คู่มอื ครู
Teacher Script
การงานอาชพี ม.3
ช้นั มัธยมศึกษาปที่ 3
ตามมาตรฐานการเรยี นรแู ละตัวชวี้ ดั
กลุมสาระการเรียนรกู ารงานอาชีพ
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551
ผเู รยี บเรียงหนงั สือเรียน ผูตรวจหนงั สอื เรียน บรรณาธิการหนังสอื เรียน
ผศ.เพ็ญพร ประมวลสุข รศ.จอมขวัญ สุวรรณรักษ นายปญญา สังขภ ริ มย
นางวรรณี วงศพ านชิ ย ผศ. ดร.เบญญา มะโนชยั นายสมเกียรติ ภรู ะหงษ
นายมนตรี สมไรขงิ นางสุชีรา
เสารนอย
นางศิรริ ตั น ฉัตรศขิ รนิ ทร
ดร.สถติ ยพ งษ มั่นหลํา
นายปณณวฒั น สรุ กีรตกิ ุล
ผูเ รยี บเรียงคูม ือครู
นางสาวพรรณมณฑ นั ิลนฤนาท
นางสาวอญั ชลี ฉั ายแสงจนั ทร
พมิ พครง้ั ที่ 2
สงวนลขิ สิทธิ์ตามพระราชบัญญตั ิ
รหสั สนิ คา 2347017
ค�ำแนะน�ำกำรใช้
คู่มือคร ู รายวชิ า การงานอาชพี ม.3 จัดท�าข้ึน เพ่อื ใหค้ รผู ู้สอน
ใชเ้ ปน็ แนวทางวางแผนการจดั การเรยี นการสอน เพอื่ พฒั นาผลสมั ฤทธ์ิ
ทางการเรียนและประกันคุณภาพผู้เรียน
ตามนโยบายของส�านักงาน
คณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน (สพฐ.)
เพม่ิ คําแนะนําการใช ชวยสรางความเขาใจ เพื่อใชคูมือครูได นาํ นํา สอน โซน 1สรปุ ประเมนิ
อยางถูกตองและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ขนั้ นาํ (แบบกระบวนการเรยี น ความรู ความเขา ใจ) ¡ÒÃô »¯ºÔ ѵÔหน่วยการเรียนร้ทู ่ี §Ò¹ªÒ‹ §
เพม่ิ คาํ อธิบายรายวิชา แสดงขอบขา ยเนือ้ หาสาระของรายวชิ า 㹺ŒÒ¹
ซงึ่ ครอบคลมุ มาตรฐานการเรยี นรแู ละตวั ชวี้ ดั ตามทหี่ ลกั สตู ร 1. ครูแจงช่ือเรื่องท่ีจะเรียนรูและจุดประสงคการ งานชา
งในบา น เปน งานชา งพนื้ ฐานทนี่ าํ ไปใชป ระโยชนไ ดใ นชวี ติ ประจาํ วนั สามารถเรยี นรแู ละ
กาํ หนด เรียนรูใหนักเรียนทราบ จากนั้นใหนักเรียน
แตล ะคนทําแบบทดสอบกอ นเรยี น หนวยการ ปฏบิ ตั ไิ ดด ว ยตนเอง โดยเฉพาะการซอ มแซม การบาํ รงุ รกั ษา การตดิ ตงั้ และประกอบผลติ ภณั ฑ
เพม่ิ Pedagogy ชวยสรางความเขาใจในกระบวนการออกแบบ เรียนรทู ี่ 4 เร่ือง การปฏิบัติงานชางในบา น เคร่ืองมือ เคร่อื งใช และส่งิ อํานวยความสะดวกตาง ๆ เพอ่ื ยดื อายกุ ารใชง านใหย าวนานยิ่งขน้ึ
การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ไดอยางมี ชว ยประหยดั คา ใชจ า ย การปฏบิ ตั งิ านชา งในบา นผปู ฏบิ ตั งิ านจะตอ งมคี วามรู ความเขา ใจเกยี่ วกบั
ประสิทธภิ าพ 2. ครูเปดคลิปวิดีโอการปฏิบัติงานชางในบานใน งานชา งลกั ษณะตา งๆ มที กั ษะกระบวนการทาํ งาน เพอ่ื จะไดป ฏบิ ตั งิ านชา งไดอ ยา งมปี ระสทิ ธภิ าพ
ลกั ษณะตา งๆ ใหน กั เรยี นดู เชน การซอ มแซม
เพม่ิ Teacher Guide Overview ชว ยใหเห็นภาพรวมของการ ขาเกา อ้ี การซอมสีประตูร้วั การลางทาํ ความ ตัวชีว้ ดั
จัดการเรียนการสอนทั้งหมดของรายวิชากอนท่ีจะลงมือ สะอาดหนากากเครื่องปรับอากาศ การใช
สอนจรงิ นํ้ามันจักร หรือสารหลอลื่นหยอดมอเตอร ■ อภิปรายข้นั ตอนการทํางานที่มีประสทิ ธภิ าพ (ง ๑.๑ ม.๓/๑)
พดั ลม เพือ่ แกป ญ หาใบพดั ฝด การติดตัง้ และ ■ ใชท ักษะในการทาํ งานรว มกันอยางมีคุณธรรม (ง ๑.๑ ม.๓/๒)
เพิ่ม Chapter Overview ชว ยสรา งความเขา ใจและเหน็ ภาพรวม ประกอบชนั้ วางรองเทา การตดิ ตงั้ และประกอบ ■ อภิปรายการทาํ งานโดยใชท ักษะการจัดการ เพื่อการประหยัดพลังงาน ทรัพยากร และสงิ่
แวดลอ ม (ง ๑.๑ ม.๓/๓)
ในการออกแบบแผนการจดั การเรียนรูแ ตละหนว ย โตะคอมพวิ เตอร
เพมิ่ ขอสอบเนนการคิด เพื่อเตรียมความพรอมของผูเรียน 3. ครถู ามนักเรยี นวา
สูการสอบในระดบั ตา ง ๆ • ผูปฏิบัติงานปฏิบัติไดถูกตองและปลอดภัย
หรอื ไม อยา งไร
เพิ่ม กิจกรรม 21st Century Skills กิจกรรมที่จะชว ยพัฒนา (แนวตอบ นกั เรยี นสามารถแสดงความคดิ เหน็
ผูเรียนใหมีทักษะท่ีจําเปนสําหรับการเรียนรูและการดํารงชีวิต ไดอยางอสิ ระ)
ในโลกแหงศตวรรษท่ี 21 • นักเรียนเคยซอมแซม
บํารุงรักษา ติดต้ัง
และประกอบผลติ ภณั ฑเ ครอื่ งใชภ ายในบา น
ดวยตนเองหรือไม หากเคย ปฏิบัติสิ่งใด
(แนวตอบ นกั เรยี นสามารถแสดงความคดิ เหน็
ไดอ ยางอิสระ)
4. ครูขออาสาสมัครนักเรียน 3 คน ออกมาเลา
เก่ียวกับการปฏิบัติงานชางในบานของตนเอง
ใหเ พอ่ื นฟง หนา ชน้ั เรยี น โดยกาํ หนดใหค นท่ี 1
เลาเก่ียวกับการซอมแซมสิ่งของเคร่ืองใช
คนที่ 2 เลาเก่ียวกับการบํารุงรักษาสิ่งของ
เครื่องใช และคนที่ 3 เลาเก่ียวกับการติดตั้ง
และประกอบผลิตภัณฑสิ่งของเครื่องใช
จากนั้นครูใหนักเรียนที่เหลือรวมกันวิเคราะห
การปฏิบัติงานของเพ่ือนวาถูกตองหรือไม
และมีความปลอดภัยมากนอ ยเพยี งใด
เกร็ดแนะครู
ครูควรจัดการเรียนรู โดยอธบิ ายเก่ียวกบั การปฏิบัติงานชางในบานใหน กั เรียนฟง เพ่อื ใหเ กิดความรู ความเขา ใจ เรื่อง ความสําคญั ของงานชา งในบาน
หลักการปฏิบตั งิ านชางในบาน หลกั ความปลอดภยั ในการปฏิบัติงานชา งในบา น และกระบวนการปฏบิ ัตงิ านชา งในบาน สามารถอธิบายขนั้ ตอนการปฏิบตั ิ
งานชางในบานไดอยางมีประสิทธิภาพ ใชทักษะการทํางานรวมกันอยางมีคุณธรรม และใชทักษะการจัดการ เพื่อใหการทํางานสําเร็จตามเปาหมายอยางมี
ประสิทธิภาพ คาํ นงึ ถึงการประหยัดพลังงาน ทรพั ยากร และสง่ิ แวดลอม โดยสามารถจัดกิจกรรมได ดังน้ี
• ใหนกั เรยี นตอบคาํ ถามและรว มกนั แสดงความคิดเหน็ เพ่ือใหนกั เรยี นเกดิ ความรู ความเขา ใจเกยี่ วกับทกั ษะการปฏิบตั ิงานชางในบาน
• ใหนักเรียนฝกปฏิบัติการติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑเคร่ืองใชภายในบาน เพ่ือใหสามารถนําไปปฏิบัติไดดวยตนเอง เชน
การติดต้ังโทรทัศน
แบบแขวนผนงั การติดตัง้ ชน้ั วางอเนกประสงคแบบติดผนัง โซน 3
โซน 2
T64
โซน 1 ช่วยครจู ัด โซน 2 ชว่ ยครูเตรยี มสอน
กำรเรยี นกำรสอน โดยประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบตา่ ง ๆ ทเ่ี ปน็ ประโยชนส์ า� หรบั ครู
แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ครูผู้สอน เพื่อนา� ไปประยกุ ต์ใช้จัดกิจกรรมการเรียนร้ใู นชัน้ เรยี น
โดยแนะน�าข้ันตอนการสอนและการจัดกิจกรรมอย่างละเอียด
เพื่อให้นักเรียนบรรลุผลสมั ฤทธต์ิ ามตัวช้ีวดั เกรด็ แนะครู
น�ำ สอน สรปุ ประเมนิ
ความรูเ้ สริมสา� หรับครู ขอ้ เสนอแนะ ข้อสังเกต แนวทางการจดั
กจิ กรรม และอน่ื ๆ เพือ่ ประโยชน์ในการจัดการเรียนการสอน
นกั เรียนควรรู
ความรเู้ พ่มิ เติมจากเนื้อหา ส�าหรับอธบิ ายเสรมิ เพม่ิ เติมให้
กับนกั เรียน
โดยใช้หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.3 และแบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู การงานอาชีพ ม.3 ของ
บริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จ�ากัด เป็นส่ือหลัก (Core Material) ประกอบการสอน และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ใหส้ อดคลอ้ งตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวดั ของกลมุ่
สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษา
ขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 โดยคู่มอื ครมู อี งคป์ ระกอบท่ีง่ายตอ่ การใชง้ าน ดังนี้
โซน 1 นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ โซน 3 ช่วยครูเตรียมนกั เรยี น
ËÒ¡äÁà‹ ¤Â»¯ºÔ µÑ §Ô Ò¹ªÒ‹ §áÅÐ ๑ งานชางในบาน ขน้ั นาํ ประกอบดว้ ยแนวทางสา� หรบั จดั กจิ กรรมและเสนอแนะ
µÍŒ §¡ÒûÃСͺµàŒÙ ÊÍé× ¼ÒŒ ·«Õè Íé× แนวขอ้ สอบ เพอื่ อ�านวยความสะดวกใหแ้ ก่ครผู สู้ อน
ÁÒãËÁ´‹ ÇŒ µ¹àͧ ¤ÇÃàÃÁÔè µ¹Œ งานชา งในบา นเปน การใช การเลอื กใช การตดิ
ตงั้ และประกอบ 5. ครูตั้งคําถามเพ่ือใหนักเรียนรวมกันอภิปราย
Í‹ҧäà ผลิตภัณฑ รวมถึงการซอ มแซม การบาํ รุงรกั ษา การดัดแปลง วา “หากไมม คี วามรเู กย่ี วกบั การปฏบิ ตั งิ านชา ง กจิ กรรม 21st Century Skills
การปรับปรุงแกไข การสราง หรอื การผลิตช้ินงาน วสั ดุสงิ่ ของ ในบานและตองการฝกปฏิบัติงานดวยตนเอง
เครอ่ื งมือ เครอื่ งใชต าง ๆ ภายในบา น เพอ่ื อาํ นวยความสะดวก ควรเรม่ิ ตน อยา งไร เพราะเหตใุ ด” โดยครเู ปด กจิ กรรมที่ใหน้ กั เรยี นไดป้ ระยกุ ต์ใชค้ วามรมู้ าสรา้ งชน้ิ
งาน หรอื
ในการดํารงชีวิต การปฏิบัติงานชางในบานเปนการใชเวลาวาง โอกาสใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็น ท�ากิจกรรมรวบยอด เพื่อให้เกิดคุณลักษณะท่ีระบุในทักษะ
ใหเกิดประโยชน ชวยลดคาใชจายในการซ้ือของใชใหม หรือ จากนนั้ ครจู งึ กลา วเชอื่ มโยงเขา สบู ทเรยี น แหง่ ศตวรรษที่ 21
ลดการจางชางมาซอม เปนงานท่ีสามารถเรียนรูและฝกฝน
ขนั้ สอน ขอสอบเนน การคดิ
เพม่ิ เ๑ติม.๑เพคอื่ วปารมะกสอําบคอัญาชขพี อชงางงาไนดใชนา องน1ใานคบตา น
ข้นั ที่ 1 สังเกต ตระหนัก
ตัวอย่างข้อสอบท่ีมุ่งเน้นการคิด มีท้ังปรนัย-อัตนัย พร้อม
งานชา งในบา นประกอบดว ยงานชา งหลากหลายสาขา ซง่ึ จดั 1. ครูใหนักเรียนศึกษา เรื่อง ความสําคัญของ เฉลยอยา่ งละเอียด
เปน งานทมี่ คี วามเกยี่ วขอ งกบั การดาํ รงชวี ติ ของมนษุ ย สง่ิ สาํ คญั
ทข่ี าดไมไ ดใ นการปฏบิ ตั งิ านชา ง คอื ผปู ฏบิ ตั งิ านจะตอ งยดึ หลกั งานชางในบาน จากหนังสือเรียน หนวยการ กิจกรรมเสรมิ สรา งคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค
ความปลอดภยั ในการปฏบิ ตั งิ านอยเู สมอ มนษุ ยจ ะไดร บั ประโยชน
เรียนรูที่ 4 หรอื ศึกษาเพ่ิมเติมจากอินเทอรเนต็
หลายประการจากการปฏบิ ตั งิ านชา งในบา นดว ยตนเอง ดงั น้ี 2. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การปฏิบัติงานชางใน กจิ กรรมเสนอแนะแนวทางการเสริมสรา้ งคณุ ลักษณะ
บา นเปน การปฏบิ ตั งิ านในรปู แบบหนงึ่ ทม่ี คี วาม อันพึงประสงค์
๑. รจู กั ซอมแซม บาํ รุงรกั ษา ปรบั ปรงุ แกไ ขชิน้ งาน หรอื สัมพันธเก่ียวของกับการดํารงชีวิตของมนุษย
ผลิตภัณฑ ส่ิงของเคร่อื งใชใ หสามารถใชงานไดยาวนานย่ิงขึ้น เนื่องจากเปนสิ่งท่ีอยูใกลตัว สามารถพบได กจิ
กรรมทา ทาย
ในชีวิตประจําวัน หากมีความรู ความเขาใจ
๒. ใชว สั ดุ อปุ กรณ เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใชใ นงานชา ง เพอื่ สรา ง เกย่ี วกบั การปฏบิ ตั งิ านชา งในบา นทถี่ กู ตอ ง กจ็ ะ เสนอแนะแนวทางการจดั กจิ กรรม เพอ่ื ตอ่ ยอดสา� หรบั นกั เรยี น
หรอื ผลิตชน้ิ งานในชวี ติ ประจําวัน หรอื เพื่อการประกอบอาชีพ สามารถปฏิบัติงานชางในบานงายๆ ไดดวย ทเี่ รยี นรไู้ ดอ้ ยา่ งรวดเรว็ และตอ้ งการทา้ ทายความสามารถใน
ตนเอง ซง่ึ จะสง ผลใหก ารดาํ เนนิ ชวี ติ ประจาํ วนั ระดับท่ีสงู ขน้ึ
๓. สง เสรมิ ความคดิ สรา งสรรคแ ละจนิ ตนาการในการคดิ คน เปนไปอยา งราบร่นื และมคี วามสุข”
หรอื ประดษิ ฐน วตั กรรม เพอื่ ตอบสนองการใชง านของมนษุ ย 3. ครถู ามนักเรียนวา กิจกรรมสรา งเสรมิ
• นักเรียนจะไดรับประโยชนอยางไรจากการ
๔. คาํ นึงถึงความปลอดภัยในการปฏบิ ัตงิ าน ฝก ทกั ษะการ เสนอแนะแนวทางการจดั กจิ กรรมซอ่ มเสรมิ สา� หรบั นกั เรยี นท่ี
ทํางานรวมกัน ทักษะการจัดการ และฝกคิดวิเคราะหดวยการ ฝกปฏบิ ตั ิงานชา งในบา นดวยตนเอง ควรไดร้ บั การพฒั นาการเรยี นรู้
แกป ญ หา (แนวตอบ ไดร บั ประโยชนห ลายประการ เชน
เปนการใชเวลาวางใหเกิดประโยชน ชวย กจิ กรรม Mini Project
๕. เปนการใชเวลาวางใหเกิดประโยชน สงเสริมใหรูจัก ประหยัดคาใชจา ยในครอบครวั สรา ง หรอื
รบั ผดิ ชอบตอ หนา ทท่ี ่ีไดร บั มอบหมาย รวมถงึ ฝก ทกั ษะนสิ ยั เรอื่ ง ผลิตชิ้นงานงายๆ ไดดวยตนเอง เพิ่มพูน เสนอแนะแนวทางการจดั กจิ กรรม เพอ่ื ใหส้ ามารถนา� ความรทู้ ่ี
ความประหยัดอดออม ความรูและพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานชาง ไดร้ บั มาออกแบบชิ้นงานตามความสนใจ 1 ช้ิน
มคี วามรแู ละมที กั ษะในการใชเ ครอ่ื งมอื ชา ง
สาระการเรียนรแู กนกลาง ประเภทตา งๆ อยา งถูกตองและปลอดภัย)
■ ข้นั ตอนการทํางานทม่ี ีประสทิ ธภิ าพ เปนการปฏิบัติตามกระบวนการทาํ งาน โดยการทาํ ตามลาํ ดับขน้ั ตอน มคี วามสามารถทํางานสําเร็จ
ตามเปา หมายทีว่ างไว เชน การสรางช้นิ งาน หรือผลงาน
■ ทักษะการทาํ งานรวมกัน เปน การสรา งใหผูเ รยี นสามารถทํางานและอยรู วมกนั ไดอ ยา งมคี วามสุขและมคี ณุ ธรรม
■ ทกั ษะการจดั การ เปน การจัดระบบงานและระบบคน เพื่อใหทาํ งานสาํ เรจ็
ตามเปาหมายอยา งมี
ประสิทธภิ าพ เชน การติดต้งั /ประกอบผลิตภณั ฑ ๕๕การปฏิบัติงานช่างในบ้าน
ขอ สอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู
หากตอ งการปฏบิ ตั งิ านชา งในบา นใหม ปี ระสทิ ธภิ าพ ควรปฏบิ ตั ิ ครอู ธบิ ายเพมิ่ เติมเกี่ยวกับงานชางในบา นใหน ักเรยี นฟง วา งานชางในบา น
อยา งไร จะประกอบไปดว ยงานชางหลากหลายสาขา ซึ่งผปู ฏบิ ัติงานสามารถนําเทคนคิ
และวิธีการปฏิบัติงานชางเหลานั้นมาประยุกตใชในการติดต้ังและประกอบ
1. ทดลองฝกปฏิบัตงิ านชางในบานทกุ
ประเภทดวยตนเอง ผลติ ภณั ฑ รวมถงึ การซอมแซม การบํารงุ รกั ษา การปรับปรงุ แกไ ขชิ้นงาน หรอื
2. เลอื กใชอ ปุ กรณ เครอ่ื งมอื งานชา งทมี่ คี ณุ ภาพและมรี าคาสงู องคป ระกอบตางๆ ของบานใหม สี ภาพท่ีสมบูรณ คงทน แข็งแรง สวยงาม และ
3. เรยี นรจู ากชา งมอื อาชพี หรอื ชา งทม่ี คี วามเชยี่ วชาญเฉพาะทาง ใชงานไดด ี โดยใชท กั ษะพ้นื ฐานการปฏิบตั ิงานชา งนนั้ ๆ รวมกับความรู ทักษะ
4. มีความเช่ียวชาญและวางแผนการปฏิบัติงานอยางเปน กระบวนการปฏบิ ตั ิงานชางในการปฏบิ ตั งิ านทกุ
คร้ังอยางถูกตองและปลอดภยั
โซน 3ข้ันตอนและคาํ นึงถงึ ความปลอดภยั เสมอ นักเรียนควรรู
(วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 4. เพราะการปฏิบัติงานชางในบาน โซน 21 ความสําคัญของงานชาง เม่ือไดเรียนรูเก่ียวกับงานชาง ไดทดลองฝก
ทกุ ประเภท ผปู ฏบิ ตั งิ านควรมคี วามรู ความเชยี่ วชาญการวางแผน
การปฏบิ ตั งิ านอยา งเปน ขน้ั ตอน เพอ่ื ใหส ามารถปฏบิ ตั งิ านไดอ ยา ง ปฏบิ ตั งิ าน กจ็ ะปฏบิ ตั งิ านชา งงา ยๆ ไดด ว ยตนเอง และหากฝก ฝนจนเกดิ ความ
ราบร่ืน
เพ่ือใหการปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพ และตองคํานึงถึง ชํานาญ ก็จะสามารถนาํ ความรูไปประกอบเปนอาชพี ไดในอนาคต
ความปลอดภยั ในขณะปฏิบตั ิงานรวมดว ย)
T65
บรู ณาการอาเซียน แนวทางการวัดและประเมินผล
ความรเู้ สริม หรือการเชอื่ มโยงในเรือ่ งทีเ่ ก่ียวข้องกบั ประชาคม เสนอแนะแนวทางการบรรลุผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของ
อาเซยี น นกั เรยี นตามมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชวี้ ดั ทห่ี ลกั สตู รกา� หนด
สือ่ Digital
การแนะน�าแหล่งเรยี นรู้และแหลง่ ค้นคว้าจากสื่อ Digital ตา่ ง ๆ
ค�ำอธิบายรายวิชา
กล่มุ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพ
เวลาเรียน 40 ชว่ั โมง / ปี
การงานอาชีพ
ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3
ศึกษาเรียนรู้และลงมือปฏิบัติงานตามข้ันตอนการท�ำงานและกระบวนการท�ำงานในการซัก ตาก พับ
เกบ็ เส้อื ผ้าท่ตี ้องดูแลอย่างประณีต การสร้างช้นิ งาน หรอื ผลงาน ใชท้ กั ษะการทำ� งานรว่ มกนั ในการเตรียม ประกอบ
อาหารประเภทสำ� รับและการประดษิ ฐบ์ รรจภุ ัณฑจ์ ากวสั ดุธรรมชาติ ใชท้ ักษะการจดั การในการประกอบธรุ กจิ ประเภท
ตา่ ง ๆ การขยายพนั ธพ์ุ ชื การตดิ ตง้ั และประกอบผลติ ภณั ฑ์ มจี
ติ สำ� นกึ ในการทำ� งานและใชท้ รพั ยากรในการปฏบิ ตั งิ าน
อย่างประหยัดและค้มุ คา่ อภปิ รายการหางานด้วยวธิ ีท่ีหลากหลาย วิเคราะห์แนวทางเข้าสอู่ าชีพ และสามารถประเมนิ
ทางเลือกในการประกอบอาชีพที่สอดคล้องกับความรู้ ความถนัด และความสนใจของตนเอง เพื่อการเสริมสร้าง
ประสบการณอ์ าชีพ
เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความตระหนกั และเหน็ คณุ คา่ ของการทำ� งาน มที กั ษะการทำ� งานรว่ มกนั และทกั ษะการจดั การในการ
ปฏิบัตงิ านตามขั้นตอนการท�ำงานอย่างมีประสทิ ธิภาพ สามารถนำ� ความรไู้ ปประยกุ ต ์ใช้
ในชีวิตประจำ� วัน มคี ุณธรรม
ในการท�ำงาน และมีจิตส�ำนึกในการใชพ้ ลังงาน ทรัพยากร และสงิ่ แวดลอ้ ม
ตัวชว้ี ัด
ง 1.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3
ง 2.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3
รวม 6 ตวั ชี้วดั
Pedagogy
คูม่ อื ครู
การงานอาชีพ ม.3 จัดท�ำข้ึนเพื่อให้ครูผู้สอนน�ำไปใช้เป็นแนวทางวางแผนพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน
ของผู้เรียน โดยสามารถวางแผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้หนังสือเรียน รายวิชาการงานอาชีพ ช้ันมัธยมศึกษา
ปที ี่3 (ฉบบั ประกนั ) ทท่ี างบรษิ ทั อกั ษรเจรญิ ทศั น์
อจท. จำ� กดั จดั พมิ พจ์ ำ� หนา่ ย เพอื่ ใหส้ อดคลอ้ งตามมาตรฐานการเรยี นร ู้
และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พ.ศ. 2551 โดยออกแบบ
กิจกรรมการเรียนรู้ (Instructional Design) ให้มีความสอดคล้องกับรูปแบบการสอนโดยใช้กระบวนการปฏิบัติ โดยมี
รายละเอียด ดังน้ี
รูปแบบการสอนโดยใชก้ ระบวนการปฏบิ ัติ
ด้วยจุดประสงค์ของการจัดการเรียนการสอนการงานอาชีพ เพ่ือช่วยพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ความเข้าใจ
มีทักษะพื้นฐานที่จ�ำเป็นต่อการด�ำรงชีวิต รู้เท่าทันการเปล่ียนแปลง น�ำความรู้เกี่ยวกับการด�ำรงชีวิตและการอาชีพ
มาประยุกต์ ใช้ ในการท�ำงานได้อย่างสร้างสรรค์ เห็นแนวทางในการประกอบอาชีพ รักการท�ำงาน มีเจตคติท่ีดีต่อ
การทำ� งาน สามารถด�ำรงชีวติ อยู่ ในสงั คมได้อย่างพอเพยี งและมีความสุข
ผจู้ ดั ทำ� จงึ เลอื กใช้รูปแบบการสอนโดยใช้กระบวนการปฏิบัตเิ ปน็ หลัก ซ่งึ เปน็ ขน้ั ตอนการจดั การเรียนรทู้ ี่ม่งุ ให้
ผู้เรยี นแสวงหาประสบการณก์ ารเรียนรู้ทม่ี ีประโยชนต์ ่อชีวิตประจ�ำวัน
โดยใช้ศักยภาพท่ีตนเองมี ผเู้ รยี นจะมสี ่วนรว่ ม
ในการกำ� หนดงานท่ีทำ� มงุ่ ให้ผ้เู รยี นได้ ใชท้ ักษะการสบื ค้นและการปฏิบตั จิ ริง เพ่ือเปน็ พืน้ ฐานไปสูก่ ารปฏบิ ตั งิ านอนื่ ๆ
ในการด�ำรงชีวติ ซึง่ สอดคลอ้ งกับธรรมชาตขิ องวิชาการงานอาชีพ
วิธีการสอน เทคนคิ การสอน ทกั ษะที่ใช้
• แบบบรรยาย • การใช้คำ�ถาม • การท�ำงานรว่ มกนั
• การสาธิต • การเลน่ เกม • การวเิ คราะห์
• การอภปิ รายกลมุ่ ยอ่ ย • การใช้ตัวอยา่ งกระตุ้นความคิด • การมคี วามคดิ สร้างสรรค์
• การแสดงบทบาทสมมติ •
การใชส้ ือ่ การเรียนรทู้ ่ีนา่ สนใจ • การคดิ อยา่ งมเี หตผุ ล
• การใชก้ รณีตัวอยา่ ง • การสงั เกต
• การใชส้ ถานการณจ์ ำ�ลอง • การสืบคน้
• การใชศ้ ูนยก์ ารเรียนรู้
• การลงมือปฏบิ ัติ
Teacher Guide Overview
การงานอาชีพ ม.3
หน่วย ตวั ชี้วัด ทักษะทไ่ี ด้ เวลาท่ีใช้ การประเมนิ สอ่ื ทีใ่ ช้
การเรียนรู้
1 1. ใ ชท้ กั ษะในการทำ� งานรว่ มกันอยา่ งมี 1. ทกั ษะกระบวนการ 1. ตรวจแบบทดสอบ - หนังสอื เรียนการงาน
หลักการทำ�งาน คุณธรรม ทำ� งาน กอ่ นเรยี น อาชีพ
ม.3
เพ่ือการ
ด�ำ รงชพี 2. อภิปรายการทำ� งาน โดยใช้ทักษะ 2. ทักษะการจดั การ 2. ตรวจใบงานที่ 1.1.1 - แบบวดั และบนั ทึกผล
การจดั การ เพือ่ การประหยัดพลงั งาน 3. ทกั ษะกระบวนการ 3. ตรวจใบงานท่ี 1.2.1 การเรยี นรูก้ ารงาน
ทรพั ยากร และส่ิงแวดลอ้ ม แกป้ ัญหา 4. ต รวจใบงานที่ 1.3.1 อาชพี ม.3
4. ท กั ษะการแสวงหาความรู้ 5. ตรวจกิจกรรมใน - แบบทดสอบกอ่ นเรียน
5. ทักษะการให้เหตผุ ล แบบวัดและบนั ทกึ - แบบทดสอบหลังเรียน
6. ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ ผลการเรียนรู้ - PowerPoint
7. ทกั ษะการประยกุ ต์ใช้ 3 6. ประเมนิ ช้ินงาน/
ความรู้ ชวั่ โมง ภาระงาน (รวบยอด)
8. ทักษะการสรปุ 7. ป ระเมนิ การ
ลงความคดิ เหน็ น�ำเสนอผลงาน
8. ส งั เกตพฤติกรรม
การทำ� งานรายบคุ คล
9. สังเกตพฤตกิ รรม
การท�ำงานกลุ่ม
10. ส งั เกตคุณลกั ษณะ
อันพึงประสงค์
11. ตรวจแบบทดสอบ
หลังเรยี น
2 1. อภปิ รายขน้ั ตอนการท�ำงานทม่ี ี 1. ทกั ษะกระบวนการ 1. ตรวจแบบทดสอบ - ห นงั สือเรยี นการงาน
ผ้าและการ ประสทิ
ธภิ าพ ทำ� งาน กอ่ นเรียน อาชพี ม.3
ตัดเย็บ
2. ใ ช้ทักษะในการทำ� งานร่วมกันอย่างมี 2. ทกั ษะการจัดการ 2. ตรวจใบงานท่ี 2.1.1 - แบบวัดและบนั ทึกผล
คุณธรรม 3. ทกั ษะกระบวนการ 3. ต รวจใบงานท่ี 2.2.1 การเรยี นรกู้ ารงาน
3. อภิปรายการทำ� งาน โดยใช้ทักษะ แกป้ ญั หา 4. ต รวจใบงานที่ 2.3.1 อาชพี ม.3
การจดั การ เพื่อการประหยัดพลังงาน 4. ทกั ษะการแสวงหาความรู้ 5. ตรวจใบงานท่ี 2.4.1 - แบบทดสอบกอ่ นเรียน
ทรัพยากร และส่ิงแวดล้อม 5. ทกั ษะการให้เหตุผล 6. ตรวจกจิ กรรมใน - แบบทดสอบหลงั เรยี น
6. ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ แบบวดั และบันทึก - PowerPoint
7. ทกั ษะการประยุกต์ใช ้ ผลการเรยี นรู้
ความรู้ 10 7. ประเมนิ ชนิ้ งาน/
8. ทกั ษะการท�ำงานกลมุ่ ชว่ั โมง ภาระงาน (รวบยอด)
9. ทักษะการสรุป 8. ประเมนิ การ
ลงความคิดเห็น นำ� เสนอผลงาน
9. สังเกตพฤตกิ รรม
การทำ� งานรายบคุ คล
10. สังเกตพฤตกิ รรม
การท�ำงานกลุม่
11. ส งั เกตคุณลักษณะ
อันพงึ ประสงค์
12. ตรวจแบบทดสอบ
หลังเรยี น
หนว่
ย ตัวช้วี ัด ทักษะทีไ่ ด้ เวลาทีใ่ ช้ การประเมนิ สือ่ ที่ใช้
การเรยี นรู้
3 1. อภิปรายข้นั ตอนการท�ำงานทีม่ ี 1. ทกั ษะกระบวนการ 1. ต รวจแบบทดสอบ - หนังสือเรียนการงาน
อาหาร ประสทิ ธภิ าพ ท�ำงาน ก่อนเรยี น อาชพี ม.3
ประเภทสำ�รบั
2. ใช้ทักษะในการทำ� งานรว่ มกนั อยา่ งมี 2. ทกั ษะการจดั การ 2. ต รวจใบงานท่ี 3.1.1 - แบบวัดและบนั ทึกผล
คุณธรรม 3. ทักษะกระบวนการ 3. ตรวจกิจกรรมใน การเรียนรู้การงาน
3. อภปิ รายการท�ำงาน โดยใช้ทักษะ แกป้ ญั หา แบบวัดและบนั ทึก อาชพี ม.3
การจดั การ เพ่อื การประหยดั พลังงาน 4. ทกั ษะการแสวงหาความรู้ ผลการเรียนรู้ - แบบทดสอบก่อนเรยี น
ทรพั ยากร และสงิ่ แวดล้อม 5. ทักษะการท�ำงานรว่ มกนั 4. ป ระเมินชิ้นงาน/ - แบบทดสอบหลงั เรยี น
6. ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ 4 ภาระงาน (รวบยอด) - PowerPoint
7. ทักษะการประยกุ ต์ใช ้ ช่วั โมง 5. ประเมนิ การนำ� เสนอ
ความรู้ ผลงาน
8. ทักษะการท�ำงานกล่มุ 6. สังเกตพฤตกิ รรม
9. ทักษะการสรปุ การทำ� งานรายบคุ คล
ลงความคดิ เหน็ 7. สงั เกตพฤตกิ รรม
การทำ� งานกลมุ่
8. ส งั เกตคณุ ลกั ษณะ
อันพงึ ประสงค์
9. ตรวจแบบทดสอบ
หลงั เรียน
4 1. อภิปรายขน้ั ตอนการท�ำงานที่มี 1. ทกั ษะกระบวนการ 1. ตรวจแบบทดสอบ - ห นังสอื เรียนการงาน
ประสิทธภิ าพ ท�ำงาน ก่อนเรียน อาชีพ ม.3
การปฏิบตั ิ 2. ใ ช้ทักษะในการทำ� งานร่วมกันอยา่ งมี 2. ทักษะการจดั การ 2. ต รวจใบงานท่ี 4.1.1 - แบบวัดและบนั ทึกผล
งานช่างในบา้ น คุณธรรม 3. ทักษะกระบวนการ 3. ตรวจกิจกรรมใน การเรยี นรู้การงาน
3. อภิปรายการท�ำงาน โดยใช้ทกั ษะ
แก้ปญั หา แบบวัดและบนั ทกึ อาชพี ม.3
การจัดการ เพ่อื การประหยดั พลังงาน 4. ทกั ษะการแสวงหาความรู้ ผลการเรยี นรู้ - แบบทดสอบก่อนเรยี น
ทรพั ยากร และสง่ิ แวดล้อม 5. ทกั ษะการทำ� งานรว่ มกนั 4. ตรวจการตดิ ตัง้ และ - แบบทดสอบหลังเรยี น
6. ทกั ษะการใหเ้ หตผุ ล ประกอบผลติ ภณั ฑ์ - PowerPoint
7. ทักษะการคิดวิเคราะห์ 5. ตรวจกิจกรรม
8. ทักษะการประยกุ ต์ใช ้ สร้างสรรคพ์ ฒั นา
ความรู้ การเรียนรู้
9. ทักษะการท�ำงานกลมุ่ 3 6. ประเมินชิ้นงาน/
10. ทักษะการสรุป ภาระงาน
(รวบยอด)
ลงความคดิ เห็น ช่ัวโมง 7. ประเมนิ การนำ� เสนอ
ผลงาน
8. ส ังเกตพฤตกิ รรม
การทำ� งานรายบคุ คล
9. สังเกตพฤตกิ รรม
การทำ� งานกลุ่ม
10. ส งั เกตคุณลกั ษณะ
อนั พงึ ประสงค์
11. ตรวจแบบทดสอบ
หลังเรียน
หน่วย ตัวช้ีวดั ทักษะที่ได้ เวลาท่ีใช้ การประเมิน ส่ือที่ใช้
การเรียนรู้
1. อภปิ รายข้นั ตอนการท�ำงานทม่ี ี 1. ทักษะกระบวนการ 1. ต รวจแบบทดสอบ - หนงั สอื เรียนการงาน
5
ประสทิ ธภิ าพ ท�ำงาน กอ่ นเรียน อาชพี ม.3
การประดษิ
ฐ์
บรรจุภัณฑ์ 2. ใ ช้ทกั ษะในการทำ� งานร่วมกันอยา่ งมี 2. ทกั ษะการจดั การ 2. ตรวจใบงานท่ี 5.1.1 - แบบวัดและบันทกึ ผล
จากวัสดุ
ธรรมชาติ คณุ ธรรม 3. ทกั ษะกระบวนการ 3. ตรวจใบงานที่ 5.2.1 การเรยี นรูก้ ารงาน
3. อภปิ รายการท�ำงาน โดยใชท้ ักษะ แก้ปญั หา 4. ต รวจกิจกรรมใน อาชีพ ม.3
การจัดการ เพื่อการประหยัดพลังงาน 4. ทกั ษะการแสวงหาความรู้ แบบวดั และบนั ทกึ ผล - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
ทรพั ยากร และส่ิงแวดลอ้ ม 5. ทกั ษะการทำ� งานรว่ มกนั การเรียนรู้ - แบบทดสอบหลงั เรียน
6. ทกั ษะการใหเ้ หตผุ ล 5. ประเมินช้นิ งาน/ - PowerPoint
7. ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ ภาระงาน (รวบยอด)
8. ทักษะการประยกุ ต์ใช้ 5 6. ประเมนิ การนำ� เสนอ
ความรู้ ชั่วโมง ผลงาน
9. ทักษะการท�ำงานกลุ่ม 7. ส งั เกตพฤติกรรม
10. ทักษะการสรุป การทำ� งานรายบคุ คล
ลงความคิดเห็น 8. สงั เกตพฤติกรรม
การท�ำงานกล่มุ
9. สังเกตคณุ ลักษณะ
อันพึงประสงค์
10. ตรวจแบบทดสอบ
หลงั เรยี น
6 1. อภปิ รายข้นั ตอนการท�ำงานทม่ี ี 1. ทกั ษะกระบวนการ 1. ตรวจแบบทดสอบ - หนังสือเรียนการงาน
การขยาย ประสทิ ธิภาพ ท�ำงาน ก่อนเรียน อาชีพ ม.3
พันธพุ์ ชื
2. ใชท้ กั ษะในการทำ� งานรว่ มกนั อย่างม ี 2. ทกั ษะการจดั การ 2. ตรวจใบงานท่ี 6.1.1 - แบบวดั และบันทึกผล
คุณธรรม 3. ทกั ษะกระบวนการ 3. ตรวจใบงานที่ 6.2.1 การเรยี นรู้การงาน
3. อภิปรายการท�ำงาน โดยใช้ทกั ษะ แกป้ ัญหา 4. ตรวจกิจกรรมใน อาชพี ม.3
การจดั การ เพือ่ การประหยัดพลงั งาน 4. ทกั ษะการแสวงหาความรู้ แบบวดั และบนั ทกึ ผล - แบบทดสอบกอ่ นเรียน
ทรพั ยากร และส่ิงแวดล้อม 5. ทกั ษะการทำ� งานรว่ มกนั การเรยี นรู้ - แบบทดสอบหลงั เรยี น
6. ทกั ษะการใหเ้ หตผุ ล 5. ประเมนิ ชิ้นงาน/ - PowerPoint
7. ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ 6 ภาระงาน (รวบยอด)
8. ทักษะการประยุกต์ใช้ ช่วั โมง 6. ประเมนิ การนำ� เสนอ
ความรู้ ผลงาน
9. ทักษะการท�ำงานกลุม่ 7. สังเกตพฤตกิ รรม
10. ทกั ษะการสรปุ การทำ� งานรายบคุ คล
ลงความคิดเหน็ 8. สังเกตพฤติกรรม
การท�ำงานกลุ่ม
9. ส งั เกตคณุ ลักษณะ
อันพึงประสงค์
10. ตรวจแบบทดสอบ
หลังเรียน
หน่วย ตัวช้วี ดั ทักษะทไี่ ด้ เวลาทีใ่ ช้ การประเมนิ ส่ือทีใ่ ช้
การเรยี นรู้
7 1. อภปิ รายข้ันตอนการท�ำงานทม่ี ี 1. ทกั ษะกระบวนการ 1. ต รวจแบบทดสอบ - ห นงั สอื เรยี นการงาน
ประสิทธิภาพ ทำ� งาน
การด�ำ เนินงาน 2. ใช้ทักษะในการทำ� งานร่วมกันอยา่ งม ี 2. ทกั ษะการจัดการ ก่อนเรยี น อาชพี ม.3
ธรุ กจิ คุณธรรม 3. ทกั ษะกระบวนการ
2. ตรวจใบงานท่ี 7.1.1 - แบบวดั และบันทึกผล
3. ตรวจใบงานท่ี 7.2.1 การเรยี นรูก้ ารงาน
3. อภิปรายการท�ำงาน โดยใชท้ ักษะ แก้ปญั หา 4. ต รวจกจิ กรรมใน อาชพี ม.3
การจัดการ เพอื่ การประหยดั พลังงาน 4. ทกั ษะการแสวงหาความรู้ แบบวดั และบนั ทกึ ผล - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
ทรพั ยากร และสงิ่ แวดล้อม 5. ทกั ษะการทำ� งานรว่ มกนั การเรยี นรู้ - แบบทดสอบหลงั เรียน
6. ทักษะการคิดวิเคราะห์ 5. ประเมินช้นิ งาน/ - PowerPoint
7. ทักษะการประยุกต์ใช้ ภาระงาน (รวบยอด)
ความรู้ 5 6. ประเมนิ การนำ� เสนอ
8. ทักษะการท�ำงานกล่มุ ช่วั โมง ผลงาน
9. ทักษะการสรุป 7. สงั เกตพฤตกิ รรม
ลงความคิดเห็น การทำ� งานรายบคุ คล
8. สงั เกตพฤติกรรม
การทำ� งานกลมุ่
9. ส ังเกตคุณลักษณะ
อันพึงประสงค์
10. ตรวจแบบทดสอบ
หลังเรียน
8 1. อภปิ รายการหางานดว้ ยวิธีท่หี ลากหลาย 1. ทกั ษะกระบวนการ 1. ตรวจแบบทดสอบ - ห นงั สอื เรยี นการงาน
แนวทาง 2. วิเคราะห์แนวทางเขา้ สอู่ าชีพ ทำ� งาน กอ่ นเรียน อาชพี ม.3
การเข้าสู่อาชพี
3. ประเมนิ ทางเลอื กในการประกอบอาชีพ 2. ทักษะการจัดการ 2. ตรวจใบงานท่ี 8.1.1 - แบบทดสอบก่อนเรียน
ทีส่ อดคลอ้ งกับความรู้ ความถนดั และ 3. ทกั ษะกระบวนการ 3. ตรวจใบงานที่ 8.2.1 - แบบทดสอบหลังเรียน
ความสนใจของตนเอง แกป้ ญั หา 4. ประเมนิ ชนิ้ งาน/ - PowerPoint
4. ทกั ษะการแสวงหาความรู้ ภาระงาน (รวบยอด)
5. ทกั ษะการทำ� งานรว่ มกนั 5. ป ระเมนิ การนำ� เสนอ
6. ทกั ษะการใหเ้ หตผุ ล ผลงาน
7. ทักษะการคดิ วิเคราะห์ 4 6. ส ังเกตพฤตกิ รรม
8. ทกั ษะการสรุป ชัว่ โมง การทำ� งานรายบคุ คล
ลงความคดิ เห็น 7. สังเกตพฤติกรรม
การทำ� งานกลุ่ม
8. สังเกตคณุ ลกั ษณะ
อันพงึ ประสงค์
9. ตรวจแบบทดสอบ
หลงั เรียน
สารบัญ
Chapter Title Chapter Teacher
Overview Script
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 หลกั การทำ�งานเพอ่ื การ
ดำ�รงชพี T2 - T3 T4
• ทกั ษะการทำ� งานรว่ มกัน T12 - T15 T5 - T6
• ทกั ษะการจดั การ T7
• คณุ ธรรมและจริยธรรมในการทำ� งาน T44 - T45 T8 - T9
• การใช้ทรัพยากรในการปฏบิ ัตงิ าน T62 - T63 T10 - T11
T80 - T81 T16
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 ผ้าและการตัดเยบ็
T17 - T24
•
การดูแลรักษาเสื้อผ้าและเครือ่ งประกอบการแต่งกาย T25 - T29
• การซ่อมแซมเสือ้ ผา้ T30 - T33
• การตกแต่งเสื้อผา้ T34 - T37
• การดัดแปลงเสือ้ ผา้ T38 - T43
• การตัดเยบ็ T46
หน่วยการเรยี นรู้ท ี่ 3 อาหารประเภทสำ�รบั T47 - T55
T56 - T61
• อาหารประเภทส�ำรับ T64
• การจดั และตกแตง่ อาหารประเภทส�ำรับ
T65 - T70
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 การปฏบิ ตั งิ านชา่ งในบา้ น T71 - T79
• งานช่างในบา้ น T82
• ตัวอยา่ งการปฏิบัติงานชา่ งในบา้ น
T83 - T88
หนว่
ยการเรยี นร้ทู ่ี 5 การประดษิ ฐบ์ รรจุภณั ฑ์ T89 - T91
จากวสั ดุธรรมชาติ T92 - T97
• การบรรจุภัณฑ ์
• การประดิษฐ์บรรจุภัณฑ์จากวัสดธุ รรมชาติ
• ตัวอยา่ งการประดษิ ฐบ์ รรจุภณั ฑ์จากวสั ดธุ รรมชาติ
Chapter Title Chapter Teacher
Overview Script
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 6 กำรขยำยพันธุพ์ ชื T98 - T99 T100
T101 - T103
• การขยายพนั ธ์พุ ชื T114 - T115 T104 - T107
• วธิ กี ารขยายพันธุ์พชื T108 - T113
• ตวั อยา่ งการขยายพนั ธ์พุ ืช T130 - T131 T116
T117 -
T123
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 7 กำรด�ำเนินงำนธุรกิจ T124 - T126
T127 - T129
• งานธรุ กิจ T132
• การด�าเนนิ งานธุรกิจ
• การวางแผนธรุ กจิ T133 - T134
T135 - T139
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 8 แนวทำงกำรเขำ้ สู่อำชพี T140 - T142
• การประกอบอาชพี T143 - T144
• แนวทางของการประกอบอาชีพ
• การศกึ ษาตอ่ เพื่อเขา้ สูอ่ าชีพ T145 - T146
บรรณำนุกรม
กำรท�ำโครงงำน
Chapter Overview
แผนการจัด สอื่ ที่ใช้ จดุ ประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะท่ีได้
คุณลักษณะ
การเรียนรู้ อนั พึงประสงค์
แผนฯ ที่ 1 - หนงั สอื เรยี นการงาน 1. อ ธบิ ายหลกั ในการ แบบ - ต รวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 1. ทกั ษะ - รักชาติ ศาสน ์
ทักษะการทำ� งาน กษัตรยิ ์
ร่วมกนั และทกั ษะ อาชีพ ม.3 ทำ� งานร่วมกันและ กระบวนการ - ต รวจใบงานท่ี 1.1.1 กระบวนการ - ซ่ือสตั ย์สจุ รติ
การจัดการ - มีวินยั
- แบบวดั และบนั ทกึ ผล หลักการจัดการได้ เรยี น ความรู้ เรอื่ ง ทกั ษะการทำ� งานรว่ มกนั ทำ� งาน - ใฝเ่ รียนรู้
1 - อยอู่ ย่าง
การเรียนรู้การงาน 2.
ปฏิบัติงานรว่ มกับ ความเขา้ ใจ และทักษะการจัดการ 2. ทกั ษะ พอเพยี ง
ช่ัวโมง - ม่งุ ม่นั
อาชพี ม.3 ผู้อืน่ โดยใชท้ กั ษะ - ต รวจกจิ กรรมในแบบวดั และ การจัดการ ในการทำ� งาน
- รักความ
- แบบทดสอบกอ่ นเรยี น การท�ำงานรว่ มกนั บนั ทกึ ผลการเรยี นรู้ 3. ทักษะ เป็นไทย
- มีจติ
- PowerPoint ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ - ป ระเมินการน�ำเสนอผลงาน กระบวนการ สาธารณะ
3. ว างแผนการปฏิบัติงาน - สงั เกตพฤตกิ รรมการทำ� งาน แก้ปัญหา
อย่างเป็นระบบ โดยใช้ รายบคุ คล 4. ทกั ษะ
ทกั ษะการจดั การ เพอ่ื ให้ - สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ การแสวงหา
บรรลเุ ป้าหมาย อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง มงุ่ มน่ั ความรู้
ในการทำ� งาน 5. ทักษะการให้
เหตุผล
6. ทักษะการคดิ
วเิ คราะห์
7. ทกั ษะการสรปุ
ลงความคิดเห็น
T2
แผนการจดั สอ่ื ที่ใช้ จุดประสงค์ วิธสี อน ประเมนิ ทักษะที่ได้ คุณลกั ษณะ
การเรยี นรู้ อนั พงึ ประสงค์
แผนฯ ที่ 2 - หนังสือเรยี นการงาน 1. อธิบายหลกั คุณธรรม แบบ - ตรวจใบงานที่ 1.2.1 1. ทกั ษะ - รักชาติ ศาสน์
คณุ ธรรมและ อาชีพ ม.3
จริยธรรมใน - แบบวดั และบันทกึ ผล และจรยิ ธรรมในการ กระบวนการ เรือ่ ง คุณธรรมและจรยิ ธรรม การแสวงหา กษัตริย์
การทำ� งาน การเรยี นรูก้ ารงาน
อาชพี ม.3 ท�ำงานได้ สรา้ งความ ในการท�ำงาน ความรู้ - ซือ่ สัตยส์ จุ ริต
1 - PowerPoint
2. มีลักษณะนสิ ัยท่ดี ี ตระหนัก - ต รวจกจิ กรรมในแบบวดั และ 2. ทกั ษะการให้ - มวี นิ ยั
ช่ัวโมง
ในการท�ำงานรว่ มกับ บันทกึ ผลการเรยี นรู้ เหตุผล - ใฝเ่ รยี นรู้
ผู้อ่ืนและมสี ัมพนั ธภาพ - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน 3. ทักษะการคิด - อยอู่ ย่าง
ทีด่ ี - ส งั เกตพฤติกรรมการท�ำงาน วิเคราะห์ พอเพยี ง
3. ปฏิบัติงานร่วมกับผู้อ่ืน รายบคุ คล 4. ทกั ษะการประยกุ ต์ - มงุ่ ม่ัน
ได้อย่างมีความสขุ - สังเกตพฤตกิ รรมการท�ำงาน ใช้ความรู้ ในการทำ� งาน
กล่มุ 5. ท ักษะการสรปุ - รกั ความ
- สงั เกตความซอื่ สัตย์ สจุ รติ ลงความคิดเห็น เป็นไทย
มีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมั่น - มีจติ
ในการท�ำงาน มจี ิตสาธารณะ สาธารณะ
แผนฯ ท่ี 3 - ห นังสอื เรยี นการงาน 1. อธิบายหลกั การใช้ แบบ - ตรวจใบงานที่ 1.3.1 1. ทกั ษะ - รกั ชาติ ศาสน ์
การใช้ทรพั ยากร อาชีพ ม.3 ทรพั ยากรในการ กระบวนการ เรือ่ ง การใชท้ รพั ยากร การแสวงหา กษตั รยิ ์
ในการปฏิบัตงิ าน - แบบวัดและบนั ทกึ ผล ปฏบิ ตั งิ านได้ สรา้ งความ ในการปฏบิ ัติงาน ความรู้ - ซ่อื สัตยส์ จุ รติ
1 การเรียนรกู้ ารงาน 2. เห็นความส�ำคัญของ ตระหนกั - ตรวจกิจกรรมในแบบวดั และ 2. ทกั ษะการให้ - มีวินัย
อาชพี ม.3 การใชท้ รพั ยากรในการ บนั ทกึ ผลการเรยี นรู้ เหตผุ ล - ใฝเ่ รียนรู้
ชัว่ โมง - แบบทดสอบหลังเรียน ปฏบิ ัตงิ าน - ตรวจช้ินงาน/ภาระงาน 3. ทกั ษะการคดิ - อยู่อยา่ ง
- PowerPoint 3. วางแผนและใช้ (รวบยอด) วเิ คราะห์ พอเพยี ง
ทรพั ยากรในการ - ประเมนิ การนำ� เสนอผลงาน 4. ทกั ษะการประยกุ ต์ - มุ่งมั่น
ปฏบิ ตั งิ านได้อยา่ ง - สังเกตพฤตกิ รรมการท�ำงาน ใช้ความรู้ ในการทำ� งาน
คุม้ ค่า รายบคุ คล 5. ทักษะการสรุป - รักความ
- ส งั เกตพฤตกิ รรมการท�ำงาน ลงความคิดเห็น เปน็ ไทย
กลมุ่ - มีจิต
- สังเกตความใฝเ่ รียนรู้ สาธารณะ
อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง มงุ่ มน่ั
ในการท�ำงาน
- ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน
T3
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขนั้ นาํ (แบบกระบวนการเรยี น ความรู ความเขา ใจ) ñ ·íÒ§Ò¹ËÅ¡Ñ ¡ÒÃหนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ à¾è×Í¡ÒÃ
´Òí çªÕ¾
1. ครูแจงชื่อเรื่องที่จะเรียนรูและจุดประสงคการ การทา� งานในชวี ิตประจา� วนั ไม่วา่ จะเป็นการทา� งานบา้ น หรือการท�างานเพอ่ื ประกอบอาชพี
เรียนรูใหนักเรียนทราบ จากนั้นใหนักเรียน
แตละคนทําแบบทดสอบกอนเรียน หนวยการ ผู้ปฏิบัติงานจ�าเป็นต้องน�าทักษะต่าง ๆ
มาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานอย่างเหมาะสม เช่น
เรยี นรทู ่ี 1 เรอื่ ง หลกั การทาํ งานเพอ่ื การดาํ รงชพี ทกั ษะการทา� งานรว่ มกนั ทกั ษะการจดั การ ซง่ึ การเรยี นรแู้ ละมที กั ษะดงั กลา่ วจะชว่ ยใหส้ ามารถ
ปฏบิ ตั งิ านไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง รวดเรว็ ลดการใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใช้ ลดการใชพ้ ลงั งาน
2. ครูเปดคลิปวิดีโอเก่ียวกับลักษณะการทํางาน รวมถึงสามารถปฏิบัตงิ านไดส้ �าเรจ็ ตรงตามเป้าหมายได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
เปนทีมใหนักเรียนดู (คลิปที่ 1 การทํางาน
ที่ประสบความสําเร็จ คลิปที่ 2 การทํางาน ตวั ชว้ี ดั
ที่ไมประสบความสําเร็จ) จากน้ันใหนักเรียน
รวมกันวิเคราะหความแตกตางของคลิปวิดีโอ ■ ใชท ักษะในการทาํ งานรว มกนั อยา งมีคณุ ธรรม (ง ๑.๑ ม.๓/๒)
ทัง้ 2 คลิป ■ อภปิ รายการทํางานโดยใชท กั ษะการจดั การ เพือ่ การประหยัดพลงั งาน ทรัพยากร และสง่ิ แวดลอม (ง ๑.๑ ม.๓/๓)
3. ครถู ามนักเรียนวา
• คลปิ ท่ี 1 และคลปิ ที่ 2 แตกตา งกนั อยา งไร
(แนวตอบ นกั เรยี นสามารถแสดงความคดิ เหน็
ไดอยา งอสิ ระ เชน คลปิ ที่ 1 เปน ลกั
ษณะ
การทาํ งานทดี่ ี มกี ารวางแผนการทาํ งาน จงึ
ทําใหทีมประสบความสําเร็จในการทํางาน
สวนคลปิ ที่ 2 เปนลักษณะการทาํ งานท่ไี มดี
ไมมีการวางแผนการทํางาน จึงทําใหทีม
ไมป ระสบความสําเรจ็ ในการทาํ งาน)
• การทํางานเปนทีมใหประสบความสําเร็จ
ไดน ั้น สมาชกิ ในทีมควรปฏบิ ตั ิตนอยางไร
(แนวตอบ นกั เรยี นสามารถแสดงความคดิ เหน็
ไดอยางอิสระ เชน สมาชิกในทีมแตละคน
ควรมีเปาหมายในการทํางานรวมกัน มี
ความมุงมั่นต้ังใจในการทํางาน มีความ
รับผิดชอบ
รวมกันแกปญหา ทุมเทกําลัง
แรงกายในการทาํ งานอยา งเต็มที)่
4. ครูต้ังคําถามเพ่ือใหนักเรียนรวมกันอภิปราย
วา “ทักษะการทํางานรวมกันและทักษะการ
จดั การมสี ว นชว ยใหก ารทาํ งานเปน ทมี ประสบ
ความสําเร็จไดอยางไร” โดยครูเปดโอกาสให
นักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็น จากนั้นครู
จงึ กลา วเช่ือมโยงเขา สูบทเรียน
เกร็ดแนะครู
ครูควรจัดการเรยี นรู โดยอธบิ ายเก่ยี วกับหลักการทาํ งานเพื่อการดาํ รงชีพใหนกั เรยี นฟง เพือ่ ใหเกิดความรู ความเขา ใจ เร่ือง
ทกั ษะการทาํ งานรว มกนั
ทักษะการจัดการ คณุ ธรรมและจริยธรรมในการทํางาน และการใชทรพั ยากรในการปฏิบัติงาน สามารถนาํ ทกั ษะตา งๆ มาใชในการทํางานรวมกนั ไดอ ยา ง
มคี ณุ ธรรม และใชท ักษะการจดั การ เพ่ือใหการทาํ งานสาํ เรจ็ ตามเปาหมายอยา งมีประสทิ ธิภาพ คาํ นึงถงึ การประหยดั พลงั งาน ทรัพยากร และส่ิงแวดลอ ม
โดยสามารถจัดกจิ กรรมได ดังนี้
• ใหน ักเรยี นตอบคาํ ถามและรว มกันแสดงความคิดเหน็ เพ่ือใหน กั เรียนเกิดความรู ความเขาใจเก่ียวกับหลักการทาํ งานเพือ่ การดาํ รงชพี
•
ใหนักเรียนยกตัวอยางสถานการณการทํางานรวมกับผูอ่ืน 1 สถานการณ อธิบายแนวทางการนําทักษะการทํางานรวมกันและทักษะการจัดการ
มาประยกุ ตใชในการปฏิบตั ิงานไดอ ยางเหมาะสม
• ใหนกั เรยี นทําแผนพบั นําเสนอหลกั คุณธรรมและจรยิ ธรรมท่คี วรยดึ ถือและปฏบิ ตั ิ เพ่อื ใหการทาํ งานรว มกับผอู นื่ ประสบความสาํ เร็จ
• ใหนักเรียนสืบคนวิธีการใชทรัพยากรในการปฏิบัติงานอยางประหยัด คุมคา และไมสงผลกระทบตอสิ่งแวดลอม พรอมทั้งนําเสนอผลงานในรูปแบบ
ตา งๆ ตามความสนใจ
T4
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
๑ ทักษะการทาํ งานรว มกนั ขนั้ สอน
การทา� งานรว่ มกนั อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ เปน็ ความสามารถของ
ËÒ¡ä´ÃŒ ºÑ ÁͺËÁÒÂãË·Œ Ó§Ò¹ บคุ คลในการทา� งานรว่ มกนั เปน็ กลมุ่ หรอื การทา� งานเปน็ ทมี หรอื ข้ันท่ี 1 สังเกต ตระหนกั
¡ÅØ‹Á¨ÐÁÕÇÔ¸Õ¡ÒèѴ¡Òçҹ การท�างานร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุข
¡ÅØ‹Á¢Í§µ¹àͧÍ‹ҧäà à¾×èÍ สามารถปฏิบัติงานร่วมกัน เพื่อให้บรรลุตามเปาหมาย หรือ 1. ครูใหนักเรียนศึกษา เร่ือง หลักการทํางาน
ãËŒ§Ò¹·è·Õ ÓÁÕ»ÃÐÊÔ·¸ÔÀÒ¾ จดุ
ประสงคท์ ก่ี า� หนดไวไ้ ด ้ โดยการทา� งานรว่ มกบั ผอู้ น่ื นน้ั จะตอ้ ง รวมกันและหลกั การจดั การ จากหนังสือเรยี น
รู้จักวิเคราะห์งานและมีการวางแผนการจัดการงานอย่างเป็น หนวยการเรียนรูท่ี 1 หรือศึกษาเพ่ิมเติมจาก
ระบบ เปน็ ขน้ั ตอน รวมถงึ จดั คนใหส้ อดคลอ้ งกบั ลกั ษณะของงาน อินเทอรเ น็ต
ทีต่ อ้ งการปฏิบัตดิ ้วย
2. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเก่ียวกับหลักการ
๑.๑ หลกั การทา� งานรว่ มกนั ทํางานรวมกันและหลักการจัดการ จาก
PowerPoint ม.3 หนวยการเรียนรูท่ี 1
การทา�
งานรว่ มกนั เปน็ สง่ิ สา� คญั เนอื่ งจากมคี วามเกยี่ วขอ้ ง
กบั การทา� งานและการดา� รงชวี ติ ไมว่ า่ จะเปน็ การทา� งานรว่ มกบั 3. ครอู ธิบายเพิ่มเติมวา “การทาํ งานรว มกับผูอ ่ืน
เพอื่ นในชน้ั เรยี น หรอื การอยรู่ ว่ มกนั กบั สมาชกิ ภายในครอบครวั จะตองรูจักวิเคราะหงาน มีการวางแผนการ
ซง่ึ ในการทา� งานรว่ มกนั กบั ผอู้ นื่ ใหไ้ ดผ้ ลดนี นั้ ตอ้ งรจู้ กั ภาระงาน จดั การงานอยา งเปน ระบบ รวมถงึ จดั ระบบงาน
ทจี่ ะทา� วเิ คราะหง์ าน วางแผนการจดั วางลา� ดบั ขนั้ ตอนของงาน
และจัดระบบคนดวย เพื่อใหการปฏิบัติงาน
ให้สัมพันธ์กัน ให้การช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน และมอบหมาย บรรลตุ ามเปา หมายทตี่ ง้ั ไวไ ดอ ยา งมปี ระสทิ ธภิ าพ”
ภาระงานใหส้ อดคลอ้ งกบั ความถนดั ของแตล่ ะบคุ คล กจ็ ะทา� ใหก้ าร
ดา� เนนิ งานเปน็ ไปอยา่ งราบรน่ื หลกั การทา� งานรว่ มกนั ใหป้ ระสบ 4. ครูถามนักเรียนวา
ความสา� เรจ็ มดี งั น้ี • การทํางานรวมกนั ใหป ระสบความสําเร็จจะ
ตอ งมหี ลักการทํางานอยา งไร
มีเปาหมาย ต้องมีความรู้สึกรักและศรัทธาในงาน มีความ (แนวตอบ นกั เรยี
นสามารถแสดงความคดิ เหน็
ในการทา� งาน ไว้วางใจซ่ึงกันและกัน และร่วมกันแก้ปัญหา ไดอ ยา งอสิ ระ เชน มเี ปา หมายในการทาํ งาน
รว่ มกนั เพ่ือให้การท�างานประสบผลส�าเร็จ รวมกัน มีความรับผิดชอบในงานรวมกัน
มีการวางแผนการทํางาน ติดตามผลการ
มกี ารท�างาน ตอ้ งมสี ว่ นรว่ มในการแสดงความคดิ เหน็ รว่ มกนั ปฏิบัติงาน และประเมินผลการปฏิบัติงาน
รว่ มกนั กา� หนดเปา้ หมาย วางแผน และแบง่ หนา้ ทคี่ วาม วา มขี อ บกพรอ ง หรอื สงิ่ ทตี่ อ งปรบั ปรงุ แกไ ข
เปนทีม รบั ผดิ ชอบ เพอ่ื ใหง้
านบรรลผุ ลตามเปา้ หมาย อยา งไร)
• หากขาดทักษะการทาํ งานรวมกนั จะสง ผล
มคี วาม ต้องปฏิบัติงานตามแผนงานท่ีได้วางแผนไว้ กระทบตอการทํางานรวมกับผูอื่นหรือไม
รับผิดชอบ ดว้ ยความมงุ่ มั่น ตงั้ ใจ มีความรบั ผิดชอบ ใส่ใจ อยางไร
ในงานรว่ มกนั และทมุ่ เท เพอ่ื ให้งานประสบผลสา� เร็จ (แนวตอบ นกั เรยี นสามารถแสดงความคดิ เหน็
ไดอ ยางอิสระ)
สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ๓
5. ครใู หน ักเรยี นแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน ให
■ ทกั ษะการทํางานรวมกัน เปนการสรา งใหผเู
รียนสามารถทาํ งานและอยูรวมกนั ไดอ ยา งมคี วามสุขและมีคุณธรรม นกั เรยี นแตล ะกลมุ รว มกนั ศกึ ษา เรอื่ ง แนวทาง
■ ทกั ษะการจัดการ เปนการจัดระบบงานและระบบคน เพือ่ ใหทาํ งานสาํ เรจ็ ตามเปาหมายอยางมีประสทิ ธิภาพ การเสริมสรางทักษะการทํางานรวมกันและ
แนวทางการเสริมสรา งทกั ษะการจัดการ จาก
หลักการทํางานเพ่ือการ หนงั สอื เรยี น หนวยการเรยี นรทู ี่ 1
ดํารงชีพ
6. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันอภิปราย
แลกเปลย่ี นความรใู นเรื่องท่ีไดศ กึ ษามา
ขอสอบเนน การคิด เกร็ดแนะครู
บุคคลในขอใดมีลักษณะเหมาะสมท่ีจะเปนหัวหนากลุม ครูอธิบายเพ่ิมเติมเกี่ยวกับวิธีการทํางานรวมกันเปนกลุม หรือการทํางาน
มากท่สี ุด เปนทีม หรือการทํางานรวมกับผูอื่นไดอยางมีประสิทธิภาพและมีความสุข
ใหนักเรียนฟงวา เพื่อใหการทํางานรวมกันประสบความสําเร็จตามเปาหมาย
1. แกน รักสนั โดษ ชอบทํางานคนเดียว เกงภาษาองั กฤษ ทีต่ ัง้ ไวจ ะตองอาศยั หลักการสาํ คญั หลายประการ เชน ตองมวี ัตถุประสงคและ
2. กอ็ ต พดู จาสภุ าพ มมี นุษยสมั พันธดี ชอบชวยเหลือผูอ่ืน
เปาหมายท่ีชดั เจนตรงกัน จริงใจ เปดเผย รวมกันแกปญ หา รบั ฟงความคิดเห็น
3. กบ๊ิ ชอบรอ งเพลง เกง วชิ าคาํ นวณ มคี วามละเอยี ดรอบคอบสงู คอยใหการสนับสนุน ใหความไววางใจซ่ึงกันและกัน รวมมือรวมใจกันในการ
4. กนั กลา ตัดสนิ ใจ ตรงไปตรงมา มีความรับผดิ ชอบ รับฟง ปฏิบัตงิ าน ปฏิบตั ติ ามกระบวนการทาํ งานอยางเปน ข้นั ตอน คดิ ตดั สินใจอยา ง
รอบคอบและมเี หตุผล มีภาวะการเปนผนู าํ และผูต ามทีด่ ี ทบทวนผลการปฏิบตั ิ
ความคดิ เห็นของผอู ืน่ เสมอ งานอยเู สมอ พรอ มท้งั พฒั
นาตนเอง เพอื่ เสรมิ สรา งศักยภาพในการทํางานใหม ี
ประสทิ ธิภาพ
(วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 4. เพราะผทู จ่ี ะทาํ หนา ทเ่ี ปน หวั หนา กลมุ
ไดอยางเหมาะสม จะตองมีคุณลักษณะสําคัญหลายประการ T5
ซ่ึงเปนคุณสมบัติพ้ืนฐาน เชน มีบุคลิกภาพของความเปนผูนํา
ชอบเรียนรูส่ิงใหมๆ กลาคิด กลาแสดงออก มีความรับผิดชอบ
มีความเปนกลาง ตรงไปตรงมา ยินดีรับฟง ความคดิ เห็นของผูอ น่ื
อยเู สมอ)
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขนั้ สอน ๑กา.๒รท า� แงานนวรทว่ มากงนกั าหรรเอืสกรามิ รทสา�รงา้ างนทเปกั น็ ษกะลกมุ่ 1า สรมทาา� ชงกิ าภนารย่วในมกกลันมุ่ จะตอ้ งสรา้ งกระบวนการทา� งาน
ขนั้ ท่ี 2 วางแผนปฏิบัติ
อยา่ งเปน็ ระบบ รวมถงึ สรา้ งบรรยากาศในการทา� งานทเ่ี ออื้ ประโยชนต์ อ่ การทา� งานรว่ มกนั อยา่ งมี
7. ครูถามนกั เรียนวา ความสขุ โดยแนวทางการเสรมิ สรา้ งทกั ษะการทา� งานรว่ มกนั มดี งั น้ี
• นกั เรยี นมแี นวทางการเสรมิ สรา งทกั ษะการ
ทํางานรวมกันและแนวทางการเสริมสราง แนวทางการเสริมสร้างทกั ษะ ตัวอยา่ ง
ทกั ษะการจัดการอยางไร การทา�
งานร่วมกนั
(แนวตอบ นกั เรยี นสามารถแสดงความคดิ เหน็
ไดอ ยา งอสิ ระ เชน การรจู กั บทบาทหนา ที่ วิเคราะหเ์ พ่อื นรว่ มงาน
ของตนเอง รบั ฟง ความคดิ เหน็ ของผอู นื่ เสมอ
ขยัน อดทน มีความมุงม่ันในการทํางาน ศึกษาลักษณะนิสัย ทัศนคติ ความสามารถ มุกมีความสามารถทางด้านศิลปะ วาดภาพเก่ง
รับผดิ ชอบตอหนา ทีท่ ่ีไดรับมอบหมาย) และความถนัดของเพือ่ นรว่ มงาน เพ่อื ใหป้ รับตัว มคี วามคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์ เธอจงึ ไดร้ บั มอบหมาย
และเตรียมความพรอ้ มในการทา� งานร่วมกนั ได้ ใหร้ บั
ผดิ ชอบงานเกยี่ วกบั การออกแบบปา้ ยนเิ ทศ
ขน้ั ที่ 3 ลงมอื ปฏบิ ตั ิ
รจู้ ักหนา้ ที่ภายในกลมุ่ มุกศึกษาข้อมูล เทคนคิ รูปแบบตา่ ง ๆ ทจ่ี ะนา� มา
8. ครใู หน กั เรยี นแตล ะกลมุ รว มกนั ศกึ ษาลกั ษณะ รจู้ กั บทบาทหนา้ ทข่ี องตนเองวา่ ตอ้ งรบั ผดิ ชอบ ใช้ในการออกแบบป้ายนิเทศ และอาจให้เพื่อน
การทํางานที่ไมประสบความสําเร็จจากกรณี ในกลุม่ ชว่ ยกันคน้ หาข้อมลู เพ่ิมเตมิ
ศึกษาที่ครูแจกให แลวใหรวมกันวิเคราะห งานส่วนใด หรือในบางคร้ังอาจมีการหมุนเวียน
วาเพราะเหตุใดลักษณะการทํางานดังกลาว สบั เปลยี่ นบทบาทหนา้ ทกี่ นั ไปตามความเหมาะสม
จึงไมประสบความสาํ เรจ็
รจู้ กั ฟงั พดู แสดงความคดิ เหน็ และอภปิ ราย
9. ครูขออาสาสมัครนักเรียนกลุมละ 1-2 คน
ออกมานําเสนอผลการวิเคราะหใหเพื่อนฟง รับฟังความคิดเห็นของเพ่ือนร่วมงาน พูดจา มกุ ไดน้ า� ปา้ ยนเิ ทศทอ่ี อกแบบเสรจ็ เรยี บรอ้ ยแลว้
หนาชั้นเรียน จากน้ันใหเพื่อนรวมช้ันเรียน สุภาพ มีเหตุผล เพ่ือสร้างความเข้าใจในการ มาให้เพื่อน ๆ ภายในกลุ่มช่วยดู และให้เพื่อน
รวมกันเสนอแนะเพมิ่
เตมิ ด�าเนินงานและมีสัมพนั ธภาพท่ดี ตี ่อกัน รว่ มกันแสดงความคดิ เห็น
10. ครถู ามนกั เรียนวา มคี มุณคี ธวรามรซมอื่แสลตั ะยจ์ รขิยยนัธรอรดมทในน2กมาคี รวทามา� งราบั นผดิ ชอบ ระหว่างการปฏิบัติงาน มุกท�างานอย่างมุ่งม่ัน
• จากกรณีศึกษาดังกลาว นักเรียนคิดวามี ตั้งใจ คอยให้ค�าปรึกษา และช่วยเหลือเพื่อนใน
หลักการทาํ งานทด่ี หี รอื ไม เพราะเหตใุ ด มีความเป็นระเบียบวินัย มีความสุภาพ มีความ กลุ่มเสมอ หากเพ่อื นมขี อ้ สงสัยเก่ียวกบั งาน
(แนวตอบ นกั เรยี นสามารถแสดงความคดิ เหน็ สามัคคี
มีน�้าใจ และช่วยเหลอื ผูร้ ่วมงานเสมอ
ไดอยางอิสระ เชน ไมมีหลักการทํางาน
ท่ีดี เพราะขาดการวางแผนการทํางาน สรุปผลการปฏิบัตงิ าน สมาชิกภายในกลุ่มร่วมกันประเมินผลการ
แบงหนาที่การทํางานใหกับสมาชิกในทีม สรปุ ผลการปฏบิ ตั งิ าน เพอ่ื จะไดท้ ราบถงึ ปญั หา ปฏิบัติงานว่าพบปัญหาและอุปสรรคใด จะได้
ไมเ หมาะสมกบั ความถนดั และความสามารถ รว่ มกนั แก้ปญั หาทเ่ี กิดขึ้น
ของแตละบคุ คล ไมมกี ารตัง้ เปา หมายและ และอุปสรรคที่เกิดข้ึนระหว่างการปฏิบัติงานว่า
เวลาในการทํางานทแี่ นช ดั
) ต้องปรับปรงุ และพฒั นาใหด้ ีข้นึ อยา่ งไร
• หากจําเปนตองรวมงานกับทีมเหมือน
ดงั กรณีศึกษา นักเรยี นจะเสรมิ สรา งทักษะ นา� เสนอผลการปฏิบตั ิงาน นา� เสนอผลงานการจดั ปา้ ยนเิ ทศ3ดว้ ยการจดั แสดง
การทํางานใหกับทมี อยา งไร น�าเสนอความส�าเร็จของการปฏิบัติงาน อาจ
(แนวตอบ นกั เรยี นสามารถแสดงความคดิ เหน็ ผลงานและให้เพื่อนกลุ่มอื่น ๆ ได้ร่วมกันแสดง
ไดอยางอสิ ระ) นา� เสนอดว้ ยการรายงานหนา้ ชน้ั เรยี น หรอื การจดั ความคดิ เห็น
นิทรรศการแสดงผลงาน
4
นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิด
1 การทํางานรวมกัน หรือการทํางานเปนกลุม ในการทํางานตางๆ จําเปน เพราะเหตุใดในการทํางานรวมกันจึงตองแบงหนาท่ีความ
ตองอาศัยบุคคลหลายฝาย โดยบุคคลเหลาน้ันจะมีบทบาทและหนาท่ีที่ไดรับ รับผิดชอบของสมาชิกแตละคนใหเหมาะสมกับความถนัดและ
มอบหมายแตกตางกันไปตามความถนัดและความสามารถ ซึ่งการทํางาน ความสามารถ
รว มกับผอู ่ืน เพอ่ื ใหเ กิดสัมพนั ธภาพทด่ี ีตอ กนั จึงควรรจู ักการออนนอ มถอ มตน
มนี า้ํ ใจชวยเหลอื มีความกระตือรอื รน มีความรับผิดชอบ มคี วามอดทน
รักษา 1. ทาํ ใหลดตนทุนในการปฏบิ ัติงานลง
คาํ พูด ใหเกยี รติผอู ่นื รบั ฟงความคดิ เห็น ฯลฯ เพ่อื ใหการทาํ งานประสบความ 2. ทาํ ใหส ามารถปฏบิ ัติงานไดอ ยางราบรืน่
สําเรจ็ อยางมีประสิทธภิ าพ 3. ทําใหไดรบั การยอมรับจากเพื่อนตางกลมุ
2 อดทน เปน คณุ ลกั ษณะสาํ คญั ทท่ี กุ คนพงึ มี เนอ่ื งจากการทาํ งานรว มกบั ผอู น่ื 4. ทาํ ใหผ ลงานมีความโดดเดนและแตกตา งไปจากกลุมอ่ืน
บางครง้ั อาจตองพบกับความคดิ เห็นทีไ่ มตรงกนั ทําใหเ กิดปญ หาในการทํางาน
แตค วามอดทนจะชว
ยใหสามารถผา นพน ปญ หาเหลา น้ันไปได (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะสมาชิกในกลุมแตละคน
3 การจัดปายนิเทศ เปนการนําเสนอผลงานของนักเรียนในรูปแบบหนึ่ง จะมีความถนัดและความสามารถท่ีแตกตางกัน ดังนั้น ในการ
อาจเปน รปู ภาพ แผน ภาพ แผนภมู ิ หรอื เรือ่ งราวขาวสารตา งๆ ท่ีนาสนใจ ปฏิบัติงานจึงตองแบงหนาที่ความรับผิดชอบใหเหมาะสมกับ
ความถนัดและความสามารถ ซึ่งจะสงผลใหสามารถปฏิบัติงาน
ไดอ ยา งราบรืน่ )
T6
นาํ สอน สรุป ประเมิน
๒ ทกั ษะการจัดการ ขน้ั สอน
ทกั ษะการจดั การเปน็ ความสามารถในการวางแผนการปฏบิ ตั งิ าน มคี วามสา� คญั และจา� เปน็
อยา่ งยง่ิ การจดั การทด่ี แี ละถกู ตอ้ งยอ่ มสง่ ผลใหผ้ ปู้ ฏบิ ตั งิ านเกดิ ความคลอ่ งตวั หรอื ความชา� นาญ ขนั้ ท่ี 3 ลงมือปฏิบัติ
ในการปฏบิ ตั งิ านทกุ อยา่ งไดอ้ ยา่ งเปน็ ระบบ เพอ่ื ใหง้ านประสบผลสา� เรจ็ ตามเปา หมายทก่ี า� หนดไว้
• ทักษะการจัดการมีความสําคัญตอการ
๒.๑ หลักการจัดการ ทํางานอยางไร
การจัดการเป็นกระบวนการจัดระบบงานและจัดระบบคน เพ่ือให้การปฏิบัติงานบรรลุตาม (แนวตอบ นกั เรยี
นสามารถแสดงความคดิ เหน็
เปา หมายไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ โดยอาศยั คนและทรพั ยากรที่ใชใ้ นการปฏบิ ตั งิ าน หลกั การจดั การ ไดอ ยา งอสิ ระ เชน ทาํ ใหผ ปู ฏบิ ตั งิ านมคี วาม
ท่ดี ี มดี ังน้ี คลองตัวและมีความชํานาญในการปฏิบัติ
งานไดอยางมรี ะบบ งานกจ็ ะประสบความ
หลกั การจัดการ ตัวอยา่ ง สําเร็จและสามารถปรับปรุง แกไข หรือ
พัฒนาใหด ขี นึ้ ได)
วางแผนการทา� งาน
ขนั้ ท่ี 4 พฒั นาความรู ความเขา ใจ
การก�าหนดเป้าหมายและการวางกลยุทธ์
หัวหน้ากลุ่มท�าหน้าที่วางแผนการปฏิบัติงาน
รวมถึงแผนปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบ เพ่ือให้ ก�าหนดระยะเวลาและเป้าหมายของงานอย่าง 11. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําใบงานที่ 1.1.1
บรรลเุ ปา้ หมายของงานอยา่ งมีประสิทธภิ าพ ชดั เจน เร่ือง ทักษะการทํางานรวมกันและทักษะ
การจดั การ
จัดรูปแบบงาน หัวหน้ากลุ่มแบ่งงานให้กับสมาชิกภายในกลุ่ม
การจดั วางโครงสรา้ งของงาน หรอื แนวทางใน ตามความถนัด ความสามารถของแต่ละบุคคล ขนั้ สรปุ
และลงมอื ปฏิบตั ิงานอยา่ งเต็มท่ี
การปฏิบัติงาน
เพื่อรองรับการด�าเนินงานตาม ขั้นท่ี 5 สรปุ
แผนงานทไี่ ด้วางไว้
1. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรู เรอื่ ง ทกั ษะ
จงู ใจเพอ่ื นร่วมงาน หัวหน้ากลุ่มให้สมาชิกภายในกลุ่มร่วมกันแสดง การทํางานรว มกันและทกั ษะการจัดการ
การจงู ใจและการโนม้ นา้ วใหส้ มาชกิ ภายในกลมุ่ ความคิดเห็น เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาและพัฒนา
ผลงานใหด้ ียง่ิ ขึน้ 2. ครมู อบหมายใหน กั เรยี นทาํ กจิ กรรมในแบบวดั
ปฏิบัติงานตามบทบาทหน้าท่ีที่ได้รับมอบหมาย และบนั ทึกผลการเรยี นรู หนวยการเรียนรทู ่ี 1
อยา่
งเตม็ ก�าลังความสามารถ
3. ครตู รวจสอบความรู ความเขาใจของนักเรียน
ควบคุม จากการนาํ เสนอผลการวเิ คราะห วจิ ารณ และ
การสรปุ ความรู
การตดิ ตามผลการปฏบิ ตั งิ านและการประเมนิ สมาชิกภายในกลุ่มร่วมกันประเมินผลการ
ผลการปฏิบัติงานว่าจะต้องปรับปรุงแก้ไข หรือ ปฏบิ ตั งิ านวา่ เปน็ ไปตามเปา้ หมาย หรอื จดุ ประสงค์ ขน้ั ประเมนิ
พฒั นาผลงานใหด้ ยี ง่ิ ขึน้ ไดอ้ ย่างไร ทวี่ างไวห้ รือไม่
1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบกอนเรียน
Tip เพอ่ื ตรวจสอบความเขา ใจกอ นเรยี นของนกั เรยี น
ทกั ษะเก่ียวกับคน 2. ครตู รวจสอบใบงานที่ 1.1.1 เร่ือง ทักษะการ
ทํางานรวมกันและทักษะการจดั การ
ทักษะเกี่ยวกบั คน หรือ Human Skills เป็นความสามารถในการเขา้ ใจ การโน้มน้าว
จูงใจ และการสื่อสารกับผู้อื่นไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ เพ่อื ใหส้ ามารถปฏบิ ตั งิ านรว่ มกบั ผู้อ่ืน 3. ครูตรวจสอบการทํากิจกรรมในแบบวัดและ
ไดเ้ ป็นอย่างด ี และส่งผลให้การปฏิบตั งิ านบรรลุผลส�าเรจ็ ตามเปา หมายทกี่ า� หนดไว้ บันทกึ ผลการเรยี นรู หนวยการเรียนรทู ่ี 1
หลักการทํางานเพื่อการ ๕ 4. ครปู
ระเมนิ ผลระหวา งการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู
ดํารงชีพ จากการสงั เกตพฤตกิ รรมการทาํ งานรายบคุ คล
พฤตกิ รรมการทาํ งานกลมุ การนาํ เสนอผลงาน
และการสงั เกตคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค
ขอ สอบเนน การคิด แนวทางการวัดและประเมินผล
ขอ ใดเปนการนาํ ทกั ษะการจดั การมาประยุกตใชในการทํางาน ครสู ามารถสงั เกตพฤตกิ รรมการทาํ งานกลมุ การนาํ เสนอผลงาน โดยศกึ ษา
ไดอยางเหมาะสม เกณฑก ารวดั และประเมนิ ผลทแี่ นบทา ยแผนการจดั การเรยี นรู หนว ยการเรยี นรทู ี่ 1
1. แบง
หนาทขี่ องแตล ะคนตามความพอใจของตนเอง แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน
2. วางแผนการทาํ งานดว ยตนเอง เพ่ือลดเวลาการทํางาน
3. ตาํ หนเิ พ่อื นรว มงาน หากทํางานไดไมต รงตามท่ตี องการ คาชแี้ จง : ให้ผ้สู อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ลงในชอ่ งท่ีตรง คาชีแ้ จง : ใหผ้ ู้สอนประเมินผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แลว้ ขีด ลงในช่องทตี่ รงกบั ระดับ
4. นาํ ความรทู ไี่ ดจ ากการสบื คน มาจดั หมวดหมอู ยา งเปน ระบบ
(วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 4. เพราะการนําความรูที่ไดจาก กบั ระดบั คะแนน คะแนน
การสืบคนมาจัดหมวดหมูอยางเปนระบบ เปนการนําทักษะการ
จัดการความรูมาประยุกตใชในการทํางานอยางเหมาะสม เพื่อ การมี ระดบั คะแนน
ใหการปฏิบัติงานสําเร็จลุลวงตามเปาหมายท่ีไดวางไวอยางมี 321
ประสิทธิภาพ) การแสดง การยอมรับ การทางาน ความมี ส่วนรว่ มใน รวม ลาดบั ที่ รายการประเมนิ
ความ ฟังคนอ่นื ตามทีไ่ ดร้ ับ น้าใจ การ 15
ลาดบั ที่ ชื่อ-สกลุ คิดเห็น มอบหมาย คะแนน 1 ความถกู ต้องของเน้ือหา
ของนกั
เรียน ปรับปรุง
ผลงานกล่มุ 2 การลาดบั ขน้ั ตอนของเร่ือง
3 2 13 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 วิธีการนาเสนอผลงานอย่างสรา้ งสรรค์
4 การใช้เทคโนโลยีในการนาเสนอ
5 การมสี ว่ นรว่ มของสมาชกิ ในกลุ่ม
รวม
ลงช่ือ...................................................ผูป้ ระเมิน ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............./.................../............... ............/................./................
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3
คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัติ หรือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน ผลงาน หรอื พฤติกรรมสอดคลอ้ งกับรายการประเมนิ สมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน ผลงาน หรือพฤติกรรมสอดคลอ้ งกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ปฏิบัติ หรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครั้ง
ปฏิบัติ หรอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั ผลงาน หรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินบางส่วน
เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
12-15 ดี 12-15 ดี
8-11 พอใช้ 8-11 พอใช้
ต่ากว่า 8 ปรับปรุง ตา่ กวา่ 8 ปรบั ปรงุ
T7
นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ
ขน้ั นาํ (แบบกระบวนการสรา งความตระหนกั ) ๒.๒ แนวทางการเสริมสรา้ งทักษะการจัดการ
1. ครใู หน กั เรยี นแบง กลมุ กลมุ ละเทา ๆ กนั จากนนั้ การปฏบิ ตั งิ านใด ๆ ใหป้ ระสบผลสา� เรจ็ ตามเปา หมายทก่ี า� หนดไว ้ จะตอ้ งอาศยั ทกั ษะการจดั การ
ครูแจกสถานการณเก่ียวกับคุณธรรมและ ทดี่ แี ละถกู ตอ้ งตามกระบวนการทา� งานนน้ั ๆ โดยผปู้ ฏบิ ตั งิ านจะตอ้ งมแี
นวทางการเสรมิ สรา้ งทกั ษะ
จรยิ ธรรมในการทํางานใหนกั เรยี นแตล ะกลมุ การจดั การ ดงั น ี้
2. ครูใหนักเรียนแตละกลุมอาน แลววิเคราะห การจัดการ ค้นหาความรู้จากแหล่งการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย เช่น หนังสือ อินเทอร์เน็ต
สถานการณด ังกลาว ความรู้ การเข้ารับการอบรม แล้วน�าความรู้ที่ได้มารวบรวม วิเคราะห์ สังเคราะห์
จดั หมวดหมู่ วางแผน แกป้ ญั หา และพฒั นางานใหส้ า� เรจ็ ตามเปา้ หมายทว่ี างไว้
3. ครูสุมนักเรียน 2-3 กลุม ออกมานําเสนอ
ผลการวเิ คราะหใ หเ พอ่ื นฟง หนา ชน้ั
เรยี น จากนนั้ การบริหาร การจดั การกับเวลาในการปฏิบัตงิ านแต่ละครง้ั อย่างเหมาะสม ใชเ้ วลาทีม่ ีอยา่ ง
ใหเ พอื่ นรว มชน้ั เรยี นรว มกนั เสนอแนะเพมิ่ เตมิ เวลา คมุ้ ค่า เพ่ือให้งานส�าเรจ็ ตรงตามเปา้ หมาย หรอื บรรลุวัตถปุ ระสงค์ทีต่ ้งั ไวอ้ ยา่ ง
มีประสิทธิภาพและประสทิ ธิผล
ขนั้ สอน
๓ คณุ ธรรมและจรยิ ธรรมในการทํางาน
ขั้นท่ี 1 สงั เกต
การปฏบิ ตั งิ านใด ๆ กต็ าม ผปู้ ฏบิ ตั งิ านตอ้ งมคี ณุ ธรรมและจรยิ ธรรม เพอ่ื ใหป้ ฏบิ ตั งิ านรว่ มกบั
1. ครูถามนกั เรยี นวา ผอู้ นื่
ได ้ หากไดร้ บั การฝก ฝน ปรบั ปรงุ แกไ้ ข และพฒั นาจนเปน็ ลกั ษณะนสิ ยั ทดี่ ีในการทา� งานของตน
• กลมุ ใดทาํ งานสาํ เรจ็ ตรงตามเปา หมายอยา ง กจ็ ะสง่ ผลใหก้ ารปฏบิ ตั งิ านสา� เรจ็ ตรงตามเปา หมาย สามารถทา� งานรว่ มกบั ผอู้ นื่ ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ
มีประสิทธิภาพ เพราะเหตุใดจึงเปนเชนนัน้
(แนวตอบ นกั เรยี นสามารถแสดงความคดิ เหน็ คุณธรรม จรยิ ธรรม
ไดอ ยางอสิ ระ)
• สมาชิกแตละกลุมมีคุณธรรมและจริยธรรม หลักของความดี ความงาม และความถกู ต้องใน
การประพฤติปฏิบัติของบุคคลท่ีแสดงออกถึง
ในการทาํ งานหรือไม เพราะเหตุใด การแสดงออกทัง้ กาย วาจา ใจของแตล่ ะบุคคล ความดงี าม ทง้ั ตอ่ ตนเอง ผอู้ นื่ และสงั คม เพอื่ ให้
(แนวตอบ นกั เรยี นสามารถแสดงความคดิ เหน็ ทเ่ี ปน็ หลกั ในการประพฤตปิ ฏบิ ตั จิ นเกดิ เปน็ นสิ ยั เกดิ ความสงบสขุ ความเจรญิ รงุ่ เรอื ง เปน็ ประโยชน์
ไดอยา งอสิ ระ) สง่ ผลใหอ้ ย่รู ่วมกนั ในสังคมได้อย่างมีความสุข ตอ่ สังคมและการพัฒนาประเทศ
2. ครูใหนักเรียนศึกษา เร่ือง คุณธรรมและ Tip
จริยธรรมในการทํางาน
จากหนังสือเรียน
หนวยการเรียนรูที่ 1 หรือศึกษาเพิ่มเติมจาก ๓ วธิ ี สร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน
อินเทอรเน็ต
การสร้างความสัมพนั ธ์ท่ดี ีกับเพื่อนร่วมงาน เปน็ สิ่งที่ทกุ คนพึงปฏิบตั ิ เพราะจะส่งผล
ขัน้ ที่ 2 วจิ ารณ ตอ่ ความส�าเรจ็ ในการปฏบิ ตั งิ าน โดยวิธกี ารสรา้ งความสมั พันธก์ ับเพ่อื นร่วมงาน มีดังนี้
3. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันเสนอความ ๑. คิดก่อนพูด ก่อนที่จะพูดส่ิงใดออกไปทุกครั้ง ควรคิดให้ดีก่อนว่าเรื่องท่ีจะพูดน้ัน
คิดเห็นจากสถานการณที่กําหนดวา
กลุมใด สง่ ผลดี หรือผลเสียอยา่ งไรต่อบุคคลท่ีฟัง
ควรปรบั เปลี่ยนวธิ ีการทํางาน ควรปรับเปลีย่ น
อยางไร สมาชิกภายในกลุมแตละคนควร ๒. รบั ฟง อยา่ งตงั้ ใจ แมว้ า่ เรอื่ งทพี่ ดู จะไม่ใชเ่ รอ่ื งทตี่ นสนใจ กค็ วรรบั ฟงั และแสดงออก
พฒั นา หรอื ปรบั ปรงุ แกไขลักษณะนิสยั ในการ ด้วยการยิ้ม หรอื พยักหน้า เพ่ือเป็นการใหเ้ กียรตผิ ูพ้ ดู
ทํางานของตนเองอยา งไร
๓. มที ศั นคตทิ ด่ี ี ควรใหก้ า� ลงั ใจ เหน็ คณุ คา่ ในสงิ่ ทเี่ พอ่ื นรว่ มงานไดท้ า� ชนื่ ชม และสง่ เสรมิ
ดว้
ยค�าชมทจี่ ริงใจ
๖
เกร็ดแนะครู กจิ กรรม สรางเสรมิ
ครอู ธบิ ายเพมิ่ เติมเก่ียวกบั คณุ ธรรมและจริยธรรมในการทํางานใหนักเรยี น ใหนักเรียนสืบคนขอมูลเพิ่มเติมเก่ียวกับคุณธรรมและ
ฟง วา คณุ ธรรม (Virtue) มาจากคาํ วา คณุ +ธรรมะ แปลวา คณุ งามความดที เ่ี ปน จริยธรรมในการทํางาน จากน้ันเขียนสรุปขอมูลท่ีไดจากการ
ธรรมชาติ กอ ใหเ กดิ ประโยชนตอ ตนเอง สังคม และประเทศชาติ เปนคุณงาม ศกึ ษาลงในกระดาษรายงานในรปู แบบของแผนผงั ความคดิ (Mind
ความดีท่ีควรยดึ ถอื ในการปฏิบตั
ิอยางสมาํ่ เสมอ เพ่ือใหสามารถอยูรวมกับผูอ นื่ Mapping) ตกแตงใหสวยงาม นาํ สง ครผู สู อน
ในสังคมไดอ ยางมคี วามสขุ สวนจริยธรรม (Ethics) มาจากคาํ วา จรยิ +ธรรมะ
แปลวา ความประพฤติทเ่ี ปนธรรมชาติ ซึง่ เกิดจากคุณธรรมในตนเอง กอ ใหเ กิด กจิ กรรม ทา ทาย
ความสงบเรยี บรอ ยในสงั คม ซงึ่ ในการปฏบิ ตั งิ านตา งๆ ผปู ฏบิ ตั งิ านจาํ เปน ตอ งมี
คณุ ธรรมและจรยิ ธรรมในการทาํ งานควบคกู นั เพอื่ ใหส ามารถปฏบิ ตั งิ านรว มกบั
ใหนักเรียนวิเคราะหเกี่ยวกับคุณธรรมและจริยธรรมในการ
ผูอื่นไดอยางมีประสิทธภิ าพ และงานสําเรจ็ ตามเปา หมายที่ไดวางไว หากขาด ทํางานของตนวามีความเหมาะสมในการปฏิบัติงานรวมกับผูอื่น
คุณธรรมและจริยธรรมในการทํางาน อาจสงผลใหการปฏิบัติงานตางๆ หรอื ไม มสี งิ่ ใดทคี่ วรปรบั ปรงุ แกไ ข และพฒั นาใหด ยี งิ่ ขน้ึ จากนนั้
ผดิ พลาด หรอื ลมเหลวได ออกมานาํ เสนอผลงานใหเพอื่ นฟงหนา ช้นั เรยี น
T8