หลังจากที่เราได้รู้กันแล้วว่า มีผลิตภัณฑ์ไหนบ้างที่ต้องมีและไม่มีเครื่องหมายอย. หลายคนเคยสงสัยกันว่า ตัวเลขเยอะๆ ในเครื่องหมายอย. นั้นคือเลขอะไร ซึ่งตัวเลขเยอะๆ ที่ปรากฎอยู่นั้นเรียกว่า “เลขสารบนอาหาร” จะเป็นตัวเลข 13 หลักที่แสดงอยู่บนเครื่องหมายอย. ซึ่งเลขเหล่านี้จะเป็นเลขที่ระบุข้อมูลสำคัญ ดังนี้
ตำแหน่งเลขอย.
1.กลุ่มที่ 1 บ่งบอกถึง
- จังหวัดและที่ตั้งของสถานที่ประกอบการ
- รหัสตัวเลข 2 หลักแทนตัวอักษรย่อของจังหวัด
2. กลุ่มที่ 2 บ่งบอกถึง
- สถานะของสถานประกอบการและหน่วยงานที่อนุญาต
- สถานที่นั้นๆ ใช้รหัสตัวเลข 1 หลัก ซึ่ง
หมายเลข 1 หมายถึง สถานที่ผลิตอาหารที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเป็นผู้อนุญาต
หมายเลข 2 หมายถึง สถานที่ผลิตอาหารที่ จังหวัดเป็นผู้อนุญาต
หมายเลข 3 หมายถึง สถานที่นำเข้าอาหาร ที่สำนักงาน คณะกรรมการอาหารและยาเป็นผู้อนุญาต
หมายเลข 4 หมายถึง สถานที่นำเข้าอาหารที่จังหวัดเป็นผู้อนุญาต
3. กลุ่มที่ 3 บ่งบอกถึง
- เลขสถานที่ผลิตอาหารหรือเลขสถานที่นำเข้าอาหารที่ได้รับใบอนุญาตและปี พ.ศ. ที่อนุญาต
- ใช้รหัสตัวเลข 5 หลัก โดย 2 หลักหลังเป็นเลขท้ายของปี พ.ศ. ที่อนุญาตสถานที่นั้นๆ
4. กลุ่มที่ 4 บ่งบอกถึง หน่วยงานที่ออกเลขสารบบอาหารให้แก่ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตผลิตหรือนำเข้า ใช้รหัสตัวเลข 1 หลัก
5. กลุ่มที่ 5 บ่งบอกถึง ลำดับที่ของอาหารที่ผลิต หรือนำเข้า ของสถานที่แต่ละแห่ง แยกตามหน่วยงานที่เป็นผู้อนุญาต ใช้รหัสตัวเลข 4 หลัก
ส่วนผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่มีเครื่องหมายอย. นั้น ทางกฎหมายกำหนดให้จะต้องมีเลขที่จดแจ้ง/เลขที่ใบรับแจ้ง เพื่อแสดงบนฉลากของผลิตภัณฑ์สุขภาพ
- สงสัยไหมนะ เครื่องหมาย อย. คืออะไร
- ผลิตภัณฑ์ที่ต้องมีและไม่ต้องมีเครื่องหมาย อย.
แล้วเลขที่จดแจ้งล่ะ คืออะไร ?
เลขจดแจ้งก็คือ เลขที่บ่งบอก “การจดแจ้ง” หรือการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในสารระบบของ อย. ซึ่งเลขจดแจ้งจะมีแค่ในหมวดหมู่ของ “เครื่องสำอาง” เพื่อระบุตัวตน บอกข้อมูล และ บอกที่มา แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าผลิตภัณฑ์นั้นดีหรือไม่ดี
1.กลุ่มที่ 1 บ่งบอกถึง
- จังหวัดและที่ตั้งของสถานที่รับแจ้ง
- รหัสตัวเลข 2 หลักแทนตัวอักษรย่อของจังหวัด
2. กลุ่มที่ 2 บ่งบอกถึง
- สถานะของสถานที่และหน่วยงานที่อนุญาติ
- ใช้ตัวเลข 1 – 4 แทนสถานะของสถานที่นั้น ๆ
หมายเลข 1 หมายถึง สถานที่ผลิตอาหาร ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเป็นผู้อนุญาต
หมายเลข 2 หมายถึง สถานที่ผลิตอาหาร ซึ่งจังหวัดเป็นผู้อนุญาต
หมายเลข 3 หมายถึง สถานที่นำเข้าอาหาร ซึ่งสำนักงานอาหารและยาเป็นผู้อนุญาต
หมายเลข 4 หมายถึง สถานที่นำเข้าอาหารซึ่งจังหวัดเป็นผู้อนุญาต
3. กลุ่มที่ 3 บ่งบอกถึง
- เลขท้ายของปี พ.ศ. ที่ได้รับอนุญาต
- เช่น ตัวเลข 39 แทน พ.ศ. 2539
4. กลุ่มที่ 4 บ่งบอกถึง
- เลขลำดับที่ของผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการอนุญาต
ถึงแม้ว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ จะมีเครื่องหมายอย. แล้ว แต่ก็อย่าพึ่งด่วนตัดสินใจไปว่าผลิตภัณฑ์นั้นจะปลอดภัย เราควรที่จะนำเอาตัวเลขเหล่านั้นไปตรวจสอบให้มั่นใจก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าตัวเลขเหล่านั้นไม่ใช่ตัวเลขปลอมหรือสวมรอยตัวเลขของผลิตภัณฑ์อื่นๆ
เมื่อได้ยินคำว่า "มี อย. / มีเลขที่จดแจ้ง" อาจทำให้หลายๆ คนรู้สึกว่า ผลิตภัณฑ์นั้นเชื่อถือได้ ปลอดภัย ไม่มีสารอันตราย ยิ่งครีมในเน็ต อาหารเสริม เน้นย้ำกันใหญ่ #มีอยรับรอง #ปลอดภัย100% #ผ่านการรับรองจากอย ฯลฯ ขาย "ความมี อย. กันสุดฤทธิ์"
แต่จริงๆ แล้ว เครื่องสำอาง อาหารเสริม วิตามินต่างๆ ที่ขายกันเกลื่อนเน็ต บอกว่ามี อย. มีเลขที่จดแจ้ง ไม่ได้หมายความว่ามันไม่อันตราย กินแล้วไม่ตายเสมอไป !!!! แถมจริงๆ บอกว่า อย. รับรอง ก็ไม่ได้ด้วย ผิดกฎหมาย !!!! อ่าววววววว แล้วยังไงเนี่ยยย งงไปหมดดดด
เลข อย. / เลขที่จดแจ้ง เป็นเหมือนเลขประจำตัวของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ไปทำการขึ้นทะเบียนจดแจ้งกับทางกระทรวงสาธารณสุข ใครผลิตของกิน ยา คสอ. แล้วอยากขาย ก็ต้องไปจดแจ้ง ถ้าเป็นของต่างประเทศก็ต้องมีฉลากไทยพร้อมเลขกำกับทุกชิ้น
ถ้าให้เปรียบเทียบง่ายๆ เลข อย./เลขที่จดแจ้ง ก็เหมือนเลขประจำตัวประชาชนของคน ที่เอาไว้ระบุตัวตน บอกความสูง น้ำหนัก บ้านอยู่ไหน แต่ไม่ได้บอกว่าใครเป็นคนดี ใครเป็นคนร้าย
เลข อย. ก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่า สินค้าไหนดี สินค้าไหนไม่ดี อันไหนใช้แล้วแพ้ ไม่แพ้
เวลาจะยื่นจดทะเบียน แบรนด์ก็จะต้องส่งเอกสารรายละเอียดส่วนผสมต่างๆ ผลิตที่ไหนยังไง ใครเป็นคนทำ ถ้ารายชื่อส่วนผสมที่ส่งไปไม่มีสารต้องห้ามที่ทางกระทรวงประกาศ ก็ถือว่าผ่าน รับจดแจ้ง
** แต่ไม่มีการตรวจเนื้อครีม หรือเอาเม็ดอาหารเสริมไปเข้าห้องแล็บจริงๆ นะ **
มีหลายแบรนด์ที่เคลมว่า ครีมของเรามี อย.รับรอง ตรวจสอบได้… เดี๋ยวค่ะ!! ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า อย. แปลว่า มีใน อาหาร และ ยา เท่านั้น
ส่วนในเครื่องสำอาง สกินแคร์ ต้องเป็นเลขที่ใบจดแจ้งจ้า
เดี๋ยวนี้ตรวจสอบเลข อย./เลขที่จดแจ้งได้หลายช่องทางมาก แนะนำว่าสาวๆ นักช็อปควรเซฟลิงค์หรือโหลดแอพเก็บไว้เลย เพื่อความปลอดภัยของตัวเองนะจ๊ะ ก่อนซื้อก็เสิร์ชดูสักที ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
- สายด่วน อย. โทร 1556
- LINE : FDAthai
- แอปพลิเคชัน : Oryor Smart App (มีทั้ง iOS และ Android)
- เว็บไซต์ : oryor.com (เมนู service > ตรวจสอบเลขทะเบียน)
หรือ www.fda.moph.go.th คลิกที่นี่เพื่อตรวจสอบเลข อย. ทุกประเภทหรือจะเข้า Google แล้วเสิร์ชว่า ตรวจสอบเลขอย แล้วจิ้มลิงค์ของกระทรวงสาธารณสุขอันแรกก็ได้จ้ะ
ดูเนื้อหาแบบเต็มๆ จากสาวจีบัน กดเลย
คุย LINE@ กับ Jeban
ติดตามเรื่องราวไลฟ์สไตล์บิวตี้ ที่มีมาอัพเดทกันทุกวัน กับฮาวทูปังๆ และไอเท็มเด็ด ที่สาวๆ หยิบมาแชร์กัน ได้ที่ jeban.com และช่องทาง Facebook : Jebandotcom