การจัดการเรียนรู้โดยใช้แฟ้มสะสมงาน (Portfolio)
การจัดการเรียนรู้โดยใช้แฟ้มสะสมงาน (Portfolio)
ความหมาย
แฟ้มสะสมงาน คือ การสะสมงานอย่างมีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงถึงผลงาน ความก้าวหน้าและสัมฤทธิ์ผลของนักเรียนในส่วนหนึ่งหรือหลายส่วนของการเรียนรู้ในวิชานั้นๆ การรวบรวมจะต้องคลอบคลุมถึงการที่นักเรียนมีส่วนร่วมในการเลือกเนื้อหา เกณฑ์การคัดเลือก และเกณฑ์การตัดสินใจในระดับคะแนน รวมทั้งเป็นหลักฐานที่สะท้อนการประเมินตนเองของนักเรียนด้วย (กรมวิชาการ, 2539: 68)
ทฤษฎี/แนวคิด
แนวคิดเรื่องแฟ้มสะสมงานได้ถูกนำมาใช้ในช่วงประมาณตอนปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยนักศึกษาในกลุ่มประเทศแถบอเมริกา โดยมีประเทศแคนาดาเป็นผู้ริเริ่มการจัดการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ที่มีหลักการสำคัญ คือ ยึดหลักการประเมินผู้เรียนจากการสะสมผลงาน และได้พัฒนาสู่รูปแบบใหม่ที่ชัดเจนขึ้นในประเทศแมกซิโก ในชื่อที่เรียกว่า “The teaching portfolio” พร้อมทั้งมีการศึกษากันอย่างจริงจังในระยะต่อมาของมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา โดยแนวคิดเรื่องแฟ้มสะสมงานเป็นที่กล่าวขวัญในสหรัฐอเมริกาประมาณกลางปี ค.ศ. 1980 แฟ้มสะสมงานนักเรียนได้ถูกนำมาใช้อย่างจริงจังทั้งในระดับชั้นของโรงเรียนในเขตการศึกษาในและมลรัฐโดยมีการใช้หลายรูปแบบ
- แฟ้มรวบรวมผลผลิตจากโครงงานที่ผู้เรียนผลิตขึ้นเอง
- แฟ้มรวบรวมผลงานประเภทต่างๆ ของผู้เรียน และบันทึกของครู
- แฟ้มรวบรวมผลลัพธ์ที่ได้จากการวัดผลมาตรฐานที่นำมาใช้วัดผลผู้เรียน
การนำแฟ้มสะสมงานไปใช้ในการประเมินผลได้รับการพัฒนาและใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศแถบตะวันตก ทั้งในยุโรป สหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย ในราวปี 1988 เป็นต้นมาโดยเรียกว่า “การประเมินผลการเรียนโดยใช้แฟ้มสะสมงาน (Portfolio assessment)” ได้เป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลาย เช่น รัฐเวอร์มอนต์ ได้ใช้วิธีการนี้ประเมินผลการเรียนวิชาคณิตศาสตร์อย่างเป็นทางการทั่วทั้งรัฐแทนวิธีการดั้งเดิมที่ใช้แบบทดสอบ ซึ่งจากการสอบถามครูนักการศึกษาและผู้บริหารการศึกษามีความเห็นตรงกันเป็นส่วนใหญ่ว่าเป็นวิธีการประเมินผลที่ใช้ได้ดีกว่าวิธีการเดิม ในประเด็นที่สามารถตรวจสอบได้ว่านักเรียนเรียนรู้อย่างแท้จริงหรือไม่ และนักเรียนมีความสามารถอะไรบ้างจากการแสดงออกทั้งทางด้านสติปัญญา ร่างกายและความรู้สึก (ชัยฤทธิ์ ศิลาเดช, 2540)
ประเภทของแฟ้มสะสมงาน
วรรณดี ชุณหวุฒิยานนท์ (2540: 4-5) ได้แบ่งแฟ้มสะสมงานตามจุดมุ่งหมายในการใช้ไว้ดังนี้
- Personai portfolio เป็น portfolio ที่รวบรวมข้อมูลสารสนเทศส่วนตัวของนักเรียน เช่นบุคลิกภาพส่วนตัว งานอดิเรก งานกิจกรรม งานท่องเที่ยว ความสามารถพิเศษ เรื่องราวของครอบครัว รวมทั้งงานอ่าน งานเขียน สิ่งที่ภาคภูมิใจ สิ่งที่สนใจ สิ่งที่ประสบความสำเร็จ เป็นต้น
- Learning portfolio เป็น portfolio ที่รวบรวมงานของนักเรียน แสดงให้เห็นถึงความรู้ ความสามารถ ความพยายาม ความก้าวหน้า และผลสัมฤทธิ์ในด้านใดด้านหนึ่งหรือหลายด้านของนักเรียนซึ่งเน้นกระบวนการเรียนรู้ของนักเรียนมักประกอบด้วยรายงานกระบวนการทำงานของนักเรียน การประเมินตนเองของนักเรียน การบันทึกของครู ความคิดเห็นของผู้ปกครองและเพื่อนนักเรียน จุดมุ่งหมาย คือ ให้แนวทางแก่ครูและนักเรียนในการพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียน และให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมด้วย
3. Accountability portfolio เป็น portfolio ที่รวบรวมผลงานของนักเรียนที่คัดสรรแล้ว แสดงให้เห็นผลการเรียนรู้ของนักเรียนตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตร มักประกอบด้วยผลการประเมินมาตรฐานการเรียนรู้ งานที่คัดเลือกแล้วซึ่งสร้างขึ้นตามเกณฑ์ที่กำหนด และบันทึกของครู จุดมุ่งหมาย คือ ประเมินผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนเพื่อการตรวจสอบและประเมินคุณภาพการจัดการศึกษา
จากรายละเอียดของแฟ้มตามวัตถุประสงค์ต่างๆ จะเห็นได้ว่าการนำแฟ้มสะสมงานมาใช้เป็นเครื่องมือในการศึกษาพัฒนาการของนักเรียนจากผลงานตลอดจนการเรียนการสอนและกิจกรรมในห้องเรียน จะสามารถบอกได้ถึงพัฒนาการความก้าวหน้าและความสำเร็จในการทำงานแฟ้มสะสมงานจึงเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะศึกษาพัฒนาการได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถปรับปรุงแก้ไขพัฒนาการในด้านต่างๆ ตลอดจนเพิ่มศักยภาพในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กระบวนการจัดทำแฟ้มสะสมงาน
กระบวนการจัดทำแฟ้มสะสมงานในชั้นเรียนมีขั้นตอนดังนี้
ขั้นที่ 1 ขั้นวางแผนร่วมกันในการทำงาน
ขั้นที่ 2 ขั้นรวบรวมชิ้นงานและจัดการชิ้นงาน
ขั้นที่ 3 ขั้นเลือกชิ้นงาน
ขั้นที่ 4 ขั้นสร้างสรรค์ผลงาน
ขั้นที่ 5 ขั้นสะท้อนข้อมูลย้อนกลับเกี่ยวกับชิ้นงาน
ขั้นที่ 6 ขั้นตรวจสอบความสามารถของตนเอง
ขั้นที่ 7 ขั้นประเมินค่าผลงาน
ขั้นที่ 8 ขั้นสร้างความสัมพันธ์
ขั้นที่ 9 ขั้นให้คุณค่า นำเข้าและเอาออกของชิ้นงาน
แนวทางการจัดการเรียนรู้
จากเอกสาร แผนแห่งความหวังและอนาคตของชาติ : แผนการพัฒนาการศึกษาแห่งชาติฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2540 – 2544) ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรีได้ระบุปัญหาเกี่ยวกับการศึกษาไว้ว่า กระบวนการเรียนการสอนยังคงมุ่งเน้นการท่องจำเพื่อสอบมากกว่ามุ่งให้นักเรียนคิด วิเคราะห์ เสาะแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ทำให้เด็กไทยจำนวนมากคิดไม่เป็น ไม่ชอบอ่านหนังสือ ไม่รู้วิธีการเรียนรู้ การใช้แฟ้มสะสมงานจึงเป็นทางหนึ่งในการแก้ปัญหานี้ เพราะแฟ้มสะสมงานนอกจากใช้เพื่อประเมินผลงานของนักเรียนแล้ว ยังสามารถใช้ประโยชน์อีกมากมาย อาทิ เช่น ใช้เป็นกระบวนการเรียนการสอน ใช้เพื่อเป็นเครื่องมือในการพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียน และใช้เพื่อเป็นเครื่องช่วยให้เกิดพัฒนาการในวิชาชีพครู เป็นต้น (สำลี ทองธิว, 2541) เพราะแฟ้มสะสมงานสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าของแฟ้มสมบูรณ์ครบถ้วน ตามหลักการพัฒนาเจ้าของแฟ้มเป็นรายบุคคล หรืออีกนัยหนึ่งเป็นการพัฒนาเจ้าของแฟ้มแต่ละคนในหลายๆ ด้าน พร้อมๆ กัน เพราะการจัดทำแฟ้มต้องอาศัยความคิด ความรู้ ความอดทน วิจารณญาณ ความอุตสาหะ ทักษะต่างๆ ซึ่งคลุมลักษณะทางสมอง (cognitive) ทางจิตใจ (psychological) ทางทักษะของเจ้าของแฟ้ม (อุทุมพร จามรมาน, 2540)
นอกจากนี้ จิราภรณ์ ศิริทวี (2540) ได้กล่าวไว้ว่าการใช้แฟ้มสะสมงานในกระบวนการเรียนการสอน จะช่วยให้นักเรียนเป็นผู้สร้างความรู้และรู้จักแก้ปัญหาด้วยตนเอง การให้นักเรียนวิพากษ์วิจารณ์ผลงานของตนเอง ทำให้นักเรียนมีความรับผิดชอบต่องานที่ทำมากขึ้น และมุงพัฒนาคุณภาพงานให้ดีขึ้น อีกทั้งตัวครูเองก็จะได้พัฒนาการสอนของตนเองขึ้นด้วย การนำแฟ้มสะสมงานมาใช้ในการประเมินผลกระบวนการเรียนการสอนมีกระบวนการ 7 ขั้นตอน
ขั้นที่ 1 ขั้นวางแผน ครูผู้สอนวางแผนในการสอนดังนี้ คือ ศึกษาหลักสูตร จุดประสงค์ เนื้อหาและวิธีการประเมินผล ศึกษาคู่มือเอกสารที่เกี่ยวข้องกำหนดการสอน เนื้อหาวิชาและเวลาให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ และการทำการสอน ครูควรชี้แจงให้นักเรียนทราบกระบวนการเรียนตามสภาพที่แท้จริงและการนำแฟ้มสะสมงานมาใช้ กิจกรรมที่นักเรียนต้องปฏิบัติอย่างไร และมีแผนการประเมินผลอย่างไร
ขั้นที่ 2 ขั้นรวบรวมและจัดเก็บผลงาน เป็นการจัดเก็บผลงาน เป็นการจัดเก็บผลงานและเนื้อหาข้อมูลเอกสารที่สำคัญลงในแฟ้มสะสมงาน ได้แก่ ใบความรู้ที่ครูแจก หรือนักเรียนค้นคว้าเพิ่มเติม ใบงาน ใบประเมินผลแบบสะท้อนความคิดเห็นในการจัดเก็บผลงานต้องจัดเก็บอย่างมีระบบ แยกเก็บผลงานตามเนื้อหาและจุประสงค์การเรียนรู้
ขั้นที่ 3 ขั้นการคัดเลือกผลงาน หลังจากเก็บรวบรวมผลงานไปสักระยะหนึ่งให้นักเรียนคัดเลือกผลงานที่นักเรียนชอบและมีความหมายต่อตัวนักเรียนเก็บสะสมไว้ในแฟ้มสะสมงานโดยขอคำแนะนำจากครู หรือร่วมกันกำหนดว่าในการเลือกผลงานนั้นควรมีหลักการใด ผลงานที่น่าจะจัดเก็บไว้ควรมีลักษณะเช่นไร ผลงานนั้นไม่จำเป็นว่าต้องเป็นผลงานที่ดีที่สุดเพียงอย่างเดียวแต่ต้องเป็นผลงานที่แสดงออกได้ถึงกระบวนการคิดการทำงานของนักเรียนด้วย เพื่อดูพัฒนาการที่เกิดขึ้นในการทำงานแต่ละครั้ง
ขั้นที่ 4 ขั้นตรวจสอบความสามารถตนเองของนักเรียน การตรวจสอบความสารถของตนเองเบื้องต้นจากการสังเกตเป็นการตรวจสอบแบบง่ายที่สุด นักเรียนสามารถเปรียบเทียบได้จากผลงานว่ามีความสารมารถในการพัฒนาทักษะในด้านใดในการทำงานแต่ละชิ้น เช่น ทักษะในการวาดภาพมีความคล่องแคล่วมั่นใจขึ้น ทักษะทางการพูดการเขียน รู้จักวิเคราะห์วิจารณ์ได้ดีขึ้นตรงประเด็น นอกจากสังเกตตัวเองแล้วยังใช้แบบประเมินและแบบสะท้อนความคิดเห็นต่อผลงานเป็นตัวตรวจสอบ ซึ่งการประเมินตนเองจะสามารถช่วยพัฒนาทักษะในด้านต่างๆ ของนักเรียนได้ดียิ่งขึ้น แก้ไขจุดด้อยพัฒนาจุดเด่นของตนเองได้ตรงจุด
ขั้นที่ 5 ขั้นสะท้อนความคิดเห็นและความรู้สึกต่อผลงาน การสะท้อนความคิดเห็นต่อผลงานมีผลต่อการแสดงความคิดวิเคราะห์ เป็นกิจกรรมที่กระตุ้นให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้เป็นการบูรณาการวิชาอื่นเข้าร่วมด้วย เช่น วิชาภาษาไทย คือ การบรรยาย การใช้คำ นอกจากนี้จะส่งเสริมการแสดงออกให้มีความมั่นใจขึ้นในการวิพากษ์วิจารณ์ กล้าคิดกล้าทำโดยมีหลักการและเหตุผลเป็นการใช้กระบวนการคิดที่ลึกซึ้ง การสะท้อนความคิดเห็นอาจแสดงได้หลายรูปแบบ จาการบรรยาย จากแบบสอบถาม การตรวจสอบผลงาน การสัมภาษณ์หรือจากการวิพากษ์วิจารณ์ผลงานตนเองหรือผู้อื่น นอกจากจะได้ทักษะหลายด้านแล้ว ยังได้ทักษะทางสังคมอีกด้วย อาจมีการแลกเปลี่ยนศึกษาผลงานของเพื่อน แลกเปลี่ยนแนวคิดและข้อปรับปรุงแก้ไขในการทำงาน
ขั้นที่ 6 ขั้นการประเมินแฟ้มสะสมงาน ประเมินรูปแบบเนื้อหา ประเมินได้ทั้งภาคปฏิบัติ กระบวนการทำงาน ประเมินตนเองตามเกณฑ์ที่กำหนด ตรวจสอบพัฒนาการตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการสุดท้ายจากแฟ้มสะสมงาน
ขั้นที่ 7 ขั้นจัดนิทัศการ เพื่อให้นักเรียนภาคภูมิใจ ชื่นชมในผลงานและความสามารถของตน โดยให้นักเรียนเป็นผู้ดำเนินการวางแผนเอง
ข้อค้นพบจากการวิจัย
จากการจัดการเรียนรู้โดยใช้แฟ้มสะสมงาน มีข้อค้นพบจากการวิจัยดังนี้
1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติทางการเรียน สมชาย มิ่งมิตร (2539) วิจัยศึกษาผลของการประเมินจากพอร์ตโฟลิโอ วิชาภาษาไทย กับนักเรียนชั้นประถมศึกาปีที่ 5 พบว่านักเรียนที่ได้รับการประเมินผลโดยใช้พอร์ตโฟลิโอ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติทางการเรียนสูงกว่านักเรียนที่ได้รับการประเมินผลแบบเดิม และชัยฤทธิ์ ศิลาเดช (2540) วิจัยพัฒนาแฟ้มสะสมงานในการประเมินผลการเรียนวิชาภาษาอังกฤษในระดับชั้นมัธยมศึกาปีที่ 3 พบว่า กระบวนการของแฟ้มสะสมงานช่วยให้นักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษทั้ง 4 ทักษะและสร้างแรงจูงใจการเรียนให้แก่ผู้เรียนมาก
2. ความภาคภูมิใจในการสอนและทักษะทางการเรียนของผู้เรียน ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ (2540) วิจัยพัฒนารูปแบบการประเมินผลการเรียน โดยใช้แฟ้มผลงานดีเด่นวิชาภาษาไทยกับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 1 คนและชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 7 คน พบว่าผู้สอนมีความเห็นว่าแฟ้มสะสมงานดีเด่นสามารถใช้ประเมินความก้าวหน้าและความสารถที่แท้จริงของนักเรียนได้ตรงกับสภาพ หลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในทางที่พัฒนาขึ้นของผู้เรียนผู้สอนมีความรู้สึกภาคภูมิใจที่สามารถช่วยให้ผู้เรียนมีทักษะทางการเรียนสูงขึ้นแลผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเองได้ดียิ่งขึ้น นักเรียนชอบวิธีการประเมินโดยใช้แฟ้มผลงานดีเด่นเพราะมีความยุติธรรม เนื่องจากมีการพิจารณาตัดสินผลการเรียนจากผลงานที่ปฏิบัติจริง ได้เรียนรู้เทคนิคในการประเมินตนเอง ตลอดเวลา มีโอกาสปรับปรุงส่วนที่บกพร่องได้ทันที
3. ทักษะการวิจารณ์ ความคิดสร้างสรรค์ และคุณลักษณะทางจิตพิสัย พรรณวลัย คีรีวงศ์วัฒนา (2542) วิจัยการใช้แฟ้มสะสมงานนักเรียนที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาจิตรกรรมสูงกว่านักเรียนด้วยวิธีการปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05และนักเรียนที่เรียนด้วยวิธีการใช้แฟ้มสะสมงานมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะพิสัยและจิตพิสัยสูงกว่านักเรียนที่เรียนโดยวิธีปกติ และนักเรียนมีทักษะการวิจารณ์และความคิดสร้างสรรค์สูงขึ้น มีคุณลักษณะทางจิตพิสัยในด้านความพึงพอใจในผลงานของตนเอง สามารถยอมรับตนเอง ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นและปฏิบัติงานร่วมกับผู้อื่นได้ดีขึ้นรวมทั้งทำให้นักเรียนมีความรับผิดชอบเอาใจใส่แลเห็นคุณค่าในผลงานของตนมากขึ้นอีกด้วย
ความสำคัญของแฟ้มสะสมงาน แฟ้มสะสมงานเป็นการรวบรวมข้อมูลจาก
1. ตัวอย่างผลงานที่แสดงให้เห็นถึงกระบวนการ (Process Samples)
2. ตัวอย่างผลงานที่เป็นผลผลิต ( Product Samples)
3. การสังเกตของครู (Teacher Observations )
4. ข้อมูลที่รวบรวมได้จากการวัด และ ประเมินผลด้วยวิธีการหลากหลาย
5. ข้อมูลที่เป็นข้อเสนอแนะจากผู้ปกครองและผู้ที่เกี่ยวข้อง
วัตถุประสงค์ของแฟ้มสะสมงาน ในการจัดทำแฟ้มสะสมงานมีวัตถุประสงค์ 2 ประการ คือ
- เพื่อให้เจ้าของแฟ้มได้ประเมินตนเองว่า ผลการเรียนรู้หรืองานที่ทำเป็นอย่างไรประสบผลสำเร็จในระดับใด มีระบบหรือไม่ ควรจะปรับปรุงแก้ไขหรือไม่อย่างไร
2. เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ประเมินเจ้าของแฟ้มว่า มีความสามารถในการเรียนรู้หรือการปฏิบัติงานเป็นอย่างไร ประสบความสำเร็จในระดับใด ควรจะได้รับการช่วยเหลือหรือพัฒนาหรือไม่อย่างไร
ลักษณะของแฟ้มสะสมงาน แฟ้มสะสมงาน มีลักษณะสำคัญๆ พอสรุปได้ ดังนี้
1. แฟ้มสะสมงานสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการสอนเป็นรายบุคคลได้เป็นอย่างดี เพราะนักเรียนแต่ละคนจะมีแฟ้มสะสมงานเป็นของตนเอง มีการสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นลักษณะเฉพาะของตนเอง ครูจะทราบ จุดเด่นและจุดด้อยของนักเรียนแต่คนจากแฟ้มสะสมงานผลงานในแฟ้มสะสมงานจะมุ่งตอบสนองต่อจุดมุ่งหมายของการสอนที่ระบุว่า อย่างไร (how) มากกว่าอะไร (what) 2. แฟ้มสะสมงานจะเน้นผลผลิตของงานมากกว่ากระบวนการทำงาน อย่างไรก็ตาม สำหรับประเด็นนี้ ฟาร์ และโทน ( Farr and Tone, 1994 : 58-59) มีความเห็นว่าถ้าเป็นแฟ้มสะสมงานทางวิชาชีพ เช่น พวกจิตรกร ช่างภาพ ก็ควรใช้แฟ้มสะสมงานที่สามารถทำให้มองเห็นกระบวนการ ความก้าวหน้า และพัฒนาการในการเรียนรู้ของนักเรียนได้ นอกจากนั้น ยังทำให้ครูได้เรียนรู้เกี่ยวกับผลงานที่เกิดจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของตน แฟ้มสะสมงานที่เน้นผลผลิต เรียกว่า Show Portfolios หรือ Final Portfolios แฟ้มสะสมงานที่เน้นกระบวนการ เรียนว่า Working Portfolios
2. แฟ้มสะสมงานจะเน้นจุดเด่นมากกว่าจุดด้อยของนักเรียน ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนเกิดความชื่นชมในผลงานของตนเอง สำหรับจุดอ่อนนั้น ครูก็จะนำไปวางแผนจัดกิจกรรมการเรียนการสอน การทดสอบแบบเดิมมักตรวจหาความผิดพลาด หรือข้อบกพร่องของนักเรียน
- 3. แฟ้มสะสมงานจะเน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งนักเรียนจะเป็นผู้วางแผนลงมือทำผลงาน ประเมินและปรับปรุงผลงานด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง โดยมีครูจะช่วยชี้แนะ นักเรียนเป็นเจ้าของผลงาน เจ้าของแฟ้มสะสมงาน ผลงานของนักเรียนต้องมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับสภาพชีวิตจริงๆ
4. แฟ้มสะสมงานช่วยสื่อความหมายในเรื่องความรู้ ความสามารถ และทักษะของนักเรียนในเรื่องต่างๆ รวมทั้งความก้าวหน้าและพัฒนาการของนักเรียนแก่คนอื่น เช่น ผู้ปกครอง นักแนะแนว ครูผู้สอน และผู้บริหารโรงเรียนได้เป็นอย่างดี
5. การประเมินโดยใช้แฟ้มสะสมงานยังมีปัญหาเรื่องความเชื่อมั่น หรือความเห็นที่สอดคล้องกันในการประเมิน ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากการกำหนดเกณฑ์ในการประเมินไม่ค่อยชัดเจน หากผู้ประเมินยึดองค์ประกอบของการประเมินต่างกัน จะมีผลทำให้ความเชื่อมั่น หรือความสอดคล้องของการประเมินมีค่าต่ำ
ประโยชน์ของแฟ้มสะสมงาน
แฟ้มสะสมงานมีประโยชน์ในการแสดง หรือ นำเสนอผลงานของนักเรียนที่สอดคล้องกับความสามารถที่แท้จริงของนักเรียน เพราะแฟ้มสะสมงานให้ข้อมูลที่ครบถ้วนกว่าผลการทดสอบด้วยการทดสอบ การจัดทำแฟ้มต้องอาศัยความคิด ความรู้ ความอดทน วิจารณญาณ ความอุตสาหะ ทักษะต่างๆ ของเจ้าของแฟ้ม ดังนั้น แฟ้มสะสมงานจึงสามารถใช้ประโยชน์ได้หลายประการ คือ
1. สอนนักเรียนเป็นรายบุคคล ให้นักเรียนจัดทำด้วยตนเอง แต่ละคนสามารถเลือกทำงานแต่ละชิ้นได้อย่างอิสระตามความสนใจ และ ความสามารถของนักเรียน และสามารถนำผลงานมาปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้นได้
- 2. ทำหน้าที่สะท้อนความสามารถ และ วิธีการทำงานของเด็กได้ทุกขั้นตอน
3. ทำหน้าที่แตกต่างจากแบบทดสอบ ที่ส่วนมากเป็นการสอบเพื่อหาที่ผิดพลาด แฟ้มสะสมงานจะทำให้ครูสามารถหาจุดเด่นของนักเรียนได้มากกว่าจุดด้อย
4. ทำหน้าที่สำคัญในการแจ้งผลสำเร็จของนักเรียนให้บุคคลที่เกี่ยวข้องทราบ รวมทั้งสามารถนำไปใช้ในการอภิปรายความก้าวหน้าของนักเรียนกับผู้ปกครองได้ การประเมินจากแฟ้มสะสมงานก็มีลักษณะเปิดเผยตรงไปตรงมา
5. การเก็บสะสมผลงานงานทุกชิ้นที่พิจารณาคัดเลือกไว้แล้ว ต้องเขียน ชื่อ วัน เดือน ปีติดไว้ เพื่อให้สามารถประเมินพัฒนาการของเด็กได้
การใช้แฟ้มสะสมงาน
แฟ้มสะสมงานนอกจากนำมาใช้สำหรับประเมินผลนักเรียนโดยตรงแล้ว ยังสามารถนำมาใช้ในกิจกรรมอย่างอื่นได้อีกดังนี้
1. นำมาใช้สอนนักเรียนให้รู้จัก วิพากษ์ วิจารณ์ ตนเองและสะท้อนให้เห็นความคิดของนักเรียน
2. กระตุ้นให้นักเรียนเกิดทักษะในการวิเคราะห์ และ ตัดสินใจได้ หลังจากที่นักเรียนได้พิจารณาทบทวนเลือกงานของตนเองไว้ในแฟ้มสะสมงานแล้ว
3. ให้นักเรียนพิจารณาทบทวน โดยการนำแฟ้มมาอภิปรายกับคนอื่นๆ เพื่อช่วยให้นักเรียนมองเห็นความก้าวหน้าของตนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
4. นักเรียนสามารถนำแฟ้มของตนเองไปแลกเปลี่ยนความคิดกับผู้ปกครองตน ทำให้ผู้ปกครองทราบถึงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ ความต้องการของนักเรียน
5. เมื่อสิ้นปีการศึกษา ครูสามารถนำแฟ้มสะสมงานวิชาต่าง ๆ ของนักเรียนแต่ละคนมาพิจารณาทบทวนร่วมกันกับนักเรียน ว่าจะเลือกผลงานชิ้นใดเป็นตัวแทนของผลงานทั้งหมดเพื่อนำมาเก็บไว้ในแฟ้มสะสมงานระดับโรงเรียน
6. ผลงานในแฟ้มสะสมงาน บางครั้งอาจไม่นำมารวมไว้ในแฟ้มระดับโรงเรียนแต่จะให้นักเรียนนำกลับไปบ้านให้ผู้ปกครอง และ ตัวนักเรียนเก็บไว้ ซึ่งผลงานทั้งหมดตลอดปีการศึกษา ก็จะถูกเก็บรวบรวมไว้ในแฟ้มสะสมงานของผู้ปกครองและนักเรียน