หลายๆ ครั้งมักจะแก้ปัญหาด้วยการยกคอมพิวเตอร์ไปให้ช่างช่วยตรวจสอบและแก้ไข แต่บางเคสก็ถือเป็นการแก้ไขที่เสียเวลาและสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายอย่างมาก เพราะในความเป็นจริงแล้วปัญหาคอมเปิดไม่ติด ถ้าลองสังเกตอาการให้ดีแล้ว จะพบว่าการแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่สังเกตอาการเบื้องต้น
อาการคอมเปิดไม่ติดที่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง
ความสะอาดของคอมพิวเตอร์
ให้ลองถามตัวเองว่า ทำความสะอาดคอมพิวเตอร์ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เมื่อได้คำตอบแล้วก็รีบหาอุปกรณ์มาปัดฝุ่น และทำความสะอาดคอมพิวเตอร์ เพราะฝุ่นถือได้ว่าเป็นตัวการที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้อุปกรณ์ภายในของคอมพิวเตอร์บางตัวไม่สามารถทำงานได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปกรณ์ที่ทำด้วยทองแดงลองตรวจสอบสายไฟดูก่อน
เพราะหลาย ๆ ครั้ง คอมเปิดไม่ติดก็เกิดจากการลืมเสียบปลั๊ก หรือปลั๊กไฟหลวม ถ้าเสียบแล้วให้ลองตรวจข้อต่อสายไฟทุกส่วน ว่าหลุดหรือหลวมหรือไม่ ถ้าลองต่อทุกอย่างแล้วยังเปิดไม่ติด อาจจะเกิดจากสายไฟภายในขาดก็ได้ ให้ลองเปลี่ยนสายไฟเส้นใหม่มาเสียบดู ถ้าเปิดติดก็ค่อยหาซื้อสายไฟใหม่มาใช้งานการเกิด Virus ตัวร้าย
ที่ทำให้ไม่สามารถเข้าไปใช้งานในโหมดปกติได้ ลองเข้าไปแก้ไขที่ Save Mode แล้วหาโปรแกรมจัดการเจ้าตัวร้ายออกไป เพียงแค่นี้คอมพิวเตอร์ก็สามารถใช้งานได้ปกติ
ปัญหาคอมเปิดไม่ติด ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง
อาการคอมเปิดไม่ติดยอดฮิตที่นอกเหนือจากข้างต้นแล้ว และไม่สามารถแก้ได้ด้วยตัวเอง ก็จำเป็นต้องรีบยกไปให้ช่างคอมพิวเตอร์ซ่อม
ถ้าคอมพิวเตอร์เปิดไม่ติดแล้วได้ยินเสียงปี๊บในขณะที่เปิด อาจจะเกิดมากจาก RAM เสียหาย ถ้าเปิดเครื่องเพื่อตรวจสอบไม่เป็น ให้รีบยกไปให้ช่างคอมพิวเตอร์ตรวจสอบจะดีที่สุด
ถ้าเปิดคอมพิวเตอร์แล้วไม่สามารถเข้าโหมดใช้งานปกติได้ แต่คอมพิวเตอร์จะ Restart ใหม่ตลอดเวลา อาการนี้เกิดจากเมนบอร์ดมีปัญหา ต้องนำไปซ่อม หรือเปลี่ยน
ถ้าคอมเปิดไม่ติด และไม่มีเสียง หรืออาการใด ๆ เป็นสัญญาณเลย อาจจะเกิดจาก Hard Disk เสีย ก็ต้องนำไปให้ช่างคอมพิวเตอร์ตรวจสอบทันที
คอมเปิดไม่ติดถือได้ว่าเป็นปัญหาเลี่ยงไม่ได้สำหรับคอมพิวเตอร์ ดังนั้น ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ควรรู้จักสังเกตอาการเบื้องต้นก่อน เพื่อให้รู้ว่าคอมพิวเตอร์เป็นอะไร หลาย ๆ ครั้งปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง หรือถ้าจำเป็นต้องยกไปให้ช่างคอมพิวเตอร์ซ่อมจริง ๆ ก็จะได้รู้อาการเบื้องต้นที่สามารถช่วยแจ้งช่างให้รีบแก้ไขได้รวดเร็วขึ้น
เปิดคอมพิวเตอร์ไม่ติด!! ปัญหานี้เกิดจากองค์ประกอบหลายๆอย่าง ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ที่ทีมงานได้พบบ่อยๆมักจะไม่พ้นปัญหาที่จะพูดถึงเหล่านี้อย่างแน่นอนครับ
1. ฝุ่น : สาเหตุยอดนิยมที่เจอกันบ่อยๆ นั้นมักเกิดจากฝุ่นละอองต่างๆ ที่เกิดการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานมานาน เข้าไปจับตัวกันที่ บริเวณทองแดง ทำให้อุปกรณ์ภายในคอมพิวเตอร์บางตัวไม่ทำงาน
2. พาวเวอร์ซัพพายหรือระบบจ่ายไฟ : เราสามารถเช็คง่ายๆได้เลยว่า พาวเวอร์ซัพพายของคอมพิวเตอร์ของเราปกติหรือไม่โดยการเปิดฝาหลังคอมพิวเตอร์ออกมา แล้วกดเปิดเครื่องจาก นั้นให้สังเกตุที่พัดลมใกล้ๆกับพาวเวอร์ซัพพายดูว่าหมุนรึปล่าว หากพัดลมไม่หมุนให้เราลองตรวจสอบปลั๊กไฟอีกครั้งว่าเสียบแน่นรึปล่าว แต่ถ้าหากเสียบปลั๊กแน่นแล้วแต่เปิดเครื่องแล้วพัดลมยังไม่หมุนอีกให้สงสัยได้เลยว่าพาวเวอร์ซัพพายของเราอาจจะเสียก็เป็นได้
3. Ram : อุปกรณ์หน่วยความจำหลักของคอมพิวเตอร์ (เป็นหน่วยความจำแบบชั่วคราว) : หากเปิดแล้วมีเสียงเตือนปิ๊บๆ ให้สงสัยได้เลยว่า Ram มีปัญหา หรือ เสียบ Ram ไม่แน่นครับ ให้ลองแกะเครื่องแล้วถอด Ram ออกมาโดยใช้ยางลบถูเบาๆบริเวณชิพทองแดงตรงที่เสียบ จากนั้นให้ลองเอากลับเข้าไปใส่ใหม่ครับ
4. เมนบอร์ด : สังเกตุอาการง่ายๆโดยเมื่อเราเปิดคอมไปแล้วสักพัก แต่ยัง Run ไม่ถึงหน้า Desktop คอมพิวเอตร์ของเราก็จะรีสตาร์ทใหม่ไปเรื่อยๆ อาการแบบนี้บอกได้เลยว่าเมนบอร์ดเสียครับ
5. ฮาร์ดดิส : ฮาร์ดดิสเป็นอุปกรณ์หลักที่เก็บข้อมูลในคอมพิวเตอร์ รวมทั้งตัว OS เองด้วย ซึ่งหากฮาร์ดดิสเกิด Bad sector ขึ้นมาตรงไฟล์ OS พอดีล่ะก็ เราก็อาจจะเปิดคอมพิวเตอร์ไม่ติดเหมือนกัน
6. สายไฟต่างๆภายในเครื่องหลวม : กรณีนี้อาจจะเกิดขึ้นได้หากเพื่อนๆนั้นใช้งานคอมพิวเตอร์ของเพื่อนๆไปนานๆ ครับให้ลองแกะเครื่องออกมาเช็คสายไฟต่างๆดูครับว่าตรงไหนหลวม ตรงไหนหลุดบ้าง จากนั้นให้ลองเปิดคอมสังเกตุดูว่าอุปกรณ์ชิ้นไหนบ้างที่มันไม่ทำงาน
7. VIRUS : กรณีนี้คอมพิวเตอร์ของเรานั้นยังจะสามารถเปิดติดครับ แต่ว่าเราจะไม่สามารถเข้าไปใช้งานระบบ OS ได้เหมือนปกติ ให้เราลองเข้าไปที่ SAVE MODE แทนแล้วทำการจัดการเจ้า virus นั้นโดยการหา Antivirus มาฆ่ามันซะ
8. สายไฟต่อเข้าเครื่องขาดใน หรือ Adapter พัง : อาการนี้หากเป็นคอมพิวเตอร์ก็ให้เรานั้นลองเอาสายไฟสำรอง หรือยืมของเพื่อนที่สายไฟรุ่นเดียวกันลองมาเสียบดูครับว่าติดหรือไม่ หากติดแสดงว่าถึงเวลาเปลี่ยนสายไฟใหม่แล้วล่ะครับ ซึ่งสายไฟเองคงไม่แพงเท่าไหร่สบายใจได้เลย แต่หากเป็น Adapter Notebook พังล่ะก็ต้องควักเงินหลายร้อยแล้วล่ะครับ
เป็นอีกหนึ่งปัญหาสำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ที่อยู่ๆวันดีคืนดีเปิดคอมพิวเตอร์มาแล้วไม่สามารถใช้งานได้ เครื่องเปิดติดแต่ไม่ขึ้นภาพความหมายก็คือ พัดลมที่ CPU ทำงาน อาจมีไฟที่เมนบอร์ดติด พัดลม Power supply ทำงานแต่ปัญหาคือเปิด Windows ไม่ติดหรือหน้าจอไม่ขึ้น ปัญหาดังกล่าวเกิดจากอะไรได้บ้างและมีแนวทางในการแก้ไขได้อย่างไร
การที่คอมพิวเตอร์ตัวเครื่องเปิดติดแต่ไม่ขึ้นภาพส่วนใหญ่มักเกิดจากอุปกรณ์หรือฮาร์ดแวร์ของเครื่อง ทีมีปัญหา ซึ่งการที่ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวไม่ได้เจาะจงเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่ง นั้นหมายความว่าปัญหาอาจเกิดจากหลายสาเหตุของอุปกรณ์ในชิ้นส่วนต่างๆได้ โดยสิ่งที่ตรวจเช็คจะมีดังต่อไปนี้
ตรวจสอบสายการเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอรกับจอ
หากเปิดไม่ติดภาพดังกล่าวแม้คอพิวเตอร์จะเปิดติด ให้ลองตรวจสอบสายที่เชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์กับจอ ว่าเสียบแน่นและเสียบถูกหรือไม่ กรณีที่ใช้งานครั้งแรก หมายถึงประกอบคอมพิวเตอร์ครั้งแรกให้ดูให้แน่ใจว่าได้เสียบช่องการแสดงผลถูกพอร์ตหรือไม่ ในกรณีที่เครื่องมีทั้งการ์ดจอและช่องเสียบออนบอร์ด ให้เสียบที่การ์ดจอแทน แต่ในกรณีที่ใช้มานานแล้ว ให้ตรวจสอบว่าได้เสียบแน่นหรือไม่ให้ลองถอดออกมาและเสียบเข้าไปใหม่
ในบางกรณีที่ขึ้นที่จอคำว่า “No signal” ข้อความดังกล่าวไม่ได้มาจากคอมพิวเตอร์แต่จะเป็นข้อความที่มาจากจอ (ถึงแม้ไม่ได้ต่อจอก็จะขึ้นข้อความดังกล่าว) ฉนั้นหากจอข้อความว่า No signal ไม่ก็จะไม่แตกต่างจากจอดำหรือไม่ขึ้นภาพแต่อย่างใด
ตรวจสอบจอแสดงผลว่ามีปัญหาหรือตั้งค่าผิดไว้หรือเปล่า
ในบางกรณีอาจมีปัญหาที่จอแสดงผลเสียหรือเกิดปัญหาบางอย่าง ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าจอแสดงผลสามารถใช้งานได้ และตรวจสอบเรื่องการปรับค่าการตั้งค่าจอให้รับภาพแบบ Digital และ Analog เพราะบางรุ่นจะมีให้กดปรับแต่งที่หน้าจอว่าจะต้องตั้งค่าแบบไหน ถ้าตั้งค่าผิดกับการ์ดจอก็อาจจะไม่ขึ้นภาพได้ ให้ลองปรับสลับระหว่าง Digital และ Analog ดู
ปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์
ถ้าเช็คเบื้องต้นแล้วยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงปัญหาน่าจะมาจากตัวคอมพิวเตอร์เอง ให้ลองถอดฝาเคสของคอมพิวเตอร์ออกแล้วลองตรวจสอบดังต่อไปนี้
- ให้ตรวจสอบการ์ดจอ ถ้ามีให้ถอดการ์ดจออกแล้วลองเสียบใช้งานการ์ดจอแบบออนอบอร์ดดู ในกรณีที่ซีพียูมีการ์ดจอในตัว เพื่อทดสอบว่าการ์ดจอที่เสียบแยกออกมามีปัญหาหรือไม่ หรือให้ลองถอดการ์ดจอออกแล้วเสียบลงไปใหม่ และทดสอบการเปิดดู
- ให้ลองถอด RAM ของเครื่องโดยการถอดออกมาทำความสะอาดและลองเสียบไปใหม่ ในกรณีที่มี 2 ตัวให้เลือกอย่างละตัวเสียบและทดสอบ
- ลองสังเกต เสียงการแจ้งเตือนของ bios ( Beep Code) ว่ามีเสียงอะไรหรือไม่ หากดังยาวไม่หยุด แสดงว่าอาจเป็นปัญหามาจาก RAM หรือหากดัง 3 ครั้งแสดงว่าอาจเกิดจากการ์ดจอ แต่หากดังแค่ 1 ครั้งแสดงว่าคอมพิวเตอร์สามารถใช้งานได้ แต่อาจมีปัญหาเรื่องการเชื่อมต่อให้ตรวจสอบการเชื่อมต่อใหม่
- หากมีปัญหานอกจากนี้ อาจมีปัญหาที่หนักกว่านี้เช่น ตัวจ่ายไฟ หรือเมนบอร์ด หรือแม้แต่ CPU ปัญหาพวกนี้ถ้าเกิดปัญหา ไม่สามารถแก้ไขได้ อาจจำเป็นต้องให้ช่างหรือซื้อมาเปลี่ยนใหม่
นี้เป็นเพียงแนวทางการค้นหาปัญหาและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นหากใครที่พบกับปัญหาดังกล่าวให้ลองทดสอบและนำไปใช้กันดู