำกิจกรรมดีๆ ด้วยตัวเอง ก็จะเป็นสังคมทวีปัญญาทีมีความสุขแล้ว