Standard / by / July 10, 2020 / No Comments
ธุรกิจกับเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่มาคู่กันแบบแยกไม่ออกในโลกปัจจุบันตอนนี้ เทคโนโลยีจะผลักดันให้ธุรกิจก้าวหน้าไปได้ ว่ากันเรื่องเทคโนโลยีตอนนี้นอกจากโลก 5.0G ที่กำลังจะมาในอีกไม่นาน เทคโนโลยี Cloud Computing กำลังมาแรงมากทีเดียว ข้อดีของเทคโนโลยีนี้คืออะไร แล้วมีใครเปิดให้บริการด้านนี้บ้าง
การปรับตัวได้ตามสถานการณ์
ต้องยอมรับว่าโลกธุรกิจทุกวันนี้การปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์เป็นเรื่องที่สำคัญมาก หากปรับตัวไม่ทันก็เตรียมบอกลากันได้เลย แต่ถ้าหากปรับตัวได้โอกาสความก้าวหน้าของธุรกิจดังกล่าวก็เปิดกว้างขึ้นด้วย ทีนี้การใช้ระบบ Cloud Computing ข้อดีอย่างหนึ่งเป็นเรื่องการปรับตัว ทั้งการขยายช่องเก็บข้อมูล เพิ่มหน่วยความจำ การเพิ่มความจุของ CPU ก็ทำได้ ในทางกลับกันเกิดโลกมีเทคโนโลยีใหม่ด้านการเก็บข้อมูลเพิ่มมากขึ้น ระบบ Cloud Computing ก็สามารถปรับตัวรอรับได้คล่องกว่า ระบบคอมพิวเตอร์แบบเดิมที่แม้จะดีที่มีคอม มีเครื่องเซิฟเวอร์เป็นของตัวเอง แต่การจะมาตามซื้ออุปกรณ์ใหม่ ซอฟต์แวร์ใหม่เพื่อตามให้ทันเทคโนโลยีทุกปี เป็นเรื่องที่ไม่ใช่เลย เสียเงินโดยใช่เหตุ
ลดค่าใช้จ่าย
การหากำไรเป็นสิ่งที่ทุกองค์กรต้องการ แต่อีกทางหนึ่งเราก็ต้องพยายามลดต้นทุนให้ได้มากที่สุด เพื่อเพิ่มกำไรได้ด้วยอีกทางหนึ่ง การใช้ระบบ Cloud Computing เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการจัดการด้าน ไอทีขององค์กรที่จะทำให้เราเซฟค่าใช้จ่ายในองค์กรไปได้เยอะ อีกอย่างการทำงานบนระบบ Cloud Computing เป็นค่าใช้จ่ายแบบใช้งานตามจริงที่ใส่ลงไปนั่นทำให้เราใช้เท่าไร ก็ตามจ่ายไปเท่านั้นเอง ข้อดีของการจ่ายเงินระบบนี้จะทำให้เราควบคุมค่าใช้จ่ายได้ เพราะรู้ว่าต้องใช้เท่าไรในแต่ละเดือนนั่นเอง จากข้อดีเหล่านี้ทำให้หลายองค์กรเริ่มหันมาใช้ระบบดังกล่าวมากขึ้น สำหรับผู้ให้บริการด้าน Cloud Computing ในบ้านเรามีทั้งหมด 3 เจ้าด้วยกันมีใครกันบ้าง
กสท โทรคมนาคม
ผู้ให้บริการรายแรก เป็นของรัฐวิสาหกิจในบ้านเราเจ้าใหญ่ นั่นก็คือ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ชื่อนี้อาจจะไม่คุ้น แต่ชื่อ CAT คุ้นกว่า นอกจากทำเรื่องการสื่อสาร ระบบอินเตอร์เน็ตเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว องค์กรนี้ได้ผันตัวมาเป็นผู้ให้บริการทางด้าน Cloud Computing ด้วย โดยทำภายใต้แบรนด์ลูกที่ชื่อว่า IRIS Cloud เป็นผู้ให้บริการทางด้าน Data Center Firewall, Anti-Virus, Distributed Denial Of Service เป็นต้น ทาง กสท จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีของทาง Microsoft Azure Pack เป็นหลักในการบริหารจัดการ
บริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์
ผู้ให้บริการรายที่สอง อาจจะไม่คุ้นหน้าคุ้นตากันนักในระดับผู้ใช้งานทั่วไป แต่ระดับองค์กรน่าจะคุ้นหูมาบ้าง ชื่อนี้คือผู้ให้บริการทางด้าน Cloud Computing รายแรกๆ ในบ้านเรา ก่อนหน้านี้เค้าทำเรื่องอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์มานานถึงยี่สิบปีทีเดียว ตอนนี้มาทำงานให้บริการทางด้าน Cloud Computing ด้วย นอกจากบริการด้านดังกล่าว เค้ายังมีบริการสร้าง Virtual Data Center อีกด้วย ข้อดีคือผู้รับบริการไม่ต้องลงทุนซื้ออะไรเลยทั้งฮาร์ดแวร์ และ ซอฟต์แวร์ จ่ายเงินตามค่าบริการเท่านั้น เราสามารถใช้งานผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้เลยทันอีก คิดค่าบริการเป็นรายชั่วโมง
บริษัท คลาวด์ คอมพิวติ้ง โซลูชั่นส์ จำกัด
ผู้ให้บริการรายที่สามนี้เป็นบริษัทลูกในเครือของ บริษัท จัสมินอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เป็นอีกหนึ่งผู้ให้บริการทางด้านนี้ที่มีศักยภาพสูงมาก ทีมงานของเค้าจะให้บริการทางด้าน Virtual Machine โดยเราสามารถปรับเพิ่มลดทรัพยากรแต่ละช่วงเวลาได้ตามต้องการ ทำให้การบริหารจัดการค่อนข้างจะยืดหยุ่นมากทีเดียว
ทั้งสามรายถือว่าเป็นผู้ให้บริการทางด้าน Cloud Computing ที่โดดเด่นและมีศักยภาพสูงมากในบ้านเรา หากสนใจก็ลองเข้าไปพูดคุยสอบถามกันได้ จะได้เปลี่ยนระบบแบบเดิมมาใช้แบบนี้กัน ส่วนใครที่ยังไม่ยอมเปลี่ยนมาใช้นี่บอกเลยว่าควรทำโดยเร็ว
3,387
สวัสดีครับ เพื่อน ๆ ชาว IT วันนี้กลับมาพบกันอีกครั้งกับหัวข้อสบาย ๆ นะครับ เรามาคุยกันในเรื่องของ Cloud มีประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบันอย่างไร บางคนอาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองใช้อยู่ หรือมีผลประโยชน์ทางอ้อมอย่างไร วันนี้เราจะมาแชร์กันมา Cloud ช่วยท่านอย่างไรในชีวิตประจำวันครับ มาเริ่มกันเลยครับ
ผมขอเกริ่นก่อนว่า Cloud Computing มีการให้คำนิยามมานานแล้ว แต่การใช้งานจริง ๆ ที่เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน ก็คงจะไม่เกิน 10 ปี จนเดี๋ยวแทบจะคล้าย ๆ กับการใช้ Internet ไปแล้วแหละครับ โดย Cloud Computing มีความสามารถในการให้บริการในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บข้อมูลและการประมวลผลผ่าน Internet เช่น เคยสงสัยกันมั้ยครับว่า Instagram ที่เรา Post กันเนี่ย เค้าเก็บรูปไว้ที่ไหน? อ่า แน่นอนครับว่า เก็บไว้บน Cloud ฉะนั้น Cloud Computing มีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน แน่นอนว่าไม่ได้มีประโยชน์แค่ในชีวิตประจำวันทั่ว ๆ ไป แต่ยังมีประโยชน์ต่อธุรกิจและองค์กรที่ใช้ในการจัดการเรื่องข้อมูล และลูกค้า เช่นการพัฒนาในด้านของ Healthcare ถัดมาเรามาดูกันว่า Cloud Computing มีบทบาทในพัฒนาคุณภาพชีวิตในด้านใดบ้างนะครับ
ด้านการศึกษา
ในปัจจุบัน สถาบันการศึกษาหลาย ๆ แห่งได้นำ Cloud Computing มาใช้งานเนื่องจากช่วยอำนวยความสะดวกให้กับหลาย ๆ ฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น นักเรียน, บุคลากร รวมไปถึงอาจารย์
โดยทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้จากทุกที่ และทุกเวลา นักเรียน นักศึกษาจึงสามารถเรียน หรือทำกิจกรรมผ่านทางช่องทางออนไลน์ได้ และสถาบันยังสามารถที่จะเก็บข้อมูลได้จากการใช้งาน Storage บน Cloud ได้โดยที่ไม่ต้องติดตั้ง Infrastructure ที่ซับซ้อน, ยุ่งยาก และมีราคาแพงอีกด้วย สำหรับนักเรียนที่อาศัยอยู่ในที่ห่างไกล ไม่สามารถเดินทางไปสถาบันการศึกษาได้สะดวก การที่ใช้เทคโนโลยี Cloud Computing จะช่วยให้เด็กนักเรียนเหล่านี้สามารถเข้าถึงการศึกษาได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังสามารถแลกเปลี่ยนความรู้กันผ่าน Forum
หรือ Board ต่าง ๆ ได้ครับ
ด้านสังคม
อุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่ เช่น การ Live Video, Streaming เกม หรือการใช้งาน Google search ก็พิสูจน์ได้แล้วว่า Cloud Computing มีประโยชน์ในชีวิตประจำวันมากแค่ไหน การถ่ายทอดฟุตบอลที่ทำให้ทั้งโลกสามารถดูได้พร้อมกัน
หรือการที่เราสามารถนั่งดูภาพยนตร์บน Netflix ได้ก็เพราะ Cloud Computing นั่นเอง ในสมัยก่อนการที่จะติดต่อกับเพื่อนเก่า ๆ ได้ จะสามารถทำได้ยากมาก แต่ในปัจจุบันการที่มี Social Media เช่น Facebook ก็ช่วยเราสามารถติดต่อเพื่อนเก่า ๆ หรือ คนในครอบครัวได้ง่าย การพัฒนาของ Cloud Computing เกี่ยวกับเรื่อง Social Media ช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์ลักษณะการใช้งาน หรือความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุดมากขึ้นครับ
ด้านสุขภาพ
Cloud Computing สามารถช่วยในด้านของการเก็บ,จัดการ และแชร์ข้อมูลของผู้ป่วยได้ง่าย ซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายสำหรับอุปกรณ์ในการจัดเก็บข้อมูลได้ นอกจากนั้นแล้ว ในสถานพยาบาลบางแห่ง ผู้ป่วยยังสามารถเรียกดูข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาของตัวเองได้ผ่านอุปกรณ์ เช่น โทรศัพท์มือถือที่ติดตั้ง Application
ของสถานพยาบาลนั่นเอง
ด้านการนำทาง
พาหนะส่วนใหญ่บนท้องถนนจะติดตั้งมาพร้อมกับระบบนำทาง ซึ่งระบบนำทางจะต้องดึงข้อมูลจาก Cloud Computing เพื่อนำข้อมูลมาแสดงผล ซึ่งในปัจจุบันสามารถใช้งานได้ง่ายผ่านทาง Application ในโทรศัพท์มือถือ พูดง่าย ๆ คือ หากคุณต้องการจะไปที่ ๆ คุณไม่รู้จัก
หรือต้องการที่จะคำนวณระยะทาง รวมไปถึงระยะเวลาที่จะใช้ในการเดินทางไปยังปลายทาง ก็จำเป็นที่ต้องใช้งาน Application ซึ่งมีการเก็บข้อมูลมหาศาลอยู่ที่ Cloud Computing ซึ่งถือว่าเป็นการใช้งาน Cloud Computing แบบอ้อม ๆ นั่นเอง
ด้านการซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์
การซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ในสมัยก่อน
ไม่เป็นที่นิยมเท่ากับสมัยนี้ เนื่องจากในสมัยก่อน เล่าจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน ณ ช่วงเวลานั้น ค่อนข้างมีความกังวลที่ต้องซื้อของผ่านทางช่องทางออนไลน์ เนื่องจากกลัวถูกหลอก และกลัวได้สินค้าที่ไม่ได้ตรงตามที่ตกลงกันไว้ หรือ มีตำหนิ (ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะยังมีอยู่บ้าง แต่ก็พัฒนาขึ้นมากกว่าสมัยก่อนครับ) ร้านขายของออนไลน์เจ้าใหญ่ ๆ ในสมัยนี้ ส่วนใหญ่จะใช้ Cloud ในการเก็บข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าเพื่อที่จะให้สามารถให้บริการลูกค้าได้ด้วยระบบการตลาดที่ถูกจุด ซึ่งหลาย ๆ เจ้าจะใช้ระบบการวิเคราะห์ข้อมูล (Data
Analytics)
ด้านการเก็บข้อมูลส่วนตัว
การที่คุณจะส่งไฟล์ขนาดใหญ่ให้เพื่อน ๆ ถ้าจะส่งผ่านทางอีเมลจะไม่สามารถทำได้เนื่องจากระบบอีเมลจะรองรับไฟล์ที่มีขนาดกำจัด การใช้งาน Personal Storage อย่าง Dropbox, Google Drive หรือ One Drive ก็เป็นตัวเลือกที่ดี และยังสามารถเรียกดูได้จากทุกที่
และทุกเวลาอีกด้วย
สรุปแล้ว Cloud Computing มีผลต่อการใช้ชีวิตในประจำวันของเรามาก ๆ ในทุกกิจกรรมเลยครับ แต่ก็ควรระวังเรื่องการจัดการข้อมูลส่วนตัวด้วยนะครับ หวังว่า Blog นี้อาจจะช่วยอธิบายให้กับบุคคลทั่วไป หรือชาว IT ทั้งหลาย อาจจะนำ Blog ไปเล่าต่อให้กับเพื่อน ๆ หรือญาติพี่น้อง คนในครอบครัว ให้เข้าใจมากขึ้นนะครับ
หากสนใจใช้บริการ Cloud ไม่ว่าจะเป็น
Cloud ในไทย หรือ Global Cloud สามารถติดต่อได้ที่ Cloud HM หรือท่านใดที่ยังไม่แน่ใจว่าจะใช้บริการ Cloud Server ที่ไหนดี ก็สามารถมาปรึกษาทาง Cloud HM
ได้ก่อนนะครับ
ขอบคุณครับ
— Cloud HM
บอสเป็น Development Engineer ของ Cloud HM ไม่ได้เขียน Code แต่เขียน Blog มีความสนใจในเทคโนโลยีใหม่ ๆ เป็นพิเศษ