บัญชี โฆษณา ถูก ปิด การ ใช้ งาน

แชร์บทความน่าสนใจได้ที่นี่

แก้ไขปัญหาบัญชีโฆษณาถูกปิดใช้งาน

บัญชี โฆษณา ถูก ปิด การ ใช้ งาน

เมื่อพบว่าบัญชี Facebook ของคุณได้ถูกปิด ขั้นตอนแรกให้เช็คก่อนว่า บัญชีของคุณได้ละเมิดกฏและนโยบายของ Facebook หรือไม่ เพราะในปัจจุบัน Facebook มีการตรวจสอบค่อนข้างเข้มงวด ซึ่งกฏและนโยบายของ Facebook ที่เกี่ยวกับการโฆษณามีดังต่อไปนี้

  • โฆษณาต้องไม่โปรโมทหลักปฏิบัติทางธุรกิจที่ไม่เป็นที่ยอมรับ
  • ซึ่งรวมถึงการโปรโมทสินค้า บริการ แผนการ หรือข้อเสนอโดยใช้วิธีการตบตาหรือชวนให้เข้าใจผิดเพื่อหลอกลวงให้ผู้คนเสียเงินหรือให้ข้อมูลส่วนตัว
  • ไม่ควรใช้ภาษาที่ทำให้ตื่นเต้นซึ่งอาจทำให้เข้าใจผิด เช่น โฆษณาที่มีคำมั่นสัญญาเกี่ยวกับผลลัพธ์จนเกินจริง หรือไม่เปิดเผยความเสี่ยงให้ผู้ชมทราบ
  • โฆษณาต้องไม่มีถ้อยคำหยาบคายหรือไวยากรณ์และเครื่องหมายวรรคตอนที่ไม่ถูกต้อง
  • ไม่ควรใช้การกล่าวอ้างที่ชวนให้เข้าใจผิด
  • โฆษณา แลนดิ้งเพจ และหลักปฏิบัติทางธุรกิจต้องไม่มีเนื้อหาหลอกลวง เป็นเท็จ หรือชวนให้เข้าใจผิด รวมถึงการกล่าวอ้าง ข้อเสนอ หรือวิธีการที่หลอกลวง
  • โฆษณา แลนดิ้งเพจ และหลักปฏิบัติทางธุรกิจต้องไม่มีคำมั่นสัญญา/การกล่าวอ้างว่ามีสรรพคุณรักษาอาการป่วยเรื้อรัง โรคที่ยังไม่มีทางรักษาหรืออาการป่วยร้ายแรง หรือกล่าวอ้างเกี่ยวกับผลลัพธ์เกินจริงภายในระยะเวลาหนึ่ง คำมั่นสัญญา/การกล่าวอ้างในลักษณะนี้อาจไม่เป็นความจริงสำหรับผู้ใช้ทุกคน
  • ไม่ควรใช้แลนดิ้งเพจที่ไม่แน่ชัดหรือใช้การไม่ได้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโฆษณาของคุณมีแลนดิ้งเพจที่ใช้งานได้เป็นปกติ ซึ่งมีข้อความที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในโฆษณา URL ปลายทางต้องไม่นำผู้คนไปที่เว็บไซต์ซึ่งอยู่ในระหว่างการสร้างหรือหน้าเว็บเพจที่ใช้การไม่ได้
  • แลนดิ้งเพจของคุณควรอธิบายเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการและสิ่งที่สินค้าหรือบริการนั้นนำเสนอ และอธิบายผลลัพธ์ให้ตรงกับความเป็นจริงซึ่งเกี่ยวพันกับการทำงานของสินค้าหรือบริการนั้น
  • ไม่ควรใช้เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ในโฆษณา โฆษณาจะต้องไม่มีภาพโป๊เปลือย ภาพบุคคลในลักษณะท่าทางที่โจ่งแจ้งหรือส่อไปทางเพศ หรือกิจกรรมที่ส่อไปทางเพศหรือยั่วยุอารมณ์ทางเพศจนเกินควร
  • การละเมิดบ่อยครั้ง หากพบว่าบัญชีโฆษณาหนึ่งพยายามแสดงโฆษณาที่ไม่เป็นไปตามนโยบายอยู่บ่อยครั้ง Facebook อาจพิจารณาว่าผู้ลงโฆษณารายนั้นพยายามสร้างอันตรายแก่แพลตฟอร์ม (โฆษณาที่ผิดนโยบายสามารถตรวจสอบได้ที่นี่)

เมื่อตรวจสอบแล้ว ให้ติดต่อ Facebook เพื่อทำการตรวจสอบและแก้ไขสถานะบัญชีของคุณ โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. เข้าไปที่ดูข้อจำกัด ว่า Facebook แบนด้วยสาเหตุอะไร

บัญชี โฆษณา ถูก ปิด การ ใช้ งาน

2. จากหัวข้อ “สิ่งที่คุณทำได้”  ให้เลือก “ส่งคำขอให้ตรวจสอบ”

บัญชี โฆษณา ถูก ปิด การ ใช้ งาน
3. จากนั้นเลือก “เป็นเจ้าของบัญชีธุรกิจ” และ “เหตุผลที่ส่งตรวจสอบ” จากนั้นกดส่ง
บัญชี โฆษณา ถูก ปิด การ ใช้ งาน

แต่ถ้าหากคุณคิดว่าบัญชีโฆษณาของคุณถูกปิดใช้งานเนื่องจากความผิดพลาดของทาง Facebook คุณสามารถเข้าไปที่ “คุณภาพบัญชี” เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมและส่งคำขอให้ตรวจสอบอีกครั้งได้ โดยเลือก เลือก “ส่งคำขอให้ตรวจสอบ” ที่ด้านล่างของ “สิ่งที่คุณสามารถทำได้” ทำตามขั้นตอนและส่งคำขอให้ตรวจสอบ (โดยคลิกที่นี่)

หมายเหตุ: คุณต้องเป็นผู้ดูแลของบัญชีโฆษณาที่คุณต้องการยื่นอุทธรณ์เท่านั้น

.

ในกรณีที่ถูกปิดบัญชีเพราะสาเหตุเกิดจาก “ยังไม่ได้ยืนยันธุรกิจ” คุณสามารถตรวจสอบเอกสาร และวิธีการเพิ่มเติมได้ดังนี้

บัญชี โฆษณา ถูก ปิด การ ใช้ งาน

  1. ยืนยันข้อมูลระบุตัวตนของคุณ คลิกปุ่ม “ยืนยันข้อมูลระบุตัวตน” โดยให้เลือกประเภทเอกสารระบุตัวตนที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ และอัพโหลดรูปภาพของเอกสารนั้น หากคุณไม่สามารถส่งเอกสารที่มีรูปภาพ คุณสามารถอัพโหลดเอกสารอื่นๆได้ จากนั้นคลิก “ถัดไป” เมื่อทีมตรวจสอบเอกสารระบุตัวตนและให้คำตัดสินแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนจาก Facebook บนโปรไฟล์ส่วนตัวของคุณ
    บัญชี โฆษณา ถูก ปิด การ ใช้ งาน

    ซึ่งเอกสารในกรณีที่คุณเป็นผู้โฆษณาแบบบุคคล ให้อัพโหลดเอกสาร ดังนี้
      • เอกสารประจำตัวที่ออกโดยราชการ
        คุณสามารถส่งเอกสารประจำตัวที่ออกโดยทางราชการหนึ่งรายการ เพื่อยืนยันชื่อของคุณหรือขอรับสิทธิ์การเข้าถึงบัญชีของคุณอีกครั้ง เอกสารที่คุณส่งทุกชิ้นจะต้องมีชื่อและวันเกิดของคุณ หรือชื่อและภาพถ่ายของคุณ เช่น สูติบัตร / ใบอนุญาตขับขี่ / หนังสือเดินทาง / ทะเบียนสมรส / ใบเปลี่ยนชื่อ / บัตรประจำตัวที่ออกโดยรัฐบาลที่ไม่ใช่ใบขับขี่ (เช่น บัตรประจำตัวผู้ทุพพลภาพ บัตร SNAP บัตรประจำตัวประชาชน บัตรประจำตัวข้าราชการบำนาญ) / กรีนการ์ด ใบขออนุญาตพำนัก หรือหนังสือรับรองคนเข้าเมือง / บัตรประจำตัวหรือแสดงสถานะชนเผ่า / บัตรประจำตัวผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง / ใบรับรองครอบครัว / Visa / บัตรรับรองอายุ / บัตรทะเบียนการอพยพ / บัตรประจำตัวผู้เสียภาษี / เอกสารประจำตัวที่ไม่ได้ออกโดยราชการ
      • เอกสารประจำตัวที่ออกโดยทางราชการ
        คุณสามารถส่งเอกสารประจำตัวที่ไม่ได้ออกโดยทางราชการจำนวนสองรายการให้กับ Facebook ได้ เอกสารที่คุณส่งทุกรายการจะต้องมีชื่อของคุณ และต้องมีเอกสารอย่างน้อยหนึ่งรายการที่มีวันเกิดหรือรูปภาพของคุณ ชื่อของเอกสารที่คุณส่งต้องมีชื่อเดียวกับที่คุณต้องการแสดงบนโปรไฟล์ เช่น ใบแสดงรายการเดินบัญชีธนาคาร / บัตรโดยสาร /เช็ค / บัตรเครดิต / ใบยืนยันการจ้างงาน / บัตรห้องสมุด / จดหมาย / ใบแจ้งการสมัครสมาชิกนิตยสาร / บันทึกการรักษาพยาบาล  / บัตรประจำตัวสมาชิก (เช่น บัตรประจำตัวข้าราชการบำนาญ บัตรสมาชิกสหภาพ บัตรประจำตัวที่ทำงาน บัตรประจำตัวเฉพาะวิชาชีพ) / เช็คเงินค่าจ้าง / บัตรประจำตัวนักเรียน / สมุดพก / ใบเสร็จค่าสาธารณูปโภค / รูปถ่ายจากหนังสือรุ่น / บัตรสะสมแต้มของบริษัท / สัญญา / ทะเบียนครอบครัว / ใบประกาศนียบัตร / เอกสารเกี่ยวกับศาสนา / การรับรองคุณภาพทางการศึกษาหรืออาชีพ / ใบอนุญาตประกอบอาชีพ / เอกสารประกันสุขภาพ / บัตรแสดงที่อยู่ / บัตรประกันภัยส่วนบุคคลหรือยานพาหนะ

.

และในกรณีเป็นธุรกิจนิติบุคคล อัพโหลดเอกสารเอกสารที่ยอมรับสำหรับชื่อทางกฎหมายได้แก่

        1. ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ
        2. ใบอนุญาตการก่อตั้งหรือประกอบธุรกิจ
        3. ใบรับรองการจดทะเบียนภาษีหรือภาษีมูลค่าเพิ่ม

หมายเหตุ: ทาง Facebook ต้องสามารถตรวจสอบยืนยันตัวตนของผู้ดูแลบัญชีตัวจัดการธุรกิจของคุณได้อย่างน้อยหนึ่งคน เพื่อให้คุณสามารถดำเนินการตรวจสอบยืนยันธุรกิจในขั้นต่อไป

  1. กรอกรายละเอียดของธุรกิจ
    บัญชี โฆษณา ถูก ปิด การ ใช้ งาน

กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจ จากนั้นคลิก “ถัดไป” เลือกธุรกิจของคุณ เลือกธุรกิจที่ถูกต้องจากรายการ หรือเลือก “ไม่มีในตัวเลือก” หากคุณไม่มีธุรกิจของคุณในตัวเลือก ให้ข้ามขั้นตอนที่ 3-5 และอัพโหลดเอกสารทางการเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนการตรวจสอบยืนยันให้เสร็จสิ้น ยืนยันรายละเอียดของธุรกิจ เลือกหมายเลขโทรศัพท์ที่คุณใช้จากเมนูดร็อปดาวน์ แล้วคลิก “ถัดไป” รับรหัสยืนยัน เลือกเพื่อรับรหัสยืนยันหมายเลขโทรศัพท์ของธุรกิจผ่านข้อความ SMS การโทรศัพท์ หรืออีเมล์

  1. ตรวจสอบยืนยันโดเมนของคุณ

หากโดเมนของคุณได้รับการตรวจสอบยืนยันเรียบร้อยแล้ว ให้คลิก “ใช้การตรวจสอบยืนยันโดเมน” หากยังไม่ได้รับการตรวจสอบยืนยัน ให้ดำเนินการตามขั้นตอนการตรวจสอบยืนยันโดเมนให้เสร็จสิ้น จากนั้นไปที่ศูนย์การรักษาความปลอดภัยแล้วเลือก “ดำเนินการต่อ” กรอกรหัสยืนยันของคุณ คลิก “ส่ง”

หากคุณได้รับการยืนยันว่าธุรกิจของคุณได้รับการตรวจสอบยืนยันแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดเพิ่มเติม คุณอาจไม่ได้รับการยืนยันในทันที อาจจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อการตรวจสอบยืนยันเสร็จสมบูรณ์ คุณสามารถดูสถานะได้ที่ศูนย์การรักษาความปลอดภัยเช่นกัน

ถ้าการตรวจสอบไม่ผ่าน อาจจะมีสาเหตุดังต่อไปนี้

  1. เกิดปัญหากับการตรวจสอบเอกสารยืนยันตัวตน

หากคุณผ่านขั้นตอนการตรวจสอบยืนยันธุรกิจแล้ว และ Facebook ยังไม่สามารถยืนยันธุรกิจของคุณได้ คุณจะสามารถอุทธรณ์และส่งข้อมูลเพิ่มเติมได้ ในกรณีเช่นนี้ Facebook จะพยายามตรวจสอบข้อมูลระบุตัวตนของคุณ หากไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลระบุตัวตนของคุณด้วยเอกสารยืนยันตัวตนที่ออกโดยราชการหรือเอกสารทางการสองฉบับ อาจมีสาเหตุมาจาก

  1. รูปภาพของคุณไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของ Facebook ลองส่งเอกสารยืนยันตัวตนที่ออกโดยราชการอีกครั้ง
      • เห็นทั้งสี่มุมของเอกสารยืนยันตัวตน
      • วางเอกสารยืนยันตัวตนราบกับพื้นผิว และอย่าถ่ายภาพในแนวตั้งฉาก
      • ใช้พื้นหลังสีดำและหลีกเลี่ยงพื้นหลังสีขาวหรือสีอ่อน
      • แสดงให้เห็นข้อมูลทั้งหมดบนเอกสารยืนยันตัวตน คุณสามารถปกปิดข้อมูลที่ละเอียดอ่อนได้ด้วยเทปกาวหรือสติกเกอร์ แต่ห้ามแต่งรูปด้วยแอพหรือโปรแกรมต่างๆ อย่างเด็ดขาด
  1. คุณพยายามส่งเอกสารเพื่อยืนยันตัวตนหลายครั้งเกินไป ควรรอการยืนยันจาก Facebook ก่อนส่งคำขออีกครั้ง
  2. เกิดปัญหากับการตรวจสอบรายละเอียดธุรกิจของคุณ หากคุณได้รับการยืนยันที่ระบุว่า Facebook ได้ตรวจสอบข้อมูลระบุตัวตนของคุณแล้ว แต่ยังคงประสบปัญหาในการตรวจสอบยืนยันธุรกิจของคุณ อาจมีสาเหตุมาจาก

3.1 เอกสารที่ส่งมาไม่ใช่เอกสารที่ Facebook รองรับ

3.2 การส่งเอกสารไม่สมบูรณ์ : ต้องเป็นเอกสารราชการที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยอัพโหลดเอกสารรับรองการจดทะเบียนที่ได้รับการอนุมัติพร้อมลายเซ็นและ/หรือตราประทับจากทางการ

3.3 ไม่รองรับภาษาในเอกสาร : ขณะนี้ Facebook รองรับการตรวจสอบยืนยันธุรกิจในบางภาษาเท่านั้น หากภาษาของคุณไม่ได้รับการรองรับ ให้แปลเอกสารประกอบของคุณเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมประทับตราของหน่วยงานแปลภาษา

3.4 ไม่สามารถดูเอกสารได้ : คุณอาจอัพโหลดเอกสารประกอบที่มีขนาดเล็ก พร่ามัว มีความละเอียดต่ำ หรืออัพโหลดแล้วไฟล์เสียหาย ให้ลองสแกนเอกสารด้วยความละเอียดหรือรูปแบบที่สูงขึ้น

3.5 เอกสารหมดอายุ: ตรวจสอบวันหมดอายุในเอกสารของคุณ หากเอกสารของคุณหมดอายุ โปรดต่ออายุและอัพโหลดเอกสารใหม่พร้อมวันที่มีผลบังคับใช้ปัจจุบัน

3.6 เอกสารไม่ได้ระบุชื่อจดทะเบียนธุรกิจ : เอกสารของคุณไม่มีชื่อจดทะเบียนธุรกิจระบุไว้ในเอกสาร ในการแก้ไขปัญหานี้ ให้คุณจัดเตรียมเอกสารที่ยอมรับซึ่งระบุชื่อจดทะเบียนธุรกิจตรงตามชื่อที่ปรากฏในการตั้งค่าธุรกิจทุกตัวอักษร

3.7 ชื่อในเอกสารไม่ตรงกับชื่อธุรกิจ : เอกสารที่คุณส่งไม่ตรงกับชื่อในการตั้งค่าธุรกิจ วิธีแก้ปัญหา : ไปที่การตั้งค่าธุรกิจและอัพเดตชื่อจดทะเบียนธุรกิจให้ตรงกับชื่อที่ปรากฏในเอกสารประกอบทุกตัวอักษร หรือจัดเตรียมเอกสารที่ยอมรับซึ่งระบุชื่อธุรกิจตามกฎหมายตรงตามชื่อที่ปรากฏในการตั้งค่าธุรกิจของคุณทุกตัวอักษร

3.8 เอกสารไม่ระบุที่อยู่ของธุรกิจ ระบุที่อยู่เพียงบางส่วน หรือที่อยู่ในเอกสารไม่ตรงกับที่อยู่ของธุรกิจของคุณ : เอกสารจะต้องระบุข้อมูลที่อยู่ของธุรกิจของคุณโดยสมบูรณ์ อัพโหลดเอกสารฉบับใหม่ที่ระบุทั้งชื่อจดทะเบียนธุรกิจและที่อยู่ของธุรกิจของคุณ

3.9 เอกสารไม่ระบุหมายเลขโทรศัพท์ของธุรกิจ หรือระบุหมายเลขโทรศัพท์ไม่ตรงกับหมายเลขโทรศัพท์ของธุรกิจของคุณ : เอกสารของคุณต้องระบุข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ที่จำเป็น อัพโหลดเอกสารฉบับใหม่ที่ระบุทั้งชื่อธุรกิจที่จดทะเบียนและหมายเลขโทรศัพท์ของธุรกิจที่ตรงกัน

3.10 ต้องการเอกสารเพิ่มเติมสำหรับการตรวจสอบยืนยัน : โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้จัดเตรียมเอกสารประเภทที่ Facebook ยอมรับ ต้องแน่ใจว่าชื่อธุรกิจของคุณแสดงบนเอกสารอยู่เสมอ ตัวอย่างเช่น ใบเรียกเก็บเงินค่าสาธารณูปโภคที่มีเพียงหมายเลขโทรศัพท์แต่ไม่มีชื่อธุรกิจจะไม่สามารถใช้เพื่อยืนยันหมายเลขโทรศัพท์ได้ หากคุณไม่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมนี้ภายในหนึ่งสัปดาห์ คุณจะต้องเริ่มต้นกระบวนการตรวจสอบยืนยันใหม่อีกครั้ง

3.11 คุณเป็นเจ้าของโดเมนเว็บไซต์ แต่ไม่ผ่านกระบวนการตรวจสอบยืนยัน : โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณใช้งานได้และเป็นของธุรกิจของคุณ โดเมนอีเมล์และที่อยู่เว็บของคุณควรจะตรงกัน เนื้อหาบนเว็บไซต์ของคุณควรนำเสนอชื่อและโลโก้บริษัทของคุณ

คุณไม่ได้รับรหัสยืนยัน ลองส่งคำขอรหัสยืนยันอีกครั้ง หากส่งคำขอแล้วยังไม่ได้รับ คุณสามารถ แก้ไขปัญหาการโทรศัพท์ได้ หากคุณส่งคำขอรหัสอีเมล์

.

เกี่ยวกับการตรวจสอบยืนยันธุรกิจ

การตรวจสอบยืนยันธุรกิจจะดูว่าบัญชีตัวจัดการธุรกิจเป็นของธุรกิจหรือหน่วยงานที่มีอยู่จริงหรือไม่ Facebook อาจจะขอให้คุณส่งเอกสาร เช่น หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัทหรือใบอนุญาตประกอบธุรกิจเพื่อตรวจสอบยืนยันธุรกิจของคุณ และ Facebook จะตรวจสอบว่าคุณมีสิทธิ์เข้าใช้งานธุรกิจหรือโดเมนเว็บไซต์หรือไม่อีกด้วย หรือ คุณสามารถใช้กระบวนการตรวจสอบยืนยันโดเมนเพื่อแสดงหลักฐานการเข้าถึงธุรกิจของคุณได้

การตรวจสอบยืนยันธุรกิจคือกระบวนการที่ใช้ตรวจสอบรายการต่อไปนี้

  1. ธุรกิจเป็นนิติบุคคลที่ถูกกฎหมาย : ธุรกิจของคุณควรได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้องกับหน่วยงานในท้องถิ่น และมีหมายเลขโทรศัพท์และอีเมล์ของธุรกิจอย่างเป็นทางการ
  2. หลักฐานว่าคุณสามารถเข้าถึงธุรกิจของคุณ : คุณต้องสามารถรับรหัสยืนยันตัวที่ส่งให้ทางหมายเลขโทรศัพท์หรืออีเมล์ของธุรกิจได้ หรือคุณสามารถใช้กระบวนการตรวจสอบยืนยันโดเมนเพื่อแสดงหลักฐานการเข้าถึงธุรกิจของคุณได้
  3. Facebook อาจจะขอให้คุณส่งเอกสารเพิ่มเติม : หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัทหรือใบอนุญาตประกอบธุรกิจเพื่อตรวจสอบยืนยันธุรกิจของคุณ และจะตรวจสอบว่าคุณมีสิทธิ์เข้าใช้งานธุรกิจหรือโดเมนเว็บไซต์หรือไม่อีกด้วย

ถึงแม้ว่า Facebook จะไม่ได้บังคับให้ทุกๆ ธุรกิจต้องยืนยันตัวตน แต่คุณอาจต้องยืนยันธุรกิจของคุณเพื่อเข้าถึงฟีเจอร์บางอย่าง หรืออาจต้องแสดงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจของคุณให้ผู้อื่นได้เห็น ยกตัวอย่างเช่น

  1. ฟีเจอร์สำหรับผู้พัฒนาบางฟีเจอร์ : หากคุณคือผู้พัฒนาสำหรับธุรกิจ และแอพของคุณได้รับการอนุมัติให้ใช้ API บางตัว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนในกล่องข้อความบนแดชบอร์ดของแอพเพื่อขอให้คุณดำเนินการตรวจสอบยืนยันธุรกิจให้เสร็จสมบูรณ์
  2. เกมทันใจ : ผู้พัฒนาของเกมทันใจทั้งหมดจะต้องผ่านการตรวจสอบแอพและดำเนินการตรวจสอบยืนยันธุรกิจให้เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งกระบวนการนี้จะทำให้มั่นใจได้ว่า มีเฉพาะผู้พัฒนาที่ได้รับการตรวจสอบยืนยันเท่านั้นที่สามารถเผยแพร่เกมได้
  3. ดัชนีเพจข่าว : ผู้เผยแพร่ที่สนใจลงทะเบียนเพจของตนเพื่อรับการพิจารณาลงในดัชนีเพจข่าวจะต้องตรวจสอบยืนยันธุรกิจของตนก่อน
  4. WhatsApp Business : เมื่อคุณสร้างบัญชี WhatsApp Business คุณจะต้องตรวจสอบยืนยันธุรกิจของคุณก่อน
  5. ความโปร่งใสของเพจ : หากต้องการแสดง “เจ้าของเพจที่ได้รับการยืนยัน” บนเพจของคุณ คุณจะต้องตรวจสอบยืนยันธุรกิจของคุณก่อน
  6. บริษัทที่อยู่ในประเทศจีน : หากคุณต้องการเข้าถึงบัญชีที่มีการใช้งานร่วมกันในตัวจัดการธุรกิจ คุณจำเป็นต้องตรวจสอบยืนยันธุรกิจให้เสร็จสิ้นก่อน

หมายเหตุ: การตรวจสอบยืนยันธุรกิจนั้นแตกต่างกับเครื่องหมายการตรวจสอบยืนยันสีฟ้า การยืนยันข้อมูลระบุตัวตนส่วนตัว และเครื่องหมายการตรวจสอบยืนยันบน Instagram คุณจะไม่ได้รับเครื่องหมาย เช่น เครื่องหมายการตรวจสอบยืนยันสีฟ้าหลังจากการตรวจสอบยืนยันธุรกิจ

เกาะติดข่าวสารการตลาดออนไลน์ เทคนิคการโปรโมทโฆษณา

แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @inDigital ที่นี่

บัญชี โฆษณา ถูก ปิด การ ใช้ งาน

Fanpage : INdigital การตลาดออนไลน์