การเสิร์ฟวอลเลย์บอล หมายถึง

         การเสิร์ฟ ( Service ) หมายถึง การส่งส่งลูกเข้าสู่สนามการเล่นโดยผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่งแดนหลังด้านขวาทำการเสิร์ฟในเขตเสิร์ฟและเสิร์ฟโดยใช้มือข้างหนึ่ง เช่น ส้นมือ อุ้งมือ กำหมัด เป็นต้น ตีลูกบอลให้ข้ามตาข่ายเข้าไปยังแดนของผู้แข่งขัน การเสิร์ฟมีความสำคัญต่อการเล่นมาก เพราะคะแนนที่ได้จะได้จากการเป็นฝ่ายเสิร์ฟเท่านั้น หากเสิร์ฟเสียจะเสียสิทธิการเสิร์ฟและหมดโอการที่จะได้คะแนนในครั้งนั้น ดังนั้น ทักษะการเสิร์ฟจึงต้องสนใจศึกษาและฝึกหัดให้ชำนาญเพราะผู้เล่นทุกคนต้องหมุนเวียนไปเป็นผู้เสิร์ฟ

 ชนิดของการเสิร์ฟที่นิยมมี 3 ชนิด คือ

การเสิร์ฟวอลเลย์บอล หมายถึง

การเสิร์ฟวอลเลย์บอล หมายถึง

          การเล่นกีฬาวอลเลย์บอลมีทักษะส่วนบุคคลพื้นฐานที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการเล่นหลายประเภท ซึ่งผู้เริ่มเล่นวอลเลย์บอลจำเป็นต้องเริ่มฝึกในพื้นฐานเหล่านี้ สำหรับในตอนนี้จะได้นำเสนอทักษะต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการเล่นวอลเลย์บอลในภาพรวมทุกทักษะ เพื่อที่จะได้ทราบว่าแต่ละทักษะมีวิธีการและความสำคัญอย่างไร รูปแบบทักษะพื้นฐาน ซึ่งทักษะทั้งหมดจำเป็นต้องใช้ในการแข่งขัน ในการฝึกนอกจากผู้เล่นจะสามารถปฏิบัติทักษะพื้นฐานทั้งหมดได้แล้วยังต้องสามารถเชื่อมโยงการเล่นในแต่ละทักษะได้ด้วย สำหรับการเล่นเป็นทีมนั้นหากผู้เล่นไม่มีความชำนาญในแต่ละทักษะพื้นฐานที่เกี่ยวกับการเล่นวอลเลย์บอลก็จะทำให้การเล่นเป็นทีมทำได้ยาก

การเสิร์ฟวอลเลย์บอล หมายถึง

การเสิร์ฟวอลเลย์บอล หมายถึง

ลักษณะท่าทางเตรียมเล่นบอลของผู้เล่นมีลักษณะดังนี้

1. หงายมือทั้งสองข้าง

2. เอามือหนึ่งไปวางช้อนทับอีกมือหนึ่ง

3.รวบมือให้นิ้วหัวแม่มือชิดติดกัน มัด

4. ใช้มือใดมือหนึ่งกำหมัด

5. ใช้อีกมือหนึ่งโอบหมัด

6. ให้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองชิดติดกัน .กำมือ

7.กำมือทั้งสองข้าง

8.นำมือทั้งสองข้างมาชิดกัน

9.ให้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างเสมอกัน

การเสิร์ฟวอลเลย์บอล หมายถึง

ท่าการอันเดอร์

1. ยืนเท้าใดเท้าหนึ่งอยู่ข้างหน้าห่างกัน ประมาณ 1 ช่วงไหล่

2 ย่อเข่าลงให้หัวเข่าเลยปลายเท้าเล็กน้อยก้มลำตัวให้หัวไหล่อยู่ในแนวระดับของเข่า

3 ยกส้นเท้าขึ้นเล็กน้อย น้ำหนักตัวอยู่ที่ปลายเท้าทั้งสองข้าง ตรงบริเวณโคนหัวแม่เท้า ใต้ฝ่าเท้า

4 จับมือในท่าที่ถูกต้อง แขนทั้งสองเหยียดตึง ตามองที่ลูกบอล

การเสิร์ฟวอลเลย์บอล หมายถึง

การเสิร์ฟวอลเลย์บอล หมายถึง

การเสิร์ฟวอลเลย์บอล หมายถึง

การยกมือทั้งสองในการเซ็ต

1. ยกมือทั้งสองขึ้นประมาณหน้าผาก มือทั้งสองห่างจากใบหน้าประมาณ 1 กำมือ ( 10 เซนติเมตร)

การเสิร์ฟวอลเลย์บอล หมายถึง

2. กางนิ้วออก กางข้อศอกออกเล็กน้อย ข้อศอกอยู่ระดับเสมอไหล่หรือสูงกว่าเล็กน้อย กางนิ้วออกนิ้วงอเป็น

3. เคลื่อนที่ไปที่ลูกบอลจะตกให้ลูกบอลอยู่เหนือศีรษะบริเวณหน้าผาก

4. ย่อเข่า ยกมือให้จุดสัมผัสบอลกับนิ้วมือห่างจากหน้าผาก 20 ซ.ม

การเสิร์ฟวอลเลย์บอล หมายถึง

การเสิร์ฟวอลเลย์บอล หมายถึง

1. การวิ่งเคลื่อนที่เข้าหาจุด

2. เตรียมกระโดดห่างจากจุดที่ลูกบอลตกประมาณ 1 ฟุต

3. กระโดดเหวี่ยงแขนทั้งสองไปข้างหลัง น้ำหนักตัวไปข้างหลัง เข่างอ

4. เหวี่ยงแขนทั้งสองขึ้นข้างหน้า พร้อมกับถีบเท้าทั้งสองกระโดดลอยตัว ขึ้นตรง ๆ

การเสิร์ฟวอลเลย์บอล หมายถึง

5. แขนขวาเงื้อไปข้างหลัง งอแขนเล็กน้อย แบมือ ตามองดูบอลตลอดเวลา

6. จังหวะที่จะตบ ให้กดไหล่ซ้ายลง พร้อมกับตบลูกบอลให้แรงส่งจากข้อมือ ศอก ไหล่ และลำตัว

7. ลงสู่พื้นด้วยเท้าทั้งสองในลักษณะย่อตัว

การเสิร์ฟวอลเลย์บอล หมายถึง

การเสิร์ฟวอลเลย์บอล หมายถึง

          การเสิร์ฟเป็นการรุกวิธีหนึ่งการแข่งขันจะเริ่มจากการเสิร์ฟเสมอ ลูกเสิร์ฟที่มีพลังและมีประสิทธิภาพ สามารถ ข่มคู่แข่งขันและเชิงความเป็นผู้คุมเกมการเล่นได้ด้วย จุดประสงค์ของการเสิร์ฟอยู่ที่การทำคะแนนโดยตรงทำลายยุทธวิธีการรุกของฝ่ายตรงข้ามลดภาระการตั้งรับของฝ่ายตน สร้างโอกาสที่ได้เปรียบในการตอบโต้ลูกเสิร์ฟที่ดีสามารถทำความหนักใจให้ฝ่ายตรงข้ามอันเป็นการทำลายขวัญและจิตใจของคู่แข่งขันทำให้เกิดความรวนเร ขาดความสัมพันธ์ในการรุกได้ทางหนึ่งด้วย ผู้เล่นจึงควรหาความชำนาญ โดยการฝึกหัดเสิร์ฟด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งที่เหมาะสมและดีที่สุด หรือตามความถนัดของผู้เล่นแต่ละคน หลักสำคัญในการเสิร์ฟ มีดังนี้ ท่าทางในการเสิร์ฟ 1. ตำแหน่งการยืน 2. การโยนลูกบอล

การเสิร์ฟวอลเลย์บอล หมายถึง

3. การเหวี่ยงแขน 

4. จุดที่มือกระทบลูกบอล ท่าทางในการเสิร์ฟ ก่อนที่ผู้เล่นจะเริ่มทำการเสิร์ฟต้องรู้ตัวเองว่าตนเองถนัดเสิร์ฟท่าทางแบบใดตามที่ได้ฝึกฝนมา ถ้าเคยฝึกฝน หรือถนัดเสิร์ฟลูกท่าทางแบบใดต้องเสิร์ฟลูกตามแบบนั้นตลอดการแข่งขัน เพราการเปลี่ยนท่าทางการเสิร์ฟบ่อย ๆ ย่อมทำให้ประสิทธิภาพการเสิร์ฟเสียไป ตำแหน่งการยืน ก่อนที่จะเริ่มเสิร์ฟทุกครั้ง ผู้เล่นต้องยืนตามจุดหรือตำแหน่งที่เคยฝึกซ้อมมา มีผู้เล่นจำนวนมากที่ขาดความสังเกตในเรื่องนี้พอจับลูกบอลเข้ามายืนในเขตเสิร์ฟก็เสิร์ฟลูกไปตามใจตนเอง การยืนห่างจากเส้นหลังใกล้หรือไกลเพียงใด ยืนห่างจากมุมสนามมากน้อยเพียงใด ก็ต้องยืนที่จุดนั้นตลอดทุกครั้งที่ทำการเสิร์ฟ เพราะจะทำให้ความแรงความเร็วและทิศทางของลูกบอลเป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการและทำให้การเสิร์ฟมีผลเสียน้อยด้วย การโยนลูกบอล ความสูงขณะโยนลูกบอลขึ้นต้องสม่ำเสมอ เช่น ความสูงจากมือที่โยน ประมาณ 3 – 4 ช่วงของลูกบอล ก็จะต้องโยนลูกบอลให้มีความสูงเช่นนี้ตลอดไปเพราะการโยนลูกสูงบ้างต่ำบ้าง ทำให้แรงที่ใช้ตีและทิศทางของลูกขาดความแม่นยำ นอกจากนี้การโยนลูกใกล้ตัว ห่างตัวบ้าง เอียงไปซ้ายบ้างขวาบ้าง ก็ย่อมมีผลต่อการตีลูกบอลด้วย การเหวี่ยงแขน การเสิร์ฟให้ลูกบอลพุ่งไปตามทิศทางและมีความแรงตามที่ต้องการขึ้นอยู่กับการเหวี่ยงแขนด้วย ผู้เสิร์ฟเคยเหวี่ยงแขนในลักษณะใด มือห่างจากลูกบอลเท่าไรจะต้องทำอย่างนั้นทุกครั้งที่เสิร์ฟ จึงต้องฝึกฝนการเหวี่ยงแขนให้คล้ายกับเครื่องจักรที่มีจังหวะการทำงานอย่างสม่ำเสมอ จุดที่มือกระทบลูกบอล ลักษณะของมือและจุดที่มือกระทบลูกบอลต้องเหมือนกันทุกครั้งที่ตีลูกบอลในท่านั้น ๆ ด้วย เช่น การแบมือตีด้านหลังตรงส่วนกึ่งกลางของลูกบอล ก็ ต้องทำในลักษณะเช่นนี้ตลอดทุกลูกที่เสิร์ฟ เพราะการออกแรงและจุดที่ตีลูกบอลแตกต่างกันก็ยอมทำให้ทิศทางของลูกบอลที่พุ่งออกไปแตกต่างกันด้วย

การเสิร์ฟวอลเลย์บอลมีกี่วิธี อะไรบ้าง

ลักษณะของการเสิร์ฟ การเสิร์ฟโดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะใหญ่ ๆ คือ 1. การเสิร์ฟลูกมือล่าง 2. การเสิร์ฟลูกมือบน

การเสิร์ฟวอลเลย์บอลมีความสำคัญอย่างไร

การเสิร์ฟกีฬาวอลเลย์บอลเป็นการเริ่มต้นของการแข่งขัน ดังนั้นทีมใดที่มีความสามารถในการเสิร์ฟ เช่น ลูกบอลเคลื่อนที่มาด้วยความเร็ว มีความแม่นย าและพร้อมทั้งมีการก าหนดทิศทางได้แน่นอนย่อม ได้เปรียบฝ่ายตรงข้าม วิธีการเสิร์ฟที่ใช้ในการเล่นและแข่งขันจะใช้แบบใดนั้นขึ้นอยู่กับความถนัด ความช านาญที่ได้ท า การฝึกซ้อมมา และสมรรถภาพ ...

การเสิร์ฟที่ได้ผลดีที่สุดคือการเสิร์ฟแบบใด

หลักการเสิร์ฟลูกมือบน เป็นการเสิร์ฟลูกที่มีความรุนแรง ลูกวอลเลย์บอลจะ พุ่งลงสู่พื้นได้ดี และยังบังคับให้ลูกวอลเลย์บอลหมุนหรือส่ายได้อีกด้วย จึงเป็นรูปแบบของ การเสิร์ฟที่ใช้กันมากที่สุดในการเล่นกีฬาวอลเลย์บอล ซึ่งมีหลักปฏิบัติดังนี้ 2.1 ยืนด้วยเท้าทั้งสอง หันหน้าไปทางทิศทางเป้าหมาย ถือลูกวอลเลย์บอล ไว้ในฝ่ามือที่ไม่ใช่ ...

ลูกเสิร์ฟมือบนที่ดีที่สุดควรมีจุดกระทบอยู่ที่บริเวณใด

1. มือที่จะเล่นลูกมือบนต้องกางออกให้นิ้วหัวแม่มือเป็นนิ้วสุดท้ายที่สัมผัสลูก โดยลูกบอลผ่านเข้าทางนิ้วก้อย นิ้วนาง มากระทบนิ้วกลาง นิ้วชี้ และนิ้วหัวแม่มือตามลำดับ 2. บริเวณที่ลูกถูกมือ คือ บริเวณตั้งแต่ข้อที่สองของนิ้วจนถึงปลายนิ้ว ถ้าลูกบอลต่ำกว่านี้จะทำให้เกิดการพักลูกได้