ปลายปีที่แล้วได้มีการจัดอันดับ 10 เมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก ปี 2021 จัดทำโดย The Economist Intelligence Unit (EIU) ซึ่งอันดับที่ 1 เมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกตกเป็นของ Tel Aviv เมืองใหญ่ในอิสราเอล ซึ่งล้มแชมป์เก่าอย่างเมือง ปารีส ฝรั่งเศส จากปีก่อนไปได้
การจัดอันดับค่าครองชีพปี 2021 ฉบับนี้สำรวจข้อมูลครอบคลุมสินค้าและการบริการกว่า 200 รายการ ใน 173 เมืองใหญ่ทั่วโลก โดยทำการเก็บข้อมูลระหว่าง 16 ส.ค. – 12 ก.ย. 2021 ซึ่งดัชนีค่าครองชีพของ EIU นี้ มีตัวชี้วัดอิงตามราคาสินค้าในเมืองนิวยอร์ก สหรัฐฯ
วันนี้พี่ทุยจะพาไปดูการจัดอันดับค่าครองชีพของ 173 ประเทศทั่วโลกว่ามีอันดับขึ้นลงยังไงบ้าง แล้วไทยเราปี 2021 ที่ผ่านมาอยู่อันดับค่าครองชีพที่เท่าไหร่ ไปกันเลย
10 เมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก ปี 2021
Tel Aviv เมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก
Tel Aviv เมืองใหญ่ติดชายฝั่งทะเลของอิสราเอลได้ไต่อันดับขึ้นมาเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกเป็นครั้งแรก จากอันอับที่ 5 ในปีก่อน โดยเหตุผลหลักมาจากสกุลเงินของอิสราเอล หรือ Shekel ที่แข็งค่าขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ของสหรัฐฯ ทำให้ต้นทุนสินค้าในท้องถิ่นสูงขึ้นมาก
ซึ่งที่สกุลเงิน Shekel แข็งค่าขึ้นมากก็เป็นเพราะอิสราเอลสามารถรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ได้ดี ประสบความสำเร็จในกระจายการฉีดวัคซีนในประชากรได้อย่างทั่วถึง ทำให้ดึงดูดนักลงทุนด้านเทคโนโลยีจากต่างชาติเข้ามาลงทุน กอปรกับปัจจัยพื้นฐานในประเทศที่ดี จึงเป็นผลให้สกุลเงินของอิสราเอลนั้นแข็งแกร่ง
หรือหากเปรียบเทียบแค่ในสกุลเงินท้องถิ่น ราคาสินค้าใน Tel Aviv ไม่ได้เพิ่มขึ้นรุนแรงขนาดนั้น โดยเพิ่มขึ้นที่ 1.6% แต่สินค้าประมาณหนึ่งในสิบของเมืองมีราคาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งราคาสินค้าอุปโภค รถยนต์ และน้ำมันเชื้อเพลิงก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน
เมื่อเทียบกับเมืองอื่น ๆ Tel Aviv เป็นเมืองที่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีราคาแพงมาก โดยจากการจัดอันดับราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั่วโลก Tel Aviv อยู่ในลำดับที่ 2 เฉกเช่นหมวดต้นทุนในการขนส่งที่ Tel Aviv ก็ได้ที่ 2 เหมือนกัน ทำให้ปี 2021 คะแนนค่าครองชีพใน Tel Aviv จึงพุ่งขึ้นชนะอดีตเมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดอย่างปารีสไปได้
ปี 2021 ปารีสอับดับร่วงไปอยู่ที่ 2 ร่วมกับสิงคโปร์ ขณะที่อันดับ 4 คือ ซูริค สวิสเซอร์แลนด์ และอันดับที่ 5 คือ ฮ่องกง โดยเมืองที่อยู่ในอันดับต้น ๆ ส่วนใหญ่ยังเป็นเมืองในประเทศยุโรปและเอเชียที่พัฒนาแล้ว ขณะที่ราคาสินค้าในเมืองแทบอเมริกาเหนือและจีนยังอยู่ในระดับปานกลาง จากความไม่แน่นอนทั้งด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ และการเมืองในปีที่ผ่านมา ทำให้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดลำดับในระดับภูมิภาคที่ชัดเจน
หลายเมืองค่าครองชีพถูกลง
กรุงโรม อิตาลีเป็นเมืองที่อันดับร่วงหนักมากที่สุด โดยตกจากอันดับที่ 32 ในปี 2020 ลงมาที่อันดับ 48 ในปี 2021 โดยรายการสินค้าที่ราคาลดฮวบอย่างมาก ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค และหมวดเสื้อผ้า
ส่วนอันดับที่ 2 ของเมืองที่ตกอันดับหนักที่สุดคือ ลิม่า เปรู และ กรุงเทพฯ เมืองหลวงของไทยเรานั่นเอง โดยกรุงเทพฯ ปัจจุบันอยู่ที่อันดับ 57 ของโลก จากปีก่อนอยู่อันดับที่ 46 ซึ่งระดับราคาสินค้านั้นลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญในทุกหมวดสินค้า
และหลายเมืองในสหรัฐฯ ก็อันดับตกลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว หลังจากรัฐบาลอัดฉีดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจมากขึ้นเพื่อสู้กับวิกฤตโควิด-19 จากนโยบายนี้ทำให้ค่าเงินดอลลาร์ลดลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยุโรปและเอเชีย สังเกตได้จากค่าดัชนีที่ผิดปกติในปีนี้ ที่ค่าดัชนีสำหรับประเภทการขนส่งในสหรัฐฯ จะต่ำกว่าเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลก
ดามัสกัส (ซีเรีย) และตริโปลี (ลิเบีย) เป็นเมืองที่ระดับราคาสินค้าถูกที่สุดในโลก เนื่องจากทั้งสองประเทศเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจและการเมือง โดยเมืองที่มีค่าครองชีพถูกที่สุดส่วนใหญ่อยู่ในตะวันออกกลางและแอฟริกา หรือในเอเชียบางภูมิภาคที่ยังยากจน
ภาพรวมทั่วโลก “ราคาสินค้า” แพงขึ้น
จากรายงานการสำรวจค่าครองชีพทั่วโลก (WCOL) ของ EIU พบว่าปี 2021 ที่ผ่านมาอัตราเงินเฟ้อในราคาสินค้าต่าง ๆ ทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นถึง 3.5% มากที่สุดในรอบ 5 ปี เทียบกับ 2 ปีก่อน ที่อัตราเงินเฟ้อแค่ 1.9% ในปี 2020 และ 2.8% ในปี 2019
โดยสาเหตุที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และราคาสินค้าอื่น ๆ พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก เนื่องมาจากปัญหาการชะงักของห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งในรายงานดัชนีของ WCOL ปี 2021 ต้นทุนในการเดินทางเป็นหมวดค่าครองชีพที่สูงขึ้นด้วยอัตราที่มากที่สุด สาเหตุจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นถึง 21% โดยเฉลี่ย
อย่างไรก็ตาม การจัดอันดับค่าครองชีพนี้เป็นการวัดระดับราคาสินค้าในเมืองต่าง ๆ เมื่อเทียบกับราคาสินค้าในเมืองนิวยอร์ก ซึ่งใช้สกุลเงินดอลลาร์เป็นตัวเทียบ ดังนั้นการที่อันดับแต่ละเมืองขึ้นลงจึงมีจากหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่สภาพเศรษฐกิจในประเทศ พี่ทุยจึงคิดว่า ค่าครองชีพไม่ใช้ข้อมูลเดียวที่จะนำมาประเมินคุณภาพชีวิตของคนในประเทศนั้น แต่ยังต้องรวมถึงค่าแรงขั้นต่ำ สวัสดิการ โครงสร้างพื้นฐานในเมืองนั้นด้วย
อ่านเพิ่ม
- ทำไม “เงินเฟ้อ” กำลังปั่นป่วนโลกการลงทุน
- เปิดปมความขัดแย้ง “อิสราเอล-ปาเลสไตน์” และผลกระทบทางเศรษฐกิจ
รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile