การทำผา้ ยอ้ มครามจากธรรมชาติ
Making natural indigo dyed fabrics
จดั ทำโดย
นางสาวเพ็ญศิริ ชุมคำนอ้ ย เลขที่ 30
ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 5/8
เสนอ
นางวนดิ า บุญพิเชฐวงศ์
คณุ ครูทป่ี รึกษาการศกึ ษาค้นควา้
การศกึ ษานเ้ี ปน็ ส่วนหนึ่งของรายวิชาการสือ่ สารและการนำเสนอ (IS2) รหสั วิชา I30202
โรงเรียนสตรีราชินูทิศ
ภาคเรยี นท่ี 2 ปี การศกึ ษา 2564
สำนกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาอดุ รธานี
ก
ชอื่ เรอ่ื ง ผา้ มัดยอ้ ม
ผูศ้ ึกษาค้นคา้ 1.นางสาวธญั ญารัตน์ ประเสรฐิ บุญ เลขที่ 1
2.นางสาวปราณปรีดา คณะวาปี เลขที่ 24
ระดบั 3.นางสาวเพญ็ ศริ ิ ชมุ คำน้อย เลขที่ 30
ครทู ปี่ รึกษา 4.นางสาวแพรวา ศรีไว เลขท่ี 31
รายวิชา 5.นางสาวอญั ญาดา แสงไพรนิ ทร์ เลขที่ 41
โรงเรียน ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 5/8
คณุ ครวู นดิ า บุญพิเชฐวงศ์
สอ่ื สารและการนำเสนอ (Independent Study : IS2)
โรงเรียนสตรีราชินูทศิ ปีการศึกษาท่คี ้นควา้ 2564
บทคัดยอ่
รายงานการศึกษาค้นควา้ เรื่อง การทำผ้ายอ้ มครามจากสีสังเคราะห์ เป็นองค์ความรู้
เก่ยี วกบั ศิลปะการนำผา้ มายอ้ มดว้ ยสสี ังเคราะห์ มีวตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ ศกึ ษาวธิ ีการทำผ้ามัดย้อมท่ี
สวยงามและมหี ลากหลายลวดลาย วธิ ีการศกึ ษาคน้ คว้า ศกึ ษาข้อมลู เทคนคิ และกระบวนการทำ
ผา้ มดั ย้อมจากอินเทอร์เนต็ กลมุ่ ตัวอยา่ งเปน็ นักเรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 5/8 จำนวน 5 คนไดม้ า
โดยการเลอื กแบบเจาะจง เครอ่ื งมอื ประกอบด้วย สี หม้อต้ม หนงั ยาง ถุงมอื แบบสอบถามเรื่อง
ความชอบในการทำลายผ้ามัดยอ้ มซึ่งวเิ คราะหข์ อ้ มลู โดยใชส้ ถิติหาคา่ เฉลย่ี และรอ้ ยละประเภท
ข้อมลู และสถิติเชงิ อนุมาน
ผลการศึกษาพบวา่ ขอ้ มลู ทีต่ ้องการมาจากแหลง่ ขอ้ มูลทีถ่ ูกต้องและได้ข้อมลู ทคี่ รบถว้ น
ตามทต่ี อ้ งการ
ข
กติ ติกรรมประกาศ
โครงงานฉบับน้ีสำเร็จอย่างสมบรู ณ์ได้ด้วยการช่วยเหลืออย่างย่ิงจาก คณุ ครูวนิดา บุญพิเชฐ
วงศ์ คุณครทู ประจำวิชา และคณุ ครูนันทพร พรมนา คุณครทู ป่ี รึกษา ท่ีกรุณาให้คำปรกึ ษาแนะแนวและ
ใหข้ ้อมูลต่างๆตลอดทั้งการตรวจแก้ไขรายงานฉบับนี้ให้สำเร็จสมบรู ณย์ ่ิงขึน้ คณะผู้จัดทำจึงขอกราบขอ
พระคุณอย่างสูง ณ โอกาสนี้ ขอขอบคุณ ทางโรงเรียนสตรีราชินทู ิศ อาจารย์ พ่อแม่ เพื่อนๆที่ให้ความ
สนับสนุน ทำให้โครงงานประสบความสำเร็จ ขอขอบคุณเพื่อนทุกคนที่คอยช่วยเหลือและขอบคุณ
กำลังใจดีๆ จากผู้ที่มีความเมตตากรณุ าทุกท่าน ซึ่งภายในรายโครงงานฉบับนี้มีข้อมลู เก่ียวกบั การทำผา้
มัดย้อมตัง้ แตเ่ บ้ืองตน้ จนถึงสำเร็จผลเพ่อื ให้ได้ศกึ ษาคน้ คว้าหาความร้เู กี่ยวกบั เรื่อง การทำผ้ามดั ยอ้ มทาง
ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงงานงานฉบับนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ศึกษาไม่มากก็น้อย หาก เกิด
ขอ้ ผดิ พลาดประการใดขออภยั ไว้ ณ ท่นี ีด้ ว้ ย
นกั เรยี นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5/8
มกราคม พทุ ธศักราช 2564
สารบัญ ค
บทคดั ยอ่ หน้า
กติ ติกรรมประกาศ ก
สารบัญตาราง ข
บทท่ี 1 บทนำ ง
ความเปน็ มาของปญั หา 1
จดุ ม่งุ หมายของศึกษา 1
สมมตุ ฐิ านของการวจิ ยั 1
ขอบเขตของการวจิ ยั 2
ประโยชนท์ ี่คาดว่าจะไดร้ บั 2
นิยามศพั ทเ์ ฉพาะ 2
บทที่ 2 เอกสารและงานวจิ ัยท่เี ก่ียวข้อง
ประวตั คิ วามเป็นมา 3
ขน้ั ตอนการทำผา้ มัดย้อม 4
บทท่ี 3 วธิ ีดำเนินการ
วิธดี ำเนนิ การศึกษา 6
บทที่ 4 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู
ผลการวิเคราะหข์ ้อมลู 7
บทท่ี 5 สรปุ ผล อภิปราย และข้อเสนอแนะ
สรปุ ผล อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ 9
บรรณานกุ รม ฉ
ภาคผนวก สารบญั ตาราง ง
ตารางที่ 1 12
ตารางท่ี 2
หน้า
8
8
1
บทที่ 1
บทนำ
ความเป็นมาของปญั หา
ปัจจบุ ันทกั ษะการดำรงชวี ิตเป็นทักษะทจี่ ำเปน็ ในสงั คมปัจจบุ ันมาก และในปจั จบุ ันสิง่ ของ
ตา่ งๆมีราคาท่สี ูง ผปู้ กครองนกั เรียนต้องรับภาระคา่ ใช้จ่ายในครอบครวั สูงและเศรษฐกิจทไี่ มด่ ีทำให้
รายไดไ้ มพ่ อกับการใช้ภายในครอบครัว ผจู้ ดั ทำโครงงานเหน็ ว่าสามารถทีจ่ ะหารายได้ช่วยเหลือ
ครอบครวั ได้และแบง่ เบาภาระคา่ ใช้จ่ายในครอบครวั ได้จงึ มีการจดั ทำโครงงานสร้างเสริมทกั ษะให้
นักเรยี นไดม้ ีทกั ษะความรไู้ ปใชใ้ นการหารายไดเ้ สริมระหวา่ งเรียน โดยคดิ โครงงานผา้ มดั ย้อม ซึ้งเปน็
งานอาชพี ที่สามารถทำไดง้ านไม่ยงุ่ ยาก และเปน็ การนอ้ มหลักเศรษฐกจิ พอเพยี งมาประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิต
ประจกลุ่มผูจ้ ดั ทำโครงงานจงึ ได้ปรกึ ษากับครูผสู้ อนและจัดทำโครงงานผา้ มดั ย้อมขึ้นมา
จุดมงุ่ หมายของศึกษา
1. เพ่ือศกึ ษาเก่ียวกับวธิ กี ารทำผ้ามดั ยอม
2. เพื่อให้สง่ เสริมสร้างรายได้ในครัวเรือนของคณะผ้จู ัดทำ
3. เพื่อลดความตงึ เครยี ด ใช้เวลาว่างให้เกดิ ประโยชน์
4. ทำใหม้ ีทักษะและสามารถสรา้ งงานศิลปะบนลายผา้ ทำผ้ามดั ยอ้ มจากสีสังเคราะหไ์ ด้
สมมุตฐิ านของการวจิ ัย
1. ทราบถงึ วิธีทำผ้ามัดย้อม
2. มีรายไดเ้ สริมในการทำผ้ามดั ย้อม
3. ทำผ้ามัดย้อมได้ด้วยตนเอง
2
ขอบเขตของการวิจยั
1. เน้ือหาเกีย่ วการศึกษาวิธที ำผา้ มดั ย้อม
2. นักเรยี นชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5/8 จำนวน 43 คน
3. เดือนมถิ ุนายน 2564-เดือนธนั วาคม 2564
4. ค้นควา้ และรวบรวมจากอนิ เทอรเ์ น็ต และสอบถามข้อมลู การทำ ศกึ ษาวิธที ำจาก
ผทู้ ำขาย
5. ตัวแปรทต่ี ้องการศึกษาคือลวดลายของการยอ้ มผ้า และวิธีทำขาย
ประโยชนท์ ่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ
1. ผเู้ ข้าร่วมโครงการไดท้ ราบถึงกระบวนการและประโยชน์ของการทำผา้ มดั ย้อม
2. สามารถนำเส้อื ผ้าทม่ี าใช้แล้วมาสร้างมูลค่าเพมิ่ ได้
3. ได้ผลิตภัณฑ์สยี อ้ มผ้าทม่ี สี สี นั และลวดลายท่ีสวยงาม
4. นำความรู้ท่ีได้จากการศึกษาไปใช้ในชวี ติ ประจำวันและสามารถทำเปน็ อาชีพเสรมิ ได้
ขอ้ ตกลงเบ้ืองตน้
1. นกั เรยี นทกุ คนตอบแบบสอบถามด้วยความเขา้ ใจและดว้ ยความจรงิ ใจ
2. การวิจยั ในครัง้ นถ้ี อื ว่า ความแตกตา่ งในเร่อื งเพศ อายุ เชอ้ื ชาติ ฐานะทางเศรษฐกิจ
ตลอดจนอาชีพของบดิ ามารดาไม่มีผลกระทบต่อการเรยี น
นิยามศพั ท์เฉพาะ
ผ้ามัดย้อม หมายถึง นำผ้ามามัดด้วยวัสดุต่างๆแล้วนำไปย้อมสี โดยใช้วิธีการกันสีดว้ ยวัสดุ
บางอยา่ ง เช่น ยางรัด เชือก หมดุ ปกั ผ้า ตวั หนีบกระดาษ หรือการเย็บ ซึ่งจะชว่ ยกันไม่ให้สีแทรกซึม
3
ลงไป การออกแบบ การกันสีขึ้นอยู่กับวัสดุทีใ่ ช้ นอกนั้นผลการออกแบบยังขึ้นอยู่กับปริมาณสีย้อม
และการแทรกซึมของสใี นผืนและจะทำใหเ้ ป็นลวดลายไมเ่ หมอื นใครซ่ึงเปน็ เอกลกั ษณ์เฉพาะ
บทที่2
เอกสารและงานวจิ ยั ทีเ่ กย่ี วข้อง
ประวัตคิ วามเป็นมา
การฝกึ หัดมดั ยอ้ มบนเนอ้ื ผ้าได้ทำกันมาเกือบทกุ ส่วนของโลกประวตั กิ ารทำผา้ ทำย้อมได้
เร่ิมตน้ ทำกนั มาแลว้ ในสมัยเอเชียโบราณแผ่ขยายไปยังตอนกลางของทวีปอนิ เดียไปยังมาเลเซียและ
ข้ามไปยงั แอฟรกิ า ผ้ามดั ยอ้ มทมี่ ีในประเทศไทยและกมั พูชาน้ันเปน็ เครอ่ื งแสดงใหเ้ ห็นว่าการมดั ยอ้ ม
เริม่ ตน้ มาจากสองประเทศน้ีแพรห่ ลายเข้าไปยงั ประเทศอนิ โดนีเซยี วธิ กี ารมัดยอ้ มยังนำไปใชใ้ นการ
ตกแตง่ ผา้ ไหมชั้นดีเพอื่ ใชทำผา้ คลมุ ไหล่ สไบ และโสรง่ สาหรบั ชายหญงิ ของชาวชวาและบาหลกี ารมดั
ย้อมในแตล่ ะประเทศ แสดงให้เห็นถงึ การออกแบบทแ่ี ตกตา่ งกนั และลักษณะการใชซ้ ึง่ ผผู้ ลติ สามารถ
วางแนวทางและรปู แบบของผา้ เพือ่ ผลติ ออกไปทว่ั โลกในระยะเวลาทแี่ ตกต่างกันตามรูปแบบของ
วัฒนธรรม
ขนั้ ตอนในการทำผ้ามดั ยอ้ ม
ผ้าทใ่ี ชท้ ำผ้ามดั ยอ้ มควรเปน็ ผ้าสีขาวหรอื สอี ่อนตามความต้องการ และตอ้ งเป็นผ้าที่ตัดแตง่
มาก่อน เพอื่ ให้ผ้าแข็งตัวและเงาเรยี บผู้ผลิตจะตอ้ งแต่งและอาบผา้ ดว้ ยสารเรซิ่นหรือแปง้ ใช้เป็น
4
ส่วนมาก สารทกี่ ลา่ วมาเป็นอปุ สรรคต่อการแทรกซึมของนำ้ สี ฉะน้ันกอ่ นทจี่ ะลงมอื ยอ้ มสี ควรขจัดส่งิ
เรานอ้ี อกให้หมด แต่ถา้ มสี ารอาบผวิ ใสจ่ ำนวนน้อยอาจทำความสะอาดได้โดยการใช้ผงซักฟอกได้
การเตรยี มผา้
ผู้ปฏบิ ตั ิยอ่ มปรารถนาใหล้ ายผ้าที่เกดิ ขึ้นบนผ้ามัดยอ้ มไมซ่ ำ้ กับผู้ใด ดังนั้นผ้ปู ฏิบตั งิ านจึงต้อง
ผูกผ้าด้วยตนเองไดอ้ ย่างอิสระ โดยใชค้ วามคดิ สรา้ งสรรค์ คิดออกแบบลายผ้าด้วยตนเอง
วิธียอ้ มผ้า
ต้มนำ้ ใหเ้ ดือดในภาชนะท่ใี หญพ่ อประมาณใสเ่ กลอื ลงไปเพื่อทจ่ี ะใหไ้ ด้สีตดิ ทน นำวตั ถุดิบสีท่ี
เราเตรยี มมาสบั ให้เลก็ แล้วใสล่ งในถุงตาข่ายแล้วนำไปตม้ น้ำที่เดอื ดเพื่อสกดั เอาสารท่มี อี ยู่น้ันออกมา
ถ้าสีที่ออกมาเข้มให้นำผ้าที่ผูกลายใส่ลงไปในหม้อต้มสี กลับด้านผ้าหรือกวนให้ตลอด เพื่อให้สีดูด
สม่ำเสมอ ถา้ พอใจแล้วให้นำออกมาวางให้เยน็ กอ่ นประมาณ 30นาทีข้ึนอยกู่ ับอุณหภูมิของน้ำท่ีเราตม้
แลว้ ค่อยนำไปล้างขย้ีเบาเบาในตวั ทำปฏิกริ ยิ าเพ่อื ให้เกิดส่งิ ใหม่
ข้นั ตอนการทำผา้ มัดยอ้ ม
1. เตรียมวสั ดุอปุ กรณ์
2. ละลายสดี ้วยนำ้ อุน่
3. ใส่นำ้ ให้ครบตามจำนวน
4. พกั ไว้
5. เตรียมผ้าท่ีมดั ไวแ้ ล้วใสล่ งในนำ้ ยอ้ ม
6. แชท่ ง้ิ ไวป้ ระมาณ ๓๐ นาที
7. นำออกมาวางให้เยน็ ก่อนประมาณ ๓๐ นาที
8. นำไปล้างในนำ้ สะอาดและแกะเชอื กออก
9. นำไปตากให้แหง้ และจะได้ลวดลายตามที่ตอ้ งการ
5
บทที่ 3
วิธีดำเนินการ
ในการศกึ ษาครัง้ นี้ผศู้ กึ ษาไดท้ ำการศกึ ษา การทำผ้าย้อมครามจากสีสงั เคราะห์ ซ่งึ มวี ิธีการ
ดงั นี้
ระเบยี บวธิ ีทใี่ ชใ้ นการศกึ ษา
ในการศกึ ษาใชร้ ปู แบบการสำรวจ สืบค้นขอ้ มูล จากหนงั สอื อินเตอร์เน็ต และตอบ
แบบสอบถาม
6
ประชากรทีใ่ ชใ้ นการศกึ ษา
1. ประชากร
ประชากรทใี่ ช้ในการศกึ ษาคร้งั นี้ เปน็ นักเรยี นระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 5/8
โรงเรียนสตรีราชินูทิศ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 1 ห้องเรียน เป็นนักเรยี นทั้งสน้ิ
43 คน
2. กลมุ่ ตัวอยา่ ง
กลุม่ ตัวอย่างทใี่ ชใ้ นการศึกษาครง้ั นไ้ี ดแ้ กน่ กั เรียนระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 5/8
โรงเรยี นสตรีราชนิ ูทิศ ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 เป็นนักเรียนทั้งส้นิ 10 คน ได้มาโดย
สมุ่ อย่างง่าย จำนวน 1 ห้องเรยี น เพื่อตอบแบบสอบถามที่สร้างขึ้น
3. ระยะเวลาทีใ่ ชใ้ นการศึกษา
ระยะเวลาท่ใี ชใ้ นการศกึ ษา ในภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564
วธิ ดี ำเนินการศึกษา
ผศู้ ึกษาได้ดำเนนิ การตามขนั้ ตอน ดังนี้
1. กำหนดเรือ่ งทจ่ี ะศกึ ษา โดยสมาชกิ ทัง้ 5 คน ประชุมรว่ มกนั และร่วมกนั คดิ และวางแผน
ว่าจะศึกษาเรือ่ งใด
2. สำรวจปัญหาที่พบในโรงเรียนซึ่งมีทั้งปัญหาด้านผู้เรียน ครูผู้สอน อาคาร สถานที่
สง่ิ แวดลอ้ มในโรงเรียน ฯลฯ
3. เลือกเรอื่ งทจ่ี ะศึกษา โดยเลือกเรอ่ื งทส่ี มาชกิ มคี วามสนใจมากที่สุด เพื่อเป็นแรงจงู ใจใน
การคน้ หาคำตอบ
7
บทท่ี 4
ผลการวิเคราะหข์ ้อมูล
การวเิ คราะห์ข้อมลู การทำผ้าย้อมครามจากธรรมชาติ ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีท5ี่ /8 โรงเรียน
ได้ผลดงั น้ี
8
ตารางท่ี 1 แสดงผลระดับคะแนนการประเมินการทำผา้ ย้อมครามระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่
5/8 โรงเรียนสตรีราชินทู ิศ จำนวน 43 คน
รรีรายการประเมนิ 5 ระดบั คะแนน 2 1
43
1. โครงงานชิ้นนี้เปน็ ท่ี
รจู้ กั ของนักเรียน
2. ผู้จัดทำสามารถทำ
ชน้ิ งานใหน้ า่ มองดงึ ดูด
3. ร้จู กั การรไี ซเคิล นำ
เส้ือผ้าเกา่ มาสรา้ งสรรค์
ใหม่อีกครัง้
4. เกิดลวดลายใหม่
นา่ สนใจและน่าดงึ ดู
5. เปลี่ยนเสื้อสีขาวตัว
เกา่ ใหเ้ ป็นเสอ้ื ท่มี ีสีสันตวั
ใหม่
จากตาราง พบว่า
ตารางท่ี 2 แสดงผลการประเมนิ การทำผ้าย้อมครามจากสีสงั เคราะห์
รายการประเมิน คา่ เฉล่ีย ระดับคณุ ภาพ
1. โครงงานชิ้นนเ้ี ป็นที่รจู้ ักของ
นักเรียน
2. ผจู้ ดั ทำสามารถทำชิ้นงานใหน้ า่
มองดงึ ดู
9
3. รู้จักการรไี ซเคิลนำเส้อื ผ้าเก่ามา
สรา้ งสรรค์ใหมอ่ ีกรอ
4. เกดิ ลวดลายใหมน่ ่าสนใจและน่า
ดึงดดู
5. เปลีย่ นเส้อื สีขาวตัวเก่าให้เปน็ เสื้อ
ทมี่ ีสสี ันตัวใหม่
จากตาราง พบว่า
บทท่ี 5
สรปุ ผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
10
จากการศกึ ษาครัง้ นเี้ พอ่ื เรยี นร้แู ละศึกษาคน้ ควา้ เกยี่ วกบั วธิ ีการทำผ้ามดั ยอ้ ม โรงเรียนสตรี
ราชินูทศิ ในภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 ซงึ่ สามารถสรปุ ผล อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะได้
ดงั น้ี
1. วตั ถุประสงค์ของการศกึ ษา
2. สมมตุ ิฐานของการศึกษา
3. ขอบเขตของการศึกษา
4. เคร่ืองมอื ท่ใี ช้ในการศึกษา
5. วเิ คราะห์ขอ้ มลู
6. สรปุ ผลการศึกษา
7. ข้อเสนอแนะ
วัตถุประสงค์ของการศึกษา
1. เพอ่ื ศึกษาเกย่ี วกับวธิ กี ารทำผ้ามดั ยอม
2. เพ่ือให้ส่งเสริมสรา้ งรายได้ในครัวเรือนของคณะผจู้ ัดทำ
3. เพอื่ ลดความตงึ เครยี ด ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์
4. ทำให้มที กั ษะและสามารถสรา้ งงานศิลปะบนลายผา้ ทำผ้ามัดยอ้ มจากสธี รรมชาตไิ ด้
สมมุตฐิ านของการศึกษา
1. ทราบถึงวธิ ีทำผ้ามดั ยอ้ ม
2. มีรายไดเ้ สรมิ ในการทำผา้ มัดยอ้ ม
3. ทำผ้ามดั ยอ้ มไดด้ ว้ ยตนเอง
ขอบเขตของการศกึ ษา
สถานที่ โรงเรียนสตรีราชินูทิศ 103 ศรีสุข ตำบลบ้านเลื่อม อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัด
อุดรธานี ระยะเวลา เดอื นมถิ ุนายน พ.ศ. 2564
1. ประชากรทีใ่ ชใ้ นการศกึ ษา
11
ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/8 โรงเรียนสตรี
ราชินูทิศ ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 1 หอ้ งเรียน เป็นนกั เรยี นท้งั สิน้ 43 คน
2. กลุม่ ตวั อยา่ งท่ีใช้ในการศึกษา
กลมุ่ ตัวอย่างท่ีใช้ในการศกึ ษาครง้ั น้ี ไดแ้ กน่ ักเรียนระดับช้นั มัฐยมศกึ ษาปีท่ี 5/8
โรงเรยี นสตรรี าชินูทศิ ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ มา 2564 เป็นนกั เรียนทงั้ สิ้น 10 คน ได้มาโดยสุ่มอย่าง
งา่ ย จำนวน 1 ห้องเรียน เพอ่ื ตอบแบบสอบถามท่สี รา้ งขนึ้
เครอ่ื งมอื ทีใ่ ชใ้ นการศึกษา
1. ออกแบบสอบถาม เร่อื งการทำผ้ายอ้ มครามจากสีสังเคราะห์ โดยขอคำแนะนำจาก
คุณครูวนิดา บุญพิเชฐวงศ์ โดยเตรียมรา่ งข้อคำถาม มีลักษณะเป็นขอ้ คำถามจำนวน5 ข้อ เป็นแบบ
มาตราสว่ นประมาณ 5
ระดบั คอื 5 หมายถึง เห็นดว้ ยมากท่ีสุด
4 หมายถึง เหน็ ด้วยมาก
3 หมายถงึ เหน็ ด้วยปานกลาง
2 หมายถึง เหน็ ด้วยนอ้ ย
1 หมายถงึ เหน็ ด้วยน้อยท่สี ดุ
การวิเคราะห์ขอ้ มลู
12
ในการวิเคราะห์ขอ้ มลู ผู้ศกึ ษาไดว้ เิ คราะหข์ อ้ มลู ของนักเรียนทม่ี ีตอ่ โครงงานผา้ มดั ยอ้ ม โดย
การคิดแบบเฉลี่ยเป็นคา่ ร้อยละ
คา่ เฉล่ีย 4.5 1 - 5.00 หมายถงึ เหน็ ดว้ ยมากท่ีสดุ
ค่าเฉล่ีย 3.31 - 4.50 หมายถงึ เห็นดว้ ยมาก
ค่าเฉลี่ย 2.51 - 3.50 หมายถงึ เห็นดว้ ยปานกลาง
คา่ เฉลยี่ 1.51 - 2.50 หมายถึง เหน็ ด้วยน้อย
ค่าเฉลยี่ 1.00- 1.50 หมายถึง เห็นด้วยนอ้ ยทีส่ ุด
สรุปผลการศึกษา
ผลการศกึ ษาทมี่ ตี อ่ การศกึ ษาโครงงานผ้ามัดยอ้ ม
โครงงานผ้ามัดย้อม อยใู่ นระดบั คณุ ภาพ……………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
การอภปิ รายผล
จากการศึกษา โครงงานผา้ มัดย้อม ของนกั เรียนระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5/8 โรงเรยี นสตรี
ราชนิ ูทศิ พบว่า นักเรียนทกุ คนมีความพงึ พอใจ และทศั นคติท่ีดี ตอ่ โครงงานผา้ มดั ยอ้ ม อยู่ใน
ระดบั …………………
คดิ เปน็ รอ้ ยละ…………………………………
ข้อเสนอแนะ
ข้อเสนอแนะในการศึกษาคร้ังนี้
1. ผจู้ ดั โครงการควรในการประชมุ วางแผนกันมากขน้ึ เพ่ือแก้ปญั หาต่างๆท่เี กดิ ขึ้นได้ดี
2. ควรมีการแบง่ หน้าท่ีความรับผดิ ชอบใหต้ รงตามตำแหนง่ งานเพื่อทำงานไดม้ ี
ประสทิ ธิภาพมากยงิ่ ข้นึ
3. ควรศึกษาเชิงสำรวจหาข้อมูลจากหลายๆฝ่าย
บรรณานกุ รม
ศศธร ศรีทองกลุ ,สาวติ รี อัครมาส. เทคนคิ การทำลายผ้ามดั ยอ้ ม
กรุงเทพฯ : สำนักพมิ พ์เอม็ ไอเอส.
//home.kapook.com/view227148.html
4 วธิ ที ำผา้ มดั ย้อมงา่ ย ๆ เปลย่ี นเสอื้ เก่าเปน็ เสื้อใหม่ ด้วยงบประมาณแค่หลกั สบิ
//sites.google.com/a/wangwiset.ac.th/pha-mad-yxm/home/prawati-khwam-pen-
ma-khxng-kar-tha-pha-mad-yxm
ประวัติความเปน็ มาของการทำผา้ มัดย้อม
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก
ข้นั ตอนการทำผ้ามดั ยอ้ ม
12
1. สมาชิกทุกคนช่วยกันสืบคน้ หาข้อมลู
2. เทน้ำอนุ่ ใส่ลงไปในแก้วประมาณ 100 ml.
3. ใส่เกลอื ลงไป 1 ช้อนชาแล้วคนให้เข้ากนั
13
4. เทสลี งไป 3 ช้อนโต๊ะแลว้ กค็ นใหเ้ ข้ากนั
5. นำผา้ มาวางไวบ้ นจานแลว้ เอาซอ้ มมาจ้ิมลง
ตรงกลางแล้วหมุน
6. ใช้ยางรดั ผา้ ให้เเน่น
14
7. เทสีใสข่ วดที่เจาะรูแล้วใสล่ งไปท่ผี ้า
ตามความชอบทงั้ หน้าและหลัง
8. นำผา้ ไปพักไว้ 1 คนื
15
9. นำผา้ มาลา้ งออกและซักใหส้ ะอาด
แล้วนำไปตากแห้ง