ไป หลวง พระ บาง ต้องใช้ พา สปอร์ต ไหม

     ใครที่กำลังเตรียมตัวเดินทางไปยัง สปป.ลาว ไม่ว่าจะไปเที่ยวหรือไปทำงานก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ควรรู้ก็คือเรื่อง อัตราค่าธรรมเนียมการให้บริการด้านกงสุลไทย ณ เวียงจันทร์ เผื่อว่ามีเหตุให้ต้องขอต่ออายุวีซ่าไม่ว่าประเภทใดก็ตาม จะได้เตรียมเงินให้พร้อมไว้เสมอ *ข้อมูล ณ 26 เมษายน 2565*

• 11 ที่เที่ยวเวียงจันทน์ 2022 งบน้อย ก็เที่ยวได้ เที่ยวลาว ไปง่าย ไม่ต้องลางานนานๆ

อัตราค่าธรรมเนียมการให้บริการด้านกงสุลไทย ณ เวียงจันทร์

การตรวจลงตรา (Visa)

ประเภทวีซ่า
Visa Type

หนังสือเดินทาง (Passport)

บริการอื่นๆ (Other Services)

ข้อมูล : https://vientiane.thaiembassy.org/2022/04/5469

====================

Tag

#Laos#asean#gvg=up9t#traveltips#visa#กงสุลไทย ณ เวียงจันทร์#ลาว#วีซ่า#วีซ่าลาว#สปป.ลาว#อาเซียน#เที่ยวลาว#เที่ยวอาเซียน#เที่ยวเอเชีย#เวียงจันทน์#เอเชีย#เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การเดินทางของเราครั้งนี้ เริ่มต้นเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560   ซึ่งมันเป็นการวางแผนการเที่ยวตั้งแต่เดือนกันยายนเมื่อปี 2559 เราได้ทำการจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2559  จองกันจนเกือบลืมไปแล้วว่าจะได้ไปเที่ยว ซึ่งค่าใช้จ่ายสำหรับตั๋วเดินทางจาก ดอนเมือง ไป หลวงพระบาง  ทั้งไปและกลับ รวมสองคนเราจองได้ราคาอยู่ที่ 7,780 ถ้าไม่ซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม เราจะประหยัดไปได้อีกประมาณพันกว่าบาท ซึ่งมาคิดทีหลังก็แอบเสียดายอยู่เหมือนกัน เพราะวันไปจริงๆ เรามีกระเป๋าที่จะต้องโหลดใต้เครื่องแค่ใบเดียวเอง ซึ่งตอนแรกที่ซื้อน้ำหนักเพิ่มเพราะคิดกันว่าจะเอากระเป๋าเสื้อผ้าไปคนละใบ เผื่อขากลับอาจจะได้ซื้อของติดไม้ติดมือกลับมาบ้าง แต่เอาเข้าจริงแค่ใบเดียวก็น่าจะพอ  น่าเสียดายอยู่เหมือนกันนะ    เอาล่ะค่ะเข้าเรื่องกันดีกว่า การเดินทางของเราในวันนี้คือตอนบ่ายสองโมงตรง กับเที่ยวบิน FD 1030  บินตอนบ่ายสอง เราจะต้องเผื่อการเช็คอินประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงเริ่มเดินทางไปสนามบินดอนเมืองกันตอนประมาณสิบโมงกว่าๆ ไปถึงสนามบินก็ประมาณสิบเอ็ดโมงครึ่ง ไปสนามบินดอนเมือง ผู้โดยสารขาออกจะอยู่ที่อาคาร 1  พอไปถึงอาคาร 1  ก็มุ่งตรงไปที่เคาท์เตอร์ของแอร์เอเชียเลยค่ะ ผ่านจุดเช็คกระเป๋าสำหรับโหลดใต้ท้องเครื่องเรียบร้อยแล้ว ก็ไปต่อคิวที่เคาท์เตอร์แอร์เอเชียร์ เพื่อทำการ Check in โดยการยื่น Passport ของเราให้เจ้าหน้าที่เลยค่ะ หรือจะแนบเอกสารการชำระเงินที่เราได้ทำการบุ๊คกิ้งไว้เรียบร้อยแล้วให้กับเจ้าหน้าที่ไปด้วยเลยก็ได้ กระเป๋าที่จะต้องโหลดขึ้นเครื่องก็เอาขึ้นวางบนสายพานชั่งน้ำหนักเลยค่ะ

Booking.com

หลังจาก Check in เรียบร้อยแล้วเราก็จะได้บอร์ดดิ้งพาส คนละใบ จากนั้นเราเดินไปที่โซนผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ เพื่อที่จะได้เข้าไปด่านตรวจหนังสือเดินทาง หรือ ตม. นั่นเอง ตามภาพด้านล่างนี้เลยค่ะ

              ต่อแถวตรวจเอกสาร เตรียมเอกสารต่างๆ ให้เรียบร้อย หนังสือเดินทาง บอร์ดดิ้งพาส

ผ่านเข้ามาด้านในจะมีจุดให้เรากรอกเอกสารบัตรขาออก และ บัตรขาเข้า  เจ้าหน้าที่เขาจะแนบมาให้เราแล้วตั้งแต่ตอน Check in ตรงจุดนี้เราก็กรอกรายละเอียดไว้ให้เรียบร้อยเลยค่ะ

การกรอกบัตรขาออก

บรรทัดแรก  กรอก    นามสกุล ( เป็นภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่ )  เที่ยวบิน  ดูได้ในบอร์ดดิ้งพาส

บรรทัดสอง   กรอก  ชื่อ (ตัวพิมพ์ใหญ่)

วัน เดือน ปี เกิด  เช่น เกิด 1 มกราคม 1984  ก็กรอก  01/01/1984     กากบาทตรงช่องเพศ  ชาย หรือ หญิง

สัญชาติ  กรอก  THAI

เลขที่หนังสือเดินทาง    ดูได้ที่หน้าบัตรหนังสือเดินทาง เลขที่อะไรก็กรอกลงไปเลยค่ะ

ลายมือชื่อ   เซ็นต์ให้เหมือนในหนังสือเดินทาง (passport)

การกรอกบัตรขาเข้า  ก็กรอกรายละเอียดต่างๆ เหมือนขาออกค่ะ จะมีเพิ่มเติมคือที่อยู่ในประเทศไทย  ก็กรอกที่อยู่ที่เราอยู่ลงไปค่ะ

หลังจากกรอกเอกสารเรียบร้อยแล้วเราก็จะเดินไปที่จุดตรวจ ตม. ค่ะ จุดนี้ไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ เพราะเหมือนว่าเขาจะไม่ให้ถ่ายรูป สำหรับคนไทย เราสามารถเดินไปที่ช่องอัตโนมัติได้เลยค่ะ ที่ช่องอัตโนมัติจะมีเจ้าหน้าที่ยืนอยู่ เจ้าหน้าที่จะมาดึงเอาบัตรขาออกเราออกไป จากนั้นเราก็เดินเข้าช่องอัตโนมัติที่ว่างอยู่ได้เลยค่ะ ในช่องนั้นเราก็จะต้องทำการสแกนหน้าแรกของ passport  จากนั้นช่องด้านล่างทำการสแกนบาร์โค๊ดของบอร์ดดิ้งพาส หรือจะพิมพ์เลขที่เที่ยวบินของเราลงไปเลยก็ได้ค่ะ  จากนั้นประตูก็จะเปิด แล้วเราก็เดินเข้าไปยืนตรงจุดที่เขามาร์กไว้ แล้วมองกล้องด้านบน กล้องจะบันทึกภาพเราไว้  จากนั้นก็ ทำการสแกนนิ้วโดยการวางนิ้วชี้ลงไป วางไว้แป๊บนึง ประตูขั้นที่สองก็จะเปิด  แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ  ไปด่านต่อไปได้

จุดตรวจอีกจุดก็จะทำการสแกนตัวเรา กระเป๋าต่างๆที่เรานำติดตัวมาด้วย  กระเป๋าสิ่งของต่างๆที่นำติดตัวมาด้วยเพื่อที่จะถือขึ้นเครื่องให้เราใส่ไว้ในถาด กระเป๋าสตางค์ เป้ โน๊ตบุ๊ค มือถือ อะไรต่างๆ ที่เราถือมาด้วย ใส่ลงไปในถาดเลยค่ะ   พวกขวดน้ำ ของเหลว สิ่งของต้องห้ามต่างๆที่ห้ามนำขึ้นเครื่อง วางทิ้งไว้ที่ตรงจุดนี้เลยค่ะ  แล้วก็เดินตัวเบาๆ ผ่านเครื่องสแกนเข้าไปเลย  หากเดินผ่านเครื่องสแกนแล้วมีเสียงดัง เดี๋ยวเจ้าหน้าที่เขาก็จะตรวจที่ตัวอีกรอบว่ามีโลหะหรืออะไรหรือเปล่าในตัวเรา ส่วนใหญ่ที่ดังก็อาจจะเป็นพวกเข็มขัด เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากให้เสียเวลาโดยเฉพาะคุณผู้ชายก็ถอดเข็มขัดออกวางในถาดตั้งแต่แรกไปเลยค่ะ ผ่านตรงจุดนี้แล้วเราก็เดินไปที่ Gate (ประตูทางออก) ของเราเลยค่ะ ไปนั่งรอที่หน้า Gate รอขึ้นเครื่องนั่นเอง Gate ของเราเลขที่อะไรดูได้ในบอร์ดดิ้งพาส (Boarding Pass)เลยค่ะ  ระหว่างทางเดินไปที่ Gate ก็จะมีชอร์ป Duty Free ต่างๆ ใครใคร่ช๊อปปิ้งอะไรก็ตามสบายเลยนะคะ ยังพอมีเวลาเหลือ

ประตูทางออกของเราเที่ยวบิน FD 1030 อยู่ที่ Gate 5    นี่ไงเจอล่ะ Gate 1-6 นั่งรอบริเวณนี้แหล่ะจ้า เดี๋ยวพอถึงเวลาเจ้าหน้าที่เขาจะเรียกขึ้นเครื่องค่ะ

ถึงเวลาแล้วไปขึ้นเครื่องบินกัน

ระหว่างรอเครื่องบินแอร์เอเชียร์ Take Off จากสนามบินดอนเมือง ไป สนามบินหลวงพระบาง พี่นกค่ายสีเหลืองก็กำลังจะ Landing

Entry point        ไม่ต้องกรอกก็ได้

Family  Name     กรอกนามสกุล

Name                    กรอกชื่อ

Nationality        สัญญาติกรอก  THAI

Date Of Birth       กรอกวัน เดือน ปี เกิด   เช่น 01/10/1984

Place of birth      กรอกสถานที่เกิด  เช่น Bangkok

Occupation       อาชีพ   กรอกหรือไม่กรอกก็ได้ 

Passport No  กรอกเลขที่หนังสือเดินทาง

Expiry date    กรอกวันที่บัตรหมดอายุ

Date of issue   กรอกวันที่ออกบัตร

Place of issue   สถานที่ออก  ไม่ต้องกรอกก็ได้

Purpose of entry   ติ๊กช่อง Tourist

Travelling By    กรอกเที่ยวบินที่มาในช่อง Flight No.

Travelling from  เดินทางมาจาก เช่น  กรอก Bangkok

Travelling in package tour   มาด้วยตัวเองก็ติ๊กที่ช่อง No  มาด้วยกรุ๊ปทัวร์ก็ติ๊ก Yes

Intended address in laos  สถานที่จะพักอยู่ในลาว   ถ้าอยู่โรงแรมก็กรอกชื่อโรงแรมลงไปเลยค่ะ เช่น Mekong Sunset View Hotel

สองช่องสุดท้าย  Date ลงวันที่   และ signature  ลงลายมือชื่อให้เหมือนในพาสปอร์ต

บัตรขาออกรายละเอียดน้อยกว่า ก็เหมือนๆเดิมค่ะ

1. กรอก นามสกุล  เช่น  AAAAA    ชื่อ   BBBBB

2. กรอกวัน เดือน ปี เกิด   เช่น 01/10/1984

3. สถานที่เกิด  เช่น  Bangkok

4. ติ๊กเลือก เพศ ชาย หรือ หญิง

5. สัญชาติ  THAI

6. อาชีพ  ไม่กรอก –

7. ลงวันที่  23/02/2017

8. หนังสือเดินทางเลขที่  เช่น TX 12045566

9. วันที่ออกบัตร เช่น  05/12/2016

10. สถานที่ออกบัตร   ไม่กรอก –

11. ลงลายมือชื่อ   เซ็นต์เหมือนหน้าพาสปอร์ต

12. ที่อยู่สุดท้ายก่อนออกจากลาว  ชื่อโรงแรมที่เราพักในลาว เช่น Mekong Sunset View Hotel

ถึงแล้วค่ะสนามบินหลวงพระบาง ใช้เวลาเดินทาง 1.20 ชั่วโมง

เจ้าหน้าที่จากสนามบินหลวงพระบางมายืนรอตรงจุดผู้โดยสารขาเข้า  พอผ่านเข้ามาแล้วจะเจอด่านตรวจคนเข้าเมือง ไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ  แต่จะเจอเป็นเคาท์เตอร์ เราก็ไปต่อคิว ยื่นเอกสารของเรา พาสปอร์ต บัตรขาเข้าที่เราได้กรอกไว้เรียบร้อยให้เจ้าหน้าที่  จากนั้นเจ้าหน้าที่เขาก็จะตรวจ ประทับตราลงในพาสปอร์ต  จากนั้นก็มองกล้องเขาจะบันทึกภาพเราเก็บไว้ คืนพาสปอร์ตให้เรา  เสร็จแล้วเรียบร้อย ไปรอรับกระเป๋าได้เลย

ข้างหน้าจุดรับกระเป๋าเดินทางมีร้านขายซิมมือถือของค่าย ETL มีแพ็คเก็จให้เลือกหลากหลาย มาครั้งนี้ไม่ได้ทำการเปิดโรมมิ่งมา เพราะตั้งใจจะมาซื้อซิมเน็ตเอาที่นี่ เห็นร้านนี้อยู่ร้านแรกพอดี เดินตรงเข้าใส่เลย วันนี้ซื้อแพ็คเก็จ 3 วัน โปรใช้เน็ตได้ไม่อั้น ราคา 250 บาท อู้ววว โอเคแห๊ะ ใช้เน็ตได้ไม่อั้นด้วย ตัดสินใจซื้อเลยทันที ถอดซิมเก่าเราออกเก็บไว้ ให้เจ้าของร้านเขาเปิดซิมใหม่ให้จัดการให้หมด ทดลองยืนเล่นอยู่หน้าร้าน โอเคนะ สัญญาณโอเค ใช้ได้ๆ แต่หารู้ไม่ พอเข้าไปในเมืองหลวงพระบาง อยากจะกระซิบบอกว่า ถ้าใครไปหลวงพระบาง อย่าซื้อซิมค่ายนี้จะดีกว่านะ เพราะเน็ตอืดมากกกกกกกกกกกกกกกก  ตลอดระยะเวลาที่อยู่หลวงพระบาง 3 วัน ได้ใช้แต่ wifi ของทางโรงแรมเท่านั้น  ในส่วนของซิมเน็ตที่เราได้อุตส่าห์ซื้อมาในราคา 250 บาท น๊านนนนนนนนนนนนน  มันใช้งานอะไรไม่ได้เลย หมุนติ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เอาล่ะค่ะ หลังจากที่ได้ซื้อซิมเน็ตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เดินออกมาด้านหน้ามองหาคนที่จะมารับเรา  เพราะก่อนที่จะมาเราได้ทำการติดต่อกับทางโรงแรมให้จัดหารถมารับที่สนามบิน เจ้าหน้าที่ทางโรงแรมบอกว่าโอเคและคิดค่าไปรับในราคา $6 ถ้าจ่ายเป็นเงินบาท เขาคิดที่ราคา 220 บาทถ้วน  โอเค๊  สองร้อยยี่สิบก็สองร้อยยี่สิบ   แจ้งวัน เวลา พร้อมกับเที่ยวบินที่เราเดินทางมาให้กับเจ้าหน้าที่โรงแรมเรียบร้อย (ติดต่อกันทางอีเมล์)เดินออกมา ก็มองหาคนมารับที่จะยืนถือป้ายชื่อเราอยู่ เจอแล้วก็ตรงดิ่งเข้าไปหาเลย  คนขับที่มารับ พูดภาษาลาวไม่ได้ ภาษาไทยพูดไม่ได้  พูดอังกฤษสำเนียงเวียดนาม เอาหล่ะ ซวยยยล่ะตู ภาษาอังกฤษเรายิ่งเก่งๆๆ ซะด้วยสิ 55555  อ๋อลืมบอกไปโรงแรมที่ไปพักเป็นของคนเวียดนาม พนักงานก็น่าจะคนเวียดนาม ไม่มีใครพูดภาษาลาวกันสักคน ภาษาไทยและภาษาลาวฟังและพูดไม่รู้เรื่อง สื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษ ที่ต่างฝ่ายก็ต่างภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง 5555

จะไปเที่ยวหลวงพระบางไปยังไงต้องทำพาสปอร์ตไหม

เที่ยวลาวต้องพาสปอร์ตไหม

ไม่มีพาสปอร์ตอยู่ลาวได้กี่วัน

ไปเที่ยวลาวต้องใช้อะไรบ้าง 2565