ปัจจุบันอากาศประเทศไทยไม่ว่าจะฤดูไหนก็ร้อนอบอ้าวอยู่เสมอ ดังนั้นทางออกที่สามารถช่วยลดร้อนได้ดี นั่นก็คือ การเปิดเครื่องปรับอากาศนั่นเอง แต่วิธีนี้ก็มักจะก่อให้เกิดปัญหาใหญ่กับกระเป๋าเงินตามมา เพราะยิ่งเปิดเครื่องปรับอากาศมากเท่าไหร่ค่าไฟฟ้าต่อเดือนก็ยิ่งเพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น วันนี้จึงอยากมาเตือนถึง 7 ความเข้าใจผิดๆ ที่อาจทำให้ค่าไฟพุ่งสูงมากว่าจะลดลง
1. ใช้แอร์เครื่องเก่าไม่ยอมเปลี่ยน
เครื่องปรับอากาศที่สามารถใช้งานได้ตามปกติ แม้จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าระบบภายในของเครื่องปรับอากาศนั้นมีความเสื่อมสภาพไปตามการใช้งาน ยิ่งสำหรับเครื่องปรับอากาศที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 15 ปีขึ้นไป ยิ่งจะต้องมีการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในเรื่องของการซ่อมบำรุง อีกทั้งเครื่องปรับอากาศประเภทนี้ยังกินไฟมากกว่าปกติอีกด้วย ดังนั้นเมื่อคำนวณถึงความประหยัดแล้ว การเปลี่ยนเครื่องปรับอากาศใหม่ย่อมสามารถช่วยประหยัดในระยะยาวได้มากกว่า
2. ค่า BTU สูงยิ่งดี
ค่า BTU หลายคนเข้าใจว่ายิ่งมีค่าสูงจะยิ่งทำให้บ้านเย็น แต่นั่นเป็นเพียงความเข้าใจผิด เพราะค่า BTU ที่สูงหรือต่ำจนเกินไปจะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักและกินไฟมากขึ้น จึงควรเลือกให้มีความเหมาะสมกับขนาดห้องที่ใช้งาน โดยสามารถคำนวณได้จากสูตร ดังนี้
พื้นที่ห้อง (คือขนาดความกว้างxความยาว) x ค่า Cooling Load Estimation = ค่า BTU ที่เหมาะสม
ค่า Cooling Load Estimation สามารถประเมินได้คร่าวๆ ดังนี้
- ห้องนอน 700-750 BTU/ตารางเมตร
- ห้องนั่งเล่น 750-850 BTU/ตารางเมตร
- ห้องครัว 900-1000 BTU/ตารางเมตร
- ห้องทำงาน 800-900 BTU/ตารางเมตร
- ห้องประชุม 850-1000 BTU/ตารางเมตร
ทั้งนี้สูตรการคำนวณเป็นเพียงการประมาณค่า BTU ที่เหมาะสมคร่าวๆ สำหรับห้องที่มีความสูงเพดานไม่เกิน 3 เมตร หากเป็นห้องที่สูงมากกว่าหรือมีปัจจัยร่วมอื่นๆ เช่น จำนวนผู้ใช้งาน ทิศทางแดด จะต้องมีการเพิ่มค่า BTU ขึ้นไปด้วย
3. ตำแหน่งก่อนการติดตั้งแอร์
การเลือกตำแหน่งในการติดตั้งเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสม สามารถช่วยลดการทำงานของเครื่องซึ่งจะช่วยประหยัดค่าไฟได้ไม่มากก็น้อย โดยตำแหน่งที่เหมาะสมสำคัญติดตั้งเครื่องปรับอากาศคือ บริเวณที่โล่ง ไม่เป็นมุมอับ หรือบริเวณที่ไม่ถูกแสงแดดจัดโดยตรง รวมทั้งไม่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศใกล้กับประตูหรือหน้าต่าง
4. เปิดแอร์พร้อมพัดลมทำให้เปลืองไฟ
หลายคนคิดว่าการเปิดทั้งเครื่องปรับอากาศและพัดลมไปด้วยกัน จะยิ่งทำให้เปลืองไฟ แต่นั่นเป็นความคิดที่ผิด เพราะการเปิดพัดลมจะช่วยทำให้ความเย็นกระจายไปทั่วถึงทั้งห้อง ช่วยลดอุณหภูมิห้องลง 1-2 องศา และที่สำคัญช่วยลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศได้อีกด้วย
5. เปิดอุณหภูมิต่ำจะช่วยให้ห้องเย็นเร็วขึ้น
ความเข้าใจว่าเริ่มเปิดเครื่องปรับอากาศอุณหภูมิต่ำๆ ก่อน เพื่อเป็นการเพิ่มความเย็นให้เร็วขึ้นนั้น เป็นความคิดที่ผิดเช่นกัน เพราะไม่ว่าจะเริ่มเปิดที่อุณหภูมิเท่าไหร่ เครื่องปรับอากาศจะต้องใช้เวลาในการทำงานที่ใกล้เคียงกันทั้งหมด และยิ่งเปิดเครื่องปรับอากาศเริ่มต้นที่อุณหภูมิต่ำๆ ก็จะยิ่งทำให้เครื่องทำงานหนักและเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ
6. อุณหภูมิ 25 องศา ช่วยประหยัดไฟ
แม้ว่าการเปิดเครื่องปรับอากาศที่อุณหภูมิ 25 องศาเป็นวิธีที่ดีและถูกต้องในการช่วยประหยัดไฟฟ้า แต่การดูแลตัวเครื่องซ่อมแซมและทำความสะอาด อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศประหยัดไฟไปได้ในตัว
7. เปิด-ปิดบ่อยๆ ประหยัดไฟมากกว่า
แม้ว่าการเปิดเครื่องปรับอากาศให้ทำงานทั้งวันจะทำให้เปลืองไฟมากกว่า แต่การเปิดและปิดบ่อยๆ ก็ส่งผลเสียต่อตัวเครื่องได้ไม่ต่างกัน ดังนั้นควรเปิดและปิดในช่วงเวลาที่เหมาะสมและไม่บ่อยจนเกินไป ยกตัวอย่างเช่น การตื่นขึ้นมาปิดเครื่องปรับอากาศในช่วงตี 4-5 เพื่อช่วยประหยัดไฟและเป็นการพักการใช้งานของตัวเครื่องก็เป็นอีกวิธีที่อยากแนะนำ
เครื่องปรับอากาศถือได้ว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สำคัญและขาดไม่ได้เลยในปัจจุบัน ดังนั้นการใช้งานที่ถูกต้องและเหมาะสม รวมถึงเรื่องของการบำรุงรักษาและการดูแลให้ถูกวิธี ก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยลดการทำงานของตัวเครื่อง ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานและช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้พร้อมกันด้วย
เชียงใหม่แอร์แคร์เอ็นจิเนียริ่ง
จำหน่าย ติดตั้ง รับเหมา วางระบบ เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น จำหน่ายอะไหล่แอร์ราคาส่งทั่วประเทศ พร้อมบริการหลังการขายครบครัน
เข้าหน้าร้อนทุกปี แอร์กลายเป็นสิ่งขาดไม่ได้ ออกนอกห้องแอร์ทีไรร้อนหูดับตับไหม้ เหงื่อไหลไคลย้อยพาลให้อารมณ์หงุ ดหงิ ดไม่เป็นอันทำงานทำการ แต่จะเปิดแอร์ให้เย็นกายสบายใจก็กลัวต้องต กใจกับตัวเลขบิ ลค่าไฟที่พุ่งสูงตามอุณหภูมิ
แม้ว่าบ้านของคนไทยจะมีแอร์กันแทบทุกหลัง แต่เชื่อว่าถึงอย่างไรก็ต้องมีคนเข้าใจผิดอยู่ดี ฉะนั้นถ้าหากไม่อยากพลาดใช้แอร์ไม่ถูกวิธี จนเป็นเหตุทำให้เปลืองไฟและเปลืองพลังงานละก็ รีบแก้ไขด่วน ๆ เลยในสภาพอากาศร้อนๆแบบนี้ หลายๆบ้านคงจะต้องเจอกับปัญหาค่าไฟที่แพงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดแอร์เป็นระยะเวลานาน การใช้พัดลมเพิ่มขึ้น หรือแม้แต่การใช้ไฟในส่วนอื่นๆที่ทำให้เจอกับปัญหาค่าไฟที่สูงขึ้นตามมา วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ มาฝากกัน กับ 6 เคล็ดลับที่จะช่วยประหยัดค่าไฟให้กับบ้านของคุณมากขึ้น
1. เปิดแอร์เพียง 27 องศา โดยเปิดพัดลมช่วย
Credit By ttrepoxy
หากคุณรู้สึกว่าบ้านของคุณร้อนจนต้องเปิดแอร์ 24 องศา หรือต่ำกว่า ซึ่งการเปิดแอร์แบบนี้จะทำให้กินไฟ โดยมีวิธีที่หลายๆเพจแนะนำคือ การเปิดแอร์เพียง 25-27 องศา แล้วใช้การเปิดพัดลมช่วย จะทำให้ห้องเย็นเร็วขึ้น และเย็นเหมือนกับการเปิดแอร์ 24 องศาเลยทีเดียว การเปิดแอร์แบบประหยัดไฟ (25 องศา) และการเปิดพัดลมนั้นเป็นการช่วยประหยัดไฟได้มากขึ้น
2. ล้างแอร์บ่อยๆ
Credit By ttrepoxy
บางคนอาจจะไม่เคยทราบว่า การล้างแอร์นั้นช่วยให้ประหยัดไฟมากขึ้น แล้วคำถามคือ ควรล้างแอร์บ่อยแค่ไหน? คำแนะนำคือ ควรล้างแอร์อย่างน้อยทุก 6 เดือน หรืออย่างมากที่สุด ทุก 2-3 เดือน ถ้าหากว่าบ้านของคุณอยู่ติดกับถนนใหญ่ สาเหตุเพราะปริมาณฝุ่นนั้นมีมากกว่าบ้านที่ไม่ติดถนนใหญ่นั่นเอง การล้างแอร์จะช่วยล้างคราบฝุ่น และคราบสกปรก จะทำให้แอร์ทำงานได้ง่ายขึ้น ต่างจจากแอร์ที่แทบไม่เคยล้าง แอร์จะทำงานหนักและกินไฟมากกว่า และยิ่งหากว่าคุณศึกษาการล้างแอร์ด้วยตนเองได้ จะยิ่งประหยัดงบประมาณในการจ้างช่างแอร์ขึ้นไปอีก
3. วางตู้เย็นให้ห่างจากแดด
Credit By ttrepoxy
หากคุณต้องการจะประหยัดไฟ แนะนำว่าอย่าวางตู้เย็นให้โดนแดด หรืออยู่ใกล้หม้อหุงข้าว เพราะจะทำให้ระบายความร้อนได้ยากและกินไฟมากขึ้น รวมถึงการตั้งอุณหภูมิอยู่ที่ 3-6 องศา หากตั้งให้เย็นกว่านั้นจะเกิดการกินไฟโดยไม่จำเป็น
4. ถอดปลั๊กทุกครั้งหลังใช้งาน
Credit By ttrepoxy
การใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดใดก็ตาม ถ้าหากเราปิดแค่สวิทช์ไฟ ไม่ได้ดึงปลั๊กไฟออก จะทำให้กระแสไฟยังเกิดการไหลเวียนอยู่ หากคุณต้องการที่จะประหยัดไฟจริงๆ แนะนำให้ถอดปลั๊กไฟเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งหลังใช้งานเสร็จ
5. รีดผ้าคราวละมากๆ
Credit By ttrepoxy
การใช้เตารีดไฟฟ้าบ่อยๆนั้น เป็นการใช้ไฟอย่างสิ้นเปลือง หากคุณมีเสื้อผ้าที่ต้องรีดใส่ทุกวัน แต่ไม่อยากให้เปลืองไฟ แนะนำให้รีดผ้าครั้งละหลายๆชิ้น การทำแบบนี้จะทำให้ช่วยประหยัดไฟได้มากกว่ารีดครั้งละตัว
6. เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีสัญลักษณ์ ประหยัดไฟเบอร์5
การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะข่วยให้คุณประหยัดค่าไฟได้ในระยะยาวเลยก็คือ การดูที่สัญลักษณ์ ประหยัดไฟเบอร์ 5